NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Honkai Impact X Anime] ฉันมันก็แค่คนหน้าเหมือนเท่านั้นแหล่ะ

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 66


    ในเวลาต่อมา

     

    “เห้อ…” อิซึกถอนหายใจยาวออกมา

     

    “ผมเห็นคุณถอนหายใจมาหลายครั้งแล้วนะมีปัญหาอะไรรึเปล่า?” 

     

    เควินที่ยืนอยู่ตรงข้ามห่างจากอิซึกิราวๆ 20 เมตรได้พูดขึ้น

     

    ตอนนี้อิซึกิกับเควินกำลังอยู่ในห้องทดสอบที่ทาง Fire Moth จัดให้

     

    ซึ่งมันก็ถือว่าใหญ่พอสมควรเลยสำหรับจะใช้ในการต่อสู้ในครั้งนี้

     

    แต่เขายังมองว่ามันยังใหญ่ไม่พออยู่ดีแถมยังมีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากมาดูด้วย

     

    “เปล่าพอดีไม่นึกว่าตนจะมาดูเยอะขนาดนี้หน่ะ” 

     

    พูดจบชุดของอิซึกิก็ได้เรืองแสงสีทองขึ้นก่อนที่มันจะกลายเป็นชุดที่เขาเอาไว้ใช้สำหรับการต่อสู้

     

    วิ้งงงงงงงงงงงงงงง!!!!!

     

    Pin on Kevin Kaslana close

     

    “ความสามารถของคุณนี่สามารถทำให้ผมตกใจได้ตลอดจริงๆ ถ้าคุณมีพลังงานฮงไคผมก็คงคิดว่าคุณเป็นแฮชเชอร์ไปแล้ว”  


     

    เควินพูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบๆ

     

    แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เควินเท่านั้นทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นเองก็ต่างพากันตกใจด้วยเช่นกัน

     

    “ชั้นจะถือว่ามันเป็นคำชมก็แล้วกัน” 

     

    อิซึกิพูดออกมาด้วยเสียงเรียบๆเพื่อซ้อนใบหน้าที่ตื่นตระหนกของตัวเองเอาไว้

     

    มันเป็นความจริงอย่างที่เควินพูดทุกประการเลยเพียงแค่อีกฝ่ายนั้นแค่ยังไม่รู้เท่านั้น

     

    จริงๆแล้วอิซึกินั้นก็มีพลังงานฮงไคอยู่เช่นกันแถมยังเหนือกว่าแฮชเชอร์ปกติอีกต่างหาก

     

    ถ้าเกิดทางนั้นรู้เขาชะตากรรมของเขาคงไม่พ้นลงเอยแบบเดียวกับรินแน่ๆ

     

    เผลอๆอาจจะหนักกว่าด้วยซํ้าเพราะเขาสามารถควบคุมมันได้แถมจะแถยังไงก็ไม่น่ารอดด้วย

     

    เพราะงั้นทางที่ดีไม่ควรให้ฝั่งนั้นรู้โดยไม่จำเป็นดีกว่าไม่งั้นคงไม่พ้นการปะทะกันจนตายกันไปข้างแน่ๆ

     

    สิ้นเสียงพูดในใจของเขาเจ้าตัวก็หันไปมองรอบๆทันทีก็มีเห็นบ้างคนที่หน้าคุ้นๆอยู่บ้างอย่างเช่นเอลิเซีย

     

    ‘ดูเหมือนว่าเอลิเซียจะยังไม่ได้กลายเป็น MANTIS สินะ…’ 

     

    เหตุผลที่เขารู้ก็คือหูของเธอยังเป็นแบบปกติอยู่เหตุผลที่หูของเธอมันเป็นแบบเดียวกับเอลฟ์ในอนิเมะ

     

    มันก็มาจากผลข้างเคียงของการกลายเป็นแมนทิสซึ่งเขาไม่รู้ว่าตอนไหนที่เธอกลายเป็นแมนทิสกันแน่

     

    แถมโมเบียสเองก็ยังไม่ได้กลายเป็นแมนทิสเลยด้วย

     

