ตอนที่ 5 : 3. Motivation over You [100%]
เอ็ดเวิร์ดแรงซ์ได้โล่ =O=
3. Motivation over You
หลังจากตั้งสติได้เรื่องข่าวสารเกี่ยวกับเกริดา ผมก็นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมาทันที หลังจากที่ไม่เคยนึกถึงมาร่วมปี ผมนั่งมองดูเบอร์ติดต่อของเขาคนนั้นบนแผ่นกระดาษขนาดเล็กที่ผมเกือบจะทิ้งมันลงถังขยะบ่อยครั้งแต่ไม่เคยทำ ผมไม่เคยเซฟเบอร์ของเขาในโทรศัพท์มือถือนับจากวันที่ผมย้ายออกจากบ้านมา แต่วันนี้...ผมกลับนึกถึงใครไม่ออก นอกจากเขา
มือข้างที่ถือโทรศัพท์ของผมสั่นเทา แท้จริงแล้วผมยังสั่นไปทั้งตัวด้วยความตกประหม่า โดยเฉพาะเวลาที่จินตนาการไปว่าเกริดาอยู่ร่วมกับชายอื่นอย่างไร ชั่ววินาทีหนึ่งที่น้ำตาของผมมันเอ่อล้นอยู่รอบดวงตา เหมือนมีก้อนแข็งๆ มาจุกอยู่ที่คอ ผมรู้สึกโกรธตัวเองมากกว่าหลายเท่าเมื่อยามที่นึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปมันต่ำช้าเลวทรามเพียงใด
โรเบิร์ต ไรช์ น้ำเสียงไร้อารมณ์บ่งบอกถึงความเบื่อหน่าย ความเหน็ดเหนื่อย และอายุที่เพิ่มขึ้น ต้องการพูดกับใคร
พ่อ ผมกัดฟันพูดอย่างยากลำบาก อีกครั้ง...ที่ผมยอมเรียกท่านแบบนี้หลังจากไม่ได้เรียกมาสักระยะ
เอ็ดเวิร์ด ท่านเอ่ยแล้วเงียบไปสักพัก สบายดีรึเปล่า
ผมมีเรื่องสำคัญจะคุย...กับพ่อ
ฉันอยู่บ้านทั้งวัน ถ้าเราจะมาก็มาได้
อีกครึ่งชั่วโมงผมจะอยู่ที่นั่นทันที
เราจะกินอาหารเที่ยงด้วยกันรึเปล่า
ถ้าหากพ่อต้องการ... ผมกลืนน้ำลายอย่างหนืดคอ หายใจแทบไม่ออก ...ผมจะอยู่รับประทานอาหารเย็นด้วย ผมจะค้างที่นั่น
ห้องเก่าเรา ฉันให้คนมาทำความสะอาดให้ประจำ
ถึงคุณพ่อไม่ทำแบบนั้น ผมก็เริ่มเรียนรู้ที่จะทำมันได้ด้วยตัวเองแล้ว ผมบอก มองดูรูปรอยยิ้มสดใสของเกริดาที่จ้องมองผมตอบกลับมา นึกถึงสิ่งที่เธอเคยบอกสอนจนบางครั้งผมก็โต้กลับไปอย่างโมโหว่าเธอเป็นแม่ผมรึยังไงถึงต้องมาคอยสอนผมแบบนี้ ขนาดแม่แท้ๆ ของผมเองท่านยังไม่เคยมาพูดแบบนี้เลย ใช่...ท่านไม่เคยอยู่พูดหรือใส่ใจสิ่งนี้เลย ไม่เคยใส่ใจว่าผมจะทำอะไรกับห้องของตัวเอง จะสกปรกขนาดไหน เท่าที่ผมจำความได้ คุณพ่อจัดการเรื่องนี้ตลอด หากท่านไม่ทำเอง ก็มักจะหาคนอื่นมาดูแลให้ ดีเสียจนบางครั้งผมรู้สึกกระอักกระอวนต่อสิ่งที่ท่านพยายามจะปฏิบัติต่อผม ทำตัวเป็นพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน มันทำให้ผมเอียน จนต้องหาทางดิ้นรนออกมาจากบ้านเพื่ออยู่คนเดียว
วันนั้นผมพาเกริดาไปส่งยังที่พักของเธอ ทำให้ได้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน นั่นเป็นข้อดีสำหรับผม เพราะจะได้ไม่ต้องตามสืบให้ยากในกรณีผมเกิดนึกสนุกอยากจะลากเธอถึงบ้านขึ้นมาสักวัน แต่ดูเหมือนผมจะไม่ต้องลงมือทำแบบนั้น เพราะอย่างวันนี้ที่ผมเดินย้อนกลับมาที่นี่หลังจากระยะเวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์กว่าๆ เมื่อเธอออกจากเขตรั้วบ้านพักมาแล้วหันมาเจอผม เธอก็เดินตรงเข้ามาหาพร้อมกับรอยยิ้ม
