คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7
“แล้วเป็นไง?”
อิซึกิถามออกมาในตอนนี้ตัวของเขานั้นได้นั่งอยู่ในห้องตรวจร่างกายที่ฐานของ Fire moth
“อืม~ จะว่าไงดีหล่ะลักษณะร่างกายของนายแทบไม่ต่างอะไรกับเควินเลยเพียงแค่ทรงพลังมากกว่ายีนฮงไคเองก็เป็นแบบเดียวกันจริงๆด้วย”
โมเบียสพูดออกมาหลังจากที่เธอตรวจร่างกายของเขาจนเสร็จแล้ว
“ก็ชั้นบอกไปแล้วว่าตรวจไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกน่า”
อิซึกิพูดพร้อมกับกอดอกของตัวเองพลางถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
“น่าๆถึงชั้นจะบอกว่าเหมือนก็จริงแต่มันก็มีหลายๆอย่างที่ไม่เหมือนหล่ะนะ”
“เรื่องอุณหภูมิร่างกายว่างั้น?”
อิซึกิคิ้วขมวดเล็กน้อยพร้อมๆกับถามออกไป
“ก็ส่วนหนึ่ง… ชั้นต้องยอมรับเลยว่าเรื่องนั้นชั้นเองก็ตกใจไม่ใช่น้อยเหมือนกันทั้งๆที่ลองตรวจดูแล้วยีนฮงไคก็เป็นแบบเดียวกันแท้ๆ ทำไมนายถึงควบคุมอุณหภูมิของตัวเองได้และทำไมเควินถึงทำไม่ได้ชั้นหาคำตอบเท่าไหร่ก็หาไม่เจอจริงๆ”
เธอพูดออกมาอย่างจนใจเล็กน้อยซึ่งมันทำเอาเขาเหงื่อตกเล็กน้อยเลยทีเดียว
จะบอกว่าเป็นความสามารถจองระบบทางนั้นก็คงไม่เชื่อหรอกเพราะเขาเห็นระบบคนเดียวหนิจะโดนหาว่าบ้าซะเปล่าๆ
“แล้วตอนที่ร่างกายคุณเปลี่ยนอุณหภูมิคุณรู้สึกอะไรมั้ย?”
คราวนี้เควินที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ใกล้ๆได้ถามขึ้นภายในห้องตอนนี้นอกจากเขาจะมีทั้งหมดสามคน
เควิน ดร.เมย์ และโมเบียสภายในห้องก็จะมีอยู่สามคนไม่นับรวมอิซึกิเหตุผลที่เควินถามแบบนั้น
เพราะเขาอยากจะทำให้ร่างกายของเขาสามารถทำในแบบเดียวกับที่อิซึกิทำได้
เนื่องจากตั้งแต่ที่ตัวของเขาผสานเขากับยีนฮงไคทำให้อุณหภูมิร่างกายของเขามันตํ่าลง
จนตอนนี้เขาไม่แม้แต่จะสัมผัสไออุ่นจากคนที่เขารักได้เลย
ขอเพียงแค่มันมีวิธีเดียวต่อให้วิธีนั้นมันจะเสี่ยงตายแค่ไหนเขาก็จะลองทำ
ถ้ามันสามารถทำให้เขาสามารถสัมผัสกับเมย์คนที่เขารักได้อีกครั้งหนึ่งก็ยังดี
“ไม่นะ ชั้นไม่ได้รู้สึกอะไรตอนที่ร่างกายเปลี่ยนอุณหภูมิชั้นก็รู้สึกเฉยๆไม่ได้มีผลข้างเคียงอะไรที่ร่างกายเปลี่ยนอุณหภูมิแบบฉับพลันหรอก”
อิซึกิตอบกลับไปตามตรงเพราะยังไงก็ไม่ใช่ความลับอะไรอยู่แล้ว
“งั้นหรอ…” เควินที่ได้ยินก็ก้มหน้าลงทันที
ความหวังในการที่จะกลับมาสัมผัสกับคนที่เขารักได้ในตอนนี้มันค่อยๆริบหรี่ลงเต็มทีแล้ว
“เควิน…”
เมย์มองเควินด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงแน่นอนว่าเธอรู้เหตุผลที่เควินถามออกมาแบบนี้
“งั้นขอเปลี่ยนคำถามใหม่แล้วกันนะนายทำยังไงถึงสามารถเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของร่างกายได้หล่ะ?”
