คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 13
“งั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกัน”
เมื่อเขาพูดจบอิซึกิก็ปลดโซ่ของจูดาห์ออกให้เธอทันทีซึ่งมันฟังดูเป็นการกระทำที่โง่มากที่ไปปลดให้แฮชเชอร์แบบนี้
ซึ่งถ้าเป็นเขาในร่างธรรมดาหล่ะก็ใช่แต่ไม่ใช่กับอิซึกิในร่างนี้เนื่องจากเขาสามารถยับยั่งพลังงานฮงไคของอีกฝ่ายได้
เวลาที่แฮชเชอร์ที่มีพลังงานฮงไคน้อยกว่าเขาหรือแข็งแกร่งน้อยกว่า
เมื่ออยู่ในมิติแห่งนี้เจ้าตัวจะสามารถที่ยับยั่งพลังงานฮงไคของอีกฝ่ายได้
เพราะงั้นถ้าเป็นคนที่อ่อนแอกว่าเขาจะไม่สามารถใช้พลังงานฮงไคได้
ฉะนั้นมีวิธีเดียวที่เธอจะใช้ในการต่อสู้กับเขาได้ก็คือใช้มือเปล่าเท่านั้น
แล้วก็อาวุธธรรมดาที่ไม่มีพลังงานฮงไคซึ่งแฮชเชอร์ส่วนใหญ่ไม่ใช่ปะทะที่จะเข้าปะทะตรงๆอยู่แล้วงั้นก็ตัดเรื่องใช้อาวุธธรรมดาสู้ออกไปได้เลย
“ทะ-ทำไมข้าถึงใช้พลังงานฮงไคไม่ได้?!”
“เอาหล่ะ ช่างเรื่องพลังของเจ้าไปก่อนยังไงเจ้าก็สู้ข้าไม่ได้อยู่แล้ว เพราะงั้นเลิกซ่าแล้วฟังที่ข้ากำลังจะพูดซะ”
“กรอด!”
เธอที่ได้ยินก็ทำได้แต่ขบฟันของตัวเองเท่านั้นในตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฟังเรื่องที่เขาจะพูดเท่านั้น
“งั้นก็เริ่มจาก….”
ตัดกลับมาที่ด้านนอก
หลังจากที่อิซึกิขังตัวเองกับแฮชเชอร์แห่งดวงดาวเอาไว้ในมิติมายาที่เขาสร้างขึ้นมันก็ผ่านมาได้ราวๆ 2 ชม.แล้วในที่สุดเควินก็มาถึงทวีปมูในที่สุด
“เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะเมย์?”
[ฉันบอกว่าตอนนี้พลังงานฮงไคจำนวนมากตอนนี้มันหายไปแล้วนั่นก็หมายความว่าอิซึกิจัดการกับแฮชเชอร์ไปแล้วยังไงหล่ะ]
“เรื่องนั่นฉันเข้าใจแล้ว แต่ที่ฉันหมายถึงคือเมื่อกี้เธอบอกว่าอยู่ดีๆสัญญานอิซึกิก็หายไปอย่างงั้นหรอ?”
[ใช่… ฉันบอกโมเบียสว่าให้เอาตัวส่งสัญญานไปให้กับอิซึกิด้วยก่อนที่เขาจะไปขึ้นเครื่อง ซึ่งมันก็ยังทำงานดีอยู่จนกระทั่งเมื่อ 2 ชม.ก่อนอยู่ดีๆสัญญานของเขากับแฮชเชอร์ก็ได้หายไป]
“2 ชม.ก่อน? แล้วทำไมเธอพึ่งมาบอฉันเอาตอนนี้หล่ะ?”
[ฉันติดต่อนายไปตั้งหลายครั้งแล้วต่างหากทำไมนายไม่ยอมกดรับหล่ะห๊ะเควิน?!]
“อ่อ…”
เควินที่ได้ยินเหงื่อตกเลยเขาไม่กล้าบอกเมย์ว่าตอนที่อยู่บนเครื่องแบตหูฟังมันหมด
เพราะเจ้าตัวเอาไปฟังเพลงในตอนที่เครื่องกำลังจะขึ้นแถมก็ไม่ได้เอาตัวชาร์ตมาอีก
ตอนนี้เขาก็เลยต้องมายืมใช้ที่ฐาน Fire Moth ที่ทวีปมูแทนจะขอยืมนักบินก็ไม่มีอีก
[นายไม่ได้เอาสายชาร์ตไปด้วยใช่มั้ย?]
