หลังปราสาทห้องS09:00น.
ตุบ!
" โอ๊ย!"
" ฮ่าๆๆๆ"
เสียงบางอย่างกระแทกกับพื้นและเสียงร้องโอดครวญดังขึ้นก่อนที่เสียงประสานหัวเราะร่าจะดังตามมาเป็นลำดับ
" มาช่วยกันก่อนสิ!" วิลล์พูดเสียงดัง อลันกับมาร์ตินจึงหยุดหัวเราะแล้วลงไปช่วยคนที่นั่งอยู่กับพื้น
" ไม่ไหวๆ โดนแค่นี้ก็กระเด็นซะแล้วเหรอ" ประโยคนี้ดังมาจากสัตว์ตัวหนึ่งที่มีรูปร่างผสมระหว่างสิงโตและนกอินทรีย์ มันจึงมีรูปร่างเป็นกริฟฟิน แถมกริฟฟินตัวนี้ยังเป็นสัตว์เวทย์ของวิลล์อีกด้วย
" ก็นายเล่นตะปบตอนฉันเผลอซะแรงเลยนี่!" วิลล์ที่ลุกขึ้นมาได้แล้วจากความช่วยเหลือของอลันและมาร์ตินพุ่งเข้ามายืนอยู่ต่อหน้าสัตว์เวทย์ของตนทันที
" การต่อสู้ไม่สนหรอกว่าอีกฝ่ายเผลอรึเปล่า"
" เรย์ม่อน!" วิลล์เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าสัตว์เวทย์ของตนแล้วเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดัง
" ไปฝึกกันต่อเถอะ" แต่ดูเหมือนว่าเรย์ม่อนหรือสัตว์เวทย์ของเขาจะไม่สนใจเท่าไหร่ วิลล์จึงยังคงตามพูดกับอีกฝ่ายแม้ว่าสิ่งที่จะได้รับกลับมาคือการเมินก็ตาม
" เหมาะกันดีนะครับ" มาร์ตินหัวเราะออกมาน้อยๆ
" นั่นสินะ เหมาะกันจริงๆนั่นแหละ" อลันตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม
ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่สวนหลังปราสาทที่พัก ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นลานหินโล่งๆขนาดใหญ่ที่แกะสลักลวดลายอันงดงามและอยู่ติดกับด้านหลังปราสาท รอบๆลานหินแห่งนี้จะอยู่ติดกับป่า และถ้าเดินเข้าไปในป่าอีกสักนิดก็จะพบกับลำธาร ถ้าถามว่าทำไมพวกเขาถึงมาอยู่กันที่นี่ ก็คงจะต้องย้อนไปเมื่อราวๆชั่วโมงก่อน
1ชั่วโมงก่อน
ปราสาทห้องS
ห้องโถง
" โอย~ อะไรจะน่าเบื่อขนาดนี้เนี่ย?" เสียงโอดครวญของวิลล์และซีน่อนกับซีเวลดังขึ้นมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
" ไปที่ด้านหลังปราสาทมั้ยล่ะ?" เสียงของบุคคลมาใหม่ดังขึ้นทำให้เหล่านักเรียนปี1ที่อยู่กันอย่างพร้อมหน้าต้องหันไปมอง
" พวกรุ่นพี่กำลังจะไปไหนเหรอครับ?" อลันถามขึ้นเมื่อมองเห็นเหล่ารุ่นพี่เดินลงมาจากบันไดชั้นสอง และพวกเขาทุกคนก็ต่างใส่ชุดลำลองราวกับกำลังจะไปที่ไหนสักแห่ง
" ด้านหลังปราสาทน่ะ" อารีเอลและเมลริน่า สองแฝดสาวตอบออกมา
"..." พวกอลันไม่ตอบแต่เผยสีหน้าสงสัยออกมาแทน
" พวกนายคงจะยังไม่เคยไปที่หลังปราสาทสินะ" เซ็นพูดออกมา ส่วนพวกอลันก็พยักหน้า
