14เดือนที่ผ่านไปมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นไม่น้อย แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขามากสักเท่าไหร่ อย่างมากก็แค่เลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ปี2 มีพวกปี1เป็นรุ่นน้อง และยังคงได้รับความเคารพจากเหล่านักเรียนรุ่นน้องรุ่นเดียวกันหรือแม้แต่รุ่นพี่ด้วยความที่เป็นนักเรียนห้องS
ในหอพักก็มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเล็กน้อย เพราะเมื่อเจ็ดเดือนที่แล้วเป็นเวลาที่เหล่ารุ่นพี่ปี4ต้องจบการศึกษา ดิเอโก้ ไบรอัน และเทียจึงแยกย้ายกันไปจัดการเส้นทางของตัวเอง อย่างดิเอโก้ก็ไปสอบเป็นขุนนางและสร้างผลงานปราบพวกคนที่กำลังคิดจะตั้งตัวเป็นกบฏของอณาจักรวินเซนต์ได้สำเร็จและได้รับการแต่งตั้งเป็นไวเเคานต์ ส่วนเซเลสเทียก็ได้เข้าไปเป็นคนทำวิจัยคนสำคัญของสภาเวทมนต์ที่คอยวิจัยและพัฒนาสิ่งต่างๆเกี่ยวกับเวทมนต์ ซึ่งสภานี้นับว่าเป็นองค์กรที่ใหญ่และได้รับความสำคัญพอสมควร เพราะมันถูกสร้างขึ้นโดยทั้งสามเผ่า ฝ่ายไบรอันก็ไม่น้อยหน้า เขาไปสมัครเป็นทหารที่อาณาจักรวินเซนต์และเลื่อนจำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆเป็นนายกองคนสำคัญที่อีกไม่กี่ปีน่าจะได้เป็นหนึ่งในแม่ทัพเพราะฝีมืออันโดดเด่นและมันสมองที่สามารถวางค่ายกลได้อย่างแยบยล
อดีตพี่ใหญ่แห่งหอพักSทั้งสามเลือกเส้นทางตามที่ตนเคยตั่งใจเอาไว้และเป็นไปด้วยดี แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงแวะเวียนกลับมาเยี่ยมเยียนและให้คำปรึกษาแก่เหล่ารุ่นน้องทั้งหลายที่ยังคงศึกษาอยู่ เพราะถึงจะเรียนจบไปแล้ว แต่สายสัมพันธ์ที่นับถือกันเป็นพี่น้องก็ใช่ว่าจะจบตามไปด้วย ยิ่งอีกไม่นานจะมีสงครามงานประลองครั้งยิ่งใหญ่ พวกเขาจึงกลับมาเพื่อช่วยเหลือและคอยดูแลเหล่ารุ่นน้องที่ยังคงถือว่าเด็กและอ่อนประสบการณ์อยู่
" ถึงจะบอกว่างานประลองจะจัดขึ้นในอีกสองเดือน แต่จริงๆแล้วคงต้องบอกว่าเป็นอีก1เดือนมากกว่า"
" ทำไมล่ะครับ?"
