ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC BTS] |KOOKMIN| Bunny PookPick (แฟนเด็กเซต) #ฟิคแฟนหรือลูก

    ลำดับตอนที่ #1 : น้องปุ๊กปิ๊ก : CHAPTER 01 (100/100)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.91K
      441
      26 ก.พ. 63

    คำเตือน

    ฟิคเรื่องนี้เป็นแนวแฟนเด็กฉบับปุ๊กปิ๊ก

    น่ารัก สดใส สบายๆ คลายเครียด

    พี่จีมินเป็นคนที่คล้ายๆโพหลัวแบบกร้าวใจ

    ไม่ชอบกดออก แต่อย่ากดแบนนะ!!

    #BTS #방탄소년단 BON VOYAGE Season 4  Epi. 7 #Jungkook #jungkookhot #BTS #방탄소년단 BON VOYAGE Season 4  Epi. 7 #Jungkook#BTS #방탄소년단 BON VOYAGE Season 4  Epi. 7 #Jungkook #jungkookhot #BTS #방탄소년단 BON VOYAGE Season 4  Epi. 7 #Jungkook


    EP.01

               


    *ยังไม่ได้แก้คำผิด**

    เลิกคลาสได้ค่ะ

    สิ้นประโยคของอาจารย์ป้าจอมโหด เสียงโห่ร้องที่แสดงถึงความดีใจกันอย่างออกนอกหน้า โดยเฉพาะพวกที่ขี้เกียจเรียนแต่ต้องนั่งถ่างตามองกระดานตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายทั้งที่มันคือนรกของพวกเขาแท้ๆ

    ไอ้พ่อ! วันนี้แดกเหล้าป่ะ!!” เสียงตะโกนของชายหนุ่มผมสีดำดังขึ้น ก่อนที่รอบคอจะสัมผัสถึงน้ำหนักที่ถูกกดลงมาด้วยวงแขนของอีกฝ่าย

    ถ้าเป็นเมื่อก่อนอ่ะนะ พอได้ยินคำว่าเหล้าจากปากของมิตรสหายทั้งหลายเจ้าของฉายา ไอ้พ่อ ก็พร้อมจะสลัดคราบนักศึกษาปี 3 ออกและกลายเป็นราชสีห์ออกล่าเหยื่ออย่างช่ำชอง แน่นอนว่าคำตอบจากเจ้าของส่วนสูง 178 คงหนีไม่พ้น

    ไม่ไป บายปฏิเสธหน้าตาย ก่อนจะเดินตัวปลิวออกจากห้องไปทันที ทว่าก็ยังถูกขัดขวางด้วยเพื่อนสนิทเจ้าเดิมที่ชาติก่อนเกิดเป็นฝอยขัดหม้อรึไงก็ไม่รู้

    ทำไมว๊าาาา ปกติมึงเสี้ยนอย่างกับอะไรดี

    กูเหนื่อย

    ตอแหล

    กูขี้เกียจ

    ตอแหล

    กูอยากกลับไปนอน

    มึงยังตอแหลอีกเหรอคุณจีมิน

    “=___=”

    ปาร์ค จีมินมองเพื่อนสนิทหัวดำอย่างเบื่อหน่าย ก่อนที่มือหยาบกร้านผ่านการทำงานหนักมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง จะใช้มันดันหน้าหล่อๆนั่นออกไปไกลๆ พร้อมกับขาทั้งสองก้าวเดินออกจากตึกเรียนไปยังรถยนต์คันหรูของตัวเองและเมินเสียงโวยวายของเพื่อนรักด้านหลังอย่างไม่ใยดี

    ถ้าจะให้บรรยายถึงตัวตนของชายหนุ่มอายุ 21 ในวัยนักศึกษาหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างปาร์ค จีมินล่ะก็ คงต้องเริ่มตั้งแต่ประวัติความเป็นมาที่แสนจะไร้สาระตั้งแต่โตจนจำความได้เสียแล้ว

