" จะลงไปอยู่ในมิติพวกนั้น!" เสียงประสานดังขึ้นลั่นห้องโถง ทำเอาคนได้ยินได้แต่ลอบถอนหายใจ
เจ้าพวกนี้จะตกใจอะไรกันนักหนา?
" อืม"
" ฝ่าบาท! พระองค์อย่าพูดเล่นๆนะพ่ะย่ะค่ะ!" เทรเลอร์พูดเสียงดังจนแทบจะกลายเป็นตะโกน ทำไมฝ่าบาทของเขาถึงได้มีแต่ความคิดอะไรแผลงๆแบบนี้?
" หน้าตาพวกข้าเหมือนคนพูดเล่นรึไง?" ชายหนุ่มบนบัลลังก์ตอบเสียงเรียบ
" แต่ยังไงก็ไม่ได้เพคะ!" เอ็ดน่าพูดเสียงแข็ง
" ถ้าฝ่าบาทไม่อยู่แล้วใครจะคอยดูแลพวกมิติต่างๆล่ะเพคะ?" ลิเลียน่าพูดเสริม
" ก็พวกเจ้าไง?"
" แต่พวกเรา-"
" หรือพวกเจ้าจะปฏิเสธว่าที่ผ่านมา การที่มิติพวกนั้นสงบสุขดีไม่ใช่ฝีมือของพวกเจ้า?" ประโยคนี้ของจักรพรรดิทั้งสองทำให้ทั่วทั้งห้องโถงเงียบชะงักไป
เหล่าพระเจ้าที่กำลังคิดจะขัดขวางการลงไปเที่ยวเล่นในมิติของเจ้านายทั้งสองเป็นอันต้องเงียบไปเพราะหาเรื่องมาเถียงกลับไม่ได้ ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่จักรพรรดิทั้งสองว่า ตั้งแต่มิติทั้งหลายถือกำเนิดมา ฝ่าบาทก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือดูแลพวกมันเลย ทำเพียงเฝ้ามองและปล่อยให้ทุกอย่างถูกแก้ไขด้วยตัวเอง ส่วนพวกเขาก็ต้องคอยช่วยดูแลมิติต่างๆแทน อาจมีบ้างที่บางเรื่องต้องมาขอคำแนะนำจากฝ่าบาท แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และไม่ได้มีเกิดขึ้นบ่อยนัก
" ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ยังไงก็ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!" หลังจากเงียบไปสักพัก เทรเลอร์ก็เอ่ยออกมา
" แต่สำหรับกระหม่อม ถ้าพระองค์จะลงไปเที่ยวเล่นในมิติพวกนั้น กระหม่อมก็ไม่ขัด" ลีออนโพล่งขึ้น
" ลีออน! เจ้าพูดแบบนั้นได้ยังไงกัน?!" เทรเลอร์กับเอ็ดน่าและลิเลียน่าหันไปตะโกนใส่ลีออนพร้อมกันทันที
" ถึงฝ่าบาทจะไม่อยู่ แต่ข้าก็คิดว่าพวกเราดูแลพวกมิติต่างๆได้ ดังนั้นข้าก็เห็นด้วยกับลีออน" นาธานพูดต่อ ตอนนี้เขากับลีออนเข้ากันได้ดีต่างจากเวลาว่างนัก
" แต่ว่า-"
" ถ้าฝ่าบาทอยากไปจริงๆ เจ้าคิดเหรอว่าจะห้ามได้?" ประโยคนี้ของนาธานทำให้คนที่กำลังจะขัดต้องเงียบไป ก่อนจะเงียบยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของลีออน
" และถึงพวกเจ้าจะเถียงข้ากับนาธานชนะ แต่คิดเหรอว่าจะเถียงฝ่าบาทได้?"
