NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Honkai Impact X Anime] ฉันมันก็แค่คนหน้าเหมือนเท่านั้นแหล่ะ

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 66


    “โอเค… สรุปมันเป็นเรื่องจริงสินะ…” 

     

    ชายหนุ่มผมขาวชื่ออิซึกิที่ตอนนี้ใบหน้าอาบไปด้วยเลือดได้พูดขึ้นด้วยเสียงเรียบๆ

     

    [ระบบไม่นึกเลยนะคะว่ามาสเตอร์จะบ้าจี้เอาหัวโขกกำแพงจนเลือดออกขนาดนั้นจริงๆมาสเตอร์ไม่เจ็บหรอคะ?]

     

    “โห้... เป็นห่วงชั้นด้วยหรอ? น่าดีใจจริงๆ ก็เจ็บสิถามแปลกๆตอนนี้แค่เก็บอาการอยู่ก็เท่านั้นแหล่ะ” 

     

    อิซึกิเอ่ยขึ้นมาเบาๆพร้อมๆกับเช็ดเลือดที่อยู่บนใบหน้าของตน

     

    “แล้วชั้นควรจะทำยังไงต่อหล่ะ?”

     

    ระบบที่เห็นท่าทางที่เหมือนไปของมาสเตอร์ก็ตกใจเล็กน้อย

     

    เนื่องจากในตอนแรกๆเธอก็คิดว่าเขาจะต้องโวยวายแน่ๆเมื่อรู้ความจริง

     

    แต่มันก็ผิดคาดนอกจากเขาจะไม่โวยวายออกมาแล้วยังใจเย็นจนน่าตกใจ

     

    [ดูมาสเตอร์ไม่ค่อยจะตกใจเลยนะคะทั้งๆที่เมื่อกี้ยังบอกว่ามันเป็นฝันอยู่เลยแท้ๆมาสเตอร์เป็นคนกลับลำง่ายจริงๆคะ]

     

    “อ่าว? ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอกแต่มันก็พิสุจน์ไปแล้วหนิทำไงได้หล่ะ โวยวายไปแล้วมันได้อะไรถามก่อน ถ้ากลับโลกเก่าได้มันค่อยหน้าทำหน่อย แต่คิดว่ามันคงกลับไม่ได้หรอก เพราะงั้นก็ทำได้แต่ต้องยอมรับเท่านั้นแหล่ะ” 

     

    เมื่อพูดจบเขาก็ลุกออกจากกองขยะทันทีจากนั้นก็ได้หันไปถามกลับระบบอีกครั้ง

     

    “แล้วชั้นควรจะทำยังไงต่อดีหล่ะเนี้ย? การที่ชั้นโผล่มาแบบกระทันหันแบบนี้ก็เท่ากับว่าพวกประวัติอะไรมันไม่น่ามีใช่มั้ยหล่ะ? หางานทำก็คงไม่ได้ด้วย…แถมก็ยังใจดีถึงขนาดที่ส่งชั้นมาในยุคที่อันตรายๆอีกเห้อ… ” 

     

    อิซึกิถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างน้อยถ้าส่งเขาไปที่ยุคเดียวกับพวกเคียน่า

     

    มันก็น่าจะทำให้เขาปลอดภัยกว่าอยู่ยุคนี้มากเลยละนะ

     

    เนื่องจากยุคนั้นเขายังพอรู้อะไรมาบ้างแต่กลับกันยุคนี้เขาแทบไม่รู่ห่าอะไรเลย

     

    เพราะมันไม่ได้อธิบายละเอียดขนาดนั้นเลยใรเนื้อเรื่อง

     

    ตอนเขาอ่านเองก็ยังงงเลยเขารู้แค่ว่ากุญแจสวรรค์กำลังจะถูกสร้าง

     

    หลังจากที่แฮชเชอร์ลำดับที่ 7 ได้ถูกเควินจัดการลงเท่านั้น

     

    แน่นอนว่าสิ่งที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นแฮชเชอร์ลำดับที่ 14 

     

    อย่างแฮชเชอร์แห่งจุดจบขนาดพวกเควินยังไม่ไหวเลยแล้วตูหล่ะจะไปเหลืออะไร

     

