คฤหาสน์วาเรนเซีย10:00น.
" ท่านชาย!"
เสียงพ่อบ้านและเมดดังต่อกันเป็นทอดๆ เพราะจู่ๆบุคคลที่สมควรจะอยู่ที่วาซีรอสกลับมาปรากฏตัวที่คฤหาสน์ซะอย่างนั้น
" ชู่ว! เบาๆหน่อย" คริสรีบส่งสัญญาณให้คนในบ้านเงียบลงทันที
" มีอะไรก็ไปทำต่อเถอะ พวกเรามาเยี่ยมท่านพ่อเฉยๆ" แดนพูดต่อ
" อ้าว! โรสไปไหนแล้ว?!" แดนหันขวับมามองทันทีที่พี่ชายของตนพูดแบบนั้น
" เอ่อ เมื่อครู่ท่านหญิงเดินเข้าไปในคฤหาสน์แล้วครับ" พ่อบ้านคนหนึ่งพูดขึ้น ทำให้สองท่านชายแห่งวาเรนเซียต้องหันมามองหน้ากัน
" โรส! รอพี่ด้วย!"
ห้องทำงานดยุควาเรนเซีย
" มีอะไร? เซบาสเตียน" ท่านดยุคผู้โหมงานหนักไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองว่าใครก้าวเข้ามาในห้องทำงานของเขาจึงพูดออกมาแบบนั้น เพราะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้าห้องของเขาได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต
โรสสาวเท้าเข้าไปใกล้ท่านพ่อของเธอเรื่อยๆพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะหวังจะกลั่นแกล้งท่านพ่อของเธอเล็กน้อย
หมับ!
" เล่นอะไร- โรส!" ท่านดยุควาเรนเซียเพิ่งจะรู้ว่าคนที่ก้าวเข้ามาในห้องทำงานของเขาคือลูกสาวสุดที่รักก็เมื่อรู้สึกถึงแรงโอบกอดจากด้านหลัง
" สวัสดีค่ะ ท่านพ่อ!" โรสยิ้มกว้างที่แกล้งหยอกล้อท่านพ่อของเธอได้สำเร็จ
" ลูกกลับมาแล้ว!" ดยุควาเรนเซียรีบลุกจากโต๊ะทำงานแล้วสวมกอดลูกรักด้วยความคิดถึงทันที
อา...ตั้งหนึ่งเดือนที่ไม่ได้เจอกัน เขาคิดถึงลูกจนแทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว!
" ค่ะ โรสกลับมาเยี่ยมท่านพ่อตามที่สัญญากันไว้ไงคะ" เธอกอดตอบผู้เป็นพ่อ
วันนี้ครบรอบหนึ่งเดือนที่เธอไปเรียนวาซีรอสพอดี และมันก็ครบรอบกำหนดกลับมาที่คฤหาสน์ด้วย และนั่นทำให้เธอกับพี่ชายอีกสองคนกลับมาที่บ้าน
" แล้วทำไมไม่บอกพ่อก่อนล่ะ? พ่อจะได้เตรียมงานไว้ต้อนรับลูกทัน" คุณพ่อผู้หลงลูกสาวคิดถึงขั้นจะจัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับที่ลูกสาวกลับบ้านมาในรอบหนึ่งเดือน
" ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์ซิคะ มาแบบไม่บอกดีกว่าตั้งเยอะ อย่างเมื่อกี้โรสก็ได้แกล้งท่านพ่อด้วย"
" ฮ่าๆๆ แสบนักนะ ลูกสาวของพ่อ" เขาหัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดีก่อนจะก้มลงไปจูบหน้าผากมนของลูกสาวเบาๆ
" ท่านพ่อพักก่อนดีมั้ยคะ? วันนี้พี่แดนกับพี่-"
ปัง!
" โรส!"
" พี่แดน พี่คริส" โรสส่งเสียงเรียกคนที่เปิดประตูเข้ามาในห้องเสียงดัง
" น้องทิ้งพวกพี่ไว้ข้างล่าง!" สองพี่น้องผู้ขี้น้อยใจพูดเสียงดัง
" ก็โรสอยากรีบมาหาท่านพ่อนี่คะ"
" อะไรกัน? พวกแกก็มาด้วยเหรอ?" ดยุควาเรนเซียทำหน้าเบื่อหน่ายทันทีที่เห็นว่าลูกชายทั้งสองของเขาก็มาด้วย
ถ้าเจ้าลูกชายสองคนนี้ของเขาอยู่ด้วย เขาก็ไม่ได้ใช้เวลาส่วนตัวกับโรสน่ะสิ! ชิ!
