" หืม?/โอ๊ะ!" ก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะได้สนทนาอะไรกันต่อ พวกเขาก็อุทานออกมาพร้อมกัน
" ของนายรึเปล่า?" โรสหันไปถามอีกคนแต่เขาก็ส่ายหน้า
" อาจจะเป็นของเธอก็ได้" เขาโยนกลับไปให้เธอแต่เธอก็ส่ายหัวเหมือนกับเขา
" ไม่น่าจะใช่ของฉันนะ อืม...8คน" โรสตอบก่อนจะทำหน้าครุ่นคิดต่ออีกเล็กน้อยแล้วพูดออกมา
" ดูถูกพวกเราเกินไปรึเปล่าเนี่ย?" ราฟพูดพลางแสยะยิ้มมุมปาก
" ถือเสียว่าเป็นการยืดเส้นยืดสายครั้งแรกที่มาโลกนี้ล่ะกัน" โรสพูดด้วยอาการที่ไม่ต่างจากอีกคนมากนัก
ก็ไม่ใช่อะไรหรอกที่ทำให้พวกเขาต้องมานั่งโยนไปให้อีกคนน่ะ ก็แค่คน8คนที่มีจิตสังหารกำลังมุ่งตรงมาทางรถม้าของพวกเขา พูดง่ายๆ...มีคนส่งนักฆ่ามาสังหารพวกเขา ไม่สิ ของขวัญมากกว่า แต่8คนเนี่ยน้อยเกินไปจริงๆนะ
" หืม? งานนี้คงต้องใช้พลังเวทย์แล้วล่ะ" ราฟพูดขึ้นเมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายใช้พลังเวทย์พุ่งมาทางนี้ แน่นอนว่าอีกฝ่ายคงจะใช้พลังเวทย์ในการต่อสู้ด้วย
" สำหรับนาย ถ้าใช้พลังเวทย์ธาตุเดิมของราฟคนก่อนก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าพวกนั้นเห็นฉันใช้พลังเวทย์เข้าก็คงไม่มีทางเลือกอื่น" โรสพูดต่อ
ถ้าเขาใช้พลังเวทย์ที่เหมือนกับธาตุที่ราฟคนก่อนใช้ก็คงจะไม่มีปัญหา แต่สำหรับเธอที่คนอื่นๆรู้กันทั่วว่าใช่พลังเวทย์ไม่ได้ แล้วถ้าครั้งนี้เธอใช้พลังเวทย์ให้คนพวกนั้นเห็นเข้าก็มีทางเดียวก็คือจัดการปิดปากให้เรียบร้อยเพราะเธอยังไม่ต้องการให้เรื่องพลังของเธอแพร่ออกมาไปในตอนนี้ ซึ่งนั่นก็นับว่าดีไปอย่าง เพราะเธอเองก็ถนัดฆ่าคนมากกว่าไว้ชีวิตคนอยู่แล้ว
ฟุ่บ! เอี๊ยด!