    [แนะนำให้มาสเตอร์ไปส่งเป็นทหารใน Fire Moth คะ]

     

    “ตลกละชั้นพึ่งจะหนีจาก Fire Moth มาเมื่อกี้แล้วเธอยังจะให้ชั้นกลับไปอีก? ประวัติก็ไม่มีแถมหน้าตาก็ยังเหมือนกับเควินอีก แบบนี้มันความแตกตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าไปเป็นทหารเลยมั้ง”

     

    [มาสเตอร์นี่… ฉลาดกว่าที่คิดอีกนนะคะ]

     

    “จะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน… แต่ก็ยังดีที่ได้รางวัลจากระบบมามันก็เลยทำให้ตอนนี้ร่างกายชั้นอยู่ในอุณหภูมิปกติละนะ ไม่งั้นก็คงลำบากในการใช้ชีวิตแน่ๆแต่ชั้นยังสามารถใช้พลังได้อยู่มั้ย?”

     

    [ได้คะแต่ตอนใช้พลังร่างกายของมาสเตอร์จะปรับอุณหภูมิลดลงตํ่ากว่า -30 องศาเองแบบกึ่งอัตโนมัติติคะ]

     

    “ทำไมถึงเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติอะ?”

     

    [เพราะมันจะสามารถทำให้มาสเตอร์สามารถกำหนดเองได้คะเพื่อที่มันจะไม่เป็นการลบกวนชีวิตประจำวันของมาสเตอร์เกินไป]

    [เพราะถ้ามันเป็นแบบอัตโนมัติร่างกายของมาสเตอร์อาจจะตอบสนองให้อุณหภูมิลดตํ่าลงในกรณีที่ไม่จำเป็นคะ ถ้ามันเห็นว่าอะไรเป็นอันตรายต่อมาสเตอร์อุณหูมิก็จะลดลงเองคะแบบไม่ถามก่อนเลย]

    [ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็เช่นถ้ามาสเตอร์อยากแช่ออนเซ็นแต่ถ้านํ้ามันมีอุณหภูมิมากกว่าปกติสัก 10 ~ 15 องศามันก็จะปรับลดตํ่าลงทันทีคะเพื่อปกป้องร่างกายของมาสเตอร์]

    [ถ้าแบบกึ่งอัตโนมัติมาสเตอร์จะสามารถ Custom เองได้เลยคะหรือยากจะเอาแบบอัตโนมัติก็บอกได้นะคะ]

     

    “โอเค… แบบเอากึ่งอัตโนมัติดีแล้วหล่ะน่าจะสะดวกกว่าแบบอัตโนมัติเยอะ แล้วแบบนี้ชั้นจะได้นอนข้างถนนมั้ยเนี้ย? เงินที่กดมาด้วยก็ไม่รู้ว่าจะใช้ได้รึเปล่า…” 

     

    อิซึกิล้วงกระเป๋าตังของตัวเองที่อยู่ใต้เสื้อนอกสีดำออกมาเพื่อเช็คดูด้านใน

     

    อันที่จริงเสื้อตัวนี้เขาก็ซื้อมาจากในเน็ตนั่นแหล่ะ

     

    แล้วก็ให้ร้านเขาทำกระเป๋าใต้เสื้อช่องเล็กๆพอใส่กระเป๋าตังได้มาให้อีกทีหนึ่ง

     

    ของจริงที่ได้มาตอนแรกๆหน่ะมันไม่มีหรอก

     

    แน่นอนว่าอิซึกิยังไม่รู้ตัวเลยด้วยว่าเสื้อผ้าของเขามันได้ถูกระบบปรับแต่งให้เรียบร้อยแล้ว

     

    ทำให้มันทนทานต่อทุกสภาพอากาศนอกจากนี้มันยังสามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเวลาเลยด้วย

     

    ส่วนเงินในกระเป๋ามันก็ถือว่าค่อนข้างเยอะสำหรับเด็กที่พึ่งจะจบจากม.ปลายมา

     

    เนื่องจากเขาเป็นลูกคนเดียวแถมยังหางานพาร์ทไทม์ทำเพื่อลดภาระของพ่อแม่ไปด้วยมันก็เลยเยอะ

