NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Honkai Impact X Anime] ฉันมันก็แค่คนหน้าเหมือนเท่านั้นแหล่ะ

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 15

    • อัปเดตล่าสุด 26 มิ.ย. 66


    หลายเดือนต่อมา ณ ร้านราเมงแห่งหนึ่ง

     

    “ฮืม~” 

     

    เสียงฮัมเพลงดังออกมาเบาๆจากร่างของชายหนุ่มผมสีขาวดวงตาสีฟ้า นามว่าอิซึกิที่หูของเขากำลังสวมเฮดโฟนฟังเพลงอยู่อย่างเมามัน

     

    ในตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่เขากำลังจะปิดร้านและกำลังจะกลับไปนอนพักที่บ้าน

     

    ซึ่งทางองค์กรไฟมอลซื้อให้และในขณะที่เขากำลังฟังเพลงอยู่อย่างเมามันโดยที่ไม่ได้สังเกตอะไรเลย

     

    จู่ๆทันใดนั้นเองความรู้สึกของอิซึกิก็รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างที่พุ่งเข้ามา

     

    ฟูมมมมมมมมมมม!!!!

     

    “?!” 

     

    ขณะที่อิซึกิกำลังทำความสะอาดอยู่ด้านนอกร้านอยู่นั้นจู่ๆทิวทัศน์รอบๆตัวของเขาก็เกิดสว่างวาบขึ้น

     

    ซึ่งเจ้าตัวที่รู้สึกได้ถึงอะไรแปลกๆก็รีบหันไปมองในทันที

     

    และภาพที่เขาเห็นก็คือภาพของเปลวเพลิงขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูง

     

    “ชิบ-----”

     

    ตูมมมมมมมมมมมม!!!!

     

    ร่างของอิซึกิเข้าปะทะกับเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามาอย่างจังจุดเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงดังสะนั่นขึ้นไปทั่วบริเวณ

     

    “หึ! เท่านี้ก็กำจัดตัวปัญหาไปได้อีกหนึ่งทีเหลือก็---” 

     

    หญิงสาวปริศนาซึ่งน่าจะเป็นคนที่โจมตีเขาได้พูดออกมาเบาๆด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ 

     

    ในขณะที่เธอกำลังพูดอยู่จู่ๆก็ได้มีเสียงของใครบางคนดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง 

     

    ซึ่งนํ้าเสียงที่เธอได้ยินมันเย็นมาชามากจนน่าขนลุกเลยหล่ะ

     

    “ที่เหลือก็อะไรงั้นหรอ?”

     

    “?!!!!”

     

    เมื่อหญิงสาวปริศนาได้ยินเธอก็รีบหันไปมองตามเสียงทันทีด้วยความตื่นตระหนก

     

    ในทันทีที่เธอหันกลับไปมองเท่านั้นแหล่ะ ยังไม่ทันที่เธอจะได้เห็นว่าเป็นใครหมัดปริศนาก็ซัดเข้าที่ใบหน้าของเธออย่างแรง

     

    ก่อนที่จะเกิดโซคนิคบูมขึ้นพร้อมๆกับร่างของเธอที่ลอยออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วสูง

     

    ฟึบ! เปรี้ยงงงงงงงงง!!! บูมมม!!! ตูมมม!!!

     

    “อั่ก?!!! นะ-นี่แกยังไม่ตายอีกงั้นหรอ?!!!” 

     

    ร่างของเธอกระแทกเข้ากับตัวอาคารที่อยู่ใกล้ๆอย่างรวดเร็ว 

     

    ก่อนที่จะพุ่งทะลุเข้าไปด้านในยังดีที่ตอนนี้มันดึกมาแล้วแถวๆนี้ก็เลยไม่มีคน

     

    เธอได้กระอั่กเลือดออกมาอย่างรุนแรงก่อนที่จะหันไปมองคนที่เป็นคนออกหมัดซัดเธอเมื่อครู่

     

    และคนที่ซัดเธอก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนแต่เป็นอิซึกินั้นเองเขาค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอในตัวอาคารด้วยใบหน้าที่น่ากลัว

     

    สายตาของเธอได้เหลือบไปมองที่ร้านราเมงที่อยู่ข้างนอก

     

