ตอนที่ 2 : 1. การเปลี่ยนแปลงของฤดูใบไม้ผลิ
1. การเปลี่ยนแปลงของฤดูใบไม้ผลิ
พวกเรากำลังจะย้ายบ้าน แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่าจะย้ายไปที่ไหน รู้นะว่ามันแปลกที่ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบ้านหลังใหม่ที่กำลังจะย้ายเข้าไปเลย ก็เพราะว่างานนี้อาวินด์ต้องการให้ทุกอย่างถูกเก็บเป็นความลับที่จะกลายเป็นเซอร์ไพรส์ในที่สุด ซึ่งพวกเราไม่อาจจินตนาการต่อไปได้เลยว่ามันจะเป็นเซอร์ไพรส์ประเภทไหนกันแน่ ได้แต่หวังว่าอาวินด์ของเรามีความน่าเชื่อถือทางด้านการเลือกสถานที่พักที่อาศัยเป็นพอ นี่ถ้าหากไม่ได้น้ำหนักจากคำพูดของน้านัฐญา ฉันกับนาวินด์อาจจะไม่กล้าเออออไปด้วยสักเท่าไหร่ เพราะมันช่างเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยงสิ้นดี
นาวินด์ ได้โปรดเถอะ ช่วยหยุดวิ่งแล้วมาช่วยพวกเราเก็บของหน่อยไม่ได้รึยังไง
นาวินด์ ลูกชายวัยสิบเอ็ดของน้านัฐญากับอาวินด์เวิร์ด เขามีเรือนผมสีดำจากน้านัฐ มีดวงตาสีเขียวจากอาวินด์ เขามีความบ้าระห่ำอยู่เต็มร้อย ซึ่งอันนี้ฉันไม่รู้ว่ามันมาจากไหน จนบางทีฉันคิดว่าหมอนี่เป็นลูกนอกคอกรึเปล่า เพราะแม่ของเขาออกจะเป็นคนเรียบร้อยน่าเชื่อถือ แม้ว่าพ่อเขาจะเคยเพลย์บอยมาบ้างสมัยเป็นหนุ่ม (จากคำเล่าลือของน้านัฐ)
หากมีใครสงสัยว่าทำไมฉันถึงเรียกแม่ของนาวินด์ว่าน้านัฐ แต่ดันเรียกว่าพ่อของเขาว่าอาวินด์ เรื่องมันก็ยาวอยู่นะ แต่ฉันจะเล่าให้ฟังก็ได้ พ่อของนาวินด์เป็นอาของฉัน ซึ่งไม่ใช่อาแท้ๆ หรอกแต่เขาเป็นผู้อุปถัมฉันอีกที จากเหตุการณ์ที่จำได้คร่าวๆ รู้สึกว่าน้านัฐญาเคยมาทำงานในฐานะพี่เลี้ยงเด็กให้อาวินด์ เด็กคนนั้นก็คือฉันเอง ตอนแรกที่เราได้เจอกัน ฉันได้รับอนุญาตให้เรียกเธอว่าน้า ก็เลยเรียกน้ามาจนติดปาก ก็ตอนนั้นฉันยังไร้เดียงสานี่ ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้หรอกว่าอาจะไปจีบพี่เลี้ยงของหลานมาทำภรรยา แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้พวกเขามีลูกด้วยกันแล้ว ก็เจ้าเด็กแสบนี่แหละ
ก็แค่อยากให้พี่สนใจผมเท่านั้น
เป็นการเรียกร้องความสนใจที่เยี่ยมมากเลยนาวินด์
