คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : น้องปุ๊กปิ๊ก : CHAPTER 14 (100/100)
คำเตือน
ฟิคเรื่องนี้เป็นแนวแฟนเด็กฉบับปุ๊กปิ๊ก
น่ารัก สดใส สบายๆ คลายเครียด
พี่จีมินเป็นคนที่คล้ายๆโพหลัวแบบกร้าวใจ
ไม่ชอบกดออก แต่อย่ากดแบนนะ!!
EP.14
*ยังไม่ได้แก้คำผิด
สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว
จากตอนแรกที่กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะจำนวนคนที่มากกว่า
ไหนจะอาวุธครบมือที่หากขยับตัวหรือทำอะไรสักที่มันสิ้นคิด
ปลายกระบอกทั้งหลายก็พร้อมจะลั่นไกใส่ทันที
“โย่ว
จีมินเพื่อนรักรอแทคนหล่อนานไหมเอ่ย”
แทฮยองที่หันไปเจอเพื่อนรักกำลังยืนอยู่ไม่ไกล
ก็ยกมือโบกถาดพิซซ่าที่ยังอยู่บนฝ่ามือไปมาอย่างไม่กลัวมันตกเลยสักนิด
ก่อนที่ใบหน้าหล่อของเดือนคณะจะแสดงความแปลกใจกับเจ้าน้องปุ๊กปิ๊กที่กำลังจ้องผู้ชายแปลกหน้าอย่างกินเลือดกินเนื้อ
เห...ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้น้องมันจะมีสีหน้าดุร้ายเป็นกับเขาด้วย
ปกติจะทำตัวปุ๊กปิ๊กเป็นกระต่ายน้อยในโลกโพนี่ไปวัน
ๆ แต่พอมาเจอมุมนี้บอกเลยว่าไม่ชิน
“นะ...นี่มันอะไรกัน” น้ำเสียงสั่นเทาของชายแก่ร่างอ้วนเอ่ยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศกดดัน
สีหน้าซีดเซียวกับสายตาล่อกแล่กไปมาเพราะแผนที่วางเอาไว้เกือบปีดันล้มเหลวอย่างไม่น่าให้อภัย
แม้ทางฝั่งนี้จะมีบอดี้การ์ดและอาวุธอยู่บ้าง แต่มันไม่อาจเทียบกับอีกฝ่ายได้
โดยเฉพาะแสงเลเซอร์สีแดงที่กำลังจ่ออยู่บนหน้าผากของพวกเขาเอาไว้
“คุณคิดว่าพวกผมไม่วางแผนก่อนมางานหรือไง”
นัมจุนเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางผ่อนคลาย
รอยยิ้มแสยะที่เต็มไปด้วยความสะใจถูกมอบให้กับรุ่นพ่อที่ดูถูกมันสมองและความเจ้าเล่ห์ของทายาทตระกูลปาร์คคนโตที่ถูกเรียกว่าราชาแห่งเงินล้าน
แถมยังมีฉายาอัจฉริยะจอมบงการที่วางแผนซ้อนแผนเป็นสิบขั้น
และครั้งนี้ก็ซ้อนซะคนเจ้าเล่ห์อย่างตระกูลชินก็กลายเป็นคนโง่ในสายตาคนอื่นได้อย่างน่าขบขัน
ทางจีมินที่กำลังยืนทำหน้าเหม็นเบื่อใส่เพื่อนรักหัวหยอยที่กำลังเดินถือพิซซ่าตัวปลิวมาทางนี้อย่างระริกระรี้
รอยยิ้มขี้เล่นยังคงแต่งแต้มบนใบหน้าหล่อเหลา ซึ่งด้านหลังของพ่อเดือนคณะก็มีชายชุดดำส่วนหนึ่งเดินเข้ามาในงานโดยที่มีปืนกลคอยข่มขู่ไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายนายน้อยแทฮยองผู้เป็นที่รัก