คุณผ่านมาแถวนี้เหรอคะ วันนี้เกริดาสวมกระโปรงสั้น เสื้อกล้ามโชว์หัวไหล่ขาวของเธอ ผมยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสแต่พอจะเดาได้ว่ามันต้องเนียนนุ่มอย่างแน่นอน
เปล่า ผมบอกพล่างหรี่ตาลงสำรวจร่างกายของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้มีหุ่นนางแบบเหมือนออทัมแต่เอวเธอก็คอดกิ่วดูบอบบาง ขาเธอก็เล็กนิดเดียวจนดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่มีเรี่ยวแรงยามต้องวิ่งหนีอะไร เธอมีคุณสมบัติที่ดีและเหมาะสมจะมาเป็นเหยื่อสำหรับผมใช่ไหมล่ะ ผมเพิ่งทำธุระเสร็จ เลยแวะมาหาคุณ
คุณคงจะแวะมาเรื่องรูปสินะคะ เธอยิ้มร่า ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสัญญากับคุณเอาไว้เรื่องรูป
คุณขี้ลืมสินะ
ไม่ขนาดนั้นค่ะ แค่เรื่องเส้นทางที่ฉันจะขี้หลงขี้ลืมเป็นพิเศษในช่วงแรก เรื่องอื่นๆ ฉันลืมเป็นปรกติ
ปรกติของคุณนี่เป็นยังไงกัน
ก็ไม่บ่อยค่ะ แทบจะไม่ลืมเลย
ถ้างั้นอะไรที่คุณลืมได้ ก็คงจะเป็นสิ่งที่ไม่มีความหมายต่อตัวคุณเลย ผมยิ้มที่มุมปาก มองดูเนินอกที่ขยับขึ้นลงเล็กน้อยตอนที่เกริดาหายใจเข้าออก ผมอยากทำให้คุณลืมไม่ลงเลย
ฉันไม่ลืมคุณอย่างแน่นอนค่ะ เพียงแค่เรื่องรูป...วันนั้นมันมีอะไรเกิดขึ้นเยอะแยะและกระทันหันไปหมด ฉันก็เลยหลงลืมไปบ้าง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีความหมายต่อฉันนะคะ โดยเฉพาะสัญญาที่ให้ไว้กับคุณ เธอรีบอธิบายทันที
เอาเถอะ ผมยักไหล่ไม่แยแส คุณไม่ได้สัญญากับผมนี่ คุณแค่บอกว่าจะเอาให้ผมดูเท่านั้น
ฉันกำลังจะไปร้านแมคโดนัลในตัวเมือง คุณอยากไปด้วยกันไหมคะ
ผมไม่ชอบอาหารที่นั่น
ปรกติแล้วฉันก็ไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่เพราะคนเยอะประจำเลย แต่ไม่รู้ว่าวันนี้นึกยังไง ฉันถึงอยากไปที่นั่นมากเสียงั้น เธอเอียงหัวเล็กน้อยพลางกลอกตาไปมาก่อนยักไหล่ และฉันก็คิดว่าฉันต้องไปที่นั่นให้ได้ ตามความรู้สึกน่ะค่ะ
คุณชอบทำอะไรตามความรู้สึกเหรอ
ก็ไม่เชิง ฉันควรจะเรียกมันว่าแรงดลใจเสียมากกว่า
ผมก็ชอบทำอะไรตามความรู้สึก และตอนนี้ก็มีความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ผมยังไม่มีโอกาสเหมาะๆ จะทำ ผมมองเธอเชิงพิจารณา เกริดาแสดงสีหน้าตื่นเต้น
เหรอคะ คุณรู้สึกอยากทำอะไร
ไปร้านแมคโดนัลกับคุณ แท้จริงแล้ว...ผมหมายถึงการทำให้เธอกลายมาเป็นของผมต่างหาก
งั้นตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดที่คุณจะไปกับฉัน ไปด้วยกันนะคะ เธอเอ่ยกระตือรือร้น
