16:45น.
ตอนนี้ บุคคลที่เพิ่งจะได้รับรู้สถานะที่แท้จริงของตนเองกำลังยืนอยู่หน้าประตูมิติในมิติส่วนตัวของพวกเขาอีกทีหนึ่ง ประตูมิติที่พวกเขาเพิ่งจะได้รับ ไม่สิ! สร้างมันขึ้นมาจากพลังของตัวเองที่พึ่งจะได้รับกลับคืนมา
" ไปกันเถอะ" โรสพูดก่อนจะเดินนำเข้าไปในประตูตรงหน้าพวกเขาก่อนที่ราฟจะเดินตามไปเธอไป
อาณาจักรเวทมนต์
" อืม ใช้ได้" เป็นราฟที่พึมพำ
พวกเขาลองสร้างประตูมิติที่เชื่อมต่อกับประตูมิติในห้องหวงห้ามหรือก็คือห้องที่พวกเขามาปลดปล่อยชาวเมืองที่อยู่ชั้นบนสุดของปราสาทในอาณาจักรเวทมนต์ และประตูมิติที่สร้างขึ้นก็ใช้ได้ แสดงว่าพลังของพวกเขาเริ่มกลับมาแล้ว แต่ปัญหาคือเรื่องความทรงจำ พวกเขายังปรับตัวกับมันไม่ได้ อาจจะต้องใช้เวลาอย่างที่ลีออนว่า
" ไปข้างล่างกัน" โรสบอกก่อนจะเดินนำลงไปชั้นล่างของปราสาท เพราะอย่างที่เคยบอกว่าห้องนี้เป็นห้องต้องห้าม ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาแถมห้องนี้ยังอยู่ชั้นบนสุดของปราสาท จึงมีแค่ทหารเฝ้าหน้าห้องเพียงไม่กี่คน
" องค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดินี" เมื่ออกมาหน้าห้อง ทหารที่อยู่ตรงนั้นก็โค้งตัวลงเพื่อทำความเคารพองค์จักรพรรดิทั้งสองของตน
" ลุกขึ้นเถอะ แล้วพอจะรู้มั้ยว่าคาลอยู่ที่ไหน?" ราฟบอกให้พวกเขาลุกขึ้นก่อนจะถามหาคนที่เขาต้องการจะเจอ
" น่าจะอยู่ที่ชั้นล่างสุดพ่ะย่ะค่ะ" ทหารคนหนึ่งตอบออกมา และเมื่อได้รับคำตอบ คนทั้งสองก็รีบเดินไปชั้นล่างสุดของปราสาทตามคำของทหารทันที
ห้องโถงปราสาทชั้นล่างสุด
" เตรียมของให้พร้อม อย่าให้ขาดแม้แต่ชิ้นเดียว" ชายคนหนึ่งที่อยู่ในชุดพ่อบ้านกำลังสั่งการให้คนอื่นๆทำงานอย่างเป็นระบบ
" คาล" เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เขาก็หันไปมองทันทีก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาทันที
" องค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดินี" ภาพที่เกิดขึ้นไม่ผิดจากที่คนทั้งสองคิดเอาไว้มากนัก เพราะเมื่อทุกคนหันมาเห็นพวกเขา ก็พากันหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่แล้วย่อตัวและโค้งคำนับให้กับพวกเขาทันที
เห้อ นี่ถ้าไม่ได้ความทรงจำบางส่วนกลับมาแล้วหนึ่งในนั้นมีภาพที่มีแต่คนทำความเคารพตนเองแบบนี้ พวกเขาก็คงจะเกร็งจนทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะมั้ง?