จุก...คำคำนี้อธิบายความรู้สึกของพระเจ้าทั้งสามหรือเทรเลอร์กับเอ็ดน่าและลิเลียน่าได้เป็นอย่างดี
ทำไมพวกเขาจะไม่รู้? ว่าถ้าเรื่องไหนที่ฝ่าบาทตั้งใจจะทำแบบจริงๆจังๆแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ จะมีคำว่าผิดพลาดหรือไม่สำเร็จไม่ได้เด็ดขาด และถึงจะเอาพวกเขาทุกคนมาเถียงฝ่าบาทจนปากเปียกปากแฉะหรือจนเสียงแหบหาย ฝ่าบาทก็สามารถเถียงพวกเขาจนชนะได้ด้วยประโยคเพียงไม่กี่ประโยค...แล้วแบบนี้จะมีอะไรบ้างที่พวกเขาห้าม
" สรุปจะเอายังไง?" จักรพรรดินีสาวที่ท้าวแขนกับที่วางแขนบนบัลลังก์แล้วถามด้วยนํ้าเสียงเบื่อหน่ายเมื่อฟังคนใต้ปกครองทุ่มเถียงกันไปมาได้สักพัก
" พวกกระหม่อมไม่มีอะไรจะขัดพ่ะย่ะค่ะ" ลีออนหันมาตอบแทนทุกคน
" แต่มีข้อแม้ว่าทุกครั้งที่พวกท่านไปเที่ยวครบมิติหนึ่ง พวกท่านจะต้องกลับมาที่นี่อีกหนึ่งครั้งก่อนจะลงไปเที่ยวเล่นในมิติต่อไป และทุกครั้งที่ลงไปในมิติ พระองค์จะต้องนำความทรงจำและพลังของพระองค์ติดตัวไปด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ"
" ตกลง แต่พวกข้าก็มีข้อแม้เหมือนกัน พวกเจ้าห้ามไปพบข้าเด็ดขาดในช่วงที่ข้าลงไปเที่ยวเล่นในมิติพวกนั้น"
หลังจากนั้น จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองก็ไปเตรียมการสำหรับการลงไปเกิดในมิติแรก และการเตรียมการที่ว่าก็ไม่ใช่อะไร แต่เป็นการพาร่างอันงดงามไร้ที่ติของตนเองไปเก็บรักษาไว้ในจุดที่ลึกที่สุดภายในปราสาท ก่อนจะถอดดวงจิตที่ยังคงมีความทรงจำทุกอย่างอยู่ครบไปยังมิติหนึ่งที่ถูกสุ่มเลือกและจุติอยู่ในครรภ์ของสตรีนางหนึ่ง...และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตในมิติแรกที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เลือกที่จะลงไปเกิด
ซึ่งในขณะที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่กำลังลงไปเที่ยวเล่นในที่ที่คนเองเลือก เหล่าผู้ติดตามอย่างพระเจ้าทั้งห้าก็ทำหน้าที่ดูแลมิติอื่นๆเป็นอย่างดี และไม่ได้ละเมิดกฎโดยการลงไปพบเจ้านายทั้งสองเลยแม้แต่น้อย
และเมื่อการใช้ชีวิตในฐานะของคนในมิติแรกจบลง ดวงจิตของสองผู้ยิ่งใหญ่ก็หวนกลัยคืนสู่ที่อยู่ที่แท้จริง ก่อนจะกลับลงไปเที่ยวเล่นต่อในมิติใหม่ๆ...ทุกอย่างวนเวียนเป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ จักรพรรดิทั้งสองสนุกกับการเที่ยวเล่น บ้างเป็นสามัญชน บ้างเป็นเชื้อพระวงศ์ บ้างเป็นมนุษย์ บ้างเป็นปีศาจ เป็นอะไรหลายๆอย่าง ส่วนพระเจ้าทั้งห้าก็ยังคงทำหน้าที่ของตนเองและรอคอยการกลับมาของเจ้านายทั้งสอง บางครั้งก็เร็ว บางครั้งก็ช้า เพราะเวลาในแต่ละมิตินั้นแตกต่างกัน
จนในที่สุด...จุดที่ความเบื่อของมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองได้เริ่มก่อเกิดขึ้นอีกครั้งและมากขึ้นเรื่อยๆจนทั้งสองทนไม่ไหว...