ได้สิ ...หลังจากนี้เราไปต่อที่โรงแรมดีไหม ผมต้องรีบคว้าโอกาสนี้ไว้เสียแล้ว
คุณคิดยังไงคะหากฉันจะขอถ่ายรูปคุณ เธอถาม ฉันชอบคุณจัง
หึ ผมหัวเราะในลำคอก่อนพึมพำ คุณคิดยังไงหากผมจะขอนอนกับคุณ
อะไรนะคะ เธอเงยหน้าขึ้นมาจากกล้อง
ผมบอกว่า ไม่มีปัญหา
ขอเป็นรูปของเราสองคนได้ไหม เธอถามอีกรอบ ผมเลิกคิ้วสูง
ทำไมคุณถึงอยากได้รูปเราสองคน
บอกตามตรง เธอเอ่ยท่าทางขัดเขิน แก้มเธอขึ้นสีระเรื่อ ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ ฉันไม่คิดหรอกนะคะว่าจะได้เจอคุณอีก แต่มันต้องเป็นโชคชะตาแน่ๆ ที่ทำให้เราได้เจอกันในวันนั้น
หากไม่ใช่ติดแหงกอยู่ในความคิดของตัวเองที่เผลอยิ้มเพราะอาการหน้าแดงของเธอผมคงจะบอกเธอไปว่าไร้สาระสิ้นดี
เอ็ดเวิร์ด ผมสะดุ้งเพราะเสียงเรียกของเธอ ถ้าคุณไม่อยากถ่ายรูปคู่กับฉันก็ไม่เป็นไรนะคะ เราไปร้านแมคโดนัลกันเลยไหม
ผมแค่แปลกใจน่ะที่คุณบอกว่าชอบผม ผมบอก เกริดายิ้มท่าทางดีอกดีใจเหมือนเด็กสามขวบ ผมต้องทำตัวยังไง
คุณยืนอยู่เฉยๆ ก็ได้ค่ะ เธอเดินเข้ามาหาผมถือกล้องด้วยมือซ้าย เขย่งกายข้างๆ ผมพลางหมุนกล้องใส่เราทั้งคู่ เธอเซเล็กน้อยไม่มั่นคง แต่เจ้าตัวไม่ยอมเกาะแขนหรือแตะต้องตัวผมเลย ยิ้มนะคะ
หมับ!
ผมรวบเอวเธอไว้ เอื้อมดึงกล้องมาจากมือของเธอ
ให้ผมเป็นคนจัดการดีกว่าไหม ผมบอกเธอ เกริดาเบิกตากว้าง หน้าแดงก่ำ ผมยกกล้องขึ้นสูงเหนือหัวเราสองคนโดยจัดให้เลนส์กล้องมองมาทางเรา ผมชอบถ่ายแบบนี้มากกว่า
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองเลนส์กล้องผมก็ทำในสิ่งเดียวกัน จากนั้นก็กดถ่ายภาพของเราไว้ กลิ่นหอมจากตัวและเรือนผมของเธอลอยมาเตะจมูกผม ผมก้มมองดูเธอยิ้มกว้างให้กับกล้องโดยไม่ได้กดชัตเตอร์ จนกระทั่งเกริดาเงยหน้าขึ้นมามาสบตากับผม
เธอเม้มริมฝีปาก มันเรียวบางกว่าเดิม ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย สีชมพูที่ปรากฏอยู่บนริมฝีปากของเธอเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีลิปสติกหรืออะไรแต่งแต้มทั้งนั้น แก้มของเธอมีเพียงแป้งบางๆ ทาทับอยู่ เธอเกือบจะดูซีดเซียวหากไม่ได้สีสันจากริมฝีปากและพวกแก้มเข้าช่วย
คุณถ่ายรูปบ่อยไหมคะ เธอถาม ดูคุณเชี่ยวชาญจัง
หึ ผมพ่นลมออกจมูก ผมไม่ชอบถ่ายรูปหรอก ที่สำคัญ...ผมเชี่ยวชาญเรื่องอื่นมากกว่า
เรื่องอะไรคะ เธอถาม ดวงตาเบิกกว้าง ใสซื่อไร้พิษสง
เรื่องที่ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากรู้หรอก ผมบอก โน้มหน้าเข้าไปใกล้เธอ รึว่าคุณอยากรู้ว่าเรื่องอะไร
ฉะ...ฉัน... เธอหน้าแดงก่ำ ไม่อยากก้าวก่ายเรื่องของคุณถ้าคุณไม่ต้องการจะบอก
