วันนี้เป็นวันที่สองสำหรับการเปิดเทอม ซึ่งแน่นอนว่าโรสกัลราฟต้องมาเรียน แต่ตอนนี้พวกเขากลับไม่ได้อยู่ในห้องเรียน เพราะถูกใครบางคนออกคำสั่งให้มาพบ ส่วนใครที่ออกคำสั่งน่ะเหรอ? ก็คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าพวกเขาไงล่ะ...ติเซียโน่ โรเจอร์ ผู้อำนวยการคนเก่งของวาซีรอสไง
" วันนี้ฉันมีเรื่องอยากจะพูดคุยแบบจริงจังกับพวกเธอสักหน่อย" รีบพูดมาเถอะ พวกเขาเบื่อ
"..."
" ก่อนอื่นฉันต้องขอบใจมากที่พวกเธอยอมใช้ความสามารถที่มีในการสอบเข้า"
"..."
" แต่ก็เพราะนั่นแหละที่ทำให้ฉันต้องมีเรื่องมาคุยกับพวกเธอ ความสามารถของพวกเธอถูกแสดงออกมามากเกินไป เรื่องของสอบภาคทฤษฎีกับลูกแก้วเวทมนต์นั่นยังพอได้อยู่ แต่เรื่องสัตว์เวทย์ของพวกเธอมันคงจะไม่ได้จริงๆ" เขาหยุดก่อนจะหันไปทางโรสแล้วพูดต่อ
"โรซาเรีย พ่อของเธอเคยเรียกฉันไปคุยแล้ว เขาอยากให้ฉันช่วยปิดข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นในวันสอบเข้า และพวกเธอก็คงเข้าใจแล้วนะ ว่าต้องทำยังไงต่อ
เรื่องที่ฉันอยากขอร้องให้พวกเธอทำมากที่สุดในตอนนี้คือเรื่องสัตว์เวทย์ อย่าให้เจ้ามังกรสองตัวนั้นปรากฏสู่สายตาคนนอก เพราะเรื่องข่าวเกี่ยวกับสัตว์เวทย์ที่พวกเธอได้มามีแค่คนที่อยู่ในวันสอบเท่านั้นที่รู้ แต่ข่าวมันก็ถูกปิดไปแล้ว ดังนั้นคนนอกจึงไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ และทางที่ดี พวกเธอก็ไม่ควรจะให้มังกรสองตัวนั้นปรากฏตัวออกมาเช่นกัน"
" นอกจากเรื่องนี้แล้ว พวกเรายังต้องทำอะไรอีกมั้ยครับ?" ราฟถามต่อ
เรื่องปิดข่าวพวกเขาพอรู้มาแล้วเพราะในวันที่ผู้อำนวยการคนดีไปคุยกับพ่อของโรสก็อย่าลืมว่าพวกเขาแอบฟังอยู่ด้วย จึงรู้เรื่องที่อีกฝ่ายกล่าวมาแล้วทั้งหมด
" ถึงจะรู้ว่าพวกเธอไม่ใช่พวกชอบโอ้อวด แต่บอกไว้หน่อยก็ดี อย่าเอาเรื่องพวกนี้ไปพูดที่ไหนเด็ดขาดนะ"
อันที่จริง มันก็ป็นอย่างที่เขาว่า โรสกับราฟไม่ใช่พวกชอบโอ้อวด ยิ่งเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการนำความวุ่นวายมาสู่ตัวก็ยิ่งไม่ใช่
" ผู้อำนวยการคะ วาซีรอสมีวิชาสัตว์เวทย์ แต่ถ้าพวกเราเรียกคาลอสกับเนฟออกมาไม่ได้ พวกเรายังต้องเรียนวิชาสัตว์เวทย์อยู่มั้ยคะ?" โรสถามออกไป
วาซีรอสมีวิชาสัตว์เวทย์อย่างที่เธอว่า ซึ่งชื่อวิชาก็บอกอยู่แล้วว่าต้องใช้สัตว์เวทย์ แล้วถ้าเธอกับราฟเรียกคาลอสกับเนฟออกมาไม่ได้ แล้วแบบนี้จะเรียนกันได้ยังไง อันที่จริง ถึงไม่ต้องเรียกคาลอสกับเนฟ เธอกับราฟก็พอมีทางที่จะเรียนได้อยู่ แต่เพราะความขี้เกียจครอบงำ เธอจึงคิดว่าจะหาทางให้ไม่ต้องเรียน...ถึงนี่จะเป็นความคิดชั่ววูบก็เถอะ แต่ยังไงเธอก็เชื่ออีกเช่นกัน ว่าผู้อำนวยการคนขยันจะต้องหาทางให้เธอกับราฟได้เรียนวิชานี้แน่ๆ
" เรื่องนี้พอมีทางอยู่ ฉันจะให้พวกเธอสองคนไปอัญเชิญสัตว์เวทย์ใหม่ แต่คราวนี้ก็ควบคุมพลังดีๆล่ะ เดี๋ยวจะออกมาเป็นมังกรอีก" เขาพูดติดตลก แต่มันก็จริงที่เด็กสองคนนี้มีโอกาสจะได้สัตว์เวทย์เป็นมังกรอีกถ้าไม่ควบคุมพลังดีๆ
" ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรครับ พวกผมพอมีทางจะเรียนได้อยู่ ผู้อำนวยการไม่ต้องห่วง" ราฟตอบไป ใครมันจะไปยอมไปยืนอยู่บนเวทีนั่นอีกล่ะ น่าเบื่อจะตาย
" งั้นเหรอ ถ้างั้นก็ไปได้แล้วล่ะ ฉันมีเรื่องจะคุยแค่นี้แหละ" เขาพูดแค่นั้น
" จริงสิ นี่ค่ะ" ในขณะที่กำลังจะลุกขึ้น เธอก็นึกได้ถึงบางอย่างจึงสะบัดมือหนึ่งครั้งก่อนที่จะมีของบางอย่างปรากฏขึ้นบนโต๊ะของติเซียโน่
" ถือเสียว่าชดใช้อันที่พวกเราทำพังไปล่ะกันนะครับ" ราฟพูดต่อ แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้อำนวยการของตน โรสก็อดถามต่อไม่ได้
" จะไม่แปลกใจหน่อยเหรอคะ?"