" อย่างที่เคยบอกว่างานนี้เป็นงานใหญ่ คนที่จะเข้าร่วมก็มีเยอะมาก ดังนั้นทางสภาเวทมนต์ที่รับผิดชอบดูแลเรื่องเกี่ยวกับสงครามโอไรน่าเบลารุสนี้จึงต้องจัดการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันก่อนรอบหนึ่ง แล้วถึงจะค่อยมีการแข่งขันรอบจริงอีกที ซึ่งการแข่งรอบคัดเลือกเนี่ย คนที่ไม่ผ่านจะไม่สามารถเข้าไปแข่งในรอบจริงได้ แต่ว่าถ้ามีเส้นใหญ่หน่อย หรือลงแข่งในนามขององค์กรใหญ่ๆก็อาจจะขอใช้สิทธิพิเศษผ่านเข้าไปรอแข่งรอบจริงได้เลย ซึ่งโรงเรียนเราก็มีสิทธิพิเศษนั้นเหมือนกัน
แต่ผอ.ของเราบอกมาแล้วนะ ว่าจะไม่ใช้สิทธิพิเศษเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้หาว่าเราโกงจนผ่านเข้ารอบจริง เพราะถึงองค์กรที่มีสิทธิพิเศษนี้ส่วยมากจะใช้กัน แต่โรวเรียนเราจะไม่ใช้อย่างเด็ดขาด ส่วนหนึ่งก็เพื่อกันไม่ให้ตัวพวกนายตกเป็นเป้าสายตาแล้วโดนเอาไปนินทาลับหลังนะ
อีกอย่างคือเราต้องเผื่อเวลาฝึกซ้อมเตรียมตัวอีกด้วย การแข่งนี้เลยแบ่งออกเป็นสามช่วง คือช่วงฝึกซ้อม ช่วงการแข่งรอบคัดเลือกและช่วงการแข่งจริง"
" ส่วนหัวข้อการแข่งจริงก็จะแบ่งออกเป็นสองหัวข้อใหญ่ๆ คือด้านสติปัญญาและด้านร่างกายหรือการต่อสู้นั่นแหละ แต่ส่วนมากรอบแรกๆจะเป็นการต่อสู้ซะมากกว่า พอถึงรอบลึกๆถึงจะเป็นการทดสอบด้านปัญญา แต่นี่เป็นแค่หัวข้อนะ รอบการสอบมันมีหลายแบบมาก อย่างด้านร่างกายก็อาจจะให้ฝ่าด่านที่มีแต่อันตราย คนที่รอดถึงจะเข้ารอบ แล้วพอผ่านเข้าไปหน่อยก็อาจจะมีการจับคู่ให้ต่อสู้กันหรือบางรอบอาจจะมีให้จับคู่กันแล้วต่อสู้ อันนี้พวกพี่ก็ไม่แน่ใยนัก เพราะการแข่งแต่ละปีค่อนข้างจะแตกต่างกันพอสมควร
ส่วนเรื่องกฎ อย่างที่เคยบอกว่ามันไม่ค่อยจะมีอะไรยุ่งยาก และกฎการแข่งขันในแต่ะละรอบก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นพวกนายก็ไม่ต้องไปใส่ใจมันมาก ไปรอฟังกฎอีกทีตอนเขาประกาศการแข่งแต่ละรอบจะดีกว่า"
" ก็แค่นี้แหละ มีใครสงสัยอะไรมั้ย?" เซเลสเทียพูดขึ้นเมื่อเพื่อนและเธออธิบายรายละเอียดส่วนต่างๆจบ
" ไม่มีครับ/ไม่มีค่ะ"
" จริงสิ"
" หืม? มีอะไรเหรอ?" ไบรอันหันไปถามเดียโก้ที่จู่ๆก็ส่งเสียงออกมา
" พวกเรายังไม่บอกสถานที่แข่งกับช่วงฝึกซ้อมเลย" คำตอบนั้นทำให้เซเลสเทียและไบรอันนึกได้ถึงเรื่องที่ลืมพูด
" อา...ขอโทษที พวกพี่ลืมไปซะสนิทเลย"
" เรื่องสถานที่แข่งนะ งานโอไรน่าเบลารุสมักจะจัดที่เดิมทุกๆครั้ง และที่นั่นก็คือ 'เกาะโอไรอ้อน' อย่างที่เคยบอกไป"
" เกาะโอไรอ้อนเหรอคะ?"
