" โรซาเรีย! ออกมาแก้โจทย์ข้อนี้สิ" อาจารย์ที่กำลังสอนอยู่พูดขึ้น เธอก็แค่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเองนะ มันแสดงออกว่าเบื่อมากงั้นเหรอ เห้อ
ถึงจะคิดอยู่ในใจแต่เธอก็ยังคงลุกไปทำโจทย์ที่อยู่บนกระดาน ทุกคนต่างมองเธออย่างสมเพชคิดว่าเธอคงทำไม่ได้ เพราะเรื่องนี้พึ่งจะเริ่มรียนวันนี้วันแรกและโจทย์ก็ยาก เห้อ มันก็แค่การแก้สมการจะยากอะไรล่ะ? เธอจบปริญญาแล้วนะอย่าลืมสิ
พอเธอทำเสร็จก็ส่งปากกาคืนให้อาจารย์ก่อนจะพูดขึ้น " วันหลังขอยากกว่านี้นะคะ" นํ้าเสียงนั้นฟังดูอย่างไรก็มีแต่ความเบื่อหน่าย และถ้าหันไปดูวิธีที่เธอใช้แก้โจทย์ก็เป็นวิธีแบบละเอียด ต่างจากที่พึ่งเรียนไปซึ่งเป็นแบบย่อๆ หลังจากนั้นเธอก็กลับมานั่งเหม่ออีกครั้ง
" เบื่อเหรอ" ชายผู้มีประสาทตายด้านข้างเธอพูดขึ้นให้พอได้ยินกันสองคน นํ้าเสียงที่ติดตลกนั้นช่างขัดกับใบหน้าที่ราบเรียบและนิสัยที่เย็นชาเสียจริง
" มาก" เธอหันกลับมาตอบอีกฝ่าย เธอชอบเรื่องสนุกและเกลียดความน่าเบื่อ
" โดดคาบเรียนมั้ย? " นํ้าเสียงคราวนี้นอกจากจะเย็นชาแล้วยังแฝงความขี้เล่นไว้หลายส่วน ใครบอกว่าเขาไม่เบื่อล่ะ? แต่ต่อให้เขาเบื่อแค่ไหน เขาก็ไม่เคยแสดงอาการเท่ายัยนี่เลย
" เด็กเรียนอย่างนายเนี่ยนะโดดเรียน?" คำพูดของเขาสร้างความตกใจให้เธออย่างมาก คนที่ดูเย็นชา และสอบได้ที่2 แถมยังเป็นเป็นเจ้าชายแดนปีศาจ คนอย่างนี้เนี่ยนะจะโดดเรียน ไม่มีทาง!!
" ใครบอกว่าฉันเป็นเด็กเรียน" แต่ดูจากใบหน้าและนํ้าเสียงที่เขาแสดงออกมา มันบอกอย่างชัดเจนว่าเขาพูดจริง....โดดเรียน คำนี้ก็ฟังดูไม่เลว ชาติก่อนเธอตั้งใจเรียนไม่เคยออกนอกลู่นอกทางมาก่อน ชาตินี้ทำบ้างสักหน่อยคงไม่เป็นไร
" เอาสิ โดดเรียนกัน" เธอตอบเขาไป แถมคราวนี้เธอยังแฝงความขี้เล่นเหมือนอีกฝ่ายด้วย
" เด็กดี" เขาตอบเธอ คำว่า เด็กดี น่ะมันช่างไม่เหมาะกับตัวเธอและเขาในตอนนี้เลยสักนิด
หลังจากนั้นเขาก็ให้เธอลงมาที่ต้นไม้ที่อยู่ด้านข้างหน้าต่างที่อยู่ติดกับโต๊ะของเธอ เขาถามเธอว่าลงไปไหวมั้ย แต่สำหรับอดีตนักฆ่าอย่างเธอน่ะ สบายๆอยู่แล้วเธอเลยกระโดดลงไปในจังหวะที่อาจารย์ยุ่งกับการสอน ส่วนคนอื่นๆก็มองอยู่ที่กระดาน หลังจากนั้นเขาก็ประโดดไปที่กิ่งไม้ที่เธอกระโดดลงมาก่อนแล้ว
" ทำอะไร?" เธอถามเขาหลังจากที่เขามองไปที่โต๊ะซึ่งเป็นที่นั่งของพวกเธอ และร่ายเวทย์บางอย่าง
" สร้างตัวแทน" เขาตอบและชี้ให้เธอดูที่โต๊ะ ซึ่งมีเขากับเธอนั่งเรียนอยู่ เวทย์สร้างเงา เวทย์ที่จะสร้างอะไรขึ้นมาก็ได้ชั่วคราว การคงอยู่ของมันจะขึ้นอยู่กับพลังผู้ใช้ถ้าพลังมากก็อยู่ได้นาน สร้างได้ทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตถ้าสร้างสิ่งมีชีวิตก็ยิ่งยากและพอหยุดใช้เวทย์ก็คงต้องเหนื่อยเพราะใช้พลังเวทย์ไปมาก
แต่เขาดูไม่รู้สึกอะไรเลยกับการสร้างเงาขึ้นมาถึง2เงา เขาดูชินชากับการร่ายเวทย์แบบนี้ และดูไม่รู้สึกอะไรกับการโดดเรียน ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่า...