     

    แต่พ่อกับแม่ก็ยังส่งเงินให้เขาอยู่ตลอดนะจนถึงปัจจุบัน

     

    แน่นอนว่าเงินที่ถูกส่งมาเขาก็จะเก็บมันเอาไว้แล้วใช้เงินที่เขาทำงานมาเป็นหลักแทน

     

    เพราะแบบนั้นเขาก็เลยมีเงินเก็บค่อนข้างเยอะแต่พอคิดว่ามันไม่สามารถเอามาใช้ในโลกแห่งนี้ได้

     

    มันก็อดทำให้เขาหดหู่ไม่ได้จริงๆทำงานตั้งนานเก็บเงินมาแทบตายพอมันใช้ไม่ได้มันก็นะ…

     

    “เห้อ…”

     

    [มาสเตอร์ไม่ต้องเศร้าไปหรอกคะในยุคของพวกคุณเคียน่าก็ยัสามารถใช้เงินสกุลเยนได้อยู่นะคะ]

     

    “ก็นั้นมันในอนาคตไง… แล้วชั้นจะไปอยู่ถึงอ่อ?” 

     

    อิซึกิได้ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

     

    [ถ้างั้นระบบจะชดเชยให้มาสเตอร์เองคะ มาสเตอร์สามารถใช้แต้มที่ได้มาจากภารกิจแลกเป็นเงินได้นะคะ]

     

    “แล้วแต้มแค่ 20 มันจะไปแลกห่าอะไรได้หล่ะถามหน่อย?” 

     

    อิซึกิที่เห็นแต้มของตัวเองก็ถึงกับคิ้วกระตุกเลยทีเดียว

     

    แม้ของในร้านค้าบางอย่างมันจะโกงถึงขนาดที่ทำให้เขาอาจจะชนะแฮชเชอร์แห่งจุดจบได้ก็จริง

     

    แต่ราคาของมันก็ออกจะ…

     

    **********************************

    ---[หมวดหมู่อาวุธ]---

    -[ EA / 20,000,000 แต้ม]

    -[Venuzdonoa / 50,000,000 แต้ม]

    -[Yamato  / 1,000,000 แต้ม]

    -[Ziku Driver / 1,900,000 แต้ม]

    -[Ohma Zi-o driver /25,000,000 แต้ม]

    .

    .

    .

    -[ดาบพลาสติก   / 10 แต้ม]

    **********************************

     

    “เอามาทำห่าอะไรดาบพลาสติก?”

     

    แน่นอนว่าภายในร้านค้ามันยังมีหมวดหมู่อย่างอื่นด้วยเช่น หมวดหมู่ของใช้ 

     

    หมวดหมู่ของเล่น หมวดหมู่ของกิน หมวดหมู่สกิล และสุดท้ายหมวดหมู่การ์ดตัวละคร

     

    มันเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าไอ้สองหมวดหมู่สุดท้ายราคามันต้องไปต่างไปจากหมวดหมู่อาวุธหรอกเชื่อสิ

     

    และก็ดูเหมือนว่าเขาจะคิดถูกซะด้วยราคาแม่มไม่ต่างอะไรกันเลยแม้แต่น้อย

     

    แถมยิ่งหมวดหมู่การ์ดตัวละครด้วยราคาก็ยิ่งแพงกว่าอาวุธซะอีก

     

    บางตัวมีถึง 100 ล้านแต้มก็มีแต่สำหรับอิซึกิเขามองว่าแม้การ์ดตัวละครมันจะแพงก็จริง

     

    แต่ว่ามันก็ค่อนข้างคุ้มมากกว่าพวกอาวุธด้วยนิดหน่อย

     

    ก็อย่างเช่นการ์ดตัวละครอนิเมะ กิลกาเมซราคาอยู่ที่ 25,000,000 แต้ม

     

    แต่ EA อยู่ที่ 20,000,000 แต้มการ์ดตัวละครแม้จะแพงกว่า

     

    แต่มันได้ทุกอย่างของตัวละครนั้นๆมาหมดเลยก็เว้นประสบการณ์

     

