คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9
ในเวลาต่อมา
“เห้อ…” อิซึกถอนหายใจยาวออกมา
“ผมเห็นคุณถอนหายใจมาหลายครั้งแล้วนะมีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
เควินที่ยืนอยู่ตรงข้ามห่างจากอิซึกิราวๆ 20 เมตรได้พูดขึ้น
ตอนนี้อิซึกิกับเควินกำลังอยู่ในห้องทดสอบที่ทาง Fire Moth จัดให้
ซึ่งมันก็ถือว่าใหญ่พอสมควรเลยสำหรับจะใช้ในการต่อสู้ในครั้งนี้
แต่เขายังมองว่ามันยังใหญ่ไม่พออยู่ดีแถมยังมีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากมาดูด้วย
“เปล่าพอดีไม่นึกว่าตนจะมาดูเยอะขนาดนี้หน่ะ”
พูดจบชุดของอิซึกิก็ได้เรืองแสงสีทองขึ้นก่อนที่มันจะกลายเป็นชุดที่เขาเอาไว้ใช้สำหรับการต่อสู้
วิ้งงงงงงงงงงงงงงง!!!!!
“ความสามารถของคุณนี่สามารถทำให้ผมตกใจได้ตลอดจริงๆ ถ้าคุณมีพลังงานฮงไคผมก็คงคิดว่าคุณเป็นแฮชเชอร์ไปแล้ว”
เควินพูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบๆ
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เควินเท่านั้นทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นเองก็ต่างพากันตกใจด้วยเช่นกัน
“ชั้นจะถือว่ามันเป็นคำชมก็แล้วกัน”
อิซึกิพูดออกมาด้วยเสียงเรียบๆเพื่อซ้อนใบหน้าที่ตื่นตระหนกของตัวเองเอาไว้
มันเป็นความจริงอย่างที่เควินพูดทุกประการเลยเพียงแค่อีกฝ่ายนั้นแค่ยังไม่รู้เท่านั้น
จริงๆแล้วอิซึกินั้นก็มีพลังงานฮงไคอยู่เช่นกันแถมยังเหนือกว่าแฮชเชอร์ปกติอีกต่างหาก
ถ้าเกิดทางนั้นรู้เขาชะตากรรมของเขาคงไม่พ้นลงเอยแบบเดียวกับรินแน่ๆ
เผลอๆอาจจะหนักกว่าด้วยซํ้าเพราะเขาสามารถควบคุมมันได้แถมจะแถยังไงก็ไม่น่ารอดด้วย
เพราะงั้นทางที่ดีไม่ควรให้ฝั่งนั้นรู้โดยไม่จำเป็นดีกว่าไม่งั้นคงไม่พ้นการปะทะกันจนตายกันไปข้างแน่ๆ
สิ้นเสียงพูดในใจของเขาเจ้าตัวก็หันไปมองรอบๆทันทีก็มีเห็นบ้างคนที่หน้าคุ้นๆอยู่บ้างอย่างเช่นเอลิเซีย
‘ดูเหมือนว่าเอลิเซียจะยังไม่ได้กลายเป็น MANTIS สินะ…’
เหตุผลที่เขารู้ก็คือหูของเธอยังเป็นแบบปกติอยู่เหตุผลที่หูของเธอมันเป็นแบบเดียวกับเอลฟ์ในอนิเมะ
มันก็มาจากผลข้างเคียงของการกลายเป็นแมนทิสซึ่งเขาไม่รู้ว่าตอนไหนที่เธอกลายเป็นแมนทิสกันแน่
แถมโมเบียสเองก็ยังไม่ได้กลายเป็นแมนทิสเลยด้วย
ทำให้อิซึกิคิดว่าบ้างทีโลกนี้มันอาจจะไม่เหมือนกับโลกที่เขาเคยอ่านมาก็ได้
แต่ดังแต่เดิมแล้วอิซึกิก็ไม่เคยคิดว่าพวกเควินเป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาอยู่แล้วตอนที่เขามาอยู่โลกใบนี้
ไม่ใช่แค่นั้นเขายังเห็นซูและฟูฮัวอยู่ด้วยแต่พอเขาหันหน้าไปทางโมเบียสเธอก็รีบหันหน้าหนีเขาทันที
จนเขาคิดไปว่าเธอน่าจะโกรธเรื่องเมื่อก่อนหน้าแน่ๆเลย
‘เดี๋ยวค่อยไปขอโทษทีหลังก็แล้วกัน’
แน่นอนว่าอิซึกิยังเห็นอีกหลายคนที่ปรากฎในเนื้อเรื่องหลักและมันยังมีอยู่บางคนที่เขายังไม่เห็นในตอนนี้
“นายเคยใช้งานมันมาก่อนรึเปล่า? ไอ้ที่ถืออยู่ในมือหน่ะ?”