    ทำให้อิซึกิคิดว่าบ้างทีโลกนี้มันอาจจะไม่เหมือนกับโลกที่เขาเคยอ่านมาก็ได้

     

    แต่ดังแต่เดิมแล้วอิซึกิก็ไม่เคยคิดว่าพวกเควินเป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาอยู่แล้วตอนที่เขามาอยู่โลกใบนี้

     

    ไม่ใช่แค่นั้นเขายังเห็นซูและฟูฮัวอยู่ด้วยแต่พอเขาหันหน้าไปทางโมเบียสเธอก็รีบหันหน้าหนีเขาทันที

     

    จนเขาคิดไปว่าเธอน่าจะโกรธเรื่องเมื่อก่อนหน้าแน่ๆเลย

     

    ‘เดี๋ยวค่อยไปขอโทษทีหลังก็แล้วกัน’

     

    แน่นอนว่าอิซึกิยังเห็นอีกหลายคนที่ปรากฎในเนื้อเรื่องหลักและมันยังมีอยู่บางคนที่เขายังไม่เห็นในตอนนี้

     

    “นายเคยใช้งานมันมาก่อนรึเปล่า? ไอ้ที่ถืออยู่ในมือหน่ะ?” 

     

    อิซึกิชี้นิ้วไปที่ชามาสสองกระบอกในมือของเควิน

     

    “ไม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้ทดสอบมันผมไม่เคยใช้มันมาก่อนและยังไม่รู้ด้วยว่ามันมีความสามารถอะไรบ้าง” เควินตอบออกมาตามตรง

     

    อันที่จริงเมย์เคยให้เควินลองทดสอบแล้วแต่เจ้าตัวดันลืมแล้วออกไปข้างนอกโดยที่ไม่บอกเธอเฉยเลย

     

    [นี่! เควินไม่ใช่ว่าชั้นให้นายอ่านวิธีการใช้งานมันไปก่อนหน้านี้หรอกหรอ?!]

     

    เสียงของดร.เมย์ได้ดังออกมาผ่านไมค์ออกมาให้ทั้งสองได้ยิน

     

    “ผมอ่านแล้ว”

     

    [ถ้าอ่านแล้วนายจะไม่รู้วิธีการใช้มันได้ยังไงวิธีการใช้มันก็น่าจะบอกไปหมดแล้วนี่]

     

    “ผมยังอ่านไม่จบ”

     

    [….แล้วตลอดเวลาหลายชั่วโมงหล่ะนายเอาเวลาไปทำอะไรเควิน?]

     

    “นอน… พอดีตอนผมนั่งๆอ่านอยู่แล้วมันรู้สึกง่วงก็เลยเผลอหลับหน่ะ….” 

     

    คำตอบสั้นๆของเควินทำเอาเมย์ถึงกับเอามือกุมหัวเลยทีเดียว

     

    ก่อนที่จะมาพึ่งนึกได้เอาตอนนี้ว่าเควินไม่เก่งเรื่องเรียนแบบสุดๆ

     

    [ชั้นมันผิดเองแหล่ะที่ลืมไปว่านายไม่เก่งเรื่องการเรียน… งั้นก็ช่วยไม่ได้ให้เขาสอนนายใช้มันก็แล้วกัน]

     

    “ห๊า?!!!”

     

    “งั้นผมก็ขอรบกวนคุณด้วยแล้วกัน” เควินได้หันมาพูดกับอิซึกิด้วยความคาดหวัง

     

    “ไหนบอกแค่มาช่วยเควินเทสอาวุธใหม่ไง… ไม่นึกเลยว่าต้องมาสอนใช้ตั้งแต่ตอนแบบนี้แต่ก็ เอาเถอะ เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แล้วมันก็ช่วยไม่ได้หล่ะนะ” 

     

    อิซึกิได้เรียกชามาสออกมาด้วยการใช้สกิลเรียกกุญแจสรรคจากนั้นเขาก็เริ่มเกริ่นที่มาของมัน

     

    “นายรู้ใช่มั้ยว่ามันถูกสร้างมาจากคอร์ของแฮชเชอร์แห่งไฟหน่ะ?”

