NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Honkai Impact X Anime] ฉันมันก็แค่คนหน้าเหมือนเท่านั้นแหล่ะ

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 66


    “แล้วนี่เธอจะพาชั้นไปไหนเนี้ย?” 


    อิซึกิที่กำลังเดินตามโมเบียสมาสักพักแล้วก็ได้ถามขึ้น

     

    “อืม~ การทดสอบสุดท้ายเป็นการทดสอบอาวุธใหม่ของทางเราหน่ะ”

     

    “อ่าว? พวกเธอสร้างแล้วจะให้ชั้นมาเพื่อ? เควินก็อยู่ทำไมไม่ใช้หมอนั่นมาทำแทนหล่ะ?”

     

    “ก็เราจะใช้เควินทดสอบพลังของมันโดยให้เขาต่อสู้กับนายยังไงหล่ะ”

     

    “จะเอาชั้นเป็นหนูลองยาว่างั้น? เชื่อเขาเลยพวกเธอเนี้ย เหมาร้านครั้งเดี๋ยวใช้ชั้นซะคุ้มเลยนะ” 


    อิซึกิบ่นอุบอิบออกมาก่อนที่เขาจะหันไปถามเธออีกครั้ง

     

    “แล้วอาวุธที่ว่านี่คือ?”

     

    “อ่าวยังไม่ได้บอกหรอโทษทีนะ~” 


    เมื่อพูดจบเธอก็ได้เปิดแท็บเล็ตขึ้นมาให้เขาดูทันที

     

    “นํ้าเสียงโคตรน่าเชื่อถือเลย” แม้เธอจะโดนเขาพูดใส่ไปแบบนั้น


    แต่ใบหน้าของเธอก็ยังคงแสดงท่าทางยิ้มแย้มออกมาจนน่าหงุดหงิดสำหรับเขามาก

     

    [มาสเตอร์แพ้ทางผู้หญิงประเภทนี้หรอคะ?]

     

    ‘เปลาชั้นไม่ได้แพ้ทางหรอกจะว่าไงดีหล่ะชั้นก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน...’ 


    สิ้นเสียงพูดในใจของอิซึกิเขาก็หยิบแท็บเล็ตที่เธอยื่นมาให้เขามาดูทันทีว่าอาวุธที่ว่ามันคืออะไร

     

    “นี่มัน…”

     

    และเมื่ออิซึกิเห็นมันเขาก็ต้องชะงักไปเล็กน้อยเพราะมันคือภาพของกุญแจสรรค์ลำดับที่ 7 


    ซึ่งมันก็คือชามาสที่เขาคุ้นตานั่นเองก่อนที่เธอจะอธิบายออกมา

     

    “มันถูกสร้างขึ้นมาจากแหล่งพลังงานของแฮชเชอร์ที่ทางเราเรียกมันว่าคอร์ซึ่งมันเป็นคอร์แฮชเชอร์แห่งไฟที่นายเป็นคนจัดการไปก่อนหน้านี้ยังไงหล่ะ” 

     

    เธอได้อธิบายออกมาให้เขาฟังทำเอาอิซึกิที่ได้ยินก็ค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อยที่ทางนั่นกล้าเปิดเผยความลับให้เขาฟัง

     

    “นี่ๆพวกเธอไว้ใจชั้นได้ถึงขนาดเผยความลับให้ชั้นฟังเลยรึไง?”

     

    “นายเคยใช้ไม่ใช่หรอ? ตอนที่สู้กับแฮชเชอร์แห่งไฟหน่ะพวกชั้นเห็นนะว่านายเปลี่ยนจากดาบใหญ่สีส้มนั้นเป็นปืนกระบอกนี้”

     

    “เห็นด้วยหรอ?”

     

    “เห็นสิแถมเรายังอัดวีดีโอทั้งหมดเอาไว้ด้วยนะ~” 


    พูดจบเธอก็ได้ยิ้มออกมาอีกครั้งจากนั้นก็ได้เอ่ยขึ้นต่อทันที

     

    “เราเลยอยากให้นายที่เคยมันมาก่อนฝึกเควินใช้มันให้คล่องยังไงหล่ะ”

     

    “พวกเธอไว้ใจชั้นถึงขนาดนั้นเลยรึไง? ไม่คิดว่าชั้นเป็นคนไม่ดีเลยรึไง?”