ผมคิดว่าพี่สนใจผมแล้วเสียอีก นาวินด์ตัดพ้อเมื่อเห็นฉันไม่ให้ความสนใจเขาเท่าที่ควร พี่มาร์ชา
พี่ไม่ได้สนใจเราสักหน่อย กำลังช่วยอาวินด์กับน้านัฐจัดของต่างหาก เราก็น่าจะมาช่วยบ้างนะ อย่างน้อยช่วยเก็บข้าวของของตัวเองก็ยังดี อีกแค่สามวันก็จะถึงเวลาแพ็คของขึ้นคอนเทนเนอร์แล้วนะ
คุณแม่เก็บของผมเสร็จแล้วนี่ครับ ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย พี่มาร์ชานั่นแหละรื้อของออกมาทำไม เห็นไหมจนป่านนี้ยังเก็บไม่เสร็จเลย เขาบอกหน้าตาทะเล้น
ก็เราไม่ใช่เหรอที่รื้อกล่องพี่น่ะ ยังมาพูดดีอีก
ก็ผมกลัวพี่ว่างงาน เลยช่วยสงเคราะห์ให้ก็เท่านั้น ยังก่อกวนไม่เลิก เอาล่ะๆ
เขารีบชูมือขึ้นยอมแพ้เมื่อเห็นสีหน้าพี่สาวผู้แสนน่ารักอย่างฉัน ที่ไม่ได้แสดงความรักให้เขาเหมือนอย่างเคย แล้วหันไปมองกล่องกระดาษสีแดงที่อยู่ไม่ห่าง
ผมจะกวนพี่อีกแค่ครั้งเดี๋ยวและจะไม่กวนพี่อีกเลย วิ่งไปเปิดฝากล่องนั้นแล้วเทสิ่งของที่อยู่ข้างในออกมา
ซองจดหมายหลายฉบับที่เคยมีรอยถูกแกะแต่ได้ถูกผนึกไว้ตามเดิมหลายฉบับปลิวว่อน คราวนี้ฉันรู้สึกโกรธจนตัวสั่น ไม่สามารถหักห้ามใจให้นั่งมองอยู่เฉยๆ ได้ จึงลุกขึ้นตึงตัง
นาวินด์ แผดเสียงร้องเรียกชื่อน้องชายต่างสายเลือดวัยสิบเอ็ดจอมแสบ และกำลังจะวิ่งตาม
มาร์ชา มาร์ชา นัฐญาวิ่งเข้ามากอดฉันไว้แน่น เดี๋ยวน้าจัดการให้เอง หนูรีบเก็บจดหมายของหนูเถอะจ้ะ
ฉันรีบคุกเข่าลงบนพื้นทำหน้ามุ่ยไม่พอใจแล้วรีบใช้มือกวาดจดหมายต่างๆ กลับมาเก็บใส่กล่องสีแดงตามเดิม เหลือบไปเห็นอาวินด์ที่นั่งอยู่ห่างออกไปคลี่ยิ้มมองมาที่ฉัน ฉันยิ้มตอบอย่างละเหี่ยใจก่อนจะก้มหน้ามองดูซองจดหมายเหล่านั้น
30. April of the year
วันที่เขียนระบุไว้ด้านหลังซองจดหมายจาก นักเรียนเกรดเจ็ดห้องเอ เขาอ้างเอาไว้เช่นนั้น ส่งมาถึงเด็กนักเรียนห้อง A ที่มีหมายเลข 1 เป็นเลขประจำตัว และเป็นเลขเดียวกันกับวันที่จดหมายถูกส่งมาถึงมือฉันพอดี วันที่ 1. May of the year
ตอนนั้นฉันเพิ่งจะอยู่เกรด 6 และนั่นเป็นครั้งแรกที่ได้รับจดหมายจากนักเรียนต่างโรงเรียนที่เรียนอยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่า จดหมายฉบับนั้นระบุเอาไว้ว่า...