" สวัสดีครับท่านพ่อ"
" อืม"
เปรี๊ยะ!
แม้ว่าจะทักทายกัน แต่ก็คล้ายว่าจะมีสายฟ้าแล่นเปรี๊ยะออกมาจากดวงตาของสามพ่อลูกตระกูลวาเรนเซียและสายฟ้าเหล่านั้นก็ปะทะกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร
" ท่านหญิง ไปที่ห้องนั่งเล่นดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมจะได้ชงชาให้ด้วย" เซบาสเตียนหันมาพูดกับโรส ปล่อยให้เจ้านายของตนส่งสายตาฟาดฟันกับลูกชายทั้งสองต่อไป
" อืม ก็ดีนะ"
" เมื่อวานนี้มีชาชั้นดีหายากจากแถบอาณาจักรทางเหนือส่งมาพอดี น่าจะถูกปากท่านหญิงนะครับ"
" ถูกปากมั้ย เดี๋ยวพอชิมก็รู้เองแหละ"
" ฮ่าๆๆ นั่นสินะครับ"
ปัง!
เสียงปิดประตูทำให้สามพ่อลูกได้สติและหยุดฟาดฟันกันผ่านทางสายตา ก่อนจะพบว่าน้องน้อยและลูกสาวสุดที่รักได้ถูกพ่อบ้านคนสนิทชิงตัวไปแล้ว
" เซบาสเตียน!"
เสียงประสานตะโกนลั่นคฤหาสน์จนเซบาสเตียนที่กำลังพาโรสเดินลงไปที่ห้องนั่งเล่นได้ยินและยกยิ้มขึ้นมาอย่างสะใจและสนุกสนาน
ก็พวกท่านอยากฟาดฟันกันจนเผยช่องว่างให้ผมเองนี่ครับ
" เรียนเป็นยังไงบ้าง? หนักมั้ย? ไหวรึเปล่า?"
" สบายมากค่ะ" โรสตอบพร้อมส่งยิ้มให้ท่านพ่อของเธอคลายกังวล
เธอก็สบายดีจริงๆนั่นแหละ ส่วนเรื่องที่ว่าเรียนหนักมั้ย? ก็คงจะต้องตอบว่า พวกวิชาต่างๆที่เกี่ยวกับวิชาการ เธอไม่ได้เรียนเลย จะมีก็แต่การบ้านเท่านั้น ส่วนการบ้านที่ว่าคืออะไรน่ะเหรอ? ถ้าจะให้ตอบก็คงจะต้องย้อนไปถึงตอนที่กำลังเรียนในคาบ
เพราะเรื่องที่อาจารย์สอนมันเป็นเรื่องที่เธอเข้าใจหมดแล้ว และดูเหมือนว่าเธอจะเผลอแสดงความสามารถมากเกินไป อาจารย์เลยให้เธอเขียนสรุปเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังเรียนแล้วนำไปส่ง และจะต้องเขียนโดยใช้สิ่งที่เธอเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นหลักการ เนื้อเรื่องเนื้อหาต่างๆ หรือแม้แต่ความคิดเห็นในบางเรื่องที่เธอคิด พอดูดีๆ อาจจะเป็นเพราะหลักการที่เธอคิดและใช้มันค่อนข้างแตกต่างจากคนในโลกนี้ในบาวเรื่อง มันเลยดูแปลกใหม่และน่าสนใจสำหรับคนที่นี่ และแน่นอนว่าคนที่ได้การบ้านแบบนี้ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว แต่ยังมีราฟด้วยอีกคน
" ถ้าเหนื่อยก็บอกพ่อนะ เดี๋ยวพ่อช่วยจัดการให้" ดยุควาเรนเซียพูดด้วยความเป็นห่วงลูกสาว
" ขอบคุณนะคะ"
บรรยากาศระหว่างพ่อลูกที่ทำเอาแดนและคริสหมดตัวตนไปชั่วขณะอดจะหมั่นไส้ไม่ได้ "แหม ท่านพ่อไม่คิดจะถามถึงพวกผมบ้างเหรอครับ?"
" พวกแกเป็นผู้ชาย ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทนไม่ได้แล้วโตไปจะทำยังไง?" คนเป็นพ่อประชดกลับด้วยความหงุดหงิด
ถ้าโรสมาคนเดียวเขาจะไม่ว่าเลยสักคำ กลับกัน เขายะยินดีมากด้วยซํ้า แต่นี่ดันมีเจ้ามารสองตัวนี้โผล่มาขัดขวางเส้นทางแห่งความสุขของเขาซะได้! หน็อย! มันน่าเจ็บใจนัก!