" พวกเธอทำให้ฉันตกใจจนไม่รู้จะตกใจยังไงแล้ว" เขายิ้มส่วนโรสกับราฟก็ยิ้มตามก่อนจะเดินจากไป
ของที่โรสกับราฟทิ้งเอาไว้ให้ติเซียโน่คือลูกแก้วเวทมนต์ เพราะตอนวัดพลังเวทย์ในวันสอบเข้า พวกเขาดันทำพังไปลูกหนึ่ง ถึงจะไม่อะไรแต่ก็พอจะรู้ว่าลูกแก้วนี่มันหายากดลยเอามาชดใช้ ส่วนติเซียโน่เองก็ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะคนที่มีลูกแก้วนี่เป็นเด็กอายุ16ปีที่เขาพอจะรู้จัก แต่ถ้าเป็นเด็กคนอื่น เขาคงจะได้หัวใจวายตายเพราะตกใจแน่ๆ
ห้องS
" ขออนุญาตครับ/ค่ะ" พวกเขาพูดก่อนจะเดินไปนั่งที่ เพราะตอนที่พวกเขาไปหาผู้อำนวยการมันก็เกือบจะเริ่มเรียนวิชาแรกอยู่แล้ว พอกลับมาก็กลายเป็นว่าอาจารย์น่าจะกำลังสอนอยู่พอดี
" พวกเธอเพิ่งมาสินะ" อาจารย์สาวประจำวิชาถามขึ้น อืม...รู้สึกว่าจะเป็นวิชาศิลปะ
" คาบแรกของวันนี้เป็นของฉัน เมื่อกี๊ฉันเพิ่งอธิบายเกี่ยวกับวิชาของฉันไป ค่อยไปถามเพื่อนเอาล่ะกัน" เธอพูดต่ออย่างไม่นึกโกรธที่ราฟกับโรสมาเข้าวิชาสาย เพราะอย่างที่รู้กันว่าห้องSจะขาดเรียนก็ได้ แถมที่พวกเขาหายไปเมื่อกี๊ก็เพราะไปพบผู้อำนวยการ แล้วแบบนี้ใครจะว่าได้?
หลังจากนั้นพวกเขาก็นั่งเรียนกันไปเรื่อยๆจนหมดวิชาจนกระทั่งมีอาจารย์คนใหม่เดินเข้ามา
" ลงไปรวมกันที่สนามในอีก8นาที! ไป!" เขาพูดแค่นั้นส่วนพวกอลันก็เข้าใจได้ในทันทีและรีบวิ่งตรงไปยังสนามที่อาจารย์คนนั้นบอก
ตามตารางเรียน สองคาบต่อจากนี้เป็นวิชาพละ และพวกเขาก็พอจะรู้อะไรบางอย่างมาจากเหล่ารุ่นพี่ที่หอพัก
" อาจารย์ที่สอนวิชาพละพวกนายน่ะ คืออาจารย์ลินโด เป็นอดีตพลทหารระดับสูงที่ผันตัวมาเป็นอาจารย์ เขาเป็นคนเคร่งมาก เวลาสอนก็จะทำเหมือนเราเป็นทหารใต้บัญชา และถ้าทำตามที่อาจารย์สั่งไม่ได้ก็จะถูกทำโทษ เพราะฉะนั้นก็พยายามทำตามคำสั่งให้ดีล่ะ จริงสิ บางทีตอนเจอกันในคาบเรียน ประโยคแรกของอาจารย์เขาก็อาจจะเป็นคำสั่งก็ได้นะ และถ้าเป็นอย่างนั้นก็ให้รีบตั้งสติแล้วทำตามคำสั่งเลยนะ ยังไงก็สู้ๆล่ะกันถ้าเจออาจารย์เขา"
นั่นเป็นคำพูดของเหล่ารุ่นพี่ที่พวกเขาได้รับมา แถมมันก็เป็นอย่างที่รุ่นพี่พูดมาไม่มีผิด ขนาดประโยคแรกยังเป็นประโยคคำสั่ง เห้อ และถ้าถามว่าทำไมพวกเขาต้องวิ่งทั้งๆที่อาจารย์เขาให้เวลาตั้ง10นาที มันก็เป็นเพราะสนามกับห้องเรียนของพวกเขามันอยู่ไกลกันมาก ถ้าเดินแบบธรรมดาก็ใช้เวลาตั้งยี่สิบนาที
" วิ่งไปอย่างเดียวไม่ทันแน่" วิลล์พูดขึ้นเมื่อวิ่งมาได้ครึ่งทางแต่กลับกินเวลาไปแล้วถึง5นาที
" ใช่! ถ้าเป็นแบบนั้นเหนื่อยเปล่าแถมยังต้องโดนลงโทษอีกล่ะมั้งเนี่ย!" ฝาแฝดโพล่งออกมาในขณะที่กำลังวิ่งอยู่
" ถ้าใช้เวทมนต์ล่ะครับ!" มาร์ตินเสนอ
" เวทย์เพิ่มความเร็วไง! รีบใช้เลย!" อลันพูดก่อนที่ทุกคนทำอย่างที่เขาว่า