รถม้าที่หยุดลงกะทันหันทำเอาคนที่อยู่ในรถม้าเกือบจะหัวทิ่มไปตามๆกันได้แต่ตวัดเสัยงห้วน
" ลงนิ่มๆหน่อยไม่ได้รึไง?" โรสพูดอย่างหงุดหงิดแต่วินาทีต่อมาก็มีลูกไฟสีแดงเพลิงมากมายพุ่งเข้ามาในรถม้าจากทุกทิศทางทำให้คนสองคนที่อยู่ในรถม้าต้องพังหลังคารถม้าออกมาก่อนที่พวกเขาจะถูกไฟคลอกตายเสียก่อน
" จะเริ่มก็ช่วยให้สัญญาณหน่อย" ราฟพูดขึ้นเมื่อกระโดดออกมาอยู่นอกรถม้าที่ตอนนี้กำลังถูกไฟสีแดงเพบิงเผาไหม้ไปและเขาก็ได้สังเกตุนักฆ่าทั้ง8คน พวกมันแต่งตัวปกปิดมิดชิดสีดำทั้งตัว แถมพอหันไปดูใกล้ๆกับรถม้าก็จะพบกับศพที่นอนจมกองเลือดของคนขับรถม้าและไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นฝีมือใคร
" หึ! ไม่คิดว่าพวกแกจะรอด แต่อีกไม่นานพวกแกก็ต้องตายแล้ว!" ชายคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้ามาหาโรสกับราฟพร้อมกันทั้ง8คนและแน่นอนว่าพวกมันพุ่งเข้ามาพร้อมกับพลังเวทย์ในมือ
" คนล่ะครึ่งล่ะกัน" ราฟพูดออกมาส่วนอีกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย
" เอาล่ะ...มาเริ่มกันดีกว่า!" โรสพูดออกมาด้วยความสนุกสนานดวงตาพราวระยับน่ามอง ริมฝีปากสวยโค้งขึ้นยิ่งส่งเสริมให้เธองดงามน่ามองมากกว่าเดิม แต่ทว่า...
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
วินาทีต่อมาก็มีมีดสั้นสีเงินสองอันถูกมือเรียวสวยขว้างออกไปและปักอยู่บนจุดตายของนักฆ่าชุดดำสองคนแรกอย่างแม่นยำและรวดเร็ว เร็วเสียจนคนถูกฆ่ายังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองตายแล้ว ล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้นโดยที่ยังไม่ได้โอดครวญกับความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย
" เธอ!" นักฆ่าอีกหกคนมองไปยังผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในบริเวณนั้นอย่างตกตะลึง จากเมื่อกี๊ที่มองเธออย่างหลงใหลก็ต้องกลายเป็นหวาดระแวงปนตกใจแทน เพราะเมื่อครู่นี้เธอยังคงเป็นคล้ายกับผู้หญิงชนชั้นสูงที่งดงามและน่าหลงใหล แต่วินาทีนี้คล้ายกับว่าเธอกลายร่างไปเป็นปีศาจที่กระหายเลือดและพร้อมจะฆ่าคนโดยไม่ต้องกระพริบตา
พล็อก! ตุบ
" ศัตรูอยู่ตรงหน้ายังจะกล้าไปสนใจอย่างอื่นอีก" ยังตกใจได้ไม่นานก็มีเสียงคล้ายอะไรบางอย่างหักดังขึ้นก่อนที่ราฟจะพูดต่อพร้อมๆกับร่างสองร่างที่ล้มลง
เขาทำการหักคอนักฆ่าคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆจนมันล้มลงไปกับพื้นก่อนที่จะมุ่งเป้าไปยังนักฆ่าที่อยู่ใกล้ๆอีกคนและใช้วิธีการสังหารเช่นเดียวกับคนแรก และนั่นทำให้นักฆ่าชุดดำจาก8คนเหลืออยู่แค่ครึ่งหนึ่งแทน และแน่นอนว่าการกระทำของราฟกับโรสทำให้นักฆ่าที่เหลืออยู่ไม่กล้าประมาทอีกต่อไป แต่แล้วกลับมีสิ่งหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของพวกเขา
ไหนคนคนนั้นบอกว่าสองคนนี้เป็นแค่เด็กอายุ16ปี ไม่มีอันตราย แล้วการฆ่าคนโดยไม่กระพริบตานี่มันคืออะไรกัน?