" นายโดดเรียนบ่อยเหรอ" ปากเธอไวพอๆกับความคิด
" ครั้งนี้ครั้งแรก ไปเถอะ" เขาตอบก่อนจะพาเธอกระโดดลงไปที่พื้น จริงๆเขาก็ไม่คิดว่าวันนึงจะต้องมาทำอะไรแบบนี้หรอก
" ไปไหนดี" พอลงมาจากต้นไม้เเล้วเธอก็ถามเขาอีกครั้ง
" ดาดฟ้า" ดาดฟ้าที่เธอเคยเล่นกีต้าร์แล้วเจอกับเจ้าฝาแฝดสีฟ้านั่นน่ะเหรอ ก็ไม่เลว เธอจึงพยักหน้าตอบอีกฝ่ายก่อนจะขึ้นไปที่ดาดฟ้าพร้อมกับเขา
" ทำอะไรดีล่ะ" พอขึ้นมาเธอกับเขาก็มานั่งหลบมุมกันหลังบันไดทางขึ้นดาดฟ้า
" บินเล่นกัน" ห้ะ!
" บินเนี่ยนะ"
" ปีศาจมีปีก" เขาตอบกลับมา เขามีปีกแต่ใช่ว่าเธอจะไม่มี แต่ปีกเธอน่ะ....เป็นสีขาว1ข้างสีดำ1ข้าง ถ้าขืนกางปีกออกมาเขาคงรู้แน่ว่าเธอเป็นเทพปีศาจ แถมปีกเธอยังเป็นแบบ3คู่ที่หนังสือบอกว่าเป็นตำนานอีกต่างหาก ทำให้เธอแสดงอาการลังเลออกมา
" กางปีกออกมาสิฉันจะทำให้ปีกเธอเหลือเเค่1คู่และเป็นสีเดียว " เขาบอกเธอ เดี๋ยวนะ!! เขารู้ว่าเธอเป็นเทพปีศาจ และรู้ว่าเธอมีปีกหลายคู่
" นายรู้? "
" เทพปีศาจด้วยกันก็ต้องมองออก" เขาตอบออกมา เขาเป็นเทพปีศาจดังนั้นไม่ใช่เเค่เธอคนเดียวที่รู้ว่าเขาเป็น แต่เขาก็รู้ว่าเธอเป็นเหมือนกับเขา แม่ของเขาหรือราชินีองค์ก่อนเป็นเจ้าหญิงจากแดนเทพส่วนพ่อของเขาคือราชาแดนปีศาจ
" แต่นายรู้ได้ไง ว่าฉันมีปีกหลายคู่" เรื่องที่เธอเป็นเทพปีศาจเหมือนเขาน่ะ เธอไม่แปลกใจ แต่เรื่องที่เธอมีปีกหลายคู่ล่ะ
" ฉันมองเห็น ช่างเถอะ อยากลองบินมั้ยล่ะ? " เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ยอมบอกความลับของตัวเองให้ยัยนี่ฟัง
" เอาสิ ก็ฉันยังไม่เคยบินเลยนี่" จากนั้นเธอก็กางปีกออกอย่างที่เขาบอกตอนแรก
" ปีกเทพหรือปีศาจดีล่ะ?"
