NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Honkai Impact X Anime] ฉันมันก็แค่คนหน้าเหมือนเท่านั้นแหล่ะ

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 66


    [งั้นก็ช่างมันไปก็แล้วกันคะมาสเตอร์]

     

    ‘งั้นก็สรุปคือมันมีวิธีช่วยใช่มั้ย?’

     

    อิซึกิถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ


    ถ้ามีวิธีช่วยเขาก็อยากจะช่วยยังไงอีกตัวตนหนึ่งของเขาก็มีพลังงานฮงไคอยู่


    แถมยังมีในปริมาณที่สูงมากอีกด้วยจะบอกว่าอีกตัวตนหนึ่งของเขาคือแฮชเชอร์ก็ไม่ผิดนัก


    แต่เป็นแฮชเชอร์ที่ไม่ได้ถูกครอบนำโดยเจตจำนงของฮงไค

     

    ‘งั้นเราสามารถเริ่มตอนนี้ได้เลยมั้ย?’

     

    [ได้คะแต่มาสเตอร์ต้องเกลี้ยกล่อมให้เธอมอบพลังของตัวเองมาให้กับมาสเตอร์คะพูดง่ายๆก็คือทำยังไงก็ได้ให้เธอมอบคอร์ของตัวเองให้กับมาสเตอร์คะ]

     

    ‘อ่อ… แล้วตูจะเอาอะไรไปเกลี้ยกล่อมเธอกันเล่าปัดโถ่?!!!’

     

    อิซึกิในตอนนี้ได้เกาหัวของตัวเองจนแทบจะถลอกหมดแล้ว


    แน่นอนว่าการกระทำของเขามันย่อมอยู่ในสายตาของแฮชเชอร์สาวอยู่แล้ว

     

    “นี่เจ้าคิดจะเกาหัวแบบนั่นอยู่อีกนานมั้ยมีอะไรก็รีบพูดมาซะ!”

     

    เธอที่รำคาญกับท่าทีของชายหนุ่มก็ได้พูดออกมาอย่างหงุดหงิดตกลงแล้วเขาคิดจะให้เธออยู่ท่านี้ไปจนคนอื่นมาเห็นเลยรึไง

     

    ถ้าต้องให้เป็นแบบนั่นให้เธอยอมตายเลยซะยังดีกว่าที่จะต้องมาทนให้มนุษย์เห็นท่าทางอันน่าอับอายของตัวเอง

     

    แค่ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับชายหนุ่มเบื้องหน้าที่จะเป็นฮงไคก็ไม่ใช่จะมนุษย์ก็ไม่เชิงแบบนี้มันก็น่าอับอายพออยู่แล้ว

     

    นอกจากจะแพ้แล้วยังไม่พอดันถูกอีกฝ่ายจับมัดด้วยท่าทางแบบนี้อีกถ้ากัดลิ้นตัวเองแล้วตายได้เธอก็คงทำไปแล้ว

     

    “อืม งั้นฉันถามตรงๆเลยก็แล้วกันนะไหนๆเธอก็บอกให้พูดแล้ว”

     

    “มีอะไร?”

     

    เธอพูดออกมาด้วยท่าทางที่ไม่ชอบใจเล็กน้อยเมื่ออิซึกิได้ยินเขาก็ได้ถามบางอย่างที่ทำเอาเธอถึงกับขมวดคิ้วเลยทีเดียว

     

    “เธอหน่ะยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่รึเปล่า?”

     

    “ถ้าตอบว่าใช่แล้วเจ้าจะปล่อยข้าไปรึไง?”

     

    “ฉันปล่อยเธอได้ที่ไหนกันหล่ะเฟ้ย ขืนฉันปล่อยออกไปแล้วเธอดันเปิดหลุมดำขึ้นมาเป็นการตอบแทนแบบนี้ฉันก็แย่หน่ะสิเฟ้ย”

     

    “แล้วเจ้าจะถามข้าหาพระแสงอะไรห๊ะ?!”

     

    “ให้ตายสิเกรี้ยวกราดชะมัดเธอเนี้ย ทั้งๆที่หน้าตาก็ออกจะน่ารักแท้ๆแต่นิสัยดันไม่น่ารักเลยนี่สิ”

     

    “หึ! ไม่มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะต้องใจดีโดยเฉพาะมนุษย์อย่างพวกเจ้า”

     

    “โห้ว… งั้นขอแค่ไม่ใช่มนุษย์ก็พอสินะแต่ถ้าเป็นแฮชเชอร์ด้วยกันเธอจะยอมคุยด้วยดีๆมั้ยหล่ะ?”

     

    อิซึกิถามขึ้นซึ่งเธอก็ไม่ได้ตอบอะไรเพราะยังไงที่นี้ก็ไม่มีแฮชเชอร์ตนอื่นๆนอกจากตัวเธออยู่แล้ว

     

    “ในเมื่อเธอไม่ตอบอะไรฉันจะถือว่าใช่ก็แล้วกัน… งั้นฉันจะไม่คุยกับเธอในสถานะของมนุษย์แล้วแต่… ข้าจะคุยกับเจ้าในสถานะของแฮชเชอร์”

     

    พูดจบลักษณะของอิซึกิก็ได้เปลี่ยนไปทันทีพลังงานฮงไคจำนวนมากได้แผ่ออกจากร่างกายของเขาชนิดที่ว่าแฮชเชอร์ด้วยกันยังตกใจเลยทีเดียว

     

    nurarihyon no mago gifs | Explore Tumblr Posts and Blogs | Tumpik

     

    “นะ-นี่เจ้า?!”