จีมินคงไม่ได้บอกถึงความลับของครอบครัวแทฮยองทีใช่ไหมละ
ว่านอกจากจะเป็นเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดังระดับประเทศแล้ว
เบื้องหลังยังมีบริษัทคุ้มกันภัยอันเป็นสถานที่ผลิตบอดี้การ์ดมากฝีมือมาหลายรุ่น
แน่นอนว่าทั้งความสามารถในด้านต่อรู้ระยะประชิดกับอาวุธที่ใช้ล้วนทันสมัยและแข็งแกร่งบอดี้การ์ดที่พวกตระกูลชินกับตาแก่คนอื่นมีเสียอีก
มันน่าตกใจใช่ไหมละที่เพื่อนสนิทเขามันไม่ได้เป็นคุณชายติ๊งต๊องอยู่ลูกเดียว
“เปิดตัวได้ยิ่งใหญ่มาก”
น้ำเสียงทักทายไปทางประชดเอ่ยกับเพื่อนสนิทที่มายืนเปิดถาดพิซซ่าหน้าชีสและหยิบขึ้นมากินอย่างหน้าตาเฉย
แถมไม่วายยังยื่นมาให้เขาหยิบขึ้นมากินเป็นเพื่อนมันอีกด้วย
“ตอนแรกก็กะจะเข้ามาตั้งแต่เมื่อสิบนาทีก่อนแล้วนั่นแหละ
แต่เฮียจินบอกว่ายังอยากเห็นความมั่นหน้ามั่นโหนกของตาแก่พวกนี้อยู่
แล้วทำไมน้องปุ๊กปิ๊กถึงได้เกรี้ยวกราดจังวะ” ประโยคแรกพูดเสียงดังเพื่อตอกหน้าพวกตาแก่จอมโลกสะอึกเล่น
ส่วนประโยคหลังก้มลงมากระซิบถามเพื่อนรักพ่วงตำแหน่งแฟนของเจ้าเด็กตัวสูงที่วันนี้หน้าตามันจัดเต็มจนไม่ใช่คนเดียวกัน
ปกติแทฮยองจะเห็นน้องมันผูกผมจุกน้ำพุ
หรือไม่ก็ทรงทวินเทล พอมาเจอตอนปล่อยและเซตให้มันเข้ากับชุดขาว ๆ แบบนี้
บอกเลยว่าถ้าเป็นร่างโคลนในโหมดแบดบอยแทฮยองยังเชื่อมากกว่าอีก
“เจอโจทย์เก่าน่ะ”
“โจทย์เก่า?
หมายถึงไอ้อ่อนที่เลือดอาบหน้านี่น่ะเหรอ”
ไม่พูดเปล่ามือที่ยังมีพิซซ่าชิ้นใหญ่อยู่ก็ชี้ไปยังไอ้อ่อนที่ว่า
ซึ่งการถูกสนใจจากหนึ่งในเจ้าของบริษัทคุ้มกันภัยชื่อดัง มันไม่ได้ทำให้โจว
ชูยอนซึ้งใจเลยสักนิด
ราวกับว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ตรงปากเหวและพร้อมจะถูกผลักลงไปตายได้ทุกเมื่อ
“อ่าฮะ”
จีมินพยักหน้าให้เป็นคำตอบ ก่อนที่เขาจะเบี่ยงตัวหลบให้แฟนเด็กเข้าไปเคลียร์ปมปัญหาในอดีตให้เรียบร้อย
ส่วนตัวเองก็หันไปกวนตีนลูกสาวสุดที่รักของผู้นำตระกูลชิน
ที่กำลังก้าวถอยหลังด้วยความกลัว
“ยะ...อย่าเข้ามานะ! พวกแกจัดการมันสิ!!!”
เสียงกรีดร้องชวนน่าเอาอะไรมายัดปากแดง ๆ นั่นให้มันปิดชะมัด
ไหนละยัยปากดีที่เอาแต่ทำหน้าเหนือกว่าเมื่อกี้
ตอนนี้เห็นแค่ยัยขี้ขลาดเหมือนหมาจนตรอกเท่านั้น
ไม่ใจเลยว่ะ
“พวกเราควรจะบู๊หน่อยมะ?”
