โรงอาหาร
11:30 น.
ตอนนี้ก็พักเที่ยงหลังจากที่เธอเรียนช่วงเช้าเสร็จแล้ว ทุกอย่างก็ยังคงปกติเหมือนเดิมแค่มีเจ้าฝาแฝดหัวสีฟ้ามาร่วมนั่งทานอาหารกลางวันกับเธอ มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ที่เธอตกลงจะสอนเจ้าพวกนี้เล่นกีต้าร์ ถ้าถามว่าจะมีข่าวลือเหมือนที่เธอกังวลเหมือนกับราฟออกมามั้ย? แน่นอนว่าไม่มี เพราะพ่อของเธอเป็นดยุคลำดับที่1และพ่อของเจ้า2ตัวนี้ก็เป็นดยุคลำดับที่2
ดังนั้นท่านพ่อของเธอกับพ่อของเจ้าพวกนี้ก็ต้องมีบ้างที่ต้องทำงานร่วมกัน และเธอกับเจ้าพวกนี้ก็เป็นลูกของดยุคเหมือนกัน เพราะงั้นมันก็ไม่แปลกที่พวกเขาจะคบเพื่อนที่พอจะมีฐานะเดียวกัน คนส่วนมากก็รู้ข้อนี้ดีจึงไม่มีข่าวลือหรือการนินทาอะไร แต่กลับมองว่ามันเหมาะสมด้วยซํ้า แต่บางคนกลับไม่เข้าใจ อย่างเช่น...
" ท่านหญิงคะ มาทานข้าวกับท่านชายทั้ง2แบบนี้มันไม่ดีนะคะ อีกอย่างท่านหญิงพึ่งจะถอนหมั้นกับคุณลูเซียนมา มันอาจจะไม่เหมาะสมนะคะ" ดูเหมือนคุณนางเอกจะอยากมีเรื่องกับเธอจริงๆ เธอนั่งทานข้าวอยู่ แต่จู่ๆก็เดินมาโพล่งขึ้นมา ตอนเช้าหาเรื่องเธอไม่ได้เลยคิดจะหาเรื่องตอนเที่ยงแทนรึไง?
" เธอควรจะทำตามที่เมลโลบอกนะ" พ่ออดีตคู่หมั้นของเธอก็พูดต่อ เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยจริงๆ
" ท่านหญิงครับ ทุกคนถามอยู่ ท่านหญิงก็ควรจะตอบนะครับ" มาร์ตินพูดขึ้นเมื่อเห็นเธอกับเจ้าฝาแฝดยังคงเงียบ คราวนี้คนที่เงียบที่สุดอย่างมาร์ตินก็พูดด้วยเหรอเนี่ย และดูเหมือนตอนนี้จุดที่เธอนั่งอยู่จะเริ่มตกเป็นที่สนใจของผู้คนซะแล้วสิ
" อย่าขัดเวลาคนอื่นกำลังทานอาหารอยู่ มารยาทน่ะ ไม่มีใครสอนเหรอ?" เธอทานข้าวต่อไปอีกนิดก่อนจะยกผ้าขึ้นมาเช็ดปากแล้วเอ่ยขึ้น เธอพึ่งจะทานไปได้แค่ครึ่งจานก็ทานต่อไม่ลงแล้วซิ
" เรื่องที่พวกเรามาทานข้าวด้วยกัน มันก็ไม่น่าเเปลกนะ เพราะพวกเราก็เป็นชนชั้นสูงเหมือนกัน จะไปไหนมาไหนด้วยกันมันก็ไม่แปลกนี่" แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่เริ่มจะหมดอารมณ์จะทานอาหาร เพราะตอนนี้เจ้าพวกฝาแฝดนี่ก็เริ่มจะกลับมาวางตัวแบบปกติแล้ว ซึ่งคนที่พูดก่อนคือซีน่อน
" ชนชั้นสูงเค้ามาด้วยกันมันก็ไม่ผิด ถึงจะเป็นผู้หญิงกับผู้ชายก็ตาม แต่สามัญชนหญิง1คนกับเหล่าชนชั้นสูงที่เป็นผู้ชายหลายคนต่างหากล่ะ ที่มันไม่เหมาะสมน่ะ ว่ามั้ย?" เมื่อเห็นฝาแฝดของตนเริ่มแล้ว ซีเวลก็กล่าวต่อ
ก็จริงอย่างที่ซีน่อนกับซีเวลพูด ตอนนี้คุณนางเอกเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม ส่วนลูกสมุนอย่างโรเช่ เธอไม่เห็น แล้วตอนนี้คนรอบข้างก็เริ่มเข้าข้างพวกเธอแล้ว
" มะ ไม่ใช่นะคะ! มะ เมลโลไม่ได้..." เธอพูดแค่นั้นก่อนดวงตาจะรื้นนํ้าและทำท่าจะร้องไห้ออกมา เห้อ เธอชักจะเบื่อกับละครโศกกับแม่นางเอกเจ้านํ้าตาแล้วนะ ถ้าจะเล่นก็หัดเอาบทใหม่ๆมาบ้างสิ เธอเบื่อ
" นี่ เล่นแต่บทนางเอกเจ้านํ้าตา...ไม่เบื่อบ้างเหรอ? ถึงเธอไม่เบื่อแต่ฉันเบื่อนะ" เธอพูดออกไปด้วยความตรงไปตรงมา
" เธอพูดอะไรน่ะ! อย่ามาพูดแบบนี้กับเมลโลนะ!" ไรเดอร์พูดขึ้นด้วยความโกรธ ดวงตาเต็มไปด้วยความชิงชังเธอ
" หรือว่าไม่จริง? เจอกันทีไร ฉันเห็นแต่นํ้าตา โดนอะไรนิดหน่อยก็ร้องไห้" เธอพูดออกไปอีกครั้งด้วยใบหน้าที่เเสดงออกมาว่าเบื่อหน่ายอย่างชัดเจน แล้วก็เป็นอีกครั้งที่คนรอบข้างเห็นด้วยกับเธอ
