คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 18
ในเวลาต่อมา ณ บ้านของอิซึกิ
หลังจากที่โมเบียสได้รับการติดต่อจากเมย์ว่าอิซึกิเบี้ยวนัดอีกแล้วเธอก็จึงรีบเดินทางมาที่บ้านของเขาทันทีเพื่อลากคอเจ้าตัวไปที่ห้องวางแผนการรบตามที่เมย์สั่ง
เมื่อมาจนถึงหน้าบ้านโมเบียสก็ได้กดกริ่งเพื่อเรียกอิซึกิออกมาแต่จนแล้วจนรอดก็ยังคงเงียบ
เธอแปลกใจเล็กน้อยก่อนที่เธอจะตัดสินใจกดมันซํ้าอีกสองสามครั้งผลก็ยังคงออกมาเป็นแบบเดิม
“เห้อ… ให้มันได้อย่างงี้สิ… ก็คิดเอาไว้แล้วว่าต้องเกิดเรื่องแบบนี้ดีจริงๆที่เอากุญแจสำรองมาด้วย”
โมเบียสถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะค้นหากุญแจสำรองในกระเป๋าของตัวเองจากนั้นก็นำมันมาเปิดประตูเข้าไปด้านใน
ถ้าจะถามว่าทำไมโมเบียสถึงได้มีกุญแจสำรองมันก็ไม่มีอะไรมากหรอกแค่อิซึกิกลัวทำกุญแจหายเขาก็เลยตัดสินใจเอามันไปฝากเอาไว้กับโมเบียส
และถ้าจะถามว่าทำไมต้องเป็นเธอมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรมากหรอกเขาก็แค่ไว้ใจเธอมากที่สุดในองค์กรแค่นั่นแหล่ะ
เมื่อเธอเข้ามาภายในบ้านของอิซึกิแล้วโมเบียสก็ไม่รอช้าเดินไปหาเจ้าตัวที่ห้องนอนทันทีราวกับเป็นเจ้าของบ้านเอง
“นั่นไงว่าแล้ว”
ทันทีที่เธอเดินเข้ามาในห้องนอนภาพที่เธอเห็นมันก็ไม่ได้แตกต่างจากที่เธอคิดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย
บนเตียงสีขาวขนาดใหญ่ขณะนี้มีร่างของชายหนุ่มผมสีขาวในชุดนอนกำลังนอนหลับอยู่อย่างสบายอารมณ์ที่หูทั้งสองข้างของเขามีอุปกรณ์ป้องกันเสียงใส่เอาไว้อยู่ ที่ดวงตาเองก็สวมผ้าปิดตาเอาไว้เช่นกัน มันก็ไม่แปลกเลยที่อิซึกิจะไม่ได้ยินเสียงกริ่ง
โทรศัพท์เองพอเธอเปิดดูก็ปรากฎว่าปิดเสียงเอาไว้อีกแถมยังวางไว้ที่พื้นฟังก์ชั่นสั่นของมันก็เลยไม่มีผลกับเจ้าตัวที่กำลังนอนอยู่
โมเบียสเดินเข้าไปเปิดผ้าปิดตาก่อนที่จะถอดอุปกรณ์กันเสียงออกจากนั้นเธอก็เขย่าร่างของอิซึกิเพื่อเรียกเขาให้ตื่น
หลังจากที่เธอพยายามปลุกเขาอยู่ราวๆ 10 วินาที จู่ๆดวงตาของเจ้าตัวก็ได้เปิดขึ้นโมเบียสที่เห็นเธอก็แปลกใจเล็กน้อยเพราะปกติดวงตาของอิซึกิเป็นสีฟ้าแต่สีของดวงตาที่เธอกำลังเห็นอยู่มันกลับเป็นสีแดงซะงั้น
“ทำไมสีตาคุ้นๆ---ว๊ายยย?!”