" ลุกขึ้น คนอื่นๆทำงานกันต่อไป" โรสบอกก่อนจะหันมามองคาลเวิร์ดมี่ตอนนี้เดินมาอยู่ต่อหน้าคนทั้งสองแล้ว
" มีอะไรจะรับสั่งหรือพ่ะย่ะค่ะ" คาลเวิร์ดถามยิ้มๆ
" การส่งทูตไปเฟอร์เดีย" ราฟเอ่ยสั้นๆ
" เชิญที่ห้องนั่งเล่นก่อนพ่ะย่ะค่ะ" คาลเวิร์ดบอกและทั้งสองก็ทำตามอย่างว่าง่ายแต่ก่อนจะเดินตามองค์จักรพรรดิทั้งสองไป เขาก็หันไปกำชับให้คนอื่นๆทำงานให้ดีๆและสั่งให้คนไปนำชากับของว่างมาให้องค์จักรพรรดิด้วย
" พระองค์ไม่ต้องห่วงพ่ะย่ะค่ะ จุดประสงค์ในการไปอาณาจักรเฟอร์เดียใยในครั้งนี้ คือการสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างอาณาจักรเฟอร์เดียกับอาณาจักรเวทมนต์ เพราะอาณาจักรนี้เป็นหนึ่งในอาณาจักรที่ไม่ตามล่าชาวเมืองชาวเมืองอาณาจักรเรา จึงดีที่จะเชื่อมสัมพันธ์ด้วย" เมื่อองค์จักรพรรดิทั้งสองนั่งลงเรียบร้อย คาลเวิร์ดก็เล่าทันที
อันที่จริง อาณาจักรเวทมนต์เป็นอาณาจักรที่แข็งแกร่งและค่อยข้างตัดขาดจากโลกภายนอก ถ้าไม่นับเรื่องที่ชาวเมืองบางส่วนออกไปอยู่ที่โลกภายนอก ไม่จำเป็นต้องเชื่อมสัมพันธ์กับใครก็ได้ แต่ถ้าเชื่อมเอาไว้ก่อนก็จะเป็นเรื่องที่ดี
" ส่วนที่กำลังขนย้ายกันที่ห้องโถงคือของในปราสาทพ่ะย่ะค่ะ ต้องนำออกมาตรวจสอบดูสักหน่อย และพวกกระหม่อมก็กำลังจัดหาของขวัญวันเกิดให้องค์ราชาแห่งเฟอร์เดียด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรดี พระองค์ก็เลือกเถอะพ่ะย่ะค่ะ" คาลเวิร์ดรายงาน
" นอกจากนี้การไปของทูตก็ยังมีมีจุดประสงค์อื่นอีกมั้ย?" โรสถามต่อ
" มีพ่ะย่ะค่ะ จุดประสงค์นั้นคือการประกาศการกลับมาของพระองค์ทั้งสอง แต่เรื่องนี้กระหม่อมก็กำลังจะถามพระองค์อยู่พอดี ถ้าพระองค์อนุญาต กระหม่อมจะประกาศแต่ถ้าไม่ กระหม่อมก็จะไม่ขัดพระองค์" คาลเวิร์ดตอบ
" ได้ พวกเราอนุญาต" พวกเขาเงียบและมองหน้ากันสักพักก่อนที่ราฟจะตอบออกมา
" ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ"
" แต่มีข้อแม้ว่า..."
" ได้พ่ะย่ะค่ะ" เขายิ้มรับหลังจากได้ฟังข้อแม้จบ
" จริงสิ! พระองค์อย่าลืมเรื่องของขวัญของราชาแห่งเฟอร์เดียนะพ่ะย่ะค่ะ" คาลเตือน
" ราฟฉันให้นายเลือก" โรสหันไปโยนให้คนด้านข้าง
" ฉันไม่ค่อยสนิทกับราชาแห่งเฟอร์เดีย ไม่รู้ว่าเขาชอบอะไร เธอเลือกดีกว่า" เขาโยนกลับไปให้อีกฝ่าย
" ฉันก็ไม่รู้ว่าท่านลุงชอบอะไร" เธอเถียง
เมื่อเห็นว่าเจ้านายทั้งสองของตนกำลังปรึกษา? กันอยู่ คาลเวิร์ดจึงลุกขึ้นแล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆพร้อมรอยยิ้ม บริเวณนั้นจึงเหลือเพียงองค์จักรพรรดิทั้งสองที่กำลังปรึกษากันอยู่ และทหารกับเมดอีกบางส่วน
30นาทีผ่านไป
" คาลเวิร์ด พวกเรากลับล่ะ" ราฟพูดกับคนที่กำลังง่วนอยู่กับการทำงาน พวกเขากำลังจะกลับและทางเดียวที่จะไปถึงหอพักเร็วที่สุดคือต้องใช้ประตูมิติที่พวกเขาใช้ตอนมาที่นี่ในวันนี้ พวกเขาจึงต้องขึ้นบันไดไปที่ห้องหวงห้าม และบันไดก็อยู่แถวกับห้องโถงของปราสาทที่คาลเวิร์ดกำลังทำงานอยู่พอดี พวกเขาจึงมาบอกคาลเวิร์ดด้วยตัวเองแทนที่จะให้คนมาบอกแทน
" อ้าว จะไม่อยู่ค้างหรือพ่ะย่ะค่ะ" จริงด้วยสิ คาลเวิร์ดยังไม่รู้จักตัวตนในโลกภายนอกของพวกเขา
" ไม่ล่ะ พวกเราในโลกนี้พึ่งจะอายุ16ปี ยังเรียนอยู่" โรสบอก
" อ่อ พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นกระหม่อมทูลลา" เขาพยักหน้าเข้าใจก่อนจะโค้งตัวคำนับ
" อืม" พวกเขาเพียงพยักหน้ารับก่อนจะกลับไปยังหอพักของตน
หอพักA
17:30น.