เวทย์เพิ่มความเร็วก็มีผลตามชื่อนั่นแหละ มันเป็นเวทมนต์พื้นฐานที่พวกเขาทุกคนเคยเรียนมาแล้วตอนอยู่ที่อควาเรส และมันก็ใช้ได้ผล พวกเขามาถึงสนามที่อาจารย์ลินโดบอกได้อย่างเฉียดฉิว แต่สุดท้ายก็หอบกันแฮ่กๆอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่แล้วเมื่อพวกเขาเห็นสองคนที่ยืนอยู่อย่างสบายๆก็นึกได้ถึงบางอย่างก่อนจะทำหน้าตกใจ
" พวกนายมากันตอนไหนเนี่ย?!" ฝาแฝดถามออกไปทั้งๆที่ยังหอบอยู่
พวกเขาจำได้ว่า...ใช่ ตอนวิ่งออกมาจากห้อง ราฟกับโรสไม่ได้วิ่งออกมาพร้อมกันแต่กลับนั่งอยู่กับที่นิ่งๆ แถมตอนที่วิ่งอยู่กลางทางก็ไม่เห็นสองคนนี้ด้วย เพราะพวกเขาเอาแต่วิ่งกันจนไม่ได้สังเกตุว่าใครหายไป แถมตอนมาถึงสนามพวกเขาก็พบว่าสองคนนี้ยืนรออยู่ก่อนแล้ว แต่...ยังไงล่ะ? ก็ไม่เห็นเลยว่าสองคนนี้จะวิ่งแซงมาตอนไหน จะบอกว่าใช้คนละเส้นทางก็ไม่ได้ เพราะทางที่พวกเขาใช้ก็เป็นทางที่ย่นระยะทางให้ใกล้ที่สุดแล้ว และเป็นไปไม่ได้เลยที่สองคนนี้จะไปใช้เส้นทางที่ไกลกว่า
" เดินมา" ราฟตอบพร้อมกระตุกยิ้ม
" เดินเนี่ยนะ?!" ทุกคนพูดกึ่งตะโกนออกมาพร้อมกัน
" คงงั้นล่ะมั้ง?" โรสพูดต่ออย่างกวนๆพลางยักไหล่ ใครมันจะบ้าเดินมากันล่ะ เธอกับราฟใช้เวทย์เทเลพอร์ตมาต่างหาก ซึ่งมันเป็นเวทย์ชั้นสูงที่น่าจะหายสาปสูญไปแล้วของโลกนี้
" นับว่าฉลาดที่ใช้เวทย์เพิ่มความเร็ว แต่น่าเสียดายที่คิดช้าไปหน่อย" อาจารย์ลินโดพูดพลางเดินเข้ามาหาพวกเขา และคำพูดของเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเฝ้ามองตอนที่พวกอลันกำลังวิ่งมาที่สนาม
" ไปเปลี่ยนชุดแลเวมาเจอกันตรงนี้ในอีก5นาที" อาจารย์ลินโดชี้ไปยังอาคารโรงยิมขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับสนามที่พวกเขายืนอยู่
วาซีรอสจะมีสนามสองสนาม สนามแรกอยู่กลางแจ้งหรือก็คือที่ที่พวกเขายืนอยู่ตอนนี้ ส่วนสนามที่สองเป็นสนามที่อยู่ในที่ร่ม ซึ่งอยู่ติดกับสนามกลางแจ้ง สนามในร่มนั้นจะคล้ายๆกับอาคารโรงยิมแต่มีขนาดพอๆกับสนามกลางแจ้ง ซึ่งนั่นหมายความว่ามันกว้างมากๆ และถ้าถามว่าทำไมถึงต้องมีถึงสองสนาม? มันก็ง่ายนิดเดียวคือถ้าสนามใดสนามหนึ่งใช้ไม่ได้ก็จะได้ไปใช้อีกสนามแทน และนั่นก็ยังแสดงให้เห็นอีกว่าวาซีรอสมีเงินมากขนาดไหน แต่มันก็คงจะไม่มีอะไรน่าแปลกมากนัก เพราะเด็กที่มาเรียนที่นี่ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตที่มีอำนาจและเงินทอง หรือไม่ก็พ่อค้าที่รํ่ารวย ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการมอบเงินให้วาซีรอสบ้างล่ะ
กลับมาที่การเปลี่ยนชุด วาซีรอสจะมีชุดสำหรับเรียนวิชาพละโดยเฉพาะอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีห้องเปลี่ยนชุดด้วย และห้องเปลี่ยนชุดนั่นก็อยู่ในอาคารโรงยิม พวกอลันจึงต้องไปเปลี่ยนชุดกันที่นั่น ซึ่งห้องเปลี่ยนชุดนั้นแบ่งเป็น4ห้องใหญ่ๆ สำหรับนักเรียนทั้ง4ชั้นปี ซึ่งแต่ละห้องของชั้นปีก็จะมีเป็นตู้ล็อกเกอร์แบ่งช่องของใครของมันอยู่อีกทีหนึ่ง