" ยังไงผมก็เป็นลูกท่านพ่อนะครับ"
แล้วการถกเถียงที่ดูคล้ายกับการทะเลาะกะนขอวเด็กสามขวบก็เริ่มขึ้นและดำเนินต่อไปโดยมีโรสเป็นผู้ชม ส่วนเซบาสเตียนก็คอยชงชาและดูแลท่านหญิงตัวน้อยของเขาไปพลางๆ
" อ๊ะ! จริงสิ ท่านพ่อคะ โรสทำขนมมาฝากท่านพ่อด้วยนะคะ" โรสพูดขึ้นเมื่อนึกได้
" ลูกทำขนมมาฝากพ่อเหรอ?!" ดยุควาเรนเซียพูดด้วยท่าทางตื่นเต้น
" ค่ะ ท่านพ่อจะทานเลยมั้ยคะ? เดี๋ยวโรสจะไปเตรียมให้"
" อะ เอาเลย พ่ออยากกินขนมฝีมือลูกแล้ว!"
" ได้ค่ะ ขอยืมตัวเซบาสเตียนด้วยนะคะ" เมื่อพูดจบ เธอก็เดินตรงไปยังห้องครัวพร้อมกับเซบาสเตียนทันที
" เอ๊ะ! เค้กนี่มัน...รสกาแฟเหรอครับ?" เซบาสเตียนถามทันทีที่เธอเปิดกล่องใส่เค้กที่เธอทำกับมือออกมา
ใช่ เธอทำเค้กรสกาแฟ ส่วนเหตุผลก็...
" ท่านพ่อไม่ค่อยชอบขนมหวาน แถมยังชอบกินกาแฟ ฉันเลยทำรสกาแฟแบบหวานน้อยมาน่ะ" เธอพูดพลางจัดเค้กใส่จาน และแบ่งบางส่วนให้เซบาสเตียนเก็บไปไว้ในตู้เย็น เพราะเธอทำเค้กมาหลายชิ้น
" ท่านดยุคโชคดีจังเลยนะครับ ที่มีท่านหญิงเป็นลูกที่ดีและรู้ใจแบบนี้" เซบาสเตียนยิ้มบางๆ
" แล้วเซบาสเตียนไม่คิดจะแต่งงานมีลูกบ้างเหรอ?" โรสอดถามกลับไม่ได้
เซบาสเตียนเป็นคนหน้าตาดีและมีเสน่ห์เฉพาะตัวคนหนึ่ง ถ้าจะหาผู้หญิงดีๆสักคนมาแต่งงานด้วยก็คงจะไม่ยากนักหรอก และเธอเชื่อว่าท่านพ่อก็น่าจะสนับสนุนด้วย
ถึงเธอจะคิดแบบนั้น แต่คนถูกถามกลับหัวเราะออกมาน้อยๆ
" ไม่เคยคิดหรอกครับ ผมอยากอยู่รับใช้ท่านดยุคและท่านหญิงกับท่านชายไปจนกว่าจะหมดลมหายใจมากกว่า" เขาในสิ่งที่คิดและตั้งใจ
" อืม...ก็ดีเหมือนกัน ถ้าเซบาสเตียนแต่งงาน ต่อไปใครจะดูแลฉันกับท่านพี่ล่ะ แถมท่านพ่อก็คงจะเหงาแย่เลย" แล้วหนึ่งพ่อบ้านกับหนึ่งท่านหญิงก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
" เรียบร้อย!" โรสยิ้มออกมาเมื่อจัดเค้กใส่จานเสร็จ
" น่าทานมากเลยครับ"
" ส่วนที่อยู่ในตู้เย็นน่ะ ทานได้นะ"
" ไม่ดีกว่าครับ ขืนท่านดยุครู้เข้า ผมคงได้โดนวิ่งไล่กวดทั่วคฤหาสน์แน่" อาจจะฟังดูเกินจริงไปบ้าง แต่ก็มีหลายครั้งที่เขาไปเย้าแหย่เจ้านายตัวเองจนโดนวิ่งไล่กวดอยู่เป็นประจำ แถมเค้กนี่ ท่านหญิงตัวน้อยของเขาก็อุตส่าห์ทำเพื่อท่านดยุค เขาไม่อยากจะแตะต้องหรอก...ถึงมันจะน่ากินมากเลยก็เถอะ
" ถ้างั้นกินคุกกี้มั้ย? ฉันทำเมื่อมาเมื่อเช้าเหมือนกัน"
" คุกกี้เหรอครับ?"