ถ้านับดู เมื่อวานกับวันนี้เป็นสองวันแรกที่เป็นวันหยุดตั้งแต่พวกเขามาเข้าเรียนที่วาซีรอส บวกกับก่อนหน้านี้ที่เคยเอาของมาเก็บที่นี่ก่อนเข้าเรียน พวกเขาอาจจะเคยเดินดูบริเวณรอบๆและภายในปราสาทจนทั่วแล้วก็จริง แต่ด้านหลังปราสาทนั้น พวกเขายังไม่เคยไปดูเลย แม้แต่โรสกับราฟก็ไม่เคย
" ถ้างั้นก็มาด้วยกันสิ จะได้ไปดูด้วย ว่าหลังปราสาทเป็นยังไง"
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงมาอยู่กันที่หลังปราสาท แถมพวกเขาก็ยังรู้มาจากเหล่ารุ่นพี่ว่าลานหินแห่งนี้ใช้สำหรับฝึกซ้อมอะไรก็ได้ จะใช้เป็นสนามประลองเล็กๆระหว่างคนในห้อพักหรือฝึกการต่อสู้ก็ได้ เพราะที่นี่มีกระสอบทรายและอุปกรณ์สำหรับฝึกอยู่ หรือแม้แต่จะใช้ฝึกสัตว์เวทย์ก็ได้ พวกอลันจึงเรียกสัตว์เวทย์ของตนออกมาเพื่อฝึกซ้อม แต่บางคนก็ฝึกการต่อสู้ของตัวเองไปด้วยโดยมีเหล่ารุ่นพี่คนอื่นๆที่อยู่กันพร้อมหน้าคอยให้คำแนะนำและเฝ้าดูอยู่ห่างๆตลอดเวลา
" นั่งด้วยสิ" ดิเอโก้เดินเข้ามาทักโรสและราฟที่กำลังนั่งและนอนเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ข้างลานหินและไม่ได้ฝึกซ้อมเหมือนอย่างคนอื่น
" เชิญครับ" ราฟตอบรับไป ดิเอโก้จึงนั่งลงข้างๆรุ่นน้องทั้งสอง วงหน้าหล่อเหลาและร่างกายภายใต้เสื้อยืดสบายๆชื้นเหงื่อเล็กน้อยจากการฝึกก่อนหน้านี้
" ไม่ลองไปฝึกกับเพื่อนๆสักหน่อยเหรอ?"
" ไว้อีกสักพักล่ะกันค่ะ" โรสตอบออกไป
ตอนนี้เธอยังอยากซึมซับบรรยากาษรอบๆอีกสักหน่อย ไว้มีอารมณ์ฝึกมากกว่านี้สักพักค่อยไปฝึกก็ได้
" อืม"
"..."
"..."
ระหว่างทั้งสามไม่ได้มีการพูดคุยสนทนาใดๆอีก มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ปกคลุม ทั้งสามต่างเฝ้ามองเหล่าเพื่อนๆ รุ่นพี่และรุ่นน้องของตนเองฝึกซ้อมเท่านั้น
10นาทีผ่านไป
" ฉันไปฝึกก่อนล่ะ" ดิเอโก้ลุกขึ้นก่อนจะเดินกลับไปที่ลานหินเพื่อฝึกซ้อมต่อ โรสกับราฟที่พักจนพอใจแล้วก็เดินตามไปที่ลานหินเพื่อฝึกซ้อมบ้าง
" คาร์ลอส/เนฟ"
ถึงชื่อที่ถูกเอ่ยออกมาจะเป็นชื่อของมังกรตัวโปรด แต่สิ่งมีชีวิตที่โผล่ออกมาจากประตูมิตินั้นกลับไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เป็นมังกรร่างยักษ์แต่อย่างใด แต่กลับเป็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างแปลกประหลาดใหญ่กว่าลูกฟุตบอลเล็กน้อยทั้งสองตัวกำลังลอยอยู่ในอากาศ
สัตว์ประหลาดน้อยตัวแรกมีสีดำ บางส่วนที่เป็นเกล็ดมีสีเขียวมิ้นท์แซม แผงคอสะบัดไปตามแรงลม ปลายหางเป็นขนสีดำแซมแดง ดวงตาสีแดงดุจเลือด มีเขาคู่โค้งงอเล็กน้อย ระหว่างเขามีอัญมณีสีแดงลอยอยู่ ส่วนสัตว์ประหลาดน้อยอีกตัวมีลักษณะไม่ต่างกันมากนัก เพียงแต่ลำตัวของมันเป็นสีขาวบางส่วนแซมด้วยสีดำ มีเกล็ดสีดำปกคลุมจนทั่วสันหลัง ปลายหางเป็นพู่ขนสีดำ ดวงตาสีฟ้าสดใส มีเขาคู่โค้งบิดตัวเล็กน้อย ระหว่างเขามีมงกุฏสีเงินประดับพลอยสีฟ้าลอยอยู่