แต่นั่นเป็นของห้องเรียนทั่วไป ถ้าเป็นห้องSจะมีห้องส่วนตัวแยกออกมาอีกทีโดยจะให้ห้องSทั้ง4ชั้นปีใช้ห้องร่วมกันแต่จะแบ่งเป็นฝั่งชายกับหญิง และแน่นอนว่าพวกอลันกับราฟต้องไปเปลี่ยนชุดที่ฝั่งผู้ชาย ส่วนโรสกับลิลลี่จะไปเปลี่ยนที่ฝั่งผู้หญิง
" ว้าว~ สวยจังเลยนะ ท่านหญิง" ฝาแฝดพูดออกมาทันทีที่เห็นลิลลี่เดินมา แต่คำพูดของทั้งสองจะน่าเชื่อถือกว่านี้ถ้านํ้าเสียงที่พวกเขาใช้มันไม่ได้เต็มไปด้วยความล้อเลียน
" หยุดพูดเลยนะยะ!" ลิลลี่พูดออกมาด้วยใบหน้าแดงกํ่า
" นี่ๆ หยุดแกล้งลิลลี่ได้แล้วน่า" เกรเทลพูดคล้ายๆจะห้ามแต่ปากกลับยิ้มออกมา
" ท่าทางแบบนั้นอย่าห้ามเลยดีกว่าย่ะ!" ลิลลี่โต้กลับ เธอจะไม่อายเลยถ้าชุดมันไม่ได้เน้นสัดส่วนอย่างนี้
" แต่ชุดมันก็เหมาะกับคุณลิลลี่ดีนะครับ" มาร์ตินตอบพร้อมยิ้มใสซื่ออย่างไม่เข้าใจว่าลิลลี่จะอายทำไม และนั่นทำให้ลิลลี่เถียงเขาไม่ออกเพราะความใสซื่อเกินไปของมาร์ติน
" โรสล่ะ?" อลันถามขึ้นเมื่อไม่เห็นน้องไม่แม้ของตน
" ท่านพี่ถอดถุงน่องอยู่ก็เลยให้ฉันออกมาก่อน" ลิลลี่หันไปตอบเขา และทุกคนก็เข้าใจในทันที เพราะโรสนั้นจะใส่ถุงน่องอยู่ตลอดเวลาเพื่อกันโป๊จึงไม่แปลกนักที่จะต้องเสียเวลาถอดมันออก เพราะถุงน่องที่เธอใส่มันยาวมาก
" มาแล้ว" ไม่ทันขาดคำ เสียงราบเรียบของโรสก็ดังขึ้นจนทุกคนหันไปมอง
"..."
"..."
"..."
" เงียบกันทำไม?" โรสถามขึ้นเมื่อทุกคนเงียบไปหลังจากที่เห็นเธอว์
" เห้อ ไม่มีอะไรหรอก" ราฟถอนหายใจพลางพูดออกมา
ดูเหมือนว่าเด็กดีของเขาจะไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองนั้นมีสเน่ห์แค่ไหน แล้วยิ่งชุดพละที่อยู่บนตัวเธอมันเป็นเสื้อยืดสีขาวขอบสีดำ ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดพอดีกับตัวของเธอ แต่เพราะหน้าอกของเธอมัน...ก็เลยกลายเป็นว่าเสื้อยืดมันยิ่งขับให้รูปร่างของเธอมันชัดเจนขึ้น ส่วนกางเกงก็เป็นกางเกงขาสั้น มันก็ยิ่งอวดขาเรียวสวยของเธอเข้าไปอีก แถมกางเกงนั่นก็ดันเป็นสีดำอีก สีของกางเกงจึงตัดกับผิวขาวสวยอมชมพูของเธอเข้าไปใหญ่ เห้อ แถมเจ้าตัวก็คงจะไม่ได้รู้ตัวเลยล่ะมั้ง? ว่าตัวเองนั้นช่าง...งดงามเหนือคำบรรยายใดๆ
" มารวมกันตรงนี้!" เสียงดังๆของอาจารย์ลินโดดังขึ้นทำให้ทุกคนได้สติและรีบปฏิบัติตามคำสั่ง
" วิ่งรอบสนามนี่3รอบ เริ่ม!" ไม่วายเป็นคำสั่งอีก
หลังจากนั้นพวกเขาก็วิ่งรอบสนามที่กว้างสุดๆนั่นตามคำสั่ง แต่คราวนี้พวกเขารุ้จักที่จะใช้เวทมนต์เพื่อควบคุมและช่งยในการหายใจตอนวิ่ง เมื่อวิ่งเสร็จจึงไม่มีใครมีอาการเหนื่อยหอบเลยแม้แต่น้อย และนั่นก็ทำให้อาจารย์ลินโดนั้นพึงพอใจเป็นอย่างมากที่พวกเขารู้จักคิด แต่มันยังไม่จบแค่นั้น ต่อจากคำสั่งวิ่งรอบสนามก็เป็นคำสั่งต่างๆที่เกี่ยวกับการวอร์มร่างกาย
" ฉันชื่อลินโด เครสเชนด้า สอนวิชาพละ" คำพูดนี้ของเขาทำเอาพวกอลันได้แต่ถอนหายใจเงียบๆ
พวกเขาอยากจะบอกกับอาจารย์คนนี้จัง ว่าอยู่กันมาตั้งเกือบชั่วโมง ออกคำสั่งก็ตั้งหลายอย่าง แต่พึ่งจะมาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเอาป่านนี้เนี่ยนะ?