ไม่รู้ทำไมภาพที่เธอถูกจับกดเข้ากำแพงมันถึงเด้งเข้ามาหลังจากที่เธอได้เห็นสีของดวงตาที่เปลี่ยนไปของเขา ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ
อิซึกิก็ลุกพรวดขึ้นมาจับร่างของเธอกดลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว มันเร็วมากขนาดที่เธอมองตามไม่ทันเลยขณะที่โมเบียสกำลังอึ้งอยู่นั้นอิซึกิก็ได้พูดออกมา
“เข้ามาภายในบ้านของบุรุษเช่นข้าแบบนี้… ไม่ระวังตัวเลยนะเจ้าหน่ะหึๆ”
ศัพท์โบราณออมาจากปากของอิซึกิโมเบียสที่ได้ยินเธอก็จำได้ทันที
คำพูดศัพท์โบราณแบบนี้ ดวงตาสีฟ้าที่กลายเป็นสีแดงแบบนี้มันช่างเหมือนกับตอนนั้นซะจริงๆใบหน้าของเธอแดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“อะ-เอ่อ… คือ…”
“เอาเถอะครั้งนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน… แล้วมีอะไรหล่ะถึงได้เข้ามาในบ้านของข้าหน่ะ?” อิซึกิลุกขึ้นออกจากตัวของเธอ
“อะ-อ่อ… ใช่พอดีเมย์ให้ฉันมาตามนายหน่ะ”
“ตาม? อ่อ… เออว่ะ… ลืมเรื่องประชุมไปซะสนิทเลยแฮะ”
เมื่อได้ยินเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่ดวงตาของเขาก็ได้พลันเปลี่ยนกลับไปเป็นสีเดิม
“สรุปคือลืมจริงๆงั้นสินะ”
“ก็นะ… พอดีมันเกิดอะไรหลายๆอย่างขึ้นจะลืมก็ไม่แปลกหรอก”
พูดจบเขาก็ลุกออกจากเตียงทันที และเตรียมที่จะไปอาบนํ้าทว่าก่อนที่จะทันได้เดินออกจากห้องโมเบียสเธอก็ได้ถามขึ้นมาซะก่อนเรื่องนี้เธออยากรู้มานานแล้วแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ถามสักที
“นี่อิซึกิฉันสงสัยมาสักพักแล้วหล่ะแต่ยังไม่มีโอกาสได้ถามสักที… ทำไมดวงตาของนายถึงเปลี่ยนไปมาระหว่างสีฟ้ากับแดงได้หล่ะ? แถมไม่ใช่แค่สีตาเปลี่ยนเท่านั้นนะบุคคลิกของนายเองก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปตามสีของดวงตาด้วยอีก นี่นายยังมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกฉันอยู่รึเปล่า?”
เธอถามขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง ซึ่งสิ่งที่เธอได้จากอิซึกิก็มีเพียงแค่รอยยิ้มบางๆของเขาเท่านั้น
“ใครๆก็ต้องมีความลับเป็นของตัวเองทั้งนั้นนั่นแหล่ะ… ฉันเองก็มีความลับของฉันอยู่เหมือนกัน… แต่ฉันยังบอกเธอไม่ได้หรอกจนกว่าจะฉันจะไว้ใจพวกเธอได้มากกว่านี้”
คำพูดเพียงไม่กี่คำของอิซึกิเธอก็รู้ได้ในทันทีเลยว่าตอนนี้เขายังไม่ไว้ใจพวกเธอเต็มร้อย
ไม่รู้ทำไมพอเธอได้ยินแบบนั่นในใจลึกๆของเธอถึงได้รู้สึกเจ็บขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกพอพูดจบเขาก็เดินออกไปปล่อยให้เธอนั่งคิดอะไรอยู่ในห้องของเขา
“นี่มันอะไรหล่ะเนี้ย?”
ในขณะที่ตัวของเธอกำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่ภายในห้องของอิซึกิอยู่นั้นจู่ๆสายตาของเธอก็ได้เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่มันวางอยู่ที่โต๊ะคอมของอิซึกิ
“Brave Dragon?”
ณ ห้องวางแผนการรบ
“สรุปคือเธอเสนอกับทางเบื้องบนไปว่าให้ย้ายฐานการผลิตกุญแจสววรค์ไปที่เกาะ P-21 งั้นสินะ” อิซึกิถามขึ้น
“ใช่ ฉันดูจากพฤติกรรมของแฮชเชอร์ที่มักจะชอบไปโจมตียังจุดที่มีการผลิตกุญแจสวรรค์ที่ถูกปิดเป็นความลับแสดงว่าพวกมันจะต้องรู้จากความทรงจำของสมาชิกระดับสูงของไฟร์มอดที่กลายเป็นร่างสถิตของแฮชเชอร์แน่ๆ” เมย์ตอบกลับ
“ล่อพวกมันไปเพื่อจัดการให้จบรวดเดียวเลยงั้นสินะ?”
อิซึกิถามขึ้นตอนนี้เขาเริ่มจะพอจำเนื้อเรื่องได้รางๆแล้วหลังจากที่ลืมไปเกือบหมดเพราะอยู่ในโลกนี้นานเกินจากนั้นเควินก็ได้ถามขึ้น
“ที่เรียกรวมตัวพวกเราสามคนแสดงว่าจะให้พวกเราคุ้มกันเกาะนั่นใช่มั้ย?”
“ใช่ ฉันจะปล่อยข่าวให้ทางเบื้องไปว่าตอนนี้ฉันกำลังเริ่มทำการสร้างกุญแจสวรรค์ดอกใหม่ที่มีชื่อว่า Key of the Void อยู่โดยใช้เกาะ P-21 เป็นสถานที่ที่ใช้ในการสร้าง”
“ถ้าหากพวกมันรู้ข่าวจะต้องบุกเข้าไปโจมตีที่นั่นแน่ๆเควินกับฮัวให้นำทีมคุ้มกันปกป้องน่านนํ้าเอาไว้”
“ส่วนอิซึกินายคุ้มกันโขดหินรอบๆเกาะที่เป็นทางเข้าไปยังศูนย์วิจัยตัวคนเดียวไหวมั้ย?”