" ปีศาจ" ปีกปีศาจนั่นเเหละเหมาะกับเธอที่สุด
หลังจากนั้นเขาก็ร่ายเวทย์จนปีกเธอกลายเป็นสีดำ และเขาก็ร่ายเวทย์อีกครั้งเพื่อทำให้เธอเหลือปีกเพียงเเค่คู่เดียว
" ไว้วันหลังฉันจะสอนเวทย์บทนี้ให้ เธอจะได้เปลี่ยนปีกเองได้ "
" ขอบคุณ " แล้วจู่ๆเขาก็กางปีกออกมา ปีกที่เขากางออกมาเป็นแบบเทพปีศาจและเป็น3คู่ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมีปีก3คู่ในตำนานเหมือนเธอด้วย ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะมีเรื่องพิสดารแค่ไหน เธอก็ไม่แปลกใจอีกแล้วเพราะเธอรู้แล้วว่าเขานั้นช่าง.....มีความลับมากมายเสียจริง
" ใส่นี่ซะ" เขายื่นกำไลอันหนึ่งมาให้เธอ หืม? มันคือกำไลล่องหนนี่ คนที่ใส่จะล่องหนคนอื่นๆจะมองไม่เห็น คนที่มองเห็นจะมีแค่คนที่เราอยากให้เห็น อา....จริงสิ ถ้าเกิดมีคนเห็นพวกเธอบินเล่นกันคงได้แตกตื่นแน่ ช่างรอบคอบซะจริงแถมยังเก่งซะด้วยสิ เพราะกำไลนี่ช่างหายากแสนยากนัก
" กางปีกออกแล้วค่อยๆขยับ" หลังจากที่ใส่กำไลล่องหนให้ตัวเองเสร็จ เขาก็พาเธอมาที่ยืนที่กลางดาดฟ้าและเริ่มฝึกให้เธอ ซึ่งเธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย เธออยากจะบินดูสักครั้งมันคงสนุกน่าดูเลย
เพราะยัยหนูโรสคนก่อนน่ะ ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเทพปีศาจเพราะไม่มีพลังของเทพหรือปีศาจและกางปีกไม่ได้ เป็นเหมือนกับมนุษย์ธรรมดาๆคนหนึ่งจึงไม่ได้ฝึกบิน แต่พอเธอมาอยู่ร่างนี้กลับกางปีกได้และมีพลังอย่างที่ควรจะเป็น
เธอลองขยับปีกเบาก่อนจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยขึ้นอีกนิด ร่างนี้นับว่ามีหุ่นนางแบบและสูงมากกว่าผู้หญิงทั่วไปอยู่มากแต่เธอกลับสูงเพียงแค่คางของราฟเท่านั้น พอเธอลอยตัวอีกนิดใบหน้าเธอกับเขาก็อยู่ในระดับเดียวกัน พอเธอหยุดขยับปีกร่างของเธอก็ค่อยๆร่อนลงสู่พื้นอย่างนิ่มนวล
" ลองบินสูงๆสิ "
จากนั้นเธอก็ลองบินขึ้นสูงๆอีกครั้ง และราฟก็บินตามเธอขึ้นมา
"ลองบินไปแถวหอปรุงยาดูมั้ย?" เขาถามและคำตอบคือการพยักหน้าจากอีกฝ่าย แล้วพวกเขาก็บินไปที่หอปรุงยา ตลอดทางเธอเห็นนักเรียนของอควาเรสหลายคน บางที่ก็เรียนกันอยู่บางที่ก็เป็นคนที่มานั่งพักกันเพราะเป็นคาบว่าง
ฟุบ~
เสียงบางอย่างกระทบกับพื้นห้องเรียกความสนใจจากเดวิดได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อหันกลับไปมองกลับพบกับบุคคลที่ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้
" สวัสดีครับ/ค่ะ อาจารย์เดวิด" เธอกับเขาพูดขึ้นก่อนจะถอดกำไลล่องหนออก