" จัดการ!" ชายคนหนึ่งดังขึ้นก่อนที่นักฆ่าอีกสี่คนที่เหลือจะพุ่งเข้าไปหาราฟกับโรส แต่คนทั้งสองกลับไม่ได้ดูกลัวเลยเลยสักนิด กลับยืนยิ้มนิ่งๆรอให้นักฆ่าเข้ามา
ผ่านไปไม่นาน บริเวณนั้นก็เหลือบุคคลเพียงแค่สองคนเท่านั้น รอบๆตัวของทั้งสองมีศพของนักฆ่าชุดดำเรียงรายอยู่แถมบางศพก็มีเลือดไหลออกมาน้อยๆในขณะที่ผู้เหลือรอดกลับยังคงสวมชุดสีขาวสะอาดตาไม่มีรอยอะไรเปรอะเปื้อนเลยแม้แค่น้อย
" หืม? นักฆ่าพวกนี้เป็นของนายนะ ราฟ" โรสพูดออกมาหลังจากที่เธอกับราฟลองช่วยกันค้นตัวนักฆ่าทั้งแปดคนนี้และเธอก็เจอบางอย่างในตัวของนักฆ่าคนหนึ่ง
ถามว่าทำไมถึงไม่เหลือพวกนี้ไว้สักคนสองคนน่ะเหรอ? ก็เพราะว่ามันไม่จำเป็นไงล่ะ เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านักฆ่าที่ถูกส่งมาเป็นพวกปลายแถว แต่ก็ยังมีกันถึง8คน นั่นหมายความว่าผู้ว่าจ้างคงจะคิดว่าเธอกับราฟเป็นคนที่อ่อนแอ ฆ่าได้ง่ายๆแต่ก็ส่งมาถึงตั้งแปดคน แสดงว่าคงต้องการฆ่าเธอกับราฟมากๆแน่ และถ้าผู้ว่าจ้างรู้ว่าเธอกับราฟยังไม่ตายก็ต้องส่งนักฆ่ากลุ่มใหม่มาอีกอย่างแน่นอน
" หึ! คงจะอยากเซอไพรส์ฉันล่ะมั้ง" ราฟพูดพลางกระตุกยิ้มหลังจากรับของมาจากอีกฝ่ายซึ่งมันก็คือกระดาษสัญญาว่าจ้างสังหารเจ้าชายราฟาเอล ทาทารอส
ที่จริงมันก็ไม่ควรจะมีอยู่ เพราะจะกลายเป็นหลักฐานที่จะทำให้ผู้ว่าจ้างและนักฆ่าต้องเป็นอันตราย แต่มันก็เป็นหลักประกันเช่นกัน เพราะนักฆ่าและผู้ว่าจ้างส่วนมากมักจะทำสัญญาพวกนี้กัน และนักฆ่าก็จะรับเงินมาครึ่งหนึ่งก่อนแล้วพอทำงานสำเร็จก็จะกลับมารับเงินอีกครึ่งหนึ่งแล้วสัญญานี้ก็จะถูกทำลาย แต่ถ้าผู้ว่าจ้างไม่ยอมจ่ายเงินก้อนที่สอง สัญญาที่ทำกันก็อาจจะถูกเอาไปปล่อย ทำให้ผู้ว่าจ้างเป็นอันตรายได้ ดังนั้น สัญญานี่ก็เป็นเหมือนกับหลักประกัน
" ยูเรียน่า วิเนล่า?" เธอพูดออกมาหลังจากดูที่ชื่อผู้ว่าจ้าง
ยูเรียน่า วิเนล่า เป็นองค์ราชินีคนปัจจุบันของแดนปีศาจ เป็นองค์ราชินีองค์ที่สองในองค์ราชาคนปัจจุบันของแดนปีศาจ เป็นแม่เลี้ยงของราฟและยังเป็นแม่แท้ๆของเจ้าชายลำดับที่2กับเจ้าหญิงลำดับที่3แห่งแดนปีศาจด้วย มาจากตระกูลขุนนางขั้นมาควิสของแดนปีศาจ
"..." เขาไม่พูดอะไรแต่กระตุกยิ้มแทน
" ดีจังนะ มีคนส่งของขวัญมาให้ด้วย" เธอพูดด้วยความหมั่นไส้ เพราะจริงๆแล้วนักฆ่าทั้ง8คนนั้นเป็นของราฟแต่ที่คิดจะฆ่าเธอด้วยก็คงจะอยากปิดปากไม่ให้เหลือพยานเท่านั้น
" ก็ทำตัวให้มีคนเกลียดเยอะๆสิ" เขาตอบกลับนํ้าเสียงขี้เล่น
" อืม" ฉับพลันสายตาของเธอก็หันไปเห็นบริเวณรอบๆตัวก่อนที่เธอจะเบนสายตาไปมองอีกคนและเขาก็มองเธออยู่แล้ว จึงกลายเป็นว่าเธอกับเขาสบตากันก่อนที่ต่างฝ่ายต่างจะสื่อสารกันผ่านสายตา
พรึ่บ!