“สบายมาก”
“จริงสิเมย์… เรื่องที่จะไปปล่อยข่าวเกี่ยวกับ Key of the Void หน่ะเป็นเรื่องจริงงั้นหรอ? หรือว่าเป็นเรื่องแต่ง?” เควินถามขึ้น
“เรื่องจริงสิ แต่เรื่องนี้ห้ามบอกคนอื่นหล่ะเข้าใจมั้ย? ตอนนี้ฉันสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วหล่ะ… แต่ที่ต้องปล่อยข่าวออกไปว่ากำลังสร้างอยู่ก็เพื่อให้พวกมันบุกเข้ามาขัดขวางการสร้างพวกเราจะได้จัดการปิดฉากพวกมันทีเดียวที่ไปเลย…”
“ถ้าพวกมันรู้ว่ากุญแจสวรรค์ชิ้นนั้นสร้างเสร็จแล้วก็คงไม่กล้าบุกเข้าใช่รึเปล่า?”
ฟูฮัวพูดขึ้นซึ่งเมย์ก็พยักหน้าก่อนที่เธอจะบอกว่าเรื่องพลังของกุญเเจสวรรค์พวกมันที่เคยสู้มาย่อมรู้ถึงพลังของมันอยู่แล้ว
ถ้าหากพวกมันบุกเข้ามาตอนที่สร้างเสร็จแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับการเข้าไปฆ่าตัวตายเลยแม้แต่น้อย
จากนั้นเธอก็ได้อธิบายหลักจากการทำงานของ Key of the Void ให้พวกเขาฟังตามคำขอของเควิน ซึ่งอิซึกิที่ได้ยินข้อมูลแบบคร่าวๆของมันเขาก็พูดขัดขึ้นในทันที
“เห้ๆ นี่เมย์เธอคงจะไม่ลืมใช้มั้ยว่ามนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีภูมิคุ้มกันพลังงานฮงไคเวลาที่สัมผัสกับพลังงานฮงไคจุดจบจะเป็นยังไง แค่พลังงานฮงไคเล็กน้อยมันก็ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ธรรมดาได้แล้วนะ…”
“แต่นี่ล่อใช้ทั้งคอร์เลยเธออยากตายไวขนาดนั้นเลยรึไง? ชุดนี่มันแค่ทำให้เธอเชื่อมต่อโดยตรงกับพลังของคอร์แฮชเชอร์ มันก็เลยทำให้ผู้ใช้งานมันไม่ต่างอะไรกับแฮชเชอร์…”
“มันแค่ทำให้เธอเข้าถึงและใช้พลังงานของคอร์ได้เท่านั้น มันไม่ได้ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้เธอสักหน่อย ขืนเธอใช้มันไปนานๆยังไงเธอก็ไม่น่ารอดหรอก ทางที่ดีอย่าใช้มันจะดีกว่านะ”
เควินที่ได้ยินที่อิซึกิพูดเขาเองก็เห็นด้วยเช่นกัน
ไม่แปลกหรอกที่หมอนี่จะเห็นด้วยกับอิซึกิแฟนตัวเองกำลังจะอายุสั้นลงหากต้องใช้งานมันมีใครไม่ห่วงบ้างหล่ะจริงมั้ย?
ท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องเริ่มวางแผนใหม่กันอีกครั้ง แต่ถึงจะบอกว่าวางแผนใหม่เอาจริงๆมันก็แค่ปรับแก้อะไรเล็กๆน้อยๆจากแผนเดิมเท่านั้นเอง
โดยที่อิซึกิจะยังคงทำหน้าที่คุ้มกันทางเข้าศูนย์วิจัยคนเดียวเหมือนเดิมที่เปลี่ยนจากเดิมเลยก็คือหน่วยที่คุ้มกันน่านนํ้ารอบๆศูนย์วิจัยจะไม่มีเควินเป็นหัวหน้านำทีมคุ้มกันร่วมกับฟูฮัวแต่ครั้งนี้จะมีแค่ฟูฮัวคนเดียวที่เป็นคนนำทีมคุ้มกันน่านนํ้า
ส่วนเควินจะให้เข้าไปคุ้มกันเมย์ในศูนย์วิจัยเผื่อเอาไว้ในกรณีที่พวกมันสามารถหาทางเข้าไปด้านในได้โดยที่ไม่ผ่านทางเข้าด้านหน้าที่มีอิซึกิคุ้มกันอยู่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ตอนแรกกะจะทิ้งไว้สัก 2 อาทิตย์แล้วค่อยเริ่มเขียนแต่เห็นมีคนถูกใจเยอะงั้นจะเขียนให้ก็แล้วกานน
เหมือนเดิมครับกดหัวใจเยอะตอนใหม่อาจจะมาไวงับ
ความคิดเห็น