" พวกเธอไม่มีเรียนเหรอ?" ดูจากตารางที่ปกติราฟาเอลมาช่วยเขา ตอนนี้พวกเขาน่าจะเรียนอยู่นี่
" พวกเราโดดเรียนครับ" แล้วก็เป็นเขาที่ตอบออกไป และเพราะประโยคที่เขาเอ่ยออกไปทำให้อีก2คนต้องตกตะลึง เดี๋ยวนะ! เขาบอกว่าโดดเรียนกับอาจารย์เนี่ยนะ!! บ้าไปแล้วแน่ๆ
" พวกเธอโดดเรียนจริงเหรอ?" เด็ก2คนนี้เรียนเก่งและมีพรสวรรค์ก็จริง แต่ดูจากนิสัยแล้วไม่น่าใช่พวกที่ชอบโดดเรียน
" ค่ะ วิชาการคำนวณมันน่าเบื่อ" ในเมื่อเขาบอกไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบัง
" คาบต่อไปเป็นคาบว่าง เพราะงั้นผมมาช่วยงานอาจารย์ได้ครับ" ไม่น่าเชื่อว่ายัยนี่จะยอมรับแบบตรงๆ และไม่แก้ตัว
" อ่อ ถ้างั้นมาช่วยฉันเตรียมของหน่อยสิ คาบต่อไปพวกปี1จะมาเรียนน่ะ" พวกนี้จะมาช่วยเขาก็ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธนี่ อีกอย่างเด็กดีอย่างนี้ให้ไปนั่งเรียนแบบน่าเบื่อๆมันก็เสียของเเย่สิ
หลังจากนั้นเธอกับราฟก็ช่วยอาจารย์เดวิดเตรียมของที่พวกปี1จะใช้เรียน แต่บังเอิญว่ามันเสร็จก่อนเวลาอาจารย์เดวิดเลยให้พวกเธอไปปรุงยาเล่นในห้องพิเศษแทน แต่ห้องพิเศษที่ว่าน่ะ มันคือห้องทำงานของราฟน่ะสิ!!!
ห้องของเขามีแต่ของที่เกี่ยวกับการปรุงยาทั้งนั้น ทั้งหม้อต้มยา หนังสือ วัตถุดิบ เห็นแบบนี้แล้วเธอเลยหยิบหนังสือมาดูเล่นจนพบยาชนิดหนึ่ง ยาเปลี่ยนสภาพ ยาที่จะเปลี่ยนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ยาที่สามารถเปลี่ยนสีผมหรือสีตาอะไรได้
" ราฟ ฉันปรุงยาได้มั้ย" เธอหันไปถามเขาที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวเพียงตัวเดียวในห้อง
" จะใช้อะไรก็ใช้" แล้วเขาก็กลับไปอ่านหนังสือต่อ จะใช้ให้หมดห้องเลยก็ได้เพราะเขาไม่สนอยู่แล้ว
ในเมื่อเจ้าของเขาอนุญาตแล้ว เธอก็ไม่ยอมเสียเวลาและเริ่มปรุงยาทันที โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าทุกการกระทำของเธอนั้นอยู่ในสายตาของอีกคนเลย
และแล้วสิ่งที่ต้องการก็มาอยู่ในมือของเธอจนได้ ยาเปลี่ยนสภาพ เพียงแค่ดื่มเข้าไปแล้วคิดว่าอยากเปลี่ยนอะไรมันก็จะเปลี่ยนทันที จะมีผลอยู่แค่3วันเท่านั้น แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ
กริ๊ง~
เสียงสัญญาณบอกว่าหมดวิชาแรกแล้วดังขึ้น นั่นแสดงว่าพวกปี1เริ่มมาที่หอปรุงยาแล้ว อาจารย์เดวิดขอให้เธอกับราฟช่วยเขาทำการสอนด้วย
" ไปเถอะ" ราฟหันมาบอกเธอก่อนจะเดินนำออกไป เธอจึงเก็บขวดยาลงในมิติก่อนจะตามเขาไป พอออกมาที่ห้องโถงก็เจอนักเรียนปี1กับอาจารย์เดวิดที่รออยู่แล้ว