นั่นสินะ ถึงเวลาคุณก็รู้เองนั่นแหละว่าอะไร ผมผละตัวออก ไม่ค่อยแน่ใจว่าเธอจะอ่านความคิดผมออกรึเปล่าหรือเธอแค่รู้สึกเขินอายที่ผมขยับเข้าใกล้ขนาดนั้น
ฉันคิดว่าแรงดลใจกำลังเรียกเราให้เดินทางไปที่ร้านแมคโดนัลเดี๋ยวนี้ เธอละสายตาจากผม เดินนำหน้าไป ลืมกล้องของตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งเส้นทางที่เธอเลือกเดินยังไม่ใช่หนทางที่ใกล้ที่สุดอีกด้วย ผมคิดว่าเธอกำลังหลงอีกตามเคย หรือไม่ในหัวก็คงจะคิดอะไรเพลิน บางทีเธออาจจะเข้าใจความหมายและไม่ได้อ่อนหัดอย่างที่ผมคิดก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ถือว่าดีไปอีกแบบ ผมจะได้ไม่ต้องมานั่งตอบเวลาเธอตั้งคำถามว่า คุณกำลังจะทำอะไร มันคงไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่นักหรอกจริงไหม
คุณจะเดินเล่นก่อนเหรอ ผมเปรยขึ้นเชิงสะกิดให้เธอรู้ตัวเมื่อวิ่งมาหยุดอยู่ข้างเธอ ส่งกล้องให้
ขอบคุณค่ะ ฉันลืมสนิทเลย เธอหน้าแดงอีกรอบ ดีนะที่เป็นคุณ
ใช่ ดีที่เป็นผม ผมพยักหน้า นอกจากนั้นแล้ว...ทางที่คุณจะเดินไปนี่ไม่ใช่ลัดหรอกนะ มันเป็นทางอ้อม
ทางอ้อมเหรอคะ
เราต้องไปอีกทาง ผมบอกอย่างพยายามทำใจเย็นเข้าไว้
สงสัยวันนี้ฉันคงต้องนั่งจ้องแผนที่สักสามชั่วโมงเสียแล้ว
อาการหนักนะคุณนี่
นั่นสิคะ เธอยิ้มร่า ไม่รู้เลยว่าผมพูดจากระทบ
ผมพาเกริดาเดินย้อนไปอีกทางที่ใกล้กว่า อันที่จริงหากเราขึ้นรถจะใกล้กว่านี้ แต่เกริดายืนยันที่จะเดิน เธอพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อยที่ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เออออไปอย่างขี้เกียจ จนกระทั่งเรามาถึงร้านแมคโดนัลที่เธอเรียกว่าแรงจูงใจชักพาเธอมา
ผู้คนในร้านยังคงแน่นเหมือนเคยตอนที่เราเข้าไปด้านใน พนักงานวิ่งกันจนหัวหมุน ผมมองไปยังเคาน์เตอร์เห็นชายหนุ่มหน้าตาคุ้นตายืนรับออเดอร์จากลูกค้าอยู่ เมื่อเพ่งมองดูดีๆ ผมจึงรู้ว่าเขาเป็นแฟนของออทัม ผมตวัดสายตาไปทางเกริดาที่กำลังแหงนหน้าขึ้นมองดูเมนูโดยไม่ได้สังเกตเห็นบุคคลที่เธอเชื่อว่าโชคชะตานำพาเขาให้มาพบเจอเธอในร้านเช็กสเปียร์แอนด์คอมพานีย์งี่เง่านั่น แต่ตอนนี้ผมกลับคิดว่ามันงี่เง่ายิ่งกว่าที่เธอดันไปยืนต่อแถวตรงเคาน์เตอร์ที่หมอนั่นทำงานอยู่
คุณจะทานอะไรไหมคะเอ็ดเวิร์ด เธอหันมาถามผม แถวที่เคยยาวเหยียดสั้นลงภายในชั่วพริบตาราวกับผู้คนถูกเสกให้หายไปจากตรงนั้น แล้วไดม่อนก็มองเห็นเกริดา เขายิ้มพลางชะเง้อคอมองดูเธอทั้งที่ยังไม่เห็นผมส่วนเธอยังมองไม่เห็นเขา
เมนูหมายเลขห้า ผมตอบส่งๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมนูอะไรเพราะไม่ได้มองชัดเจนเท่าไหร่นัก