คาลอส
เนฟาที
แต่ถึงจะมีสัตว์ประหลาดน้อยสุดน่ารักสองตัวปรากฏตัวขึ้นมาใหม่บนลานหินก็ไม่ได้มีใครหันมาสนใจนัก เพราะต่างคนต่างกำลังฝึกซ้อนในส่วนของตัวเองอยู่
" คิดว่าพวกท่านจะลืมข้าไปแล้วเสียอีก" สัตว์ประหลาดน้อยตัวสีขาวพูดออกมา
" น่ารักขนาดนี้ จะลืมได้ยังไงล่ะ เนฟ" โรสพูดพลางจับเนฟมาไว้ในอ้อมแขน
" เอ๋? ถ้างั้นท่านก็ลืมข้าน่ะสิ" คาลอสในรูปของสัตว์ประหลาดน้อยสีดำพูดขึ้นบ้าง
" หึๆๆ ไม่คิดว่าคาลอสตัวน้อยจะขี้งอนขนาดนี้" คราวนี้โรสจับเจ้าสัตว์ขี้น้อยใจตัวน้อยขึ้นมาอุ้มไว้บ้าง จึงกลายเป็นว่าในมือทั้งสองข้างของเธอกำลังเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดขี้น้อยใจทั้งสองตัว ราฟที่คล้ายกลับไม่มีตัวตนไปชั่วขณะจึงพูดขึ้น
" ไม่ได้เรียกพวกนายมาทำตัวน่ารักนะ"
" อ้าว! แล้วเรียกพวกเรามาทำไมล่ะ?" คาลอสถามออกมาทั้งๆที่ยังคงถูกอุ้มอยู่
" มาฝึก" โรสตอบออกไป
" พวกเรายังต้องฝึกอะไรอีกล่ะ?" เนฟเงยหน้าขึ้นถาม
" พวกนายอยู่ในร่างใหม่ แถมยังมาอยู่ในมิตินี้อีก ดังนั้นพวกนายต้องฝึกควบคุมพลัง เวลาจำเป็นจะได้ใช้ที่อยู่ในขอบเขต ไม่ทำให้คนอื่นตกใจ"
" รับทราบ!" เสียงเล็กๆน่ารักๆนั้นตอบรับอย่างขยันขันแข็ง
ก่อนหน้านี้ที่โรสกับราฟไปตกลงกับติเซียโน่ว่าจะเปลี่ยนสัตว์เวทย์เพราะคาลอสกับเนฟาทีนั้นเป็นมังกรและอาจนำอันตรายมาสู่ตัวพวกเขาได้ ดังนั้นโรสกับราฟจึงเปลี่ยนสัตว์เวทย์จริงๆ แต่ที่เปลี่ยนไม่ใช่เปลี่ยนไปใช้สัตว์เวทย์ตัวอื่น แต่ให้เนฟาทีกับคาลอสเปลี่ยนไปใช้ร่างอื่นที่ไม่ใช่มังกรเพื่อไม่ให้โรสกับราฟต้องตกเป็นเป้าสายตามากนัก ซึ่งแน่นอนว่าคาลอสกับเนฟาทีที่เป็นถึงราชันย์ของเผ่ามังกรและสัตว์เวทย์ทั้งปวงย่อมต้องมีพลังในการเปลี่ยนร่างของตัวเองอยู่แล้ว มันจึงไม่ยากเลยที่เนฟาทีกับคาลอสจะเปลี่ยนตัวเองมาอยู่ในร่างของสัตว์เวทย์ชนิดใหม่ที่มีรูปร่างเล็กและน่ารัก
แต่เพราะร่างของสัตว์เวทย์ตัวใหม่ที่คาลอสกับเนฟได้มาอยู่นั้นเป็นร่างใหม่ ทำให้ทั้งสองตัวยังไม่รู้จักขอบเขตพลังของตนเองและไม่สามารถควบคุมพลังได้
" เอ๋? แต่ถ้าพวกเราแยกไปฝึก แล้วพวกท่านจะทำอะไรล่ะ?" คาลอสถามขึ้น
" ก็คงจะทบทวนวิชาการต่อสู้นั่นแหละ" โรสตอบออกไป คาลอสกับเนฟจึงแยกไปฝึกในป่าติดกับลานหินแทน ส่วนโรสกับราฟก็ยังคงอยู่ที่ลานหินกับคนอื่นๆเช่นเดิม
" เอาไงต่อล่ะ?" ราฟถามขึ้น
" อืม...สักรอบเป็นไง?" โรสตอบพร้อมยิ้มมุมปาก
ฟุ่บ!