    ซึ่งเธอใช้ไฟโจมตีไปเมื่อครู่นี้มันก็ปรากฎว่าเมื่อควันได้จางหายไปมีกำแพงนํ้าแข็งขนาดใหญ่ขึ้นมาป้องกันตัวร้านเอาไว้ 

     

    ใบหน้าของเธอซีดเซียวในทันทีก่อนที่จะมีนํ้าเสียงของอิซิกิดังขึ้นมา

     

    “โห้… คิดหรอว่าการโจมตีตื้นๆแบบนั้นฉันจะหลบไม่ได้หน่ะจะดูถูกกันก็ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ… แล้วก็นะ… ถ้าเมื่อกี้ฉันป้องกันไม่ทันแล้วร้านราเมงของฉันถูกทำลายไปเธอจะชดใช้ยังไง?” 

     

    สิ้นประโยคคำพูดของเขาเธอก็รับรู้ได้ในทันทีเลยว่าที่เขาโกรธอยุ่ไม่ได้โกรธที่ตัวเองถูกโจมตี

     

    แต่เขาโกรธเพราะกลัวร้านราเมงของตัวเองจะพังแถมใบหน้าของอิซึกิตอนนี้ก็เรียกได้ว่าเย็นชาโคตรๆ

     

     

    [มาสเตอร์คะ ระบบตรวจพบพลังงานฮงไคในร่างของเธอนอกจากนี้ระบบยังพบคอร์แฮชเชอร์ในร่างกายของเธอด้วยค่ะ แต่ระดับพลังฮงไคของคอร์ที่อยู่ในร่างกายของเธอน้อยมากค่ะ]

     

    “งี้นี้เองเธอคงเป็นร่างจุติของแฮชเชอร์หล่ะสิ…” 

     

    เมื่อเขาพูดจบเธอก็เบิกตากว้างขึ้นทันทีก่อนที่เธอจะปล่อยไฟออกมาโจมตีตัวของเขาอีกหนหนึ่ง

     

    แต่ครั้งนี้ก่อนที่เปลวเพลิงจะถึงร่างของอิซึกิทันใดนั้นเองร่างของเขาก็ได้หายไปจากจุดที่ยืนอยู่แล้ว

     

    ฟุบ! ฟูมมมมมมม!!!! ตูมมมม!!!!

     

    “โทษทีนะฉันยังไม่อยากให้พื้นที่รอบๆนี้มันพังไปมากกว่านี้เพราะงั้น…” 

     

    อิซึกิมาปรากฎตัวอยู่ด้านหลังของเขาได้พูดขึ้นก่อนที่จะสับฝ่ามือของตัวเองลงไปที่หลังคอของเธอเบาๆจนมันทำให้ร่างของเธอล้มหมดสติลง

     

    ฟึบ! ตุบ…

     

    ‘มาถึงช่วงของแฮชเชอร์แห่งการครอบนำแล้วสินะ… ในเวลาแบบนี้ปิดร้านไปสักพักน่าจะดีเหมือนกัน ขืนเปิดไปคงได้โดนรอบโจมตีอีกครั้งแน่ๆ…’ 

     

    อิซึกิพูดขึ้นในใจเบาๆ ก่อนที่เขาจะใช้พลังนํ้าแข็งของตัวเองแช่แข็งที่ข้อมือทั้งสองข้างของเธอให้ติดกันเพื่อกันเธอหลุดออกมา 

     

    ถ้าดูจากพลังแล้วเธอใช้พลังไฟ นํ้าแข็งแค่นี้มันไม่น่าจะส่งผลอะไรต่อร่างกายของเธอมากนักหรอกมั้ง... ในความคิดของเขาอะนะ

     

    และเหตุผลที่อิซึกิเลือกที่จะปิดร้านไปก่อนในช่วงนี้

     

    นั่นก็เพราะแฮชเชอร์แห่งการครอบนำหรือที่เรียกว่า herrscher of dominance นั้น มันจะสุ่มจุติที่ร่างของคนทั้ง 1000 คน

     

    ซึ่งอิซึกินั้นไม่สามารถรับรู้ได้ว่าจะมีใครที่จะได้รับพลังจากเจ้าแฮชเชอร์ตนนี้บ้าง 

     

    ถ้าหากเกิดมันมีคนมาจุติในร้านราเมงของเขาบอกเลยว่าขำไม่ออกแน่ๆ เพราะงั้นทางที่ดีคือปิดร้านชั่วคราวไปก่อนดีกว่า

     

    “โทรตามเมย์กับเควินดีกว่----?!!!!” 