    ปาร์ค จีมินเป็นลูกชายคนเล็กของครอบครัวมหาเศรษฐี แบบเกิดมาปุ๊บก็มีเงินมีทองใช้ไม่ขาด พอเริ่มโตขึ้นมาอีกหน่อยก็พบว่าความฝันของตัวเองนั้นคืออะไรที่โคตรจะปัญญาอ่อนในตอนปัจจุบันมาก แถมเมื่อก่อนตัวเขานั้นมีรูปร่างกลมบ็อกเหมือนลูกฟุตบอล พอจะขยับตัวทีมันก็เหนื่อยไปหมดและนั่นกลายเป็นปมที่โคตรจะบัดซบเวลาถูกเพื่อนล้ออยู่บ่อยๆ

    แน่นอนว่าพอโดนล้อ โดนแกล้งมากขึ้น นิสัยขี้อาย ขี้ขลาด ขี้กลัว สารพัดขี้ๆนั่นก็เริ่มหายไป แทนที่ด้วยความเคียดแค้นเตรียมเผาไหมไอ้พวกที่บังอาจมากล้อหุ่นอ้วนๆของเขาจนกลายเป็นการทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่ของลูกชายคนเล็กแห่งตระกูลปาร์คจนโดนเลิกผู้ปกครองกันทั่วหน้า

    และเหตุการณ์นั้นคือวันเดบิวต์อย่างเป็นทางการของปาร์ค จีมินในวัย 6 ขวบ

    พอเข้าสู่ม.ปลายก็ไม่คิดจะเรียนสายวิทย์คณิตเหมือนพี่ชายคนโต แต่กลับเลือกเรียนสายศิลป์กับภาษาแทนซะงั้น แน่นอนว่าปาร์ค จีมินคนนี้ไม่ได้ตั้งใจเรียนเอาที่หนึ่งของสายชั้นเลยสักกะติ๊ด ตรงกันข้ามกลับไปได้ที่หนึ่งในเรื่องต่อยตีเป็นนักเลงหัวโจกสร้างชื่อเสียให้โรงเรียนไม่เว้นวัน

    เชื่อสิว่าพวกอาจารย์แก่ๆทั้งหลายแหล่น่ะอยากจะไล่เขาออกใจแทบขาด แต่เพราะอำนาจเงินมันหอมหวานเลยหลับหูหลับตาปล่อยให้เขาเร่ร่อนอยู่ในโรงเรียนจนจบ

    นับเป็นโชคดีของเขาใช่ไหมที่เกิดมารวยอ่ะ?

    พอขึ้นมหาลัยปาร์ค จีมินก็ทำการแหกคอกออกครั้งด้วยการสอบเข้าคณะแพทย์ที่ขึ้นชื่อว่าโหดและยากที่สุดในมหาลัยชื่อดังใกล้ที่ทำงานของพี่ชายคนโตโดยที่ตัวเองนั้นอยู่สายศิลป์เพียงคนเดียวที่เข้าสอบและดันติดหนึ่งใน 60 คนเฉย ทั้งที่ความจริงแล้วครอบครัวของเขาน่ะมันสายบริหารยกบ้าน ทั้งพ่อที่เป็นประธานบริษัทอุตสาหกรรมรมด้านบริโภค แม่ก็เป็นเจ้าของห้องเสื้อชื่อดังระดับโลก และพี่ชายที่ล่าสุดเป็นเจ้าของคอนโดหรูราคาเหยียบร้อยล้านที่เขากำลังยืนอยู่และอีกหลายๆแห่งทั่วประเทศ

    ส่วนปาร์ค จีมินที่ควรจะเป็นเจ้าของธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ดันนอกคอกไปสอบเข้าคณะแพทย์ซะงั้น

    แต่พวกเขาก็ไม่ได้โกรธหรือห้ามไม่ให้เขาเรียนหมอหรอกนะ แบบว่าเป็นลูกรัก น้องรัก เลยถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก อยากทำอะไรก็ทำไป ไม่จำเป็นต้องเดินตามกรอบเหมือนครอบครัวอื่นที่พยายามสร้างขึ้นมา