สิ่งที่โรสได้กลับมาไม่ใช่คำพูดแต่เป็นกำปั้นอันทรงพลังที่สวนเข้ามาอย่างรวดเร็วจากอีกคน แต่เธอก็เบี่ยงตัวหลบได้อย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน
" เฮ้ๆ ให้สัญญาณกันก่อนสิคะ...ที่รัก" โรสคลี่ยิ้มกว้าง
" ประโยคนี่มันคุ้นๆนะ" ราฟพูดออกมาด้วยนํ้าเสียงสบายๆราวกับเมื่อครู่ไม่ได้ทำการเหวี่ยงหมัดใส่โรสโดยไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย
ปึง!
" ขี้โกงนี่!"
" หืม? ตรงไหนล่ะ?...อลิส"
ณ โรงยิมขนาดใหญ่ที่ภายในมีร่างของเด็กหนุ่มและเด็กสาวอายุราวๆ19ปีอยู่เพียงแค่สองคน เมื่อสักครู่ที่เกิดเสียงคล้ายบางอย่างกระแทกกับพื้น มันคือเสียงที่เกิดจากการที่เด็กสาวคนหนึ่งถูกจับทุ่มกับพื้นโดยฝีมือของเด็กหนุ่มอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักของเธอ
" ก็นี่มันเวลาพัก! ไม่ใช่เวลาซ้อม!" เด็กสาวเรือนผมสีนํ้าตาลอ่อนเช่นเดียวกับดวงตาหรืออลิเซีย มาคารอฟตอบออกมาอย่างฉุนเฉียว
แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนหนุ่มของอลิสจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เขาจึงตอบกลับมาว่า "แล้วไง?"
" โซระ!" เธอเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดัง
" ก็ได้ๆ" เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกอย่างเกรี้ยวกราดหัวเราะออกมาน้อยๆและยอมปล่อยมือที่ล็อกอีกคนให้แนบชิดติดกับพื้นแต่โดยดี
" เห้อ" อลิสถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อดีดตัวลุกขึ้นมาได้ ก่อนจะทำการสวนหมัดเข้าไปที่หน้าท้องของคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง แต่เขาก็เบี่ยงตัวเล็กน้อยและหลบได้ แต่อลิสก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เธอวาดขาไปกับพื้นเพื่อที่จะให้อีกคนเสียหลักและล้มลง แต่เขาก็หลบได้อีกครั้งด้วยการกระโดดหลบ
" เฮ้ๆ ให้สัญญาณกันหน่อยสิ...เพื่อนรัก"
" หึ! ทีนายก็ไม่เห็นส่งสัญญาณอะไรให้ฉันก่อนเลยนี่"
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต อลิสและโซระในร่างของโรสกับราฟในตอนนี้ก็หัวเราะออกมากับความเปลี่ยนแปลงอันมากมายที่เกิดขึ้น
ตอนนั้นพวกเขาคุยเล่นกันอย่างสนิทสนมตามประสาเพื่อนรัก แต่ต่อมาก็กลับกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ไม่ลงรอยกันเพราะพ่อของพวกเขาไม่ถูกกัน แต่มาดูพวกเขาในตอนนี้สิ...เกือบจะเรียกอีกคนว่า 'ที่รัก' แทนชื่อเล่นอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดที่ยังคงต้องสนใจวงศ์ตระกูลอยู่น่ะ
" มาเริ่มใหม่กันดีๆดีกว่านะ" ราฟพูดขึ้นอีกครั้ง