     

    “จะว่าแบบนั้นก็ได้อย่างน้อยนายก็ไม่ได้คิดร้ายกับพวกเราหนิ ตอนที่สู้กับเควินแล้วชนะ นายมีโอกาสปลิดชีพเขาได้ตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่ทำ แถมเควินก็ยังเอ่ยปากพูดเองว่านายไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร”

     

    “โห้~ พูดซะชั้นไปไม่เป็นเลยนะเนี้ยแต่ก็เอาเถอะจะคิดยังไงมันก็แล้วแต่พวกเธอเลย แล้วเธอไม่สงสัยเลยรึไงว่าชั้นไปเอามันมาจากไหนหน่ะ?”

     

    “สงสัยสิ~ ทั้งชั้นทั้งดร.เมย์และเควินก็สงสัยกันทั้งนั่นแหล่ะว่านายไปหามันมาจากไหนแต่ถามไปนายจะบอกงั้นหรอ?” 


    แน่นอนว่าคำตอบที่ได้ก็คือการส่ายหน้า

     

    “ชั้นบอกพวกเธอไม่ได้หรอก” เธอที่ได้ยินก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะคิดเอาไว้อยู่แล้ว

     

    “นายจะไม่บอกก็ได้แต่นายต้องร่วมมือกับพวกเราในการจัดการกับพวกฮงไคถ้าได้ฝีมือระดับนายมาเข้าร่วมกับพวกเราจะต้องจัดการกับพวกฮงไคทั้งหมดได้แน่”

     

    “ห๊ะ?” อิซึกิที่ได้ยินก็ร้องออกมาด้วยความตกใจเล็กน้อย

     

    “ไม่ปฎิเสธชั้นจะถือว่านายตกลงนะ” 


    พูดจบเธอก็ได้ยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนที่จะรีบเร่งฝีเท้าเพื่อไม่ให้เขาได้ตอบปฎิเสธเธอ

     

    “อ๊ะ?! เดี๋ยวสิเฮ้ย?!!!”


    “เมื่อกี้นายพูดอะไรนะ~ ชั้นได้ยินไม่ค่อยชัดเลยนายบอกว่าตกลงสินะ~” 


    เธอแกล้งทำไม่ได้ยินแล้วเรารีบฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีกราวกับกำลังแกล้งอีกฝ่าย


    “ได้จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย?!!!”


    ฟุบ!!! ตึก...


    “ว๊ายยย?!”


    พูดจบอิซึกิก็พุ่งไปด้วยความเร็วสูงก่อนที่จะจับแขนทั้งสองข้างของเธอดันเข้ากำแพง


    จากนั้นเขาก็ใช้เข่าขวายันกำแพงใต้ระหว่างขาของเธอเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เธอหนี


    “อะ-เอ่อ...” 


    เธอเอ่ยออกมาด้วยความตกใจก่อนที่จะหน้าจะค่อยๆขึ้นสีแดงจางๆ


    นี้เป็นครั้งแรกที่เธอถูกผู้ชายจับกดเข้ากำแพงแบบนี้แถมยังด้วยท่าทางชวนเข้าใจผิดอีก


    แม้เธอจะเคยเจอผู้ชายมาแล้วมากหน้าหลายตาแต่เธอก็ยังรู้สึกเฉยๆเลย


    แม้จะเคยเห็นคนที่หล่อๆจนสะกดหญิงสาวๆหลายๆคนมาหลายครั้งแล้วก็ตามแต่มันไม่ใช่กับครั้งนี้


    แต่ในครั้งนี้เธอกลับรู้สึกหวั่นไหวไม่ใช่น้อยเลยที่โดนอีกฝ่ายทำแบบนี้ใส่


    “หยุดสักทีนะ... ที่นี้จะฟังที่ชั้นพูดได้ยัง?”