    นอกนั้นพวกสกิลและของในคลังต่างๆยังอยู่ครบพร้อมใช้งานทันทีหลังจากที่ได้ไป

     

    เพียงแค่เพิ่มอีก 5 ล้านแต้มก็ถือว่าคุ้มแล้ว

     

    แน่นอนว่าในหมวดหมู่สกิลเองก็มีด้วยนะสกิล Gate of babylon ของกิลกาเมซหน่ะ

     

    แต่มันไม่มี EA รวมอยู่ในนั้นด้วยนี่สิ

     

    เพราะงั้นเขาก็เลยมองว่าไม่ถือว่ามันคุ้นเท่าไหร่นักแม้ราคาจะถูกกว่า EA 5 ล้านแต้มก็ตามที

     

    “เห้อ… เห็นราคาแล้วท้อใจเลยแฮะ”

     

    [มาสเตอร์ไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้คะถ้ามาสเตอร์ทำภารกิจที่กำหนดไว้แน่นอนว่าจะมีพวกอาวุธและการ์ดตัวละครรวมอยู่ในของรางวัลด้วย]

     

    “ไม่ได้ทำให้ชั้นดีใจขึ้นมาเลยแล้วพวกแต้มหล่ะหาจากไหน? มีแค่ในภารกิจงั้นหรอ?”

     

    [ไม่คะมาสเตอร์สามารถได้แต้มจากการกำจัดพวกฮงไคด้วยนะคะ]

     

    “อ่าว? งั้นก็แสดงว่าไอ้ 20 แต้มขึ้นชั้นมันก็มาจากการจัดการกับแฮชเชอร์อะดิ จัดการกับแฮชเชอร์ยังได้แค่ 20 แต้มแล้วพวกฮงไคปกติมันไม่ได้ 0.5 แต้มเลยรึไง?”

     

    [ถูกต้องคะ]

     

    ทันทีที่เธอพูดจบหน้าต่างบางอย่างก็เด้งขึ้นมาด้านหน้าของเขา

     

    ยิ่งเจ้าตัวเห็นแต้มที่ได้จากการจัดการกับฮงไคในแต่ละตัวมันก็ยิ่งทำเอาเขาพูดไม่ออกมากกว่าเดิม

     

    “……..”

     

    ********************************

    ---[แต้มที่ได้จากการจัดการกับฮง]---

    -Herrscher-Class / 20 แต้ม

    -Judgment-Class / 10 แต้ม

    -Emperor-Class / 5 แต้ม

    -Templar-Class / 2 แต้ม

    -Chariot-Class / 1.5 แต้ม

    -Knight-Class /  1 แต้ม

    -Seraph-Class / 0.50 แต้ม

    -อื่นๆเช่นพวกซอมบี้ / 0.10 แต้ม

    ********************************

     

    “ยัยระบบหน้าเลือดเอ๊ย….” 

     

    อิซึกิพูดบ่นออกมาเบาๆแต่ก็ไม่พ้นระบบได้ยินอยู่ดี

     

    [ขอบคุณที่ชมคะมาสเตอร์]

     

    “ไม่ได้ชมเธอเฟ้ย!” 

     

    หลังจากนั้นอิซึกิก็ริเริ่มคิดแผนการในการที่เขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ยุคนี้ได้ขึ้นมา

     

    แม้เขาจะยังเคืองระบบอยู่ก็ตามที่แต้มแต่ละแต้มมันก็ได้น้อยเกินไม่ค่อยคุ้มกับการจัดการพวกฮงไคเลย… 

     

    ไม่สิ… 

     

    ต้องบอกว่ามันไม่คุ้นเลยต่างหาก

     

    แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ทำอะไรกับมันไม่ได้หรอกเนื่องจากระบบกำหนดมาแล้ว

     

    แม้จะบ่นออกไปแต่สุดท้ายแล้วก็ต้องทำอยู่ดีเพราะถ้าไม่ทำเขาก็แทบจะอยู่รอดในยุคนี้ไม่ได้เลย… 

     

    ยุคนี้แม่มเถื่อนจัดไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้หรอกบอกเลย

     

    [มาสเตอร์จะทำอะไรต่อไปหรอคะ?]