" นี่เธอ! " ลูเซียนพูดขึ้น
" พอแล้ว! ลูเซียน นายก็ดูแลเมลโลหน่อย คราวนี้โรซาเรียไม่ผิด เพราะฉะนั้นเมลโลต้องขอโทษเธอ!!" เกรเทลที่มองดูอยู่ตั้งแต่แรกพูดขึ้น เขาลองทำตามที่โรซาเรียบอกแล้วมันก็จริงอย่างที่เธอว่า บางครั้งเธอก็ไม่ได้ผิด แต่เป็นเมลโลที่เข้าไปยุ่งกับเธอเอง
" แกว่าไงนะ! เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ทำไมถึงเข้าข้างยัยนี่!" ลูเซียนพูดจึ้นด้วยความเดือดดาล ในสมองคิดเพียงว่า เพราะเมลโลเลือกเขา ทำให้เปรเทลไม่พอใจจึงเลือกที่จะเข้าข้างโรซาเรีย และทุกอย่างที่เขาคิดมันก็แสดงออกมาในดวงตาของเขาอย่างชัดเจน
ก็แค่ผู้หญิงเจ้ามารยาคนหนึ่ง พวกเขาถึงขั้นต้องแย่งชิงกับเลยงั้นเหรอ? หึ น่าสมเพช จากที่คิดว่าจะไปจากความวุ่นวายตรงนี้ เธอกลับอยสกอยู่ต่ออีกสักหน่อย เผื่อจะได้เห็นอะไรดีๆ ถ้าเกรเทลเป็นอะไรขึ้นมาเธอจะได้ช่วยทัน เพราะเธอตัดสินใจจะช่วยเขาออกจากมารยาของคุณนางเอกอย่างจริงจังแล้วน่ะสิ
" ฉันบอกว่า ให้เมลโลมาขอโทษโรซาเรียซะ!!" เกรเทลพูดขึ้นอีกครั้ง แล้วพวกเขาก็เริ่มทะเลาะกัน ส่วนเธอก็นั่งดูอยู่เฉยๆ แต่เธอกลับเหลือบไปเห็นคน2คนกำลังเดินมาทางนี้...พี่อลัน เธอคงไปได้แล้วล่ะ เพราะอีกไม่นานพี่อลันก็คงจะมาห้ามพวกเขา เธอก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่ออีก
" ท่านหญิง! ช่วยห้ามพวกเขาทีเถอะค่ะ!!"
ตุบ!
ในขณะที่เธอกำลังจะเดินจากไปนั้น คุณนางเอกกลับเข้ามากระชากเเขนเธออย่างแรง ทำให้เธอล้มลงไปกับพื้น แต่ที่เธอล้มลงไปอย่างง่ายดายไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็นเพราะจู่ๆเธอก็ปวดท้องกะทันหันขึ้นมา ให้ตายสิ! วันนี้เธอเป็นประจำเดือนนี่!!
" ว้าย!! / เฮ้ยยย" ราวกับทุกสิ่งถูกกดสวิตช์ให้หยุดลง ความสนใจทุกอย่างรวมอยู่ที่โรส
" โรส! เป็นยังไงบ้าง!" เจ้าพวกฝาเเฝดที่อยู่ใกล้เธอรองจากเเม่นางเอกรีบเข้ามาพยุงเธอทันที โธ่เว้ย! ถ้าพวกเขาฉุดยัยนี่ไม่ให้เข้าถึงตัวโรสทัน เธอก็คงไม่เป็นแบบนี้
" วิลล์! จับยัยสามัญชนนี่ไปขังคุกที่วัง รอรับการลงโทษจากองค์ราชากับท่านดยุควาเรนเซีย! ฐานทำร้ายชนชั้นสูง!" อลันที่เห็นโรสล้มลงไปรีบเข้ามาดูเธอทันที ก่อนจะหันไปสั่งวิลล์ด้วยนํ้าเสียงที่เย็นเฉียบและทรงอำนาจ รอยยิ้มที่เคยมีบนใบหน้าเขาก็หายไป
" ตะ แต่ เมลโลไม่ได้ตั้งไจนะคะ ฮึก ฮึก ฮือๆ" จากเดิมที่ในแววตาของเธอมีความสะใจอยู่กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวแทน แล้วก็เริ่มร้องไห้ออกมา
" อล่าโน่ นายทำเกินไปแล้วนะ! เมลโลเป็นคนของฉัน ฉันขอสั่งในฐานะองค์รัชทายาทให้นายปล่อยตัวเธอเดี๋ยวนี้!!" ลูเซียนพูดขึ้นด้วยความโกรธ ดวงตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงคนรัก เขาไม่เคยเรียกอลาโน่ว่าพี่ตั้งแต่เขาได้รับตำแหน่งรัชทายาท และไม่เคยเคารพอีกฝ่ายด้วย
" นายไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน!" อลันตวาดเสียงดัง ใบหน้ามืดครึ้ม เขาทนมาพอแล้วและจะไม่ทนอีกต่อไป ไม่เคารพกันเขาไม่ว่า ไม่เรียกว่าพี่เขาก็ไม่ว่า จะทำอะไรเขาก็ได้ทั้งนั้นแต่นี่มันมากเกินไป แค่ตอนที่โรสโดนผลักตกบันไดก็เกินทนแล้ว แต่มาตอนนี้...ลูเซียนลํ้าเส้นมามากเกินไป เขาอ่อนข้อมากเกินไปสินะ คงต้องสอนให้รู้ซะบ้าง ว่าอย่ายุ่งกับน้องของเขา!!