อิซึกิชี้นิ้วไปที่ชามาสสองกระบอกในมือของเควิน
“ไม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้ทดสอบมันผมไม่เคยใช้มันมาก่อนและยังไม่รู้ด้วยว่ามันมีความสามารถอะไรบ้าง” เควินตอบออกมาตามตรง
อันที่จริงเมย์เคยให้เควินลองทดสอบแล้วแต่เจ้าตัวดันลืมแล้วออกไปข้างนอกโดยที่ไม่บอกเธอเฉยเลย
[นี่! เควินไม่ใช่ว่าชั้นให้นายอ่านวิธีการใช้งานมันไปก่อนหน้านี้หรอกหรอ?!]
เสียงของดร.เมย์ได้ดังออกมาผ่านไมค์ออกมาให้ทั้งสองได้ยิน
“ผมอ่านแล้ว”
[ถ้าอ่านแล้วนายจะไม่รู้วิธีการใช้มันได้ยังไงวิธีการใช้มันก็น่าจะบอกไปหมดแล้วนี่]
“ผมยังอ่านไม่จบ”
[….แล้วตลอดเวลาหลายชั่วโมงหล่ะนายเอาเวลาไปทำอะไรเควิน?]
“นอน… พอดีตอนผมนั่งๆอ่านอยู่แล้วมันรู้สึกง่วงก็เลยเผลอหลับหน่ะ….”
คำตอบสั้นๆของเควินทำเอาเมย์ถึงกับเอามือกุมหัวเลยทีเดียว
ก่อนที่จะมาพึ่งนึกได้เอาตอนนี้ว่าเควินไม่เก่งเรื่องเรียนแบบสุดๆ
[ชั้นมันผิดเองแหล่ะที่ลืมไปว่านายไม่เก่งเรื่องการเรียน… งั้นก็ช่วยไม่ได้ให้เขาสอนนายใช้มันก็แล้วกัน]
“ห๊า?!!!”
“งั้นผมก็ขอรบกวนคุณด้วยแล้วกัน” เควินได้หันมาพูดกับอิซึกิด้วยความคาดหวัง
“ไหนบอกแค่มาช่วยเควินเทสอาวุธใหม่ไง… ไม่นึกเลยว่าต้องมาสอนใช้ตั้งแต่ตอนแบบนี้แต่ก็ เอาเถอะ เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แล้วมันก็ช่วยไม่ได้หล่ะนะ”
อิซึกิได้เรียกชามาสออกมาด้วยการใช้สกิลเรียกกุญแจสรรคจากนั้นเขาก็เริ่มเกริ่นที่มาของมัน
“นายรู้ใช่มั้ยว่ามันถูกสร้างมาจากคอร์ของแฮชเชอร์แห่งไฟหน่ะ?”
“ผมไม่รู้”
‘โอเค แม่มไม่รู้ห่าอะไรเลย’
อิซึกิถึงกับเอามือกุมหัวเลยทีเดียวนี่แค่เริ่มเขายังอยากเดินออกจากห้องทดสอบแล้ว
“งั้นก็ช่างเรื่องที่มามันก็แล้วกันเหตุผลที่เจ้าปืนนี้มันต้องแยกออกเป็นสองคอร์หรือสองกระบอกก็เพื่อซ้อนพลังที่แท้จริงของมันเอาไว้ยังไงหล่-----”
ยังไม่ทันทีที่อิซึกิจะพูดจบเควินก็แทรกขึ้นมาทันที
“แล้วทำไมถึงต้องแยกออกเป็นสองคอร์? ทั้งๆที่คอร์เดียวของมันก็ทรงพลังมากแท้ๆ”
“นายก็ฟังที่ชั้นพูดให้จบก่อนเซ้?!”
ในหัวของอิซึกิตอนนี้ชักจะมีความรู้สึกว่าอยากจะเอาชามาสยิงกระบาลของเควินสักทีจริงๆ
“เห้อ… เหตุผลที่มันต้องแยกออกเป็นสองคอร์ก็เพราะมันมีพลังมากเกินไปยังไงหล่ะ”
ทันทีที่พูดจบเขาก็ได้สาธิตวิธีการทำงานของมันให้กับเควินดู
วิ้งงงงงงง!!!!
เขาได้ประกบปืนทั้งสองเข้าด้วยกันก่อนที่ในไม่กี่วินาทีต่อมามันจะกลายสภาพไปเป็นดาบใหญ่สีส้ม
ฟูมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!
