ตอนที่ 9 : 2
ไม่ได้คิดมากเกินไปกว่านี้จริงๆ นะ และก็เพราะเหตุมันจำเป็นจริงๆ .. ไม่ทันคิดอะไรในเรื่องชายหญิงหรอก
บ้านไร่ติดกัน ในยามเป็นเด็ก กัษษากรยังเคยมาวิ่งเล่นหลับไหลข้ามวันข้ามคืนที่นี่บ่อยๆ ราวกับเป็นบ้านหลังที่สองของตนเสียด้วยซ้ำ … มันจึงทำให้เธอพยักหน้า
ดังนั้นในค่ำวันถัดมา คุณลุงหนุ่มใหญ่หล่อล้ำกับหลานสาวคนสวยจึงได้หัวจู้ อ่านเอกสาร แปลงาน ร่างจดหมายกันอยู่ดูสนุกสนานกับการเคร่งเครียด
พองานด้านเอกสารเริ่มคล่องๆ กัษษากรก็ได้ลงภาคสนาม จนกระทั่งได้หอบเอกสาร คาบพาสปอร์ตติดตามคุณลุงไปเซ็นสัญญายังต่างประเทศ
ข้อตกลงทั้งหมดเป็นไปตามที่นครินทร์คาดหวัง เขาจึงได้สบายใจและอารมณ์ดีมาก จึงชวนกัษษากรไปฉลอง ดินเนอร์หรูและไปเต้นรำกันในคลับดังที่ตั้งอยู่ใต้โรงแรมที่ทั้งคู่เข้าพักกันนั่นแหละ
ค่ำนั้นนางฟ้าน้อยๆ ของเขาช่างสวย สง่า เซ็กซี่และดูดีเสียจนแม้แต่หนุ่มฝรั่ง และหนุ่มเอเซียเหลียวมองกันคอแทบจะหัก
เขาเองก็สีจะกรึ่มๆ เพราะดื่มแชมเปญที่เปิดขวดมาฉลองสัญญาไปซะตั้งหลายแก้ว พอก้าวออกไปเต้นรำกับสาวน้อยสุดสวย ผิวขาวผ่องตัดฉับกับชุดราตรีสั้นสีดำเนื้อผ้ากำมะหยี่เนื้อดี
ผิวของกัษษากรนั้นขาว เนียน ผุดผ่อง ไร้สิวฝ้าใดๆ เกะกะสายตา ยกเว้นเสียจากว่า เจ้าไฝเม็ดกระจิ๋วที่ผุดขึ้นอยู่ใกล้มุมปากเธอที่เดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้สิ ที่เจ้าสายตาเยิ้มฉ่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ของเชมเปญมันกำลังจับจ้องมองอยู่ที่นั่น ราวกับมันคือสิ่งมหัศจรรย์ที่น่าหลงใหลและเขาใคร่จะพิสูจน์
กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่เธอเลือกใช้ก็ยั่วใจเขาชะมัด!!
กำลังจะเคลิ้มจนเกือบจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ .. จู่ๆ ก็...
"คุณลุงขา ซูกัสว่า พอจบเพลงนี้แล้วเรากลับขึ้นข้างบนกันเถอะนะคะ … พรุ่งนี้เรามีเที่ยวบินเช้า"
เจ้าของไฝดูท่าทางจะประหม่า ตัวสั่นนิดๆ และเสียงนั่นมันเหมือนระฆังจากกวางน้อย ที่ตบหน้าเรียกสติของราชสีห์หิวเหยื่ออย่างเขาให้ตื่นจากภวังค์ได้อย่างชะงัดดีนัก!!
‘คุณลุง’ … ถึงกับผงะถอย
ระยำ!! นี่เขากำลังคิดจะทำอะไร?
หรือเป็นเพราะเขาห่างหายจากผู้หญิงมานาน?
อืมมม … น่าจะใช่ สงสัยคงเป็นเช่นนั้นแหละ เพราะตั้งแต่ผู้ช่วยคนเก่าลาออกไป มันก็เป็นช่วงจังหวะที่เขายุ่งวุ่นวายกับงานเอกสาร จนกระทั่งกัษษากรเข้ามา เขาก็ต้องสอนให้เธอเรียนรู้ ยุ่งซะจนลืมเรื่องพวกนี้ไปเสียสนิท
กลับไปนี่ เขาคงต้องโทรฯหาเอเย่นต์ซะหน่อยแล้วมัง!

