" อ๊ะ! จริงสิ เจ๊ก็เกือบลืมไปเลย" หลังจากที่ตกอยู่ในห้วงของความคิดได้สักพัก เจ๊ลิสคนดีก็อุทานและพูดขึ้นอย่างคนที่พึ่งจะนึกได้ เพราะมัวแต่ดีใจที่ได้เจอกับเด็กๆอีกครั้ง ทำเอาเธอเกือบลืมธุระสำคัญไปเสียแล้ว
"..." อีกสองคนที่ได้เห็นแบบนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรแต่ทำเพียงแค่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
" ท่านหญิง เจ๊ลืมบอกไปเลยว่าเครื่องประดับกับชุดทางร้านทำเสร็จแล้ว แต่ชุดอยู่ที่สาขาใหญ่เพราะเจ๊ส่งแบบไปให้ที่นั้นทำส่วนเครื่องประดับอยู่ที่ร้านนี้" เธอบอก
" ไม่เป็นไรค่ะ ถ้างั้นเจ๊ลิสช่วยส่งชุดไปที่คฤหาสน์ของดยุครอเดอเรียให้หน่อยนะค่ะ ส่วนเครื่องประดับเดี๋ยวโรสจะได้ให้ลิลลี่เอากลับไปวันนี้เลย" โรสจัดการ ชุดก็ส่งไปที่คฤหาสน์ดยุครอเดอเรียที่พ่อของลิลลี่ ส่วนเครื่องประดับก็เเอาไปวันนี้เลย ง่ายดี
" ได้ เดี๋ยวเจ๊ไปเอามาก่อนนะ มันอยู่ในห้องน่ะ" พูดกับเธอจบก็หันหลังเดินเข้าไปในห้องพิเศษของร้านนี้ทันที
"..." คิ้วเธอขมวดมุ่นเล็กน้อยเมื่อหันมาอีกด้านแล้วไม่เจอคนที่สมควรจะอยู่ตรงนี้
เธอเดินลึกเข้าไปในร้านได้สักพักก็พบกับคนที่เธอกำลังตามหาอยู่ เขาอยู่ในโซนเสื้อผ้าผู้ชายและเมื่อมองตามสายตาของเขาไปเรื่อยๆ ก็จะพบกับพวกอลันที่กำลังเลือกชุดกันอยู่
" อยากลองชุดเหรอ?" เธอถามเขาออกไป
" งานนี้ฉันใส่ชุดประจำตำแหน่งไปดีมั้ย?" เขาไม่ตอบแต่เป็นฝ่ายถามเธอกลับทั้งๆที่สายตาก็ยังคงมองไปที่พวกอลัน
ในโลกนี้ สำหรับคนที่มีฐานะหรือตำแหน่งอย่างเช่น ดยุค เจ้าหญิง เจ้าชาย ไม่ได้มีการบังคับว่าจะต้องใส่ชุดประจำตำแหน่งไปงานต่างๆเท่านั้น จะใส่ชุดสูทหรือชุดราตรีก็ได้ ขอเพียงแค่เป็นชุดที่เหมาะสมและไม่ผิดกฎเท่านั้นก็พอ แต่คนส่วนมากเลือกที่จะใส่ชุดประจำตำแหน่งกัน เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความมีฐานะกับอำนาจ และความรํ่ารวยด้วยเช่นกัน
" ทำไมนายไม่อยากใส่ชุดประจำตำแหน่งล่ะ?" เธอลองถามเหตุผล
" ไม่รู้สิ ยุ่งยากมั้ง" เขาตอบ เพราะชุดประจำตำแหน่งเจ้าชายของเขานั้นต้องใส่ทั้งเข็มขัด สายสะพายอะไรมากมาย ยังไม่รวมพวกเข็มกลัดอีก ตั้งแต่อยู่ที่นี่เขาเคยใส่แค่ครั้งเดียวคือตอนงานวันเกิดของลูเซียน และครั้งนั้นก็ทำเอาเขาขยาดจนไม่อยากใส่อีกเลย
" งานนี้มีคนสำคัญมาร่วมงานมากมายแล้วไหนจะพวกคาลเวิร์ดอีก คนส่วนมากก็ต้องใส่ชุดประจำตำแหน่งกันแน่นอน แล้วนายคิดว่าไงล่ะ?" เธอพูดประโยคที่ช่วยในการตัดสินใจ พวกเขายังไม่อยู่ในสถานะที่จะทำอะไรตามใจชอบได้ในตอนนี้