" แกกล้า-"
" หุบปาก! เก็บปากไว้กินข้าวเถอะ! กลับวังเมื่อไหร่...ฉันเอาแกตายแน่" ตอนนี้รอบตัวเขามีแต่ความกดดัน ทำให้ลูเซียนกับทุกคนเผลอถอยหลังไป1ก้าว
" เกิดอะไรขึ้น" นํ้าเสียงเย็นชาและราบเรียบดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปมองตามต้นเสียง...ราฟาเอล เขามองไปรอบๆก่อนจะพบกับผู้หญิงที่มาจากโลกเดียวกันกับเขา เมื่อเห็นสภาพของเธอที่นั่งอยู่กับพื้นและมีเจ้า2ฝาแฝดกำลังพยุงอยู่ ที่หัวเข่ากับข้อศอกมีแผลถลอกแผลใหญ่ เขาก็เผลอปล่อยรังสีอันตรายเหมือนตอนยังเป็นนักฆ่าออกมา
" ระ ราฟ" เสียงที่ปกติจะเย็นชาแต่มาตอนนี้ กลับอ่อนลงหลายส่วน ดวงตาที่เคยปิดลงเพราะความเจ็นปวดลืมขึ้นเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย อา...ให้ตายสิ เธอแค่เป็นประจำเดือนกับมีแผลถลอกเองนะ แต่ทำไมมันรู้สึกเหมือนอยู่ที่ขั้วโลกเลยล่ะ มันหนาวๆ ร่างกายหนักอึ้ง แค่จะลืมตายังยากเลย
" ว่าไง?" เขาเดินเข้าไปหาเธอก่อนจะพยุงเธอเอาไว้เอง นํ้าเสียงอ่อนลงเช่นเดียวกับเธอ ตัวเธอเย็นเฉียบเหมือนนํ้าแข็งเลยนี่ เธอเป็นอะไรไป? เขาเผลอขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
" พะ พา ฉัน กะ กลับ" เธอพูดขาดช่วงและปากสั่นน้อยๆจนคนรอบข้างอดสงสารไม่ได้ เขาไม่อยากให้ใครเห็นเธอในสภาพนี้นานจึงรีบอุ้มเธอขึ้นและกำลังจะเดินไปให้ไกลจากตรงนี้อีกนิด เขาไม่อยากกางปีกต่อหน้าคนเยอะๆหรอกนะ
" เดี๋ยวก่อน ราฟาเอล โรสเป็นน้องฉัน ฉันจัดการเองได้" อลันพูดขึ้น เขาไม่รู้ว่าราฟกับโรสรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ก็ไม่แปลก เพราะคนภายนอกมองว่าพวกเขาเป็นเเค่คนที่นั่งเรียนข้างๆกัน
" นายไม่ได้มีสายเลือดเดียวกับเธอ แต่ฉันมี เพราะฉะนั้นปล่อยให้ฉันจัดการ" เขาพูดออกมา อาการเธอดูจะไม่ปกติ เขาคงจะต้องไปถามไอ้พระเจ้านั่น
" แต่เธอกับนายไม่-" อลันยังคงพูดต่อ
" อาการเธอไม่ปกติ คนที่รู้วิธีรักษามีแค่ฉัน ฉันต้องรีบไปก่อนเธอจะอาการหนักไปกว่านี้" เขาพูดขึ้นก่อนอลันจะพูดจบ ตัวเธอเย็นขึ้นอีกแล้ว
" รีบพาเธอไป ดูแลเธอให้ดีด้วย" เขาไม่สนคนรอบข้างหรืออะไรอีกต่อไป รีบกางปีสีดำ2คู่ออกมาก่อนจะรีบพาเธอไปที่หอพัก ที่เขาเลือกจะใช้ปีก2คู่ก็เพราะมันเร็วกว่าการใช้ปีกแค่1คู่ ตอนนี้เธอสำคัญกว่าการมาห่วงว่าคนอื่นจะเห็นเขามีปีกถึง2คู่ซึ่งหาได้ยาก
ระหว่างทางเขาก้มดูคนในอ้อมแขนเป็นพักๆ ตัวเธอเย็นจัดขึ้นทุกทีๆจนอากาศที่เธอหายใจออกมากลายเป็นไอเห็นได้ชักเจน ชุดของเธอเริ่มมีเกล็ดนํ้าแข็งติด แถมบางส่วนก็ยังติดมาที่เสื้อของเขาด้วย
เขารีบพาเธอไปนอนบนเตียงในห้องของเขาทันที จะให้เขาเข้าห้องของเธอโดยไม่ได้รับอนุญาติเหรอ? ชาตินี้ทั้งชาติเขาก็ทำไม่ได้ เขาเรียกหาไอ้พระเจ้านั่นทันที
" ไอ้พระเจ้าเฮงซวย ออกมาเดี๋ยวนี้"
" มาแล้วๆ มีอะไร?" ผู้ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา
" เธอเป็นอะไร?" เขารีบถามทันที
" อืม...โรซาเรียคนก่อนน่ะ ไม่มีพลังใช่มั้ย? ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะเธอได้รับพิษตั้งแต่ยังไม่คลอด พิษนั้นจะไปปิดกั้นจุดกำเนิดพลัง พอเธอมาเข้าร่างนี้พิษก็ยังไม่ได้ถูกกำจัดออกไป ถึงตอนนี้เธอจะมีพลังแล้วแต่พิษชนิดนี้ก็ยังมีผล คือพิษตัวนี้มันจะไปสู้กับพลังในตัวเธอ