แลนโรเวอร์ล้อโตที่แล่นฝุ่นฟุ้งมาจอดรออยู่กลางไร่ ทำให้กัษษากรโหนตัวขึ้นไปนั่งคู่คนขับ อากาศมันร้อนจัดมากๆ แม้ว่ายามนี้พระอาทิตย์ก็แทบกำลังจะตกดินอยู่มะลอมมะล่อ
เผลอตัวยื่นหน้าไปจ่อแอร์ ขยับสาบอกเสื้อพรึบพรับๆ ให้มันเผยอรับลมแอร์ที่เปิดอยู่เย็นฉ่ำ
นครินทร์ที่กำลังจะหันยิ้มให้อย่างเอ็นดู แต่แล้วก็ชะงักกึก!! จากนั้นก็ค่อยๆ หันหนี … เสมองนอกหน้าต่าง
เพื่อที่จะแอบลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ไปซะแทน ..
อาจด้วยความไว้ใจ หรือความเคยชินบวกกับที่เธอนับถือนักหนาว่าเขาคือคุณลุงสุดที่รัก จึงเผลอไผลวางตัวสบายๆ ไม่ทันระมัดระวังกิริยา … ผลจึงปรากฏว่า พอพ่อเลี้ยงหล้าหันมาเห็นในจังหวะที่เธอดึงเสื้อ เพื่อให้มีช่องว่างให้ลมแอร์มันจ่อโดนผิวกายให้ได้มากที่สุด
พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่จึงได้เกิดอาการนั่งตัวแข็ง กับภาพเนินหน้าอกอวบขาววับๆ แวมๆ ชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆ ตั้งสติทำใจเคลื่อนตัวออกรถออกไปช้าๆ
กลิ่นเหงื่อและกลิ่นสาบสาว ดูเหมือนมันจะตลบ อวลฟุ้งไปทั่วรถ และเขาก็ยังคงรู้สึกแปลกๆ ร่างกายมันเริ่มตื่นตัว นครินทร์เองเคยได้อยู่ใกล้ชิดสาวน้อยคนนี้มานานนัก แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
กัษษากรยังคงทำเช่นนั้นอยู่นาน โดยที่ยังมีสายตาของคุณลุงหนุ่มแอบเหลือบมองภาพนั้นเป็นระยะๆ
ค่ำนี้ บังเอิญมีสายด่วนคำสั่งซื้อจากต่างประเทศตรงเข้ามาหาเขา และขอให้เขาช่วยร่างข้อตกลงนี้ด่วน
กัษษากรจึงได้ทำหน้าที่นี้ และมันมีการต่อรองเจรจากันอีกพักใหญ่ๆ จากนั้นเธอก็ลงมือร่างจดหมาย
ดึกดื่นมากมาย เขาและเธอต่างทั้งเหนื่อยเพลียมากจนแทบจะสลบ คืนนี้พ่อเลี้ยงจึงขับรถข้ามไร่ไปส่งเธอไม่ไหว เพราะเขาไม่อนุญาตให้กัษษากร ไปไหนมาไหนดึกดื่นค่ำมืดเองคนเดียวซะด้วยสิ ยิ่งมารู้ด้วยว่าคืนนี้สาวน้อยคนนี้ต้องอยู่บ้านกับแม่นวลและนายแม้น คู่สามีภรรยาแก่ๆ ผู้ที่ก็คงจะไปดูแลใครไม่ไหว และทั้งที่ไร่นี้มันเป็นของเขา รู้ดีว่าไม่มีใครกล้าที่จะมาทำร้ายคนของเขาได้หรอก หากแต่พ่อเลี้ยงหล้าก็ไม่ยอมไว้ใจใคร
กัษษากรสวย หวาน น่ารักน่าใคร่ขนาดนี้ เขาจึงกลัวว่าความสวยของเธอจะนำภัยมาให้โดยใช่เหตุ และนั้นมันจึงเป็นเหตุผลได้ว่าทำไมเขาจึงได้ทั้งหวงทั้งห่วง หลานสาวคนนี้ซะยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ และหวงมากกว่าพ่อแม่แท้ๆ ของเธอเองซะอีกสิ!!
