คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 10
หลายสัปดาห์ต่อมา
ณ สนามบินของฐาน Fire Moth
“เห้อ…”
“คุณจะถอนหายใจทุกครั้งที่เจอหน้าผมเลยรึไง?”
เควินที่เห็นอิซึกิถอนหายใจออกมาก็ได้ถามด้วยความแปลกใจ
เพราะทุกๆครั้งที่พวกเขาทั้งสองเจอหน้ากันเขาก็มักจะถอนหายใจออกมาแบบนี้อยู่ตลอดทุกครั้งเลยก็ว่าได้
“จะว่างั้นก็ได้… การที่ชั้นต้องมาเจอหน้านายแบบนี้ตลอดแสดงว่าแม่มต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ”
อิซึกิตอบกลับแบบตามตรงชนิดที่ว่าไม่ปิดบังเลยสักนิด
“งั้นก็แสดงว่าคุณยังไม่รู้สินะว่าตอนนี้เรากำลังจะไปไหน?”
“ถ้ารู้แล้วชั้นจะพูดทำไมหล่ะ… พวกนายนี่มันก็จริงๆเลย คนก็อุส่าจะเปิดร้านสักหน่อยพอมาถึงหน้าร้านก็เจอเข้ากับชายชุดดำที่คุ้นเคยซะได้…”
อิซึกิพูดออกมาก่อนที่จะถอนหายใจอีกครั้ง
“แล้วชายชุดดำพวกนั้นทำอะไรต่อ?”
“พวกนั้นมันจ้างชั้นปิดร้านพอวางกระเป๋าเสร็จก็เดินออกไปเฉยเลย แถมยังบอกว่าให้ชั้นเตรียมตัวเอาไว้แล้วไปที่สนามบินรบของ Fire Moth เขาว่ามางี้แหล่ะ…”
“งั้นก็แสดงว่าคุณมาโดยที่ไม่รู้รายละเอียดเลยงั้นหรอ?”
“นี่ก็ถามยํ้าจัง… ก็ใช่หน่ะสิตอนแรกก็กะจะไม่มาหรอกแต่เห็นเงินแล้วมันก็นะ…”
อิซึกิเขาได้นึกไปถึงตอนที่เขาเปิดกระเป๋าเงินขึ้นมาในครั้งแรกก็ตาเป็นประกายเลยทีเดียว
[มาสเตอร์นี่ไม่มีศักดิ์ศรีเลยนะคะเจอเงินก็กลับลำซะละ]
‘ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้นี่… อย่างน้อยๆเงินมันก็ทำให้ชั้นอิ่มท้องนะเออ… เพราะงั้นศักดิ์ศรีหน่ะช่างหัวมันสิชั้นไม่แคร์’
อิซึกิกล่าวออกมาอย่างไม่แยแสซึ่งมันก็ถึงกับทำให้ระบบต้องถอนหายใจออกมาเลยทีเดียว
[เห้อ… ระบบไม่รู้จะพูดอะไรกับมาสเตอร์เลยแล้วแต่มาสเตอร์คะ]
‘อะไรเนี้ยงอนไปแล้วเรอะ? นี่ๆอย่างอนสิก็ใช่ว่าชั้นจะกลับลำทุกครั้งไม่ใช่รึไง’
อิซึกิพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เห็นว่าระบบนั้นเงียบไปแล้ว
[แต่ระบบก็เห็นว่ามาสเตอร์กลับลำตลอดนะคะแล้วระบบก็ไม่ได้งอนด้วย]
‘จ้าๆ’
“แล้วตกลงเรากำลังจะไปที่ไหนหล่ะเนี้ย?” อิซึกิได้หันไปถามกับเควิน
“เรากำลังจะเดินทางไปทวีปมู… ที่นั่นมีรายงานมาว่าตอนนี้กำลังมีพลังงานฮงไคเพิ่มสูงขึ้นคาดว่าอีกไม่นานอาจจจะ---”
ยังไม่ทันทีเควินจะพูดจบอิซึกิก็แทรกขึ้นมาทันทีเขารู้ได้ตั้งแต่ที่เควินบอกว่าจะไปที่ทวีปมูแล้ว
แม้จะผ่านมานานแต่เขาก็ยังพอจำรายละเอียดที่เขียนเอาไว้ในเนื้อเรื่องได้อยู่นิดหน่อย
“อาจจะเกิดการปะทุของพลังงานฮงไคขึ้นจนให้กำเนิดแฮชเชอร์ว่างั้น?”