" ฉันให้ชูก้าไปตามฮานส์มาแล้ว" อาจารย์เดวิดพูดขึ้นเมื่อเจอพวกเขา2คน
" เอาล่ะ! คาบนี้อาจารย์ที่จะต้องสอนพวกเธอติดธุระ เพราะฉะนั้นพวกเธอจะต้องเรียนกับฉันแทน คาบนี้พวกเธอจะต้องแยกสมุนไพรให้เสร็จ ส่วนคาบต่อไปพวกเธอจะต้องปรุงยาด้วยสมุนไพรที่พวกเธอแยกไว้เมื่อคาบแรก ไปที่กองสมุยไพรคนละกองและเริ่มแยกสมุนไพรซะ!! "
และแล้วความวุ่นวายเหมือนตอนที่พวกเธอมาเรียนกับอาจารย์เดวิดครั้งแรกก็เริ่มขึ้น อาจารย์เดวิดบอกว่าห้องที่มาเรียนเป็นห้องDจึงค่อนข้างจะสอนยาก เพราะเขาสอนแค่ปี3ห้องAกับห้องBเท่านั้น แต่ที่ต้องมาสอนปี1เพราะอาจารย์ที่ต้องสอนติดธุระเลยมาฝากงานไว้กับเขาแทน
ส่วนหน้าที่ของพวกเธอน่ะเหรอ? หึ เฝ้าเด็กพวกนี้ไงล่ะ เฝ้าไม่ให้สร้างเรื่องวุ่นวายส่วนอาจารย์เดวิดน่ะเหรอ บอกว่าจะไปจัดการงานกับเอกสารน่ะสิ และดูเหมือนเด็กพวกนี้จะเอาแต่มองเธอกับราฟนะ เห้อ
" มองอะไร?" เธอถามออกไปเมื่อเด็กพวกนั้นเอาแต่มองเธอ แต่เธอที่ปกติมักจะเย็นชาอยู่แล้วบวกกับความหงุดหงิดที่ต้องมาเฝ้าเด็กพวกนี้ ก็กลายเป็นความเยือกเย็นที่แสนจะน่ากลัว ทำให้ทุกคนที่กำลังมองเธออยู่หันหน้ากลับไปทำงานแทบไม่ทัน
แต่เธอจะรู้มั้ย? ว่าที่มีแต่คนมองเธอน่ะ ก็เพราะพวกเขาไม่คิดว่าจะมีคนที่สวย เก่ง ฉลาด และสง่างามได้ขนาดนี้ ก่อนที่พวกเขาจะเข้าอควาเรสก็เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเธอมาบ้าง แต่พอถึงวันสอบเข้าที่นี่พวกเขากลับตกตะลึงที่เธอสอบได้ที่2ของปี3 ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าข้อสอบของอควาเรสนั้นยากขนาดไหน และทุกคนกลับพบว่าเธอนั้นไม่เหมือนกับข่าวลือสักนิด
เเอ๊ด~
หลังจากที่มีเสียงเปิดประตูดังขึ้น ทุกคนก็พากันมองไปตามเสียงก่อนจะพบกับชายหนุ่มผมสีเขียวอ่อน เขาเดินตรงไปที่โรสกับราฟยืนอยู่
" ขอโทษที ฉันต้องสลัดเมลโลก่อนถึงจะมาที่นี่ได้" เขาพูดปนหอบนิดๆ ดูจากเหงื่อที่เกาะตามเส้นผมแล้วเขาคงจะรีบวิ่งมาที่นี่
" ไม่เป็นไร อาจารย์เดวิดอยากให้พวกเราคุมเด็กปี1พวกนี้ไม่ให้ก่อเรื่องน่ะ" เธอตอบเขาไปหลังจากนั้นพวกเขา3คนก็ต้องทำหน้าที่อันสุดแสนจะน่าเบื่อต่อไป แต่ฮานส์ก็ถามเธอว่าทำไมถึงมากันเร็วนัก เพราะหลังจากจบวิชาการคำนวณก็ไม่เห็นเธอกับราฟเลย เธอก็ได้แต่ตอบแบบปัดๆไป
" เห็นเจ้าชายอลาโน่บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับเธอน่ะ" ระหว่างที่เฝ้าพวกปี1กันอยู่ ฮานส์ก็เดินมาบอกเธอ
" อืม เดี๋ยวฉันจะไปหาเขาเอง ขอบคุณ" เรื่องอะไรที่ต้องคุยกันนะ?