โรซาเรียคนก่อนไม่มีอาการแบบนี้เพราะสำหรับคนที่ไม่มีพลัง มันจะแค่ปิดกั้นพลังไว้เฉยๆ แต่สำหรับคนที่มีพลังมันจะสร้างความเจ็บปวดมากๆ และจะแสดงอาการออกมาเป็นช่วงๆ ช่วงที่เสดงอาการออกมาคือตอนที่พลังกับพิษมันต้านกันมากๆ" เขาร่ายยาว
" รักษายังไง? "
" ต้องรักษาตามอาการ ส่วนใหญ่อาการจะแบ่งเป็น2ทางก็ต้องดูจาก อุณหภูมิร่างกาย ถ้าตัวเย็นก็ต้องทำให้ตัวอุ่นๆเข้าไว้ รอจนร่างกายกลับมามีอุณหภูมิปกติก็หายแล้ว"
" เธอจะมีอาการแบบนี้อีกมั้ย?" ฟังจากวิธีรักษาหมอนี่บอก ดูเหมือนจะเป็นแค่วิธีรักษาชั่วคราว ไม่ใช่วิธีที่จะทำให้หายขาด เพราะฉะนั้นก็มีสิทธิ์ที่เธอจะเป็นแบบนี้อีก
" แน่นอน เดี๋ยวฉันจะเอายามาให้อีกที" พูดจบก็หายไปทันที ถ้าขืนอยู่ต่อเขาคงเจอคำถามที่ไม่อยากเจออย่าง ทำไมไม่บอกว่าเธอถูกพิษตั้งแต่แรก? เขาไม่กล้าตอบแน่ว่าเขาลืมน่ะ
เมื่อพระเจ้าจากไป เขาก็ทำแผลที่หัวเข่ากับข้อศอกของเธอ ก่อนจะเริ่มใช้เวทย์ไฟล้อมรอบตัวเธอเอาไว้บางๆและนั่งอยู่บนเตียงด้านข้างเธอ เขาจะสร้างเงาจากเวทย์สร้างตัวแทนมาดูแลเธอ แล้วไปทำอย่างอื่นก็ได้แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม?
ผ่านไปเกือบ1ชั่วโมง ตัวเธอก็เริ่มกลับมาเป็นปกติ ไม่หายใจออกมาเป็นไอ ไม่มีเกล็ดนํ้าแข็งติดตามตัวแล้ว แต่เธอยังคงหลับอยู่ เขาก็วางใจได้ไปอีกหน่อย เขากับเธอไม่ได้ไปเรียนช่วงบ่าย คงต้องทำใบลาแล้วล่ะมั้ง?
เมื่อคิดได้เขาก็เดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือก่อนจะเขียนใบลาขึ้นมา2ใบ ของเขากับของเธอจากนั้นเขาก็นั่งฟังเพลงพร้อมวาดรูปไปเรื่อย พอมองนาฬิกาอีกทีก็บ่าย2เกือบจะบ่าย3แล้ว เธอยังไม่ตื่นเลย เขาจึงลุกจากโต๊ะแล้วเข้าไปในมิติแทน
ตอนเที่ยงเขายังไม่ได้ทานข้าว หลังจากเรียนคาบ3เสร็จเขาก็ต้องไปหาผอ. พอไปที่โรงอาหารจะไปทานข้าวก็เจอเรื่องวุ่นวายอีก เขาไม่อยากไปที่โรงอาหารเพราะถ้ายัยนี่ตื่นมาแล้วไม่เจอเขาหรือมีเรื่องอะไร เขาจะมาดูแลไม่ได้ ก็เลยต้องทำอะไรกินเองในมิติ
ถามว่าทำเป็นไหม? เขาทำเป็น แต่ที่ปกติจะไปกินที่โรงอาหารก็เพราะ เขาไม่อยากทำเองให้มันวุ่นวายและเสียเวลา เขาไม่ใช่คนเลือกกินเพราะฉะนั้นแค่ข้าวผัดจานเดียวก็พอ เขาทำเสร็จก็เอาออกมาทานนอกมิติ แต่ร่างบางบนเตียงของเขากลับฟื้นแล้ว
" นะ นํ้า" เขารีบวางจานข้าวลงบนโต๊ะก่อนจะรินนํ้าใส่แก้วแล้วส่งให้เธอ
" เป็นไงบ้าง?" นํ้าเสียงของเขาแฝงความอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว
" ดีขึ้น ที่ไหน?" เธอตอบเขาก่อนจะถาม
" ห้องฉันเอง" เขาคิดว่าเธอคงจะไม่พอใจ แต่ที่ไหนได้ เธอกลับไม่แสดงท่าทีอะไร แถมยังมองสำรวจห้องเขาซะทั่ว ก็ผู้หญิงบ้าที่ไหนจะอยากเข้าห้องผู้ชายให้เสื่อมเสียล่ะ? ทั้งโลกก่อนแล้วก็โลกนี้ด้วย ซึ่งดูเหมือนผู้หญิงตรงหน้าเขาจะไม่เหมือนกับผู้หญิงพวกนั้นนะ
" ราฟ "เธอเรียกเขา เขาก็เลิกคิ้วเล็กน้อยเป็นเชิงถาม
" นายทำอาหารเป็นมั้ย?" เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำไมเธอถึงถามแบบนี้
" เป็น ทำไม?"