Happy Meal เหรอคะ เกริดายิ้ม ผมรีบตวัดสายตาขึ้นมอง จึงเห็นว่ามันเป็นเมนูเด็กชัดๆ กำลังจะหันไปปฏิเสธ เกริดาก็ยิงคำพูดใส่หมอนั่นโดยไม่ได้มองหน้าเขาทันที ขอแฮปปี้มีลหนึ่งชุด แล้วก็เบอร์เกอร์กุ้งขนาดใหญ่...คุณจะเอาของเล่นอะไรคะเอ็ดเวิร์ด
คุณเลือกมาเถอะ
เอาก็อซซิลล่าสำหรับเซ็ตแฮปปี้มีลนะคะ เฮ้...ไดม่อน เธอเบิกตากว้าง ร้องทักทายเขาอย่างสนิทสนม คุณเองเหรอคะนี่
ผมคิดว่าคุณจะไม่เห็นผมเสียแล้ว เล่นสั่งอาหารไม่มองหน้าพนักงานแบบนี้ เขายิ้มให้เธอด้วยแววตาอ่อนโยนเป็นมิตร ผมพยายามจับผิดเขาเดินไปยืนอยู่ข้างเกริดาแล้วล้วงเงินออกมาจากกระเป๋าวางไว้บนเคาน์เตอร์เพื่อจ่ายค่าอาหาร
ไดม่อนหันมาทางผม รอยยิ้มของเขาหายไปชั่วขณะ จากนั้นก็จ้องตาผมแน่นิ่ง เช่นเดียวกันกับผมที่จ้องตาเขา เขามองดูเกริดาท่าทางสงสัย ในขณะที่เธอกำลังสาธยายเรื่องพรหมลิขิตบ้าบออะไรนั่น ที่เธอปักใจเชื่อว่ามันชักพาเธอให้มาพบเขา โดยไม่รับรู้เลยว่าคนที่เธอกำลังพูดด้วยอยู่นั้นไม่ได้รับฟังเธออย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
ผมโอบเอวเกริดาแล้วแนบตัวของผมกับด้านข้างของเธอ เกริดาไม่ทันรู้สึกตัวและยังพูดต่อไปอย่างสนุกสนานด้วยความดีใจ ไดม่อนละสายตาจากผมแล้วหันไปทางเกริดาบ้าง
คุณแทบจะทำให้ผมปักใจเชื่อแล้วว่าพรหมลิขิตมีจริง
ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องไร้สาระมากกว่า ผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขาเอ่ยจบ
คุณคิดว่ามันไร้สาระเหรอคะ หญิงสาวตวัดสายตาขึ้นมามองดูผมสีหน้าผิดหวัง เธอช่างเหมือนเด็กน้อยที่ปักใจเชื่อว่าเจ้าชายขี่ม้าขาวมีอยู่บนโลกก่อนจะค้นพบว่าแท้จริงแล้วมันมีเพียงแค่ในเทพนิยายเท่านั้น
ผมไม่คิดว่ามันมีจริง โชคชะตาหรือพรหมลิขิตอะไรนั่น ผมบอก มันมีแค่ความจงใจมากกว่า
อาทิเช่น...ตัวผมเอง ที่จงใจกลับมาหาเธอถึงที่บ้าน ส่วนก่อนหน้านั้นผมจงใจพาเธอหลงทาง พาเธอมาส่งบ้าน ทุกสิ่งทุกอย่างผมกำหนดเองอยู่คนเดียว
ฉันหวังว่าจะได้เจอคุณอีกครั้งนะคะไดม่อน เธอบอกแล้วยกถาดอาหารขึ้นมา เดินตรงไปที่โต๊ะเพื่อหาที่นั่ง จากนั้นเธอก็หยิบบิลจ่ายอาหารขึ้นมาดูแล้วนับเงินให้ผม
คุณเก็บเอาไว้เถอะ ผมจ่ายให้เอง
อย่าสละเงินของคุณมาให้บุคคลที่มีความเชื่อในสิ่งที่คุณคิดว่าไร้สาระเลยค่ะ คุณเก็บมันเอาไว้เถอะ เธอบอกแล้วยกเบอร์เกอร์ก้อนโตขึ้นมากัดท่าทางไม่พึงพอใจแบบเด็กๆ ซอสครีมสีขาวติดอยู่ที่แก้ม แต่เธอก็ยังตั้งหน้าตั้งตากินต่อไป ผมเลิกคิ้วสูงเชิงมองเธออย่างพินิจพิจารณา แววสดใสเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงเล็กน้อย ผมยกมือขึ้นมาค้ำคาง แสดงให้เธอเห็นว่าผมจงใจนั่งจ้องเธออยู่ ไม่ได้สนใจแฮปปี้มีลกับก็อซซิลล่าตัวสีฟ้าที่เธอเป็นคนสั่งให้เมื่อก่อนหน้านี้ จนกระทั่งอดใจไม่ไหวอีกต่อไป
หมับ!