สวัสดี...ใครก็ตามที่ฉันไม่รู้จักและมีหมายเลขประจำตัวหมายเลข 1
ฉันเขียนจดหมายฉบับนี้มาหาเธอ เพราะต้องการหาเพื่อนทางจดหมาย เป็นส่วนหนึ่งในการทำคะแนนสำหรับรวบรวมในหลักสูตร วิชาภาษาเยอรมันเอกการสื่อสารกับคนแปลกหน้า เป็นอีกหนึ่งของความพิลึกพิลั่นที่ฉันได้เห็นมาในชีวิต แต่นี่เป็นเพียงโครงการปัญญาอ่อนที่เพื่อนร่วมชั้นของฉันได้เสนอขึ้นมา ฉันคิดว่ามันค่อนข้างงี่เง่า เพราะฉันไม่เคยเขียนจดหมายถึงคนแปลกหน้ามาก่อน เคยแต่เขียนจดหมายหาต้นไม้ ซึ่งเธออาจจะคิดว่ามันงี่เง่าพอกัน เอาล่ะ! เขาบอกว่าฉันจะเขียนอะไรก็ได้ในจดหมายฉบับนี้ มันจะไม่ถูกนับคะแนนด้วย แต่เป็นการเริ่มต้นสร้างสัมพันธมิตรที่อาจจะดีซึ่งอาจจะไม่ดี ถ้าหากเธอยินดีจะช่วยฉัน ตอบจดหมายดีๆ กลับมาให้ฉันสักสามสี่ฉบับจนกว่าจะหมดโครงการบ้าบอนี่ โดยระบุถึงนักเรียนเกรด 7 ห้อง A แค่นั้นฉันอาจจะได้คะแนนดี หรืออาจจะไม่ดี แล้วแต่ว่าเธอจะตอบฉันกลับมาประมาณไหน อาจารย์บอกว่าการเรียบเรียงคำสละสลวยของคู่โต้ตอบจดหมายนั้นสามารถระบุได้ว่า ฉัน ได้เขียนหยาบคายหาพวกเขามากน้อยแค่ไหน และฉันก็รู้ว่าฉันหยาบคายมากในจดหมายฉบับนี้ ต้องขอโทษด้วยแล้วกันที่เขียนมาแบบนี้ แต่ฉันอารมณ์ไม่ดี
ปล. กรุณาตอบมาสักนิดว่าเธอยินดีจะช่วยฉันหรือไม่ เพื่อที่ฉันจะได้ไม่เสียเวลารอจดหมายจากเธอและจะได้เปิดสมุดรายชื่อหาผู้โชคร้ายคนใหม่
ขอบคุณล่วงหน้า
นักเรียนเกรดเจ็ดห้องเอ
St. Pauli School
ฉันมองดูจดหมายในมืออย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเวลานั้นลุล่วงมานานถึง 5 ปีแล้ว ครั้งนั้นเขาคงคิดว่าการสานสัมพันธมิตรระหว่างฉันและเขาคงไม่นานเกินหนึ่งภาคเรียนของการศึกษา แต่เมื่อคำนวนเวลาดูแล้วมันกลับยาวนานเกินกว่าจะคาดการได้ล่วงหน้า เพียงเพราะฉันตอบจดหมายกลับไปอย่างไร้เดียงสาตามประสาคนช่างฝัน
ผมยืนอยู่ข้างรั้วไม้ผุๆ มองตัวอาคารบ้านไม้ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางพื้นที่ดินที่รั้วไม้ได้แบ่งเขตออกจากถนนคอนกรีตซึ่งเป็นทางเดินรถของร้านขายของข้างๆ เปลือกรอบนอกของตัวบ้านเป็นไม้ที่มีรูปทรงเหมือนคลีบปลาเล็กๆ ซ้อนทับกันอยู่ มีสีขาวอมฟ้าแซมแทรกอยู่กับราที่ก่อตัวขึ้นกัดกร่อนเนื้อไม้ บ่งบอกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าถูกปล่อยให้รกร้างมานานหลายปี
