เช้าวันต่อมา
" อืม" คนที่ถูกกอดมาทั้งคืนส่งเสียงออกมาก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น เมื่อคืนเธอได้นอนหลับสนิทก็เลยรู้สึกสดชื่นดีกว่าทุกวัน
" ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงจากด้านข้างทำให้เธอหันไปมองทันที อา...เธอลืมไปได้ไงเนี่ย? ว่าไม่ได้นอนอยู่คนเดียว
" นายตื่นนานรึยัง?" เขาดูไม่เหมือนคนพึ่งตื่นนะ
" พึ่งตื่นไม่นาน" เขาตอบไป
" อา...กี่โมงแล้วเนี่ย?" เธอพูดพึมพำก่อนจะหันไปดูนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง 6โมง...
" ฉันไปอาบนํ้าก่อนนะ" เธอหันไปบอกอีกคนที่ยังคงนอนอยู่ก่อนจะเด้งตัวลุกจากเตียงแล้วหายเข้าไปในห้องนํ้า
20นาทีต่อมา
แอ๊ด~
เธอเปิดประตูออกมาพร้อมกางเกงขาสั้นสีขาวกับเสื้อยืดสีขาวลายทาง เมื่อเห็นเธอออกมาราฟก็เข้าไปอาบนํ้าต่อทันที
" อา..." วันนี้เป็นวันหยุดวันสุดท้ายของสุดสัปดาห์ เธอกับราฟต้องกลับไปที่อคาเรสแล้ว เห้อ อยู่ที่นี่ก็ดีนะ สงบ ไม่มีเรื่องน่าปวดหัว ต่างกับข้างนอกโดยสิ้นเชิง แต่เวลาเธอเบื่อก็หาเรื่องทำได้ง่ายดี ส่วนที่นี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันสงบจนไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ
พูดถึงเรื่องให้ทำ เธอเคยถามคาลเกี่บวกับแท่นหินตรงยอดเทือกเขามังกรดู หมอนั่นก็บอกว่ามันมีมาตั้งแต่ที่มิติแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น แล้วเธอกับราฟในสมัยที่ยังเป็นองค์จักรพรรดิ ก็ร่ายเวทย์ให้แท่นหินเป็นประตูทางเข้ามิติ แล้วบอกกับพวกคาลไว้ว่าเป็นคำทำนายที่อญุ่บนแท่นหินจะต้องเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไม่ได้
เดิมแท่นหินนั้นมี4แท่น แต่มีแท่นหนึ่งหายไปอย่างที่เธอคิด ซึ่งมันหายไปตั้งแต่อาณาจักรเวทย์มนตร์ถูกสร้างขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีใครเคยเห็นมันและคนที่น่าจะรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ก็คือตัวเธอกับราฟสมัยเป็นองค์จักรพรรดิ แต่ประเด็นคือเธอกับราฟจำอะไรไม่ได้
เอาล่ะ ปล่อยเรื่องเครียดๆไปก่อนเพราะคิดยังไงมันก็คงจะคิดไม่ออก ทีนี้ลองมาเรียบเรียงเรื่องของเธอกับราฟสมัยยังเป็นองค์จักรพรรดิกัน เธอรู้มาอีกว่าองค์จักรพรรดิทั้งสองนั้นรักสนุกเอามากๆ ซึ่งนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทั้งสองไม่เคยบอกหรือเขียนอะไรเกี่ยวกับแท่นหินไว้ให้คนอื่นได้ดูหรือฟังเลย ทำให้ไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับแท่นหิน
อืม...พึ่งเคยเกลียดความรักสนุกของตัวเองก็วันนี้แหละ
และอีกเรื่องคือ องค์จักรพรรดิทั้งสองไม่ได้แต่งงานกัน ทั้งสองเป็นแค่เพื่อนที่ช่วยกันปกครองอาณาจักรแห่งนี้เท่านั้น และนั่นถือเป็นเรื่องดีสำหรับเธอ เพราะเห็นอย่างนี้เธอก็ยังไม่อยากแต่งงานหรอกนะ และเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับราฟเกินคำว่าเพื่อนหรือลูกพี่ลูกน้อง
.