     

    “หึๆ ไม่ต้องรีบขนาดนั่นก็ได้ยังไงซะก็ไม่ใครสัมผัสถึงพลังงานฮงไคจากข้าได้อยู่แล้วหากข้ามิต้องการ…”

     

    อิซึกิพูดออกมาพร้อมกับยิ้มมุมปากเล็กน้อย นี่เป็น 1 ในพลังของเขาในร่างนี้คือการสร้างมิติแบบพิเศษขึ้นมาที่เขาเรียกมันว่ามิติมายา

     

    ในมิติแห่งนี้เวลาที่อยู่ที่นี่เขาจะไร้ตัวตนและไม่มีใครสัมผัสถึงเขาได้หากไม่ต้องการ

     

    แม้แต่พลังงานฮงไคเขาก็สามารถปกปิดได้เช่นกัน


    ตัวตนภายนอกไม่สามารถมองเห็นพวกเขาได้แต่พวกเขาสามารถเห็นตัวตนภายนอกได้

     

    “ทั้งๆที่เจ้าก็เป็นแฮชเชอร์แบบเดียวกับพวกข้าแท้ๆแต่กลับคิดจะทรยศเผ่าพันธุ์ของตัวเองแล้วไปเข้าพวกกับพวกมนุษย์อย่างงั้นหรอ?!”

     

    “….”

     

    ถ้าเป็นอิซึกิในร่างปกติที่ไม่ได้อยู่ในร่างนี้เขาก็คงเกาหัวของตัวเองหลายครั้งแล้วการที่เขาเปิดเผยร่างนี้ออกมา


    เพื่อที่เขาจะคุยกับเธอได้แบบไม่ต้องกังวลเพราะเห็นว่าเป็นแฮชเชอร์เหมือนกัน


    ไหงตอนนี้เขาถึงโดนเธอด่าอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้หล่ะเนี้ย

     

    “ช่างเรื่องนั่นก่อนเถอะ แล้วที่ข้า---”

     

    “ไอ้เจ้าคนทรยศเผ่าพันธุ์ของตัวเอง!”

     

    “นี่ๆให้ข้า---”

     

    “เจตจำนงแห่งฮงไคจะลงโทษเจ้า!”

     

    “ฟังที่พูด---”

     

    “ไปตายซะ!”

     

    โป๊ก!!!!

     

    “โอ๊ย?! นี่เจ้าทำอะไรของเจ้ากันหน่ะห๊ะ?!!!”

     

    เธอได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด


    เนื่องจากอิซึกินั่นขี้เกียจฟังเธอบ่นเขาก็เลยทำการเอาปลอกดาบเนเนะคิริมารุฟาดกระบาลเธอไปหนึ่งที

     

    “เอาหล่ะที่นี่เจ้าก็เงียบได้สักทีงั้นมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าหากเจ้ายังพูดแทรกข้าแบบเมื่อกี้อีกข้าจะใช้ปลอกดาบฟาดหัวของเจ้าอีกสักรอบ”

     

    อิซึกิพูดพร้อมกับเอาปลอกดาบพาดไหล่ของตัวเองเป็นสัญญานว่าซ่านักก็ลองดู

     

    “ชิ! มีเรื่องอะไรรีบพูดออกมาซะ?!”

     

    “เห้อ… ข้าอุส่าเปิดเผยพลังของข้าก็เพื่อที่จะให้เจ้าเชื่อใจว่าข้าไม่มีเจตนาที่จะฆ่าเจ้า”

     

    “นี่เจ้าคิดจะให้ข้าเชื่อใจไอ้คนที่เอากางเขนที่ไหนไม่รู้มาโยนใส่หน้าข้าแล้วเอาโซ่มารัดข้าด้วยท่าทางน่าอับอายแบบนี้เนี้ยนะ?”

     

    เธอได้พูดประชดประชันออกมาปากบอกอยากให้เธอเชื่อใจเขา


    แต่ดูสิ่งที่ตัวของเขาทำกับเธอสิมันน่าเชื่อใจมั้ยหล่ะ?

     

    “…….”

     

    ‘เออว่ะ’

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    เช็คว่ายังมีคนอ่านอยู่มั้ยงับประโยคพูดของอิซึกิมันจะเป็นแบบศัพท์ปัจจุบันผสมเข้ากับศัพท์พูดแบบโบราณนะงับ

    เนื่องจากเจ้าตัวสามารถควบคุมร่างภูติของตัวเองได้ทำให้ไม่ได้ถูกควบคุมแบบริคุโอะเวลาที่พูดออกมามันก็เลยจะติดศัพท์พูดแบบปัจจุบันไปด้วยไม่ใช่ศัพท์โบราณทั้งหมด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×