คฤหาสน์วาเรนเซีย
" โรส จะไปจริงๆเหรอลูก" ขณะนี้ท่านดยุควาเรนเซียผู้ยิ่งใหญ่ กำลังทำท่าราวกับจะขาดใจที่ลูกสาวสุดที่รัก กำลังจะไปอยู่ที่หอพักของอควาเรส และราวกับจะไม่ได้กลับมาที่คฤหาสน์วาเรนเซียอีกเลย
" ท่านพ่อครับ ปล่อยน้องไปเถอะครับ ยังไงช่วงสุดสัปดาห์ก็มีวันหยุดตั้ง2วัน อควาเรสกับบ้านเราก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมาก" แดนพูดขึ้นพร้อมทำท่าเอือมระอากับท่านพ่อของตน รู้แท้ๆว่ายังไงน้องก็ต้องไปยังจะห้ามไว้อีก
" ใช่ค่ะ เดี๋ยววันหยุดโรสจะมาเยี่ยมนะคะ"
" นั่นสิครับ" คราวนี้เป็นคริสบ้างที่เอ่ยขึ้น ทีตอนพวกเขาอยู่ปี3แล้วต้องไปอยู่หอพัก ท่านพ่อไม่เห็นจะเป็นแบบนี้ แต่ทำท่าดีใจจนแทบจะไล่พวกเขาออกจากบ้าน แต่พอเป็นยัยนี่กลับแทบจะจัดงานเลี้ยงอำลา
ดูเหมือนดยุควาเรนเซียจะอ่านความคิดลูกชายออก เหอะ! ถ้าเจ้าพวกนี้ยังอยู่ที่คฤหาสน์โรสก็จะต้องแบ่งเวลาให้เจ้าพวกนี้ด้วย แต่พอเจ้าพวกนี้ไม่อยู่เขาก็ได้อยู่กับโรสนานขึ้น
" ท่านดยุคครับ ต้องไปที่วังแล้วนะครับเดี๋ยวองค์ราชาจะรอนาน" เซบาสเตียนพูดขึ้น
" ช่างมันสิ" ใช่ เจ้าราชานั่นน่ะปล่อยให้มันรอจนเฉาไปเลย
" องค์ราชาน่ะช่างได้ แต่งานน่ะช่างไม่ได้นะครับ ถ้าท่านยังไม่ไปผมจะเอางานที่อยู่อาณาจักรอื่นมาให้ท่านทำด้วย" เซบาสเตียนพูดขึ้นอีกครั้งและดูเหมือนว่ามันจะได้ผล
" โรส ลูกรีบไปเถอะเดี๋ยวจะไปสายเอานะ แดน คริส พวกแกก็ดูแลตัวเองแล้วกลับมาบ้านบ้างนะ" เขาพูดขึ้นอย่างร้อนรน แค่งานที่มีอยู่ของตำแหน่งดยุคกับกิจการต่างๆของตระกูลวาเรนเซีย ที่อยู่ในอาณาจักรเฟอร์เดียก็ทำเขาไม่มีเวลาให้ลูกแล้ว แต่นี่ถ้าเซบาสเตียนเอางานของอาณาจักรอื่นมาด้วยเขาได้ขาดใจตายจริงๆแน่
หลังจากนั้นท่านดยุคผู้ยิ่งใหญ่ก็รีบไปขึ้นรถม้าเพื่อไปสะสางงาน ส่วนโรส แดน และคริสก็แยกกันขึ้นรถม้าเพราะวันนี้ อคาเรสและวาซีรอสจะเปิดเทอมวันแรก
ชุดนักเรียนของที่นี่ เสื้อของผู้หญิงกับของผู้ชายจะเหมือนกัน คือเสื้อเชิ้ตขาวผูกด้วยเนคไทสีดำ ทับด้วยเสื้อสูทขาวขอบดำอกซ้ายมีตราอควาเรสอยู่ และมีกระเป๋าตรงชายเสื้อ ตรงข้อมือกับขอบเสื้อมีกระดุม2เม็ดสีทอง กระโปรงสีดำสั้นเหนือเข่ามาคืบหนึ่งตรงชายกระโปรงมีแถบสีขาว ส่วนของผู้ชายเป็นกางเกงสีดำ
