คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 16
ณ ฐานทัพลับของ Fire Moth
“เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ”
เควินพูดขึ้นในขณะที่กำลังคุยโทรศัพท์เขาได้เดินออกจากห้องแล้วก็ได้เจอเข้ากับเมย์พอดีเมื่อเธอเห็นเควินเธอก็ได้ถามขึ้นทันที
เพราะดูจากชุดของเควินแล้วเหมือนกับว่าเขากำลังจะออกไปที่ไหนสักแห่ง
“นี่เควินนายแต่งตัวแบบนั้นคิดจะไปไหนหน่ะ?”
“ผมจะออกไปหาคุณอิซึกิหน่ะเห็นบอกว่ามีสำคัญมากๆแล้วให้รีบไปด่วนเลย…”
เควินตอบกลับก่อนที่จะกดปิดมือถือของตัวเองซึ่งเมย์ที่ได้ยินก็แปลกใจเล็กน้อย
เพราะตอนนี้มันเที่ยงคืนจะตีหนึ่งอยู่แล้ว
“แต่นี่มันจะตีหนึ่งแล้วนะอิซึกิจะเรียกนายออกไปทำอะไรหล่ะนั่น?”
“เวลานี้มันควรจะเป็นเวลาปิดร้านของเขาไม่ใช่หรอ? คงไม่ใช่ว่าจะเรียกนายให้ไปช่วยเก็บร้านนะ”
“เรื่องนั้นผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาเรียกผมไปทำไม… ”
“อ่อ… จริงสิอิซึกิได้บอกด้วยนะว่าถ้าหากเป็นไปได้ก็ให้เธอไปด้วย”
“ฉันด้วยหรอ?”
“ใช่”
เมย์ที่ได้ยินก็ประหลาดใจเล็กน้อยว่าเขาจะเรียกทั้งเธอและเควินไปทำไม แต่ในเมื่อคิดไปก็หาคำตอบไม่ได้อยู่ดี
ถ้างั้นก็ไปถามกับเจ้าตัวเองเลยดีกว่าคิดได้แบบนั้นเธอก็ขอตัวไปแต่งตัวก่อน
เพราะตอนนี้มันดึกมากแล้วอากาศข้างนอกมันก็หนาวมากๆด้วย
ในตอนแรกถ้าเควินไม่เจอเข้ากับเมย์เขาก็กะจะไปคนเดียวแล้ว
เนื่องจากความเร็วของเควินที่เป็นเมทิสนั้นมีมากทำให้ใช้เวลาแป๊บเดียวก็ไปถึงแล้ว
แต่ในเมื่อมีเมย์ไปด้วยแบบนี้เควินก็เลยต้องใช้มอเตอร์ไซค์ขับไปแทน
และกว่าที่พวกเขาจะไปถึงมันก็เลยต้องใช้เวลาพอสมควร
และเมื่อทั้งสองมาทั้งย่านที่อิซึกิใช้เป็นที่เปิดร้านราเมงพวกเขาทั้งสองก็ต่างพากันแสดงท่าทางตกใจออกมาทันที
เพราะย่านที่เคยเงียบสงบตอนนี้มันได้กลายเป็นซากไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
“ที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี้ย…?”
เมย์พูดออกมาด้วยความตกใจ
“เรื่องนั้นผมว่าเอาไว้ก่อนดีกว่า ตอนนี้เราต้องตามหาอิซึกิแล้วค่อยถามเอาจากเขาอีกทีว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่…”
พูดจบแล้วทั้งสองก็ได้มุ่งหน้าไปยังร้านของอิซึกิต่อในทันที
ก่อนที่จะพบว่าตอนนี้อิซึกิที่อยู่ในชุดรบกำลังนั่งพักอยู่ที่เศษซากของปูน
เสื้อผ้าของเขานี่ก็เรียกได้ว่าสะอักสะบอมพอสวรเลยหล่ะ
“หืม? อ่าว? มาถึงแล้วหรอ?”