" พวกเจ้าจะไปจริงๆเหรอ?!"
"..."
เสียงตะโกนมาแต่ไกล ทำให้คนทั้งเจ็ดที่อยู่ในสวนต้องหันไปมอง
" สหายรักพูดเรื่องอะไร?" จักรพรรดินีหันมาถามผู้มาใหม่ทั้งสี่ หรือก็คือสหายรักของจักรพรรดิทั้งสอง ทั้งสี่คนนี้เองก็ถูกสร้างขึ้นเหมือนกับพระเจ้าทั้งห้า เพียงแต่ไม่ได้มีหน้าที่อะไรเป็นหลัก อาจมีบ้างที่จะมาพูดคุยคลายเหงาให้กับจักรพรรดิทั้งสอง บ้างก็ไปช่วยงานพระเจ้าทั้งห้า
" พวกข้าได้ข่าวมาว่าเจ้าสองคนกำลังจะไปเกิดใหม่ในมิติโดยไม่เอาอะไรติดตัวไป!" หญิงสาวหนึ่งในสี่คนหรืออเดลพูดเสียงดัง ส่วนคนถูกถามก็พยักหน้ารับ
" พวกข้าไปด้วย!" สหายรักทั้งสี่สวนกลับทันที
" ตามใจ แต่พวกเจ้าต้องจัดการตัวเองนะ" พูดจบก็หันไปจัดการบางอย่างกับพระเจ้าทั้งห้าต่ออย่างไม่คิดจะสนใจเพื่อนรักทั้งสี่เลยแม้แต่น้อย
" เอาใหม่นะ การลงไปเกิดในมิติครั้งนี้พวกข้าจะไม่เอาอะไรไปเลย แม้แต่ความทรงจำหรือพลัง ง่ายๆคือเหมือนกับวิญญาณทั่วไปที่กำลังจะลงไปเกิด
พวกข้าจะลงไปเที่ยวในมิติสักสองสามมิติติกันโดยไม่กลับมาที่นี่ หลังจากนั้น พวกเจ้าจะต้องให้ใครคนหนึ่งมาบอกว่าตัวเองเป็นพระเจ้า เป็นเหมือนคนที่อยู่เหนือพวกข้า แล้วพาพวกข้าไปยังมิตินี้" พูดจบก็ชี้ไปยังลูกแก้วลูกหนึ่งขนาดเท่าลูกฟุตบอลที่ภายในแสดงภาพมิติหนึ่ง ซึ่งมิตินั้นมีทั้งพลังเวทย์ สัตว์เวทย์ มนุษย์ เทพ ปีศาจ ภูติ อาณาจักรต่างๆ แถมที่นั่นยังมีการนับถือจักรพรรดิทั้งสองว่าอป็นผู้สร้างโลกอีกด้วย ซึ่งสถานที่ที่จักรพรรดิทั้งสองอยู่นั้นก็คือมิติแห่งเวทมนต์ที่หายสาปสูญไป
" แล้วยังไงต่อครับ?" เทรเลอร์ถามต่อ คนถูกถามจึงอธิบายต่อไป
" ถ้าจะให้ลงไปเที่ยวเล่นอย่างเดียวก็คงไม่สนุก...ดังนั้น ข้าจะแบ่งความทรงจำออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งฝากไว้ที่พวกเจ้า แล้วอีกส่วนก็ให้พวกเจ้านำไปซ่อนไว้ส่วนไหนก็ได้ในมิติที่ข้าจะให้พวกเจ้าพาไปเป็นมิติสุดท้ายเพื่อหามันให้เจอ"