" เห้อ" เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยพร้อมทำหน้าเหนื่อยใจ
" เอาน่า ไหนจะเกรเทลกับพี่อลันอีก ยังไงนายก็มีเพื่อนล่ะนะ" เธอตบบ่าเขาเบาๆและมันคงจะดูเป็นการให้กำลังใจถ้าเธอไม่ทำหน้าอมยิ้มราวกับกำลังสนุกที่เขามีท่าทางไม่ค่อยดี
" อ้าว!" ก่อนที่ทั้งสองจะได้พูดอะไรกันต่อก็มีเสียงอุทานเรียกให้พวกเขาหันไปมองเสียก่อน
" ไม่ได้รออยู่หน้าร้านเหรอ?" วิลล์พูดขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นคนที่บอกจะรออยู่หน้าร้านกลับมาอยู่ในโซนที่พวกเขาเลือกเสื้อผ้ากัน
" มาดูพวกนายนิดหน่อยน่ะ" ราฟตีหน้าขรึมตามเดิมก่อนจะตอบออกไป
" งั้นเหรอ" วิลล์พยักหน้าเข้าใจเล็กน้อย
" ถ้างั้นก็ต้องรออีกหน่อยนะ เพราะยังเลือกของกันไม่เสร็จเลย" วิลล์พูดต่อส่วนคนฟังก็เพียงพยักหน้ารับก่อนจะเดินกลับไปรอที่หน้าร้านตามเดิม
" ท่านหญิง อยู่นี่นี่เอง" เมื่อเดินกลับมาที่นี่หน้าร้านพวกเขาก็พบกับเจ๊ลิสที่กำลังยืนรออยู่และในมือก็ถือกล่องสีแดงที่ดูหรูหราใบหนึ่งเอาไว้
" ขอโทษค่ะ ไปดูเพื่อนๆมานิดหน่อย" เธอพูดพลางก้มหัวเล็กน้อย
" ไม่เป็นไร อ่อ แล้วก็นี่นะ" เจ๊ลิสพูดก่อนจะเปิดกล่องออก เผยให้เห็นชุดเครื่องประดับหนึ่งชุดที่ประกอบด้วยสร้อยคอรูปผีเสื้อสีฟ้าประดับด้วยอัญมณีสีฟ้าและสีเขียวที่ทำเป็นรูปดอกไม้และใบไม้ไล่ขึ้นไปตามตัวสร้อย อีกอย่างคือต่างหูลวดลายเดียวกัน และชิ้นสุดท้ายก็คือกำไลข้อมือทำจากเงินและประดับด้วยอัญมณีสีฟ้าสดใสล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็กๆอีกหน่อย
" ทำออกมาได้ดีจริงๆ ไม่ผิดหวังเลยสักนิด" โรสพูดออกมาและระบายยิ้มอย่างพอใจหลังจากเห็นผลงานที่ตนเองเป็นผู้ออกแบบ เจ๊ลิสเก็บรายละเอียดหมดทุกอย่าง ขนาดเพชรเม็ดเล็กๆยังมีจำนวนและอยู่ในจุดที่เธอออกแบบเอาไว้ในแผ่นร่าง เงินและอัญมณีที่ใช้ทำก็ดูจะเป็นของดีมากเสียด้วยสิ
" ระดับเจ๊ ยิ่งเป็นงานของท่านหญิงเจ๊ก็ยิ่งทุ่มเท" ฝ่ายคนสร้างก็ดีใจไม่แพ้คนออกแบบเช่นกัน แบบเครื่องประดับก่อนหน้านี้ที่เธอได้รับมาจากท่านหญิงคนนี้ว่าดีแล้ว แต่งานนี้มันดียิ่งกว่ามาก
" ว้าว~ สวยจังเลยค่ะ" เสียงหวานเชื่อมดังขึ้นจากหน้าร้านก่อนจะมีร่างร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาตรงจุดที่พวกโรสอยู่ แะลพยายามจะเอื้อมมือหยิบเครื่องประดับในกล่องที่เจ๊ลิสถืออยู่ขึ้นมา แต่แล้ว...