แทฮยองที่กำลังหยิบพิซซ่าชิ้นที่สองขึ้นมากินก็เอ่ยถามกับเพื่อนรักข้างกาย
แน่นอนว่าคำตอบของจีมินก็ไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่นัก
“ก็อยากอยู่นะ”
พูดไปก็กัดพิซซ่าไป
ต่อให้พวกเขาอยากจะยืดเส้นยืดสายมากแค่ไหน
แต่พอดีสายตามันดันไปเห็นร่างสูงใหญ่ของจองกุกที่กำลังขยำคอเสื้อของศัตรูคู่อริอยู่
ความอยากชนะก็แปรเปลี่ยนเป็นความสนุกในการนั่งชิดขอบติดเวที
มองคนปุ๊กปิ๊กเป็นกระต่ายกลายพันธุ์ประทับร่างโดยไอ้พ่อทุกสถาบันอย่างจีมิน
ผัวใครวะ
แม่งกร้าวใจฉิบหาย
ณ
ตอนนี้สองเพื่อนซี้ไม่ได้สนใจยัยผู้หญิงเสียงแหลมชิน มีโซ
หรือแขกในงานที่กำลังตกอยู่ในสถานะเป็นรอง
โดยมีนัมจุนยืนกอดอกแสยะยิ้มปีศาจให้พวกเขาผวาเล่น
ก่อนที่จะเข้าสู่การเรียกค่าเสียหายที่คาดว่าคงจะรีดไถมาจากตระกูลชินจนสิ้นเนื้อประดาตัวแน่
ๆ ส่วนพวกเขาก็ยืนเคี้ยวพิซซ่าไปชมการต่อสู้ระหว่างแฟนเด็กกับไอ้หน้าอ่อนไป
แถมแทฮยองมันยังส่งเสียงเชียร์ยิ่งกว่าเชียร์ฟุตบอลทีมโปรดของมันเสียอีก
“เอาเลยโว้ยไอ้น้อง! ตั๊นหน้าให้ดั้งมันหักไปเลย!!”
“….”
“หมัดฮุคเลยน้อง
อัปเปอร์คัตก็ได้
เอาให้มันรู้ไปเลยว่าอย่ามาแหยมกับพี่นะไอ้อ่อน”
“….”
“เออ! แบบนั้นเลย ดี! มันต้องอย่างนี้!!”
“เอ่อ...นายน้อยครับ”
เหล่าชายชุดดำที่ยืนเป็นฉากประกอบมาตั้งแต่เมื่อสิบนาทีที่แล้ว
พยายามเรียกสติเจ้านายที่เริ่มจะอินกับการชกต่อยที่ดูยังไงมันก็เหมือนเอาอุ้งเท้ากระต่ายตบใส่หน้าเสียมากกว่า
แรงก็น้อยนิดแต่บางครั้งมันก็รุนแรงจนพวกเขาที่ถูกฝึกอย่างดีก็ยังตกตะลึงกับการลงไม้ลงมือของเด็กคนนั้น
มันเหมือนมีประสบการณ์และความสามารถหลบซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าใสซื่อไม่มีพิษมีภัย
นี่มันหมาป่าในคราบกระต่ายชัด
ๆ
พลั่ก!!
“โอ๊ย! ไอ้เวรนี่!!!” ชูยอนที่ถูกต่อยเข้าที่แก้มจนหน้านั้นชาไปทั้งแถบก็อดจะส่งเสียงโวยวายใส่ไอ้เอ๋อที่เขากลั่นแกล้งมาตลอดไม่ได้
ทั้งที่ปกติควรเป็นมันต้องร้องไห้หรือไม่ก็ขอร้องอ้อนวอนไม่ให้เขาทำร้าย
แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้เป็นเขาที่ต้องยกมือไหว้ขอร้องมันกันละ
ที่ผ่านมามันไปทำอะไรกันแน่
“6
ปี” เพราะรอบข้างมันเงียบเกินไปทุกคนเลยได้ยินประโยคของจองกุกอย่างชัดแจ๋ว
ความหลังอันน่าเศร้าที่ต้องถูกคนในโรงเรียนทำร้ายจิตใจด้วยฝีมือของผู้ชายคนนี้
เพียงเพราะเขานั้นแปลกแยกกว่าคนอื่น ไม่ใช่ด้านสติปัญญาที่มักถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กปัญญาอ่อน
เอาแต่ทำตัวโลกสวยอยู่ในทุ่งโพนี่ไปวัน ๆ แต่เพราะจอน
จองกุกกลายเป็นที่รักของทุกคน มักได้รับความเอ็นดูจากอาจารย์
เพื่อนผู้หญิงหรือแม้แต่รุ่นพี่ก็ต่างเอาอกเอาใจจองกุกกันทั้งสิ้น
โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่โจว ชูยอนตกหลุมรัก
“6
ปีที่ฉันต้องเจอกับฝันร้ายเพราะความขี้อิจฉาของแก”
“อึก!”