     

    “เปิดร้านราเมงข้างทาง ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่ต้องกับเรื่องตรวจประวัติด้วยถ้า Fire Moth มันไม่เจอตัวชั้นก่อนล่ะนะ”

     

    [….]

    [หวังว่ามาสเตอร์จะยังไม่ลืมนะคะว่าสกิลทำอาหารของมาสเตอร์หน่ะมันตํ่ายิ่งกว่าเด็กประถมซะอีกแล้วแบบนี้ใครมันจะมากินหล่ะคะถามหน่อย?]

     

    “นี่ๆชั้นจะบอกให้นะต่อให้สกิลการทำอาหารของเขามันจะอัปรีย์แค่ไหนแต่เรื่องพวกรางเมงเนี้ยหายห่วงได้เลยเธอลืมไปแล้วรึไงว่าชั้นเคยทำงานในร้านรางเมงอันดับ 1 ในญี่ปุ่นมาก่อนหน่ะ” 

     

    อิซึกิพูดออกมาพร้อมกับกอดอกอย่างมั่นใจก่อนที่ระบบจะขัดขึ้น

     

    [แต่มาสเตอร์เป็นเด็กล้างจานไม่ใช่หรอคะ? แถมยังบ่นว่างานหนักจนจะลาออกหลายรอบเลยด้วย]

     

    “……” เจ้าตัวที่ได้ยินก็นิ่งไปเลยก่อนที่จะเอ่ยออกมาเบาๆ

     

    “ขัดเก่งจริงๆเลยนะเธอ… มันก็จริงที่ชั้นเป็นแค่เด็กล้างจานแต่ว่ามาสเตอร์ของร้านรางเมงก็เคยสอนชั้นอยู่นะเออ… แม้แกจะขี้งกไปหน่อยก็เถอะแต่ชั้นก็จำได้ทุกสูตรเลยนะ”

     

    [ก็เข้าใจอยู่นะคะว่าที่มาสเตอร์ของร้านราเมงมาสอนมาเตอร์ทำก็เพื่อจะให้มาสเตอร์ช่วยเป็นลูกมือให้เขาไม่ใช่หรอคะเนื่องจากเชื่อใจว่ามาสเตอร์จะไม่เอาสูตรไปให้กับคู่แข่งของเขาหน่ะ]

    [เพราะมาสเตอร์ทำงานอยู่ในร้านนั้นมาตั้งแต่ที่ร้านมันเปิดมาใหม่ๆเลยแต่ว่าเอาสูตรมาใช้โดนพลการแบบนี้จะไม่เป็นอะไรหรอคะ?]

     

    “ชั้นเคยถามมาสเตอร์แล้วว่าชั้นเอาสูตรไปใช้เองจะเป็นอะไรรึเปล่า… แต่แกก็บอกมาแล้วว่าไม่เป็นอะไรขอเเค่ไม่ไปแจกสูตรกับคู่แข่งของแกก็พอ”

     

    [แต่เขาสอนมาสเตอร์ก็จริงแต่มาสเตอร์เคยทำที่ไหนหล่ะคะ?]

     

    “เธอเนี้ยนะ… ช่วยเห็นด้วยกับชั้นสักครั้งมันจะเป็นอะไรมั้ยถามหน่อย? ก็จริงที่ชั้นจำได้แต่สูตรไม่เคยทำแต่แบบนั้นมันก็น่าจะท้าท้ายดีเหมือนกันหนิชั้นยิ่งชอบๆอะไรแบบนี้อยู่ด้วย” 

     

    พูดจบอิซึกิก็เดินออกจากตรอกทันทีก่อนทีในเวลาต่อมาระบบจะพูดขึ้น

     

    [เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะคะตอนนี้มาสเตอร์ช่วยไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะคะตอนนี้คนเขามองมาสเตอร์กันเต็มแล้วนะคะ]

     

    ‘ก็จริงของเธอชุดชั้นมันคงดูแปลกตาเกินไปจริงๆนั่นแหล่ะ’ 

     

    อิซึกิพูดพร้อมกับเหงื่อตกเล็กน้อยเนื่องจากเขาเดินไปไหนมาไหนคนก็มองเต็มไปหมด

     