" ไร้มารยาท!" เสียงชายที่ถูกดัดพูดขึ้นอย่างไม่พอใจและรวดเร็วพอๆกับมือของเธอที่ปิดฝากล่องเครื่องประดับในมือลงได้ทันก่อนที่จะถูกผู้มาใหม่เอื้อมหยิบไป
" โอ๊ย!"
" เมลโล!" เมื่อเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของคนที่พยายามเอื้อมมือมาหยิบเครื่องประดับดังขึ้น เสียงเรียกชื่อของคนอีกหลายคนที่ตามมาก็ดังขึ้นติดต่อกัน
" เป็นอะไรมากมั้ย?"
" มะ ไม่เป็นไรค่ะ ฮึก"
" อ๊ะ! เข่าถลอกด้วยนี่"
" ฮึก อึก"
"..." เจ๊ลิสกับพนักงานในร้านและลูกค้าคนอื่นๆในร้านต่างมองไปยังกลุ่มบุคคลมาใหม่อย่างไม่พอใจที่พวกเขาส่งเสียงดังแถมยังกระทำการไร้มารยาทอย่างการวิ่งเข้าไปแย่งของในมือของคนอื่นมา แล้วยิ่งคนคนนั้นเป็นเจ้าของร้านที่ได้รับการยอมรับจากราชวงศ์อย่างเจ๊ลิสด้วยก็ยิ่งแล้วใหญ่
แต่ดูเหมือนโรสกับราฟจะไม่มีปฏิกริยาอะไรกับเรื่องนี้ พวกเขาเพียงแค่เฝ้ามองกลุ่มคนที่สร้างความวุ่นวายด้วยแววตาราบเรียบ และกลุ่มคนที่ว่าก็เป็นคนที่พวกเขาไม่ค่อยได้เจอในช่วงที่ใกล้กับการสอบพอดี
อืม...คุณนางเอก ลูเซียน ไรเดอร์ กับนักเรียนชายของอควาเรสอีกสองคนที่ดูเหมือนจะเป็นรุ่นน้อง แน่นอนว่าทุกคนที่กล่าวมายังคงอยู่ในชุดนักเรียน แถมด้วยการ์ดอีกห้าหกคน มากันพร้อมหน้าเลยแหะ พวกเขาปรายตามองรุ่นน้องชายทั้งสองคนที่กำลังช่วยกันปลอบเมลโลอยู่เล็กน้อย ดูเหมือนว่าคุณนางเอกจะตกฮาเร็มได้เพิ่มนะ
โอ๊ะ!
โรสร้องอุทานในใจเล็กน้อยเมื่อลองพิจารณาใบหน้าของรุ่นน้องชายทั้งสองอย่างละเอียดก่อนจะหันไปส่งสายตาให้ราฟ
' คนนี้ใช่มั้ย?' เธอส่งสายตาถามไป
' ใช่แน่นอน' เขาตอบกลับมาทางสายตาเช่นกัน
" ใครทำ?!" เมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย ลูเซียนก็หันมาตวาดเสียงดังและนั่นทำให้คนที่กำลังส่งสายตากันอยู่ต้องหันมามองเขา
"..."