โมเบียสถามขึ้นอิซึกิที่ได้ยินเขาก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเลยทีนี้
“อืม… นั่นสินะชั้นก็บอกอะไรมากไม่ได้หรอกขนาดตัวเองยังไม่รู้เลยถ้าจะให้บอกก็น่าจะเป็นความรู้สึกนั่นแหล่ะ”
“ความรู้สึก?” โมเบียสคิ้วขมวดเล็กน้อย
“ใช่… ความรู้สึก… ชั้นก็คงบอกอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วมากหรอก… พอชั้นรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนให้ร่างกายกลับมาปกติมันก็เปลี่ยนพอชั้นรู้สึกอยากเปลี่ยนให้เย็นลงเพื่อให้ต่อสู้มันก็เปลี่ยน”
“ร่างกายของคุณนี่น่าอิจฉาจริงๆสามารถเปลี่ยนกลับได้ตามใจนึกแบบนี้…ผมเองก็อยากทำแบบนั้นได้บ้างจริงๆ” เควินพึมพัมออกมาเบาๆ
ภายในใจของเควินตอนนั้นมันทำให้เขาเริ่มคิดแล้วว่าตกลงเขาคิดถูกหรือคิดผิดที่มาเป็นผู้ทดลองคนแรกในโครงการนี้
“แบบนี้ก็ยากเลยแฮะเรื่องอุณหภูมิร่างกายของนายเราแทบหาคำตอบอะไรกับมันไม่ได้เลยจริงๆชั้นลองตรวจดูหลายรอบแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำได้ยังไง”
โมเบียสถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
“แล้วตอนที่ตรวจดูเธอเห็นอะไรบ้างหล่ะ?” อิซึกิถามกลับ
“ก็จะว่ายังไงดีหล่ะ… มันเปลี่ยนไปเฉยๆเลยก็น่าจะเป็นตามที่นายบอกจริงๆนั่นแหล่ะว่ามันเปลี่ยนจากความรู้สึกหน่ะเท่านั้นก็ลงล็อกแล้วหล่ะถ้าอยากรู้มากกว่านี้ก็คงต้องลองตรวจสอบร่างกายนายแบบละเอียดๆเลยหล่ะ”
“ละเอียดๆนี่คือ?” อิซึกิถามออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดลงเล็กน้อย
“ก็คงต้องผ่า----”
“ไม่เฟ้ยชั้นไม่ให้เธอผ่าอะไรทั้งนั้นแหล่ะ?!!!” อิซึกิที่ได้ยินก็ไม่รอให้เธอพูดจบเขาก็ได้สวนขึ้นมาทันที
“อุ๊บ!ฮ่าๆๆ! ชั้นแค่ล้อเล่นเองไม่ได้จะทำแบบนั้นจริงๆสักหน่อย” เธอได้ยิ้มออกมาเล็กน้อยหลังจากที่ได้แกล้งเขา
ในตอนนี้เธอชักจะเริ่มสนใจในตัวของอิซึกิมากกว่าตอนแรกๆซะอีก
แล้วในตอนนั้นเองเธอก็เหมือนจะนึกอะไรบ้างอย่างได้ก่อนที่จะถามเขาออกไป
“อ่อใช่ เมื่อวานนายอยู่ที่ไหนงั้นหรอ?” อิซึกิที่โดนถามก็แปลกใจเล็กน้อย
“ก็อยู่ที่ห้องพักหน่ะสิ” แน่นอนว่าคำตอบของเขามันก็คือการโกหกนั่นเอง
เจ้าตัวนั้นไม่บอกหรอกว่าเขานั้นไปถล่มฮงไคที่เมืองร้างมาเมื่อวาน
เพื่อเป็นการลองพลังใหม่ที่ได้มาเพราะงั้นเดี๋ยวบอกไปมันจะยุ่งยากซะเปล่าๆ
“งั้นหรอ ชั้นนึกว่านายอยู่นอกเมืองซะอีก”
“?!” พูดจบอิซึกิก็สะดุ้งสิทันที
ก่อนที่จะถามออกมาไปด้วยใบหน้าที่ปกติเพื่อซ่อนใบหน้าที่ตื่นตระหนกของตัวเองเอาไว้
“แล้วเธอถามทำไมหล่ะ?”