    “อะ-อืม”


    คำพูดที่ออกมาจากอิซึกิด้วยใบหน้าอยู่ห่างจากเธอไม่มาก


    มันทำเอาเธออดหน้าแดงไม่ได้จนต้องหันหน้าหนีก่อนที่จะพยักหน้าตอบกลับ


    “เรื่องที่ร่วมมือหน่ะชั้นขอปฎิเสธเหมือนเดิม”


    “ทำไมหล่ะ?” 


    เธอถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจถ้าพวกเธอได้เขามาเข้าร่วม


    มันก็เท่ากับว่าพวกเธอจะมีกำลังรบที่แข็งแกร่งเพิ่มมาอีกคนหนึ่งแล้ว


    ถ้าดูจากที่เขาต่อสู้มาโดยตลอดจนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าอิซึกิน่าจะยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดเลยด้วยซํ้า


    “มันก็เหตุผลส่วนตัวนั้นแหล่ะนะพอดีชั้นชอบเคลื่อนไหวคนเดียวหน่ะมันสะดวกกว่า แล้วอีกอย่างชั้นก็ไม่ค่อยชอบให้ตัวเองโดนสั่งให้ทำโน้นทำนี่โดยไม่ได้อะไรตอบแทนหรอกนะ...”


    อันที่จริงเหตุผลส่วนหนึ่งนั่นก็คือมันจะได้แต้มน้อยปกติฮงไคมันก็ได้แต้มในการจัดการแต่ละตัวน้อยอยู่แล้ว


    พอมีคนมาแย่งก็ไม่ต้องพูดเลยแต้มที่ได้น้อยอยู่แล้วมันก็ยิ่งน้อยลงไปอีก


    “งั้นขอแค่ทางเรามีอะไรตอบแทนนายก็พองั้นสินะ?”


    “โฮ่... แล้วของตอบแทนที่ว่ามันคืออะไรกันหล่ะ? ไม่เอาบ้านมาต่อรองนะเฟ้ย”


    “ระ-เรื่องนั้นชั้นจะลองปรึกษากับทางเบื้องบนดูก่อน แต่ตอนนี้นายควรจะโฟกัสกับการทดสอบสุดท้ายของวันนี้ก่อนนะ”


    “ได้แต่ขอบอกดักไว้ก่อนนะเฟ้ยว่าไม่เอาเหมาราเม็งกับซื้อบ้านมาเป็นของตอบแทนอีกรถก็ไม่ต้องชั้นขับไม่เป็น”


    “ก็ได้... แต่ว่า... นายช่วย... เอ่อ...” 


    เธอพูดออกมาเบาๆพร้อมกับหน้าแดงเล็กน้อยอิซึกิที่เห็นก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีก


    “อะไรหล่ะ?”


    “นาย... เอ่อ... ช่วยปล่อยชั้นก่อนได้มั้ยถ้าคนมาเห็นเข้ามันจะดูแปลกๆนะ” 


    เธอพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อยจนทำให้อิซึกิที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกอยากเอาคืนกับเรื่องที่ผ่านๆมาเลยทีเดียว


    “โห้... เขินงั้นหรอ?... น่าประหลาดใจจริงๆ” 


    อิซึกิถามออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่เขาจะจ้องไปในดวงตาสีเขียวอมเทาของเธอ


    “พอมาลองมองดูดีๆแล้วดวงตาของเจ้านี่มันช่างสวยงามยิ่งนัก” 


    ศัพท์คำพูดโบราณได้หลุดออกมาจากปากของเขาทำเอาเธอที่ได้ยินก็ถึงกับแปลกใจเล็กน้อย


    แต่เธอก็ไม่อาจละสายตาของเธอจากดวงตาสีฟ้าของเขาได้เช่นกันราวกับถูกมนต์สะกดเอาไว้


    แน่นอนว่าด้วยบรรยากาศและอะไรหลายๆอย่างที่มันเป็นใจให้ทั้งคู่ก็เกือบที่จะ... กันแล้ว


    ถ้ามันไม่มีอะไรมาขัดซะก่อนหล่ะนะ


    “ซูดดดดด!”