" หิว "เธอพูดแค่นั้น ถ้าเป็นคนอื่นเธอคงจะไม่ใช้ แต่เขาไม่เหมือนกับคนอื่น เขาคือคนที่เธอแสดงอารมณ์ด้วยมากที่สุด อีกอย่างคือตอนนี้เธอแทบจะไม่มีแรงเหลืออยู่เลย ทำเองคงไม่ไหว ไม่ต้องพูดถึงการเดินไปโรงอาหารเลย เธอได้เป็นลมก่อนไปถึงแน่ แถมตอนเที่ยงเธอก็ทานข้าวไปนิดเดียวเองด้วย
" อ่อ...สรุปคือจะใช้ฉัน?" เขาลากเสียงยาวพร้อมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง แล้วเธอก็พยักหน้า
" ถ้าเธอไม่ได้ป่วยอยู่ ฉันคงได้ฆ่าเธอแน่ แล้วจะกินอะไร?" เขาพูดขู่เธอแต่สุดท้ายก็ยอมทำอาหารให้เธอทาน
" ข้าวผัด" เธอไม่อยากกินอะไรที่มันกลืนยาก
" แค่นี้? รอหน่อย" เขาเดินเข้าไปในมิติอีกครั้งก่อนจะออกมาพร้อมข้าวผัด1จาน ก่อนจะนำโต๊ะเตี้ยออกมากางที่พื้นพร้อมนำข้าวผัดทั้ง2จานกับนํ้ามาตั้งไว้ที่โต๊ะ แล้วพาเธอลงจากเตียงมาทานข้าว
" พระเจ้านั่นบอกว่าเธอโดนพิษ เป็นพิษที่โรซาเรียคนก่อนได้รับตั้งแต่ยังไม่เกิด มันจะไปปิดกั้นจุดกำเนิดพลังทำให้คนรับพิษไม่มีพลัง แต่ตอนนี้เธอมีพลังแล้ว พิษกับพลังในตัวเธอมันเลยต้านกันเอง" เขาพูดขึ้นหลังจากทานอาหารเสร็จ แต่มีอีกอย่างที่เขาสงสัย? เธอได้รับพรให้มีเลือดเป็นยาพิษกับยาถอนพิษ
ถ้างั้นทำไมเธอถึงได้มีอาการเวลาโดนพิษล่ะ? ทั้งๆที่ตัวเธอก็เป็นพิษอยู่แล้ว
" มีใครเห็นอาการของฉันมั้ย?" เธอจำได้ถึงแค่ตอนที่เขาอุ้มเธอขึ้นมาเฉยๆ จากนั้นเธอก็สลบไป ถ้ามีใครเห็นสภาพของเธอตอนนั้นคงแย่แน่ๆ
" ตอนอยู่ที่โรงอาหารอาการเธอยังแสดงไม่ชัดเจน มีแค่ตัวเย็นขึ้น" แล้วตอนที่เขาพยุงเธอแทนเจ้า2ฝาแฝดนั่น เขาก็ใช้ตัวเองบังเธอจากสายตาคนรอบข้าง ทำให้คนที่เห็นอาการเธอมีแค่เขา ส่วนเจ้า2ฝาแฝดนั่นที่ได้สัมผัสตัวเธอ เขาเห็นพวกนั้นตกใจมาก คงไม่ได้สังเกตุว่าตัวเธอเย็นขึ้น
" หลังจากนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?" ถึงเธอจะยังไม่สลบไปหลังจากที่ล้มลง แต่ประสาทการรับรู้ของเธอก็แย่มาก เธอรู้สึกว่าจะได้ยินเสียงพี่อลันตวาดใครสักคน
" แม่นางเอกเจ้านํ้าตาโดนอลาโน่สั่งให้จับตัวไปขังไว้ที่วัง รอรับโทษจากองค์ราชากับดยุควาเรนเซีย แล้วดูเหมือนอลาโน่จะโกรธมากนะ เพราะเขาถึงขั้นตวาดลูเซียนตอนหมอนั่นบอกให้ปล่อยตัวแม่นางเอกน่ะ แถมยังพูดว่ากลับวังไปเมื่อไหร่จะเอาลูเซียนถึงตาย"
เขาพูดราวกับกำลังเล่าเรื่องลมฟ้าอากาศ ทั้งๆที่เหตุการณ์นี้อาจทำให้มีการแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่ และนั่นทำให้เธอรู้ว่าเขาช่างโหดเหี้ยมนัก แต่ก็เพราะอย่างนี้ล่ะนะ ที่ทำให้เขาดูมีสเน่ห์น่ะ
" หืม? นางเอก?" เธอพูดนํ้าเสียงแปลกใจ เขาเรียกเมลโลว่าแม่นางเอกนี่ หรือว่า...
" อย่าบอกนะ ว่าเธอไม่ได้เล่นเกมจีบหนุ่มเกมนี้น่ะ" ว่าแล้ว! เขารู้จริงๆด้วยว่านี่คือเกมจีบหนุ่มน่ะ!
" ฉันไม่ได้เล่น แต่เพื่อนฉันเคยเล่าให้ฟัง แต่นายรู้ได้ไงว่านี่เป็นเกมจีบหนุ่ม?" อย่าบอกนะ ว่าเขาเล่นเกมจีบหนุ่มทั้งๆที่ตัวเองเป็นผู้ชายน่ะ?