ถ้าเขาจำไม่ผิดแฮชเชอร์ที่มันกำลังจะกำเนิดขึ้นในตอนนี้นั้นก็คือ…
Herrscher of Star เธอมีนั้นความสามารถในการควบคุมแรงโน้มถ่วงที่รุนแรง
และสามารถเปิดหลุมดำได้แค่เปิดหลุมดำเขาก็ไม่อยากจะสู้กับมันละโกงเกิ๊น!
‘กลับทันมั้ยเนี้ย?’
“ตอนนี้กลับไม่ทันแล้วหล่ะคุณรับเงินจากเราไปแล้วเพราะงั้นคุณกับผมต้องโค่นแฮชเชอร์ลงให้ได้”
เควินที่เหมือนจะรู้ว่าทางอิซึกิกำลังคิดอะไรก็เลยได้พูดดักเอาไว้ก่อน
“นี่นายอ่านใจชั้นได้รึยังไงฟร่ะรู้ดีจริงๆ… แล้วอีกอย่างชั้นยังไม่ได้ใช้ตังเลยนะเออ เพราะงั้นไม่นับสิเฟ้ย! แล้วทำไมเครื่องบินมันถึงได้มาช้าจังฟร่ะ”
อิซึกิบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะเขายืนอยู่ตรงนี้กับเควินมาเป็นชั่วโมงแล้ว
เห็นหน้าอีกฝ่ายจนเบื่อแล้วยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเครื่องบินที่กำลังจะมารับพวกเขาเลย
“เดี๋ยวก็คงจะมาแล้วหล่ะ แต่ว่าผมอยากให้คุณทำใจเอาไว้สักหน่อย”
“ทำใจ? ทำใจเรื่องอะไรหล่ะ?” อิซึกิถามออกมาด้วยความแปลกใจ
“คุณรู้ใช่มั้ยว่าตอยนี้พวกเราอยู่ในสถานะของครึ่งมนุษย์ครึ่งฮงไคหน่ะ?”
“มาถามอะไรเอาตอนนี้เนี้ย? ก็ต้องรู้หน่ะสิถ้าไม่ใช่ฮงไคจะให้เป็นแย้รึไง การผสานยีนฮงไคทำให้เราสามารถใช้พลังแบบเดียวกับฮงไคได้ ก็คงต้องเรียกว่าครึ่งมนุษย์ครึ่งฮงไคแบบที่นายบอกนั่นแหล่ะ”
“ก็ตามที่คุณพูดเลยการที่เราสามารถใช้พลังของฮงไคได้มันเลยทำให้มีคนบ้างกลุ่มที่ไม่ยอมรับ และมองว่าพวกเราเป็นสัตว์ประหลาดแบบเดียวกับพวกฮงไคยังไงหล่ะ”
เควินได้อธิบายออกมาเพิ่มเติม
“อ่องี้เอง ถึงว่าตอนที่มาที่นี่ทำไมถึงมีบางคนมองชั้นแปลกๆ”
“ก็ตามนั้นแหล่ะถ้าคุณเห็นสายตาประเภท เหยียดหยาม ดูถูก เกลียดชัง หรือแม้แต่ หวาดกลัว ผมก็อยากจะใช้คุณช่วยมองข้ามมันไปหน่อย”
“ชั้นก็ไม่ได้คิดมากหรอก มันก็เข้าใจได้ธรรมชาติของมนุษย์หน่ะมักจะหวาดกลัวกับในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ บางคนก็คงคิดว่าพวกเราอาจจะถูกเจตจำนงของฮงไคครอบนำตอนไหนก็ไม่รู้จะหวาดกลัวก็ไม่แปลกหรอก”
“งั้นหรอได้ยินแบบนั้นผมก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย”
“แต่ว่านะ… ถึงชั้นจะบอกว่าไม่สนใจก็จริงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่โกรธนะเฟ้ยถ้ามองตรงๆชั้นก็ถีบนะเออ”
หลังจากนั้นไม่นานเครื่องบินรบก็มาถึงในที่สุดถึงแม้เขาจะบอกว่าไม่นานก็จริง
แต่เครื่องบินมันมาหลังจากที่พวกเขาคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงถือว่านานอยู่ดี
ยังถือว่าได้ที่คนขับเครื่องบินที่ลงมาไม่ได้มองเขาด้วยสายตาเหยียดหยาม
หรือว่าหวาดกลัวเลยแต่มองพวกเขาทั้งสองด้วยสายตาเคารพแทน
ต้องเรียกว่าอีกฝ่ายมองพวกเขาในฐานะของผู้ที่จะนำพาชัยชนะมาสู่มนุษยชาติ
ไม่ได้มองพวกเขาในฐานะของสัตว์ประหลาดแต่อย่างใด
“ต้องขออภัยที่มาช้าครับ!”