" พระองค์จะเอาของสำคัญอย่างความทรงจำตั้งครึ่งหนึ่งไปเล่นซ่อนหาของ?" ลิเลียน่าพูดขึ้น
" ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ยังไงพวกเราก็รู้อยู่แล้วนี่นาว่าความทรงจำของฝ่าบาทอยู่ที่ไหน" เอ็ดน่าขัด
" ไม่ หลังจากที่พวกเจ้านำความทรงจำส่วนนั้นไปซ่อนแล้ว พวกเจ้าทุกคนจะต้องลบความทรงจำออกทุกคน"
" ห๊ะ!" พระเจ้าทั้งห้าส่งเสียงออกมาดังลั่น
" ตามนั้น และไม่ใช่แค่เรื่องที่ซ่อนของความทรงจำอย่างเดียวที่พวกเจ้าต้องลบออกไป เรื่องวันนี้ แผนการทุกอย่างต้องถูกลบออกให้หมด เหลือไว้เพียงแค่คำสั่งที่ข้ามอบหมายให้เท่านั้น"
" ฝ่าบาท!" คราวนี้เสียงของพระเจ้าทั้งห้าดังยิ่งกว่าเดิมซะอีก
" ห้ามขัดคำสั่ง ทีนี้เรื่องความทรงจำที่ข้าจะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกจะเป็นส่วนที่ไม่มีความสำคัญอะไร ส่วนมากเป็นประสบการณ์ในตอนที่ข้าลงไปเที่ยวเล่นในมิติต่างๆ ซึ่งส่วนนี้ข้าจะฝากเอาไว้กับพวกเจ้า ถ้าตัวข้าในตอนที่ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่ขอความทรงจำส่วนนี้ พวกเจ้าก็มอบให้ข้าสองคนได้ทุกเมื่อ และส่วนต่อมาจะเป็นเรื่องทุกอย่างที่เหลืออยู่ รวมถึงเหตุการณ์ในวันนี้ด้วย ซึ่งความทรงจำส่วนนี้จะเป็นส่วนที่พวกเจ้าจะต้องนำไปซ่อน"
"..." คนฟังดูท่าว่าจะเป็นใบ้ไปแล้ว แต่คนพูดก็ยังคลไม่หยุด
" จริงสิ พวกเจ้าอย่าลืมสร้างหรือทำอะไรที่เป็นร่องรอยหรือเบาะแสด้วยนะ ว่าความทรงจำของพวกข้าอยู่ที่ไหน" หลังจากนั้นจักรพรรดิทั้งสองก็เริ่มกลับมาคิดอีกครั้งว่ายังมีอะไรที่ยังไม่ได้จัดการอีกรึเปล่า จนกระทั่ง...
" ก่อนที่พวกข้าลงไปเที่ยวเล่นในมิติโดยไม่นำความทรงจำไป พวกเจ้าต้องไปจัดการเตรียมทุกอย่างในมิติที่ข้าเลือกให้พร้อม และที่สำคัญ ข้ามีเรื่องจะให้พวกเจ้าไปทำ" คราวนี้เหล่าพระเจ้าทั้งห้าต่างหน้านิ่วคิ้วขมวดมากกว่าเดิม
" เรื่องอะไรพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ?"
" พวกเจ้าช่วยไป..."