ผมคว้าแขนเกริด้าเอาไว้ โน้มตัวเข้าหาร่างบาก หน้าของเราอยู่ห่างกันแค่คืบ เธอแทบหยุดหายใจ แก้มขึ้นสีอีกระรอก
ผมไม่ต้องการเงินของคุณหรอกรู้ไหม ผมกระซิบบอก สิ่งที่ผมต้องการ คือเพื่อนออกงานต่างหาก
เกริดายังนั่งนิ่งไม่ยอมกระพริบตา แต่แทนที่ผมจะหงุดหงิดอยู่ดีๆ ผมก็นึกขำเธอขึ้นมา ก็หน้าของเธอน่ะสิ ดูเหมือนกบที่กำลังตกใจทั้งยังมีซอสราดอยู่บนนั้นอีกด้วย
เพื่อนผมชวนไปงานปาร์ตี้อาทิตย์หน้า คุณช่วยไปเป็นเพื่อนผมหน่อยได้รึเปล่า เพื่อตอบแทนที่ผมพาคุณไปส่งบ้าน แล้วก็พาคุณมาที่นี่ ส่วนอาหารมื้อนี้ที่ผมเสนอจ่ายให้ คิดเสียว่าเป็นค่าปากเสียของผมก็แล้วกัน
มันทดแทนกันไม่ได้หรอกนะคะ กับการที่คุณดูถูกความคิดของคนอื่นแบบนี้ เธอขมวดคิ้ว เอ่ยเสียงตะกุกตะกักท่าทางไม่มั่นใจ
คุณเป็นคนอื่นสำหรับผมที่ไหนกัน โชคชะตาทำให้คุณได้เจอกับผมนะ ผมอาจจะปากเปราะไปบ้าง แต่คุณจะปล่อยให้คนปากร้ายผู้น่าสงสารไปร่วมงานปาร์ตี้โดยปราศจากหญิงสาวไว้ควงรึไง
คุณควงเพื่อนคุณไปก็ได้นี่คะ
ผมผละออกจากตัวเธอ รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วแหละที่เธอทำหัวแข็งกับเรื่องแบบนี้ แต่ต้องทนสะกดอารมณ์เอาไว้อย่างยากลำบาก
ผมนึกอยู่แล้วว่าคุณต้องไม่ไปกับผม ผมแกล้งตีหน้าเศร้า เอาเถอะ ผมไปคนเดียวก็ได้ อย่างน้อยก็แค่โผล่ไปให้คนพวกนั้นจิกกัดเล่นๆ ถ้าผมหาผู้หญิงได้สักคนมันคงไม่กล้าทำเท่าไหร่นัก
เกริดานั่งนิ่ง ในหน้างอง้ำเล็กน้อย เธอเคี้ยวเบอร์เกอร์อีกคำแล้ววางมันลงพลางพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
เฮ้...ผมเอง...ก็ชอบคุณเหมือนกันนะ สาวน้อยแห่งโชคชะตา ผมเลื่อนหน้าเข้าใกล้เธออีกครั้ง แตะลิ้นที่ริมฝีปากเธอ จุดที่มีซอสติดอยู่ จากนั้นก็จูบริมฝีปากเธอเบาๆ มันมีรสชาติดีกว่าที่คิด ผิวของคุณมีกลิ่นสตรอว์เบอร์รี่
คะ...ครีมทาผิวตัวใหม่น่ะ ฉะ...ฉันเพิ่งซื้อมาเมื่อวานนี้ เธอตอบ ลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดจมูกของผม มือเธอสั่น หายใจถี่รัว
ตื่นตูมเสียจริง...แม่กระต่ายน้อย
ผมแนะนำให้คุณใช้มันต่อไปแล้วกัน ผมบอก ชั่ววินาทีหนึ่งที่ผมมองผ่านกระจกออกไปด้านนอก เห็นออทัมกำลังจ้ำเท้าเดินออกห่างร้านแมคโดนัลไปเรื่อยๆ ผมตวัดสายตากลับมามองเกริดาอีกครั้ง รีบดึงนามบัตรออกมาส่งให้ นี่เบอร์โทรผมสำหรับติดต่อกลับ คืนวันเสาร์ หนึ่งทุ่มตรง ผมจะเอารถไปรับคุณที่บ้าน สวยให้เต็มที่เลยนะ สุดที่รัก เพราะคืนนั้น... จะเป็นคือพิเศษสำหรับสองเรา
คืนนั้นทำไมคะ เธอโพล่งออกมา หน้าแดงก่ำ ฉันไม่ได้ตอบตกลงว่าจะไปนะ แล้วคะ...คุณ...จูบ...