" ตั้งแต่วันนี้ฉันจะสอนเรื่องการป้องกันตัวและการต่อสู้ และ...อย่าขัดคำสั่งฉันเป็นอันขาด!"
" ใครเคยเรียนการต่อสู้มาบ้าง?" อาจารย์ลินโดถามต่อ ส่วนพวกอลันก็ยกมือขึ้นกันทุกคน
" หึ! ไม่เลว" เขากระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจที่นักเรียนห้องนี้ดูท่าว่าจะน่าสนใจกว่าห้องอื่น
" บอกมาทีละคน! ว่าใครถนัดอะไร?!" เขาบอกเสียงดัง จากนั้นทุกคนก็เริ่มบอกในสิ่งที่ตัวเองถนัดออกมา จนกระทั่งถึงตาราฟกับโรสที่ทั้งคู่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาและลินโดก็เพิ่งจะสังเกตุว่าตอนที่เขาถามว่าใครเคยเรียนการต่อสู้มาบ้าง เด็กสองคนนี้ก็ไม่ได้ยกมือ เขาจึงเดินเข้าไปหาโรสกับราฟก่อนจะเอ่ยปากถาม
" พวกเธอถนัดการต่อสู้อะไร?" เขาเดินไปถามทั้งสองคน
เขาไม่เชื่อว่าเด็กสองคนนี้จะต่อสู้ไม่เป็น วันนั้นที่เป็นวันสอบเข้า เขาเองก็อยู่ที่สเตเดี้ยมเพื่อคอยสังเกตุว่านักเรียนปีนี้จะเก่งการต่อสู้กันมากแค่ไหน และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็นเด็กสองคนนี้ต่อสุ้เพราะสัตว์เวทย์อย่างมังกรสองตัวนั้นยอมก้มหัวให้ทั้งคู่แต่โดยดี เขาก็ยังเชื่อว่าเด้กสองคนนี้น่าจะมีบางอย่างที่ซ่อนอยู่ และเขาก็ต้องการเห็นสิ่งนั้นที่ถูกซ่อนเอาไว้
" ไม่รู้สิคะ" โรสตอบพลางยักไหล่
" พวกเราพอรู้พื้นฐานการต่อสู้ของทุกอย่างแต่ไม่รู้ว่าตัวเองถนัดอะไร" ราฟพูดเพิ่มเติม ที่เขาพูดไปนั้นออกจะผิดอยู่เล็กน้อยตรงทร่รู้พื้นฐานของการต่อสู้ทุกอย่าง เพราะคำว่าพื้นฐานมันใช้ไม่ได้แล้วสำหรับสองคนนี้ แต่มันควรจะใช้คำว่าเชี่ยวชาญมากกว่า
" ถ้างั้นพวกเธอสองคนก็ลองบุกเข้ามาหาฉันพร้อมๆกันดูสิ" เขาพูดพลางถอยออกมาจากกลุ่มพวกอลันเล็กน้อยเพื่อไม่ให้พวกเขาถูกลูกหลง
" เข้ามา!" เขาพูดพลางยืนนิ่งๆเป็นหุ่นให้ราฟกับโรสบุกเข้ามาเพราะคิดว่าทั้งสองคนนี้อาจจะมีแค่พื้นฐานจริงๆ แต่แล้วเขาก็ต้องลบความคิดนั้นไปอย่างรวดเร็ว เพราะ...
ฟึ่บ!
" แบบนี้พอใช้ได้มั้ยครับ/คะ?"
เร็วมาก!