" ใช่ เกาะนี้เป็นเกาะที่ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงกันมากนัก แต่จริงๆแล้วประวัติของมันน่าสนใจมากเลยนะ ว่ากันว่าองค์จักรพรรดิทั้งสองทรงเลือกบริเวณที่เป็นพรมแดนของทั้งสามเผ่า หรือก็คือจุดที่เป็นบริเวณใจกลางมหาสมุทร ทำให้แผ่นดินใต้นํ้าทะเลนั้นยกตัวสูงขึ้นมาจนกลายเป็นเกาะรูปหกเหลี่ยม และได้ก่อสร้างสเตเดี้ยมลอยฟ้าขึ้นบนยอดใจกลางเกาะ ส่วนบนเกาะก็ถูกทำให้โล่งเตียนเพื่อที่จะให้คนของทั้งสามเผ่าบางส่วนมาอยู่อาศัยและคงพื้นที่บางส่วนไว้ให้เป็นธรรมชาติ ทำให้เกาะนั้นเป็นเหมือนเกาะในฝันเลยล่ะ
แต่ยังไงก็ตาม เกาะนั้นถูกองค์จักรพรรดิทั้งสองสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นสถานที่จัดสงครามโอไรน่าเบลารุสเท่านั้น คนที่อยู่ที่นั่นได้เลยมีแค่คนที่คอยรับผิดชอบงานนั่นและคนดูแลเท่านั้น อาจจะมีบ้างที่เป็นทายาทของคนในช่วงยุคแรกๆที่ได้รับอนุญาตและเข้าไปตั้งถิ่นฐานที่นั่น แต่ก็มีไม่เยอะหรอก แต่พูดง่ายๆคือ ถ้าได้ไปแล้วก็ควรจะเก็บทุกรายละเอียดเอาไว้ล่ะ เพราะที่นั่นมันสวยมากจริงๆ" เซเลสเทียได้ทีพูดใหญ่คนเพื่อนชายส่ายหน้าระอา
" พูดเพ้อเหมือนเคยเห็นเกาะนั่นงั้นแหละ" ไบรอันพูดตามใจคิด
" แค่ฟังลักษณะจากในหนังสือก็รู้แล้วว่าต้องสวย ยิ่งที่นั่นถูกสร้างขึ้นโดยองค์จักรพรรดิทั้งสองก็ยิ่งต้องสวยมากแน่ๆ คนอย่างนายไม่มีทางเข้าใจหรอกย่ะ" พูดจบก็สะบัดหน้าหนีทันที คนที่ฟังก็อมยิ้มและหลุดหัวเราะออกมาบ้าง เห็นทีก็คงจะมีแต่คนที่ถูกเอ้ยชมอย่างองค์จักรพรรดิทั้งสองเท่านั้นแหละที่ยังคงยิ้มแห้งๆ
ไอ้ที่ว่าสวยมันก็น่าจะสวยอยู่หรอก แต่คนภายนอกคงจะไม่รู้ความคิดขององค์จักรพรรดิทั้งสองไม่เหมือนกับพวกเขาล่ะมั้ง? ก็แน่ล่ะ องค์จักรพรรดินั่นมันพวกเขานี่ ถึงจะเป็นในอดีต แต่อย่างน้อยพวกเขาก็รู้ความคิดตัวเองดี
สงครามโอไรน่าเบลารุสถูกจัดขึ้นเพื่อค้นหาคนที่มีความสามารถของยุคนั้น? เหอะ! ถ้าจะให้เดา พวกเขาในตอนนั้นคงจะเบื่อ เลยอยากให้มีงานอะไรบางอย่างที่จัดขึ้นเพื่อสร้างความสนุกให้ตัวเองมากกว่า และการมองดูสิ่งมีชีวิตเล็กๆมาต่อสู้ฆ่าฟันกันเองก็คงจะสนุกไม่น้อย...ขนาดตัวพวกเขาในตอนนี้ยังมองว่าน่าสนุกเลย
ดิเอโก้เลิกสนใจเพื่อนร่วมรุ่นอีกสองคนแล้วอธิบายต่ "สรุปอีกที สถานที่แข่งรอบจริงและรอบคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันคือที่เกาะโอไรอ้อน ส่วนวิธีไปทางโรงเรียนจะรับผิดชอบเอง เรื่องการฝึกซ้อม การแข่งขันทั้งสองรอบจะมีในช่วงที่เราปิดเทอมพักร้อนพอดี แต่การคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันนั้นจะมีในอีก1เดือนหรือก็คือหลังจากที่เราปิดเทอมไปแล้วแค่1เดือนเท่านั้น และนั่นหมายความว่าเราจะมีเวลาซ้อมแค่1เดือนด้วยเช่นกัน
เพราะด้วยการแข่งที่เลื่อนเข้ามาอย่างกะทันหัน ช่วง1เดือนนี้ที่เราจะเก็บตัวฝึกซ้อม เราจะได้อาจารย์ที่สอนพวกเราอยู่มาช่วยฝึกติวเข้มให้ เช่นอาจารย์ลินโด อาจารย์อเล็กซ์ และขอบอกเลยว่างานใหญ่แบบนี้ อาจารย์เขาจริงจังมาก เตรียมตัวไว้ให้ดีล่ะ"
"..."