.
.
.
ล่ะมั้ง?
จะว่าไงดีล่ะ ในความรู้สึกที่เธออยู่กับเขาแล้วสบายใจ มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่บอกไม่ถูกผสมอยู่ด้วย
แอ๊ด~
เสียงประตูห้องนํ้าเรียกให้เธอตื่นขึ้นจากภวังค์ แล้วหันไปมองที่ต้นเสียงแทน และเมื่อหันไปเธอก็พบกับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเหมือนเทพ แต่มันกลับล่อลวงให้ผู้หญิงให้ติดกับได้อย่างง่ายดายราวกับปีศาจ แล้วเขาก็เป็นทั้งเทพและปีศาจในเวลาเดียวกันจริงๆ
อืม...เธอจะไม่แปลกใจเลยถ้าเขาออกมาแบบปกติ แต่นี่เขาดันไม่ใส่เสื้อ ใส่แต่กางเกง เผยให้เห็นกล้ามเนื้อท่อนบนกับแผงอกขาวๆ แล้วไหนจะซิกเเพ็คหกลูกนั่นอีก ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นมาภาพนี้ก็คงจะเลือดกำเดาไหล กรี๊ด หรือสลบไป แต่นี่เป็นเธอ เมื่อโลกก่อนเธอเคยเห็นภาพแบบนี้อยู่บ่อยๆ ก็หมอนั่นชอบถอดเสื้อออกมาจากห้องนํ้าแบบนี้ แถมหุ่นของราฟก็ยังพอๆกับหมอนั่นเลยด้วย ก็ไม่แปลกที่เธอจะแสดงอาการอะไร
" ทำไมไม่ใส่เสื้อ?" แต่เธอก็อดถามไม่ได้อยู่ดี
" ลืมหยิบเข้าไปน่ะ" เขาตอบก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดในนั้นกลับไปเปลี่ยนนในห้องนํ้าอีกครั้ง
อืม...เธอก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่เขินอายกับเรื่องพวกนี้
" ไปกันเถอะ" เขาออกมาจากห้องนํ้าก่อนจะพูดขึ้น พวกเขาตกลงกันแล้วว่าจะกลับอคาเรสวันนี้
" อืม"
ห้องโถงปราสาท
" ถวายพระพรเพคะ/พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท" เสียงทำความเคารพดังลั่น
" เชิญรับประทานอาหารเช้าแล้วค่อยกลับเถอะพ่ะย่ะค่ะ" คาลเวิร์ดเดินเข้มาบอกพวกเขา อันที่จริงพวกเขาบอกคาลไว้แล้วว่าจะกลับวันนี้
" อืม" พวกเขาตอบไปก่อนจะไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร แต่เมื่แพวกเขาทานอาหารเสร็จมันก็พึ่งจะ8โมงคครึ่งเท่านั้น พวกเขาจึงตัดสินใจจะไปเดินดูในเมืองสักหน่อยก่อนจะกลับ
และดูเหมือนคาลจะรู้ว่าพวกเขาไม่ชอบความวุ่นวาย เขาจึงเตรียมรถม้าธรรมดาไว้คันหนึ่ง ผู้ติดตามก้มีแค่ทหารไม่กี่คน
" สวยดีเนอะ" เธอมองออกมานอกหน้าต่างของรถม้าแล้วพูดกับคนด้านข้าง ตอนแรก ภาพที่เธอเห็นคือเมืองที่เต็มไปด้วยนํ้าแข็ง ไม่มีใครหรืออะไรสักอย่าง แต่ตอนนี้นํ้าแข็งกลับหายไปไม่เหลือร่องรอย เผยให้เห็นสิ่งก่อสร้างต่างๆในเมือง แล้วไหนจะชาวเมืองทุกคนที่มีรอยยิ้มกันทุกคนอีก
" อากาศดีไม่เหมือนกับชาติที่แล้วด้วยสิ" เขาตอบอีกฝ่าย ชาติก่อนก็มีแต่ควันจากรถหรือโรงงาน ที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์จึงหายาก แต่ที่นี่กลับอากาศดีผิดกันลิบลับ