" ไปล่ะ" ราฟบอกคนด้านข้างก่อนจะกลับห้องของตนไป
" 5โมงครึ่งแล้วสิ" เธอหันไปมองนาฬิกาก่อนจะพึมพำออกมา
" เห้อ" เธอถอนหายใจก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงก่อนจะหยิบม้วนกระดาษขึ้นมาดู มันคือรายการของขวัญที่จะมอบให้ท่านลุง คาลเห็นว่าเธอกับราฟคิดเรื่องของขวัญกันไม่ออก ก็เลยเอารายการมาให้ดูแล้วเลือกแทน เห้อ ปกติเรื่องแค่นี้คาลจะเป็นคนจัดการ แต่ทำไมคราวนี้ถึงเป็นเธอกับราฟล่ะ?
และดูเหมือนความคิดของเธอจะไม่ต่างจากคนข้างห้องมากนัก...
ห้องพักด้านข้าง
" เห้อ" เขาถอนหายใจออกมา เขาไม่ค่อยจะให้ของใครสักเท่าไหร่แล้วจะให้มาเลือกของขวัญให้คนที่ไม่ค่อยสนิทกันเนี่ยนะ? เห้อ ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของคาลแท้ๆ
ถึงความทรงจำของเขากับโรสจะกลับมาแค่บางส่วน และในนั้นยังไม่มีเรื่องในตอนที่พวกเขาคิดอะไรพิเรนท์ๆอย่างการให้ลีออนนำเอาความทรงจำครึ่งหนึ่งไปซ่อน เห้อ ก็ไม่เข้าใจตัวเองนักหรอกแต่รู้แค่ว่าตอนนี้ พวกเขาไม่มีข้อมูลอะไรในตอนนั้นเลย แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีอยู่อย่างหนึ่งที่พวกเขาจำได้ นั่นคือระบบการปกครองในอาณาจักรเวทมนต์
การปกครองของที่นั่นไม่เหมือนกับการปกครองของอาณาจักรอื่นๆ เพราะชาวเมืองทุกคนนั้นรักสงบ จึงไม่ค่อยจะมีเรื่องวุ่นวายใหญ่โตจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีขุนนางเพื่อแก้ปัญหาภายในอาณาจักร ชาวเมืองทุกคนจึงมีฐานะเท่าเทียมกัน จะมีแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่จะไปเป็นทหาร เมด และพ่อบ้านในปราสาทเพื่อรับใช้องค์จักรพรรดิทั้งสอง
แต่ถึงอย่างนั้นอาณาจักรเวทมนต์ก็ยังคงเป็นอาณาจักร ยังคงต้องติดต่อกับโลกภายนอก จึงต้องมีบ้างที่จะส่งทูตไปยัง3เผ่า อย่างเช่นการส่งทูตไปอาณาจักรเฟอร์เดียเพื่อร่วมแสดงความยินดีในงานวันเกิดขององค์ราชาที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นาน และเพราะอย่างนี้ จึงต้องมีคนเข้ามาจัดการเตรียมงาน แต่เพราะองค์จักรพรรดิทั้งสองไม่ค่อยจะสนใจเรื่องพวกนี้และไม่มีขุนนาง องค์จักรพรรดิทั้งสองจึงต้องแต่งตั้งบุคคลไว้คอยจัดการเรื่องพวกนี้อย่างเป็นทางการ
และคนคนนั้นก็คือคาลเวิร์ด นอกจากนี้ งานของคาลเวิร์ดก็คือการจัดการสิ่งต่างๆในปราสาทจึงมีฐานะเป็นหัวหน้าพ่อบ้านด้วย คาลเวิร์ดจึงกลายเป็นคนที่คอยจัดการงานเกือบทุกอย่างในอาณาจักรเวทมนต์ แต่ถ้าเรื่องไหนที่เป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องสำคัญ เขาจะต้องรายงานหรือให้องค์จักรพรรดทั้งสองทราบและตัดสินใจ
กลับมาที่เรื่องเดิม การเลือกของขวัญให้กับราชาแห่งเฟอร์เดียนั้นนับเป็นเรื่องที่สำคัญระดับกลางๆ และเรื่องการเลือกของขวัญก็ไม่ใช่เรื่องที่องค์จักรพรรดิอย่างพวกเขาจะให้ความสนใจนัก มันจึงควรตกเป็นหน้าที่ของคาลเวิร์ด แต่ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นพวกเขาไปได้ล่ะ...