“ทะ-ทำไมเธอถึง?!”
[ตอบมาซะนายไม่ได้เอาไปใช่มั้ยเควิน?]
“คะ-ครับ ละ-แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ได้เอามา?”
[ในตอนที่ฉันติดต่อนายไปตั้งหลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ
ฉันก็เลยคิดว่าบางทีนายน่าจะลืมเอาสายชาร์ตไปด้วยรึเปล่าก็เลยลองเข้าไปหาที่ห้องของนายแล้วก็เจอจริงๆ]
“ที่จริงมันอาจจะพังก็ได้นะ”
[เควิน… มันไม่มีทางที่หูฟังของฉันมันจะมาพังทีเดียวทั้งสองข้างหรอกนะถ้านายไม่ทำลายมันเองหน่ะ… ที่นี้เข้าใจรึยังว่าฉันรู้ได้ยังไง?]
“อะ-อืม”
ทั้งทีเจ้าตัวก็มียีนของพาวาติที่ทำให้อุณหภูมิร่างกายเย็นลงแท้ๆแต่ทำไมหลังของเขามันถึงได้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแบบนี้กันก็ไม่รู้
[ฉันจะส่งพื้นที่ๆอิซึกิอยู่ล่าสุดไปให้นายงั้นนายก็ลองไปตรวจสอบดูก็แล้วกันว่าสัญญานมันหายไปไหน
แล้วก็ห้ามปฎิเสธด้วยนายลืมสายชาร์ตเอาไว้นี่ถือเป็นการลงโทษเข้าใจมั้ย?]
“ทราบแล้วครับ”
นํ้าเสียงของเควินในตอนนี้อ่อนลงเป็นอย่างมากหมดสภาพอนาคตของชายผู้ที่กำลังจะเป็นปราการด่านสุดท้ายของมนุษยชาติเป็นอย่างมาก
“งั้นจะวางหล่ะนะ”
[อืม แล้วอย่าให้แบตหมดอีกหล่ะถ้านายทำผลงานออกมาได้ดีฉันจะให้นายทานอาหารฝีมือฉันเป็นการตอบแทน]
“ฉันเกรงใจจังเลย”
[ไม่ต้องเกรงใจเดี๋ยวฉันทำให้ทั้งสามมื้อเลย]
“เอ่อ… อะ-เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันออกไปตามหาอิซึกิก่อนแล้วกันนะแค่นี้แหล่ะไว้เจอกันนะ!”
[เดี๋ยวสิเควิ----]
ยังไม่ทันทีเมย์จะพูดจบเควินก็ตัดสายเธอทันทีพอได้ยินว่าเมย์จะทำอาหารใบหน้าของเควินก็ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
“ฟูววว… ยีนฮงไคมีความสามารถในการต้านพิษมั้ยเนี้ย?”
จากนั้นเควินก็ได้นั่งรอแบตหูฟังชาร์ตเสร็จก็ได้ออกตามหาตัวของอิซึกิในทันที
ซึ่งตามหาจากจุดที่จับสัญญานได้ล่าสุด
แน่นอนว่าเควินไม่ได้ไปแค่คนเดียวแต่เขาไปกับทหารของ Fire moth อีกจำนวนหนึ่ง
การหายตัวไปของอิซึกิถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เป็นอย่างมาก
อย่างน้อยๆไม่เจอเขาแบบมีชีวิตแต่ก็ให้เก็บกู้ร่างของเขากลับมาก็ยังดี
ตัวของเควินและทหารอีกจำนวนหนึ่งพวกเขาได้ใช้วิธีการโดยสารด้วยรถหุ้มเกราะ
แม้บอกว่าแฮชเชอร์หายไปแล้วแต่ยังไงก็กันเอาไว้ก่อนก็ยังดี
“หืม?”
ทหารนายหนึ่งที่เป็นคนขับรถร้องออกมาด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
“มีอะไรงั้นหรอ?”
เควินที่นั่งอยู่ทางด้านหลังถามออกมาด้วยความแปลกใจเล็กน้อยที่ได้ยินเสียงของคนขับรถก่อนที่ทหารนายนั่นจะพูดขึ้น
“อ่อ เปล่าครับอยู่ดีๆทำไมถึงได้มีหมอกลงในเวลาแบบนี้ก็ไม่รู้หน่ะครับ”
“หมอกงั้น---”
ติ๊ง!