ของผู้ชายเปลี่ยนแค่เป็นกางเกงสีดำล้วน
เธอเลือกที่จะปล่อยผมสีขาวที่ยาวถึงเอว และก็ใส่ถุงน่องสีดำทับที่ขาอีกที ส่วนรองเท้าก็เป็นผ้าใบสีขาว เธอไม่ชอบใส่ส้นสูงเหมือนผู้หญิงส่วนมาก เพราะวิ่งไม่สะดวก และที่ขาดไม่ได้คือถุงมือสีขาวอันโปรดของเธอ
ตอนนี้เพิ่งจะ7โมงกว่าแต่เริ่มเรียนตอน8โมง อีกนานกว่าจะถึงเวลาเธอเลยเดินไปเรื่อยๆจนพบตึก3ชั้นตึกหนึ่ง มันมีป้ายเขียนว่า หอปรุงยา เธอได้กลิ่นยาอ่อนๆลอยออกมาจากที่นี่ พอเดินตามกลิ่นไปเรื่อยๆก็พบกับห้องๆหนึ่ง
ในนั้นเต็มไปด้วยสมุนไพรมากมายแต่ไม่มีคนอยู่ และที่มาของกลิ่นยาคือหม้อใบใหญ่ที่อยู่กลางห้อง ในนั้นมีนํ้าสีใสที่ดูเหมือนนํ้าเปล่าธรรมาดาอยู่ แต่เธอรู้ว่ามันไม่ธรรมดาเพราะเธอเคยได้กลิ่นแบบนี้จากห้องปรุงยาในมิติ
ในมิติน่ะ ไม่ได้มีแค่คฤหาสน์อย่างเดียว มันมีป่าที่มีผลไม้และวัตถุดิบหายากมากมาย และในคฤหาสน์ยังมีห้องปรุงยาที่มีขวดยาอยู่มากมาย เธอเลยเอายาพวกนั้นไปเทียบกับในหนังสือและรู้ว่ายาพวกนั้นมีค่ามาก เพราะมันมียาที่ปรุงได้ยากทั้งนั้น และหนึ่งในยาพวกนั้นก็มียาเพิ่มพลังเวทย์อยู่มันจะช่วยเพิ่มพลังให้ผู้ดื่มชั่วเวลาหนึ่ง
และยาในหม้อนี้คือยาเพิ่มพลังเวทย์ แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่สมบูรณ์เพราะขาดบางอย่าง และมันก็คือ ผลหิมะ มันหายากมากและเติบโตท่ามกลางหิมะที่หนา และอีกอย่างคือ หญ้าจันทรา สิ่งนี้จะเรียกว่าหายากก็ไม่ได้ หาง่ายก็ไม่ได้เพราะมันเป็นหญ้าที่ได้รับแสงจากดวงจันทร์มากเกินไป จนกลายพันธุ์ แต่ก็ต้องได้รับแสงจากดวงจันทร์ในปริมาณที่มากพอสมควร
แต่มันบังเอิญหรืออะไร ที่เธอมีของทั้ง2อย่างอยู่ในมิติ ถ้าเธอช่วยทำให้ยามันสมบูรณ์จะเป็นอะไรมั้ย เห้อ ช่างเถอะ จะทำหรือไม่ทำก็คงเหมือนกันนั่นแหละ คิดได้ดังนั้นเธอก็หยิบผลหิมะกับหญ้าจันทราออกมาจากมิติ และเตรียมพวกมันให้เรียบร้อยก่อนจะนำลงหม้อต้มยาแล้วคนให้มันเข้ากัน จากนั้นยาที่เคยเป็นสีใสก็กลายเป็นสีฟ้าอ่อนๆ และมีกลิ่นหอมมากกว่าเดิม
" คนแปลกหน้า! คนแปลกหน้า!" หลังจากที่ยาเสร็จสมบูรณ์ไม่นาน ก็มีตัวป่วนเข้ามา มันคือนกแก้วพูดได้ ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันมองเธอนานแล้ว แต่มันเป็นแค่นกเธอเลยไม่สนใจ ใครจะรู้จากที่มันเงียบมานานก็พูดขึ้นหลังจากที่เธอปรุงยาเสร็จ