“อ่อ เมื่อวานทาง Fire Moth ตรวจเจอพลังฮงไคจำนวนมหาสารอยู่ในเมืองxxxหน่ะพลังของมันสูงมากกว่าแฮชเชอร์ปกติซะอีก”
‘เอาอีกแล้วตูสร้างเรื่องอีกแล้ว…’
อิซึกิได้บ่นด่าตัวเองในใจอีกครั้งทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ระบบบอกไปแล้วว่าพยายามควบคุมพลังฮงไคให้ได้ไม่ให้มันปล่อยออกมาเกินไป
เพราะพลังของอิซึกิในร่างของภูติมันก็คือแฮชเชอร์ดีๆนี่แหล่ะ
ถ้าจะให้เปรียบเลยอิซึกิก็คือแฮชเชอร์ที่ความสามารถในการต่อต้านแฮชเชอร์ด้วยกันโดยใช้พลังฮงไค
ถ้าเกิดเขาปล่อยออกมามากเกินไปมันจะทำให้ทางองค์กร Fire moth เข้าใจว่ามันมีแฮชเชอร์ตนใหม่เกิดขึ้น
“อ่าว? แล้วมันเกี่ยวอะไรกันชั้นอะ?” อิซึกิถามออกมาอีกครั้ง
ยังดีที่เขามีสายเลือดของนูราริเฮียงยังพอทำให้เขาสามารถแถออกไปได้แบบเนียนๆโดยที่ใบหน้ายังคงปกติดี
“ก็ปกตินายมักจะโผล่ในที่ๆมีการปะทุของฮงไคจำนวนมากนี่นาตอนแฮชเชอร์ที่ 8 นายก็ยังโผล่ไปจัดการได้ก่อนพวกเราซะอีกก็เลยคิดว่านายพอจะรู้อะไรบ้างรึเปล่าก็เท่านั้นเอง”
“อ่อ โทษทีนะชั้นไม่รู้หรอกเมื่อวานจัดของเหนื่อยหน่ะก็เลยหลับไปก่อนหน่ะ”
“งั้นหรอช่างเถอะเมื่อวานเราได้ส่งเควินไปลองตัวสอบแล้วก็ไม่พบอะไรเลยพลังงานฮงไคเองก็ไม่พอเช่นกันก็เลยคิดว่านายจัดการไปแล้วรึเปล่าหน่ะ”
เธอได้อธิบายเหตุผลออกมาซึ่งอิซึกิก็ทำได้แต่พยักหน้าเท่านั้น
‘หรือชั้นควรบอกเธอไปเลยดีมะว่าเป็นชั้นเองอะ?’ พูดจบระบบก็พูดขึ้นมาทันที
[อย่าหาทำคะมาสเตอร์]
‘โอเคครับ…’ การที่ระบบบอกมาแบบนี้แสดงว่าถ้าทางนั้นรู้มันต้องไม่เป็นผลดีต่อตัวเขาอย่างแน่นอน
“งั้นที่นี้ชั้นกลับได้ยังอะ?”
“เดี๋ยวสิๆพวกเรายังไม่ได้ทดสอบร่างกายของนายเลยนะจะรีบไปไหนกันหล่ะ~”
“ทดสอบร่างกาย? ทดสอบอะไรอีกหล่ะไหนบอกว่ามาแค่ตรวจร่างกายไง?” อิซึกิถามออกมาด้วยความมึนงง
“นี่ก็ถือว่าเป็นการตรวจเหมือนกันนะแล้วอีกอย่างนายก็บอกเองไม่ใช่หรอว่าถ้าเราซื้อบ้านให้นายจะฟังที่เราขอหนึ่งอย่างหน่ะ”
“พูดเล่นอะพูดเล่นใครมันจะไปนึกว่าจะซื้อให้จริงๆอะ” อิซึกิพูดออกมาพร้อมกับนึกไปที่ก่อนหน้านี้
ซึ่งเขาดันไปหลุดปากว่าถ้ามีคนซื้อบ้านให้เขาจะยอมทำตามที่คนนั้นบอกหนึ่งอย่างเลย
ในตอนนั้นก็แค่พูดติดตลกในระหว่างที่กำลังทำราเม็งเท่านั้นไม่นึกว่าทาง Fire Moth จะได้ยินที่เขาพูด
แล้วประเด็นคือทางนั้นดันบ้าจี้ซื้อให้เขาจริงๆเฉยเลย
“น่าๆตอนนี้ก็ดำเนินเรื่องซื้อบ้านเสร็จแล้วด้วยที่นี่ก็อย่าลืมทำตามที่พูดด้วยหล่ะ”
“ไวเกิ๊น?!”