“เห็นฉันไม่สู้คนหน่อยก็เล่นเอาพูดมารุม
กลั่นแกล้งสารพัด ทั้งคำดูถูก ทั้งทำร้ายร่างกาย
และที่ฉันเกลียดแกมากที่สุดคืออะไรรู้ไหมโจว ชูยอน”
จองกุกกระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายเข้าใกล้ตัวเองมากขึ้น
สีหน้าหวาดกลัวนั่นมันไม่ได้ทำให้เขาใจอ่อนกับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
ตรงกันข้ามมันแทบอยากทำให้ชูยอนได้พบกับสิ่งที่เคยทำกับเขาในอดีต
โดยเฉพาะกับการที่อีกฝ่ายใช้อำนาจของครอบครัวกีดกันคนอื่นไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับเขา
“แกทำให้ฉันไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียว
ใครที่สนิทกับฉันก็ต้องถูกพรรคพวกของแกทำร้าย
กุข่าวมากมายให้ทุกคนรังเกียจมองฉันเป็นเชื้อโรคที่ไม่ควรอยู่ใกล้”
“….”
“ทั้งที่อุตส่าห์ดีใจแล้วว่าคงไม่ต้องเจอแกมาคอยรังควานอีก
แต่ความหวังของฉันต้องพังลงเพราะงานเลี้ยงเฮงซวยนั่น!!”
ตอนนั้นจองกุกดีใจเป็นอย่างมากที่ตัวเองหลุดพ้นจากนรกช่วงม.ต้นได้เสียที
เขาไม่จำเป็นต้องหาเรื่องโกหกให้คุณแม่กังวลกับบาดแผลมากมายที่ได้รับมันทุกวัน
ไม่ต้องมาฝืนยิ้มสดใสให้คุณพ่อทั้งที่ในใจนั้นเจ็บช้ำจนอยากจะร้องไห้ระบายทุกอย่างออกมาให้ทั้งสองได้รับรู้ถึงสิ่งที่ตัวเองเผชิญกันมันเพียงลำพัง
แม้ตอนขึ้นมัธยมปลายเขาจะได้เป็นเพื่อนกับยุนกิและโฮซอก
ที่คอยดูแลสร้างเสียงหัวเราะให้กับเขาอยู่ตลอดเวลา
มันเหมือนกับที่ผ่านมาคือฝันร้ายที่จองกุกคิดไปเอง แต่พอมาเจอหน้าของคนที่สร้างความเจ็บปวดให้กับเขาที่งานเลี้ยงศิษย์เก่าอีกครั้ง
คำดูถูกกับเสียงหัวเราะจากคนทั้งงานก็กำลังหลอกหลอนตัวเขาอีกครั้ง
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้จอน
จองกุกได้เจอกับจอน เจเค
“แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันต้องขอบใจแกนะ”
อาจจะฟังดูแปลกที่คุณชายจอมปุ๊กปิ๊กใช้สรรพนามแข็งกระด้างกับอีกฝ่าย
เพราะปกติเจ้าตัวจะแทนตัวเองว่าเราและชอบทำตัวมุ้งมิ้งเป็นเด็กน้อยให้คนอื่นเอ็นดูอยู่เสมอ
แต่ตอนนี้จีมินกับแทฮยองอดยอมรับไม่ได้ว่าเจ้าเด็กปุ๊กปิ๊กนามว่าจอน จองกุกนั้น...