โรสพยักหน้าก่อนจะหยิบกล่องคุ้กกี้ออกมาจากมิติ เซบาสเตียนรับกล่องพลาสติกนั้นมาไว้ในมือและเปิดออก ก่อนที่เขาจะได้กลิ่นหอมของขนมลอยมาแตะจมูกพร้อมกับภาพของคุกกี้มากมายหลายแบบที่ปรากฏขึ้นในสายตา
" คิดไว้แล้วว่านายจะต้องไม่ทานเค้กที่ฉันทำมาแน่ ก็เลยทำคุกกี้มาเผื่อด้วยน่ะ ชอบมั้ย?"
" ชอบสิครับ! ขอบคุณท่านหญิงมากๆเลย" เขายิ้มกว้างจนโรสอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นมาเห็นเข้าคงจะตาบอดเพราะรัศมีอันเจิดจ้าของพ่อบ้านคนนี้ไปแล้วแน่ๆ
อืม...เซบาสเตียนคิดถูกแล้วที่ไม่แต่งงาน เพราะไม่งั้น คนที่เซบาสเตียนแต่งงานด้วยคงจะต้องปวดหัวตายเพราะมีคนมารุมจีบเขาแน่ๆ
" ไปกันเถอะ เดี๋ยวพวกท่านพ่อรอนาน"
" ครับ!"
เปรี๊ยะ!
" ไม่คิดว่าพวกแกจะมาด้วย"
" แหมๆ ยังไงพวกผมก็ต้องมาอยู่แล้วครับ"
" งั้นเหรอ? แต่วันหลังพวกแกไม่ต้องมาก็ได้นะ"
เมื่อโรสจากไปพร้อมเซบาสเตียน บทสนทนาระหว่างสามพ่อลูกหนีไม่พ้นเรื่องการแซะและประชดประชันกันราวกับเด็กน้อยสามขวบที่ทะเลาะกันเรื่องของเล่น
" ก็ได้ครับ พวกผมไม่มาก็ได้"
" แต่พวกผมจะพาโรสไปเที่ยวแทนนะครับ"
สองพี่น้องผู้ชอบทะเลาะกันเรื่องโรสเมื่ออยู่ที่วาซีรอสหันมาร่วมมือกันเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เป็นพ่อ
" หึ! ก็มาดูกัน ว่าระหว่างฉันกับพวกแก โรสจะเลือกใคร" ท่านดยุคผู้ยิ่งใหญ่พูดอย่างท้าทาย
" ได้อยู่แล้วครับ!"
" ไม่มีปัญหาครับ!"
" หึ! เตรียมตัวแพ้ได้เลย เจ้าลูกชาย"
" มาแล้วครับ"
เสียงของเซบาสเตียนทำให้สาทพ่อลูกที่นั่งจ้องตาเขม่นกันรีบกลับมานั่งยืดตัวตรงด้วยความสง่างามและทำราวกับก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะอะไรกันเกิดขึ้น จนเซบาสเตียนลอบกระตุกยิ้ม
เนียนกันจังเลยนะครับ
" นี่ค่ะท่านพ่อ" โรสวางจานใส่เค้กลงบนโต๊ะด้านหน้าท่านพ่อของเธอ ส่วนเซบาสเตียนก็จัดการแจกจ่ายเรื่องนํ้าชาให้แก่เจ้านายทั้งสี่
" กาแฟเหรอ?"
" ค่ะท่านพ่อชอบทานกาแฟช่วงเช้าๆนี่คะ โรสเลยทำมาให้"
" ฮ่าๆๆ ขอบใจมากนะโรส" มือหนายื่นมาลูบเรือนผมสีขาวสะอาดตาของลูกสาวเบาๆ และยังไม่ลืมที่จะส่งสายตาเยาะเย้ยไปให้ลูกชายทั้งสองที่กำลังแยกเขี้ยวขู่ฟ่อราวกับงูเห่า
" อร่อยจัง! ลูกไปหัดทำตอนไหนน่ะ?!" ดยุควาเรนเซียอุทานด้วยความตกใจในรสชาติอันลํ้าเลิศของขนมหวานฝีมือลูกสาว
" ท่านพ่อชอบมั้ยคะ?" โรสหัวเราะเบาๆและยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ท่านพ่อของเธอชอบ
" แน่นอน! พ่อชอบมาเลย"
" ถ้างั้นคราวหน้า โรสจะทำมาฝากท่านพ่ออีก ดีมั้ยคะ?"
