ตอนที่ 5 : 4. กระดานประกาศข่าวของฉัน [Part I]

❤Marit Larsen : If A Song Could Get Me You
เจ้าชายอัศวิน:::
ถ้านาตแบ่งพาร์ทแบบนี้แสดงว่าแต่งได้แค่ครึ่งหนึ่งของบทนะคะ อาจจะไม่ดีมาก แต่นาตลืมเรื่องส่วนหนึ่งไปมากเหมือนกัน แค่พอจำได้ลางๆ บุคคิลตัวละครนาตก็ไม่สามารถอธิบายเหมือนเดิมเท่าไหร่ แต่หวังว่ามันจะไม่โด่ง แบบต่างมากเกินไปนะคะ ถ้าไม่สมบูรณ์ยังไง ต้องขออภัยด้วยจ้า นาตอยากเอามาลงให้เพื่อนๆ ที่ติดตามอยู่ได้รู้สึกดีไปด้วย แต่บางทียังไม่สามารถสื่อได้ดีมากนัก เพราะแต่งนิยายที่มีกลิ่นอายแตกต่างกันถึงสามกลิ่นเลยทีเดียว มีรักโรแมนติกแฟนตาซี รักหวานแหวว และแนววรรณกรรมเยาวชนแบบเรื่องนี้ (โอ้ย...เวียนหัวมากตอนนี้ หลายใจอย่างร้ายกาจ) >O<
ขอบคุณที่ติดตามผลงานนะคะ ^^
4. กระดานประกาศข่าวของฉัน [Part I]
นอกจากจะเซอร์ไพรส์เรื่องเมืองที่ต้องย้ายมาอยู่แล้วยังไม่พอ ดูเหมือนอาวินด์จะต้องการทำให้ชีวิตของฉันเต็มไปด้วยการเซอร์ไพรส์อยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งโรงเรียนที่ฉันต้องเรียนฉันก็เพิ่งรู้จักชื่อวันนี้เอง
โรงเรียนเซ็นต์เพาลี (St. Pauli School) มีโรงเรียนชื่อนี้อยู่ในประเทศมากกว่าสิบโรงเรียน แต่นี่คงจะเป็นความบังเอิญและเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาในชีวิต เพราะฉันเพิ่งค้นพบว่านี่คือสถานศึกษาแห่งเดียวกันกับที่เพื่อนทางจดหมายของฉันเรียนอยู่ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความพยายามที่จะปิดกั้นโดยไม่รับรู้อะไรเกี่ยวกับบ้านเกิดของตัวเอง กลายเป็นว่าฉันได้เรียนรู้จักมันผ่านใครคนนั้นมาตลอด และก็เคยคิดว่ามันเป็นเมืองที่น่าอยู่และน่าสนใจมากเลยทีเดียว
ที่สำคัญ...เมืองนี้แหละ คือที่ที่พ่อกับแม่ของฉันเติบโตขึ้นมาและได้พบรักกัน มันทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าอาวินด์เวิร์ดคิดยังไงถึงได้พาฉันกลับมาที่นี่ หรือแม้แต่ว่า เขาทนเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับได้อย่างไรทั้งที่รู้อยู่ตลอดเวลาว่าเพื่อนของฉันเองก็อยู่ในเมืองเดียวกันนี้ เพราะอาวินด์เองก็เคยรับจดหมายแทนฉันเหมือนกัน เป็นไปได้ไหมว่าโชคชะตากำลังจะเล่นตลกกับฉัน หรือว่ามีอะไรมากกว่านั้น
อย่างไรก็ตาม ฉันอดสงสัยไม่ได้เลยว่าเด็กนักเรียนคนไหนกันนะ คือ หนุ่มน้อยผู้โดดเดี่ยว ที่เขียนจดหมายโต้ตอบกับฉันเป็นระยะเวลายาวนานถึงห้าปี
ไงเพื่อน ปิดเทอมพวกนายทำอะไรกันมาบ้าง ฉันมองดูเด็กหนุ่มท่าทางร่าเริงกระโดดผ่านช่องประตูมาตบบ่าเพื่อนๆ สี่ห้าคนที่ยืนออกันอยู่กลางฟลอร์ภายใต้อาคารเรียน
อาจจะเป็นเขา หรืออาจจะเป็นใครคนใดคนหนึ่งในกลุ่มของเขา ไม่อย่างนั้นก็อาจจะเป็นใครก็ได้ในโรงเรียน ท่ามกลางนักเรียนนับพัน มีเขาคนนั้นยืนปะปนอยู่ด้วย
ขอให้ฉัน...ได้เจอเขาด้วยเถอะ ฉันหลับตาลงพลางพึมพำกับตัวเองอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเดินผ่านกลุ่มนักเรียนไปตาฟลอร์ทางเดินยาว ก่อนจะมาสะดุดอยู่ที่กระดานประกาศข่าวประจำโรงเรียน
กระดาษประกาศข่าวของเรา
ประธานนักเรียน อมาเดโอ โจนาทาน แมทธิว
รองประธานนักเรียน ไดม่อน วัลเดอร์
