Age Of War
ดวงวิญญาณของเอรีสได้ถูกขโมยโดยเทพทั้งสาม เธอถูกทำให้ตื่นขึ้นในโลกแห่งสงครามที่ไร้อารยธรรม เพื่อการอยู่รอดของตัวเองและเพื่อนร่วมสายพันธุ์นับล้านชีวิต การสร้างสังคมมนุษย์นับแต่ยุคหินจึงได้เริ่มต้นขึ้น
ผู้เข้าชมรวม
9,308
ผู้เข้าชมเดือนนี้
57
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ปฐมบท
ณ โลกแห่งความตาย
เหล่าเทพเจ้าระดับล่างผู้เบื่อหน่าย ต่างกำลังเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเชื่องช้า
ทิวแถวของดวงวิญญาณ ต่างยังคงเข้าเรียงอย่างเป็นระบบระเบียบดั่งเช่นเคย
ไม่มีวิญญาณตายดวงไหนจะโง่งมพอต่อต้านเหล่าผู้คุมที่เป็นเทพเหล่านี้
ดังนั้นนี่จึงเป็นงานที่น่าเบื่อยิ่งนัก
“ไม่มีอะไรสนุกให้ทำเลยดอกหรือ? ”
เทพผู้ไร้หน้าได้เอยอย่างเลื่อนลอย
“ดูโลกคนเป็นแก้เซ็งไหมละ? ”
เทพผู้ไร้แขนอีกตนได้เสนอความเห็น
“หรือว่าจะสร้างภัยพิบัติเล่นดี? ”
เทพผู้ไร้ขาได้เสนออีกความเห็นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แต่เทพทั้งสามองค์กลับรู้สึกว่าไม่มีสิ่งใดในข้อเสนอเหล่านั้นที่น่าสนใจเลยสักนิด
ระหว่างที่เทพไร้หน้าจ้องมองทิวแถวของดวงวิญญาณชั้นต่ำ เขาก็ได้ไอเดียบางอย่างขึ้นมา
“พวกแกคิดว่าสิ่งมีชีวิตใดแข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล? ”
เป็นเทพไร้หน้าที่ยิงคำถามขึ้นมา
“ข้าเองก็ไม่รู้”
“งั้นพวกเรามาสร้างโลกจำลอง แล้วให้ไอดวงวิญญาณพวกนั้นมาทำสงครามเล่นกันดีไหม? ”
“น่าสนใจดีนี่”
แทพไร้ขาตอบรับเห็นด้วยกับความคิดนี้
“เดียวเทพระดับสูงก็ได้เล่นงานพวกเราหรอก”
แต่เทพไร้แขนรีบส่ายหัวอย่างหวาดกลัว
“กลัวไปได้เอ็ง ดวงวิญญาณจากโลกคนตายมีนับพันล้านไม่อาจนับไหวจากทั่วทั้งจักรวาล พวกเราแค่หยิบสุ่มมาเผ่าละล้านดวงวิญญาณ แล้วสร้างโลกจำลองให้พวกมันทำสงครามเพื่อหาสุดยอดสิ่งมีชีวิตกันดีกว่า? ”
“ใช่ ๆ ดึงสุ่มมาสักหกเผ่าพันธ์ุ ผู้ทรงปัญญาสอง ผู้เปี่ยมไปด้วยพลังสอง และผู้คงชีวิตได้ทุกสภาวะแวดล้อมอีกสองเป็นยังไงละ? ”
“เออ ข้า…”
““น่าสนุกออก! ””
ด้วยการรบเร้าของเทพทั้งสององค์ เลยทำให้เทพไร้แขนยอมรับข้อเสนอของเทพทั้งสอง
พวกเขาได้หลบเลี่ยงสายตาของเทพระดับสูง
ใช้อำนาจสร้างโลกจำลองขนาดเล็กขึ้นมา
แสงสว่าง มายามิติ ธรรมชาติที่จำเป็นต่อชีวิต
รวมไปถึงวางกฏเล็กน้อย เพื่อบีบบังคับให้ทั้งหกเผ่าที่พวกเขาสุ่มเลือก ต้องทำสงครามกันเอง
เกิดแสงสว่างปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
โลกที่มีรูปร่างแบนราบ และถูกสร้างมาอย่างหยาบได้ถือกำเนิดขึ้น
คริสตั้นทั้งหกอันเป็นบ่อกำเนิดชีวิตของทั้งหกเผ่าได้ถูกวางรากฐานลงไปบนโลกนั้น
ผืนทะเลได้ถูกจัดวางลงไปอย่างไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ
อากาศ อาหาร และสิ่งแวดล้อมจำเป็นได้ถูกสร้าง เพื่อให้เผ่าทั้งหกอาศัยอยู่ได้
เผ่าทั้งหกได้ถูกเลือกสรรค์ แล้วส่งลงไปถือกำเนิด
มอบร่างที่ไม่มีวันแก่ และคงรูปลักษณ์ในช่วงวัยที่เหมาะแก่การต่อสู้ให้พวกเขา
มอบความทรงจำ เพื่อให้พวกเขารู้จักต่อสู้นับแต่ที่ก่อกำเนิด
เพื่อไม่ให้เหล่าเทพระดับสูงรู้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย จึงได้ถูกสร้างให้เป็นวัฐจักรปิดภายในโลกแห่งนี้
ไม่มีซึ่งอวกาศ และกาลเวลาของโลกภายนอก
เป็นเสมือนมิติที่แปลกแยกออกมาอย่างชัดเจน