" ก็ได้ แต่รอบนี้ใช้มือเปล่าก่อนนะ" โรสพูดดัก เพราะนิสัยของเธอและราฟนั้นก็รู้ๆกันอยู่ ถ้าขืนไม่พูดดักไว้ก่อน ไม่แน่เธออาจจะได้เห็นคนตรงหน้าเรียกดาบออกมาจากมิติ...หรือไม่งั้นอาจจะเป็นเธอเสียเองที่เรียกมีดสั้นออกมา
" อืม"
หลังจากนั้นการต่อสู้รอบใหม่ก็เริ่มขึ้นอีกครั้งอย่างเป็นธรรม ไม่มีฝ่ายไหนเริ่มก่อนโดยไม่ส่งสัญญาณ ไม่มีใครเรียกอาวุธออกมาช่วย ทั้งคู่มีเพียงแค่ร่างกายเปล่าๆที่ใช้พุ่งเข้าหาอีกฝ่ายด้วยความเร็วและท่วงท่าลวดลายต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าบนใบหน้าของพวกเขา...มีรอยยิ้มบางๆประดับอยู่
รอบนี้ทั้งคู่ต่างดีดตัวเข้าใส่กันด้วยท่วงท่าที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัวผสมกับการต่อสู้จากที่ต่างๆ อย่างเช่นโรส เธอใช้ทักษะการต่อสู้ของTaekwandoมาปรับจนกลายเป็นท่วงท่าของเธอเอง ซึ่งการต่อสู้แบบนี้แน่นอนว่าโรสได้มันมาจากการฝึกฝนด้วยตัวเองในสมัยที่ยังเป็นอลิส ส่วนราฟเองก็ไม่น้อยหน้า เขาใช้ทักษะของKung Fuมาปรับจนกลายเป็นท่วงท่าเฉพาะตัวของเขาเอง ซึ่งแน่นอนว่าความแข็งแกร่งของมันก็ไม่ได้น้อยไปกว่ารูปแบบการต่อสู้ของโรสเลยแม้แต่น้อย ออกจะสูสีกันเสียด้วยซํ้า
และเพราะฝีมือของทั้งคู่ที่สูสีกันเนี่ยแหละ ทำให้พวกเขาทั้งสองคนต้องปรับรูปแบบการต่อสู่ของตัวเองไปเรื่อยๆเพื่อหาทางทำให้ตนเองเหนือกว่าอีกคน แต่มันก็ช่างยากเย็น เมื่อพวกเขาทั้งคู่ต่างมีกระบวนท่าที่มากมายและปรับใช้ได้หลายอย่างมากเกินไป ต่างฝ่ายเองก็ต่างรู้ทันอีกคน ดังนั้น ทั้งแรงและความว่องไวที่มีอยู่จึงถูกนำมาใช้อย่างไม่มีปิดบัง ท่วงท่าวิชาการต่อสู้ทั้งหมดที่พวกเขารู้จักก็ถูกงัดขึ้นมาใช้อย่างไม่คิดหวงวิชา ต่างฝ่ายต่างประเคนหมัด เท้า เข่า ศอกให้อีกคนเป็นพัลวัล บ้างก็ยกมือขึ้นมากันการโจมตีจากอีกฝ่าย
แรงที่ต่างฝ่ายต่างได้รับมาจากอีกคนนั้นแรงไม่น้อย เพราะทั้งคู่ต่างใช้แรงและกำลังทั้งหมดที่มีอย่างไม่สนว่าถ้าอีกฝ่ายโดนเข้าไปจะเจ็บปางตายหรือไม่ เพราะจุดประสงค์ของการต่อสู้ในรอบนี้คือการรื้อฟื้นวิชาและวอร์มร่างกายให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ในรอบต่อไป แต่อีกนัยหนึ่งมันก็สื่อถึงความเชื่อใจ
พวกเขาเชื่อในฝีมือของอีกคน เชื่อว่าอีกคนจะต้องหลบหรือไม่ก็ปัดป้องได้อย่างแน่นอน เพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันมานานตั้งเท่าไหร่แล้ว ย่อมรู้ถึงฝีมือของกันและกันดี เผลอๆถ้าตัวเองเป็นฝ่ายออมแรงก็อาจจะโดนสวนเข้าจนปางตายก็ได้