" ดีสิ! ดีมากๆเลยด้วย!"
บรรยากาศระหว่างคุณพ่อผู้หลงลูกสาวและลูกสาวผู้แสนจะกตัญญูทำให้คนอื่นๆดูหมดความหมายไปชั่วขณะหนึ่ง แดนกับคริสลอบกัดฟันด้วยความอิจฉาพ่อของตนเอง และพวกเขาก็คงจะอิจฉาจนกระอักเลือด ถ้าก่อนหน้านี้โรสไม่เคยทำขนมให้พวกเขาทานเลย แต่เพราะตอนอยู่ที่หอพัก โรสเคยทำขนมให้พวกเขาทาน ความอิจฉาของสองพี่น้องจึงค่อยบรรเทาลงบ้างเล็กน้อย
แต่ในขณะที่บรรยากาศระหว่างพ่อลูกเป็นไปในแบบนั้น เซบาสเตียนกลับคิดบวกลบในใจเพื่อหาผลประโยชน์ที่ตนจะได้เมื่อเลือกข้าง
ถ้าท่านหญิงมาที่คฤหาสน์พร้อมขนมมาเยี่ยมท่านดยุคบ่อยๆ นั่นหมายความว่าเขาก็จะได้ทานขนมผีมือท่านหญิงบ่อยๆด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น ถ้าเขาเข้าทางท่านดยุคย่อมดีกว่าการเข้าข้างท่านชายทั้งสอง อืม เอาแบบนี้แหละ เขาเลือกฝั่งท่านดยุค ถึงจะผิดต่อท่านชายที่เขาคอยเลี้ยงดูและสอนสั่งเรื่องต่างๆ แต่จะทำยังไงได้ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับท่านหญิง เขายอมทำได้หมดทุกอย่าง หึๆๆ
ตลอดช่วงเช้า สี่พ่อลูกและอีกหนึ่งพ่อบ้านต่างคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องนั่งเบ่นด้วยความสนุกสนานปนขบขัน เพราะพ่อและลูกชายเอาแต่เขม่นกัน และเซบาสเตียนก็อาศัยจังหวะนั้นพูดคุยกับโรสอย่างสนิทสนม และเมื่อเวลาเลยผ่านมาถึงช่วงที่ดวงอาทิตย์ขึ้นตรงเหนือศีรษะ สี่พ่อลูกเจ้านายของคฤหาสน์ก็ไปทานอาหารร่วมกันที่ห้องอาหาร โดยที่อาหารมื้อนี้มีหัวหน้าพ่อบ้านของคฤหาสน์และโรสเป็นผู้ทำทั้งหมด
เมื่อทานอาหารเที่ยงกันจนอิ่ม ดยุควาเรนเซียก็แยกตัวไปจัดการงานของตัวเองต่อ เพราะถึงแม้จะคิดถึงลูกรักทั้งสามมากแค่ไหน แต่งานที่เกี่ยวพันถึงชีวิตของประชาชนหลายคนก็ไม่อาจทิ้งได้ แต่อันที่จริง ถ้าจะให้ท่านดยุควาเรนเซียพูดแล้วละก็...
เอาจริงๆคือเขาไม่ค่อยจะสนใจนักหรอก ไอ้ชีวิตของคนหลายคนเนี่ย เพราะเขาเห็นแก่ครอบครัวมากกว่าประชาชนตาดำๆน่ะสิ จะบอกว่าเขาเป็นคนไม่ดีก็ได้ แต่เขารักครอบครัวมากกว่าจริงๆ งานพวกนั้นแค่เห็นเขาก็ประสาทเสียจนอยากจะขว้างทิ้งอยู่แล้ว แต่ที่ต้องฝืนใจทำก็เพราะว่าเดี๋ยวเจ้าราชาบ้านั่นจะวิ่งแจ้นออกจากวังมาบ่นเขาจนหูชาซะก่อนน่ะสิ แล้วไหนจะเสด็จพี่ของเขาที่เป็นถึงราชาเผ่าเทพอีก ขืนเขาทำตัวแย่ขึ้นมา มีหวังได้เสื่อมเสียตั้งแต่ลูกรักของเขาไปจนถึงเหล่าบรรพบุรุษที่เสียไปแล้วแน่นอน
สุดท้ายเขาก็ได้แต่กลํ้ากลืนฝืนทน รีบทำงานที่มีอยู่มากมายเป็นภูเขาให้เสร็จเร็วๆ จะได้มีเวลาไปอยู่กับลูกๆมากขึ้นเท่านั้นเอง เห้อ ถ้าขืนมีใครบอกว่าการเป็นท่านดยุคมันดีแล้วละก็ เขาเนี่ยแหละ จะเอาเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะทำงานไปฟาดหัวมันเอง หึ!