     

    “ผมไม่รู้”

     

    ‘โอเค แม่มไม่รู้ห่าอะไรเลย’ 

     

    อิซึกิถึงกับเอามือกุมหัวเลยทีเดียวนี่แค่เริ่มเขายังอยากเดินออกจากห้องทดสอบแล้ว

     

    “งั้นก็ช่างเรื่องที่มามันก็แล้วกันเหตุผลที่เจ้าปืนนี้มันต้องแยกออกเป็นสองคอร์หรือสองกระบอกก็เพื่อซ้อนพลังที่แท้จริงของมันเอาไว้ยังไงหล่-----” 

     

    ยังไม่ทันทีที่อิซึกิจะพูดจบเควินก็แทรกขึ้นมาทันที

     

    “แล้วทำไมถึงต้องแยกออกเป็นสองคอร์? ทั้งๆที่คอร์เดียวของมันก็ทรงพลังมากแท้ๆ”

     

    “นายก็ฟังที่ชั้นพูดให้จบก่อนเซ้?!” 

     

    ในหัวของอิซึกิตอนนี้ชักจะมีความรู้สึกว่าอยากจะเอาชามาสยิงกระบาลของเควินสักทีจริงๆ

     

    “เห้อ… เหตุผลที่มันต้องแยกออกเป็นสองคอร์ก็เพราะมันมีพลังมากเกินไปยังไงหล่ะ” 

     

    ทันทีที่พูดจบเขาก็ได้สาธิตวิธีการทำงานของมันให้กับเควินดู

     

    วิ้งงงงงงง!!!!

     

    เขาได้ประกบปืนทั้งสองเข้าด้วยกันก่อนที่ในไม่กี่วินาทีต่อมามันจะกลายสภาพไปเป็นดาบใหญ่สีส้ม

     

    ฟูมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!

     

     

    ทันทีที่ปืนทั้งสองได้ถูกประกบเข้าด้วยกันจนกลายเป็นดาบใหญ่มันก็ได้แผ่ความร้อนออกมาทันที

     

    มันเป็นความร้อนชนิดที่ว่าไม่สามารถทำการทดสอบต่อไปได้

     

    จนท้ายที่สุดพวกนักวิทยาศาสตร์ก็ต้องพากันอพยพออกนอกห้อง

     

    เนื่องจากพวกเขาคาดการพลังของชามาสผิดไปไกลกล้องที่ใช้ถ่ายตอนทดสอบพวกมันก็ต่างถูกความร้อนละลายจนไม่สามารถถ่ายภาพต่อได้

     

    “เหอะๆ บอกแล้วไม่เชื่อว่ามันเล็กไปสำหรับใชเในการทดสอบพลังสูงสุดของเจ้านี่หน่ะ” 

     

    พูดจบเขาก็ได้หัวเราะแห้งๆก่อนที่จะหันไปหาเควินจากนั้นก็ถามขึ้น

     

    “นายรู้สึกยังไงบ้างหล่ะเควิน?”

     

    “สำหรับผมมันก็ยังอุนๆอยู่ไม่ได้ร้อนขนาดนั้นหรอกนะ” 

     

    อิซึกิที่ได้ยินก็พยักหน้าก่อนที่เขาจะพูดขึ้นอีก

     

    “งั้นก็ช่างหัวพวกนักวิทยศาสตร์พวกนั้นก็แล้วกัน ถ้างั้นไหนนายลองทำให้ชั้นดูหน่อย” 

     

    เควินพยักหน้าตอบกลับก่อนที่จะลองทำแบบที่เขาทำก็ปรากฎว่าสามารถทำได้จริงๆ

     

    “แล้วคุณหล่ะไม่ร้อนบ้างเลยงั้นหรอ?”

     

    “ไม่หล่ะแค่นี้หน่ะยังสบายๆนะเออ ถ้างั้นไหนๆก็ได้ถืออาวุธทั้งคู่แล้วลองปะมือกันหน่อยเป็นไง” 

     

    อิซึกิเสนอการต่อสู้ให้กับเควินซึ่งเจ้าตัวที่อยากจะลองทดสอบของใหญ่ก็ไม่ปฎิเสธอยู่แล้ว

     

    “ก็ได้แบบนั้นก็ดีเหมือนกันผมเองก็อยากจะลองพลังของมันเหมือนกัน” 

     

    พูดจบเควินก็จับดาบด้วยมือทั้งสองข้างทันที

     

    วิ้งงงงงงง….