จู่ๆบริเวณนั้นก็มีไฟสีนํ้าเงินลุกโชติช่วงเผาไหม้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับนักฆ่าเหล่านี้ไปจนไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า และไม่ต้องเดาก็รู้ว่านี่เป็นฝีมือใคร พวกเขาต้องทำลายหลักฐานให้หมดจด จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลังให้ต้องปวดหัว
" กลับกันเถอะ" โรสบอกอีกคนก่อนจะใช้เวทมนต์พิเศษสร้างรถม้ากับคนขับขึ้นมา
เธอต้องรีบกลับแล้ว เพราะถ้าจะให้พูด ถ้าหากว่าไม่มีนักฆ่าพวกนี้ เธอก็น่าจะถึงบ้านได้สักพักแล้ว และที่เธอเลือกจะใช้เวทมนต์สร้างรถม้าขึ้นมาแทนการใช้ปีกก็เพราะชุดที่เธอใส่อยู่มันเป็นอุปสรรคเกินไป และเพราะอย่างนี้ไงล่ะ เธอถึงไม่ชอบใส่พวกชุดที่เป็นกระโปรงสะเท่าไหร่
" อืม" ราฟครางตอบในลำคอก่อนที่ทั้งสองคนจะขึ้นรถม้าไป
" ดวงจันทร์คืนนี้สวยนะ" โรสพูดขึ้นเมื่อเปิดหน้าต่างรถม้าแล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เพราะคืนนี้ไม่ค่อยมีเมฆ ทำให้พวกเขามองเห็นพระจันทร์ดวงโตได้อย่างชัดเจนแถมวันนี้ยังเป็นวันพระจันทร์เต็มดวงอีกด้วย ทำให้มันดูงดงามเข้าไปใหญ่ เพราะโลกก่อนมีแต่ตึกสูงระฟ้าเต็มไปหมด การจะได้เห็นภาพแบบนี้คงเป็นเรื่องยากแต่ถ้าไปเที่ยวในที่ที่มองเห็นได้ก็ว่าไปอย่าง แต่เพราะมีงานรัดตัว การไปเที่ยวจึงเป็นไปได้ยากสำหรับคนทั้งสอง
ซึ่งการที่โรสพูดออกไปแบบนั้นทำให้คนด้านข้างหันมามองตามเธอบ้าง แล้วมันก็เป็นอย่างที่เธอว่าจริงๆ ดวงจันทร์คืนนี้สวยงามมากจริงๆ
คฤหาสน์วาเรนเซีย
" กลับดีๆล่ะ" โรสเดินลงมาจากรถม้าก่อนจะหันไปบอกอีกคน
" เธอก็เดินดีๆล่ะ" เขาบอกลาอีกฝ่ายเช่นกัน
" อืม" เธอบอกลาครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินเข้าบ้านไปส่วนอีกคนก็นั่งรถม้ากลับไปที่คฤหาสน์ของตัวเองบ้าง
" ท่านหญิง กลับมาแล้วเหรอคะ?" เมดคนหนึ่งทักทายเธอ
" อืม เดี๋ยวท่านพ่อกับท่านพี่แล้วก็เซบาสเจียนจะตามมาทีหลังน่ะ" เธอตอบก่อนจะเดินขึ้นห้องไป
เมื่อกลับมาถึงห้องก็แน่นอนว่าเธอรีบถอดชุดอันสุดแสนจะงดงามแต่เกะกะออกทันที ก่อนจะรีบไปอาบนํ้าเปลี่ยนชุดแล้วกลับมานั่งเล่นในห้องนอนอีกครั้ง
พรึ่บ!