ไร้เสียงตอบรับจากเหล่ารุ่นน้องที่คล้ายว่าจะสติหลุดไปแล้ว
" เห้อ" สามพี่ใหญ่ที่จบไปแล้วได้แต่ถอนหายใจ
ก็เข้าใจความรู้สึกนะ พวกเขาเคยอยู่ปี1 ตอนนั้นคิดว่าอาจารย์โหดแล้วนะ ที่ไหนได้ ยิ่งเลื่อนชั้นอาจารย์เขาก็ยิ่งโหด แล้วเด็กตรงนี้เด็กสุดก็ปี2 อีกตั้ง2ปีกว่าจะจบ ต้องทนรับความโหดของอาจารย์ที่จะเพิ่มระดับขึ้นไปอีก2ขั้น เห้อ
" พอๆ ดึงสติกลับมา ฉันยังไม่พูดถึงสถานที่ฝึกซ้อมเลยนะ"
" อ่า...ครับ/ค่ะ"
" คนที่จะเข้าร่วมศึกโอไรน่าเบลารุสทั้งรอบจริงและรอบคัดเลือกสามารถเข้าไปที่เกาะโอไรอ้อนได้ เพราะงานนี้มีข้ออนุญาตที่ว่า ผู้เข้าแข่งขันสามารถไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่เกาะโอไรอ้อนได้ เพราะบางคนอาจไม่สะดวกที่จะเดินทางไปเข้าคัดเลือกแบบกะทันหัน เลยให้ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่นั่นก่อนการแข่งขันรอบคัดเลือกได้ และทางโรงเรียนก็คิดเห็นว่าจะให้ตัวแทนนักเรียนอย่างพวกเราไปฝึกซ้อมที่นั่น เพราะเกาะโอไรอ้อนน่าจะช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับพวกนายก่อนแข่งได้"
" จริงเหรอครับ?!"
" อืม มีใครติดปัญหาอะไรมั้ย? เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเราจะได้ไปที่เกาะโอไรอ้อนพร้อมกัน"
" รุ่นพี่ครับ ช่วงต้นเดือนแรกที่ปิดเทอมผมต้องกลับแดนปีศาจครับ" ราฟโพล่งออกไปทำให้ทุกคนหันมามอง
สาบานได้ว่าเขาไม่ได้ต้องการที่จะหนีงานนี้ เพราะมันเป็นงานที่น่าจะสนุกน่าดู แต่ในเมื่อเจ้าพ่อที่ไม่เคยใส่ใจเขาคนนั้นเรียกตัว ใครมันจะไปขัดได้?
" ไม่ไปไม่ได้เหรอ?" ไบรอันถามต่อ เพราะถ้าตามที่ราฟบอก ช่วงต้นเดือนที่รุ่นน้องคนนี้ต้องกลับแดนปีศาจมันจะทำให้เสียเวลาฝึกซ้อมไปพอสมควร
" องค์ราชาแดนปีศาจคงไม่ยอมครับ"
" เห้อ ถ้าเป็นคำสั่งขององค์ราชาแดนปีศาจก็คงจะขัดไม่ได้ งั้นนายไปแดนปีศาจก่อน แล้วมาที่เกาะโอไรอ้อนก่อนวันแข่งรอบคัดเลือกได้ได้มั้ย? ฉันไม่อยากให้ผอ.ต้องใช้สิทธิพิเศษ"
" ได้ครับ"
" มีใครมีปัญหาอีกมั้ย?"
"..."
" ถ้างั้นก็ตามนี้ เตรียมเก็บของให้ดี เพราะอีก3วันเราจะต้องไปที่เกาะโอไรอ้อน ยกเว้นแค่ราฟที่จะตามมาสมทบกะบเราทีหลัง ตามนี้นะ"
" ครับ!/ค่ะ!"
แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะผิดแผนไปเล็กน้อย เมื่อ1วันก่อนออกเดินทาง ท่านดยุคลำดับที่1ผู้ยิ่งใหญ่ในทั้งสามเผ่าใาปรากฏตัวอยู่ที่ห้องโถงปราสาทที่พักห้องS พร้อมทั้งเรียกหาลูกสาวสุดที่รักปานจะขาดใจพร้อมกับคำพูดและจดหมายประกอบอีกหนึ่งฉบับ
" โรสลูกรัก! ท่านลุงของเจ้าที่แดนปีศาจอยากให้เจ้าไปเยี่ยม เจ้าอยากไปมั้ย? ถ้าเจ้าไม่อยากไป พ่อจะปฏิเสธให้ทันทีเลย" อาจฟังดูเป็นประโยคคำถาม แต่ในใจของดยุควาเรนเซียรํ่าร้องใจจะขาดให้ลูกสาวผู้น่ารักของตนตอบว่าไม่อยากไป
" คะ? ท่านลุงเด็มอยากให้โรสไปเยี่ยมเหรอคะ?"