พวกเขาเที่ยวดูเมืองกันจนเที่ยงก่อนจะบอกชาคาลเวิร์ดเพื่อกลับไปที่อควาเรส แต่ก็ไม่วายถูกยํ้าเตือนให้มาที่นี่บ่อยๆ และตอนกลับ พวกเขาก็ต้องกลับทางเดิม นั่นก็คือต้องผ่านประตูมิติ แต่ที่อาณาจักรแห่งเวทย์มนตร์จะมีประตูมิติอยู่สองที่ หนึ่งคือประตูมิติใจกลางเมือง ซึ่งเป็นสำหรับชาวเมืองทั่วไปที่ต้องการจะไปสู่โลกภายนอก และคนที่เข้าเข้ามาในมิติก็จะมาโผล่ที่ตรงนี้
ส่วนแห่งที่สองคือประตูมิติที่อยู่ในปราสาท มันอยู่ที่ห้องชั้นนบนสุดของปราสาทหรือก็คือห้องที่พวกเขาไปปลดปล่อยพวกชาวเมือง ทางเข้านี้มีไว้สำหรับองค์จักรพรรดิทั้งสองเท่านั้น และประตูมิติทั้งสองแห่งก็เป็นทางออกไปสู่โลกภายนอกเหมือนกัน
ต่างกันก็แค่ว่าประตูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนั้น เมื่อออกไป จะไปอยู่ที่แท่นหินบนเทือกเขามังกร แต่ประตูมิติในปราสาทนั้น จะไปโผล่ที่ไหนของโลกภายนอกก็ได้ แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตอนที่มาโผล่ในมิติครั้งแรก ถึงไม่ได้มาโผล่ที่ใจกลางเมือง
แถมพวกเขายังรู้มาอีกว่าห้องเก็บประตูมิติภายในปราสาทนั้น เป็นห้องที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปแม้แต่คาลเวิร์ด
แน่นอนว่าตอนที่พวกเขาออกไป พวกเขาเลือกที่จะออกไปทางประตูมิติในปราสาท ส่วนที่ที่พวกเขาจะไปก็คือห้องพักของพวกเขาในอควาเรสเพราะจะประหยัดเวลามากกว่า และต้องเป็นในห้องของพวกเขาเท่านั้น เพราะถ้าจู่ๆเกิดไปโผล่ที่ต่อหน้าคนอื่นในที่ส่วนรวมของหอพักมีหวังได้แตกตื่นกันแน่ๆ
" ฉันไปนะ" ราฟบอกหลังจากมาโผล่ที่หอพักในห้องของคนข้างกาย
" บาย" เธอบอกอีกคนที่กำลังจะปีนระเบียงห้องเธอกลับไปห้องตัวเอง อืม...ถ้าเขาจะใช้ประตู เธอก็ไม่ว่าหรอกนะ
" พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ พรุ่งนี้" เธอกำลังไล่ดูตารางงานวันพรุ่งนี้ ก็ไม่ใช่อะไร เพราะเธอคิดว่าจะเอาแบบเครื่องประดับกับชุดให้เจ๊ลิสด้วยตัวเองในตอนเย็นหลังเลิกเรียน แล้วที่เธอต้องมานั่งดูตารางงานก็เพื่อดูว่ามันมีงานอะไรหลังเลิกเรียนอีกรึเปล่า
และหนึ่งในงานเหล่านั้นก็คือการไปช่วยอาจารย์เดวิด ซึ่งตอนนี้เธอไม่ต้องเข้าไปช่วยสัปดาห์ละ2วันแล้ว เพราะอาจารย์เดวิดหาเด็กไว้ช่วยงานเป็นประจำได้แล้ว เธอจะเข้าไปช่วยก็ตอนที่อาจารย์เดวิดเรียกเท่านั้น แต่ส่วนมากมันจะเป็นงานใหญ่แล้วเธอก็จะได้รับวันเวลาของงานมาล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัว
อุตส่าห์ได้มาเกิดที่อีกโลก ยังต้องมานั่งทำงานอีกเหรอเนี่ย? ในโลกก่อน เธอทำธุรกิจแทบทุกด้าน จะว่าลำบากก็ลำบาก จะว่าสบายก็สบาย เพราะการทำธุรกิตทุกด้านนั้นหมายถึงการมีงานให้ทำมาก แต่ก็ยังดีที่เธอมีเลขาหลายคนคอยช่วย แต่เธอก็ยังต้องมานั่งตรวจอีกทีอยู่ดีนั่นแหละ