" หยุดคิดแบบนั้น ฉันก็เคยได้ยินมาจากคนอื่น เลยพอรู้ข้อมูลของเกมนี้อยู่บ้าง" มองจากท่าทางของเธอ เขาก็รู้แล้วว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาเป็นผู้ชายเต็มร้อยแน่นอน ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด
" เปล๊า ฉันไม่ได้คิดอะไร แต่ดูเหมือนตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างจะไม่ค่อยตรงกับเกมแล้วสิ" อันที่จริงมันก็เปลี่ยนมานานแล้วแหละ
แล้วเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย เกมจีบหนุ่มนี้นับว่าดังมาก เขาก็ได้ยินมาบ่อยๆ เเต่ใครจะไปคิดล่ะว่าสักวันจะต้องมาเป็นหนึ่งในตัวละครแบบนี้ เท่าที่เขารู้มา ราฟกับเขามีบุคลิกที่คล้ายกัน ตอนเข้ามาอยู่ร่างนี้ก็เลยไม่มีใครสงสัยอะไร ไม่เหมือนกับคนตรงหน้าเขาหรอก ราฟกำลังอยากตายพอดีพระเจ้านั่นเลยให้เขามาอยู่ในร่างนี้ แล้วให้ราฟคนเดิมไปอยู่กับพระเจ้าแทน
จริงอยู่ที่ 'ศึกนี้หัวใจคือเดิมพัน' มันคือเกม แต่ใครจะไปคิดล่ะ? ว่าสิ่งที่ทุกคนในโลกเดิมของเขาคิดว่าเป็นแค่เกม มันกลับมีอยู่จริงในฐานะของ 'มิติคู่ขนาน' เขาก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ตอนนี้ได้มาเจอกับตัวแล้ว ก็มีแค่ยอมรับเท่านั้น
" นายทำอาหารอร่อยเหมือนกันนะ" เขาทำอร่อยจริงๆนั่นแหละ อร่อยกว่าเธอทำเองอีกมั้ง ถึงเธอจะทำอาหารอร่อยสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเธอแล้วมันก็ปกติ ก็ไม่แปลกที่พอเขาทำอาหารให้เธอกินเธอเลยคิดว่าเขาทำอร่อยกว่าที่เธอทำกินเอง
" งั้นเหรอ? ฉันคิดว่ามันก็ธรรมดาๆนะ" ก็ไม่ได้พิเศษอะไร เขาว่าเธอคนนั้นยังทำอร่อยกว่าเขาอีกละมั้ง? น่าเสียดาย เขาคงไม่มีวันได้ทานอาหารที่เธอทำอีกแล้ว
" นายเปิดร้านอาหารรึเปล่า" แต่เขากลับส่ายหน้า
" อันที่จริง มีแค่ไม่กี่คนที่ฉันจะทำอาหารให้ทาน" เพราะงานเขามีเยอะ แค่เพื่อนยังไม่มีเลยด้วยซํ้า คนที่เขาเคยทำอาหารให้ก็มีแค่คนที่คล้ายเพื่อนแต่ไม่ใช่...เธอคนนั้น แค่คนเดียว
" เธอกับฉันไม่ได้ไปเรียนคาบบ่าย ต้องทำใบลา ฉันทำไว้แล้วเหลือแค่ให้เธอลงชื่อ" เขาเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือก่อนจะหยิบกระดาษใบหนึ่งมายื่นให้เธอพร้อมปากกา เขาช่าง...เตรียมพร้อม เธอเขียนชื่อลงไปก่อนจะส่งคืนเขา
" เดี๋ยวฉันมา" เขาตอบก่อนจะเข้าไปในมิติ เธอเลยเดินสำรวจห้องเขาไปเรื่อย แรงเธอเริ่มกลับมาแล้ว ห้องของเขาเป็นสีขาว ของใช้เป็นสีขาวกับดำ เขามีรสนิยมคล้ายกับเธอ และสายตาของเธอก็ไปสะดุดกับกระดาษใบหนึ่งที่มีกล่องเล็กๆใบหนึ่งทับอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือของเขา
ใบขออนุญาติเข้าเขตหวงห้ามห้องสมุด? เธอเคยไปที่ห้องสมุดของอควาเรสเพื่ออ่านหนังสืออยู่บ้าง ที่นั่นมีเขตหวงห้ามอยู่ ต้องทำใบอนุญาตก่อนเข้าไป เธอก็สนใจอยู่ไม่น้อย แต่มันมีเรื่องเยอะเกินไปเธอเลยจำไม่ได้ ว่าเเต่ราฟจะเข้าไปที่นั่นทำไม?