    เพราะเหตุนี้ล่ะปาร์ค จีมินถึงได้เกิดมาโชคดียังไงล่ะ

    พูดถึงการสอบเข้าคณะแพทย์แล้ว ตอนนี้ตัวเขาก็มาได้ครึ่งทางและเตรียมตัวไปสิงอยู่ที่โรงพยาบาลแทนมหาลัยในไม่ช้า ซึ่งโรงพยาบาลที่จีมินจะไปสิงอยู่นั้นก็เป็นโรงพยาบาลที่มีพี่ชายของคิม แทฮยองเป็นผู้อำนวยการแถมยังเป็นโรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศ รับหมอฝึกงานน้อยมากและบางปีก็ไม่เปิดรับนักศึกษาคณะแพทย์จากมหาลัยอื่นอีกเลย

    หากใครถูกเลือกให้ไปนับเป็นลาภอันประเสริฐชนิดที่ว่าไม่มีทางอดตายหลังเรียนจบแน่นอน และปีนี้คนที่ได้รับเข้าไปในโรงพยาบาลแห่งนี้ก็คือเขาและคิม แทฮยองเพื่อนสนิทหัวดำที่ชวนไปกินเหล้าตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืดนั่นเอง

    การเป็นว่าที่คุณหมอของปาร์ค จีมินนั้นไม่เหมือนกับชาวบ้านชาวช่องเสียเท่าไหร่ นิยามของการเป็นหมอคือต้องขยันอ่านหนังสือ โลกส่วนตัวสูง เป็นคนใจเย็นและอดทนเก่ง และสุดท้ายคือเรียบร้อยประหนึ่งผ้าพับอยู่ในตู้

    นิยามที่ว่านั่นน่ะมันเชยบรมสุดๆ

    คนเป็นหมอน่ะไม่จำเป็นต้องทำตัวเหมือนเจ้าชายผู้เพียบพร้อมไปเสียทุกเรื่องก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ อยากกินเหล้าก็ไปกิน อยากดูดบุหรี่ก็ดูด อยากไปนอนกับผู้หญิงที่ไหนก็แค่พกถุงยางและเข้าห้องไปกินตับให้หนำใจ และสุดท้ายคือสิ่งที่หมอไม่ควรทำแต่ปาร์ค จีมินดันทำทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นคงหนีไม่พ้น

    เกลียดขี้หน้าใครก็ไปอัดหน้ามันให้ยับ กระทืบให้แอดมิทเข้าโรงพยาบาลหยอดน้ำข้าวต้มไปสักเดือนให้สาแก่ใจ นี่แหล่ะวิถีชายชาตรีของปาร์ค จีมิน ว่าที่คุณหมอที่เปรี้ยวตีนทุกสถาบัน

    ติ๊ดดดดดดดด

    เสียงปลดล็อครหัสดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าเลขที่กดลงในกล่องสี่เหลี่ยมสีดำนั้นถูกต้อง จีมินผลักประตูตรงหน้าออกพร้อมกับก้าวเข้าไปในห้องที่มีลมเย็นๆของเครื่องปรับอากาศตีใส่หน้าจนชาไปพักหนึ่ง ดวงตาเรียวกวาดตามองหาผู้ร่วมห้องอีกคนหนึ่งที่คาดว่าคงกลับมาแล้ว หลังจากเห็นรองเท้าผ้าใบเก่าๆวางอยู่ตรงชั้นวางรองเท้า

    รองเท้าผ้าใบแบรนด์ดังถูกสะบัดออกจากคนใส่ก่อนจะโยนมันใส่ชั้นวางอย่างไม่ใส่ใจและหยิสลิปเปอร์สีชมพูหวานแหววไม่เหมาะกับหน้าตาขึ้นมาใส่และเหยียบลงบนพื้นพรมขนสัตว์ที่สั่งให้พี่ชายปูมันทั่วห้องก่อนเข้ามาอยู่ 1 วัน

    ฟุตฟิต ฟุตฟิต

    จมูกรั้นสูดดมกลิ่นประหลาดที่ออกไปทางสารเคมีมากกว่าสเปรย์ปรับอากาศที่ถูกฉีกโดยอัตโนมัติ ขาทั้งสองลากสลิปเปอร์กระต่ายหน้าโง่ไปยังห้องนั่งเล่นที่คาดว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตเหมือนไอ้ตัวบนรองเท้าที่ใส่อยู่คงจะนั่งกินขนมหรือไม่ก็นอนอยู่บนโซฟาแน่ๆ