" ฝ่าบาท วันนี้เป็นยังไงบ้าง?" นั่งเล่นไปสักพัก จู่ๆเธอก็กลับมาโผล่ในมิติแทนและเหมือนเดิมคือมีคนคนหนึ่งกำลังนั่งทำหน้ากวนประสาทนั่งอยู่ด้านข้างเช่นเคย
" ราฟล่ะ?" เธอไม่ตอบคำถามของอีกฝ่ายแต่กลับถามหาอีกคนที่ปกติจะเจอหน้าด้วยถ้ามาในที่แห่งนี้
" ชิ! รู้สึกว่าจะอาบนํ้าอยู่ก็เลยไม่ได้พามา" ลีออนบ่นอุบอิบในตอนแรกก่อนจะยอมตอบออกไป
" เมื่อกี๊นายถามว่าวันนี้เป็นยังไงบ้างสินะ" เธอถามลองเชิงซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้า เธอจึงพูดต่อ "ก็นั่นแหละ วุ่นวายเหมือนเดิม" เธอตอบอย่างไม่แยแส
" ฝ่าบาท ท่านอยากได้หลักฐานที่ว่าคุณนางเอกไม่ใช่เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรวินเซนต์มั้ย?" ลีออนถามพลางยิ้มกว้างทำเอาคนมองลอบเบะปาก
ชอบบอกว่าเธอกับราฟชั่วร้าย แต่ตัวนายเองก็เป็นเหมือนกันนั่นแหละ!
" ไม่ดีกว่า ฉันยังไม่อยากใช้ตอนนี้ ไว้ถึงเวลาเมื่อไหร่ ฉันจะบอกนายเอง" เธอบอกพร้อมกระตุกมุมปาก
" ฝ่าบาท อย่ายิ้มอย่างนั้นพ่ะย่ะค่ะ" ลีออนเผลอลูบแขนขึ้นมาอย่างขนลุก
ทุกครั้งที่เขาได้เห็นรอยยิ้มนี้ไม่ว่าจากองค์จักรพรรดิหรือองค์จักรพรรดินี ก็เป็นอันต้องมีคนได้เข้าไปนอนเล่นในคุก บ้างก็ตาย บ้างก็ทุกข์ทรมานจนทนไม่ไหวต้องฆ่าตัวตายเองบ้าง เห้อ หวังว่าเขาคงจะไม่เป็นหนึ่งในบุคคลเหล่านั้นนะ
" ราฟน่าจะเสร็จธุระแล้วนะ" ลีออนแกล้งเปลี่ยนเรื่องเมื่อรับรู้ได้ถึงบางอย่างในสายตาของเจ้านายสาว
" พามาสิ" โรสบอกก่อนจะลุกเข้าไปในครัวเพื่อชงชาดื่มและเมื่อเธอลุกออกไป ลีออนก็ใช้เวทมนต์พาคนอีกคนมาทันที
พรึ่บ!