" ใช่แล้ว" คราวนี้ดยุควาเรนเซียยื่นจดหมายที่มาจากแดนปีศาจ และผู้ส่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากองค์ราชาแห่งแดนปีศาจองค์ปัจจุบันหรือก็คือพ่อของราฟในโลกนี้
" อืม..."
"..."
" โรสไปก็ได้ค่ะ โรสไม่ได้เจอท่านลุงนานแล้วด้วย แต่ว่าไปได้แค่ไม่นานนะคะ เพราะโรสต้องไปแข่งงานประลองโอไรน่าเบลารุสรอบคัดเลือกต่อ"
ดยุควาเรนเซียแทบล้มทั้งยืนให้กับความกตัญญูของลูกสาวสุดที่รักซึ่งมีมากเกินเหตุ แต่เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้ ก็ในเมื่อลูกสาวเขาโตแล้ว ก็ควรจะได้ใช้ชีวิตตามที่ตัวเองตัดสินใจ ดูอย่างเมื่อวันก่อนสิ ลูกรักเขาส่งจดหมายมาบอกว่าตัวเองกับพี่ชายทั้งสองคนได้เป็นตัวแทนไปแข่งในสงครามโอไรน่าเบลารุส เขาก็ยิ้มดีใจกับความสามารถของลูกสาวตัวน้อยและลูกชายอีกสองคน แถมยังยิ้มจนเจ้าริโด้มันหาว่าเป็นบ้าทั้งๆที่ตัวมันเองก็ยิ้มที่ลูกมันได้ไปแข่งเหมือนกัน หึ!
" เดี๋ยวพ่อไปด้วยดีมั้ย?" ท่านดยุคถามไป ในหัวก็วางแผนจัดการพวกแมลงทั้งหลายที่จะมายุ่มย่ามกับลูกสาวตัวเองไปด้วย อีกทั้งยังคิดว่าปิดเทอมนี้จะพาลูกไปเที่ยวที่ไหนดี
" ไม่ต้องหรอกค่ะ โรสไม่อยากรบกวนงานท่านพ่อ"
คล้ายว่าฝันของท่านดยุคผู้ยิ่งใหญ่จะสลายไปด้วยคำพูดอันมาจากความหวังดีของลูกสาว แต่แล้วมันก็กลับมางดงามดังเดิมด้วยคำพูดจากลูกสาวตัวน้อยของเขา
" ไว้โรสแข่งงานโอไรน่าเบลารุสเสร็จเมื่อไหร่ โรสจะพาท่านพ่อไปทะเล ดีมั้ยคะ? หรือว่าไปแดนเทพไปเยี่ยมท่านลุงสเตฟานดี? อืม..."
" พ่อไปไหนด็ได้ทั้งนั้น แค่ลูกไปด้วยก็พอแล้ว" ท่าทางเหมือนเด็กน้อยกำลังเลือกของเล่นนั่นทำให้เขาอดหอมแก้มลูกสาวตัวน้อยเหมือนที่เคยทำในอดีตไม่ได้
" อะแฮ่ม! แล้วสรุปว่าน้องจะไปที่แดนปีศาจใช่มั้ย?" คริสเดินเข้ามาถามน้องน้อยของเขา
" ค่ะ"
" งั้นพวกพี่จะไปเป็ยเพื่อนเอง" แดนพูดต่อ แต่โรสกลับส่ายหน้า
" ไม่ต้องหรอกค่ะ พวกพี่ไปฝึกซ้อมเก็บตัวที่เกาะโอไรอ้อนดีกว่านะคะ" แล้วฝันของสองพี่น้องก็แตกสลายไปราวกับเศษแก้ว ดยุควาเรนเซียยิ้มเยาะเย้ยให้ลูกชายทั้งสองอย่างสะใจ ถ้าเขาไม่ได้ไป เจ้าสองคนนี้ก็ต้องไม่ได้ไป!
" จะดีเหรอ?"
" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ที่นั่นโรสมีท่านลุงเด็มแล้วไหนจะราฟอีก อีกอย่าง คงไม่มีใครโง่พอจะทำร้ายท่านหญิงแห่งวาเรนเซียหรอกนะคะ"
ฮืออออ โธ่! ลูกน้อยผู้น่ารักและใสซื่อของพ่อ!/พี่! เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้...แล้วไหนจะราฟอีก งั้นเหรอ?