" ทำอะไร?" เธอกำลังนั่งคิดอะไรอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ จู่ๆเจ้าของห้องก็เดินเข้ามาถามเธอ ถ้าถามแบบปกติมันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่นี่...เขาดันก้มหน้าลงมาแล้วพอเธอหันหน้าไปหาเขา มันทำให้จมูกของเธอเฉียดผ่านแก้มของเขาน่ะสิ เธอหน้าแดงเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นปกติ
" นายจะเข้าเขตหวงห้ามของห้องสมุดเหรอ?" เธอไม่ตอบคำถาทของเขาและเป็นฝ่ายถามเสียเอง ถึงไม่บอก เขาก็รู้ว่าเธอพยายามเปลี่ยนเรื่อง
" อยากลองเข้าไปดูเฉยๆน่ะ" เขากลับมายืนตัวตรงเหมือนเดิมแล้วตอบเธอ ถึงเธอจะปรับตัวเร็วแค่ไหนเเต่เขาก็เห็นว่าเธอหน้าแดงนะ มีมุมน่ารักเหมือนกันนี่ ส่วนเรื่องห้องสมุดเขาก็แค่อยากหามุมเงียบๆแค่นั้นแหละ
" จะไปด้วยมั้ยล่ะ?" เขาถามเธอ
" คงต้องทำใบขออนุญาตก่อน ฉันยังไม่ได้ทำเลยนี่"
" มากับฉันก็ได้ ราฟคนเดิมชอบเข้าเขตหวงห้ามอยู่แล้ว วันนี้ฉันเพิ่งได้บัตรVIPมา จะเข้าเขตหวงห้ามตอนไหนก็ได้ ไม่ต้องทำใบอนุญาตแล้ว ผอ.เขาให้มา2ใบ เธอเอาไปใบนึงสิ" เขาพูดพร้อมหยิบบัตรสีเขียวอ่อนออกมาจากกางเกงแล้วยื่นให้เธอ
ตอนเที่ยงที่เขาไปพบผอ.มาก็เพื่อรับบัตรใบนี้นี่แหละ
" ขอบคุณ" เธอพูดก่อนจะรับบัตรนั้นมา
" เธอรู้ใช่มั้ย ว่าอีกไม่นานจะมีข่าวน่ะ" เขาเดินไปนั่งที่ปลายเตียงแล้วพูดขึ้นด้วยนํ้าเสียงจริงจัง
" อืม" เธอตอบรับเขา วันนี้เธอกับเขาทำตัวสนิทสนมเกินกว่าคนทั่วไป อีกไม่นานคงมีข่าวลือเสียหายตามมาแน่ แต่แน่นอนว่าเธอมีทางแก้อยู่แล้ว เขาบอกว่าคุณนางเอกโดนจับไป เพราะฉะนั้นข่าวลือคงไม่มากนัก เพราะไม่มีคนคอยกระจายข่าว ที่เหลือก็แค่รอเวลาและหาโอกาส
" ในโลกนี้ ยังไงนายกับฉันก็มีสายเลือดเดียวกัน เพราะฉะนั้นการแก้ข่าวคงไม่ยากเท่าไหร่" เธอพูดออกไปด้วยท่าทางที่สบายๆ
" เธอมันน่าสนใจจริงๆนั่นเเหละ...โรส" หืม?
" หึ ครั้งแรกเลยนะ ที่นายเรียกชื่อฉันน่ะ"
" ไม่คิดว่าเธอจะสังเกตุด้วย ตอนนี้เจ้าพวกนั้นคงกลับมาแล้วล่ะมั้ง?" นี่ก็3โมงกว่าๆแล้ว พวกนักเรียนคงจะเริ่มกลับหอพักกันแล้ว
" ฉันกลับห้องแล้วนะ" เธอพูดด้วยนํ้าเสียงที่ราบเรียบ เธอกับเขาแสดงออกไปแล้วว่าสนิทกัน แต่ยังไงก็คงต้องเว้นระยะห่างอีกนิด
" ไม่มีปัญหา แต่เธอน่ะ...เดินไหวมั้ย?" ยังเห็นไม่ค่อยจะมีแรงอยู่เลยนี่ พอเขาถามมาแบบนั้นเธอก็ได้แต่ถอนหายใจ พร้อมส่ายหัว เเรงเธอเริ่มกลับมาแล้วก็จริง แต่มันยังกลับมาไม่ถึงครึ่งเลยล่ะมั้ง
" กินซะ" เขาเดินไปหาเธอพร้อมวางขวดเล็กๆที่ภายในบรรจุของเหลวสีชมพูอ่อนเอาไว้ ที่เขาเข้าไปในมิติเมื่อกี้ก็เพราะไปเรียกไอ้พระเจ้าให้เอายามาให้
" กลิ่นเหมือนนายเลย" พอเธอเปิดขวดออกก็ได้กลิ่นหอมเย็นจมูก มันเป็นกลิ่นมิ้นท์และตัวของราฟก็มีกลิ่นแบบนี้ติดอยู่ เธอชอบกลิ่นแบบนี้ มันช่วยให้ผ่อนคลายดี พอรวมกับกลิ่นกุหลาบจากตัวเธอก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกสบายไปอีก
" งั้นเหรอ? นั่นสิ มีอีกอย่างที่พระเจ้านั่นให้ฉัน คือให้ฉันมีกลิ่นมิ้นท์น่ะ ของเธอเป็นกลิ่นกุหลาบสินะ" กลิ่นมิ้นท์ของเขากับกลิ่นกุหลาบของเธอมันคุ้นเคยจริงๆ เหมือนกับเคยได้กลิ่นแบบนี้มาก่อน
เธอดื่มไปจนหมดขวดก็วางมันลง รอสักพักร่างกายเธอก็เริ่มกลับมาเป็นปกติ ยาดีจริงๆ
" ดีขึ้นแล้ว ไปล่ะ" เธอพูดก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องเขา แล้วเดินกลับห้องตัวเองแต่...