แต่ในขณะที่โรสและราฟกำลังวาดลวดลายและปล่อยให้จิตใจล่องลอยไปกับการต่อสู้นั้นเอง พวกเขาก็ลืมเลือนถึงสิ่งต่างๆรอบตัว ลืมไปว่า ณ ลานหินที่พวกเขาใช้เป็นสังเวียนในตอนนี้ยังคงมีคนอื่นอยู่ด้วย และทั้งคู่ก็ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อยเลยว่าพวกเขาเองได้เผลอลืมเลือนความตั้งใจที่จะปกปิดพลังของตนเองในตอนแรกไป และเพราะการต่อสู่ของพวกเขาทั้งคู่นั้นนับได้ว่าแปลกตามากสำหรับคนในมิตินี้ พวกอลันและเหล่ารุ่นพี่ทั้งหลายที่อยู่รอบๆจึงค่อยๆพากันทยอยมายืนดูชายหนุ่มคู่หนึ่งที่กำลังต่อสู่กันอย่างไม่สนใจรอบๆตัว
" พวกเราไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยแฮะ" สองแฝดสาวพูดขึ้น
" น้องกับลูกพี่ลูกน้องพวกนายเก่งเรื่องต่อสู้ไม่เบาเลยนี่" เซ็นหันไปพูดกับคริสและแดน
" นั่นสิ ไปเรียนมาจากไหน?" ไบรอันเองก็หันมาถามต่อ
" ไม่รู้เหมือนกันครับ" คริสหันไปตอบรุ่นพี่หนุ่มก่อนที่แดนจะอธิบายต่อ
" ของราฟพวกผมไม่แน่ใจ เพราะเขาไม่เคยแสดงอะไรออกมาเลยตั้งแต่ตอนที่พวกผมยังอยู่ที่อควาเรส ส่วนโรส เท่าที่พวกผมรู้...ตั้งแต่เด็กจนโต โรสไม่เคยเรียนต่อสู้เลยครับ แต่บางทีเธออาจจะฝึกตอนที่พวกผมไม่ได้พักอยู่ที่คฤหาสน์แล้ว" เขาลองสันนิษฐาน แต่มันก็ยังขัดๆในบางสิ่งอยู่ เพราะถ้าน้องของเขาฝึกการต่อสู่จริง ท่านพ่อก็น่าจะบอกเขากับคริสไปแล้ว และที่สำคัญ...
" แต่ดูจากท่าทางของพวกเขา อย่างตํ่าก็น่าจะฝึกมา5ปีนะ" เกรซพูดขึ้นตรงกับความคิดของคนอื่นๆ
" นายคิดยังไง?" เซเลสเทียหันไปถามเพื่อนหนุ่มผู้เงียบขรึมอย่างดิเอโก้
" พวกนายเคยเห็นสองคนนี้ฝึกบ้างมั้ย?" ดิเอโก้ไม่ตอบเพื่อนสาวแต่หันไปถามเหล่ารุ่นน้องที่เป็นเพื่อนกับคนที่กำลังต่อสู้อยู่บนลานหิน
" ไม่เลยค่ะ/ครับ" พวกเขาตอบพร้อมส่ายหน้า
" เมื่อก่อนตอนอยู่อควาเรส ถ้าเป็นวันปกติ พวกผมก็จะเรียนจนถึงเย็น บางวันสองคนนั้นก็จะไปช่วยงานอาจารย์จนกลับดึกบ้าง พอกลับถึงหอพักก็ทำธุระส่วนตุวแล้วลงมาทานข้าวกับพวกผม หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน" เกรเทลเริ่มเล่า
"..."
" ส่วนวันหยุด ส่วนมากพวกเรามักจะไปกันที่ห้องสมุด หรือไม่ก็เล่นกันอยู่ที่หอพัก บางวันก็ไปเที่ยวเล่นกันนอกอควาเรส แต่ก็ไม่เคยไปที่ไหนที่พอจะฝึกซ้อมการต่อสู้ได้เลย ตอนอยู่อควาเรสก็มีแค่นี้ครับ" อลันเล่าต่อ
" แค่นี้เองเหรอ?"
" อ้อ! มีอีกอย่างหนึ่งครับ!" ฝาแฝดที่พอจะนึกได้ถึงบางอย่างพูดขึ้น
" อะไรเหรอ?!" คราวนี้เหบ่ารุ่นพี่ทั้งหลายรวมถึงพวกอลันถามออกมาพร้อมกัน เพราะพวกอลันเองก็จำไม่ได้ว่าพวกเขาพลาดส่วนไหนไป
" ก็ตอนที่พวกเราเตรียมตัวมาสอบเขาวาซีสอสไง!"