คุณจะตอบตกลง ผมแทรกขึ้นก้มลงหอมแก้มเธอ เกิดความรู้สึกอยากทำมากกว่านั้น อยากเลื่อนริมฝีปากให้ต่ำไปจนถึงลำคอ ตามผิวขาวอ่อนหอมหวานบนลำตัวเธอ อย่าฝืนพรหมลิขิตซี่
...ฉันทำไมคะ เสียงของเกริดาแผ่วเบาตอนที่ผมจากมา ผมไม่มีเวลาจะหยุดคิด เพราะกำลังพยายามที่จะตามออทัมอยู่ ทว่าเมื่อผมออกมาจากร้านได้ออทัมก็หายไปจากเลนส์สายตาผมแล้ว ผมไม่รู้ว่าเธอหายไปที่ไหน เธอคงจะมาที่นี่สินะ มาหาแฟนของเธอ
เรื่องนี้ทำให้ผมร้อนรุ่มไปทั้งตัวอีกครั้งด้วยความโมโหฉุนเฉียว นึกถึงเกริดาขึ้นมา ผมรอวันเสาร์ไม่ไหวแล้ว ผมไม่มีความจำเป็นต้องรอให้ถึงคืนวันเสาร์เลยจริงไหม มันจะเกิดขึ้นภายในวันนี้
ผมย้อนกลับไปที่แมคโดนัล เกริดาหายไปจากตรงนั้นแล้ว เธอมีเบอร์โทรผม แต่ผมลืมที่จะขอเบอร์เธอไว้เพื่อติดต่อหา ให้มันได้อย่างนี้สิ...ผมคิดว่าจูบนั่นจะทำให้เธอหวั่นไหวจนใจอ่อนได้ มันไม่ได้ผล ถึงอย่างนั้นผมก็มองเห็นความสนุกของเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วแหละ ผมเริ่มรู้สึกสนุกกับมัน
เกริดา...ออทัม...พวกคุณท้าทายผมมาก
ภาษาไทยเขาบอกว่า... โลภมาก ลาปหาย นะตาเอ็ด =_= นายจะไปทำอะไรออทัม เธอฉลาดทันความคิดนาย จัดการเธอไม่ได้หรอกตาคนปั่นป่วน
สาวๆ ขา...อ่านแล้วเม้นท์กันด้วยนะ >_< ขอ Kiss สอง Kiss ก็ยังดี
สาวๆ คนไหนที่ใจดีเสมอต้นเสมอปลาย อยู่เป็นเพื่อนและเม้นให้สม่ำเสมอ ขอบคุณมากนะคะ หากวันเสาร์พี่นาตไปเปลี่ยนบรรยากาศจะเก็บรูปสวยๆ มาฝาก(ถ้ามันสวยให้นะคะ)555 กลัวมันจะไม่สวยนี่แล กล้องเล็กทำงานไม่ดีเท่ากล้องตัวเดิม ตอนนี้บรรยากาศที่เยอรมันหดหู่มากเลยค่ะ ToT
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สงสารเกริดาจริงๆ >_<
น่าลุ้นจัง ว่างานวันเสาร์จะเป็นยังไง
เจ๊แพร่เชื้อแรงไปป่าวคร้า 55555555555555
กร้ากกกกก เอ็ดจะทำไรออทัมม เทอออกจะเฟี้ยวว5555
อากาศที่เยอรมันไม่ดีคือมันหนาวหรอคร้าเจ๊จร้า
จ้วบบบบ
แล้วอย่างนี้นางเอกแสนซื่อจะรอดมัยเนี้ย คบกันตั้ง2ปี
รออ่านๆๆๆๆ
kissssssssssssss
555+
