คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 12 : เรื่องมันเศร้า T3T (เล่าโดยฮารุเซะ)
“กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”เสียงแหลมทะลวงแก้วหูดังสะท้านขึ้นกลางป่าช้าแสนเงียบสงัด
เด็กสาวร่างบอบบาง อายุราว15ปี ผมลอนสีน้ำตาลเข้ม สวมชุดไปรเวทที่ทอจากขนหมีไทนี่สีน้ำตาลสวย รองเท้าส้นสูงราคาแพงลิบ และหมวกปีกกว้างยังกะจะกางกันแดดให้โลกได้ทั้งใบ ใบหน้าที่ลงแป้งซะหนา ริมฝีปากคู่สวย(มั้ง)ทาบไปด้วยสีชมพูแหวว นัยน์ตาสีฟ้าของเจ้าหล่อนดูจะไม่พอใจเท่าไหร่นัก เมื่อแมลงบางอย่างบินเข้ามาเกาะอยู่เสื้อของเธอเต็มไปหมด
“นี่เธอน่ะ!! หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์ซะบ้างสิยะ ปล่อยให้คุณหนูอย่างมาริต้องมาไล่แมลงเองแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน!!”เธอตะโกนเสียงดังใส่เพื่อนร่วมทางที่ทำหน้าเหมือนไปปิกนิก ผิวปากอย่างสบายอารมณ์ ยิ่งเธอดี๊ด๊าเกินเหตุยังนั่งตบมือชอบใจ
‘ทามากิ’ ยิ้มอย่างสบายอารมณ์แถมหัวเราะน้อยๆ
“ทำไมชั้นต้องทำอะไรอย่างนั้นให้เธอด้วยล่ะ?”
“เพราะมาริเป็นคุณหนูน่ะสิ.....คุณพ่อของมาริรู้จักกับ ผอ.เซนท์ฮาริโซน่าด้วย รู้รึป่าวว่าที่พวกเธอเข้ากันยากๆเนี่ย ชั้นแค่เอ่ยปากก็ลอยลำเข้ามาแล้วล่ะย่ะ”
เจ้าหล่อนสะบัดผมเงาสวยไปมา ใบหน้าแสดงความไม่สบอารมณ์สุดฤทธิ์ มือเล็กๆที่แต้มสีสันบนเล็บนั่นปัดแมลงออกไปอย่างรังเกียจ
ทามากิจ้องเจ้าหล่อนที่ทำท่าอีเดียดไปเสียทุกอย่าง
ขำดีว่ะ....
“ไม่ยักรู้มาก่อนเลยนะ ว่าจะเข้ามาเรียนจะต้องผ่านอะไรแบบนี้ก่อน ไม่งั้นมาริไม่มีทางเข้าหรอก เชอะ.......แล้วดูสิ ดูๆๆ แทนที่จะได้คู่ที่พึ่งพาได้ กลับได้เจ้าคนอ่อนแอปวกเปียกไม่ได้เรื่องแถมหน้าตาก็ยังไม่ผ่าน แล้วก็ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย!!”
“ว้าย!! ตายแล้วรองเท้าของมาริเปื้อนเช็ดให้หน่อยสิ!!”เธอยื่นเท้าไปข้างหน้าทามากิให้เขาทำความสะอาด
นัยน์ตาของทามากิสบเข้ากับมาริ แล้วยิ้มกริ่ม
มือใหญ่ดึงรองเท้าทั้งสองข้างของเธอออก ร่างบางเสียหลักล้มลงบนพื้นดิน
“ถอดรองเท้าออกซะก็ไม่เปื้อนแล้ว โง่จริงๆเลย”
ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินผิวปากไปทางข้างหน้าโดยไม่สนใจคนข้างหลังที่หัวฟูเพราะหน้าทิ่มดินเลยแม้แต่น้อย....
“กรี๊ด!!!!!!!!!!”
เฮ้อ.......ชินอยู่ไหนเนี่ย.........