ไม่มีการถือกำเนิดของบุตร เพราะดวงวิญญาณที่ถูกฆ่าตาย จะก่อร่าง สร้างใหม่ด้วยคริสตั้นทั้งหกที่เทพไร้หน้า เทพไร้แขน และเทพไร้ขาได้รังสรรค์สร้างเอาไว้
เพื่อให้เผ่าทั้งหกต้องเข่นฆ่าทำสงครามกัน เหล่าเทพทั้งสามจึงตั้งกฏอันน่ากลัวขึ้น
หนึ่งคือการวางระบบทรัพยากรณ์
แผ่นดินของโลกนี้ มิใช่ทรงกลม หากแต่เป็นโลกที่แบนราบ
หากวิ่งออกนอกขอบเขตมิติ มันผู้นั้นจะถูกแรงดันมหาศาลบีบอัดจนตายลง
และแต่ละเผ่าก็มีการกิน และความต้องการทรัพยากรณ์ที่แตกต่างกัน
รวมไปถึงสภาพแวดล้อมของการดำรงชีพ
เพราะแต่เดิมก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากดวงดาวที่ต่างกันอยู่แล้ว
ดังนั้น หากใครครองดินแดนได้มาก พวกเขาก็จะมีทรัพยากรณ์ในการดำรงชีพมากตาม
การแก่งแย่งจึงบังเกิด
ไม่มีใครยอมให้เผ่าพันธุ์ตัวเองอดยากแร้นแค้นแน่นอน
สองคือการกำหนดวันสิ้นโลก
ดินแดนทั้งหกจะถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนเท่า ๆ กัน
ทั้งแม่น้ำ อากาศ และหุบเขา
แผ่นดิน ผืนป่า และผืนทะเล
แผ่นดินทั้งหก จะถูกกรัดกร่อนให้ลดลง
พวกเขาจะถูกบีบคั้นให้ทำสงครามเพื่อแย่งชิงแผ่นดินซึ่งกันและกัน
สามคือการเปิดทางรอด
เทพทั้งสามได้แสดงปาฏิหาริย์ของเทพให้พวกสัตว์ผู้ทรงภูมิปัญหาทั้งหกเผ่า
ทำให้หลงเชื่ออย่างโง่งมว่าตัวเองต้องทำลายศัตรูต่างเผ่า
“หนทางการหยุดยั้งจุดจบของโลก มีเพียงแค่ทำลายคริสตั้นแห่งชีวิตของต่างเผ่าเท่านั้น เพราะพลังของคริสตั้นทั้งหก มีมากเกินไปจนกลืนกินแผ่นดินของโลกนี้”
นั่นคือสิ่งที่เหล่าเทพทั้งสามได้แสดงปาฏิหาริย์ลงไป
ด้วยความที่โลกนี้มิอาจให้กำเนิดบุตรตามธรรมชาติได้ เพราะถูกอำนาจของเทพเข้าขัดขวาง
คริสตั้นแห่งชีวิตจึงเปรียบได้ดั่งชีวิตของพวกเขา
พวกเขาจะปกป้องคริสตั้นของตนอย่างสุดชีวิต
และในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็จะทำสงครามอย่างสุดชีวิตเพื่อทำลายคริสตั้นของศัตรูต่างเผ่าพันธ์ุ
เมื่อวางรากฐานทุกอย่างพร้อมแล้ว เทพไร้หน้า เทพไร้แขน และเทพไร้ขาก็ได้ส่งดวงวิญญาณของทั้งหกเผ่าลงไปถือกำเนิดพร้อมความทรงจำ
เผ่า [มนุษย์] จากดาวที่ชื่อว่าโลก ตัวแทนของสิ่งมีชีวิตเลี้ยงลูกด้วยนมสองขา ที่ทรงภูมิระดับกลาง
เผ่า [ภูติ] จากดาวสีเขียวในอีกระบบกาแล็คซี่ ตัวแทนของสิ่งมีชีวิตเลี้ยงลูกด้วยนมสองขา ที่ทรงภูมิระดับสูงซึ่งร่างกายอ่อนแอ
เผ่า [ยักษ์] จากดาวที่แห้งแล้งและโหดร้าย ตัวแทนของสิ่งมีชีวิตเลี้ยงลูกด้วยนมสองขา ที่ทรงภูมิระดับกลางซึ่งมีร่างกายอันแข็งแกร่งเป็นจุดขาย
เผ่า [อาร์โธรโพดา] จากดาวที่เต็มไปด้วยดิน ตัวแทนของสิ่งมีชีวิตประเภทสัตว์ขาปล้อง (แมลง)
เผ่า [เผ่าปักษา] จากดาวที่เต็มไปด้วยมหาสมุทร ตัวแทนของสิ่งมีชีวิตที่ครอบครองท้องฟ้า
และสุดท้าย เผ่า [โพรแคริโอต] ตัวแทนของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่ไร้ซึ่งสติปัญหาและความแข็งแกร่ง
“แด่เหล่าวิญญาณผู้ถูกเลือกทั้งหลาย จะมีเพียงเผ่าเดียวเท่านั้น ที่จะได้รับชีวิตใหม่”
“พวกเจ้าคือผู้ที่ตายลง เป็นวิญญาณบาป และมิอาจได้รับชีวิตใหม่”
“นี่คือบทลงโทษของบาปที่พวกเจ้าได้ก่อเอาไว้”
“จงต่อสู้เพื่อชีวิต”
“หากไม่ต่อสู้ ก็จงจมสู่ห้วงลึกแห่งขุมนรก มิอาจได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป”
เวทีสงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ผลงานอื่นๆ ของ Diamos ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Diamos
ความคิดเห็น