" จริงด้วย!" คราวนี้พวกอลันถึงกับร้องออกมาพร้อมกัน
" ตอนที่พวกเราเตรียมตัวสอบเข้าวาซีรอส โรสกับราฟเป็นคนที่คอยชี้แนะตอนพวกผมฝึกการต่อสู้ครับ" ถึงจะมีแค่ไม่กี่ครั้งที่โรสหรือราฟมาช่วยแนะนำพวกเขา แต่คำแนะนำเหล่านั้นก็แสดงให้เห็นถึงสายตาอันแหลมคมของผู้พูด เพราะแค่โรสกับราฟมองการต่อสู้แค่ครั้งเดียวของใคร ทั้งคู่ก็สามารถบอกได้ทันที ว่าใครพลาดตรงไหน ต้องแก้ยังไง ทำยังไงถึงจะดี
" ว่าแต่...รุ่นพี่ไม่รู้จริงๆเหรอครับ ว่าโรสเขาฝึกมาจากไหน?" อลันหันไปถามแดนกับคริส แต่คำตอบที่เขาคือการส่ายหน้าจากทั้งสอง
" เอาเถอะ ยังไงการที่พวกเขามีความสามารถก็เป็นเรื่องดี" ดิเอโก้พูดขึ้น
" นั่นสินะ"
ที่พวกเขาทุกคยสงสัยกันก็แค่ว่าโรสกับราฟไปฝึกการต่อสู้มาจากไหนเท่านั้น เพราะรูปแบบมันดูแปลกและน่าสนใจดี ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้อีก พวกเขาก็แค่สงสัยเรื่องเล็กๆน้อยๆนี่ก็เท่านั้น
ปึง!
เสียงบางอย่างกระทบกับพื้นดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปมองต้นเสียง ก่อนจะพบว่าการต่อสู้ที่แสนดุเดือดเมื่อสักครู่ได้จบลงแล้ว เมื่อโรสเป็นฝ่ายจับราฟทุ่มลงกับพื้นก่อนจะตามลงไปคร่อมร่างเขาไว้และในมือข้างหนึ่งของเธอก็มีมีดสั้นสีเงินที่เพียงดูเผินๆก็รู้แล้วว่ามันคมแค่ไหน และที่สำคัญคือมันกำลังวางพาดอยู่บนลำคอหนาของราฟ ส่วนคนที่กำลังนอนราบเพราะถูกจับทุ่มอย่างราฟก็ไม่ได้กำลังเสียเปรียบหรือเป็นฝ่ายแพ้แต่อย่างใด เพราะในมือข้างหนึ่งของเขากำลังถือกระบอกปืนสีดำจ่อไปยังตำแหน่งหัวใจของคนที่อยู่เหนือร่าง ผลการต่อสู่ครั้งนี้ออกมาเหมือนเดิมตามที่โรสและราฟคาดการไว้
พวกเขา...เสมอกันอีกแล้ว
" เห้อ นี่ขนาดเปลี่ยนมาอยู่ที่ใหม่แล้วนะ" โรสถอนหายใจออกมาพร้อมทำหน้าเหนื่อยใจและเก็บมีดกลับสู่มิติ
" ขนาดลองเปลี่ยนมาใช้อาวุธด้วยก็ยังเป็นเหมือนเดิม" ราฟถอนหายใจออกมาบ้างพร้อมเก็บอาวุธของตนเองไม่ต่างจากอีกคน
เมื่อกี้พวกเขาสู้รอบมือเปล่าจบไปแล้วรอบหนึ่งซึ่งผลก็คือเสมอ แต่คนอื่นๆก็ไม่รู้ตัว เพราะพวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่ ส่วนการต่อสู้ในรอบที่สองของโรสกับราฟ พวกเขาลองเปลี่ยนมาใช้อาวุธดู แต่ผลก็ยังคงเหมือนเดิม
" เห้อ ไม่เอาแล้ว เหนื่อยแล้ว!" โรสพูดด้วยใบหน้าที่งองํ้าจนอีกคนอดเอื้อมมือไปบีบจมูกเธอเบาๆไม่ได้