ใช่ว่าเธอไม่เหนื่อย และเคยคิดว่าอยากจะหยุดทำ แต่เธอก็อยากทำให้พ่อของเธอได้ภูมิใจเพื่อตอบแทนบุญคุณ และสุดท้าย ความกตัญญูก็ชนะ เธอยังคงทำทุกอย่างต่อไปโดยไม่สนความเหนื่อยล้า
พอได้มาเกิดใหม่ก็คิดว่าคงจะได้พักสักนิด แต่ตอนนี้มันกลับไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่า 'พัก' เลย เพราะถ้าว่างจากการเรียนหรือไม่ได้ไปช่วยอาจารย์เดวิด เธอก็ต้องมานั่งฟังเจ้าพวกตัวแสบเล่นกันอย่างกับเด็กทั้งๆที่อายุก็สิบหกสิบเจ็ดกันแล้ว
" โอเค ไม่มีปัญหา" เธอพูดออกมาหลังจากตรวจดูตารางงานเรียบร้อย พรุ่งนี้เธอก็แค่ไปเรียนตามปกติ ส่วนตอนเย็นก็ไปที่ร้านของเจ๊ลิส หลังจากนั้นก็ค่อยกลับมาที่หอพัก
ผ่านไปสักพัก เธอก็เริ่มหิวขึ้นมา ตอนนี้ก็บ่ายโมงกว่าๆแล้ว ตอนที่เธอกลับมาจากมิติเวทย์มนตร์ก็คือตอนเที่ยง แล้วพอกลับมาเธอก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย อา...เธอคงต้องไปหาของกินที่ห้องครัวสักหน่อยแล้ว
ไวเท่าความคิด เธอเดินลงไปที่ชั้นล่าง ตรงไปที่ห้องครัวของหอพักทันที แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ไปถึงห้องครัวก็มีเสียงหนึ่ง ไม่สิ หลายเสียงดังขึ้น
" โรส!!" เสียงประสานดังลั่น
"!!!" เสียงเหล่านั่นทำเอาคนถูกเรียกสะดุ้งตกใจ
" เธอกลับมาแล้ว!"
" เป็นยังไงบ้าง!?"
" ไม่บาดเจ็บใช่มั้ย!?"
" หายไปไหนมา!?"
คำถามมากมายที่ออกจะไปในทางเดียวกันดังขึ้น ส่วนคนที่ตอนแรกตกใจเพราะเสียงดังก็กลับมานิ่งเฉยตามเดิม พร้อมกรอกตาไปมา ทำไมเจ้าพวกนี้ชอบแตกตื่นกันนัก?
" พอ! หยุด!" เธอทนไม่ไหวแล้วพูดขึ้นเสียงดัง ทำให้คนที่กำลังจะถามคำถามต้องเงียบลง
" สรุปคือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?" เธอมีปราสาทการรับเสียงที่ดีก็จริง แต่ถ้าต้องมาฟังคนหลายๆคนแย่งกันพูด เธอก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอกนะ
" เธอหายไปไหนมา? พวกเราเป็นห่วงกันแทบแย่" เกรเทลพูดขึ้น
" พวกนายไม่ได้อ่านจดหมายที่ฉันทิ้งไว้เหรอ?" เธอถามพลางขมวดคิ้ว เธอเขียนทุกอย่างไว้ในจดหมายแล้วนี่
" ได้ แต่พวกเราเป็นห่วงเธอ" เป็นซีน่อนกับซีเวลที่พูด
" เอาล่ะ เอาเป็นว่า ฉันสบายดี สบายดีมากด้วย ทีนี้ก็เลิกแตกตื่นได้แล้ว" ถ้ามีแค่พวกเกรเทล เธอจะไม่ว่า แต่นี่ดันมีนักเรียนคนอื่นๆในหอพักมารุมเธอด้วย มันเลยยิ่งวุ่นวายกันเข้าไปใหญ่
"..." เมื่อได้ยินว่าเธอปลอดภัย บวกกับท่าทางของคนพูดที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าหงุดหงิด คนที่อยู่รอบๆก็เริ่มกลับไปทำงานของตนทันที ก็แค่เกือบทุกคนน่ะนะ
" แล้วสรุปเธอไปไหนมา?" ฮานส์ถามคำถามนี้อีกครั้ง
" ไปทำธุระนิดหน่อย" เธอตอบปัดๆ จะให้บอกว่าไปเที่ยวที่อาณาจักรเวทย์มนตร์ที่หายสาปสูญไปแล้วรึไง?