ไม่ได้คิดมากเกินไปกว่านี้จริงๆ นะ และก็เพราะเหตุมันจำเป็นจริงๆ .. ไม่ทันคิดอะไรในเรื่องชายหญิงหรอก
บ้านไร่ติดกัน ในยามเป็นเด็ก กัษษากรยังเคยมาวิ่งเล่นหลับไหลข้ามวันข้ามคืนที่นี่บ่อยๆ ราวกับเป็นบ้านหลังที่สองของตนเสียด้วยซ้ำ … มันจึงทำให้เธอพยักหน้า
ดังนั้นในค่ำวันถัดมา คุณลุงหนุ่มใหญ่หล่อล้ำกับหลานสาวคนสวยจึงได้หัวจู้ อ่านเอกสาร แปลงาน ร่างจดหมายกันอยู่ดูสนุกสนานกับการเคร่งเครียด
พองานด้านเอกสารเริ่มคล่องๆ กัษษากรก็ได้ลงภาคสนาม จนกระทั่งได้หอบเอกสาร คาบพาสปอร์ตติดตามคุณลุงไปเซ็นสัญญายังต่างประเทศ
ข้อตกลงทั้งหมดเป็นไปตามที่นครินทร์คาดหวัง เขาจึงได้สบายใจและอารมณ์ดีมาก จึงชวนกัษษากรไปฉลอง ดินเนอร์หรูและไปเต้นรำกันในคลับดังที่ตั้งอยู่ใต้โรงแรมที่ทั้งคู่เข้าพักกันนั่นแหละ
ค่ำนั้นนางฟ้าน้อยๆ ของเขาช่างสวย สง่า เซ็กซี่และดูดีเสียจนแม้แต่หนุ่มฝรั่ง และหนุ่มเอเซียเหลียวมองกันคอแทบจะหัก
เขาเองก็สีจะกรึ่มๆ เพราะดื่มแชมเปญที่เปิดขวดมาฉลองสัญญาไปซะตั้งหลายแก้ว พอก้าวออกไปเต้นรำกับสาวน้อยสุดสวย ผิวขาวผ่องตัดฉับกับชุดราตรีสั้นสีดำเนื้อผ้ากำมะหยี่เนื้อดี
ผิวของกัษษากรนั้นขาว เนียน ผุดผ่อง ไร้สิวฝ้าใดๆ เกะกะสายตา ยกเว้นเสียจากว่า เจ้าไฝเม็ดกระจิ๋วที่ผุดขึ้นอยู่ใกล้มุมปากเธอที่เดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้สิ ที่เจ้าสายตาเยิ้มฉ่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ของเชมเปญมันกำลังจับจ้องมองอยู่ที่นั่น ราวกับมันคือสิ่งมหัศจรรย์ที่น่าหลงใหลและเขาใคร่จะพิสูจน์
กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่เธอเลือกใช้ก็ยั่วใจเขาชะมัด!!
กำลังจะเคลิ้มจนเกือบจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ .. จู่ๆ ก็...
"คุณลุงขา ซูกัสว่า พอจบเพลงนี้แล้วเรากลับขึ้นข้างบนกันเถอะนะคะ … พรุ่งนี้เรามีเที่ยวบินเช้า"
เจ้าของไฝดูท่าทางจะประหม่า ตัวสั่นนิดๆ และเสียงนั่นมันเหมือนระฆังจากกวางน้อย ที่ตบหน้าเรียกสติของราชสีห์หิวเหยื่ออย่างเขาให้ตื่นจากภวังค์ได้อย่างชะงัดดีนัก!!
‘คุณลุง’ … ถึงกับผงะถอย
ระยำ!! นี่เขากำลังคิดจะทำอะไร?
หรือเป็นเพราะเขาห่างหายจากผู้หญิงมานาน?