นั่นเป็นคำเดียวที่ลินโดคิดได้ในตอนนี้ เพราะราฟกับโรสพุ่งเข้าไปหาลินโดก่อนจะวาดลวดลายอย่างรวดเร็วซะจนลินโดมองตามไม่ทัน อันที่จริง เขาไม่รู้ด้วยซํ้าว่าโรสกับราฟพุ่งเข้ามาหาเขาตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็มีหมัดจากมือขาวๆของเด็กสาวจ่ออยู่ที่ใบหน้า ส่วนอีกด้านก็มีรองเท้าผ้าใบของเด็กหนุ่มมาจากทางด้านหลังและค้างอยู่ในอากาศห่างจากลำคอของเขาไม่กี่เซ็นติเมตร
และเมื่อหายจากอาการตกตะลึงแล้ว เขาก็เริ่มวิเคราห์เรื่องอื่นนอกจากความเร็วของโรสกับราฟทันที...หมัดของเด็กผู้หญิงตรงหน้าเขาขนาดไม่โดนเขายังสัมผัสได้ว่าทรงพลังมาก ถึงขนาดที่ถ้าโดนเข้าไปเต็มๆล่ะก็มีหวังได้กระเด็นไปเป็นเมตรแถมใบหน้าอาจจะเสียโฉมได้แน่ ส่วนเด็กผู้ชายด้านหลังที่ตอนนี้เท้าอยู่ห่างจากลำคอของเขาไม่มาก เขาก็รับรู้ได้เช่นกันว่าถ้าโดนเท้าของอีกฝ่ายเข้าไปก็มีสิทธิ์ที่จะคอหักตายได้เช่นกัน เรียกได้ว่าเขาโชคดีสุดๆที่เด็กสองคนนี้หยุดทุกอย่างได้ทันก่อนที่เขาจะต้องลงไปนอนกลายเป็นศพอยู่กับพื้น
อืม...ถึงจะไม่ได้อวยตัวเอง แต่ถ้าพูดตามความเป็นจริง ตัวเขาเองก็ยังไม่นับว่าแก่ พลังและความเร็วยังคงมีเปี่ยมล้น แต่สุดท้ายกลับต้องมาพ่ายแพ้ให้กับเด็กอายุ17ปีภายในเวลาไม่ถึง5วิ เห้อ ถ้ามีใครรู้เข้าคงได้เอาไปลือกันให้ทั่วว่าอดีตพลทหารมากฝีมือต้องมาแพ้เด็กอายุ17ปี แต่ก็เอาเถอะ เขายินดียอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี เพราะถึงแพ้ แต่เขาก็ได้ค้นพบสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า
" ฮ่าๆๆๆ ยอดเยี่ยมๆ ดีมาก! เอาล่ะ ไปรวมกับเพื่อนๆของพวกเธอไป" เขาหัวเราะก่อนจะพูดต่อ ส่วนโรสกับราฟก็ลดเท้าและหมัดลงก่อนจะเดินไปรวมกับคนอื่นๆที่ตอนนี้อ้าปากค้างไปแล้วด้วยความตดตะลึง
" ฉันจะให้พวกเธอแสดงการต่อสู้ที่ถนัด แล้วฉันจะช่วยสอนให้ว่ายังต้องปรับตรงไหนอีก ส่วนเธอสองคน โรซาเรียกับราฟาเอลใช่มั้ย?" เขาหันไปถามราฟกับโรสส่วยทั้งคู่ก็พยักหน้า "พวกเธอยืนรอก่อน เดี๋ยวฉันจะมาบอกอีกทีว่าจะให้ทำอะไร"
จากนั้นเขาก็ให้พวกอลันแยกกันไปคนละมุมและแสดงการต่อสู้ที่ตัวเองถนัดก่อนจะบอกว่าต้องทำอะไรยังไงบ้าง ก่อนจะปล่อยให้แต่ละคนฝึกตามสิ่งที่เขาสั่งไป
" อยากสู้กับอาจารย์ตัวต่อตัวจัง" โรสพูดออกมาในขณะที่กำลังรออาจารย์ลินโดอยู่
" นั่นสินะ ฝีมือน่าจะพอๆกับพวกแนวหน้าเลยล่ะมั้ง?" ราฟพูดอย่างเห็นด้วย
ถ้าจะให้พูด อาจารย์ลินโดนับได้ว่าเป็นคนมีฝีมือ และน่าจะมีพอๆกับพวกอเดลเลยทีเดียว แต่เพราะเมื่อกี๊เขาเรียกโรสกับราฟไปพร้อมกันจึงสู้ไม่ได้ แต่ถ้าเรียกไปปค่ทีละคน เขาก็คงจะพอสู้ได้อยู่ไม่น้อยเลย
" มานี่สิ" อาจารย์ลินโดเดินมาเรียกทั้งสองให้เดินไปหา
" เดี๋ยวฉันจะวัดเรื่องพลังและความเร็วแล้วก็อื่นๆของพวกเธอก่อน" เขาพูดก่อนจะชี้ไปยังมุมหนึ่งที่มีกระสอบทรายถูกผูกห้อยอยู่กับเสา คล้ายๆกับที่ฝึกซ้อมของนักมวย
" ไปต่อยมันดู" จากนั้นทั้งสามก็เดินไปยังกระสอบทรายที่ห้อยอยู่นิ่งๆ ซึ่งมันมีหลายเสามาก และลินโดก็ให้ทั้งสองต่อยมันพร้อมกันเพราะกระสอบทรายที่ถูกห้อยไว้ไม่ได้มีแค่อันเดียว
และเมื่อได้รับสัญญาณ ราฟกับโรสก็กางขาออกเล็กน้อยก่อนจะยืนทรงตัวให้เท้าข้างหนึ่งนำส่วนอีกข้างก็เท้าตาม ก่อนจะเอี้ยวตัวส่งแรงจากเอวขึ้นไปยังหัวไหล่ไล่ไปยังแขนจนถึงมือแล้วเหวี่ยงหมัดออกไป และผลก็ออกมา...