" แล้วทำไมต้องไปกับราฟ?" ซีน่อนถามต่อ
"..." เธอขมวดคิ้ว ในจดหมายเธอไม่ได้บอกว่าจะไปกับใครนี่ แล้วเจ้าพวกนี้รู้ได้ยังไง?
" ท่านพี่หายไปพร้อมกับเจ้าชาย พวกเราเลยคิดว่าท่านพี่น่าจะไปกับเจ้าชายค่ะ" คล้ายลิลลี่จะเข้าใจในสิ่งที่โรสคิดจึงพูดออกไป
" อืม" เธอพยักหน้า
" แล้ว-"
" พอ! ฉันยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยง ขอไปหาอะไรทานหน่อย" พูดจบเธอก็เดินไปทันที ถ้ามัวแต่มาตอบคำถามของเจ้าพวกนี้ เธอคงไม่ต้องทานข้าวกันพอดี
ห้องครัว
" เห้อ"
" หิวเหรอ?" ในขณะที่เธอเพิ่งจะเข้ามาในห้องครัว ก็มีเสียงคุ้นหูดังขึ้นและเมื่อเธอหันไปมองก็ไม่ใช่ใครอื่น
" อืม ก็ข้าวเที่ยงยังไม่ได้กินเลยนี่" เธอตอบเขาก่อนจะไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรมาทำอาหาร
" ไปล้างมือ ฉันทำของเธอไว้แล้ว" เขาพูดและเมื่อเธอหันไปมอง ก็พบว่าเขาจัดอาหารสองสามอย่างกับข้าวอีกสองจานไว้บนโต๊ะ
"..."
" เร็วสิ ฉันหิวแล้วนะ" เขาเร่งเมื่อเห็นว่าเธอยังคงนิ่งอยู่ และคราวนี้เธอก็ทำตามที่เขาบอกคือไปล้างมือแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะ
"..." เมื่อทานไปได้สักพักเธอก็เริ่มขมวดคิ้วนิดๆ
" มีอะไร?" เธออยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา ถึงแม้จะขมวดคิ้วนิดๆจนถ้าไม่สังเกตุให้ดีก็คงจะมองไม่เห็น แต่เขาเห็น
" โลกก่อนนายไปเรียนทำอาหารกับใครรึเปล่า?" เธอถามออกไป เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยทานอาหารที่เขาทำเองทั้งหมด ส่วนมากเธอจะช่วยเขาทำ มีแค่ครั้งเดียวที่เขาทำเองคือตอนที่เธอมีอาการจากพิษในตัวครั้งแรก และตอนนี้ก็คือครั้งที่2 ซึ่งเธอก็เริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับอาหารแบบนี้ขึ้นมา
"..." เธอถามแบบนี้...แสดงว่าเขาพลาดแล้ว ใช่ เขาพลาดแล้วจริงๆ อาหารส่วนมากที่เขาทำเป็นจะมีสูตรเฉพาะที่เขาคิดขึ้นเอง อาหารของเขาจึงรสชาติมีรสชาติเป็นของตัวเอง แล้วอาหารที่เขาทำให้เธอทานทั้งหมดก็เป็นสูตรเฉพาะช่นกัน แล้วเมื่อชาติก่อนเขาก็ชอบทำอาหารให้เธอทานบ่อยๆ ก็ไม่แปลกที่เธอจะรู้สึกคุ้นเคยกับอาหารบนโต๊ะ
" ว่าไง?" เธอถามยํ้าเมื่อเห็นเขาเงียบไป
" ฉันเคยให้คนรู้จักคนหนึ่งสอนทำน่ะ" เขาตอบออกไปเมื่อหาข้ออ้างได้ เขายังไม่อยากให้เธอรู้ว่าเป็นเขาในตอนนี้ ในเมื่อเธอคิดจะทิ้งเขา เขาก็คงต้องลงโทษเธอสักหน่อย