     

    ยังไม่ทันที่อิซึกิจะพูดจบจู่ๆเขาก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างจากทางด้านหลัง

     

    เจ้าตัวรีบหันกลับไปสร้างกำแพงนํ้าแข็งขึ้นมาป้องกันเอาไว้ทันทีอย่างรวดเร็ว

     

    คลืดดดดดดด!!!! ฟิ้วววววววววว!!!!

     

    “ลมงั้นหรอ?” 

     

    กระแสลมได้พุ่งปะทะกับกำแพงนํ้าแข็งของอิซึกิก่อนที่สักพักมันจะหยุดลงเมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็ได้ชะโงกหน้าออกไปดูทันที 

     

    ก็ปรากฎว่าด้านนอกมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังลอยอยู่บนฟ้ารอบๆตัวของเธอมีกระแสลมปกคลุมอยู่ทั่วทั้งตัวอิซึกิที่เห็นใบหน้าของเขาก็ปรากฎเม็ดเหงื่อขึ้นมาเล็กน้อย

     

    “เอาจนได้สินะ… คิดเอาไว้แล้วหล่ะ ว่าการปรากฎตัวของฉันมันต้องเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างไปแน่ๆ ถึงว่าหล่ะทำไมช่วงนี้มันถึงดูสงบลงแปลกๆ… ดูทรงแล้วคืนนี้คงไม่ได้กลับบ้านแล้วหล่ะ”

     

    อิซึกิพูดออกมาเบาๆดูเหมือนการปรากฎตัวของเขามันจะเปลี่ยนให้เจ้าพวกแฮชเชอร์ยิ่งพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

     

    ดูได้จากพลังลมเมื่อครู่นี้ถ้าหากเป็นพลังของมันในต้นฉบับไม่ก็ไม่น่าจะสร้างรอยร้าวให้กับกำแพงนํ้าแข็งของเขาได้เลยแท้ๆ

     

    เนื่องจากปริมาณของพลังฮงไคในคอร์แฮชเชอร์ที่เป็นร่างจุติของแฮชเชอร์แห่งการครอบนำนั้นตํ่ามาก

     

    และเหตุผลที่มันตํ่าก็เพราะมันต้องแบ่งพลังของตัวเองออกไปให้ทั้ง 1000 คน

     

    ซึ่งถ้าหากนำพลังงานฮงไคของคอร์ทั้งหมด 1000 คนมาร่วมกันมันถึงจะได้ปริมาณพลังงานของมันจริงๆ

     

    “เลวร้ายชะมัดเลยดูเหมือนว่าคงฉันจะต้องเตรียมรับมือกับเรื่องนี้เอาไว้บ้างแล้วหล่ะ”

     

    อิซึกิได้ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่สีหน้าของเขามันจะเปลี่ยนเป็นจริงจัง

     

    หลังจากนั้นอิซึกิก็ไม่รอช้าเมื่อเขาเห็นว่าเธอหยุดโจมตี เจ้าตัวก็พุ่งออกไปจากที่บังเกอร์ของตัวเองทันทีด้วยความเร็วสูงเพื่อโจมตีเธอในขณะที่เธอกำลังเผลออยู่

     

    “เรื่องต่อยผู้หญิงทีเผลอนี่ของถนัดเลยหล่ะจะบอกให้?! ฮ่าาาาา!!!!” อิซึกิยกยิ้มขึ้นก่อนที่เขาจะซัดเข้าที่ร่างของเธออย่างจังแบบไร้ปราณี

     

    เปรี้ยงงงงง!!! ตูมมมมมมมม!!!!!

     

    [คือว่าเรื่องนั้นมันใช่เรื่องน่าอวดด้วยงั้นหรอคะ?]

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×