" ตอบสิ!" เขาตวาดอีกครั้งเมื่อทุกคนยังคงเงียบและไม่ปริปากอะไรสักคำ
" ฮึก มะ เมลโล ละ เล่าเองคะ ค่ะ อึก คะ คือ เมลโลอยากจะดูเครื่องประดับในมือของเธอคนนี้" เมลโลที่สะอึกสะอื้นเริ่มเปิดปากเล่าพร้อมชี้นิ้วไปทางเจ๊ลิสที่ตอนนี้เริ่มจะทำหน้าไม่พอใจมากขึ้นแล้ว "ตะ แต่เธอกลับไม่ให้ อึก เมลโลดูแล้วก็ผลักเมลโล ฮึก ถะ แถมยังด่าเมลโลด้วยนะค่ะ" สิ้นสุดประโยค ลูเซียนก็หันมาตวัดสายตาไม่พอใจมาทางคนอื่นๆทันที
" บ้านเธอปลูกสตอร์เบอรี่เหรอ?" ก่อนที่ลูเซียนจะได้เปิดปากพูดอะไรอีก โรสก็พูดขัดขึ้นพลางหันหน้าไปถามเมลโล คิ้วเรียวสวยก็ขมวดขึ้นเล็กน้อยทำท่าทางอย่างคนที่รู้สึกสงสัยจริงๆ
" คะ?" เมลโลหยุดสะอื้นแล้วชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะอุทานขึ้นอย่างสงสัย
" หึ! โรส พูดแค่นั้นพวกเขาไม่เข้าใจหรอก บังเอิญว่าพวกเขาไร้สมองกันน่ะ" ราฟแค่นยิ้มออกมาอย่างเยาะเย้ยแล้วร่วมวงเล่นด้วย
" ถ้างั้นฉันจะแปลให้เอง! ท่านพี่ของฉันถามว่าบ้านเธอปลูกสตอร์เบอรี่เหรอ? ถึงได้ตอแหลเก่งน่ะ!" เสียงหวานติดหยิ่งยโสดังขึ้นมาจากอีกด้านของร้านทำให้ทุกคนหันไปมอง
" เลือกของเสร็จแล้วเหรอ? ลิลลี่" โรสถามขึ้น
" ค่ะ ของร้านเจ๊ลิสดีทุกอย่างจริงๆ" ลิลลี่พูดก่อนจะหันไปยิ้มให้เจ้าของร้านซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มตอบ ทำราวกับเมื่อกี๊นี้เธอไม่ได้หลอกด่าใครมา "เสียดายที่สุนัขข้างทางมาเห่า ฉันเลยหมดอารมณ์จะซื้อของน่ะค่ะ" เธอพูดต่อ
" แล้วได้อะไรมาบ้างล่ะ?" โรสถามต่อ
" พวกฉันยังยืนอยู่ตรงนี้นะ!" คราวนี้เป็นไรเดอร์ที่พูดขึ้นบ้าง
" อ้าว! พวกนายยังอยู่อีกเหรอ? ฉันเผลอคิดว่าพวกนายเป็นอากาศไปสะแล้วสิ" ลิลลี่สวนไปทันควัน
" ฮือ ฮึก"
" เมลโล! เจ็บมากมั้ย?" เมื่อได้ยินเสียงสะอึกสะอื้น ทั้งลูเซียนและไรเดอร์ก็หันไปให้ความสนใจกับเมลฦดอีกครั้ง
"..." โรสกับราฟไม่ได้พูดอะไรแต่ทำเพียงแค่เลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ พวกเขาเผลอลืมคุณนางเอกไปเสียสนิทเลยแหะ
" พวกนายทำให้เมลโลเป็นแผลใช่มั้ย?!" เป็นอีกครั้งที่ลูเซียนตวาดออกมา ทำให้คนที่อยู่รอบๆเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น
" กรุณาช่วยใช้สมองหน่อยได้มั้ย?" ราฟพูดด้วยความรำคาญ
" นี่แกกะ-"