" ท่านดยุคครับ องค์ราชาริโด้ส่งคนมาตามท่านให้รีบกลับไปทำงานต่อได้แล้วครับ"
" อ้าว! ถ้างั้นโรสไม่รบกวนท่านพ่อแล้วนะคะ"พูดจบก็ลุกออกไปทันที ทิ้งให้ท่านพ่อและท่านพี่ของเธอนั่งประมวลผลบางอย่างในสมอง
และกว่าพวกเขาจะรู้ตัวและคำนวณบางอย่างเสร็จ น้องและลูกสุดที่นักก็จากไปแล้ว แต่ยังคงมีคนที่พวกเขาต้องคิดบัญชีด้วยอยู่
" ราฟาเอล ทาทารอส!"
" จากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะครับ คุณพ่อ(ตา) คุณพี่(เขย) หึ!" คำพูดบาดใจสามพ่อลูกตระกูลวาเรนเซียมาพร้อมกับรอยยิ้มของผู้ชนะ
และเพราะแบบนั้นนั่นแหละ คนที่จะเดินทางไปยังเกาะโอไรอ้อนเลยต้องตัดโรสไปด้วยอีกคน แล้วไปเพิ่มในรายชื่อคนที่จะต้องเดินทางไปแดนปีศาจแทน
2วันต่อมา
" ท่านดยุคหวงลูกสาวอย่างที่ฉันคิดไม่มีผิด"
" ก็แล้วนายคิดว่ามันเพราะอะไรล่ะ?" โรสตอบกลับพร้อมหัวเราะแห้งๆ
ตอนนี้เธอกับราฟอยู่ในรถม้าที่กำลังมุ่งหน้าไปยังแดนปีศาจ อีกทั้งยังมีคนคุ้มหรือบอร์ดี้การ์ดอีกเพียบ แต่ถ้าห่วงเรื่องความปลอยภัยล่ะก็ เธอคิดว่ามันไม่จำเป็น เพราะม้าที่ใช้เทียมรถม้าทั้งหมดในขบวนเป็นเพกาซัส! ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งรถม้าลอยฟ้าอยู่! แถมมันยังสูงซะจนคนข้างล่างไม่สามารถบินขึ้นมาทำร้ายเธอได้เลย แต่ถ้าจะบอกว่าท่านพ่อห่วงแค่เรื่องความปลอดภัยอย่างเดียวก็ไม่ใช่ เพราะข้อดีของการใช้รถม้าที่บินอยู่บนฟ้าคือมันไม่มีถนน ดังนั้นจะไม่มีกระแทกใดๆมาให้กวนใจและสามารถนอนหลับได้อย่างสบายๆเหมือนอยู่บนเตียง ใช่ บนเตียงจริงๆ เพราะรถม้าที่ท่านพ่อเตรียมไว้ให้เธอมันใหญ่มาก ภายในจึงกว้างแถมยังบุด้วยผ้าชั้นดีอีก
อืม...ท่านพ่อใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ
" คงห่วงว่าฉันจะเผลอรวบหัวรวบหางเธอล่ะมั้ง?" คำตอบกวนประสาทพน้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทำให้โรสหัวเราะแห้งๆหนักกว่าเดิม
" ช่างมันเถอะ แล้วนานมั้ย? กว่าจะถึงแดนปีศาจน่ะ"
" เราออกเดินทางตั้งแต่เช้า แถมยังใช้เพกาซัสเทียมรถอีก แบบนี้ก็น่าจะถึงราวๆตอนเย็นแหละ" ข้อดีอีกอย่างของการเดินทางบนฟ้าคือมันช่วยประหยัดเวลา เพราะมันไม่ต้องเดินทางแบบอ้อมนู่นอ้อมนี่เหมือนตอนอยู่บนพื้นดิน
" เห้อ รู้งี้บินไปเองดีกว่า"
" ฮ่าๆๆ คิดว่าท่านพ่อของเธอจะยอมรึไง?"
" ก็ไม่คิดอยู่แล้วล่ะ" ท่านพ่อเป็นห่วงเธอออกขนาดนั้น
" เมื่อวานเรามัวแต่คุยกับพวกคนอื่นๆจนดึก เธองีบสักหน่อยเถอะ" เสียงทุ้มพูดอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นคนตัวเล็กปิดปากหาวตาปรือ
" อืม..."