    และปาร์ค จีมินก็คิดถูก เพียงแต่สิ่งหนึ่งที่พาให้คนรักความสะอาดยิ่งชีพถึงกันหน้ามืด ปากสั่น เหลือกตามองศิลปะความงดงามที่กำลังแต่งแต้มบนพรมขนสัตว์แสนรักอย่างดูไม่ได้

    พระเจ้าช่วย...ได้โปรดบอกผมทีว่ามันคือความฝัน

    แต่แม่งมันคือความจริง

    งื้อ~~”

    เสียงครางของคนที่นอนหมอบอยู่บนพรมขนนุ่มดังขึ้นเรียกสติที่ลอยไปไกลของจีมินให้กลับมายังที่นี่ ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังงัวเงียเหมือนเด็กน้อยที่ยังนอนไม่เต็มอิ่ม กลุ่มผมสีดำที่ยาวถึงต้นคอเหมือนผมของผู้หญิงที่มันทั้งรุงรังและยุ่งเหยิงจนดูไม่ได้ ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูจนอยากจะเข้าไปตบตูดแล้วกล่อมให้นอนอีกรอบ หากเป็นเวลาปกติปาร์ค จีมินย่อมทำแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันไม่ปกติไง

    จีมเหรอ

    ไอ้...ยิ่งเห็นสีหลากหลายแต่งแต้มบนใบหน้าของคนที่นอนอยู่บนพื้นในชุดนักศึกษาที่คล้ายเหมือนผ้าขี้ริ้วเข้าไปทุกที ความดันในกายก็พุ่งสูงปริ๊ดจนอยากจะเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด

    ไปซะแล้วพรมราคาเหยียบแสนที่อุตส่าห์กราบตีนขอร้องพี่ชายจนเลือดตาแทบกระเด็น

    มันหายไปผืนหนึ่งแล้ว

    ไอ้ปุ๊กปิ๊ก!!!!!!!!!!!”

     

    Bunny

    Prookpick

     

    ดวงตากลมโตกำลังจ้องมองแผ่นหลังเล็กในชุดนักศึกษาแพทย์ผ่านหมอนกระต่ายสีชมพูใบโปรด ใบหน้าที่เมื่อกี๊เต็มไปด้วยสีจนแยกไม่ออกว่าอันไหนหน้า อันไหนถังสี ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลากลับใสกิ๊งยิ่งกว่าน้ำเปล่า ผมสีดำก็ถูกมัดจุกเป็นทรงน้ำพุด้วยยางรัดแบบเดียวกับหมอนที่กอดอยู่

    แม้ใจจริงอยากจะเข้าไปช่วยอีกคนทำความสะอาดพรมอยู่เหมือนกัน แต่พอทำท่าขยับก็โดนสายตาดุๆนั่นตวัดกลับมาจ้องเขม็ง จนขาที่กำลังแตะลงบนพื้นพรมขนนุ่มเป็นอันต้องชักกลับไปนั่งเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่บนโซฟาเหมือนเดิม

    น่ากลัวอ่ะ T^T

    จีมเสียงทุ้มเอ่ยเรียกคนบนพื้นอย่างกล้าๆกลัวๆ ยิ่งอีกคนไม่ยอมขานรับก็พาให้หน้าเสียยิ่งขึ้น

    จีม

    “….” ยังหยิ่งต่อไป

    ตัว

    “….” ไม่ได้แอ้มกูหรอก

    ก้อนต๋า

    ขวับ!!