" เห้อ" เมื่อคิดได้ เขาก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
1เดือนผ่านไป
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและแน่นอนว่าเหล่านักเรียนแห่งอควาเรสก็ไม่ได้ปล่อยให้มันสูญเปล่า เพราะอีกแค่ครึ่งเดือนก็จะถึงการสอบเก็บคะแนนครั้งใหญ่แล้ว นักเรียนทุกคนจึงตั้งใจอ่านหนังสือเป็นพิเศษ
" วันนี้จะไปอ่านหนังสือกับพวกเราที่ห้องสมุดมั้ย?" เกรเทลหันหลังมาพูดกับอีกสองคนที่นั่งด้านหลังสุด ตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะเลิกเรียน ยังอยู่ในห้องเรียนอยู่เลย
" ไป แต่คงจะไปช้าหน่อย จะไปทำธุระ" โรสตอบแทนคนด้านข้าง
" ได้" เกรเทลตอบรับ
" ฉันไปก่อนนะ" โรสบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับราฟ
" ท่านพี่ไปไหนน่ะ?" ลิลลี่ที่เพิ่งจะเดินมาถึงโต๊ะที่พวกเกรเทลนั่งอยู่ถามขึ้น
" เห็นบอกว่าไปทำธุระ แล้วก็..."
" จะตามไปที่ห้องสมุดช้าหน่อย" ซีน่อนกับซีเวลตอบ
" งั้นพวกเราไปรอที่ห้องสมุดกันเลยดีมั้ยครับ?" มาร์ตินถามทุกคน
" ไปกันเลยล่ะกัน" อลันกับวิลล์ที่เพิ่งจะเดินมาพูดขึ้น หลังจากนั้นพวกเขาทุกคนก็ตรงไปยังห้องสมุดทันที
อีกด้านหนึ่ง
" ผอ.มีธุระอะไรนะ?" โรสบ่นพึมพำ ตอนเรียนคาบสุดท้าย อาจารย์ประจำวิชาบอกเธอกับราฟว่าพอเลิกเรียนให้ไปหาผอ.ที่ห้อง
" ไม้รู้สิ" ถึงเธอจะพูดเสียงเบาแต่เขาก็ได้ยิน แต่เขาก็เดาไม่ออกเลยจริงๆว่าถูกเรียกตัวไปเพราะเรื่องอะไร เพราะตั้งแต่เขาเข้ามาอยู่ในร่างนี้ ก็ไม่เคยสร้างเรื่องอะไรเอาไว้เลยส่วนราฟคนก่อนนั้นไม่ต้องพูดถึง หมอนั่นอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อน แล้วก็ไม่เคยสร้างเรื่องวุ่นวายเลย
" เสียเวลาไปห้องสมุดอีกด้วยสิ" โรสบ่น เพราะตั้งแต่เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอกับราฟแล้วก็คนอื่นๆในกลุ่มมักจะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดหลังเงิกเรัยนเพื่อเตรียมสอบ ไม่สิ ที่อ่านหนังสือน่ะมีแต่คนอื่นๆต่างหาก ส่วนเธอกับราฟที่ไปก็เพราะไปหาที่สงบๆเฉยๆ
ก็อย่างที่เคยบอกว่าพวกเขาอ่านหนังสือมาหมดแล้ว จะให้ไปอ่านอีกก็ไม่ใช่เรื่อง น่าเบื่อจะตาย
" ถึงแล้ว" ราฟบอกก่อนจะเคาะประตู
" เข้ามา" เมื่อเสียงด้านในเอ่ย พวกเขาก็เปิดประตูเข้าไปทันที
" ขออนุญาตครับ/ค่ะ" พวกเขาบอกตามมารยาทเมื่อเข้ามาในห้องและพบกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานและดูเหมือนกำลังรอพวกเขาอยู่
" อืม นั่งก่อน" เขาบอกก่อนจะผายมือเชิญผู้มาใหม่ทั้งสองให้นั่งลงที่โซฟาตัวยาวในห้อง
" มีธุระอะไรกับพวกเราเหรอครับ?" ราฟถามเข้าประเด็นทันที
" วัยรุ่นใจร้อนสะจริง" ผอ.แกล้งเย้า
"..." เขาไม่ได้ตอบโต้อะไร
" เอาล่ะ ฉันชื่อติเซียโน่ โรเจอร์ " เขาแนะนำตัวทำเอาอีกสองคนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ
คิดว่าพวกเขาจำชื่อผอ.โรงเรียนตัวเองไม่ได้รึไง?