" พวกเราเคยบอกเรื่องมารยาทเรื่องการพูดไปหลายครั้งแล้วนะ ทำไมถึงไม่จำเลยล่ะ? แล้วที่ราฟพูดก็ถูก ช่วยใช้สมองหน่อยเถอะ ไม่อย่างนั้นอควาเรสกับห้องAคงเสียชื่อเสียงกันหมด พวกนายจะไปตายหรืออะไรก็ช่างเถอะแต่อย่าพาให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย" โรสขัดขึ้น
" ใช่ แล้วก็หัดฟังเรื่องราวจากคนอื่นสะบ้าง ไม่ใช่ฟังความข้างเดียวแบบนี้ ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปในอนาคตเวลานายขึ้นเป็นราชา ถึงนายจะไม่เดือนร้อนเพราะนิสัยแบบนี้ของตัวเอง แต่ก็ช่วยคิดถึงคนที่เดือดร้อนอย่างประชาชนด้วย" เสียงทุ้มทรงอำนาจดังขึ้นทาจากด้านข้างร้านทำให้ทุกคนหันไปมองอีกครั้ง และพบกับคนที่เหลือในกลถ่มของโรส ส่วนคนที่พูดก็คืออลัน
ยังไงลูเซียนก็คือน้องชายของเขา มันคือความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ว่าอีกฝ่ายมีสายเลือดครึ่งเดียวกับเขาไหลเวียนอยู่ในตัว ถ้าลูเซียนต้องขึ้นเป็นราชาองค์ต่อไปจากเสด็จพ่อของเขาอย่างที่เขาเพิ่งจะพูดไปจริง อย่างน้อยเขาก็อยากจะสอนให้ลูเซียนมีลักษณะของราชาที่ดี สักนิดก็ยังดี
" อย่ามาสอนฉัน!" แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมรับความหวังดีที่อลันมอบให้
" อลัน นายปล่อยไปเถอะ ถึงเราพยายามจะสอนเขาเท่าไหร่แต่ถ้าเขาไม่เอา เราก็อย่าไปเสียเวลาเลย เอาเวลามาให้กับคนที่เขาพร้อมจะรับในสิ่งที่เราให้ดีกว่า" เกรเทลตบบ่าของอลันเบาๆพลางพูดให้อีกฝ่ายได้ปล่อยวาง
" นั่นสินะ" เขาพึมพำเสียงเบา
" แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?" มาร์ตินถามขึ้น เพราะพวกเขาพึ่งจะมาถึงตรงนี้ก็เลยยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมาก แต่ที่แน่ๆคือต้องมีการทะเลาะกันแน่ๆ
" นั่นสิค่ะ" ลิลลี่พูดต่อเพราะเธอก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยเช่นกัน
" ก็ผู้หญิงคนนี้น่ะสิ เจ๊กำลังเอาเครื่องประดับให้ท่านหญิงโรสดู แล้วจู่ๆเธอก็พุ่งเข้ามาจะหยิบเครื่องประดับออกไปแต่ดีที่เจ๊ปิดกล่องทัน มือของเธอเลยชนกับกล่องอย่างแรงจนเซถอยแล้วล้มลงหัวเข่าถลอก ไร้มารยาทสิ้นดี" เจ๊ลิสพูดอย่างใส่อารมณ์เล็กน้อย นับว่ากล้ามากที่มาสร้างเรื่องในร้านของเธอ
" ก็แค่เครื่องประดับ ให้ดูไม่ได้รึไง?" ลูเซียนถามต่ออย่างใส่อารมณ์เช่นกัน