ทามากิคิดในใจแล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
“นี่ตัวเอง~~~”เสียงใหญ่เทอะทะแต่คนพูดดัดให้มันเล็กซะเหมือนจิ้งหรีดร้อง ซึ่งไม่สมกับรูปร่างบึกบึนพอกไปด้วยกล้ามเนื้อเน้นๆ ใบหน้าที่ปะแป้งซะขาว ทาลิปสีแดงสด บวกกับหนวดที่โกนจนเหลือโคนแหลมๆขึ้นมาเต็มไปหมด ทำท่าสะดีดสะดิ้งไม่สมตัว แทบทำให้เด็กหนุ่มร่างบางแทบสำรอกออกมาให้ได้
“อะ.......เอ่อ.....มะ.....มีมี่จัง.......มะ......มีอะ...อะไรครับ =3=”ชินโนจิพยายามเดินออกห่างระยะสิบเมตร แต่เจ้าหล่อน? ก็ยังเดินตามมาซะประชิดตัว
“แหม......ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ถึงมีมี่จะชอบตัวเองนะ แต่ตัวเองก็อยู่ลำดับยี่สิบเก้า มีมี่ไม่ปล้ำตัวเองหรอก”
“ระ........เหรอฮะ ToT”ชินโนจิแทบลงไปคุกเข่า จะดีใจหรือเสียใจเนี่ย อยู่ลำดับยี่สิบเก้า ไม่โดนปล้ำ ยะฮู้ววว!!!!
“อยากรู้มั๊ยล่ะ? ว่ามีมี่ให้ใครอยู่อันดับ 1 โฮะๆๆๆๆ”
ชินโนจิเห็นท่าไม่ดีถ้าบอกว่าไม่อยากคุณนายคงซัดเขากระเด็น
“คะ........ครับ ToT”
“ยูระ เซสึนะไงล่ะ!! น่ารักที่สุดเลย เค้าชอบมากเลยล่ะตัว ผมสีแดง ตากลมโตใส ริมฝีปากน่าจุ๊บ ผิวก็ขาวแถมตัวเล็กน่าฟัดอีก!! น่ารักมากๆ”แต่ถึงเธอจะแต๋วเพียงไร พอพูดถึงเซสึนะขึ้นมาคุณนายก็แมนขึ้นมาทันตา ราวกับมีพระอาทิตย์มาบังเกิดในดวงตาคู่นั้นส่องสะท้อนจิ้มเฉาะเข้าลูกกะตาของชินโนจิ
แฮ่ก......แฮ่ก......ทำไมอารมณ์มันแปรปรวนง่ายจังวะเนี่ย..... - -“ เมื่อกี้ตาฝาดไปรึป่าว? รู้สึกเหมือนได้นั่งดูเซนท์เซย่าตอนพระเอกสัญญากับนางเอกยังไงยังงั้น(แต่หุ่นเจ๊มีมี่แกเหมือนผู้พันอาร์มสตรองมากกว่านะ)
แต่ว่า....ถ้าเจ๊แกชอบเซสึนะล่ะก็.....แสดงว่า เจ๊แกก็เป็นเมะดิเนี่ย??
“แต่ว่านะ......อันดับสองของมีมี่น่ะ คือXXXคุง รองมาก็XXXคุง แล้วก็................”แล้วเสียงเธอก็แต๋วขึ้นมาอีก พร่ำถึงคุณผู้ชายหล่อๆของเธอไม่หยุดจนชินโนจิก็ต้องทนฟังต่อไป......
ทามากิช่วยด้วย T o T ~~~”
<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
“นะ........นี่!! มือของนายกำลังจับสะโพกชั้นอยู่นะ!!”เสียงโวยวายของเจ้าร่างบางที่โดนใครบางคนอุ้มอยู่อย่างหน้าตาเฉยแถมแอบเนียนสุดๆ
มือเล็กๆของเจ้าของผมสีแดงสวย พยายามแกะมือใหญ่ที่จับอยู่บริเวณใต้เอว แต่ไม่หลุดซักกะทียังกะทากาวแปะไว้ยังไงยังงั้น?