บ้านหลังนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นส่วนตัวเลยสักนิด มันตั้งอยู่ติดถนนที่ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกือบจะประกบทางฝั่งซ้ายหากยืนหันหน้าไปทางถนน ทางฝั่งขวาก็เป็นร้านขายเสื้อผ้าของคนชรา ตอนกลางวันของการพักอยู่ที่นี่จึงหาความสงบได้ไม่มากนัก ถ้าตอนกลางคืนก็เริ่มสงบลงเมื่อเวลาสี่ทุ่มขึ้นไป
ถึงที่นี่จะไม่ใช่ที่สงบนัก แต่มันก็สงบพอสำหรับผม คนที่รักความโดดเดี่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อต้องการหาความเป็นส่วนตัว ผมจึงต้องมาที่นี่
ผมก้มลงหยิบกุญแจในกระเป๋านักเรียนก่อนจะยกมันขึ้นมาพาดบ่า แล้วลงมือไขกุญแจประตูรั้วไม้ที่สูงเลยเข่าเขามาแค่ไม่กี่เซนติเมตร หากผมจะข้ามเข้าไปข้างในก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิด แต่ผมยังหวั่นเกรงว่าแรงสกิดเพียงน้อยนิดอาจจะเป็นสาเหตุให้มันรื้อตัวเองลงจากเสายึดผุๆ นั่นได้
เมื่อเข้ามายืนอยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้านที่มีต้นแดนดิไลออนเกิดขึ้นมาเป็นกอเล็กๆ แซมวัชพืชที่ผมไม่สามารถระบุได้ ผมเหล่ตามองอีกครั้งอย่างคิดตรึกตรองว่าจะทำความสะอาดดีไหมก่อนจะเดินผ่านประตูบ้านเข้าไป
โซฟาเก่าๆ ถูกคลุมไว้ด้วยพลาสติกสีขาว มีฝุ่นคลุมทับอีกชั้นจนหนาเตอะตั้งอยู่กลางห้องโถงกว้างที่เชื่อมต่อติดกับประตูบ้าน ผมกวาดตามองไปยังทางเดินที่จะนำไปสู่ห้องครัวครู่หนึ่ง แล้วก็บึ่งตรงขึ้นบันไดไม้ที่ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ตรงไปยังห้องนอนที่ชั้นสอง ห้องนอนที่มีเพียงเตียงเล็กๆ หนึ่งเตียงกับโต๊ะเขียนหนังสือขนาดเล็กคู่กับเก้าอี้อีกหนึ่งชุด ภายในตัวห้องมีฝุ่นน้อยกว่าที่อื่นๆ ที่ผมเดินผ่านมาก นั่นเป็นเพราะว่าห้องนี้ได้ถูกเปิดใช้บ้างเป็นครั้งคราวแม้จะไม่ใช่ทั้งเจ็ดวันของสัปดาห์ แต่ก็ถือกว่าเยอะกว่าหนึ่งวันต่อสองสัปดาห์แล้วแต่โอกาสและความสะดวกของผู้ใช้
ผมใช้มือไกล่เกลียฝุ่นออกจากบริเวณที่ผมต้องการนั่ง ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางของเตียงขนาดเล็กนั่น แล้วก้มลงหยิบกล่องไม้ที่อยู่ใต้เตียงออกมาเปิด หย่อนจดหมายฉบับล่าสุดที่เพิ่งอ่านลงไป แล้วก็นั่งนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ จะว่าผมกำลังเหม่อลอยก็ไม่ใช่ จะว่าคิดอะไรอยู่ก็ไม่เชิง มันผสมปนเปกันไปทั้งสองอย่าง