" องค์รัชทายาท คนอื่นกำลังดูอยู่แล้วจู่ๆเธอก็จะมาหยิบไปแบบนี้ ไม่เสียมารยาทไปหน่อยเหรอเพคะ?" เจ๊ลิสถามกลับ พอได้มองหน้าชัดๆ เธอก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ชายที่มาตวาดเสียงดังในร้านก็คือองค์รัชทายาท ส่วนผู้หญิงที่ไร้มารยาทคนนี้ก็คงจะเป็นคนที่ที่พระองค์ขอหมั้นด้วยในงานวันเกิดของตนเองซึ่งงานวันนั้นเธอก็ไปร่วมด้วยเช่นกัน
" แต่คนที่จะหยิบออกไปคือคู่หมั้นของรัชทายาท ไม่ใช่คนธรรมดา" เขาเถียงต่อ
" ลูเซียน อย่าลืมว่าเดิมทีเมลโลก็เป็นแค่สามัญชนแล้วยิ่งมาคู่หมั้นของรัชทายาทก็ยิ่งต้องรู้จักมารยาทของชนชั้นสูง จะมาเถียงข้างๆคูๆแบบนี้ไม่ได้" ฮานส์พูดขึ้นบ้าง
" หยุด! พูดไปพวกนายก็เอาแต่แก้ตัว พวกเราไปกันเถอะ เมลโลครับ เดี๋ยวเรื่องเครื่องประดับเราไปดูชิ้นอื่นในร้านเอาก็ได้ อย่ามาเสียเวลากับของแค่นี้เลยนะ" ลูเซียนพูดตัดบทและทำราวกับตนเองเป็นฝ่ายถูกต้องก่อนจะหันไปบอกกับเมลโลที่ตอนนี้หยุดสะอื้นแล้ว
" ตะ แต่เมลโลอยากได้ชิ้นนั้นนี่ค่ะ" เธอพูดสียงเศร้าพลางมองไปยังกล่องเครื่องประดับที่เจ๊ลิสส่งไปให้พนักงานคนหนึ่งถือแทน
" มันจะแค่ไหนกัน นี่! เปิดกล่องออกสิ!" ลูเซียนออกคำสั่งเสียงดังแต่พนักงานคนนั้นกลับยืนนิ่งแล้วส่งสายตาไปยังเจ๊ลิสแทน
"..." คนได้รับสายตานิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าทีหนึ่ง ถ้าแค่เปิดกล่องคงไม่เป็นไรเพราะเธอเองก็ไม่อยากให้เรื่องมันยืดเยื้อ
"..." เมื่อได้รับคำตอบ กล่องเครื่องประดับใบเดิมก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมายังของในกล่องอย่างตกตะลึงในความงามของมัน ไม่เว้นแม้แต่ลูเซียนหรือลูกค้าคนอื่นๆที่คอยเฝ้ามองเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น แต่คนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมันก็คงมีเพียงแค่ผู้ออกแบบอย่างโรสและราฟกับเจ๊ลิสเพียงสามคนนี้เท่านั้น
" มะ เมลโลอยากได้" เมื่อหลุดจากภวังค์แห่งความงาม เมลโลก็เอ่ยขึ้นอีกครั้งและ
" นี่! อันนี้เท่าไหร่?" ไม่ต้องให้เมลโลพูดซํ้า ลูเซียนก็พูดขึ้นทันที
" ขายไม่ได้เพคะ มันเป็นของท่านหญิงโรส" เจ๊ลิสตอบนํ้าเสียงเริ่มแข็งกระด้างขึ้น
" เจ้าพวกนี้ให้ราคาเท่าไหร่ ฉันให้มากกว่าสองเท่า!" เขายังคงไม่ยอมแพ้
" เห้อ เขาไม่ขายก็อย่าหน้าด้านต่อเลยน่า" ราฟพูดอย่างเบื่อหน่าย นี่สินะ อำนาจแห่งความรัก ไม่สิ! ความหลง ทำให้คนเราหน้าด้านถึงเพียงนี้
" อีกอย่าง เครื่องประดับชุดนี้น่ะ ฉันเป็นคนออกแบบแล้วก็ให้เจ๊ลิสทำ จะให้ขายให้นายได้ยังไงกัน?" โรสพูดต่อทันทีเพื่อไม่ให้ใครได้พูดแทรก
"!!!"