ยังไม่ทันที่เควินจะพูดจบสัญญานของอิซึกิที่หายไปก่อนหน้านี้มันก็ได้กลับมา
เมื่อเจ้าตัวเห็นแบบนั่นก็รีบหันไปบอกให้คนขับรถหยุดรถทันที
“นี่นายหยุดรถก่อนสิ”
เอี๊ยด!
“มะ-มีอะไรงั้นหรอครับ?”
“เดี๋ยวฉันอยากจะไปตรวจสอบอะไรนิดๆหน่อยๆพวกนายรออยู่บนนี่แหล่ะเดี๋ยวฉันมา”
พูดจบเควินก็ลงไปจากรถทันทีท่ามกลางสายตามึนงงของทุกคนทางเควินเดินเข้าไปภายในหมอกไปเรื่อยๆ
ตามสัญญานที่ปรากฎบนหน้าจอก่อนที่เควินนั้นจะเจอเข้ากับอิซึกิที่นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ที่พื้นดิน
“นี่คุณมานั่งทำอะไรตรงนี้?”
“อ่าว? เควินเองหรอกหรอ? ”
อิซึกิพูดออกมาราวกับคนหมดแรงก่อนที่จะโยนบางอย่างให้กับเควินนั่นก็คือ
“มาก็ดีงั้นนายเอานี่ไปสิ”
“นี่มันคอร์แฮชเชอร์?” ใช่แล้วมันคือคอร์แฮชเชอร์นั่นเอง
และถ้าจะถามว่าทำไมอิซึกิถึงได้มีสภาพหมดอาลัยตายอยากแบบนี้ก็ต้องย้อนไปตอนที่เขาอยู่ในมิติมายา
อิซึกิได้พูดเกลี้ยกล่อมแฮชเชอร์ได้สำเร็จแม้ช่วงแรกๆเธอจะยังไม่เชื่อใจเขาอยู่บ้างมันก็ใช้เวลานานไม่น้อยกว่าที่เธอจะเชื่อใจเขา
แต่ประเด็นเลยคืออิซึกิไม่รู้วิะีการเอาคอร์แฮชเชอร์ออกมาโดยที่ทำให้เธอไม่เจ็บปวด
ซึ่งเขาก็ได้หันไปถามกับระบบซึ่งเธอก็บอกว่าจะช่วยแต่ต้องแลกเปลี่ยนกับแต้มของเขา
ซึ่งอิซึกิก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะแต้มเขามันมีแค่ 200 เองน้อยชิบหาย
วิธีการที่ระบบทำคือการทำให้แฮชเชอร์แห่งดวงดาวนั่นหมดสติก่อน
แล้วเธอก็ค่อยใช้พลังดึงคอร์ออกมาโดยไม่ทำให้เธอเจ็บปวด
ทางระบบได้ผนึกร่างและจิตแฮชเชอร์ลงไปในอัญมณี
แต่อิซึกิก็พึ่งมานึกได้ที่หลังว่าหากเขาจะคืนชีพให้เธอมาเป็นดวงจิตภูติของเขา
เจ้าตัวก็จำเป็นที่จะต้องมีคอร์แฮชเชอร์เอาไว้สกัดเป็นวงแหวนอีกทีหนึ่ง
งั้นแบบนี้เขาจะเอาอะไรเป็นหลักฐานว่าเขาจัดการแอชเชอร์ไปแล้วไปให้กับ Fire moth หล่ะ
ขืนไปบอกปากเปล่าว่าเขาจัดการไปแล้วจะไม่โดนทางนั่นสงสัยเอารึไง
ระบบก็เลยเสนอว่าเธอจะสร้างคอร์แฮชเชอร์เทียมขึ้นมาให้
ซึ่งมีพลังที่เทียบเท่ากับของจริงเพื่อความแนบเนียนแต่เขาก็ต้องแลกกับ 20000 แต้ม
แต่เขามีอยู่แค่ 200 แต้มแถมใช้ไปแล้วด้วย
จะหาจากไหนมาให้เธอระบบก็เลยติดลบแต้มของเขาเอาไว้ 20000 แต้ม
ถ้าจะให้พูดง่ายๆคือเขาต้องหาแต้ม 20000 มาคืนให้กับเธอ
ซึ่งมันก็แปลว่าเขาต้องจัดการฮงไคอย่างตํ่า 20000 ตัวเขาถึงจะได้แต้มกลับมาเป็น 0 เท่าเดิม
นี่แหล่ะเหตุผลที่ทำให้อิซึกิมีสภาพแบบนี้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ความคิดเห็น