" เงียบ" นับว่านกตัวนี้ยังดีอยู่เพราะมันยอมเงียบตามที่เธอบอก เธอจึงนำผลเบอร์รี่จากในมิติให้มันไปลูกหนึ่งและมันก็กินอย่างว่าง่าย
" อย่าบอกใครว่าฉันมาที่นี่ล่ะ" เพราะเจ้านกนี่ดูท่าจะเข้าใจที่คนพูด และมันก็พูดได้เธอจึงต้องสั่งไว้ก่อน
" ครับ คุณหนู! คุณหนู! "
" ฮ่าๆๆ เจ้านกขี้ประจบเอ๊ย! ฉันไปล่ะ" หลังจากนั้นเธอก็ออกมาจากที่นั่น แต่ก็หยิบลูกเบอร์รี่ให้เจ้านกขี้ประจบไปอีกหลายลูก
ดูเหมือนว่าเธอจะใช้เวลาที่นั่นนานไปหน่อย พอออกมาก็เหลือเวลาอีก15นาทีจะเริ่มเรียน เพราะหอปรุงยาค่อนข้างอยู่ลึกเข้าไป ทำให้เธอเสียเวลาเดินมาที่ห้องเรียน เมื่อเธอเข้ามาในห้องทุกคนก็มองมาที่เธอเป็นตาเดียว สายตาเหล่านั้นไม่เหมือนเดิม ไม่เหยียดหยามแต่ก็ไม่เคารพเธอเท่าที่ควร แล้วไงล่ะ? เธอไม่สน
เธอเลือกที่จะนั่งริมหน้าต่าง ตอนนี้เหลือเวลาอีก10นาทีกว่าจะเริ่มเรียน แต่คนที่อยู่ในห้องก็ยังบางตาอยู่ คนที่ได้มาเรียนห้องA มี30คน คนที่ได้คะแนน11อันดับแรก
เห้อ เธอได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก โล่งอกที่คุณนางเอกสอบผ่านน่ะสิ คุณนางเอกน่ะได้คะแนน200คะแนนกับ11อันดับแรก ถือว่าเส้นยาแดงผ่าแปดจริงๆ เพราะถ้าพลาดไปอีกแค่1คะแนนเธอก็จะได้อยู่ห้องB ที่เธอสนใจก็ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะถ้าพวกคุณพระเอกทั้งหลายติดอยู่กับคุณนางเอก ก็จะได้ไม่มายุ่งกับเธอยังไงล่ะ แต่ถ้าคุณนางเอกมายุ่งกับเธอเนี่ยสิ.... เห้อ
ไม่นานเกินรอ เหล่าพระเอกนางเอก และคนที่เหลือก็เข้ามาในห้องกันจนครบทั้ง29คน ขาดแค่คนเดียว
ครืด~
ประตูถูกเปิดออกและทุกคนก็หันไปมองยกเว้น....โรส เพราะตอนนี้เธอกำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง และคนๆนั้นก็เดินมาเรื่อยๆจนผ่านโต๊ะที่เมลโลและเหล่าตัวเอกนั่งอยู่ก็ถูกรั้งไว้
" คุณราฟมานั่งด้วยกันสิคะ" เมลโลพูดรั้งราฟาเอลเอาไว้ ด้วยนํ้าเสียงออดอ้อนสดใส ยิ้มหวานให้อีกฝ่าย และหวังว่าเขาจะต้องมานั่งกับตนแน่ๆ เพราะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนปฏิเสธเธอ แต่ทว่า.....