    เสียงบางอย่างได้ดังขึ้นมาซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลพวกเขามากนักดังขึ้นทำเอาทั้งคู่นั้นสะดุ้งเลย


    ““?!!!!”” 


    อิซึกิที่ได้ยินก็รีบดีดตัวออกจากหญิงสาวทันทีจากนั้นทั้งคู่ก็หันไปมองยังที่มาของเสียง


    “ขอโทษทีนะ พอดีผมไม่อยากรบกวนเวลาของพวกคุณหน่ะก็เลยทานราเม็งรอ” คนที่พูดก็คือเควินนั้นเอง


    ายในมือของเขาถือถ้วยราเม็งเอาไว้ด้วยก่อนที่จะทำการโซยเส้นราเม็งอีกครั้ง


    “ซูดดดดด”


    “ไม่ใช่ว่านายอยู่กับดร.เมย์เพื่อรอทดสอบอาวุธใหม่หรอกหรอ?” โมเบียสถามออกมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ


    “ก็พวกคุณหน่ะสิไม่มาสักทีเมย์ก็เลยให้ผมมาตามแล้วพอดีว่าตอนมาดันหิวก็เลยแวะที่ห้องอาหารสักหน่อยก็เลยได้เจ้านี้ติดมือมา”


    พูดจบเควินก็ได้โซยเส้นราเม็งอีกครั้งก่อนที่จากนั้นอิซึกิก็เลยได้ถามขึ้น


    “งั้นนายมาตอนไหนหน่ะเควิน?”


    “ก็ตั้งแต่ที่คุณบอกว่า “พอมาลองมองดูดีๆแล้วดวงตาของเจ้าช่างสวยงามยิ่งนัก” ผมไม่อยากขัดก็เลยทานราเม็งรอหน่ะ”


    ““...........””


    “เอาหล่ะถ้าพวกคุณไม่ทำต่อแล้วงั้นก็ไปที่ห้องทดสอบกันเถอะจะได้เริ่มทดสอบกันสักที”


    พูดจบเควินก็เดินนำออกไปทันทีโดยที่ในมือก็ยังถือถ้วยราเม็งไปด้วย


    ก่อนที่เจ้าตัวจะเหมือนนึกบางอย่างได้จากนั้นก็ได้หันมาพูดกับทั้งสอง


    “อ่อใช่ๆ อย่าลืมหล่ะว่ามันมีกล้องอยู่บนหัวหน่ะพยายามอย่าทำอะไรอุกอาจมากนักหล่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็ทำในที่ลับตาคนจะดีมาก พอดีผมสงสารคนคุ้มมอนิเตอร์หน่ะ”


    พูดจบเจ้าตัวก็เดินออกไปทันทีปล่อยให้ทั้งคู่ยืนหน้าแดงอยู่แบบนั้น


    ‘เห้อ...เป็นอะไรของชั้นอีกหล่ะเนี้ย...ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็ไม่ได้มีนิสัยแบบนี้แท้ๆ’


    อิซึกิถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะเดินตามเควินไปแม้แต่เขาก็ยังแปลกใจกับตัวเองเหมือนกัน


    ‘หรือจะเป็นที่สายเลือดของนูราริเฮียงที่ชั้นพึ่งหลอมรวมไปรึเปล่าหว่า? เห้อ... พอๆเลิกคิดๆตอนนี้โฟกัสกับการทดสอบดีกว่า’


    เมื่อพูดจบเขาก็สลัดเรื่องเมื่อครู่นี้ออกจากหัวทันทีผิดจากอีกคนที่ดูเหมือนจะเอามันออกไปจากหัวไม่ได้


    ภาพที่พวกเขากำลังจะจูบกันมันแล่นเข้ามาในหัวของเธอแทบตลอดทุกครั้งที่พยายามจะลบมันออก


    แต่ประเด็นหลักๆเลยก็คือเธอไม่ได้พยายามแม้จะขัดขืนเขาเลยสักนิดราวกับว่าเธอปล่อยใจไปแล้วในตอนนั้น








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×