ทันทีที่ปืนทั้งสองได้ถูกประกบเข้าด้วยกันจนกลายเป็นดาบใหญ่มันก็ได้แผ่ความร้อนออกมาทันที
มันเป็นความร้อนชนิดที่ว่าไม่สามารถทำการทดสอบต่อไปได้
จนท้ายที่สุดพวกนักวิทยาศาสตร์ก็ต้องพากันอพยพออกนอกห้อง
เนื่องจากพวกเขาคาดการพลังของชามาสผิดไปไกลกล้องที่ใช้ถ่ายตอนทดสอบพวกมันก็ต่างถูกความร้อนละลายจนไม่สามารถถ่ายภาพต่อได้
“เหอะๆ บอกแล้วไม่เชื่อว่ามันเล็กไปสำหรับใชเในการทดสอบพลังสูงสุดของเจ้านี่หน่ะ”
พูดจบเขาก็ได้หัวเราะแห้งๆก่อนที่จะหันไปหาเควินจากนั้นก็ถามขึ้น
“นายรู้สึกยังไงบ้างหล่ะเควิน?”
“สำหรับผมมันก็ยังอุนๆอยู่ไม่ได้ร้อนขนาดนั้นหรอกนะ”
อิซึกิที่ได้ยินก็พยักหน้าก่อนที่เขาจะพูดขึ้นอีก
“งั้นก็ช่างหัวพวกนักวิทยศาสตร์พวกนั้นก็แล้วกัน ถ้างั้นไหนนายลองทำให้ชั้นดูหน่อย”
เควินพยักหน้าตอบกลับก่อนที่จะลองทำแบบที่เขาทำก็ปรากฎว่าสามารถทำได้จริงๆ
“แล้วคุณหล่ะไม่ร้อนบ้างเลยงั้นหรอ?”
“ไม่หล่ะแค่นี้หน่ะยังสบายๆนะเออ ถ้างั้นไหนๆก็ได้ถืออาวุธทั้งคู่แล้วลองปะมือกันหน่อยเป็นไง”
อิซึกิเสนอการต่อสู้ให้กับเควินซึ่งเจ้าตัวที่อยากจะลองทดสอบของใหญ่ก็ไม่ปฎิเสธอยู่แล้ว
“ก็ได้แบบนั้นก็ดีเหมือนกันผมเองก็อยากจะลองพลังของมันเหมือนกัน”
พูดจบเควินก็จับดาบด้วยมือทั้งสองข้างทันที
วิ้งงงงงงง….
ทว่าในตอนนั้นเองดาบสีส้มชามาสก็ได้หายไปจากมือของอิซึกิ
ทำให้เควินที่เห็นถึงกับงงไปเลยว่าตกลงเขาจะทำอะไรกันแน่ทำไมถึงได้เก็บดาบ
“คุณคิดจะทำอะไรทำไมถึงเก็บดาบลง? หรือว่าคุณคิดจะดูถูกผมงั้นหรอ? ว่าผมไม่มีความสามารถมากพอจะทำให้คุณใช้ดาบหน่ะ?”
เควินที่เห็นก็ได้เอ่ยออกมาด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย
“เปล่า… ชั้นไม่ได้จะดูถูกนายหรอกพอดีชั้นเองก็มีอะไรอยากจะลองเหมือนกัน… แต่ว่า…”
พูดจบมันก็มีแสงปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง
วิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!
ก่อนที่มันจะกลายสภาพเป็นกางเขนสีทองขนาดใหญ่พร้อมๆกับปรากฎโซ่สีทองออกมา
“ชั้นจะใช้เจ้านี่ในการต่อสู้กับนาย”
พูดจบกางเขนสีทองก็เริ่มทำงานทันทีมันได้เปิดออกก่อนที่จะปรากฎหอกสีทองขึ้น
จากนั้นอิซึกิก็ดึงหอกสีทองที่ปรากฎจากการเขนออกมา
“ชั้นเองก็ไม่เคยใช้มันเหมือนกัน.... ไหนๆมันก็เป็นการลองใช้อาวุธแล้วชั้นก็ขอเอามันออกมาลองใช้งานเลยก็แล้ว!”
‘อืม… จะว่าไงกับเจ้าหอกนี่ดีหล่ะเนี้ย… ตอนที่เห็นเทเรซ่าถือมันก็เห็นว่ามันค่อนข้างยาวนะแต่ทำพอตูมาถือแล้วมันดูสั้นจัง?’
ความยาวของหอกสีมองก็พอๆกับตัวของอิซึกิเลยส่วนหนึ่งอาจจะเพราะตัวเขาค่อนข้างสูงด้วยแหล่ะ
“ช่างเถอะ งั้นก็มาเริ่มกันเลยจะได้ไม่เสียเวลา”
“นั่นสินะ”
“แต่ก่อนที่จะเริ่มพวกเรามาตั้งกฎกันเหลี่ยมสักหน่อยดีกว่า”
“กฎงั้นหรอ? แล้วคืออะไรหล่ะ?”