" เห้อ เผลอแป็บเดียวพวกเราก็อยู่ปี2กันแล้วสิ"
" นั่นสิ ส่วนโรสก็อยู่ปี1 ชั้นปลายแล้ว"
" เห้อ"
สองพี่น้องพากันบ่นออกมาพร้อมทั้งถอนหายใจพร้อมกัน
" ถอนหายใจบ่อยๆเดี๋ยวแก่ไวนะคะ" โราพูดติดตลก แต่ดูเหมือนว่าแดนและคริสจะไม่ค่อยตลกนัก
" จริงเหรอ! แย่แล้ว!"
" ไม่ดีแน่!"
สองพี่น้องแตกตื่นร้อนรนรีบวิ่งไปส่องกระจกบานใหญ่ที่มุมหนึ่งของห้องนั่งเล่น โรสที่เห็นแบบนั้นก็อดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้
" อะไรกันคะ? กลัวจะแก่ขนาดนั้นเลย?"
" อื้ม!" สองท่านชายหันหน้ามาพยักหน้าอย่างจริงจัง โรสจึงบอกให้ทั้งสองกลับมานั่งที่ได้แล้ว
" ทำไมถึงกลัวล่ะคะ?"
" ก็...ไม่มีอะไรมากหรอก"
" ใช่ น้องไม่ต้องสนใจหรอกนะ"
ก็ถ้าพวกเขาแก่เร็ว แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปไล่พวกผู้ชายที่มาเกาะแกะน้องสาวเขาเหมือนกับผึ้งตอมดอกไม้กันล่ะ! และแน่นอนว่าพวกเขาจะไม่มีทางยอมพูดเรื่องนี้ออกไปให้โรสได้ยินแน่
" พวกพี่ไม่คิดจะมีคู่หมั้นหรือแฟนบ้างเหรอ?" โรสที่พอจะเดาความคิดของพี่ชายทั้งสองได้ส่ายหัวน้อยๆและพูดเปลี่ยนเรื่อง
" ไม่!" เสียงประสานดังลั่นจนดยุควาเรนเซียที่อยู่ในห้องทำงานลอบสะดุ้งและบ่นลูกชายตัวเองเบาๆด้วยความหงุดหงิด เพราะไม่มีทางเลยที่เขาจะจำเสียงของลูกชายตัวเองไม่ได้
มาแย่งเวลาอยู่กับโรสไม่พอ ยังจะมารบกวนเวลาทำงานของเขาอีก! เดี๋ยวพ่อก็จับขังซะหรอก!
" รู้แล้วค่า~ ไม่ต้องตะโกนก็ได้"
" เอ่อ พี่ขอโทษ"
" พี่ด้วย"
ถ้าสองคนนี้เป็นสุนัข หางและหูคงจะกำลังลู่ตกลงอยู่แน่ๆ
" โรสแค่ล้อเล่นเอง ไม่เห็นจะต้องจริงจังขนาดนั้นเลยนี่คะ"
" พี่ขอโทษ"
" พี่ก็ขอโทษ"
เธอล่ะอยากจะเอามือก่ายหน้าผากแล้วถอนหายใจหนักๆซะจริง วันนี้พี่ชายของเธอเป็นอะไรกัน? เหมือนกับลูกหมาขี้น้อยใจเลย
" โรสจะไปทำขนม พวกพี่จะไปช่วยโรสมั้ยคะ?"
" พี่ช่วยได้จริงเหรอ!"
" ช่วยๆ! พี่จะช่วยน้องเอง!"
แล้วลูกหมาสองตัวที่กลับมามีท่าทางร่าเริงอีกครั้งก็ถูกโรสจูงเข้าไปในห้องครัวอย่างว่าง่าย โรสที่คิดจะทำพุดดิ้งก็ได้พี่ชายทั้งสองผู้มีประสบการณ์เล็กน้อยมาช่วยด้วย ทำให้เบาแรงไปได้เล็กน้อย ส่วนสองลูกหมาผู้ได้เป็นลูกมือก็สนุกสนานที่ได้รื้อฟื้นวิชาพื้นฐานการทำขนมที่เซบาสเตียนเคยสอนออกมาใช้ ส่วนท่านดยุควาเรนเซียก็ได้ทานพุดดิ้งที่มีลูกทั้งสามเป็นผู้ลงมือทำก็ยิ้มหน้าบานไปจนถึงเช้าอีกวัน
14เดือนผ่านไป
" 'สงครามโอไรน่าเบลารุส' เหรอครับ?"