    เพราะชุดของเขาที่เด่นสะดุดตาแล้วไหนจะยังเรื่องหน้าตาอีก

     

    ส่วนเงินของเขาระบบก็บอกมาแล้วก่อนหน้านี้ว่าสามารถใช้เงินเยนของเขาแลกเป็นสกุลเงินของที่นี่กับระบบได้เลย

     


    หลายวันผ่านไป

     

    หลังจากที่ตัวของอิซึกิได้ตั้งประณิธานว่าเขาจะทำร้านราเมงขึ้นมา


    มันก็ผ่านมาได้ราวๆ 2 อาทิตย์แล้วแน่นอนว่าอุปสรรคนั้นมีมากมาย

     

    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสูตรของราเมงที่จะใช้ถึงแม้เขาจะจำได้แต่ตอนทำมันดันไม่เหมือนกับที่จำมานี่สิ

     

    เพราะงั้นเขาก็เลยต้องฝึกใหม่ตั้งแต่ต้นเลยไม่ว่าจะเป็นการต้มนํ้าซุบ

     

    เขาได้ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งเสียเงินไปแล้วก็เยอะมากจากการซื้อวัตถุดิบ

     

    โดยมีระบบคอยให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆส่วนเรื่องที่พักอิซึกิได้ให้ระบบสร้างประวัติขึ้นมา

     

    นั่นจึงทำให้เขาสามารถหาที่อยู่อาศัยเป็นหลักเป็นแหล่งแบบชั่วคราวได้

     

    แม้มันจะเล็กก็ตามแต่ก็ยังดีกว่านอนข้างถนนหล่ะนะ

     

    ส่วนเงินที่เขาเก็บมาจากโลกเก่าตอนนี้ก็ใช้เเลกกับระบบไปจนจะเกลี้ยงแล้วเขาใช้มันในการเช่าที่พักเอ่ย

     

    ใช้มันซื้อวัตถุมาใช้เพื่อฝึกทำเอ่ยและยังใช้มันซื้อของเตรียมเข้าร้านอีก

     

    และอีกมายมากจนสุดท้ายแล้วเขาก็ต้องใช้วิธีการจัดการกับฮงไคตามสถานที่ต่างๆ

     

    เพื่อเอาแต้มมาแลกเป็นเงินแล้วในตอนนี้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อประหยัดตังของโลกเก่าที่เหลืออยู่ร่อยหรอเอาไว้

     

    และในที่สุดหลังจากที่ฟันฝ่าความลำบากและอุปสรรคมามากมายนับไม่ถ้วน

     

    ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับฮงไคเพื่อหาแต้มหามาใช้แลกเป็นตังในการเช่าที่เปิดร้าน

     

    แถมยังต้องลำบากเพราะดันซวยไปจ๊ะเอ๋กับพวก FireMoth อยู่หลายครั้งหลายครา

     

    จนต้องปะทะกันอยู่หลายครั้งเนื่องจากทางนั้นต้องการที่จะควบคุมตัวของเขาเอาไว้

     

    แน่นอนว่าทางอิซึกินั้นไม่ยอมให้ตัวเองถูกจับแน่ๆแหล่ะ

     

    เนื่องจากเขาไม่รู้ว่าโดนจับไปแล้วสุดท้ายเขาจะโดนอะไรบ้าง

     

    แล้วในที่สุด!

     

    ร้านราเมงของเขาก็ได้เปิดทำการสักทีชื่อของร้านเขาก็คือ ‘Sugoi Ramen’ 

     

    เรียกได้ว่าชื่อร้านเล่นง่ายแบบสุดๆ

     

    เนื่องจากเขาพึ่งจะมาคิดเอาตอนจะเปิดร้านมันก็เลยออกมาแบบนี้แหล่ะ

     

    คิดอะไรได้ก็ตั้งชื่อมันเดียวนั้นเลยขนาดระบบยังเอื่อม

     

    “ฮาาา ในที่สุดร้านของชั้นก็เสร็จสักที” อิซึกิเอ่ยขึ้นพร้อมๆกับหน้าถูไปที่โตะราวกับคนบ้าก่อนที่จะมีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น

     

    กริ้งๆๆ!