"..." ผู้มาใหม่ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองคนที่พาตนมาในมิติตาเขียว
" โรสไปชงชาอยู่" ลีออนรีบพูดทันทีเมื่อรับรู้ถึงความไม่พอใจของเจ้านายอีกคน
" อืม" เขาครางตอบรับ ความไม่พอใจเริ่มจางหายไป
หวุดหวิดทีเดียว เขาเพิ่งจะอาบนํ้าเสร็จแถมเมื่อกี๊ก็เพิ่งจะสวมกางเกงเสร็จด้วยซํ้า ถ้าเจ้าหมอนี่พามาเร็วกว่านี้สักวินาที เขาก็คงจะต้องฆ่าปิดปากพระเจ้าแล้วล่ะ
" มาเร็วดีนี่" คนมาใหม่พูดขึ้นก่อนจะวางชาที่เธอชงไว้แล้วลงบนโต๊ะก่อนจะรินชาลงไปในแก้วของอีกสองคนตามด้วยของตัวเอง
" อะไรกัน แยกกันไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเองนะ คิดถึงฉันแล้วเหรอ?" ราฟพูดยิ้มๆ
" หึ!" คนได้ยินทำเพียงแค่แค่นเสียงด้วยความหมั่นไส้
" อะแฮ่ม! ข้าก็อยู่ตรงนี้นะ" พระเจ้าที่ดูเหมือนจะกลายเป็นส่วนเกินแกล้งกระแอมขัดขึ้น
" อ้าว! นายก็อยู่ด้วยเหรอเนี่ย" โรสแกล้งทำท่าทางตกใจ
" อืม...แล้วตอนแรกคุยเรื่องอะไรกันอยู่ล่ะ?" ราฟถามขึ้น
" อ่อ เรื่องหลักฐานที่เมลโลไม่ใช่ลูกสาวขององค์ราชาของอาณาจักรวินเซนต์น่ะ" ลีออนตอบ
"..." คนได้รับคำตอบนิ่งไปเล็กน้อย
ถึงพวกเขาจะรู้แล้วว่าคุณนางเอกไม่ใช่ลูกสาวขององค์ราชา แต่สิ่งที่พวกเขารู้มันยังไม่ใช่หลักฐาน พวกเขาต้องมีหลักฐานที่มีนํ้าหนักมากกว่านี้ และถ้าได้ลีออนช่วยก็คงไม่มีอะไรให้ต้องห่วง เพราะการจะไปแก้เรื่องที่คุณนางเอกไม่ใช่เจ้าหญิงนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะอีกฝ่ายเองก็มีเข็มกลัดตราประจำราชวงศ์วินเซนต์อยู่ แต่พอมาคิดๆดูแล้ว...การจะทำให้คนคนหนึ่งเป็นเจ้าหญิงนั้นก็ง่ายนิดเดียวเพียงแค่ขอให้มีหลักฐานเล็กๆน้อยๆ แต่การจะทำให้คนที่ไม่ใช่เจ้าหญิงที่แท้จริงกลับมาเป็นสามัญชนตามเดิมกลับยากมากเสียนี่
แต่ก็เอาเถอะ มันไม่ได้ยากเกินความสามารถของพวกเขานี่
" ลีออน บอกข้อมูลของคุณนางเอกมาหน่อยสิ" โรสพูดขึ้นเมื่อนึกได้
ข้อมูลของคุณนางเอกที่พวกเขารู้อยู่ตอนนี้นั้นมีไม่มาก มีแค่เรื่องของเอลล่าหรือก็คือแม่ของเมลโลเล็กน้อยเท่านั้น และถ้าพวกเขารู้เรื่องของคุณนางเอกมาเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นผลดีเท่านั้น
" อืม...เอลล่าเป็นชาวเมืองอาณาจักรวินเซนต์ เข้าไปอยู่ในวังตั้งแต่เด็กก่อนจะกลายเป็นเมดรับใช้ให้กับองค์ราชาของอาณาจักรวินเซนต์ และหลังจากที่รับใช้ไปได้3ปี วันหนึ่งองค์ราชาแห่งอาณาจักรวินเซนต์ก็เมาเลยได้เสียกับเอลล่า ต่อมาพอรู้ว่าตัวเองท้อง เอลล่าที่กลัวว่าลูกของตัวเองจะถูกทำร้ายจึงหนีมายังอาณาจักรเฟอร์เดียแล้วใช้ชีวิตที่นี่
แต่อยู่ไปไม่กี่เดือน เธอก็ถูกโจรปล้นและข่มขืนทำให้เธอแท้ง ก่อนจะถูกนำตัวไปขายในสถานเริงรมย์ แล้วหลังจากทำงานที่นั่นไปเรื่อยๆ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เธอพลาดท้องกับผู้ชายคนหนึ่งจนกลายมาเป็นคุณนางเอก ซึ่งหลังจากนั้นคุณนางเอกก็อาศัยอยู่ที่สถานเริงรมย์กับเอลล่ามาโดยตลอดจนกระทั่งเอลล่าเสีย คุณนางเอกก็ออกจากสถานเริงรมย์แล้วมาใช้ชีวิตตามลำพังจนกระทั่งได้มาพบกับลูเซียน แล้วเรื่องทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เห็น
ส่วนเรื่องเข็มกลัดดอกคามิเลียนั่น เพราะเอลล่าสนิทสนมกับองค์ราชาแห่งอาณาจักรวินเซนต์ไม่น้อย เขาเลยมอบเข็มกลัดนี้ให้เอลล่าเป็นของขวัญน่ะ" ลีออนอธิบาย
ฟังดู แม่ของคุณนางเอกก็ไม่ใช่คนเลวร้ายแต่ทำไมคุณนางเอกถึงได้เป็นแบบนั้นกันนะ หรือว่าจะได้มาจากพ่อ?