นัยน์ตาคมส่งแววดุๆไปให้คนในอ้อมกอด ทำให้ ‘เซสึนะ’ นิ่งเงียบไปได้สักครู่
ฮารุเซะและเซสึนะ.......เดินตามทางเล็กแคบระหว่างสุสานมาได้เป็นชั่วโมงๆแล้ว.....แต่ก็ยังไม่เห็นอะไร......นอกจากป้ายหลุมศพ ต้นไม้ตายซาก แล้วก็แมลงกวนใจเป็นระยะๆ
......แต่นั่น.....ก็ไม่เท่ากับเซสึนะ ที่ต้องโดนร่างสูงแอบทำเนียนใส่หลายต่อหลายครั้ง แล้วเขาเองก็ขัดขืนไม่กล้าขัดซะด้วย (เรียกว่าขัดม่ะดั้ยตะหาก)
“นะ........นายแอบแต๊ะอั๋งชั้นหลายครั้งแล้วนะ!!”และแล้ว.....เสียงเล็กๆก็โวยขึ้นอีก
มือเล็กๆแอบปิดหน้าที่แดงก่ำของตัวเองขณะพูด
แหม.......เป็นผู้ชายซะป่าว.......โดนแต๊ะอั๋งแบบนี้ไม่ดีเอาซะเลย......>////<
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งชั้น.......”แต่แล้ว....ก็โดนสุรเสียงวางอำนาจตอกกลับแบบไม่ตั้งตัว
“ไม่มีสิทธิ์สั่งนาย!! ตะ....แต่ว่า......ชั้นก็มีสิทธิ์ในตัวชั้นเองเฟ้ย!!”
ฮารุเซะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ไม่มีใบ แล้ววางร่างบางลงบนตักของตัวเองอย่างถือสิทธิ์ แถมเอามือโอบไว้รอบเอวเซสึนะหน้าตาเฉย
เซสึนะทีแรกเห็นมันนั่งแล้ว คิดว่าตัวเองจะรอด(พ้นเงื้อมมือ) จะขยับตัวไปนั่งใกล้ๆแถวนั้น ก็ไม่วายถูกดึงกลับไปอีกจนได้
นัยน์ตาสีแดงประสานเข้ากับนัยน์ตาชาของอีกฝ่ายอย่างอดไม่ได้
.....ก็เล่นอยู่ใกล้กันซะขนาดนี้เนี่ย......
“อ๊ะ”
“ชั้นยังไม่ได้ทำอะไร”
“ป่าว.......”เซสึนะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำให้ฮารุเซะแอบงงนิดหน่อย(ปกติมันเคยแต่กระโดดหนี)
“...................อะไร”
“ทำไม........ดวงตาของนาย.......มันถึงได้เย็นชาขนาดนี้ล่ะ?”
?
เซสึนะหลุดปากถามอะไรแปลกๆออกไปโดยไม่ได้คิด
มีหลายต่อหลายคน.......ที่บอกว่าดวงตาของเซสึนะสวย เพียงแต่มันดูกร้าวไปนิด นั่นเพราะเขาไม่เคยพบเจอความอบอุ่นที่แท้จริง......หากแม้นได้สัมผัสกับสิ่งที่ขาดหายไป มันจะเป็นดวงตาที่สวยที่สุด.........
แต่ดวงตาของฮารุเซะ...............กลับดูมืดมน........เย็นชา.......ราวกับว่า.....มันจะไม่สามารถกลับมาส่องประกายได้อีกแล้ว.........
นิ้วเรียวเล็กไล่ไปตามดวงตาคมคู่นั้นอย่างเผลอตัว
ยิ่งได้สัมผัสใกล้ๆ..........ยิ่งรู้สึกว่ามันเศร้าเหลือเกิน.........
แต่สายตาคมยังคงจดจ้องมองตาของเซสึนะไม่ไหวติง แววตานั้นยังคงเหมือนเดิม นั่นทำให้สติของเซสึนะกลับคืนมา........................
“ขอโทษที.......อ้ะ”ร่างบางถูกร่างสูงประกบริมฝีปากร้อนลงมาอย่างแผ่วเบา แต่ร้อนแรง......แล้วค่อยๆถอนออกช้าๆ
“ไม่โวยวายอีกหรือไง”
เซสึนะส่ายหน้าช้าๆ.......ขี้เกียจโวยแล้ว......เหนื่อยตายชัก แถมโวยไปก็เหนื่อยเปล่า......