。
。
。
。
。
ปึง!
" อลิส! แย่แล้ว!"
" งืม~ อะไรเหรอ? โซระ"
" ประตูมันล็อกน่ะสิ!"
" ห๊ะ! ไหน?!" ร่างเล็กรีบวิ่งไปยังประตูทางออกเดียวของห้องที่เพื่อนหนุ่มบอกว่ามันล็อก
ปึง!
" อึก! ล็อกจริงๆด้วย"
" ให้ตายสิ แม่บ้านคงไม่ทันดูให้ดีว่าพวกเรายังอยู่ข้างใน"
พวกเขามาหาข้อมูลไปทำรายงานกันที่ห้องสมุดแต่ดันเผลอหลับไปทั้งคู่ซะได้ พอตื่นมาก็ดันโดนขังอีก
" ซวยจริงๆ" เสียงหวานพูดอย่างหัวเสีย
ทางออกจากห้องนี้มีทางเดียวคือประตูบานใหญ่นี่ แต่มันก็งัดออกยากเกินไปเพราะไม่ใช่ระบบแบบทั่วๆไป แต่ถึงจะมีวิธีก็คงจะไม่ได้ เพราะตอนนี้พวกเขาไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย
" แม่บ้านจะเข้ามาเปิดห้องสมุดอีกทีตอน8โมง แต่ตอนนี้เพิ่งจะเกือบเที่ยงคืนเอง"
" เดี๋ยวฉันลองโทรหาใครดูก่อน"
" อืม เดี๋ยวฉันลองช่วยด้วย"
แต่ทว่า...
" ให้ตายสิ! ไอ้พวกนั้นโทรไปก็ดันไม่รับสายกันสักคน"
" เห้อ ช่างมันเถอะ ไปทำงานต่อก็ได้"
" อืม"
เอาเถอะ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็คงจะต้องรออย่างเดียวสินะ ดีที่นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรสำหรับพวกเขา
" โอย~ ปวดท้อง"
" หึ! เป็นไงล่ะ? บอกแล้วว่าให้กินข้าวเย็นเยอะๆก็ไม่เชื่อ" โซระได้ทีพูดประชดเพื่อนสาว
" ก็ฉันไม่ค่อยอยากกินนี่นา" ใบหน้าหวานบูดบึ้ง มือเล็กยกขึ้นมากอดอก และท่าทางแบบนั้นก็ทำให้โซระอดยกนิ้วขึ้นมาดีดหน้าผากมนไม่ได้
" โอ๊ย! ไอ้บ้า! ทำอะไรเนี่ย?! เจ็บนะ!"
" เจ็บสิดี จะได้จำว่าวันหลังควรกินข้าวเยอะๆ จะได้ไม่ต้องมาปวดท้องแบบนี้ แล้วดูสิ ตอนนี้เธอผอมมากเกินไปแล้วนะ" เขาหัวเราะน้อยๆเมื่อมองเพื่อนสาวยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากป้อยๆ
" เอ้า! ดีนะที่ฉันซื้อข้าวกล่องติดมือมาด้วย" เขาหันไปรื้อกระเป๋าเป้ของตัวเองก่อนจะยื่นกล่องข้าวไปให้คนตัวเล็กหนึ่งกล่องและอีกกล่องของตัวเองก็วางไว้บนตัก
" Thanks" เธอรับกล่องข้าวมาพร้อมขอบคุณเป็นภาษาบ้านเกิด
มหาลัยของพวกเขามีความพิเศษหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นคือห้องสมุด เพราะที่ห้องสมุดจะมีโซนที่แบ่งไว้เป็นห้องๆเพื่อความเป็นส่วนตัว ถ้าใครอยากมาทำรายงานกันแบบส่วนตัวสุดๆก็มาใช้ห้องพวกนั้นได้ ซึ่งหนึ่งในคนที่มาใช้งานก็มีพวกเขาสองคนรวมอยู่ด้วย
" เห้อ เบื่อชะมัด" อลิสว่าพลางเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์มือถือไปเรื่อยๆ
ก็งานมันเสร็จแล้ว เกมในเครื่องก็น่าเบื่อ โซเชียลก็มีแต่อะไรไร้สาระเต็มไปหมด
" เบื่อก็นอนซะ จะตี1อยู่แล้วเนี่ย" ไม่ว่าเปล่า มือหน้าคว้าโทรศัพท์ของอีกคนแล้วเอาไปเก็บรวมกับโทรศัพท์ของตัวเองที่อยู่ในประเป๋าเป้ทันที
" เฮ้! โซะระ!"