อิซึกิที่ได้ยินก็ได้ถอนหายใจออกมาทันทีคราวหน้าคราวหลังเขาจะไม่ไปหลุดปากพูดอะไรอีกละ
อิซึกินั้นมักจะซวยเพราะปากของตัวเองอยู่หลายครั้งชอบหลุดพูดความลับของตัวเองออกมาอีก
‘อยากย้อนเวลากลับไปตบปากตัวเองจริงๆ’
ในท้ายที่สุดแล้วอิซึกิก็ต้องทำการทดสอบร่างกายตามี่พวกเธอบอกโดยมีโมเบียสค่อยจดบันทึก
ส่วนเควินกับเมย์ก็มีหน้าที่ที่ต้องไปทำมันก็เลยต้องทำให้อิซึกินั้นอยู่กับเจ๊แกแทบตลอดทั้งวัน
แน่นอนว่าพวกคนระดับสูงเองก็มาดูด้วยเช่นกันซึ่งเอาจริงๆการทดสอบร่างกายของเขามันก็เป็นการทดสอบแบบเบสิคนั่นแหล่ะ
ถ้าจะให้บอกก็คล้ายๆกับการทดสอบร่างกายของทหารในยุคปัจจุบันซึ่งเขาก็ผ่านได้แบบง่ายๆ
“เอาหล่ะเสร็จแล้วที่นี่ก็หายกันแล้วนะเฟ้ยงั้นก็บอกมาซะว่าบ้านที่พวกเธอซื้อให้ชั้นอยู่ที่ไหน”
“หายกันที่ไหนกันเล่า~ นี่ก็เป็นหนึ่งในตรวจสอบร่างกายเหมือนกันนะยังไม่ใช่คำขอของทางเราสักหน่อยนะเพราะงั้นยังไม่ถือว่าหายกันหรอกนะ~”
พูดจบเธอก็แลบลิ้นออกมาทันทีปล่อยอิซึกิที่ได้ยินก็ถึงกับยืนเหวอไปเลยก่อนที่เขาจะตั้งสติได้แล้วก็สบถออกมาในใจ
‘งูพิษชัดๆ?!!!’
“ม่า… งั้นพวกเราไปการทดสอบต่อไปกันเถอะ~”
พูดจบเธอก็เดินออกไปทันทีซึ่งมันเป็นสัญญานว่าให้เดินตามเธอไปแถมใบหน้าของเธอยิ้มแย้มผิดกับเขามากๆ
“ยังไม่หมดอีกเรอะ?!!!”
“การทดสอบยังเหลืออีกเยอะน้า แต่อันนี้น่าจะเป็นการทดสอบสุดท้ายของวันนี้แล้วหล่ะ~”
“ของวันนี้? ก็หมายความว่ามันยังมีอีกอะดิ?!” อิซึกิที่ได้ยินก็คอตกเลย
เหตุผลที่เขาต้องทำการทดสอบอย่างเลือกไม่ได้นั้นก็เพราะว่าทาง Fire Moth รู้ที่อยู่ของเขาหมดแล้ว
บอกเลยว่าถ้าเขาหนีออกไปคงไม่พ้นได้นอนข้างถนนจริงๆแน่ๆ
“นี่ชั้นยังไม่ได้บอกอีกหรอเนี้ยแหมแย่จังเลยนะ~”
พูดจบเธอก็เอาฝ่ามือไปสัมผัสที่แก้มของตัวเองแล้วก็พูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มซื่อๆ
“ยัยงูพิษเอ๊ย…”
“แหม~ ขอบคุณที่ชมนะทำเอาชั้นเขินจนตัวบิดเลยหล่ะ~”
“ไม่ได้ชมโว้ย!!!”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ความคิดเห็น