     

    เสียงกระดิ่งหน้าประตูได้ดังขึ้นซึ่งเขาทำเป็นสัญญานว่าตอนนี้มีลูกค้าเข้ามาแล้ว

     

    “อ๊ะ?! ขออภัยด้วยครับตอนร้านเรา… ยัง… ไม่… เปิด…” 

     

    อิซึกิที่ได้ยินเสียงกระดิ่งรีบลุกพลวดขึ้นมาทันที


    และเมื่อเขาหันขึ้นมาก็พบเขากับคนที่เขาไม่อยากจะเจอมากที่สุดเลยตอนนี้

     

    “นายมาทำอะไรที่นี่เควิน คาสลาน่า?” เสียงพูดที่เเสนเย็นชาดังออกมาจากอิซึกิ


    “.......” เควินที่ได้ยินก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับแต่อย่างใด

     

    ช่วงหลังๆเขาเจอหน้าอีกฝ่ายจนเอียนแล้วไม่อยากเห็นเลย


    และที่เขาไม่เข้าใจที่สุดก็คืออีกฝ่ายรู้ได้ยังไงว่าอยู่ที่นี่มสกกว่า

     

    “ถ้าจะมาเรื่องชวนตีอีกก็ขอให้ออกไปซะอย่าหาว่าชั้นไม่เตือน ชั้นบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าชั้นไม่เข้าร่วมอะไรทั้งนั้นถ้ามาป่วนร้านชั้นจนพังคราวนี้ชั้นจะไปถล่มฐานนายทิ้งบ้างเข้าใจมั้ย?” 


    อิซึกิเอ่ยออกมาด้วยความรำคาญช่วงหลังๆเขาเจอหน้าอีกฝ่ายจนเอียนแล้ว

     

    “ครั้งนี้ผมไม่ได้มาเพื่อชวนคุณ” เควินเอ่ยออกมาอย่าใจเย็น

     

    “งั้นก็ดีขากลับก็ระวังๆตัวด้วยก็แล้วกันแถวนี้รถมันเยอะ” พูดจบอิซึกิก็กลับลงไปนั่งที่เดิมอีกครั้ง

     

    “ร้านคุณเปิดร้านราเมงสินะ?”

     

    “ถ้านายได้อ่านป้ายชื่อร้านก็ตามนั่นแหล่ะ” อิซึกิตอบกลับอย่างติดตลก


    แต่เหมือนว่าทางนั้นจะโดนเขาพูดใส่จนเริ่มชินขึ้นมาบ้างแล้ว

     

    “งั้นผมขอมิโสะราเมงชามหนึ่ง”

     

    “ตกลงได้ฟังมั้ยเนี้ย? ชั้นบอกว่าร้านยังไม่เปิดวันนี้ชั้นแค่มาดูร้านและจัดของเท่านั้นปิดพรุ่งนี้เฟ้ย”

     

    “งั้นผมจ่ายให้คุณสองเท่าเลย”

     

    “ก็บอกว่า---” ยังไม่ทันทีเขาจะพูดจบเควินก็แทรกขึ้นทันที

     

    “ถ้าคุณทำอร่อยผมให้สามเท่าเลย”

     

    “งั้นก็แปบหนึ่งขอเตรียมของก่อน” 


    พูดจบเขาก็รีบเดินออกไปเตรียมของในครัวทันทีทำเอาระบบถึงกับเหว๋อไปเลย

     

    [ไหนมาสเตอร์เคยบอกไม่ใช่หรอคะว่าเงินซื้อชั้นไม่ได้หน่ะไหงกลับลำไวแบบนี้หล่ะคะ?]

     

    ‘เงินซื้อชั้นไม่ได้หรอก…ถ้ามันไม่มากพอ’ 


    อิซึกิเอ่ยขึ้นในใจขณะที่เขากำลังเริ่มทำการเตรียมของทำราเมงให้กับเควิน


    ส่วนระบบเมื่อเธอได้ยินมาสเตอร์ของเธอพูดแบบนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออกเลย

     

    [……….]

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×