" งื้อ~" คนถูกบีบเบาๆทำหน้างอยิ่งกว่าเดิมจนคราวนี้ราฟอดหัวเราะออกมาน้อยๆไม่ได้ ก่อนที่ต่อมามือหนาจะยื่นมาลูบหัวเล็กๆของคนที่ยังคงนั่งคร่อมเขาอยู่ ส่วนคนถูกลูบหัวก็ชอบใจ ถูไถศีรษะของตนเองกับฝ่ามือหนามากกว่าเดิมเหมือนลูกแมวน้อย
แน่ล่ะ เธอชอบเวลาเขาลูบหัวให้มากที่สุดเลย
แต่โรสเองก็ไม่ใช่คนเดียวที่ชอบเวลาแบบนี้ ราฟเองก็ชอบลูบหัวของคนตัวเล็กกว่าไม่น้อย ยิ่งได้เห็นท่าทางของคนที่ลูกลูบหัวเขาก็ยิ่งชอบ
น่ารักเป็นบ้า...เขานี่แหละจะบ้า
แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้รู้ตัวอีกเช่นกัน ว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่กันตามลำพัง แต่ยังมีบรรดาเพื่อนๆและรุ่นพี่อีกหลายชีวิตยืนอยู่ ณ ลานหินแห่งนี้ด้วย แต่ถ้าจะบอกว่าพวกเขาลืมก็คงจะไม่ถูกนัก เพราะพวกเขาก็ยังพอรับรู้ถึงการมีตัวตนของอีกหลายชีวิตที่ยังคงยืนอยู่ แต่ไม่เป็นไร พวกเขาไม่ถือ คิดเสียว่าคนพวกนั้นมาเป็นสักขีพยานรักระหว่าพวกเขาก็แล้วกัน
____________(ตัด)
เทควันโด เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวโดยไม่ใช้อาวุธของชาวเกาหลี คำว่า "เท" (태) แปลว่า เท้าหรือการโจมตีด้วยเท้า; "ควัน" (권) แปลว่า มือหรือการโจมตีด้วยมือ; "โด" (도) แปลว่า วิถีหรือสติปัญญา ดังนั้นเทควันโดโดยทั่วไป หมายถึง วิถีแห่งการใช้มือและเท้าในการต่อสู้และป้องกันตัว หรือการใช้มือและเท้าในการต่อสู้และป้องกันตัวอย่างมีสติ
กังฟู หรือ วูซู เป็นศิลปะการต่อสู้ของจีน ในภาษาจีนกลางใช้คำว่า "วูซู" และเมื่อมีการแพร่ขยายออกไปกลายเป็น "กังฟู" ซึ่งเป็นตัวเลข การต่อสู้รูปแบบที่ได้มีการพัฒนากว่าหนึ่งศตวรรษในจีน รูปแบบการต่อสู้เหล่านี้มักจะแยกตามลักษณะทั่วไปที่ระบุว่าเป็น "เจีย" (家), "พ่าย" (派) หรือ "เหมิน" (门) (โดยรวมแปลว่ากลุ่มหรือสำนัก) ในรูปแบบศิลปะการต่อสู้ ตัวอย่างของลักษณะดังกล่าวรวมถึงการออกกำลังกายที่เกี่ยวข้องกับการจำลองทางกายภาพของสัตว์หรือวิธีการฝึกอบรมแรงบันดาลใจจากปรัชญาจีน ศาสนา และตำนาน ลักษณะที่มุ่งเน้นของพลังงาน จัดการได้รับการระบุเป็นระบบภายใน
*ที่ยกมาเป็นข้อมูลแบบย่อๆนะครับ*
เรื่องที่ผมปิดหน้านิยายเนี่ย ไม่ใช่ว่าปิดตอนหรือไม่แต่งต่อแล้วนะครับ ผมยังคงแต่งอยู่แต่แค่ปิดหน้านิยายแก้อะไรนิดหน่อย นิยายเรื่องนี้มาเกินครึ่งทางแล้ว เหลืออะไรอีกนิดหน่อยแต่ก็เยอะพอสมควรถึงจะจบ ดังนั้น นิยายเรื่องนี้ผมจะแต่งจนจบแน่นอน
สุดท้าย...ขอบคุณนักอ่านทุกท่านครับ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
น่ารักกันเกินไปแล้ววววววว
สนุกมากค่ะสู้ๆนะคะ