สักพักผมก็ตัดสินใจรื้อจดหมายในกล่อง เลือกหยิบจดหมายฉบับที่เก่าที่สุดออกมา หรือจะว่าไปแล้วมันคือจดหมายฉบับแรกที่ผมได้รับจากคนแปลกหน้า หรือจดหมายฉบับแรกในชีวิตที่ผมได้รับก็เป็นได้ แม้ว่ามันจะไม่ใช่จดหมายที่สมควรจะเป็นของผมก็ตาม แต่มันกลับตกมาเป็นของผม ผมจึงเปิดมันออกอ่าน
สวัสดี...คนแปลกหน้าเกรดเจ็ดห้องเอผู้มีหมายเลขประจำตัวหมายเลขหนึ่ง
แปลกจังนะที่เลือกเขียนจดหมายโดยกำหนดระยะเวลาส่งให้ตรงกับหมายเลขประจำตัวของตัวเอง และเป็นวันเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนั้นแล้ววันนี้ยังเป็นวันแรงที่ตั้งเมย์โพล (Maypole หรือ Maibaum ในภาษาเยอรมัน) ตามประเพณีอีกด้วย เธอรู้ความหมายของเมย์โพลรึเปล่า ต้นไม้แห่งเดือนพฤษภา ที่รัฐบาวาเรีย (รัฐที่เราอยู่) หรือรัฐที่เธออยู่ได้นำต้นเบิร์ช ต้นเมเปิ้ล หรือแม้แต่ต้นสนมาตั้งและประดับประดาด้วยกระดาษสีให้ดูสวยงาม ในวันที่ 1 ของเดือนพฤษภาคม ตามหมู่บ้านและตัวเมืองยังไงล่ะ
เราเคยอ่านเจอในห้องสมุด เขาบอกว่าสมัยก่อนวันนี้จะมีหนุ่มๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานหรือหญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานนิยมนำต้นเบิร์ชเล็กๆ อาจจะเป็นต้นเมเปิ้ลหรือต้นสน จัดใส่กระถางไม้สวยๆ ผูกด้วยริบบิ้นและตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงาม นำไปวางไว้หน้าบ้านบุคคลที่ตนแอบรักในคืนวันที่หนึ่งมิถุนายน ซึ่งถือเป็นการแสดงความรักหรือแม้แต่ขอแต่งงาน บางคนก็จะกลับมารับต้นไม้ของตนกลับพร้อมกับการตอบรับรักหรือการถูกปฏิเสธ ตามประเพณีแล้วบางคนก็จะได้ขนมจากแม่ของฝ่ายหญิงและเบียร์หนึ่งลังจากพ่อของฝ่ายหญิง หากเขายังมีโชคชั้นที่สามอาจจะได้ จุมพิต จากหญิงสาวอีกด้วย เพื่อนห้องเราหลายคนรู้เรื่องนี้ ส่วนมากจะเป็นพวกผู้หญิงนำต้นไม้ไปให้ฝ่ายชาย สงสัยพวกเขาจะอยากแต่งงานกันแน่ๆ ถึงทำอะไรแบบนั้น
เธอคิดยังไงกับเมย์โพลเหรอ เราว่ามันเป็นการแสดงความรักที่น่ารักมากๆ เลย แต่สำหรับเราบางทีเราสามารถนำสัญลักษณ์เหล่านี้มาใช้แทนการสร้างสัมพันธมิตรก็ได้นะ เราวาดภาพต้นเบิร์ชมาให้เธอด้วย แต่มันดูเหมือนต้นเมเปิ้ลที่ก่อตัวกันเป็นพุ่มเสียมากกว่า ได้โปรดมองมันเป็นต้นเบิร์ชด้วยเถอะ ฉันไม่ชอบต้นเมเปิ้ลเท่าไหร่ เขาว่ากันว่าใครที่เก็บใบเมเปิ้ลมาจะโชคร้าย แม้เมเปิ้ลจะเป็นต้นไม้ที่สวยงามมากในฤดูใบไม้ผลิก็ตามที สำหรับการเริ่มต้นที่ดีเพื่อมิตรภาพระหว่างเราสองคน จงมองเห็นมันเป็นต้นเบิร์ชนะ