。
。
。
。
。
" แค่นี้แหละ"
" เห้อ ฝ่าบาท กระหม่อมขอถามหน่อยเถอะ ทั้งหมดที่พระองค์ทำไปเนี่ย มันมาจากอะไรพ่ะย่ะค่ะ?" เทรเลอร์ถอนหายใจหนักๆ
คนถูกถามทั้งสองหันมามองหน้ากันก่อนจะตอบออกไปพร้อมกันว่า "เบื่อ" คำเดียว ใช่ คำเดียวจริงๆ และคำคำเดียวคำนี้นี่แหละ ที่เป็นบ่อเกิดของความวุ่นวายทั้งหลาย
" ถ้างั้นพวกข้าก็จะไปเที่ยวกับเจ้าสองคนในมิติแรกๆที่พวกเจ้าจะไปด้วยล่ะกัน" มาร์คหรือหนึ่งในสหายรักทั้งสี่ขององค์จักรพรรดิทั้งสองพูดขึ้น
" อืม"
หลังจากที่การประชุมทุกอย่างจบลง เหล่าพระเจ้าทั้งห้าก็ไปจัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อม และในที่สุดก็ถึงเวลาที่มหาจักรพรรดิผู้นยิ่งใหญ่ทั้งสองและสหายรักทั้งสี่จะลงไปเที่ยวเล่นในมิติที่ถูกเลือก
รอยต่อระหว่างมิติ
" รับไป" มือสองคู่ของจักรพรรดิทั้งสองส่งของที่อยู่ในมือที่มีรูปร่างเป็นลูกแก้วใสๆ ซึ่งภายในบรรจุความทรงจำของคนหกคนเอาไว้ส่งให้กับลีออน
" เมื่อพวกข้าไป พวกเจ้าก็นำความทรงจำของตนเองเกี่ยวกับเหตุการณ์ทุกอย่างเก็บลงไปในลูกแก้วนี้ แล้วนำมันไปซ่อนในมิติที่ข้าเลือก ก่อนจะลบความทรงจำเกี่ยวกับที่ซ่อนขอลลูกแก้วใบนี้ทิ้งไปซะ"
" พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ" พระเจ้าทั้งห้าตอบรับเสียงหนักแน่น
" ถ้างั้นพวกข้าไปล่ะ" กล่าวจบ คนทั้งหกก็เดินเข้าไปในประตูมิติที่เปิดรออยู่ก่อนแล้วโดยมีจักรพรรดิทั้งสองเป็นผู้เดินนำไปสองคนแรก แต่แล้ว...
ตุบ!
" น้อมส่งเสด็จพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ! ขอฝ่าบาทเดินทางปลอดภัย! และทรงสำราญกับชีวิตใหม่!"
พระเจ้าทั้งห้าคุกเข่าลงกับพื้นและพูดออกมาเสียงดังชัดเจน...เพราะเวลาในแต่ละมิติมันแตกต่างกัน การจากไปของจักรพรรดิทั้งสองในครั้งยี้จึลไม่อาจแน่ชัดว่าจะยาวนานหรือสั้นมากแค่ไหน เพราะมิติที่พระองค์จะเสด็จไปไม่ได้มีแค่ที่เดียว ถึงจะเคยชินกับการห่างไกลกับเจ้านายทั้งสอง แต่มันก็ยังอดใจหายไม่ได้สำหรับพระเจ้าทั้งห้า ตลอดเวลาตั้งแต่ถูกสร้างให้มีชีวิตอยู่ พวกเขาก็เคยชินกับใบหน้าที่งดงามสูงส่งแต่แสดงเพียงความเฉยชา แล้วไหนจะเวลาที่พวกเขาเถียงกับพระองค์แล้วไม่เคยชนะอีก บางครั้งก็ได้มานั่งคุยเล่นกัน ถึงจะไม่บ่อย แต่ถ้าช่วงเวลาเหล่านั้นหายไป...
เอาเถอะ อย่างน้อยก็ขอให้ได้อวยพรให้ฝ่าบาทได้ทรงเกษมสำราญกับการใช้ชีวิตในมิติใหม่หน่อย ถึงแม้ฝ่าบาทอาจจะไม่ได้สนใจคำอวยพรของพวกเขาเลยก็เถอะ
แต่ดูเหมือนว่าพระเจ้าทั้งห้าจะคิดผิดไปไม่น้อย...
" พวกเจ้าก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะกัน ถ้าข้ากลับมาแล้วพบกับความวุ่นวาย...คงจะรู้นะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง" เสียงราบเรียบสองเสียงดังขึ้นแต่กลับไม่เห็นตัวคนพูด เพราะตัวของทั้งสองคนได่ก้าวเข้าไปในประตูมิติแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น พระเจ้าทั้งห้าก็อดตื่นเต้นไม่ได้
" พ่ะย่ะค่ะ!/เพคะ!"
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
รอนะค้าาาาาาาาาาาาาาา