     

    ทว่าในตอนนั้นเองดาบสีส้มชามาสก็ได้หายไปจากมือของอิซึกิ

     

    ทำให้เควินที่เห็นถึงกับงงไปเลยว่าตกลงเขาจะทำอะไรกันแน่ทำไมถึงได้เก็บดาบ

     

    “คุณคิดจะทำอะไรทำไมถึงเก็บดาบลง? หรือว่าคุณคิดจะดูถูกผมงั้นหรอ? ว่าผมไม่มีความสามารถมากพอจะทำให้คุณใช้ดาบหน่ะ?” 

     

    เควินที่เห็นก็ได้เอ่ยออกมาด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย

     

    “เปล่า… ชั้นไม่ได้จะดูถูกนายหรอกพอดีชั้นเองก็มีอะไรอยากจะลองเหมือนกัน… แต่ว่า…” 

     

    พูดจบมันก็มีแสงปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง

     

    วิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!

     

    ก่อนที่มันจะกลายสภาพเป็นกางเขนสีทองขนาดใหญ่พร้อมๆกับปรากฎโซ่สีทองออกมา

     

    “ชั้นจะใช้เจ้านี่ในการต่อสู้กับนาย” 

     

    พูดจบกางเขนสีทองก็เริ่มทำงานทันทีมันได้เปิดออกก่อนที่จะปรากฎหอกสีทองขึ้น

     

    จากนั้นอิซึกิก็ดึงหอกสีทองที่ปรากฎจากการเขนออกมา

     

    “ชั้นเองก็ไม่เคยใช้มันเหมือนกัน.... ไหนๆมันก็เป็นการลองใช้อาวุธแล้วชั้นก็ขอเอามันออกมาลองใช้งานเลยก็แล้ว!”

     

     

    ‘อืม… จะว่าไงกับเจ้าหอกนี่ดีหล่ะเนี้ย… ตอนที่เห็นเทเรซ่าถือมันก็เห็นว่ามันค่อนข้างยาวนะแต่ทำพอตูมาถือแล้วมันดูสั้นจัง?’ 

     

    ความยาวของหอกสีมองก็พอๆกับตัวของอิซึกิเลยส่วนหนึ่งอาจจะเพราะตัวเขาค่อนข้างสูงด้วยแหล่ะ

     

    “ช่างเถอะ งั้นก็มาเริ่มกันเลยจะได้ไม่เสียเวลา”

     

    “นั่นสินะ”

     

    “แต่ก่อนที่จะเริ่มพวกเรามาตั้งกฎกันเหลี่ยมสักหน่อยดีกว่า”

     

    “กฎงั้นหรอ? แล้วคืออะไรหล่ะ?”

     

    “กฎนั่นก็คือห้ามใช้พลังนํ้าแข็งเด็ดขาดทั้งนายแล้วก็ชั้นเราจะต่อสู้กันโดยใช้อาวุธเท่านั้นเข้าใจมั้ย?”

     

    “ได้”

     

    “งั้น…. เปิดก่อนได้เปรียบ….” 

     

    พูดจบร่างของเขาก็ได้หายออกไปจากสายตาของเควินแล้วเป็นที่เรียบร้อย

     

    ฟุบ!

     

    Lancer Fate GIF - Lancer Fate - Discover & Share GIFs

     

    “!!!!!” 

     

    เควินที่เห็นก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความเร็วขนาดนั้นทำให้ภาพที่เขาเห็น

     

    มันเป็นเพียงแค่ภาพรางๆเท่านั้นก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

     

    “เฮ้ๆของจริงหน่ะเขาไม่มามั่วนับถอยหลังหรอกนะเออ” 

     

    ฟึบบบ!!!

     

    iamthebly.tumblr.com - Tumbex

     

    สิ้นเสียงพูดของอิซึกิเขาก็แทงหอกใส่อีกฝ่ายทันทีแถมยังเต็มแรงอีกด้วย


     

    ซึ่งทางเควินที่ปฎิกิริยาตอบสนองฉับไวอยู่แล้วก็สามารถเอี้ยวตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียด


     

    “อึก?!”