" ที่มหานครโอไรอ้อน?"
" อีกสองเดือน?"
" อืม ถูกต้อง" เหล่ารุ่นพี่พยักหน้ารับ แต่เหล่ารุ่นน้องทั้งหลายกลับยังคงมึนงง
อะไรคือการอยู่ดีๆก็เรียกพวกเขามารวมตัวกันโดยบอกว่าจะประชุมเรื่องสำคัญ แล้วบอกว่าจะให้พวกเขาเป็นหนึ่งในตัวแทนไปแข่งในสงครามอะไรสักอย่างที่พวกเขาไม่รู้รายละเอียดเลยแม้แต่น้อย?
" ทำหน้าแบบนี้ งงกันล่ะสิ?"
" ครับ/ค่ะ" บรรดารุ่นน้องทั้งหลายพยักหน้ารับกันอีกครั้ง
" สงครามโอไรน่าเบลารุส คือสงครามที่คนจากทั่วทุกที่จะมารวมตัวกันเพื่อประลองหาผู้ที่มีความสามารถ โดยจะไม่มีการแบ่งแยกเชื้อสาย ไม่แบ่งแยกเผ่าพันธุ์ ไม่แบ่งแยกชนชั้น ไม่แบ่งแยกอายุ และเพราะมันเป็นงานประลองที่ทั้งสามเผ่าต่างให้การยอมรับ อีกทั้งผู้ชนะของงานประลองนี้จะได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถและได้รับการเคารพจากทั้งสามเผ่า ทำให้ผู้เข้าร่วมงานนี้มีมากมายจนมันถูกขนานนามว่าเป็น 'สงคราม' และเพราะงานนี้มีความสำคัญมาก มันจึงถูกจัดขึ้นเพียงแค่หนึ่งร้อยปีต่อหนึ่งครั้งเท่านั้น"
" อ๋อ"
" เดี๋ยวก่อนสิครับ อันที่จริง เรื่องสงครามนี่ผมพอจะเคยได้ยินมาบ้าง แต่รู้สึกว่ามันจะยังไม่ครบรอบหนึ่งร้อยปีเลยนี่ครับ?"
" ใช่ จริงๆแล้วมันยังไม่ครบรอบหนึ่งร้อยปี"
" แล้วทำไม?"
" ที่สงครามโอไรน่าเบลารุสครั้งนี้ถูกเลื่อนเข้ามาให้จัดเร็วขึ้น ก็เป็นเพราะการกลับมาขององค์จักรพรรดิทั้งสองเมื่อราวๆปีที่แล้วนั่นแหละ"
" ใช่ เดิมทีต้นกำเนิดของสงครามโอไรน่าเบลารุสก็มาจากการที่องค์จักรพรรดิทั้งสองได้ประสงค์ให้มีการจัดงานอะไรสักอย่างขึ้นเพื่อเฟ้นหาผู้ที่มีพลังความสามารถมากที่สุดในแต่ละยุค ทั้งสามเผ่าจึงได้คิดค้นให้มีการประลองแบบนี้ขึ้น ดังนั้น การที่สงครามโอไรน่าเบลารุสครั้งนี้ถูกเลื่อนเข้ามาให้จัดเร็วขึ้นมากกว่าเดิมก็เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและสร้างความสำราญให้แก่องค์จักรพรรดิทั้งสอง"
" ถ้างั้นพวกเราก็ต้องเข้าร่วมด้วยเหรอคะ?"
" แน่นอน แต่ไม่ใช่แค่พวกเราห้องSนะ เพราะผอ.จะคัดเลือกพวกนักเรียนเก่งๆจากห้องอื่นมาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย"
" ที่สำคัญอีกอย่างนะ คือการประลองนี้ แม้ว่าจะถูกขึ้นชื่อว่าเป็นสงครามเพราะมีคนเข้าร่วมมากมาย แต่เพราะมันเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อค้นหาผู้ที่มีความสามารถ ดังนั้นความอันตรายต่างๆจึงถือว่าเป็นของจริง และมีคนบาดเจ็บหนักหรือถึงขั้นตายด้วยทุกครั้งในการประลองนี้ ดังนั้นใันจึงถือเป็นสงครามของจริงเลยก็ว่าได้ ดังนั้นพวกนายทุกคนควรทำใจและเตรียมตัวให้พร้อมเอาไว้"
" อ้าว! แต่เมื่อกี้รุ่นพี่บอกว่ามันเป็นงานที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ไม่ใช่เหรอครับ?"