อิซึกิที่หันมาเจอเข้ากับทั้งคู่ก็ได้พูดขึ้นด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
จากนั้นเมื่อมาถึงเควินก็ยินคำถามใส่ทันทีเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ซึ่งอิซึกิก็ได้ถอนหายใจออมาเบาๆก่อนที่เขาจะชี้นิ้วไปที่เสาร์ๆต้นหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลมากนัก
เมื่อทั้งสองหันไปก็ได้พบเข้ากับผู้หญิงจำนวน 8 คนกำลังนั่งหมดสติอยู่
โดยที่มือทั้งสองข้างของพวกเธอถูกเชือกมัดเอาไว้ติดกับเสาร์ร่างกายของพวกเธอมีร่องรอยการต่อสู้ปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจน
“ยัยพวกนี้โจมตีฉันตอนที่กำลังจะปิดร้านหน่ะ”
“แล้วที่เห็นว่าแน่นิ่งแบบนั้นฉันไม่ได้ฆ่าเธอหรอกนะแค่ทำให้สลบไปเท่านั้น...”
“ส่วนที่ย่านนี้เป็นแบบนี้มันก็เป็นเพราะยัยพวกนี้เช่นกันที่ฉันเรียกพวกนายมาเพราะอยากจะให้ตรวจสอบให้หน่อย”
“ว่าเพราะอะไรทำให้เธอถึงสามารถใช้พลังได้ทั้งๆที่ไม่ใช่แมนทิสแบบพวกเรา”
“ให้ตายสิ… ยัยพวกนี้เล่นซะฉันลงไปนอนกริ้งเลย…”
อิซึกิพูดขึ้นแม้เขาจะรู้อยู่แล้วก็เถอะแต่เพื่อความเนียนเพราะงั้นก็ต้องทำเป็นไม่รู้
“พวกเธอสามารถทำให้คุณลงไปกริ้งได้เลยงั้นหรอ? ไม่ใช่ว่าคุณอ่อนแอลงไปงั้นหรอ?”
“อย่ามาย้อนนะเฟ้ย?! ถ้ายัยพวกนี้มาแค่คนเดียวฉันก็คงไม่ต้องมามีสภาพแบบนี้หรอกน่า! นายไ่ม่ได้สู้เองจะไปรู้ได้ไงฟร่ะเจ้าบ้า?!”
“พอเลยทั้งสองคน… ถ้าหากมันเป็นแบบที่นายบอกจริงๆงานนี้พวกเราคงจะนิ่งเฉยไม่ได้แล้วเหมือนกัน”
“แถมยังมีฝีมือขนาดที่ทำให้นายลงไปกริ้งได้นี่ถือว่าระดับไม่ธรรมดาแล้วแบบนี้พวกเราคงจะประมาทไม่ได้แล้วหล่ะ”
เมย์ห้ามทั้งสองก่อนที่เธอจะร่ายยาวในสิ่งที่กำลังคิดอยู่ออกมา
หลังจากนั้นเธอก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรบอกให้ทางฐานของไฟมอลส่งคนมาช่วยทางนี้
“อ่อ ฝากเคลียร์เรื่องซากพวกนี้ด้วย---”
“?!!!”
หมับ!!!
“อ๊ะ?!”
ยังไม่ทันที่อิซึกิจะพูดจบ จู่ๆทั้งเขาและเควินก็ต่างรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างจากทางด้านหลังของเมย์
ซึ่งอิซึกินั้นอยู่ไกลเกินไปกว่าที่เขาจะไปถึง
ส่วนทางเควินที่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างแบบเดียวกันก็รีบปล่อยมืออกไปคว้าอากาศเอาไว้ทันที
เมย์ที่กำลังมึนงงกับการกระทำของเควินอยู่นั้นจู่ๆอากาศที่ว่างเปล่า
ก็ค่อยๆปรากฎร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังถือมีดเธอได้ง้างมันขึ้นราวกับกำลังจะแทงมันลงไปที่ร่างของเมย์
เมื่อเควินเห็นร่างของเธอปรากฎขึ้นแล้วเขาก็ไม่รอช้า
พุ่งตัวเข้าไปล็อกเธอเอาไว้จากทางด้านหลังทันทีด้วยความเร็วสูง
“นี่คุณคิด---”
ฟึบ!!! ฟิ้ววววววววว!!! ตูมมมมมมมมมม!!!!