คล้ายลีออนจะเข้าใจในสิ่งที่คนฟังคิด เขาจึงเอ่ยปากพูดต่อ "พ่อของคุณนางเอกเป็นชาวเมืองอาณาจักรเฟอร์เดีย ฐานะยากจนแต่ที่ไปสถานเริงรมย์ได้เพราะไปขโมยเงินคนอื่นมา จริงสิ! คุณนางเอกไม่รู้เรื่องพ่อของตัวเองหรอกนะ เพราะไม่มีใครเล่าให้เธอฟังน่ะ ตอนนี้เธอเลยปักใจเชื่อไปแล้วว่าองค์ราชาแห่งอาณาจักรวินเซนต์เป็นพ่อแท้ๆของเธอ"
เมื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ฟังก็พยักหน้าเข้าใจเล็กน้อยก่อนจะเงียบไปเพราะกำลังคิดวิเคราะห์ข้อมูลที่เพิ่งจะได้มาสดๆร้อนๆ
ลีออนเป็นพระเจ้าที่คอยดูแลมิติต่างๆอยู่ พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลที่ได้มาจะเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด และข้อมูลที่พวกเขามีอยู่ตอนนี้ก็มากพอที่จะใช้วางแผนทำเรื่องสนุกต่างๆได้อีกหบายเรื่องเหมือนกัน แต่จะเริ่มจากอะไรดีล่ะ?
แต่เดี๋ยวก่อน!
โลกนี้นับเป็นเกมจีบหนุ่มของโลกที่เธอจากมาไม่ใช่เหรอ? แต่เนื้อเรื่องในตอนนี้กลับไม่ได้ใกล้เคียงกับของเดิมเลยแม้แต่น้อย ตัวละครบางตัวที่ไม่เคยได้ยินชื่อก็โผล่ออกมาโลดแล่นกันเต็มไปหมด ถ้าจะบอกว่ามันเกิดมาจากการที่เธอกับราฟไปเปลี่ยนเนื้อเรื่องของเกมจีบหนุ่มก็ไม่ใช่
เพราะในโลกนี้ องค์จักรพรรดิทั้งสองนั้นเป็นถึงผู้สร้างโลกนี้ แต่ทว่า ในเกมจีบหนุ่มศึกนี้หัวใจคือเดิมพัน มันกลับไม่มีเรื่องที่เกี่ยวกับองค์จักรพรรดิทั้งสองเลย จะบอกว่าเธอไปเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องก็ไม่ได้เพราะเรื่องขององค์จักรพรรดิทั้งสองนั้นมีมานานตั้งแต่ก่อนที่เธอจะเข้ามาแก้ไขโลกนี้เสียอีก มันทำให้เะอเกิดข้อสงสัยที่ว่า
โลกที่เธออยู่ในตอนนี้ มันสร้างมาจากเกมจีบหนุ่มจริงๆรึเปล่า? หรือว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญที่โลกนี้ดันมีข้อมูลต่างๆเหมือนกับเกมจีบหนุ่มในโลกอื่น?