" ดังนั้นพวกเราก็มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ก็ได้นี่ครับ?"
" ถึงจะบอกแบบนั้นก็เถอะ แต่โรงเรียนหรือแต่ละอาณาจักรก็มักจะส่งคนของตัวเองเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ด้วยเสมอ เพราะอย่างน้อย ถึงจะไม่ชนะเลิศแต่ถ้าได้ผ่านเข้ารอบลึกๆ ก็ยังสามารถสร้างชื่อเสียงได้อยู่ดี งานนี้เลยมีพวกหน่วยงานใหญ่ๆหลายที่ส่งคนไปเข้าร่วมเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองอยู่เป็นประจำทุกปีด้วย ซึ่งแน่นอนว่าวาซีรอสเราเองก็จะน้อยหน้าไม่ได้"
" และเพราะอย่างนั้น..."
" เตรียมตัวฝึกไว้ให้ดี! เพราะการประลองนี้จะมีการแข่งขันหลายรูปแบบ ทั้งทางความคิด สติปัญญา และทางร่างกายกับการต่อสู้ และห้ามแม้แต่จะคิดไม่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้เป็นอันขาด! เข้าใจมั้ย?!"
" เข้าใจครับ!"
" เข้าใจค่ะ!"
" ส่วนพวกเธอสองคนน่ะ อย่าคิดว่าจะหนีพ้นนะ เพราะคราวนี้เป็นงานสำคัญมาก หนีให้ตายก้หนีไม่พ้นหรอก" เหล่ารุ่นพี่พูดดักทางรุ่นน้องสองคนที่กำลังนั่งเหม่อลอยคล้ายกับไม่ได้ฟังที่พวกเขาพูดไปแม้แต่น้อย
กับคนอื่นน่ะ พวกเขาไม่คิดว่าจะมีปัญหาหรอก แต่กับสองคนนี้...เห้อ ถึงจะรู้ว่าเอาตัวรอดเก่งและมีความสามารถ แต่บางครั้งมันก็เกินไป ดูอย่างปีที่แล้วที่เป็นงานประลองในโรงเรียนสิ คนอื่นเขาอยากชนะจะเป็นจะตาย แต่เจ้าสองคนนั้นกลับไม่อยากแม้แต่จะเข้าร่วม ขนาดพวกเขาไปขอให้ผอ.บีบบังคับให้สองคนนั้นเข้าร่วม เจ้าสองคนนี้ก็ยังหาทางเอาตัวรอดตัวไปได้อย่างง่ายดายเหมือนปลาไหลไม่มีผิด เห้อ
" พวกเธอได้ยินที่ฉันพูดมั้ย? ราฟ? โรส?"
" ได้ยินครับ"
" ได้ยินค่ะ"
"เห้อ"
ต้องเข้าร่วมงั้นเหรอ? อืม...พูดอย่างนี้มันก็ยิ่งชวนให้อยากหนีน่ะสิ รุ่นพี่~
__________(ตัด)
ใกล้จบแล้วนะครับ อย่างน้อยตอนนี้ก็70%แล้ว อีกอย่างคือนิยายเรื่องตัวร้ายข้ามมิติเนี่ย พอจบแล้วผมจะปิดช่วงตอนสุดท้ายไว้แล้วรีไรท์ก่อนจะเปิดขายนะฮะ แต่ว่าช่วงรีไรท์เนี่ย ผมจะไม่ปิดตอนทั้งหมดแน่ จะเปิดบางตอนไว้ให้อ่านในระหว่างที่ผมกำลังรีไรท์นิยายเรื่องนี้ทั้งเรื่องอยู่ (เข้าใจความรู้สึกของนักอ่านที่ทรมานเพราะนักเขียนปิดตอนทั้งหมดเพื่อรีไรท์ครับ T¬T)
อ่านแล้วอาจจะซับซ้อนไปนิด ไว้ช่วงที่เขียนเรื่องนี้จบแล้วผมจะมาอธิบายและแจ้งรายละเอียดอีกทีนะครับ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่าน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
สู้ๆๆๆ
แล้วคู่ของลีออนล่ะจะเป็นยังไงต่อ
มีดราม่ามั้ยอะ
รออ่านนะคร้าาา
ปล.ตอนแรกที่อ่านชื่อตอนคิดว่าจะมีดราม่าเกิดสงครามจริงซะอีก นี่เตรียมใจกินมาม่าด้วยซ้ำ 555