“นี่..........นายเป็นใครหรอ?”
“............อะไร”
“ชั้นหมายความว่า.......นายเป็นใคร.......ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ที่นี่น่ะ?”
“............................”
“.........”
“.............................................................”
“ท่าทางจะไม่อยากเล่าล่ะสิ..........งั้นชั้นจะเล่าเรื่องของชั้นก่อนก็ได้.......เชอะ”เซสึนะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
.......ทำไมจู่ๆเราถึงอยากเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นฟังนะ?........
.......มันรู้สึกอยากจะระบายให้ใครซักคนได้ฟัง.......บ้าง......
“ชั้นน่ะ.......เป็นแค่เด็กที่โดนทิ้งไว้ที่บ้านเด็กกำพร้าแถวย่านคนจนเท่านั้นแหละ...... 10 กว่าปีมานี่ไม่เคยมีสมบัติอะไรกับเค้าหรอก.....พ่อแม่พี่น้องอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้.......มีแต่หนังสือเป็นเพื่อน แล้วก็นี่........”นิ้วเรียวเล็กดึงสร้อยออกมาจากเสื้อ
จี้คริสตัลทรงปริซึมแปดเหลี่ยม มีน้ำสีฟ้าสวยอยู่ภายใน ขนาดเล็กกะทัดรัด
สำหรับคนอื่น......มันคงไม่มีค่าอะไร......แต่มันมีค่ามากที่สุดสำหรับเซสึนะ..................
ฮารุเซะเผลอมองมันอย่างอดไม่ได้
“เรื่องของชั้นมันก็มีแค่นี้แหละ.....ตานายเล่าบ้างแล้วล่ะ ไม่งั้นจะถือว่านายขึ้โกงนะ!!” เซสึนะเก็บสร้อยกลับที่เดิม แล้วชี้นิ้วขึ้นตั้งไปที่ฮารุเซะ
แต่ร่างสูงกลับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“เรื่องมันยาว”
“ชั้นก็ไม่ได้รีบไปไหนนี่!!”เซสึนะทำท่าตั้งแขนขึ้น ทำหน้าตาจริงจังราวกับอยากฟังถ้อยคำที่ออกมาจากปากของฮารุเซะใจจะขาด
“หึ”ฮารุเซะเผยยิ้มน้อยๆออกมาที่มุมปาก รอยยิ้มนี้เล่นเอาเซสึนะงงเป็นไก่ตาแตก เพราะไม่เคยเห็นมันยิ้มเป็นธรรมชาติแบบนี้มาก่อน......
“อะไรเล่า”
พรึ่บ!
จู่ๆร่างสูงก็ซุกหน้าลงมาที่ซอกคอขาวๆของเซสึนะ วงแขนใหญ่โอบรัดร่างบางๆเอาไว้แน่น
“นะ.........นี่!! >///< ทำอะไรน่ะ!!”
“ชั้นไม่มีครอบครัว”
“......................................”
“แต่มีคนเก็บชั้นมาเลี้ยง........................จากที่เคยอดอยาก อยู่ตามซอกหลืบของเมืองใหญ่..........เค้าเป็นคนแรกที่ช่วยเหลือชั้นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน..........”
“ดีจังนะ.......”เซสึนะยิ้มให้น้อยๆ
“แต่............”
“?”ร่างสูงนิ่งเงียบไปอึดใจ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อ......
หมับ!
เซสึนะโผกอดคอร่างสูงตรงหน้า มือเล็กๆนั้นสั่นเทา ใบหน้าขาวๆซุกอยู่กับหน้าอกกว้าง(แหงสิ มันเตี้ยนี่หว่า ฮ่าๆๆๆ)
“คะ........เคยอ่านในหนังสือน่ะ.....บะ.......แบบว่า ถ้าจะปลอบใจเค้าก็ทำกันแบบนี้ไม่ใช่หรอ?”เสียงเล็กๆอ้ำอึ้ง หลับตาปี๋ หน้าแดงก่ำ อีแบบนี้ท่าทางกำลังเขินอยู่แน่ๆ.......