นักบินคนนั้นได้กล่าวขอโทษกับพวกเขาทั้งสองเนื่องจากเคื่องบินเกิดปัญหาขึ้นก็เลยทำให้มาช้า
“ช่างเถอะพวกผมไม่คิดมากหรอกงั้นก็เริ่มออกเดินทางกันเลย”
เควินพูดขึ้นก่อนที่พวกเขาจะพากันเดินขึ้นไปบนเครื่องบินรบโดยที่อิซึกิกับเควินจะนั่งกันคนละฝั่ง
“นี่เควินนายเอาชามาสมารึเปล่า?”
“ผมต้องเอามาอยู่แล้วสิ…. นี่ไง…”
พูดจบเควินก็ยกกระเป๋าใบหนึ่งขึ้นมาให้เขาดูอิซึกิที่เห็นก็พยักหน้า
หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออิซึกิที่คิดว่าการเดินทางมันน่าจะต้องใช้เวลานานเขาก็เลยเผลอหลับไปก่อน
และในระหว่างที่อิซึกิกำลังหลับอยู่นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ระบบก็ได้เเจ้งเตือนขึ้นมาภายในหัวของเขาในระหว่างที่กำลังหลับ
[มาสเตอร์คะ…]
‘มีอะไรงั้นหรอ?’
อิซึกิค่อนข้างแปลกใจที่อยู่ดีๆระบบก็ทักก่อนแบบนี้
แถมนํ้าเสียงที่ออกมายังจริงจังอีกด้วยแม้สายตาของเขาจะไม่ได้ลืมขึ้น
แต่หัวของเขาก็ยังทำงานอยู่เพียงแค่เขาพักสายตาเท่านั้น
[ระบบตรวจพบกลุ่มก้อนพลังงานฮงไคที่มีระดับที่สูงมากขึ้นเหนือทวีปมูคะ]
‘เธอจะบอกว่าตอนนี้แฮชเชอร์แห่งดวงดาวได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้วงั้นหรอ’
พูดจบเขาก็ลืมตาขึ้นมาทันทีด้วยใบหน้าที่จริงจังซึ่งเควินไม่เคยเห็นมาก่อนเขาก็เลยได้ถามออกไปด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
“มีอะไรรึเปล่า? ทำไมคุณถึงทำหน้าจริงจังแบบนั้นหล่ะ?”
“…..”
อิซึกิที่ได้ยินเขาก็ไม่ได้ตอบอะไรเควินกลับไปได้แต่เขานั่งเงียบอยู่แบบนั้นซึ่งภายในใจของเขายังคงคุยกับระบบอยู่
‘แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้หล่ะอย่าบอกนะว่ามันจะเป็นไปตามเนื้อเรื่องหน่ะ?’