กรี๊ดที่สุด เอาใช่ช่วยเกลิดาT^T
รีบร้อนมาก หุๆๆๆๆๆ
แต่ถึงจะรีบขนาดไหนก็ยังช้ากว่านางเอกไปหน่อยนึงแล : P
ความคิดพี่แกเกินจะเอ่ยเลยจริงๆ=..=
คิดแต่เรื่อง.....เนอะ ตอนนี้ก็เริงร่าไปก่อนเถอะ
คอยดูกรรมที่มันกำลังจะตามมาเถอะ อิอิ
ออทัมกับเกริดาไปท้าทายนายตอนไหนยะ คิดไปเองอะคุณพระเอกแสนเลว=..=
รู้สึกโรคจิตจริงๆ แหละยุพี่นาตไม่เลิก
อืม เอ็ดไม่เจ็บปวดเจียนตายไม่เลิกหรอก
จะยุมันทุกเม้นท์อย่างนี้แหละ555
ไดม่อน กรี๊ดกร๊าดสุดหล่อ(แหมออกนิดเดียว)
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2554 / 18:06
เอ็ด นายเเรงส์จริงไรจริงคร้า5555555
เจ๊นาตตต นี้ไง ไปถ่ายรูปกับหนุ่มอย่างงี้โล้ดดดดดดดด
เอ๊ะหรือเรื่องจริงเจ๊ทำไปแร้วววววว0.0
555555555เจ๊นาตอยากเหนรูปหนุ่มน้อยยย ไปทำแบบเกริดาเร้ยยยย55555555
พ่อเอ็ด ดีมากกกก เกริดาเทอจะใสไปไหนคร้า5555
ทำตามความรู้สึกที่เรียกว่าแรงดลใจงั้นเหรอ?
เกริดานี่อารมณ์ศิลป์ได้อีก หุหุหุ
(จริงๆแล้วคุ้นกับคำว่าแรงบันดาลใจมากกว่านะเนี่ย)
ลากเข้าโรงแรมรึ?
เอาจริงหรือเปล่าเนี่ย!?!
อย่านะเอ็ด~~~
อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงทฤษฎี
"ผู้ชายคิดถึงเรื่องแบบนั้นเกือบทุกนาที" จริงๆ
เหอๆๆ
เรื่องอื่นๆเห็นไม่ชัดหรือเพราะเรื่องนี้เอ็ดหื่นจัดกันแน่
555+
เอาเป็นว่า ..สรุปง่ายๆ "ชอบเอ็ดเวิร์ด" กร๊ากก เลวได้อีกมั๊ยพี่น้อง TOT กรีดร้อง
ท่านลูค เอิร์ลหลุยซ์ หลบไป ..เมื่อพี่เอ็ดมา ..อะไรจะขนาดนั้น ในหัวของพระเอกมีแต่เรื่องแบบว่า...ไม่ไหวแล้ว ...สงสารเกริดา
เปลี่ยนกับเตยไหม ให้เตยแสดงแทน ฮ่าๆๆ ล้อเล่น ..
เอะอะๆ ก็จะลากเข้าโรงแรม ไม่รู้ว่าอยากแก้แค้นจริงๆ หรือหลงเสน่ห์สาวน้อยเกริดากันแน่ ..
ปล. ไม่งงกับการตัดฉาก สลับไปมานะคะ เข้าใจดี อิอิ เป็นกำลังใจให้พี่นาตเสมอค่า ^[]^
แต่อ่านแล้วต้องติดตามต่อ หุหุ
แต่รู้สึกได้พระเอกของเราเจ็บช้ำไม่น้อยย
คุณพ่อแสนดีจัง>_<
น้ำตาแทบร่วงแล้วเอ็ดเวิร์ด5555
แค่เอ่อล้นไม่สะใจ ต้องร้องไห้โฮ555