     

    เควินที่เอี้ยวตัวหลบการโจมตีของอิซึกิได้ทันก็รีบตั้งสติของตัวเองจากนั้นก็ก็ตวัดดาบขึ้นอย่างแรง

     

    เปล้งงงงง!!!! ตูมมมม!!!!

     

    A GIF Dump | Fate/stay Night Amino

     

    ด้วยพละกำลังอันมหาสารของทั้งสองทันได้สร้างขึ้นกระแทกขึ้นทันที

     

    หลังจากที่ดาบกับหอกเข้าปะทะกันทำให้ร่างของอิซึกินั้นถอยหลังไปเล็กน้อย

     

    “ในเมื่ีอคุณพูดแบบนั้นงั้นผมก็ขอไม่เกรงใจเลยแล้วกัน”

     

    “อ่า แบบนั้นแหล่ะที่ชั้นต้องการแต่อย่าลืมซะหล่ะว่ามันเป็นแค่การประลองเท่านั้น” 

     

    เควินที่ได้ยินก็พยักหน้าก่อนที่คราวนี้เขาจะเป็นฝ่ายเปิดบ้าง

     

    เปล้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!

     

    Saber Lancer GIF - Saber Lancer Fate Stay Night - Discover & Share GIFs

     

    ดาบชามาสของเควินได้เข้าปะทะกับหอกจูดาห์ของอิซึกิจนเกิดเสียงกระทบกวนดังไปทั่วทั้งห้อง

     

    ทุกๆครั้งที่ฟาดฟันดาบชามาสจะปลดปล่อยเปลวเพลิงความร้อนสูงออกมา


     

    จนทั่วห้องในตอนนี้นั้นแทบจะกลายเป็นสีดำจากการเผาไหม้อยู่แล้วของดาบอยู่แล้ว

     

    แน่นอนว่าความร้อนของมันย่อมทำอะไรอิซึกิที่มีอุณหภูมิร่างกายพอๆกับเควินไม่ได้อยู่แล้ว

     

    แต่ในทางกลับกันอิซึกินั้นก็ทำอะไรเควินไม่ได้เหมือนกัน

     

    นี่เป็นการใช้หอกครั้งแรกของเขาเหตุผลที่เขาใช้หอกได้ดีในระดับนี้ได้ส่วนหนึ่งมันก็มาจากความเร็วของเขาด้วย

     

    อิซึกินั้นสามารถมองเห็นการโจมตีของเควินได้ทั้งหมดมันก็เลยสามารถทำให้เขาป้องกันมันเอาไว้ได้

     

    แต่เขาก็ไม่สามารถสวนกลับอีกฝ่ายได้เลยถ้าเป็นดาบเขายังมั่นใจว่าจะต้องชนะเควินได้แน่

     

    กับหอกนี่ไม่ไหวจริงๆขอบอกเลยถ้าใช้งานไปแบบถูๆไถๆหรือแก้ขัดไปก่อนมันก็พอได้อยู่

     

    แต่ถ้าใช้เป็นหลักยิ่งขอบายดีกว่าถ้าจะใช้งานมันเป็นหลักจริงๆเขายังต้องฝึกอีกมากกว่าจะใช้ได้


     

    ส่วนเรื่องดาบเขาเคยเรียนมามันก็เลยพอทำให้เขาสู้คนอื่นๆได้อยู่บ้างแต่ไม่ได้เก่งขนาดนั่น

     

    ‘ไม่ไหวจริงๆแฮะดูเหมือนว่าชั้นยังจะต้องฝึกอีกเยอะน่าดูเลย’

     

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    สกิลเรียกใช้งานกุญเเจสรรค์ของอิซึกิมันไม่ได้ถูกกหนดว่าเรียกออกมาได้แต่กุญแจสรรค์ที่ 7 เท่านั้นแต่มันยังสามารถเรียกกุญแจสรรค์ทั้งหมดที่อิซึกิรู้จึกออกมาได้อีกด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×