อมาเดโอ เหรอ ฉันก้มหน้าลงต่ำจนกระทั่งสายตาอยู่ในระดับเดียวกับรูปภาพ ผมสีน้ำตาลบลอนด์ขับสีผิวของเด็กหนุ่มให้ดูขาว ลับโครงหน้าคมคายให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้น และเมื่อฉันมองเข้าไปในรูปดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลที่เหลืออยู่ข้างเดียวของบุคคลในภาพแล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ เนื่องจากว่าดวงตาอีกข้างของเขาโดนปักเอาไว้ด้วยเข็มหมุดหัวสีแดงแทน เขาเองเหรอ ประธานนักเรียน
และที่น่าแปลกใจไปไม่น้อยกว่ากันก็คือภาพเด็กหนุ่มคนต่อมา นัยน์ตาสีฟ้าเทาของเขาจ้องมองเธอตอบกลับมาราวกับจะเค้นความรู้สึกของทุกคนที่พยามยามสบตากับเขา
ไดม่อน เขาอีกคนสินะ ฉันเกาหัวแกรกๆ ยิ้มให้กับรูปภาพอย่างลืมตัว พระเจ้าต้องเล่นตลกกับฉันแน่ๆ
หลังจากยืนมองดูภาพสองหนุ่มอยู่สักพัก ฉันตัดสินใจถอดหมุดออกจากตาข้างซ้ายของอมาเดโอแล้วปักมันไว้บริเวรเหนือหัวไหล่ของเขา ใช้นิ้วลูบภาพพยายามให้ดวงตาของเขากลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิมแต่ไม่ได้ผล เขาเลยกลายเป็นคนตาโบ๋ไปหนึ่งข้าง ฉันถอนหายใจพลางอดสงสัยไม่ได้ว่าผู้ชายหน้าตาน่ารักคนนี้ไปสร้างศัตรูไว้กับใครที่ไหนกัน คนพวกนั้นถึงประทุษร้ายได้แม้กระทั่งภาพของเขา
ลองดูอีกทีดีกว่า ฉันเอื้อมมือไปแกะภาพออกมาแล้วดันกระดาษส่วนที่ถูกเจาะไปด้านหลังให้กลับมาปิดช่องซึ่งเป็นรอยเข็มหมุดแล้วจัดการเก็บภาพเอาไว้ที่เดิม แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย สองตาอยู่ครบ
ฉันกอดอกยิ้มให้กับผลงานของตัวเอง ก่อนจะสะดุ้งโหยงเพราะเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยขึ้น
ขอบคุณมาก แต่คราวหลังเธอไม่ต้องพยายามทำให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้นะ เพราะถึงยังไงพรุ่งนี้เข็มหมุดนั่นก็จะถูกย้ายกลับไปทิ้มอยู่บนดวงตาฉันอยู่ดี เขาพูดเสียฟังดูโหดร้าย คนที่ทำอะไรแบบนั้นได้ต้องไม่ชอบหนุ่มคนนี้ หรือเรียกอีกทีว่าเกลียดเข้าไส้ยังได้แน่ๆ เลย
ร่างสูงเดินมายืนอยู่ข้างๆ ฉัน เขาจัดการติดประกาศลงบน กระดานประกาศข่าวของเรา ด้วยท่าทางไม่สนอกสนใจว่าหน้าตาของเขาบนภาพจะเป็นอย่างไร ฉันเอื้อมมือไปรับกระดาษจำนวนหนึ่งที่กำลังจะปลิวหล่นจากมือเขาเอาไว้พลางยื่นข้อเสนอ
ให้ฉันช่วยนะคะ
ขอบคุณครับ ขอเป็นภาระหน่อยแล้วกัน เขายิ้มรับอย่างเป็นมิตร
กิจกรรมร้องเพลงให้เด็กกำพร้าฟังพร้อมแจกขนมในวันหยุดเทศกาลเหรอ ฉันอ่านแผ่นประกาศด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ใช่ เราจัดขึ้นแบบนี้ทุกปี
แล้ว...ผลตอบรับเป็นยังไงคะ
แย่
อ้อ คำตอบของเขาทำให้ฉันพูดไม่ออกไปด้วย ต้องนิ่งไปหลายนาทีกว่าจะคิดคำถามออก หมายความว่ายังไงเหรอ ที่เรียกว่าแย่ เด็กๆ ไม่ประทับใจหรือว่าไม่ค่อยมีคนร่วมงาน
ไม่ค่อยมีคนไปร่วมงานมากกว่า ปีที่แล้วมีสมาชิกเข้าร่วมอยู่แค่สามคนเอง
แย่จริงๆ ด้วยสินะ คนเป็นร้อยเป็นพัน แต่กลับมีผู้เข้าร่วมด้วยแค่สามคนเพียงเท่านั้น ฉันจินตนาการภาพสมาชิกทั้งสามเดินเข้าไปในวงเด็กกำพร้าที่ต่างทำหน้าเศร้าหมองผิดหวังเพราะพวกเขาอาจจะคิดว่าจะมีคนไปร้องเพลงให้พวกเขามากกว่าสามคน แล้วยังจะจัดโครงการนี้อยู่เหรอ หากไม่มีคนเข้าร่วมล่ะ
ถ้าไม่มีคนเข้าร่วม ผมก็จะไปที่นั่นคนเดียว อมาเดโอจัดการกับประกาศของเขาเสร็จพอดี เขาจึงหันมาสบตากับฉัน สนใจเข้าร่วมไหม
เออ...