“กฎนั่นก็คือห้ามใช้พลังนํ้าแข็งเด็ดขาดทั้งนายแล้วก็ชั้นเราจะต่อสู้กันโดยใช้อาวุธเท่านั้นเข้าใจมั้ย?”
“ได้”
“งั้น…. เปิดก่อนได้เปรียบ….”
พูดจบร่างของเขาก็ได้หายออกไปจากสายตาของเควินแล้วเป็นที่เรียบร้อย
ฟุบ!
“!!!!!”
เควินที่เห็นก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความเร็วขนาดนั้นทำให้ภาพที่เขาเห็น
มันเป็นเพียงแค่ภาพรางๆเท่านั้นก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“เฮ้ๆของจริงหน่ะเขาไม่มามั่วนับถอยหลังหรอกนะเออ”
ฟึบบบ!!!
สิ้นเสียงพูดของอิซึกิเขาก็แทงหอกใส่อีกฝ่ายทันทีแถมยังเต็มแรงอีกด้วย
ซึ่งทางเควินที่ปฎิกิริยาตอบสนองฉับไวอยู่แล้วก็สามารถเอี้ยวตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียด
“อึก?!”
เควินที่เอี้ยวตัวหลบการโจมตีของอิซึกิได้ทันก็รีบตั้งสติของตัวเองจากนั้นก็ก็ตวัดดาบขึ้นอย่างแรง
เปล้งงงงง!!!! ตูมมมม!!!!
ด้วยพละกำลังอันมหาสารของทั้งสองทันได้สร้างขึ้นกระแทกขึ้นทันที
หลังจากที่ดาบกับหอกเข้าปะทะกันทำให้ร่างของอิซึกินั้นถอยหลังไปเล็กน้อย
“ในเมื่ีอคุณพูดแบบนั้นงั้นผมก็ขอไม่เกรงใจเลยแล้วกัน”
“อ่า แบบนั้นแหล่ะที่ชั้นต้องการแต่อย่าลืมซะหล่ะว่ามันเป็นแค่การประลองเท่านั้น”
เควินที่ได้ยินก็พยักหน้าก่อนที่คราวนี้เขาจะเป็นฝ่ายเปิดบ้าง
เปล้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!
ดาบชามาสของเควินได้เข้าปะทะกับหอกจูดาห์ของอิซึกิจนเกิดเสียงกระทบกวนดังไปทั่วทั้งห้อง
ทุกๆครั้งที่ฟาดฟันดาบชามาสจะปลดปล่อยเปลวเพลิงความร้อนสูงออกมา
จนทั่วห้องในตอนนี้นั้นแทบจะกลายเป็นสีดำจากการเผาไหม้อยู่แล้วของดาบอยู่แล้ว
แน่นอนว่าความร้อนของมันย่อมทำอะไรอิซึกิที่มีอุณหภูมิร่างกายพอๆกับเควินไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ในทางกลับกันอิซึกินั้นก็ทำอะไรเควินไม่ได้เหมือนกัน
นี่เป็นการใช้หอกครั้งแรกของเขาเหตุผลที่เขาใช้หอกได้ดีในระดับนี้ได้ส่วนหนึ่งมันก็มาจากความเร็วของเขาด้วย
อิซึกินั้นสามารถมองเห็นการโจมตีของเควินได้ทั้งหมดมันก็เลยสามารถทำให้เขาป้องกันมันเอาไว้ได้
แต่เขาก็ไม่สามารถสวนกลับอีกฝ่ายได้เลยถ้าเป็นดาบเขายังมั่นใจว่าจะต้องชนะเควินได้แน่
กับหอกนี่ไม่ไหวจริงๆขอบอกเลยถ้าใช้งานไปแบบถูๆไถๆหรือแก้ขัดไปก่อนมันก็พอได้อยู่
แต่ถ้าใช้เป็นหลักยิ่งขอบายดีกว่าถ้าจะใช้งานมันเป็นหลักจริงๆเขายังต้องฝึกอีกมากกว่าจะใช้ได้
ส่วนเรื่องดาบเขาเคยเรียนมามันก็เลยพอทำให้เขาสู้คนอื่นๆได้อยู่บ้างแต่ไม่ได้เก่งขนาดนั่น
‘ไม่ไหวจริงๆแฮะดูเหมือนว่าชั้นยังจะต้องฝึกอีกเยอะน่าดูเลย’
.
.
.
.
.
.
.
สกิลเรียกใช้งานกุญเเจสรรค์ของอิซึกิมันไม่ได้ถูกกหนดว่าเรียกออกมาได้แต่กุญแจสรรค์ที่ 7 เท่านั้นแต่มันยังสามารถเรียกกุญแจสรรค์ทั้งหมดที่อิซึกิรู้จึกออกมาได้อีกด้วย
ความคิดเห็น