" พวกท่านนี่ขี้สงสัยจริง เรื่องที่โลกนี้ดันทีข้อมูลส่วนมากไปตรงกับเกมจีบหนุ่มในโลกก่อนของท่านนั้นเป็นเรื่องที่จะบอกว่าบังเอิญก็ได้หรือจะบอกว่าจงใจก็ได้
เพราะในตอนแรก ข้าเห็นว่าโลกนี้ที่พวกท่านสร้างไว้มันน่าสนุกดี ก็เลยเอาไปสร้างเป็นเกมจีบหนุ่มในโลกก่อนของพวกท่านโดยเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบางส่วนน่ะ" ลีออนที่เข้าใจในความคิดของเจ้านายตนก็อธิบาย
" อืม...ถ้างั้นความทรงจำอีกครึ่งหนึ่งของพวกเราล่ะ?" ราฟถามต่อ
พวกเขาได้ความทรงจำครึ่งแรกมาแล้ว แต่อีกครึ่งกลับยังไม่รู้เลยว่าอยู่ที่ไหน
" ความทรงจำของพวกท่านอีกครึ่งหนึ่งนั้น ก็อย่างที่ข้าเคยบอกว่าพวกท่านให้ข้านำมันไปซ่อน ซึ่งในบรรดามิติมากมาย ข้านำมาซ่อนเอาไว้ในมิตินี้แต่อยู่ที่ไหน...ข้าไม่รู้" ลีออนตอบยิ้มๆ
อา...ให้ตายสิ! ถึงจะบอกว่าอยู่ในโลกนี้ แต่ถ้าไม่บอกว่ามันอยู่ส่วนไหนของโลกมันก็ใช่ว่าจะหาเจอได้ง่ายๆนะ! โลดนี้มันแคบเสียที่ไหนกัน อย่างน้อยก็น่าจะบอกประเทศมาหน่อยสิ เห้อ
" งานนี้พวกท่านโทษข้าไม่ได้นะ เพราะสิ่งที่ข้าทำล้วนมาจากคำสั่งของพวกท่านทั้งนั้น" ลีออนบอกด้วยนํ้าเสียงน่าหมั่นไส้พร้อมกับยิ้มแป้น
" อ่อ ถ้างั้นก็ต้องตบรางวัลให้พระเจ้าคนดีหน่อยแล้ว" ราฟบอกกลับไปบ้าง
" รู้สึกว่า...ในตู้เย็นจะมีขนมอยู่นะ" โรสทำท่าครุ่นคิดก่อนจะพูดต่อ
ลีออนที่ได้ยินและคิดว่าจะได้รับรางวัลจริงๆรีบวิ่งไปที่ตู้เย็นในครัวทันทีแต่เขาซื่อเกินไป เขาเผลอลืมไปชั่วขณะหนึ่งว่าคนที่พูดอยู่กับเขานั้นเป็นใครและมีนิสัยเป็นยังไง และเมื่อเขาวิ่งจากไป คนทั้งสองที่นั่งอยู่บนโซฟาก็หันมามองหน้ากันพร้อมยกยิ้มมุมปากที่หากมองในเวลาปกติมันอาจจะดูงดงามแต่ตอนนี้มันกละบชวนให้คนมองเสียวสันหลังวาบ
" เธอใส่อะไรลงไปนะ?" ราฟแกล้งถาม
" ก็..."
"..."
" ยาถ่ายนิดหน่อย" เธอตอบพร้อมยิ้มหวาน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ตรงนี้ควรจะเปลี่ยนเป็นเจ้าหญิงลำดับที่1 มากกว่านะคะ(ถ้านางเป็นเจ้าหญิงองค์แรกอะนะ)
ลีออนผู้น่าสงสาร 555
น่าสงสารจริง