。
。
。
。
。
。
。
" พวกเธอกลับได้เลยนะ เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง" อาจารย์เดวิดพูดขึ้นก่อนจะปล่อยพวกเธอไปพักเที่ยง แล้วพวกเราก็แยกกันไปทานข้าว
เธอเลือกที่จะนั่งมุมเดิมที่วันนี้ไม่ค่อยมีคน แต่เธอทานข้าวไปได้ไม่นานตัวป่วนก็วิ่งโร่มาแต่ไกล " เธอจะสอนพวกเราใช่มั้ย?" ตอนนี้เจ้าฝาแฝดสีฟ้ากำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอในขณะที่ตรงหน้ามีจานข้าว2จาน เห้อ พึ่งจะผ่านไปวันเดียวเองนะ เจ้าพวกนี้จะรีบไปไหนกัน
" ตกลง สอนก็สอน" จะว่าไงดีล่ะ เห็นคนที่มีความพยายามขนาดนี้แล้วชวนให้นึกถึงตัวเองเมื่อชาติก่อนที่ตั้งใจทำเพื่อคุณพ่อ
" จริงๆนะ" เจ้าพวกนี้ต่อหน้าคนอื่นทำเป็นเฉยต่อทุกสิ่ง แต่พอได้ของที่ชอบกลับตื่นเต้นเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ มันน่าหมั่นไส้จนเธออดจะเอื้อมมือไปยีผมของเจ้า2คนนี้ไม่ได้
" ทำอะไรเนี่ย" ทั้ง2หลบมือของเธอก่อนจะพยายามจัดทรงผมสีฟ้าให้เหมือนเดิม ถึงจะแสดงอาการเดียวกันเเต่กลับเป็นซีน่อนคนเดียวที่พูดขึ้น
" ขนาดซีเวลยังไม่บ่นเลย นายจะบ่นทำไมล่ะซีน่อน" เธอถามด้วยนํ้าเสียงติดตลกอันหาได้ยากจากเธอ
" ห้ะ! /ห้ะ! " คราวนี้เป็นอะไรไปอีกเนี่ย
" พวกนายจะตะโกนทำไม?" ดีที่เสียงไม่ดังมากเลยไม่ค่อยมีคนสนใจ
" เธอแยกพวกเราออกนี่ " แล้วยังไงล่ะ?
" อย่าบอกนะว่าไม่เคยมีใครแยกพวกนายออกน่ะ " เธอถามอย่างติดตลกตรงข้ามกับอีก2คนที่จริงจังกับเรื่องนี้มาก
" ใช่/ใช่" น่าอนาถดีแท้
" พ่อแม่นายก็แยกไม่ออก " เธอถามด้วยนํ้าเสียงสงสัย และพวกเขาก็พยักหน้า
" พอๆ ฉันจะกินข้าว " ถ้าขืนพูดต่อวันนี้เธอคงไม่ได้ทานข้าวแน่ พอทานเสร็จก็รีบขึ้นห้องแต่เจ้าฝาแฝดสีฟ้าก็ไม่วายยํ้าให้เธอสอนเล่นกีต้าร์ วันนี้เธอขึ้นมาค่อนข้างช้าเพราะมัวแต่คุยอยู่กับเจ้าฝาแฝดนั่น พอขึ้นมาก็เหลือเวลาแค่45นาทีก่อนจะเริ่มเรียน คนก็เริ่มมากันเยอะอยู่
" โรส มานี่หน่อยสิ" เธอยืนอยู่ประตูไม่นานพี่อลันก็ลากเธอไปใต้บันไดโดยมีวิลล์ตามมาด้วย
" มีอะไรรึเปล่าคะ" ฮานส์บอกว่าเขามีเรื่องจะคุยกับเธอนี่ เมื่อเธอถามไปเขาก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วกางมันออก มันคือแบบร่างเครื่องประดับที่เธอทิ้งไว้ที่ร้านของเจ๊ลิสนี่
" น้องวาดมันใช่มั้ย?" เธอพยักหน้า