" นั่นมันทรัพย์สินของโรงเรียนนะ" ลินโดถอนหายใจพลางยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมขมับ
เขาแค่อยากทดสอบแรงของเด้กสองคนนี้สักหน่อย แต่ไม่คิดว่าจะต่อยจนกระสอบทรายขาดจนทรายที่อยู่ภายในไหลทะลักออกมา ใช่ ฟังไม่ผิด กระสอบทรายขาด และไม่ขาดธรรมดา มันขาดเป็นรูโบ๋ขนาดเท่ากำปั้นเลยทีเดียว จะบอกว่ากระสอบทรายมันเก่าก็ไม่ได้ เพราะนี่เพิ่งจะเปิดเทอมและกระสอบทรายจะถูกเปลี่ยนเป็นของใหม่ทุกปี
" ก็อาจารย์บอกให้เราต่อยนี่ครับ" ราฟตอบ
" เพราะฉะนั้นพวกเราไม่ผิดค่ะ ผิดที่อาจารย์นั่นแหละ" โรสปัดความรับผิดชอบหน้าตาเฉยและนั่นทำให้ลินโดยิ่งถอนหายใจหนักกว่าเดิม แต่นั่นก็ทำให้เขาไม่เห็นว่าโรสกับราฟกำลังแอบจับมือกันด้านหลังคล้ายว่าแผนการบางอย่างสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
หลังจากนั้นลินโดก็ช่างเรื่องกระสอบทรายและหันไปทดสอบสมรรถภาพของราฟกับโรสต่อ แต่การทดสอบทุกครั้งก็ล้วนทำให้เขาตกตะลึงในความสามารถของโรสกับราฟ
และเมื่อหมดชั่วโมง ทุกคนก็เปลี่ยนเป็นชุดนักเรียนตามเดิมก่อนจะกลับไปอาบนํ้าที่หอพักเพราะแต่ละคนนั้นเหงื่อออกกันมากมายเหลือเกิน ก่อนจะพากันไปทานอาหารที่โรงอาหารสุดหรูของวาซีรอสต่อ หลังจากนั้นก็กละบไปเรียนช่วงบ่ายแล้วพากันกลับหอพักไปพักผ่อน
ปราสาทที่พักห้องS
20:40น.
ห้องโถง
" เป็นไง? ได้ข่าวว่าเรียนกับอาจารย์ลินโดนี่?" ไบรอันเอ่ยทักรุ่นน้องเพราะตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องโถง
" ก็ดีนะครับ อาจารย์เขาดูดุๆก็จริง แต่ก็สอนดีมากๆเลย" อลันตอบ อาจารย์ลินโดถึงจะดูโหด แต่เวลาสอนกลับเข้าใจและรู้ว่านักเรียนพลาดตรงไหน เขาก็จะมาช่วยสอน แนะนำ หรือทำให้ดู ไม่ใช่แค่สั่งอย่างเดียว
" ใช่มั้ยล่ะ? เห็นอย่างนั้นแต่อาจารย์เขาก็ใจดีนะ" เซเลสเทียพูดต่อ
" แล้วเริ่มปรับตัวกับโรงเรียนได้รึยังล่ะ?" เกรซถามต่อ
" ก็เริ่มชินนิดๆแล้วล่ะมั้งครับ?" ผาแฝดพูดออกไป
" ฮ่าๆๆ เพิ่งจะสองวันเอง เดี๋ยวก็ชินเองแหละ" เซ็นพูดอย่างอารมณ์ดีตามนิสัย
" ขอตัวก่อนนะค่ะ/ครับ" โรสกับราฟพุดชึ้นก่อนจะเดินขึ้นไปที่ห้องพักเมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลานอนแล้ว แต่ดูเหมือนดิเอโก้จะมองตามโรสไปด้วยสายตาแปลกๆก่อนที่เขาจะพูดขึ้นบ้าง
" ฉันก็ไปล่ะ ยังมีงานที่ยังไม่เสร็จน่ะ"
" ได้ๆ อย่าหักโหมให้มากล่ะ" เซเลสเทียตอบเพื่อนไป
" ใช่ ฉันขี้เกียจไปแบกศพนาย" ไบรอันพูดติดตลกส่วนดิเอโก้ก็ยิ้มและเขกกะโหลกของเพื่อนชายไปหนึ่งทีก่อนจะเดินจากไป แต่คราวนี้กลับเป็นพวกอลันแทนที่มองตามกิเอโก้ไปด้วยความสงสัย เพราะพวกเขามักจะเห็นดิเอโก้มองโรสด้วยสายตาแปลกๆเป็นบางครั้ง แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะแสดงออกมากไปว่าสงสัย...