[ใช่คะถ้าปล่อยนางเอาไว้มันจะเป็นแบบเดียวกับเนื้อเรื่องคะนางจะเปิดหลุมดำและกลืนกินทวีปมูทั้งหมดคะแถมยังสามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงที่สามารถจมได้ทั้งทวีปด้วยคะ]
[เพราะงั้นมาสเตอร์ตัดภาพของแฮชเชอร์ต๊อกต๋อกที่เคยบุกเซ็นต์เฟรย่าทิ้งไปได้เลยคะพลังห่างกันเยอะ]
‘แล้วเธอจะให้ชั้นจัดการนางยังไงหล่ะ ที่ชั้นกลัวไม่ใช่เพราะพลังแรงโน้มถ่วงหรอก แต่เป็นหลุมดำต่างหาก แรงดึงดูดที่แรงขนาดแสงยังไม่สามารถหนีออกมาได้ แล้วชั้นจะไปเหลือห่าอะไรหล่ะ ความเร็วสูงสุดที่เร่งได้ของชั้นยังแค่ระดับเดียวกับแสงเองนะดูยังไงก็ไม่น่ารอดชัวร์’
[มันยังมีวิธีออกจากหลุมดำอยู่นะคะ]
‘วิธีทีที่เธอว่าคือเร่งความเร็วให้เหนือกว่าแสงว่างั้น? พูดเหมือนชั้นทำได้อะ’
[งั้นมาสเตอร์ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปให้หลุมดำมันดูดก็ได้หนิคะ]
[ให้มาสเตอร์บินด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้ให้อยู่ในระดับชั้นบรรยากาศของโลกแล้วระบบจะตรวจหาตำแหน่งของนางให้คะ]
[มาสเตอร์สามารถหายใจนอกอวกาศได้คะเพราะงั้นไม่ต้องกลัวตายหรอกเราแค่จัดการนางให้ได้ก่อนที่นางจะรู้ตัวก็มันจบแล้วคะ]
“เห้อ….” เขาที่ได้ฟังระบบพูดออกมาก็ได้ถอนหายใจอีกครั้งทันที
“???”
“ดูเหมือนว่าชั้นคงต้องรีบไปให้ถึงทวีปมูก่อนกำหนดแล้วหล่ะนะ”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจทันที
“คุณเหมายความว่ายังไง?”
“ก็ตามที่พูดนั่นแหล่ะ… ตอนนี้แฮชเชอร์ได้ถือกำเนิดแล้ว… นี่คุณคนขับเครื่องบินช่วยเปิดท้ายเครื่องให้หน่อยสิ”
“เอ๊ะ? ไม่ทราบว่าคุณจะทำอะไรงั้นหรอครับอีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็จะถึงทวีปมูแล้วนะครับ?”
“เอาเถอะน่า”
คนขับเครื่องบินรบที่ได้ยินเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามที่อีกฝ่ายบอกเท่านั้น
และในทันทีที่ท้ายเครื่องได้ถูกเปิดแล้วเควินก็ถามขึ้นมาทันที
“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้แฮชเชอร์ได้เกิดขึ้นมาแล้ว?”
“เรื่องนั่นเอาไว้ก่อนถ้าช้ากว่านี้คงได้หายไปทั้งทวีปแน่ๆ สักพักนายก็คงจะได้รับการติดต่อมาจากดร.เมย์แล้วหล่ะ”
สิ้นเสียงพูดของเขาที่หูฟังของเควินก็ได้รับการติดต่อมาจากดร.เมย์พอดี
อิซึกิที่เห็นเขาก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความแล้วจากนั้นเขาก็กระโดดลงจากท้ายเครื่องทันที
“นี่คุณ?!”
เควินที่เห็นก็เบิกตากว้างทันทีและในระหว่างที่กำลังตกใจกับการกระทำของเขาอยู่นั่นเอง
ทันใดนั้นก็ได้มีบางอย่างพุ่งขึ้นฟ้าไปด้วยความเเร็วสูงชนิดที่ว่าสายตามองไม่ทันทีเลย
ฟิ้วววววววววว!!!!!
“เมื่อกี้มัน… อะไรหน่ะ?”
เควินที่พอจะมองเห็นบางอย่างที่พุ่งขึ้นไปบนฟ้าแบบรางๆก็ได้พูดออกมาอย่างอึ้งๆเล็กน้อย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
การต่อสู้กัแฮชเชอร์แห่งดวงดาวมันจะเป็นอะไรที่จบไวมากๆเลยงับ
เนื่องจากนางเป็นหนึ่งในเเฮชเชอร์ที่อันตรายมากๆตนหนึ่งถ้าเก๊กมากๆเดี๋ยวตายก่อน
แฮชเชอร์แห่งดวงดาวถือเป็นแฮชเชอร์เพียงไม่กี่ตนที่อิซึกิรู้สักหวั่นๆเมื่อต้องต่อสู้ตรงๆ
มีใครรู้ข้อมูลของแฮชเชอร์ที่ 13 มั้ยครับถ้าไม่มีไรท์ก็คงต้องข้ามแล้ว
ความคิดเห็น