อืมมม … น่าจะใช่ สงสัยคงเป็นเช่นนั้นแหละ เพราะตั้งแต่ผู้ช่วยคนเก่าลาออกไป มันก็เป็นช่วงจังหวะที่เขายุ่งวุ่นวายกับงานเอกสาร จนกระทั่งกัษษากรเข้ามา เขาก็ต้องสอนให้เธอเรียนรู้ ยุ่งซะจนลืมเรื่องพวกนี้ไปเสียสนิท
กลับไปนี่ เขาคงต้องโทรฯหาเอเย่นต์ซะหน่อยแล้วมัง!
แลนโรเวอร์ล้อโตที่แล่นฝุ่นฟุ้งมาจอดรออยู่กลางไร่ ทำให้กัษษากรโหนตัวขึ้นไปนั่งคู่คนขับ อากาศมันร้อนจัดมากๆ แม้ว่ายามนี้พระอาทิตย์ก็แทบกำลังจะตกดินอยู่มะลอมมะล่อ
เผลอตัวยื่นหน้าไปจ่อแอร์ ขยับสาบอกเสื้อพรึบพรับๆ ให้มันเผยอรับลมแอร์ที่เปิดอยู่เย็นฉ่ำ
นครินทร์ที่กำลังจะหันยิ้มให้อย่างเอ็นดู แต่แล้วก็ชะงักกึก!! จากนั้นก็ค่อยๆ หันหนี … เสมองนอกหน้าต่าง
เพื่อที่จะแอบลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ไปซะแทน ..
อาจด้วยความไว้ใจ หรือความเคยชินบวกกับที่เธอนับถือนักหนาว่าเขาคือคุณลุงสุดที่รัก จึงเผลอไผลวางตัวสบายๆ ไม่ทันระมัดระวังกิริยา … ผลจึงปรากฏว่า พอพ่อเลี้ยงหล้าหันมาเห็นในจังหวะที่เธอดึงเสื้อ เพื่อให้มีช่องว่างให้ลมแอร์มันจ่อโดนผิวกายให้ได้มากที่สุด
พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่จึงได้เกิดอาการนั่งตัวแข็ง กับภาพเนินหน้าอกอวบขาววับๆ แวมๆ ชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆ ตั้งสติทำใจเคลื่อนตัวออกรถออกไปช้าๆ
กลิ่นเหงื่อและกลิ่นสาบสาว ดูเหมือนมันจะตลบ อวลฟุ้งไปทั่วรถ และเขาก็ยังคงรู้สึกแปลกๆ ร่างกายมันเริ่มตื่นตัว นครินทร์เองเคยได้อยู่ใกล้ชิดสาวน้อยคนนี้มานานนัก แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
กัษษากรยังคงทำเช่นนั้นอยู่นาน โดยที่ยังมีสายตาของคุณลุงหนุ่มแอบเหลือบมองภาพนั้นเป็นระยะๆ
ค่ำนี้ บังเอิญมีสายด่วนคำสั่งซื้อจากต่างประเทศตรงเข้ามาหาเขา และขอให้เขาช่วยร่างข้อตกลงนี้ด่วน
กัษษากรจึงได้ทำหน้าที่นี้ และมันมีการต่อรองเจรจากันอีกพักใหญ่ๆ จากนั้นเธอก็ลงมือร่างจดหมาย
ดึกดื่นมากมาย เขาและเธอต่างทั้งเหนื่อยเพลียมากจนแทบจะสลบ คืนนี้พ่อเลี้ยงจึงขับรถข้ามไร่ไปส่งเธอไม่ไหว เพราะเขาไม่อนุญาตให้กัษษากร ไปไหนมาไหนดึกดื่นค่ำมืดเองคนเดียวซะด้วยสิ ยิ่งมารู้ด้วยว่าคืนนี้สาวน้อยคนนี้ต้องอยู่บ้านกับแม่นวลและนายแม้น คู่สามีภรรยาแก่ๆ ผู้ที่ก็คงจะไปดูแลใครไม่ไหว และทั้งที่ไร่นี้มันเป็นของเขา รู้ดีว่าไม่มีใครกล้าที่จะมาทำร้ายคนของเขาได้หรอก หากแต่พ่อเลี้ยงหล้าก็ไม่ยอมไว้ใจใคร
กัษษากรสวย หวาน น่ารักน่าใคร่ขนาดนี้ เขาจึงกลัวว่าความสวยของเธอจะนำภัยมาให้โดยใช่เหตุ และนั้นมันจึงเป็นเหตุผลได้ว่าทำไมเขาจึงได้ทั้งหวงทั้งห่วง หลานสาวคนนี้ซะยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ และหวงมากกว่าพ่อแม่แท้ๆ ของเธอเองซะอีกสิ!!