    ก้อนต๋าพ่อมึงดิเด็กเปรต!!” พอถูกเรียกด้วยสรรพนามแสลงหูนั่น ก็ถึงกับหันไปเหวใส่ไอ้ปุ๊กปิ๊กหน้ามนที่นั่งฉีกยิ้มหวานเห็นฟันกระต่ายกับรอยตีกายับๆอย่างน่าหมั่นไส้

    น่ารักมากมั้งมึงอ่ะ

    แต่เออ!!! มันน่ารักจริงๆนั่นแหล่ะ

    แพ้ตลอดเลยกูเนี่ย =___=

    จีมโกรธเค้าเหรอ

    มึงคิดว่าหน้ากูตอนนี้กำลังเอ็นดู๊เอ็นดูมึงอยู่เหรอ บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้ากลับมาต้องทำอะไรก่อนเป็นอย่างแรก จีมินมองไอ้เด็กปุ๊กปิ๊กที่นั่งกอดหมอนกระต่ายหน้าโง่ ก่อนจะช้อนสายตากลมแป๋วกับเสียงอ่อยๆตอบกลับมาว่า

    ต้องไปอาบน้ำ ทำตัวให้หอมๆก่อนมานอนเล่น

    แล้วทำไมมึงไม่ทำ รู้ไหมว่าสีบนหน้ามึงทำพรมกูเสียไปตั้งผืนหนึ่งเลยนะ!! แล้วดูชุดนักศึกษาตัวใหม่ที่มึงพึ่งใส่ครั้งแรกดิ๊ แม่งกลายเป็นผ้าขี้ริ้วเช็คถังสีไปแล้วเห็นมะ ใครเป็นคนเอาสีมาป้ายมึง พอบ่นให้สาสมกับพรมราคาเหยียบแสนจนพอใจ ก็เริ่มแค้นความจริงจากคนที่นั่งกระพริบตาปริบๆกอดหมอนกระต่ายอย่างคาดคั้น

    จีมจะทำอะไรพวกเขาเหรอ??

    กูจะไปต่อยหน้ามัน ถ้าเป็นผู้ชายจะกระทืบไข่ให้เละ ถ้าเป็นผู้หญิงกูจะให้อีหวีไปตบให้หน้าแหก!!!”

    “-0-”

    น่ากลัวอ่ะ

    สามคำที่วนเวียนอยู่ในหัวของเด็กหนุ่มที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมอาศัยในห้องแห่งนี้ ถ้าจะให้สาธยายถึงประวัติความเป็นมาของไอ้ปุ๊กปิ๊กว่ามันเป็นใคร มาจากไหน และทำไมถึงมานั่งส่งสายตาแป๋วๆเหมือนลูกกระต่ายแรกเกิดอยู่แบบนี้ล่ะก็

    ปาร์ค จีมินก็พร้อมชี้แจงแถลงไข

    ไอ้ปุ๊กปิ๊ก เด็กผี เด็กเปรต สารพัดชื่อเรียกตามอารมณ์ของเขานั้นมันมีชื่อเต็มๆว่า จอน จองกุก อายุน้อยกว่าเขา 2 ปี ซึ่งตอนนี้จีมินเรียนอยู่ปี 3 ไอ้เด็กนี่มันก็เรียนอยู่ปี 1 แน่นอนว่าพวกเขาเรียนกันคนล่ะมหาลัยแต่ก็ไม่ได้ห่างกันเสียเท่าไหร่

    ตอนแรกไอ้ปุ๊กปิ๊กมันก็จะตามมาเรียนที่เดียวกับจีมินนั่นแหล่ะ แต่ติดที่มหาลัยของเขาไม่มีคณะที่เด็กนี่จะเรียนเลยต้องระเห็จไปเรียนอีกมหาลัยแทน ตอนมันรู้ว่าที่จะไม่ได้เรียนที่เดียวกับเขา บ่อน้ำตาก็แตกเป็นน้ำพุขนาดย่อม ร้องไห้งอแงเสียหลายวัน ทำเอาจีมินและคนอื่นๆปวดหัววันล่ะหลายๆรอบกว่าจะกล่อมมันให้ไปเรียนอีกมอได้ ก็ทำเอาร่างกายเหนื่อยแทบขาดใจเลยล่ะ

    แล้วทำไมถึงมาอยู่ด้วยกันได้??