ยินดีต้อนรับคนแปลกหน้าเสมอ
นักเรียนเกรด VI ห้อง A
St. Katharina School
การที่ผมต้องเปลี่ยนห้องกับลูกชายของลุง เพียงเพราะเขาเชื่อว่าห้องคิงจะทำให้เขาดูเด่นขึ้น ทำให้จดหมายฉบับนี้ที่ควรจะเป็นของเขาตกมาอยู่ในมือของผม ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจดหมายที่เขาส่งไปหาเธอเมื่อก่อนหน้านี้ระบุอะไรไว้บ้าง แต่ผมคิดว่าหมอนั่นคงจะไม่ได้เขียนอะไรแย่ๆ ลงไปมากนัก เด็กผู้หญิงคนนี้ถึงได้เขียนตอบกลับมาอย่างดี ทั้งยังเป็นกันเองอีกต่างหาก แม้ว่าต้นไม้ที่เธอวาดส่งกลับมาให้มันจะไม่ได้ดูเหมือนต้นไม้ทั้งสองอย่างในรายการที่เธอระบุไว้เลยก็ตาม แต่ครั้งนั้นผมก็พยายามที่จะทำใจให้ยอมรับความต้องการของเธอ แล้วตอบจดหมายกลับไปอย่างสุภาพว่า มันเหมือนต้นเบิร์ชมาก ขอบคุณ
หลังจากที่หมดโครงการส่งจดหมายสานสัมพันธ์กับเพื่อนต่างโรงเรียน ผมได้ติดต่อกับเธอมานานถึงห้าปี พอถึงตอนนี้ จดหมายฉบับล่าสุดทำให้ผมเกิดความรู้สึกบางอย่างภายในจิตใจ มันคือความกลัวที่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเองเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ กลัวว่าเธอจะไม่ติดต่อกลับมาอีก
จดหมายของเธอส่งมาถึงวันที่ 1 พฤษภาคม ของปีนี้พอดี มันตรงกับวันที่เธอได้รับจดหมายจากลูกลุงผมพอดี แล้วตอนนี้มันก็กลับมาหาเขาในวันที่หนึ่ง มันเหมือนลางสังหรณ์ เหมือนลางไม่ดี อะไรสักอย่างที่ผมไม่สามารถอธิบายได้ ภายใต้ความรู้สึกแปลกๆ นี้ ทำให้ผมไม่อยากออกไปจากบ้านหลังเก่าที่ผมมักใช้เป็นที่พักใจเป็นครั้งคราว อยากจะรอจดหมายฉบับต่อไปจากเธออยู่ที่นี่ จนกว่าจะได้รับคำตอบ ไม่อยากคลาดแม้เสี้ยววินาที เหมือนที่เขียนอะไรลงไปในจดหมายฉบับล่าสุดที่จ่าหน้าซองถึงเธอ มันเป็นความฟุ้งซ่านและงี่เง่าที่ผมเพิ่งนึกได้แล้วบรรยายลงไปอย่างสิ้นคิด แล้วก็รู้สึกผิดอย่างมากที่ส่งความงี่เง่าไปให้เธออ่าน แต่เธอก็ยังตอบกลับมาอย่างดี แต่เลวร้ายกับข่าวใหม่ที่ผมไม่อยากได้ยินเสียเลย คือ ข่าวการย้ายที่อยู่ของเธอ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เรื่องนี้นาตอัพช้าหน่อยนะคะ
เพราะว่าแต่งยาก และนาตยังไม่ได้จับจริงจัง
รอ Vampire Wicked รักเกินพิกัดร้ายเจ้าชายแวมไพร์แสนกล จบก่อนจะจับจริงจังเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆ นะคะที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้กัน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