" ก็แค่แนะนำไว้ก่อน ส่วนที่ฉันเรียกตัวพวกเธอมาวันนี้ก็เพราะอยากจะเตือน" เขาพูดเข้าประเด็น ในเมื่อเด็กสองคนนี้ไม่อยากอ้อมค้อม เขาเองก็จะไม่อ้อมค้อมเช่นกัน
" เตือน?" โรสทวนคำอย่างสงสัย
" เรื่องอะไรล่ะครับ?" แปลกใจนิดๆแหะ
" เรื่องคะแนนสอบของพวกเธอ" เขาพูดอย่างคลุมเครือ
" หมายถึงเรื่องที่พวกเราแกล้งทำคะแนนสอบให้ได้น้อยๆเหรอคะ?" ยังไงคนคนนี้ก็คืผอ.จะดูข้อสอบของนักเรียนตอนไหนก็ได้ เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องรู้เรื่องที่เธอแกล้งทำข้อสอบผิด เห้อ ก็คิดอยู่แล้ว ว่าต้องมีคนสงสัยที่จู่ๆเธอก็สอบได้คะแนนดีขึ้นมา ส่วนราฟไม่ต้องพูดก็รู้ เพราะก่อนหน้านั้นเธอก็เคยพูดแล้วว่าเขาสอบได้230-235คะแนนทุกครั้ง จึงถือเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอยู่แล้ว
" ในเมื่อพวกเธอรู้ก็ดี ฉันอยากให้พวกเธอทำคะแนนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเธอรู้ใช่มั้ย? ว่าคะแนนในการสอบแต่ละครั้งสำคัญมาก เพราะมันจะส่งผลต่อชื่อเสียงของพวกเธอที่จะแพร่ออกไปด้วย ถ้าทำคะแนนได้น้อย พวกเธออาจจะมีข่าวลือว่าเรียนไม่ดีก็ได้ ไม่ใช่ทุกคนที่รู้เรื่องคะแนนจริงๆของพวกเธอหรอกนะ" เขาร่ายยาว
" ก็ช่างสิครับ" ราฟพูดอย่างที่ไม่ต้องสังเกตุก็รู้ว่าเขาไม่สนใจเรื่องนี้
" ชื่อเสียงของพวกเราแทบจะไม่เหลือให้ทำลายแล้วล่ะค่ะ แล้วผอ.ไม่เคยได้ยินเหรอคะ?" โรสพูดด้วยท่าทางที่ไม่ต่างจากอีกคนมากนักก่อนจะเว้นช่วงเอาไว้
" ได้ยินอะไร?" เขาถามอย่างสงสัย
" ยิ่งเด่นก็ยิ่งดับไงครับ" ราฟเฉลย
"..."