    ถ้าเป็นคำถามแนวนี้ล่ะก็ คงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่เจอไอ้ปุ๊กปิ๊กครั้งแรกสินะ

    ตอนนั้นจีมินเรียนอยู่ม.ปลายปีสุดท้ายและกลายเป็นหัวโจกของที่นี่ แน่นอนว่าทุกโรงเรียนมันก็ต้องเล่นสายรหัสเหมือนกับที่มหาลัยอยู่แล้ว ซึ่งสายรหัสของเขานั้นเป็นพวกหัวรุนแรงกันหมดทั้งสาย ตั้งแต่พี่รหัส ลุงรหัสรวมถึงบรรดาปู่ๆ ย่าๆ ทั้งหลายที่ล้วนมีนิสัยห้าวหาญทั้งสิ้น จนถูกเรียกว่าสายรหัสเปรี้ยวตีนมาตั้งแต่ตอนนั้น

    พอตัวเองได้กลายเป็นลุงรหัสแล้ว มันก็เลยตื่นเต้นนิดหน่อยแถมยังลุ้นด้วยว่าหลานรหัสของตัวเองจะมีนิสัยเหมือนกับเขาหรือเปล่า นั่งคิด นอนคิด ยืนคิดมาหลายวันจนในที่สุดไอ้ยองจุนก็พาหลานรหัสมาเปิดตัวซะที แต่เชื่อไหมไอ้รอยยิ้มที่พร้อมต้อนรับผู้กล้าคนใหม่มันดันถูกเบรกเอี๊ยดเกือบไม่อยู่เมื่อเจอดวงตากลมแป๋วแลดูใสซื่อคู่นั้น

    บอกกูทีว่ามันไม่ใช่เด็กเด๋อจากสนามเด็กเล่น??

    หลังจากนั้นสายรหัสเปรี้ยวตีนของจีมินก็ถูกเปลี่ยนเป็นสายรหัสปุ๊กปิ๊กของจอน จองกุกอย่างน่าสมเพชในบารมีจอมโหดของตัวเองสุดๆ อันที่จริง ไอ้บทบรรยายสารพัดที่พูดออกไปนี่มันยังไม่ได้จับตรงจุดประเด็นที่ว่าทำไมเขากับไอ้ปุ๊กปิ๊กถึงมาอยู่ด้วยกันได้

    พ่อแม่รู้จักกันไหมก็ไม่? เป็นญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ สถานะของพวกเราคือลุงรหัสกับหลานรหัสตอนม.ปลายที่ดันมาเป็นรูมเมทร่วมกัน??

    ไม่ใช่ทั้งนั้น

    สถานะของพวกเราเป็นอะไรมากกว่าที่คนอื่นๆคิด

    ซึ่งไอ้สถานะนั่นมันก็เริ่มตั้งแต่ที่จีมินใกล้จะเรียนจบแล้วนั่นแหล่ะ

    อยากรู้ชื่อสถานนะที่ว่าไหมล่ะ??

    งั้นจะบอกให้ฟัง เตรียมเบิ่งตาดูดีๆล่ะกัน

    จีมสรรพนามที่ไม่มีคำว่าพี่แม้อายุจะมากกว่า 2 ปีถูกเรียกขัดคำตอบที่จะบอกแก่ผู้ชอบกินเผือกทั้งหลาย จีมินเงยหน้ามองคนเด็กกว่าที่กำลังส่งสายตาออดอ้อนพร้อมกับประโยคที่พาเอาว่าที่คุณหมอถึงกลับกลอกตามองบน

    นมกล้วยเค้าหมดแล้ว

    “=_=”

    พาเค้าไปซื้อที่ซุปเปอร์หน่อยอ้อนทางสายตาไม่พอ ยังมาอ้อนทางสีหน้ามึนๆของมันอีก

    คิดว่าปาร์ค จีมินผู้มีฉายาว่า ไอ้พ่อทุกสถาบัน จะยอมว่าง่ายพาน้องปุ๊กปิ๊กหน้าใสกิ๊งไปซื้อนมกล้วยตามคำขอของมันงั้นเหรอ? บอกเลยว่า...

    ไม่! กูจะนอนดูไอ้ระเบิดหัวแม่น!! มึงก็ไปซื้อเองดิ

    เค้าไม่กล้าไปคนเดียว

    โตตัวเท่าความล่ะยังทำจริตกลัวนู่นกลัวนี่ไปได้

    นร้า~~*^*”

    โนเวย์ ไม่ใจอ่อนหรอกโว้ย!!” รอบนี้ฝึกมาดี ภูมิต้านทานแข็งยิ่งกว่าเพชร ต่อให้มันทำหน้าอ้อนมากแค่ไหนก็ไม่มีทางใจอ่อนเด็ดขาด!!