เป็นลูกผู้ชายสุด
ๆ
โดยเฉพาะประโยคถัดมาที่ทำเอาจีมินสำลักพิซซ่าเพราะความปลื้มปริ่มในคำพูดของแฟนเด็กที่เขาเลี้ยงดูมา
“ขอบใจที่ทำให้ฉันได้เจอกับคนที่ฉุดรั้งตัวฉันออกจากฝันร้ายที่แกมอบให้”
Bunny
Prookpick
สถานการณ์ถูกคลี่คลายลงอย่างรวดเร็ว
ไม่มีการปะทะหรือนองเลือดอย่างที่ใครต่อใครกำลังคิด
มีเพียงแค่ความขี้ขลาดของพวกตาแก่โลภมาก กับการยอมจำนนตกเป็นเหยื่อให้พยัคฆ์เจ้าเล่ห์กลืนกินความรุ่งโรจน์และแปรเปลี่ยนให้เป็นความอัปยศที่บังอาจมากระตุกหนวดพวกเราสองพี่น้อง
ส่วนยัยคุณหนูมีโซที่ทำตัวเหนือกว่าคราวแรก
พอเจอกระบอกปืนชี้เข้าหน่อยก็ขาสั่น หน้าซีด เป็นลมหมดมาดคุณหนูจอมหยิ่งจนจีมินกับแทฮยองขำก๊ากอย่างไม่สนใจว่าจะสร้างความอับอายให้กับเพศแม่ขนาดไหน
ก็คนมันอยากขำอะ
จะกลั้นเอาไว้ทำไมละจริงไหม
หากใครถามถึงแฟนปุ๊กปิ๊กของเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่อจากนี้
จีมินก็พร้อมชี้แจงแถลงไขในรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้
หลังจากที่จองกุกพูดประโยคนั้นจบก็ยกมือข้างขวาขึ้นมากำแน่นก่อนจะพุ่งเข้าใส่หน้าของไอ้อ่อนชูยอนตรงดั้งมันเน้น
ๆ เล่นเอาร่างอ่อนปวกเปียกล้มหงายหลังขาชี้ฟ้าอย่างอนาถ
ถ้ามองไม่ผิดจีมินกับแทฮยองเห็นฟันกระเด็นออกจากปากของไอ้อ่อนนั่นด้วย
‘ฮู่ว
ในที่สุดเราก็เอาคืนเจ้าบ้านี่ได้ซะที’
ประโยคที่แสดงถึงความโล่งใจกับรอยยิ้มกว้างยามเห็นผลงานของตัวเองมันดีกว่าที่คิด
มือที่ฝากรอยแผลกับดั้งที่มันหักจนไม่เหลือจมูกโด่งสันของอีกฝ่ายให้ยลโฉมเมื่อสักครู่
สะบัดไปมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปฉีกยิ้มหวานพร้อมกับดวงตากลมเปล่งประกายระยิบระยับให้จีมินที่เลิกสำลักพิซซ่าเรียบร้อย
‘เค้าหายกลัวแล้วนะจีม’
อ่า...นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับไอ้ปุ๊กปิ๊กที่เลิกกลัวงานเลี้ยงกับสายตาเสแสร้งของพวกชนชั้นที่ชอบสวมหน้ากากเข้าหากันเสียที
“จีมมมมมมม”
เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียกของแฟนเด็กที่วิ่งลงมาจากตึกเรียนด้วยรอยยิ้มหวานกระแทกตา
กระแทกใจจนมันเจ็บไปหมด ยิ่งเห็นอีกฝ่ายเข้าใกล้ระยะ 100 เมตรมากขึ้นเรื่อย ๆ
อาการที่พักนี้มักเกิดขึ้นกับปาร์ค จีมินอยู่บ่อย ๆ ก็เริ่มสำแดงฤทธิ์
คิม
แทฮยองเรียกอาการนี้ว่า ‘น้องปุ๊กปิ๊กลึซึ่ม’
มีความหมายคือติดหนึบ
ติดจัด คลั่งโคตรพ่อโคตรแม่
ซึ่งอาการนี้มันก็ตรงกับจีมินจนไม่สามารถหาข้อโต้แย้งได้
เพราะตอนนี้ปาร์ค จีมินเป็นอย่างที่แทฮยองกล่าวหาทั้งหมด
หมับ!