"..."
" ระ โรส น้องจะบอกว่าเครื่องประดับชุดนี้ น้องเป็นคนออกแบบเหรอ?" อลันถามและพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น
" ค่ะ โรสออกแบบเอง" เธอตอบพร้อมยิ้มเล็กน้อย หากเป็นเวลาปกติพวกเขาคงตะลึงกับรอยยิ้มที่งดงามเช่นนี้ แต่ตอนนี้พวกเขายังคงตกตะลึงเรื่องที่เธอออกแบบเครื่องประดับที่งดงามพวกนี้ได้มากกว่า
" ลูเซียน ทีนี้นายคงเข้าใจแล้วนะ" เธอหันไปบอกกับลูเซียนอีกครั้ง
" คุณลูเซียนค่ะ" เมลโลพูดพลางส่งสายตาไปให้ลูเซียนอย่างสื่อความหมาย
" แล้วยังไง?! ฉันจะซื้อ!" เมื่อรับรู้ในสิ่งที่คนรักบอก เขาก็พูดต่อทันที
" โอ๊ย! พอแล้ว เจ๊จะไม่ทน!"
" นี่! เธอน่ะ! ถึงจะเป็นคู่หมั้นของรัชทายาทแต่ยังไงเธอก็ยังคงเป็นสามัญชนเหมือนฉัน! ยังไม่ใช่ชนชั้นสูงอย่างแท้จริง! อย่ามาทำตัวเป็นหงส์หน่อยเลย!"
" ดูสิ! หน้าก็ไม่ได้สวยอะไรมาก! ออกจะธรรมดาเสียด้วยซํ้า! แล้วถ้าจะให้เทียบกับท่านหญิงลิลลี่กับท่านหญิงโรสของฉันก็ยิ่งห่างไกลกันมากเข้าไปอีก! หน้าตาธรรมดาไม่พอ นิสัยก็แย่! ตอแหล! เจ้ามารยา! หน้าด้าน! หุ่นก็แย่! แบนก็แบน! ไม่มีมารยาท! ไม่รู้ว่าเป็นไปได้ยังไง ไอ้ตำแหน่งคู่หมั้นรัชทายาทเนี่ย!
อ่อ หรือว่าเพราะผู้ชายก็ฉลาดน้อย! ไม่รู้ทันมารยาหญิง! ฟังความข้างเดียว! ไม่รู้จักใช้สมอง! ดี! ทั้งชายทั้งหญิงเหมาะสมกันมากจริงๆ!"