" คืออย่างนี้นะ เจ๊ลิสเธอเห็นแล้วเอามาให้พี่ บอกว่าอยากให้น้องมาช่วยออกแบบเครื่องประดับให้ที่ร้านน่ะ" ไม่น่าเลย ไม่น่าวาดเลย ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ ไหนจะช่วยอาจารย์เดวิด ไหนจะสอนกีต้าร์ให้เจ้าฝาแฝดสีฟ้านั่นอีก วุ่นวายตายแน่ๆ
" โรสไม่น่าจะว่างค่ะ "
" ไม่ต้องวาดให้บ่อยก็ได้ แค่เดือนละครั้งก็พอ " เธอไม่แปลกใจที่พี่อลันจะเข้าข้างเจ๊ลิส เพราะเขาสนใจเรื่องเครื่องประดับมาตั้งแต่เด็ก เพราะองค์ราชินีหรือแม่ของเขาชอบสะสมเครื่องประดับเขาเลยอยากหาของสวยๆมาให้ท่านแม่ของเขา
" ก็ได้ค่ะ" คงไม่เป็นไรหรอก เดือนละครั้งเอง
" ขอบใจนะ" เขายิ้มกว่างก่อนจะดึงเธอไปกอด เขาช่างเป็นพี่ชายที่ดีจริงๆ เพราะโลกก่อนเธอมีแค่คุณพ่อ ส่วนเพื่อนๆน่ะแก่กว่าเธอก็จริงแต่พวกนั้นก็ชอบทำตัวเป็นเพื่อนเธอมากกว่า เธอเองก็อยากลองมีพี่ชายดูสักครั้งเหมือนกัน พอมาโลกนี้แล้วเธอมีทั้งพี่แดน พี่อลัน ส่วนราฟน่ะ เขาเป็นเหมือนเพื่อนมากกว่า
" อะแฮ่ม อะแฮ่ม " คนที่ราวกับเป็นอากาศและถูกลืมไปแล้วกระแอมขึ้น
" เจ็บคอรึไง?" อลันถามนํ้าเสียงติดตลก
" อิจฉาคนมีน้องโว้ย"
" พี่วิลล์ก็ทำตัวดีๆสิคะ แล้วโรสจะยอมเรียกว่าพี่เลย" คราวนี้เธอลองใช้นํ้าเสียงและท่าทางออดอ้อนเป็นครั้งแรกที่มาในโลกนี้ แต่ด้วยใบหน้าที่งดงามบวกกับการแสดงออกที่น่ารัก ทำให้วิลล์ต้องหน้าแดงและหลบหน้าเธอแทน
" หึๆๆ เป็นอะไรไปคะ? อ้อนแค่นี้หน้าแดงเลยเหรอ " ตอนนี้เธอสลัดคราบของลูดสาวดยุคลำดับที่1ผู้เย็นชา จนเหลือเพียงแค่น้องสาวคนหนึ่งที่กำลังอ้อนพี่ชาย
" เปล่าเขินซะหน่อย!" เป็นวิลล์ที่ตอบกลับมาทั้งๆที่ยังหน้าแดงอยู่
" เอาน่าโรส คนเขาเขินอยู่ก็อย่าไปซํ้าเลย" ถึงตอนแรกจะห้ามเธอแต่ก็ไม่วายแซวอีกฝ่ายเล็กน้อย เห็นน้องสาวคนนี้ไม่ได้เย็นชาตลอดเวลา และยังรู้จักอ้อน รู้จักแกล้งคนอื่นหรือวิลล์บ้าง เขาก็เบาใจลงไปอีก อย่างน้อยเธอก็ยังมีมุมน่ารักๆและสดใสสำหรับเขาอยู่
" อลัน!!" วิลล์เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดัง
" นี่ก็ออกมานานแล้วกลับห้องเถอะ" เมื่อเห็นองครักษ์ของตัวเองกำลังจะเริ่มการบริภาษตน ก็รีบเปลี่ยนเรื่องและพากลับไปห้องเรียนแทน หลังจากนั้นพวกเราก็เรียนจนถึงเวลาเลิกก่อนเธอจะกลับไปอาบนํ้าและลงมาทานข้าวตอน6โมงเย็น แล้วก็ไปนั่งเล่นอยู่ในมิติก่อนจะเข้านอน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
เขินนน555
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
ป.ล.ราฟก็มาจากโลกเดียวกับโรสหรือเปล่าเนี่ย