ยังไม่ทันที่เควินจะพูดจบจู่ๆร่างของอิซึกิก็ได้ถูกอะไรบางอย่างกระแทกเข้าอย่างแรง
จนเขาได้ลอยผ่านหน้าเมย์และเควินไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นก็ได้กระแทกเข้ากับอาคารที่อยู่ใกล้ๆในทันที
“เวรเอ๊ย… ยัยบ้าพวกนั้นทำไมฟื้นไวจังฟร่ะ?!”
อิซึกิค่อยๆดันร่างของตัวเองขึ้นมาจากซากประหลักหักพังที่กำลังทับร่างกายของเขาอยู่
จากนั้นก็ได้มองไปยังเสาร์ต้นนั้นอีกครั้ง
ซึ่งมันก็ปรากฎว่าตอนนี้พวกเธอได้ฟื้นขึ้นมาแล้วเชือกที่อิซึกิมัดเธอเอาไว้ก็ถูกพวกเธอทำลายมันลงได้อย่างง่ายดาย
และคนที่โจมตีเขาเมื่อกี้จนลอยออกมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
แต่เป็นผู้หญิงที่ใช้พลังลมความรู้สึกของอิซึกิตอนนี้ก็ต้องบอกเลยว่าเขาโคตรหงุดหงิดเลย
เพราะเขาถูกยัยนั่นทำให้ลอยออกมาหลายรอบแล้วไม่แปลกเลยที่อิซึกิจะรู้สึกโมโหขึ้นมาจริงๆ
เขาสัญญาเอาไว้กับแฮชเชอร์แห่งดวงดาวแล้วว่า
ถ้าทำได้เขาจะลองเกลี้ยกล่อมแฮชเชอร์ตนอื่นๆดูถ้าหากพวกนั้นไม่ยอมเขาถึงจะใช้กำลัง
นั่นแหล่ะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอิซึกิถึงไม่ได้ฆ่าพวกเธอ
ก่อนหน้านี้เขาได้ลองพยายามสื่อสารกับยัยพวกนั้นแล้วว่าเขาไม่อยากจะสู้กับพวกเธอ
แต่ก็ไม่มีใครฟังเลยสักครั้งคนเอะอะก็จะซัดเขาอย่างเดียวเลย
“เออๆ?! ถ้าไม่อยากคุยนักงั้นก็ไม่ต้องคุยแล้วโว้ย?!!!!!”
‘นี่ยัยดวงดาวเธอเห็นแล้วใช่มั้ยว่ายัยพวกนั้นมันไม่คิดที่จะคุยกับฉันเลยสักนิดเพราะงั้นตามสัญญาฉันจะขอจัดการเลยก็แล้วกัน’
อิซึกิได้พูดขึ้นในใจอยู่คนเดียวและทันใดนั้นเองจู่ๆก็ได้มีเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังแทรกขึ้นภายมาในหัวของเขา
‘อืม… แล้วแต่เจ้าเถอะ…’
‘อ่า… แล้วใจแล้ว… ถ้าเธอไม่อยากจะดูหล่ะก็จะกลับเข้าไปนอนอยู่ในคอร์ของเธอก็ได้นะ’
อิซึกิพูดได้ขึ้นในใจโดยที่ข้างๆของเขามีร่างของใครบางคนลอยอยู่ซึ่งเธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
แฮชเชอร์แห่งดวงดาวคนดีคนเดิมของเรานั่นเองเพียงแต่อยู่ในสถานะของวิญญานเท่านั้น
ร่างของเธอคนปกติไม่สามารถเห็นได้ยกเว้นอิซึกิที่มีคอร์แฮชเชอร์ที่แท้จริงของเธออยู่กับตัว
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ความคิดเห็น