เมื่อฟางเส้นสุดท้ายขาดลง เจ๊ลิสจึงไม่ลังเลอีกต่อไปในการปลดปล่อยความโมโห เธอด่ากราดไม่ไว้หน้าและผู้ชายที่เธอด่าไปแน่นอนว่าคือผู้ชายที่มาด้วยกันกับเมลโลและนั่นหมายความว่าเธอด่ารวมไปจนถึงองค์รัชทายาทอย่างลูเซียนด้วย
" บังอาจ! เธอกล้าด่าฉันเหรอ?!" ลูเซียนพูดออกมาหน้าดำคลํ้าเพราะความโมโห
" ลูเซียน นายอย่าร้อนตัวไปหน่อยเลย เจ๊ลิสเขาไม่ได้ระบุสักหน่อยนี่ ว่าผู้ชายที่โดนด่าน่ะคือใคร?" เกรเทลพูดขึ้นบ้าง
" นายก็ร้ายไม่เบานะ คิกๆ" ลิลลี่หันไปกระซิบกับเกรเทลแล้วหัวเราะน้อยๆอย่างชอบใจ
" พวกแกทำให้เมลโลบาดเจ็บแล้วยังจะมีหน้ามาว่าพวกฉันอีกเหรอ!" ไรเดอร์พูดด้วยความโกรธไม่แพ้กับลูเซียน
" อย่าพูดอะไรบ้าๆหน่อยเลย เมลโลน่ะผิดเองที่พุ่งเข้ามา/จนถูกกระแทกล้มลงไปเอง เป็นเธอด้วยซํ้าที่ต้องมาขอโทษพวกเราน่ะ" ฝาแฝดที่เงียบฟังอยู่นานพูดขึ้นบ้าง
" ทำอะไรไม่ได้ก็อย่าดันทุรังต่อเลยนะครับ แล้วก็ เมลโลน่ะมีธาตุแสง แผลแค่นี้ก็น่าจะรักษาเองได้สิครับ" มาร์ตินพูดขึ้นอย่างมีเหตุผล
" คะ คุณมาร์ติน" เมื่อได้ยินในสิ่งที่มาร์ตินพูด เมลโลก็เรียกชื่อเขาอย่างเศร้าสร้อยและหวังว่าอีกฝ่ายจะเข้าข้างเธอ
" พวกนายกลับไปได้แล้ว รำคาญตา" โรสพูดอกมาเพราะเธอเริ่มเอียนกับละครฉากนี้แล้วก็นํ้าตาของคุณนางเอกแล้ว
" แต่ถ้าอยากจะเสียชื่อเสียงต่อก็ไม่ว่ากัน" ราฟพูดต่อเล็กน้อยและนั่นทำให้พวกลูเซียนคิดได้และเริ่มรับรู้ถึงสายตาจากคนรอบข้าง พวกเขาจึงเริ่มตระหนักว่าการอยู่ตรงนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่
" พวกฉันไปแน่! แต่ที่ไปก็เพราะจะรีบไปทำแผลให้เมลโลหรอกนะ! ไม่ใช่เพราะกลัวพวกแก!" ลูเซียนตวาดก่อนจะค่อยๆพยุงเมลโลแล้วเดินจากไปพร้อมกับคนอื่นๆ
" ไปแล้วไม่ต้องกลับมานะเพคะ! องค์รัชทายาท! เธอด้วย! อีชะนีอกแบน!" เจ๊ลิสพูดไล่หลังแต่แน่นอนว่าคนถูกด่าได้ยินแต่พวกเขาก็ทำได้เพียงหันกลับมาแลเวส่งสายตาอาฆาตมาดร้ายมาให้
ตัดฉับ__________
ตอนนี้ค่อนข้างจะมีคำหยาบนิดหน่อยแถมเนื้อหาก็ค่อนข้างจะยาว ผมจึงขอตัดส่วนหนึ่งของตอนนี้ไปไว้ในตอนถัดไปนะครับ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
มั้กเจ๊อลิซแท้ เจ๊ค่ะรับลูกศิษย์ไหมค่ะ5555 ด่าได้สะใจมาก
เราชอบๆ!!เรารักเจ๊เลยด่าได้โดนใจเรามากมันคือสิ่งที่เรานักอ่านทุกคนต้องการพูดถึงยัยแรดนี่เลยขอเป็นลูกศิษย์เถอะ!!!พูดดีมากกดหัวใจ10ดวงให้เลย!!
ไม่รู้ทำไม ชอบตอนนี้สุดๆ หึหึ
รบกวนไรท์แก้คำ นะคะ ใส่กับนะค่ะ ด้วยค่ะ ด้วยความหวังดี
ด่าได้สะใจมาดค่ะ คาดคว่าจะเป็นความในใจของไรท์ที่แต่งๆบทแม่นางเอกไปแล้วหมั่นใส้ 555
job!!
แอ๊ก!//โดนเจ๊ลิสปาร้องเท้าใส่