    ไอ้ปุ๊กปิ๊กต้องสำเนียกแล้วว่าลูกไม้เดิมๆใช้กับปาร์ค จีมินผู้นี้ไม่ได้ผล!!

    งื้อออออ ใบหน้ายู่ยี่กับเสียง้องแง้งไม่ได้เรียกความสนใจของคนที่กำลังเลื่อนรีโมทตามหาการ์ตูนเรื่องโปรดให้หันกลับไปมองลูกอ้อนเลยแม้แต่น้อย

    ใจร้าย...จีมใจร้ายที่สุด!!

    ในเมื่อไม่สนใจก็ต้องใช้ท่าไม้ตายซะแล้ว

    หมับ!!

    หะ...เหี้---”

    จุ๊ฟ! จุ๊ฟ! จุ๊ฟ!

    พาเค้าไปซื้อนมกล้วยหน่อยนะแฟนจ๋า

    “..!!!..”

    สัมผัสนุ่มนิ่มลงกลีบปากอวบอิ่มพร้อมกับเสียงน่าอายดังขึ้นติดกันสามครั้ง ไม่รวมถึงประโยคสุดท้ายที่มันฆ่าหัวใจของปาร์ค จีมินให้ตายภายในครั้งเดียว

    เหี้ย...เหี้ยมาก...เหี้ยสุดๆ

    ใครสอนมันวะ!!!!

    นาทีนี้สติสตางค์ทั้งหลายแหล่ไม่ได้อยู่กับตัวของจีมินอีกต่อไป แม้ร่างกายจะถูกเจ้าเด็กโข่งลากออกจากห้องไปยังซุปเปอร์ใต้คอนโดโดยมีเสียงร้องเพลงลูกหมีสามตัวเป็นซาวด์ประกอบ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเพลงที่มันร้องชูกี้ ชูกี้ ชูก้า ชูห่านอะไรของมันก็ไม่รู้

    ถ้าถามว่าปาร์ค จีมินตอนนี้รู้สึกยังไง??

    บอกเลยว่าแทบทรุดลงไปนอนกองกับพื้น ไอ้ปุ๊กปิ๊กแม่งร้าย ใช้มารยาสาไถยได้ชั่วมาก ภูมิคุ้มกันที่มีมาถูกพังทลายด้วยประโยคนั้นประโยคเดียว แต่พอเงยหน้ามองสีหน้าดี๊ด๊าของมันเวลาหอบนมกล้วยห้าแพ็คในอ้อมแขนก็ถึงกับมองบนให้แก่ความคิดของตัวเองที่แม่งโผล่ขึ้นมาทุกรอบ

    นี่กูมีแฟนหรือมีลูกกันแน่วะ??

    อ่อ...ลืมไปว่ามันเป็นผั- แค่กๆๆ เป็นแฟนปุ๊กปิ๊กของปาร์ค จีมินนั่นแหล่ะ

    เป็นแฟนจริงๆนะโว้ย!!!!




    [100/100]



    #ฟิคแฟนหรือลูก

    เปิดเรื่องเรียกเม้นสนใจถึง 15 เม้นจ้าาาาา
    ใครชอบแนวแฟนเด็กปุ๊กปิ๊ก ติดตามกันได้นร้าาาาาา
    น้องน่ารักมาก แบบงุ้งงิ้ง ง้องแง้ง กิ่งก่องแก้วอ่ะ
    พี่จีมก็หลัวมากกกก แต่ยอมไอ้ปุ๊กปิ๊กคนเดียวเท่านั้น
    ชอบก็เม้น ถูกใจก็ติดตามจ้าาาาาา

    ปล.เรื่องนี้พี่จีมินสูง 178 เซนนะคะ (โกงความสูงให้อีกแล้ว)
    ส่วนน้องปุ๊กปิ๊กสูง 187 เซนเนอะ เลขสลับก็มิเป็นไร
















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×