แปะ
มือใหญ่ลูบผมสีแดงสวยนี้เบาๆ
ทำไมถึงได้น่ารักแบบนี้นะ?
.........
.................ใช่แล้ว....ถึงมันจะเศร้าเพียงไร แต่น้ำตา......จะไม่มีวันไหลออกมาเด็ดขาด.....
หือ?
แต่แล้ว....ร่างสูงก็สัมผัสได้ถึงความชื้นบนเสื้อจากร่างบาง
“ร้องให้?”
“ฮึก....ฮึก......”
“ร้องทำไม?”มือใหญ่เชยคางมนขึ้นมองหน้าตน นัยน์สีแดงสวยเอ่อล้นไปด้วยน้ำเจิ่งนองไม่ขาดสาย
“ขะ.......ขอโทษนะ......ถึงนายมันจะน่าหมั่นไส้......ขี้เต๊ะ.......ทุเรศ......เกลียดนาย.....ฮือฮือ.......ไอบ้า.......แต่ว่า......ทำไมนายน่าสงสารแบบนี้นะ........”ฮารุเซะหรี่ตามอง คนที่ควรจะร้องคือเขาไหงกลับทำให้เซสึนะร้องไปได้เล่า?
แถมฟังมันพูด......จะด่ารึจะขอบคุณมันดีวะ.......
“ฮึก......”แล้วเซสึนะก็ซบหน้าลงกับอกกว้างอีกครั้ง แถมยังนั่งร้องให้ต่อจนหลับปุ๋ย
ฮารุเซะไม่ได้ทำสิ่งใด.....นอกจากโอบกอดไว้อย่างแนบแน่น แล้วจุมพิตแสนแผ่วเบา........
เขาไม่หลับ......
ไม่สิ........หลับไม่ได้......ถ้าเกิดอะไรขึ้นตอนหลับคงแย่........
ชั้นจะไม่ให้ใครมาแตะต้องนายได้อีก......เซสึนะ..............เพราะนายเป็นของชั้น.......
เป็น ‘สมบัติ’ ล้ำค่าของชั้น.......คนเดียว.........
ฉับพลัน......แสงสว่างวาบก็บังเกิดขึ้นเบื้องหน้าของเขาและร่างบาง
แสงสว่างเจิดจ้า.......แต่ไม่แสบตา และอบอุ่น..........มีเงารางๆอยู่ท่ามกลางแสงสีขาวนั้น
พร้อมๆกับเสียง......ที่ดังขึ้นในหัวของเขา
“ซารุนารุ ฮารุเซะ และยูระ เซสึนะ ผ่านการทดสอบระดับ Platinum”
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
หวัดดีค้าฟ~~
กระผมอีฟเองขอรับ ให้รอนานไปรึป่าวฮับ?
เมื่อคืนเพิ่งครบนี่นา วันนี้เรยมาลงหั้ยเร้ยน่อ~~
ร้ากส์ ผู้อ่านทุกท่าน~~
กลับจากภูเก็ตได้หลายวันแล้วเนี่ย อยากให้ทุกคนลองเข้าไปอ่านในไดอารี่นะคะ
ถึงจะไม่มีรูปแต่บรรยายไว้น่าจะนึกภาพออก
ตอนนี้กะลังบ้า Eyesheil 21 อยู่ค่ะ หุๆๆๆ
อยากแต่งฟิคคู่ ชินกะเซนะ จะมีคนอ่านมั๊ยเนี่ย??
ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นๆๆๆ
วันจันทร์อีฟก็เปิดเทอมแล้วล่ะ แต่จะพยายามนะคะ มาลงให้เร็วที่สุด
สำหรับครั้งนี้ ก็เอาเป็นเลขถ้วนๆละกันค่ะ
360 คอมเม้นค่ะ
สำหรับระยะเวลาคิดว่าน่าจะพอสำหรับการแต่งตอนต่อไปค่ะ
หุๆๆๆ ขอให้โชคดีค่ะ
ปล.ว่าแต่ เซสึนะนี่น่าจับกดชะมัด
ความคิดเห็น