" โรส! เป็นไงบ้าง?!" เธอเดินออกจากห้องเขาไม่นานก็เจอเจ้าฝาแฝดสีฟ้าที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง พวกนั้นรีบเดินมาถามเธอก่อนจะหมุนตัวเธอเป็นวงกลม คล้ายสำรวจ
" พอ! ฉันสบายดี! หน้ามืดนิดหน่อย" ถ้าเจ้าพวกนี้หมุนตัวเธออีกนิด เธอได้อ้วกออกมาแน่
" แน่ใจนะ!" พวกเขายังคงถามต่อ ตอนนั้นพวกเขาเป็นห่วงแทบแย่ คาบบ่ายก็เรียนไม่รู้เรื่อง
" ก็บอกว่าสบายดี ปล่อยเธอไปพักเถอะ" ราฟพูดขึ้น เขาจะเดินมาปิดประตูแต่เจ้าพวกนี้ก็ดันมาทะเลาะกันอยู่หน้าห้องเขาพอดี
" จะ เจ้าชาย" เจ้าพวกฝาแฝดดูจะตกใจไปเล็กน้อย จนเธออดจะยิ้มนิดๆไม่ได้ สำหรับเธอเจ้าพวกนี้ก็คงจะเป็นเหมือนกับน้องชายล่ะมั้ง?
" เรียกฉันว่า ราฟ ก็พอ" โรสเคยเล่าให้เขาฟังว่าสอนเจ้า2คนนี้เล่นกีต้าร์อยู่ ดูแล้วคงไม่ใช่คนไม่ดีอะไร แถมเมื่อตอนเที่ยงก็ดูจะเป็นห่วงลูกพี่ลูกน้องของเขาด้วย
" ขะ ขอบพระทัย" อุ๊บ! เธออดจะกลั้นขำแล้วหันหน้าไปทางอื่นไม่ได้
ก็ใครมันจะไปคิดล่ะ ว่าเจ้าพวกฝาแฝดที่ต่อหน้าคนอื่นจะเย็นชา พออยู่กับเธอก็ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต อ้อนเธอได้แทบตลอดถ้าไม่ได้อยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่พอเจอคนเย็นชาอย่างญาติผู้พี่ของเธอจะทำตัวเกร็งๆ แต่ดูเหมือนเธอจะแสดงอาการชัดเจนไปหน่อย ทำให้เจ้าพวกฝาแฝดนั่นหันมามองเธอขาเขียว
" ไม่ต้องใช้ราชาศัพท์ด้วย" เขาพูดขึ้นอีกครั้ง
" อยู่กับหมอนี่ไม่ต้องเกร็งก็ได้ ทำเหมือนตอนที่อยู่กับฉันนั่นแหละ" เธอพูดเสริม เห็นเขาเย็นชาอย่างนี้แต่เขาก็ไม่ได้แข็งกระด้างหรือโหดร้ายอะไร
" จริงสิ ตอนนี้วุ่นวายมากเลยนะ เจ้าชายอลาโน่กับวิลล์กลับวังไปตั้งแต่เที่ยงน่ะ" ซีน่อนพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้
" รู้สึกว่าจะไปหาองค์ราชากับดยุควาเรนเซีย เพื่อให้ตัดสินโทษเมลโลน่ะ" ซีเวลพูดต่อ วันนี้เจ้าชายอลาโน่ดูโกรธมากจนเขากับซีน่อนยังอดกลัวแทนเมลโลไม่ได้
" เธอเองก็ควรจะรีบไปที่วังนะ ฉันก็กำลังจะไป" บุคคลมาใหม่พูดขึ้น...เกรเทล จะว่าไปฮานส์ เกรเทล แล้วก็ฝาแฝดนี่ ห้องพักอยู่ชั้นเดียวกับเธอแต่อยู่กันคนละฝั่งนี่นะ
" จะไปห้ามรึไง?" เธอถามด้วยนํ้าเสียงเย็นชา
" ฉันเป็นเจ้าชายต่างเมือง ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งกับเรื่องภายในอาณาจักเฟอร์เดียหรอกนะ" เขาพูดเป็นนัยอย่างชัดเจน ว่าจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ หึ! นับว่าที่เธอช่วยชี้ทางเขาก็ไม่เสียเปล่า
" ไปดูสักหน่อยก็ดี" เธอพูดขึ้น
" พวกเราไปด้วย"
"ถึงยังไงพวกเราก็เป็นลูกดยุคเหมือนเธอ จะไปทวงสิทธิ์ก็ไม่เสียหาย" เจ้าฝาแฝดพวกนี้นี่มัน...
" ไปกันให้หมดนี่ล่ะ" เกรเทลพูดขึ้น แต่ราฟกลับส่ายหัวและเธอก็เข้าใจทันที เขาไม่ชอบเรื่องวุ่นวายและเขาก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง เพราะฉะนั้นเขาไม่จำเป็นต้องไป
หลังจากนั้นเธอกับเจ้าฝาแฝดสีฟ้าและเกรเทลก็นั่งรถม้าไปที่พระราชวัง ระหว่างทางเจ้าฝาแฝดเห็นแผลถลอกที่ข้อศอกกับหัวเข่าเธอ ก็ตกใจแล้วทำตัวกระโตกกระตากกัน โดยไม่สนเลยว่าจะมีคนอยู่ภายในรถม้าอย่างเกรเทลอีกคนหนึ่ง
พระราชวัง
เมื่อเธอมาถึงพระราชวัง เมดและพ่อบ้านก็นำทางเธอไปที่ห้องโถงใหญ่ พอไปถึงเธอก็พบกับคนมากมาย ทั้งองค์ราชา องค์ราชินี ท่านพ่อ พี่ชายทั้ง2ของเธอ พี่อลัน วิลล์ เหล่าฮาเร็มของคุณนางเอก และที่ขาดไม่ได้ คุณนางเอก
" โรส!! "
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
แต่ก็นั้นล่ะ นิยาย
ถึงยังไงก็อ่านต่อไปอยู่ดี
(^^)
ค้างจ้าค้าง
รอต่อไป