ร่างเล็กที่ทั้งถึก
ทั้งทนได้จมหายไปในอ้อมกอดของแฟนเด็กที่นับวันยิ่งตัวใหญ่และหนาขึ้นคล้ายกับเดอะ
ฮัคเข้าไปทุกที แต่สิ่งหนึ่งที่จีมินชื่นชอบจนถึงกับหลับตาพริ้มรับสัมผัสของอีกฝ่ายก็คงหนีไม่พ้นอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนจอน
จองกุกก็มอบมันให้แก่เขาเพียงผู้เดียว
“วันนี้เค้าสอบได้คะแนนเต็มด้วยละ” พอกอดจนหนำใจ น้ำเสียงง้องแง้งก็อวดคะแนนสอบวันนี้ให้แฟนตัวเล็กดูทันที
“เก่งมาก” มือหยาบขยี้ลงบนกลุ่มผมสีดำยุ่งไปมาเป็นการชื่นชมเจ้าเด็กปุ๊กปิ๊กให้ใจนุ่มฟู
จนตอนนี้ยิ้มไม่หุบกันเลยทีเดียว
งื้อ~~ จีมชมเราว่าเก่งด้วยละ
อย่างนี้ต้องเอาไปขิงยุนกิกับโฮซอก
ให้พวกนั้นอิจฉาจนอกแตกตายไปเลย
“วันนี้กูจะพามึงไปเหมาคุกกี้กับชิมมี่คอลเลกชัน--”
“จริงนะ!!”
ไม่ทันได้พูดจบประโยคดีก็ดันถูกขัดด้วยน้ำเสียงระริกระรื้นของคนข้างกาย
ดวงตากลมแป๋วส่องแววระยิบระยับทำเอาคนหน้าบึ้งตลอดเวลาอย่างจีมินอดจะยกมือขึ้นบังแสงสว่างโคตรจ้านี่ไม่ได้
พลางนึกถึงคำพูดของเพื่อนสนิทที่บอกว่าแฟนเด็กของเขาออร่ามันจัดจ้านเกินไป
จนคนหล่ออย่างมันก็ไม่อาจสู้ด้วยได้
ถ้าศัตรูตรงหน้าคือจอน
จองกุกที่มีซีจีวิ้งวับส่องประกายทั่วอาณาเขต คิม
แทฮยองก็จะขอยกธงขาวยอมแพ้อย่างไร้ซึ่งการขัดขืน
บอกเลยว่าไม่กล้าสู้ตั้งแต่เห็นกล้ามใหญ่
ๆ ของน้องมันแล้ว
“ไปซื้อกัน
ๆ”
เสียงง้องแง้งยังคงเร่งเร้าแฟนตัวเล็กให้เดินไปที่รถคันหรู
ในขณะที่มือของทั้งสองก็กอบกุมกันไว้แน่นไม่ยอมปล่อยสร้างความอิจฉาตาร้อนสำหรับคนที่ไม่มีคู่
และสำหรับสาว ๆ
หนุ่มน้อยที่คิดจะเลี้ยงต้อยสมบัติของคณะลับหลังเจ้าของตัวจริงอย่างไอ้พ่อทุกสถาบันก็เป็นอันต้องจรลีหายตัวไปเข้ากลีบเมฆ
ยามที่คนหัวแดงแสบตาหันมาแสยะยิ้มโหดเหี้ยมพร้อมกับมือที่ว่างจากกอบกุมยกขึ้นมาปาดคอตัวเองเป็นสัญญาเตือนว่า
‘ถ้าไม่อยากตายก็อย่าแตะต้องผัวกูเด็ดขาด!!!’
ผัว(เด็ก)ใคร
ใครก็รักใช่ไหมละ
“จีมอย่าลืมพาเค้าไปซื้อนมกล้วยด้วยนะ”
แม้อีกฝ่ายจะทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตก็เถอะ
[100/100]
พิซซ่าสำหรับแทฮยองไม่ใช่มุกกาก ๆ หรอกนะ จัมวรั้ย!!
พี่เสือเราท็อปฟอร์มมากค่ะ พี่จีมเราก็บ้าจี้ไปกับเขาด้วย
เหนือสิ่งใดน้องปุ๊กปิ๊กหนูเก่งมากเลยฮับ แงงงงงงงงงงงงงง
ย้ำอีกครั้ง...เรื่องนี้ไม่มีดราม่า หมดแล้วค่ะ
ปล.เปิดพรีแล้วนร้า สนใจจิ้มด้านบนสุดได้เลย~~
หรือจะอ่านรายละเอียดหน้าที่แล้วก็ได้เด้อ
ความคิดเห็น