บอกตามตรงเพิ่งมีโอกาสติดตามผลงาน
ใน เด็กดีแบบจริงๆจังๆ
แล้วรู้มั้ยคะ เรื่องของคุณเป็นเรื่องแรก
ที่ฉันยอมเสียเวลา เพ่งอ่านตัวหนังสือในคอม
ขอยกนิ้วให้เลยค่ะ
ภาษาเขียนเยี่ยมมาก ไร้ที่ติ
ให้อารมณ์วรรณกรรมสากล
อ่านแล้วชอบมากค่ะๆ
แต่ตอนนี้ง่วงละค่ะ สมองไม่รับแล้ว
เอาเป็นว่า เซฟเปน แฟนพันธ์แท้ก่อนละกัน
55555
อ่านแล้วนึกอยากเขียนจดหมายหาใครสักคนอีกจัง
คงเป็นคู่รักที่น่ารักมากแน่
แต่.... มันมีแต่ล่ะ
คำผิดน่ะคะ
ระเหี่ย - ละเหี่ย
วัชรพืช - วัชพืช
จะติดตามตอนต่อไปนะคะ
ใครจะเป็นพระเอกเรื่องนี้กันเนี่ยยย ดูไม่ออกเลยทีเดียว =..=///
พี่ต้องไปรื้อฟื้นความทรงจำอีกสักระยะ ตอนนี้กำลังลั้นล้ากับบรรดาชาวคลีฟ
จริงๆ อยากแต่งต่อแล้วแหละ แต่อารมณ์ยังมาไม่ถึง ยังไม่โรแมนติกค่ะ >O<
ตอนนี้เตรียมโปสเตอร์แล้วค่ะ โฮ๊ก ที่จริงแต่งไว้อีกเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นนั้นไม่ได้ต่อ
อันนี้เวอร์ชั่นใหม่ เวอร์ชั่นนั้นจะอธิบายถึงลักษณะของพระเอกพระรองไว้แรกๆ เลย
แต่ตอนนี้พี่อยากให้มาร์ชาอธิบายภาพที่เธอเห็นออกมามากกว่า เลยต้องใช้เวลาอีกสักพัก
พี่แอบหวั่นไหวตามหนูตอนเล่า ตื่นเต้นมาก
อันที่จริงส่งจดหมายให้เพื่อนต่างโรงเรียนนี่พี่ไม่เคยทำเหมือนกัน
ส่วนเลขที่อะไรนั้น จินตนาการหมดเลย ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนเจอแบบนี้เหมือนกัน
เพราะพี่อยากแต่งเรื่องนี้ตอนนั่งดูรายการหนึ่งที่มีเด็กผู้ชายเขาไปแลกเปลี่ยน
และเด็กคนนั้นเขาโตหน่อย ในบ้านมีเด็กผู้หญิงน่ารักนั่งมองเขา
พี่ว่าจะแต่งประมาณว่าให้สองคนนี้ติดต่อกัน แต่พอดีนึกถึงมาร์ชา (เธอเป็นตัวละครจากนิยายเรื่อง Last Summer ค่ะ เป็นลูกของตัวละคร =O=) พี่เลยเอามาร์ชามาเขียนต่อ
ดีใจที่หนูชอบ ขอบิ้วอารมณ์ก่อนน่าจะแต่งพร้อมเด็กๆ แห่งคลีฟอีกสองคน ตอนนี้ดองๆ ไปก่อน เอาโปสเตอร์ใหม่มาแปะ >O<
ความจริงอยากเก็บจดหมายฉบับนั้นไว้แต่เพราะย้ายโรงเรียนเสียก่อนก็เลยไม่ได้รับชิ้นงานสมัย ม. 1 เทอมแรกคืน รวมไปถึงจดหมายฉบับนั้นด้วย
ป.ล. จะรอพี่นาตมาอัพสาวน้อยฤดูใบไม้ผลิกับหนุ่มน้อยผู้โดดเดี่ยว
สู้ๆค่ะ :)
จะไปรออยู่ที่ลูคัสนะคะ
หวา อารมณ์ค้างอ่ะ
อย่าลืมอัพน้า
จบลูคแล้วอย่าลืมมาอัพๆนะคะ สู้ๆคร้าบบบบ