" เธอสกปรกเกินไป เเล้วก็เรียกฉันว่าเจ้าชายราฟาเอล และใช้คำราชาศัพท์ซะ ฉันไม่ใช่ผู้ชายหน้าโง่ที่เธอจะหลอกได้เหมือนเจ้าพวกนี้" เขาร่ายยาวด้วยนํ้าเสียงราบเรียบเย็นชา และใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์อย่างปกติ
เมื่อเขาพูดอย่างนี้ทำให้เมลโลยิ้มเก้อและเริ่มทำท่าราวกับจะร้องไห้ออกมา
" ราฟาเอล! พูดดีๆกับเมลโลหน่อย เธอเป็นผู้หญิงนะ " แน่นอนว่าคนที่ออกตัวคนแรกก็คือ เจ้าชายลูเซียน
" โง่ " แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือคำด่าจากอีกฝ่าย
" ว่าไงนะ! อย่าลืมสิว่าแกเป็นเเค่เจ้าชายธรรมดา แต่ฉันเป็นเจ้าชายรัชทายาทเลยนะ!" เขาตอบกลับไปด้วยความเดิอดดาล
" รัชทายาทที่กำลังจะถูกปลดงั้นเหรอ? " เอาอีกแล้วเขาได้ยินคำว่าเขากำลังจะถูกปลดอีกแล้ว ครั้งแรกก็เป็นยัยโรส มาตอนนี้ก็เป็นเจ้าชายนี่อีก
" แต่ถึงยังไงตอนนี้เขาก็ยังเป็นรัชทายาทอยู่ นายไม่มีสิทธิ์มาว่าลูเซียน " คราวนี้เป็นเกรเทล เจ้าชายต่างเมืองเอ่ยขึ้นบ้าง
" รัชทายาทที่วันๆเอาแต่ไปเที่ยวกับผู้หญิง ไม่ทำงานที่ควรทำ ประชาชนจึงเดือดร้อน" คราวนี้พวกเขาถึงกับเงียบไป เพราะเถียงต่อไม่ออก เรื่องก่อนๆอาจเถียงแบบข้างๆคูๆได้ แต่เรื่องนี้พวกเขาเถียงไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวพันถึงประชาชน
" นาย!" การได้ยั่วโมโหคนอื่นก็ดีเหมือนกันนะ ลดความน่าเบื่อไปได้อีกหน่อย ถึงภายนอกเขาจะเย็นชาและเรียบเฉยแค่ไหน แต่ใครจะรู้ว่าภายในใจเขานั้นกำลังยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เพียงใด
" พอแล้ว! กลับไปนั่งที่ให้หมดเลย" เมื่อทนเห็นพวกเขาทะเลาะกันไม่ได้อีก อลันและวิลล์จึงออกมาห้ามพวกเขา ใบหน้าและนํ้าเสียงที่ปกติจะอ่อนโยนกับคนที่สนิท มาตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความทรงอำนาจ และทุกคนก็ยอมทำตามแต่โดยดี เพราะพวกเขารู้ดีว่าอย่าทำให้รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของเจ้าชายผู้อ่อนโยน
" ราฟาเอล นายก็ไปเถอะ" เมื่อจัดการกับคนของตัวเองเสร็จก็หันกลับมาพูดกับคนรู้จัก เขาเคยไปที่อาณาจักรปีศาจเขาเคยเจอกับราฟาเอล และทั้งสองก็เคยทำงานร่วมกันจึงทำให้พอรู้จักกันอยู่บ้าง เขารู้ว่าปีศาจตนนี้เป็นพวกเย็นชา เจ้าเล่ห์ หยิ่ง และไม่ชอบให้คนอื่นมาทำตัวสนิทสนมด้วยมากแค่ไหน แต่ก็ยังดีที่อีกฝ่ายยอมทำตามที่เขาบอก
แต่ใครจะรู้ว่าตลอดเวลาที่ทุกคนกำลังหันไปสนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า กลับมีหญิงสาวคนหนึ่งที่ยังคงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง...โรส
" !!! " การกระทำของราฟาเอลสร้างความตกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก เพราะเขาเดินไปนั่งข้างๆโรสที่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ตัวว่ามีคนมานั่งด้านข้าง