" ผอ.ก็เป็นเพื่อนกับท่านพ่อใช่มั้ยล่ะคะ?" โรสถามและติเซียโน่ก็พยักหน้า "ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงชื่อเสียงของพวกเรา แต่บางครั้งการเด่นมากไปก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีนะค่ะ" เธอบอกพร้อมยิ้มบางๆ ถึงเธอจะไม่เคยเห็นผอ.คนนี้ในความทรงจำของโรสแต่เธอก็เคยได้ยินเรื่องที่ผอ.คนนี้เป็นเพื่อนกับท่านพ่อมาจากเซบาสเตียน ท่านพ่อของเธอมีเพื่อนที่ดีแหะ
" ถ้าไม่ทีธุระอะไรแล้ว พวกเราขอตัวนะครับ" ราฟบอกทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้องพร้อมกับโรสทิ้งให้อีกคนได้คิดเรื่องที่พวกเขาพึ่งจะพูดไป
ถ้าถามว่าพวกเขาจะเลิกแกล้งทำข้อสอบผิดมั้ย? แน่นอนว่าไม่ เพราะอย่างที่พวกเขาพูดกับผอ. 'ยิ่งเด่นก็ยิ่งดับ' คำคำนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแต่เป็นเรื่องจริง ยิ่งมีชื่อเสียงมากก็ยิ่งมีโอกาสตกเป็นเป้าในการถูกใช้เป็นเครื่องมือได้มาก
อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้พวกเขามีชื่อเสียงจากการช่วยอาจารย์เดวิดปรุงยาเพิ่มพลังเวทย์มาแล้ว ถ้าจะให้สอบได้คะแนนเต็มก็จะยิ่งตกเป็นเป้าเข้าไปใหญ่ ถึงการแกล้งทำข้อสอบผิดจะช่วยลดชื่อเสียงไปได้ไม่มากก็เถอะ และพวกเขาก็ได้แต่หวังว่าผอ.คนนี้จะเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูดไป
" ฉันไม่อยากไปห้องสมุดแล้ว กลับหอพักก่อนนะ" เธอบอกอีกคนในขณะที่กำลังเดินอยู่ พอโดนเรียกไปพูดเรื่องนั้น เธอก็หมดอารมณ์จะไปไหนแล้ว
" ไปด้วย" เขาบอกเสียงเรียบติดจะขุ่นมัว
" เป็นอะไรรึเปล่า?" เธอรู้สึกถึงความไม่พอใจในนํ้าเสียงของเขา แต่เขาไม่พอใจอะไรล่ะ?
" เปล่า" เขาตอบนํ้าเสียงห้วน เขากำลังไม่พอใจจริงด้วย แต่อะไรล่ะ? เธอพยายามนึกแล้วจู่ๆก็มีเหตุการณ์หนึ่งปรากฏขึ้นในสมอง
อา...เธอเคยสัญญาเอาไว้ว่าจะยิ้มใหเขาคนเดียวนี่นา แล้วเธอก็ดันเผลอไปยิ้มบางๆตอนพูดกับผอ. อา...หาเรื่องใส่ตัวแล้วมั้ยล่ะ?
" ขอโทษ" เธอพูดออกไปหลังจากนึกได้
" อะไร?" เขาถามแต่กลับไม่หันมามองหน้าเธอ
" ฉันแค่เผลอเฉยๆ ขอโทษนะ" เธอพูดนํ้าเสียงรู้สึกผิด
" หึ!" เขาเพียงแค่หยุดเดินแล้วหันมามองหน้าเธอ
"..." เธอไม่ตอบแต่มองเขาอย่างรู้สึกผิด
" เห้อ อย่าผิดสัญญาอีก เข้าใจมั้ย?" ใจอ่อนอีกแล้วสิ เขารู้ดีว่าคนตรงหน้ารักษาสัญญาแค่ไหนและที่ผิดสัญญาก็เพราะเผลอแถมคนตรงหน้ายังไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลยด้วย
" ยกเว้นท่านพ่อกับท่านพี่ได้มั้ย?" เธอต่อรอง
" อย่าทำต่อหน้าฉันล่ะกัน" เขานิ่งไปสักพักก่อนจะตอบออกมา
" ขอบคุณนะ" เธอตอบพลางยิ้มเมื่อคิดได้ว่าเขาก็มีมุมที่ขี้น้อยใจเหมือนเด็กเหมือนกัน แต่แล้วความคิดของเธอก็เป็นอันสะดุดลงเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอันแผ่วเบาที่แก้ม...
เขาหอมแก้มเธอ!!
อีกแล้ว!!
แถมคราวนี้มันใกล้กับริมฝีปากเธอจนแทบจะจูบกันอยู่แล้ว!!
" ราฟาเอล ทาทารอส!!" เมื่อรู้สึกตัวเธอก็เรียกชื่อเขาเสียงดังทันที
" ครับ!!" ตัวการของเรื่องตอบรับอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับวิ่งหนีอย่างรวดเร็วและแน่นอนว่าอีกคนก็รีบวิ่งไล่ตามเขาไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน
ยังดีที่บริเวณนั้นไม่มีคนอยู่ ไม่อย่างนั้นคนที่ได้เห็นภาพตรงหน้าที่ท่านหญิงและเจ้าชายผู้เย็นชาแห่งอควาเรสกำลังวิ่งไล่กันอยู่คล้ายเด็กๆ คงจะได้ขยี้ตากันหลายๆรอบเพื่อดูว่ามันคือเรื่องจริงรึเปล่า
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
น่ารักมากมาย
>////<
>///<