" นอนซะ อย่าให้ฉันต้องพูดซํ้า"
" ฮึ่ย! ดุเป็นพ่อเลย" เธอบ่นอุบอิบ แต่ก็ยอมเดินไปล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาวและใช้เสื้อกันหนาวของตัวเองในกระเป๋ามาคลุมตัว
ถ้าถามว่ากลัวการที่ต้องมาอยู่กับโซระในห้องกันสองต่อสองมั้ย? เธอกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าไม่ เพราะเขาเป็นเพื่อนคนและเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ และด้วยความที่คบกันมานาน มันก็ไม่ยากเลยที่เธอจะไว้ใจเขา
" จริงสิ...ฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะ" เธอพูดออกไป
" อืม...ฝันดี"
。
。
。
。
。
" งืม~"
" ตื่นแล้วเหรอ?"
" คิกคิก"
ราฟเลิกคิ้วสงสัยเมื่อสิ่งที่เขาได้ไม่ใช่คำตอบแต่เป็นเสียงหัวเราะใสๆของคนที่เพิ่งจะตื่น
" ฉันฝันถึงตอนที่พวกเราอยู่มหาลัยแล้วโดนขังไว้ด้วยกันที่ห้องสมุดล่ะ"
" อา...เคยมีเรื่องแบบนั้นด้วยสินะ" ริมฝีปากบางเฉียบกดลึกจนเกิดเป็นรอยยิ้มบางๆ
。
。
。
。
。
" อลิส หลับรึยัง?"
" อือ..."
สิ่งที่โซระได้กลับมาคือเสียงครางละเมอจากร่างเล็ก และนั่นทำให้เขารู้ว่าคนที่เขาคืดเกินคำว่าเพื่อนได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว มือหนาเกลี่ยปอยผมที่ระมาปกใบหน้าหวานไปทัดที่หลังหู ก่อนจะโน้มตัวลงจุมพิตที่หน้าผากมนเบาๆ
" อย่าลืมฝันถึงฉันด้วยนะ...นางฟ้าคนดีของฉัน"
__________(ตัด)
เสิร์ฟความหวานกลบความงง
...อีกไม่นานแล้วสินะ//มือปากสั่นไปหมด...อีกไม่นานแล้วครับ บอกเลยว่าฉากที่แดนปีศาจเป็นอะไรที่ผมรอคอยอยากจะแต่งมันมาก เพราะผมวางแผนจะเขียน...(อะไรบางอย่าง)ที่นี่ ผมรอมานานมากจริงๆ อยากสปอยล์ให้นักอ่านทุกท่านฟังมากนะครับ แต่กลัวว่าพอถึงเวลามันจะไม่ตื่นเต้น ไม่น่าลุ้น เอาเป็นว่าเดาเอาจากปฏิกิริยาของผมก็แล้วกันนะครับ ;)
อีกอย่างครับ นิยายเรื่องนี้ไม่มีดราม่านะครับ เพราะผมเขียนไม่เป็น ที่สำคัญ กินมาม่าบ่อยไม่ดีต่อสุขภาพนะครับ :)
ขอบคุณนักอ่านทุกท่าน
*และขอแสดงความเสียใจกับนักเรียนทั้งหลายที่กำลังจะเปิดเทอม ของผมเปิดอังคารหน้าครับ=_=*
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ได้โปรดอัพสิ อัพสิ อัพสิ อัพสิ อัพสิ ด้ายยยยโปรดดด อั--
แอ้ก!!?(โดนคนเขียนกระโดดถีบอย่างสง่างามและทิ้งคำพูดไว้ว่า"โว้ยย!! ใช่ว่านิยายมันจะเขียนง่ายรึไงฟระ! เห็นไหมสควอโล่เข้าร่างตรูแล้วโว้ยยย!!) หะ...หูฉัน...ม..ไม่สามารถรับรูั..ด..ได้อีกต่อไ--แอ้ก!!(TT)(เงียบสิฟนระ!!)
อยากอ่านอีก
รออ่านคร้าาา????????????
รอเด้อออออออออออ