กริ๊ง!
เสียงกริ่งดังขึ้น พวกเราพร้อมใจกันก้มหน้าลงมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาเข้าเรียน
ไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้ เธอยังมีเวลาคิดอีกสามอาทิตย์เต็ม ถ้าเธอสนใจ สามารถไปลงชื่อกับฉันได้ที่ห้องสามร้อยยี่สิบเอ็ด เกรดสิบสองห้องเอ เขาบอกแล้วเตรียมตัวที่จะไปเรียน เธอเรียนอยู่เกรดไหน
เกรดสิบเอ็ด...ห้องเอ
ห้องเอเหรอ เขามองฉันด้วยใบหน้าเรียบขรึมอยู่สักพักก่อนบอก ยินดีที่ได้เจอเธออีกครั้ง มาร์ชา
นัยน์ตาที่ทอดมองก่อนร่างสูงจะเดินจากไปฉายแววเศร้าอยู่แวบหนึ่ง เขาเดินขึ้นบันไดด้วยท่าทางสง่าและไม่เร่งรีบแต่ขายาวๆ ก็สามารถทำให้ร่างสูงโปร่งของเขาหายไปจากสายตาของฉันได้อย่างรวดเร็ว ฉันหันกลับมามองดูรูปของเขาควบคู่ไปกับรูปของไดม่อนอีกครั้ง ก่อนจะก้มมองดูหมายเลขห้องของตัวเองบนแผ่นกระดาษ แล้วก็ต้องรีบจ่ำเท้าวิ่งทันที
:::เจ้าชายอัศวิน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อุกรี๊ด ตอนนั้นเรียกพี่อมาเดโอ ตอนนี้อะน้องอมาเดโอ น้องมาร์ชา น้องไดม่อน
วั้าย กรี๊ด ฉันแก่ขึ้น5555
ขอเข้าร่วมกิจกรรมด้วยคนสิ 555
รักเธอ
หลังจากที่เมื่อเย็นเม้นต์แล้ว 1 ข้อความก่อนทำการบ้านตอนนี้ก็ขอต่ออีกหน่อยนะ
อย่างที่บอกวันนี้ไปเจอเรื่องแย่มาเล่นเอาปวดหัวเพราะคิดมากมาย นอนไปเกือบ ๆชั่วโมงเลยทีเดียว แบบว่าถ้าตื่นมาอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่ฝัน แต่ก็ต้องปลงตกเพราะมันเป็นเรื่องจริง เศร้า (ชะมัด) ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้ต่อถึงแม้เพียงนิดก็พอจะทำให้จิตใจลืมเรื่อง(บ้าๆ)ไปได้บ้าง หนูเป็นพวกลืมโลกเวลาอ่านนิยาย ใครเรียกหรือทำอะไรเสียงดังก็ไม่สะท้านหรอกเพราะจิตใจกำลังเข้าไปอยู่ในนิยาย
มาร์ชาช่างเป็นคนที่อ่อนโยนจังนะพี่นาตแม้ว่านั่นจะเป็นเพียงรูปภาพของอมาเดโอก็เถอะ แล้วใครกันละพี่นาตใจร้ายทำกับอมาเดโอได้ลงคอ (น่าสงสาร)
ว่าแต่พี่นาตค่ะชวนเพื่อนนักอ่านที่หนูเคยเห็นในเรื่องของเหล่าชาวคลีฟมาอ่านบ้างสิค่ะ อยากเห็นเม้นต์ของคนอื่น ๆแล้วเขาก็จะได้รู้ด้วยว่ารู้สึกอบอุ่นแค่ไหนที่ได้อ่านเรื่องนี้
ป.ล.ฉันรักคนแต่งเรื่องนี้ที่สุดในโลก ขอบคุณสำหรับความรู้สึกอบอุ่นที่ถ่ายทอดผ่านตัวอักษรมาให้ฉัน
เนอะว่าไหม WHo am I ?
เห็นด้วยกับคห.2
นิยายเรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่น สบายๆดี
วันนี้เจอเรื่องเเย่ ๆมา พอได้อ่านแล้วสบายใจดีจัง เพลงก็เพราะ
รัก มาร์ชา พี่นาต อมาเดโอด้วย
จะรออ่านตอนต่อไปเน้อ