" อ่อ" เธอพยักหน้ารับรู้ก่อนจะทานข้าวต่อไป ถึงท่าทางที่แสดงออกมาจะยังเป็นปกติ แต่เขาก็รู้ดีว่าเธอยังไม่เลิกสงสัยแน่ เพราะจากนิสัย คนตรงหน้าเขาไม่มีทางเชื่ออะไรง่ายๆอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญก็ยิ่งไม่มีทาง
หลังจากที่พวกเขาทานอาหารและเก็บจานเรียบร้อย ก็กลับมาที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง ซึ่งพวกเขาก็พบกับอลันและวิลล์ที่พึ่งกลับมาจากวัง
" ฉันกลับห้องแล้วนะ" เธอนั่งคุยกับพวกเกรเทลได้สักพักก็ขอตัวกลับห้องไป
" ฉันก็ไปบ้างล่ะ" ราฟเองก็ขอกลับห้องไปด้วย
เมื่อกลับมาถึงห้อง เธอก็เริ่มทำบางอย่างที่ยังไม่เสร็จต่อ บางอย่างที่เธอทำค้างไว้ตั้งแต่ก่อนจะไปที่มิติแห่งเวทย์มนต์สะอีก
" ทำอะไรอยู่?" ทำไปได้สักพัก ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
"..." เธอไม่ได้ตอบอะไรเขา
" ใกล้จะเสร็จแล้วนี่" เขาพูดต่อพร้อมยิ้มบางๆ อืม...เหมือนเขาตัวจริงเลยแหะ
สิ่งที่เธอทำค้างไว้จริงๆก็คือรูปวาด ก็รูปที่เธอวาดในวันที่เธอได้แผนที่มาจากลีออนนั่นแหละ ตอนนี้รูปมันก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์อย่างที่ราฟพูด และถ้ายังไม่ลืม รูปที่เธอวาดก็คือรูปของโซระในโลกก่อน
" อา..." เธอลุกขึ้นแล้วหยิบผลงานขึ้นมาดูแล้วยกยิ้มอย่างพึงพอใจออกมา ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะตามเดิม
" นายแอบเข้าห้องฉันอีกแล้ว" เมื่อหันไปด้านหลัง เธอก็พูดกับอีกคนที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่ปลายเตียงของเธอ
" ไม่ได้แอบ เข้ามาตรงๆเลยต่างหาก" เขาพูดพลางลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วเดินมาหยิบกระดาษที่ในนั้นมีรูปที่เธอพึ่งจะวาดเสร็จ
" ใครเหรอ?" เขาถามคำถามที่ตัวเองรู้คำตอบดี
" คนจากโลกก่อนน่ะ" เธอตอบเสียงหม่นลงเล็กน้อย และอีกคนก็จับนํ้าเสียงของเธอได้
" เขาเป็นอะไรกับเธอ?" ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เขาอยากจะรู้ว่าเธอวางเขาไว้ในฐานะอะไร
" ก็หลายอย่าง ตอนแรกก็เป็นเพื่อน ต่อมาก็เป็นคนที่ไว้ใจและสนิทด้วยมากที่สุด และสุดท้าย...ศัตรู" ถึงเธอจะไม่อยากเป็นศัตรูกับเขาก็เถอะ เธอพูดต่อในใจ
" แล้ว..." เขาหยุดพูดไป
" อะไร?"
" เธอ...คิดถึงเขาบ้างมั้ย?"
________________ตัด
ต้องขออภัยที่หายไปนาน บังเอิญว่าผมไม่สบายเลยเข้าโรงพยาบาล ก็เลยหายไปเกือบอาทิตย์
(ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อตอน)
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
รออออออออออ
หายป่วยไวๆนะคะ
แต่ไม่เป็นไรเค้ารอได้ 😊😊