" สังสัยล่ะสิ?" ไบรอันพูดอย่างรู้ทัน
" รุ่นพี่ดิเอโก้เขาเป็นอะไรเหรอคะ?" ลิลลี่ถามออกไป
" ใช่ครับ พวกผมก็สงสัยมานานแล้ว" แดนกับคริสถามด้วยเช่นกัน เพราะเขาเองก็สงสัยว่ารุ่นพี่คนนี้มีอะไรกับน้องสาวของพวกเขารึเปล่า แต่ที่ผ่านมายังไม่ทีโอกาสได้ถามเลย
" เล่าสักหน่อยก็ดีนะ คนอื่นจะได้รู้แล้วทำตัวได้ถูกน่ะ" ไบรอันหันไปพูดกับเซเลสเทีย
" เล่าก็ดี" เธอพยักหน้า
" อันที่จริง เดียโก้เขามีน้อยสาวอยู่คนหนึ่งน่ะ" ไบรอันเริ่มเล่าและเรียกชื่อเพื่อนชายด้วยความสนิทสนม
" แต่เด็กคนนั้นก็เสียไปตั้งแต่ยังเด็ก เดียโก้ที่รักน้องสาวคนนั้นมากเลยจำฝังใจ" เซเลสเทียเล่าต่อ
" แล้วมันเกี่ยวอะไรกับโรสล่ะคะ?" เกรซถามต่อเพราะเธอเองก็ไม่รู้เรื่องนี้ ส่วนสองแฝดสาวอย่างเมลริน่ากับอารีเอลก็ยังไม่รู้แต่ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในครัว
" พวกฉันเคยเห็นรูปน้องสาวของเดียโก้อยู่ เลยรู้ว่าน้องสาวของหมอนั่นกับโรสคล้ายกันมาก"
" คล้าย?" คริสพูดออกมา
" อืม น้องสาวของเดียโก้มีผมสีเทาแต่ไม่ใช่สีขาว ดวงตาเป็นสีชมพูเข้มจนเกือบแดง" และนั่นก็ทำให้คริสกับแดนเข้าใจคำว่าคล้ายของไบรอันและเซเลสเทีย และเท่าที่ฟังดู น้องสาวของรุ่นพี่เดียโก้ก็น่าจะคล้ายกับน้องสาวของพวกเขาอยู่ไม่น้อย
" แต่ที่คล้ายกว่าคงเป็นนิสัย น้องสาวของเดียโก้เป็นเด็กร่างกายอ่อนแอ ออกไปไหนไม่ค่อยได้ ทำให้เธอไม่ค่อยมีความสุข เวลาพูดกับใครก็จะเป็นนํ้าเสียงราบเรียบ ดวงตาไม่เคยสื่อถึงอารมณ์"
และนี่ก็เป็นเหตุให้ทุกคนเข้าใจในทุกอย่าง
ห้องพักของราฟ
ก๊อกๆๆ
" ราฟ นวดให้หน่อย" โรสเคาะประตูทางเชื่อมระหว่างห้องของเธอและห้องของราฟก่อนจะเดินเข้ามาในห้องของอีกคนอย่างไม่รอคำอนุญาต
ห้องของเธอกับราฟอยู่ติดกัน เธอกับเขาเลยสร้างประตูที่เชื่อมติดระหว่างห้องขึ้นมา จะไม่ได้ต้องออกจากห้องตัวเองแล้วไปเคาะประตูหน้าห้องของอีกคนให้ยุ่งยาก ส่วนเหตุผลที่เธอมาหาเขาก็ง่ายๆและอย่างที่พูดไป เธอเมื่อย เมื่อยมาก และถ้าจะให้นวดเองก็คงจะแปลกๆ เธอเลยมาให้อีกคนนวดให้นี่ไง
" ตรงไหนล่ะ?" เขาถามอย่างเป็นการตอบรับและดีดตัวลุกขึ้นมานั่งบนเตียงนอนแล้ววางหนังสือลงที่หัวเตียง
" ตั้งแต่หลังไปจนถึงแขนเลย" เธอบอกก่อนจะคลานไปหาเขาบนเตียง
" หันหลังมา" เขาบอกและเธอก็ทำตามแต่โดยดี
อันที่จริง เมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้ พวกเขามักจะผลัดกันนวดให้อีกคนถ้าวันไหนที่เหนื่อยมากๆ การทำแบบนี้งไม่มีอะไรให้แปลกใจ แต่คราวนี้ดูเหมือนจะต่างไปนิดหน่อย เพราะเมื่อโรสหันหลังให้ราฟ เขาก็ต้องกลืนนํ้าลายลงคอทันที เพราะชุดที่เธอใส่มันเป็นชุดนอนสีดำแหวกให้เห็นหลังขาวนวล แล้วไหนจะลำคอระหงน่าฝากรอยนั่นอีก แต่เขาก็ต้องอดกลั้นและนวดให้เธอต่อไปจนเสร็จ แต่เหมือนจะมีอะไรบางอย่างกลั่นแกล้ง เมื่อ...
" ขอบคุณนะ" โรสหันหน้ามาหาเขาในท่าคลานเผยให้เห็นเนินอกรำไร เท่านั้นไม่พอ เธอยังประทับริมผีปากของเธอลงกับของเขาอย่างแผ่วเบาราวกับผีเสื้อแตะก่อนจะเดินกลับห้องไป ทิ้งให้เขาต้องนิ่งค้างก่อนจะหงายตัวนอนลงบนเตียงแลเวเอามือก่ายหน้าผาก
เขารู้ว่าที่เธอทำไปคงไม่ได้คิดจะยั่วยวนหรือแกล้งอะไรเขา แต่คงทำเพราะความใสซื่อ แต่เธอคงจะไม่รู้มั้ง? ว่าการทำแบบนี้มัน...
" อา..." ตอนแรกก็ว่าจะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ตอนนี้...
ปั้นเป็นก้อนแล้วกินเลยได้มั้ยนะ?
________(ตัด)
ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งที่ทำให้นิยายเรื่องตัวร้ายข้ามมิติได้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในหมวดนิยายรักแฟนตาซีในวันที่10/05/62
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากกกกก
นิยายสนุกนะคะ แต่พอเราอ่านมาเจอ 'นะค่ะ' สำหรับเราคือแบบ ความสนุกลดหายลงไปเยอะมาก แงงงงงงงงงงงงงงง
ไม่รู้นะว่าคนอื่นรู้สึกเหมือนกันรึป่าว แต่เรารู้สึกอ่ะค่ะ
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ ^^
ราฟจะหมดความอดทนแล้ววว
กินเลยยยยค่ะะะะ
อย่าพึ่งไปกลับมาต่อก่อนนนน^^
ดิเอโก้ตอนแรกเรานึกว่าแกชอบโรสถ้าชอบจริงก้เสียใจด้วยโน๊ะโรสกะราฟเขารักกาน><