" ฮึก คุณ อึก จะ เจ้าชาย อึก ราฟาเอล ฮึก ทำไมถึง ยะ อึก ยอมนั่งกับ ฮึก อึก ท่านหญิง ล่ะ อึก เพคะ ฮึก" เมลโลที่ตอนนี้กำลังถูกปลอบโดยเหล่าพระเอกอยู่พูดขึ้น เมื่อเห็นการกระทำของราฟาเอล
" น่ารำคาญ " เขาเริ่มจะเบื่อแล้วสิ
" ฮึก ทะ ทำไม ต้องว่า อึก เมลโล ดะ ด้วย พะ เพคะ " แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ
" นี่ ผู้ชายเขาไม่สนก็อย่าไปเกาะแกะหน่อยเลย มันน่ารำคาญ" คราวนี้เป็นวิลล์ที่เอ่ยขึ้น เขารู้ดีว่าความรู้สึกของราฟาเอลตอนนี้เป็นยังไง เพราะเขากับอลัน ก็เคยโดนยัยนี่ตามรังควานเหมือนกัน
ครืด~
แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อ ก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้งแต่คนที่เปิดเข้ามาคืออาจารย์
" ฉันชื่อ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นครูที่ปรึกษาห้องA สอนวิชาเวทมนต์ จะทำอะไรก็ได้แต่อย่าให้เดือดร้อนถึงฉันหรืออควาเรส คาบนี้เป็นคาบว่างเพราะฉะนั้นอยู่กันเงียบๆ ฉันมีงานต้องไปทำ" เขาพูดขึ้นหลังจากที่เดินเข้ามา แล้วก็เดินออกไป
แต่ทว่า....โรสก็ยังคงตกอยู่ในภวังค์ความคิดเช่นเดิม จนคนที่อยู่ข้างๆต้องสะกิดเธอเพื่อปลุกเธอขึ้นมาจากภวังค์
" หืม? มีอะไร? " หลังจากที่เธอถูกสะกิดก็หันมาถามเขา ว่าแต่...เขามานั่งตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหนน่ะ
" เธอเหม่อตั้งนาน อาจารย์เข้ามาเมื่อกี้แน่ะ" อีกฝ่ายยังคงตอบด้วยนํ้าเสียงราบเรียบ และสั้นๆกระชับได้ใจความเช่นเดิม
" แล้วอาจารย์บอกว่าอะไรบ้าง?" ให้ตายสิ ที่เธอเหม่อแบบนี้ก็เพราะไอ้พระเจ้านั่นแท้ๆ ถอดจิตเธอไปตั้งแต่เธอเพิ่งเข้าห้องเรียนมาได้ไม่นาน ไปทำอะไรน่ะเหรอ? ก็ไปคุยเรื่องไร้สาระน่ะสิ แถมยังพล่ามอะไรก็ไม่รู้นาน ถ้าราฟาเอลไม่ปลุก เธอก็คงจะต้องฟังไอ้พระเจ้านั่นพล่ามต่อแน่ๆ
" อาจารย์ที่ปรึกษามาแนะนำตัวว่าชื่อ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และอย่างสร้างเรื่องเดือดร้อน แล้วก็คาบนี้เป็นคาบว่าง" เขาพูดประโยดที่ยาวยืด ซึ่งหาได้ยากจากคนที่ประหยัดถ้อยประหยัดคำอย่างเขา
" ว่าแต่ นายมานั่งอยู่ตรงนี้ตอนไหนเนี่ย?" เธอถามขึ้นในขณะที่สำรวจอีกฝ่าย คราวนี้เขาอยู่ในชุดของอควาเรส ไม่เหมือนกับคราวที่แล้วที่แต่งตัวสบายๆ ดูไปแล้วเขาก็ดูดีมากกว่าลูเซียนกับพี่อลันซะอีก ถ้าเป็นยุคของเธอ เขาคงจะเป็นนายแบบได้อย่างสบายๆ
" ตั้งแต่เข้าห้องมา " เขาตอบในขณะที่ไม่ได้มองหน้าเธอ แต่กลับมองตรงไปที่หน้าห้อง
หลังจากนั้นเธอและเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก และเริ่มเรียนวิชาต่อไปเรื่อยๆจนถึงเวลาพักเที่ยงเธอและทุกคนก็ออกไปหาอะไรทานกัน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
รอตอนต่อไปค่ะ