บทที่ 2
"ลุงสั่งมะขิ่นเปิดห้องทางปีกขวาให้ .. คืนนี้นอนนี่นะ"
สั่งเสร็จก็เดินหาวนำไป ด้วยความที่ตอนเด็กๆ เธอเคยเล่นเกาะเอวเขาเหมือนงูกินหาง เดินตาปรือเพราะความง่วงงุนแบบสุดๆ จนแทบจะเดินเองไม่ไหว ต้องอาศัยให้เขาลากจูงไป
นครินทร์ก้มหน้าหันมายิ้มให้อย่างเอื้อเอ็นดู

เช้านี้เป็นวันหยุด พ่อเลี้ยงหล้าตื่นขึ้นมาก็เดินเข้ามานั่งไขว้ห้าง พิงพนักท้าวคางอ่านข่าวจากคอมพิวเตอร์แบบพกพา เครื่องเล็กๆ รอหลานสาวอยู่ที่ระเบียงรับลมริมสระปลาคาร์ฟ
"คุณหนูซูกัสของมะขิ่นยังไม่ลงมาอีกหรือ?"
"ลงมารอบนึ่งแล้วละค่ะ มาเตรียมอาหารเช้าให้พ่อเลี้ยงเสร็จแล้วก็เพิ่งจะขึ้นไปอาบน้ำครู่นี้" สาวใช้รายงานตอนนำกาแฟเครื่องดื่มสุดโปรดเจ้านายมาเสริฟ
"พ่อเลี้ยงจะรับมื้อเช้าเลยไหมคะ?"
"ไม่ล่ะ จะรอเขา มะขิ่นมีอะไรจะไปทำก็ไปเถอะ"
พูดจบก็ก้มหน้าก้มตาอ่านข่าวของเขาต่อ

"ทำงานยุ่งๆ มาเบื่อหรือเปล่า? เสร็จร่างจดหมายฉบับนี้ลุงก็ว่างแล้ว เดี๋ยวเราไปเดินเล่นที่ห้างในเมืองแก้เครียดกันดีไหม ได้ข่าวด้วยว่ามีโปรแกรมหนังมาใหม่ๆ หลายเรื่องด้วยสิ"
พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นมากลางโต๊ะอาหารมื้อกลางวัน ที่ต้องนำมากินในห้องทำงานวันนี้ กัษษากรเงยหน้ามายิ้มให้ดีใจราวเด็กหญิงตัวเล็กๆ ในอดีต
"เลี้ยงข้าวมื้อค่ำหรูๆ ซูกัสด้วยใช่ไหม?"
"ได้คืบจะเอาศอกตลอดเลยนะเรานี่"
"ลุงสั่งมะขิ่นเปิดห้องทางปีกขวาให้ .. คืนนี้นอนนี่นะ"
สั่งเสร็จก็เดินหาวนำไป ด้วยความที่ตอนเด็กๆ เธอเคยเล่นเกาะเอวเขาเหมือนงูกินหาง เดินตาปรือเพราะความง่วงงุนแบบสุดๆ จนแทบจะเดินเองไม่ไหว ต้องอาศัยให้เขาลากจูงไป
นครินทร์ก้มหน้าหันมายิ้มให้อย่างเอื้อเอ็นดู
เช้านี้เป็นวันหยุด พ่อเลี้ยงหล้าตื่นขึ้นมาก็เดินเข้ามานั่งไขว้ห้าง พิงพนักท้าวคางอ่านข่าวจากคอมพิวเตอร์แบบพกพา เครื่องเล็กๆ รอหลานสาวอยู่ที่ระเบียงรับลมริมสระปลาคาร์ฟ
"คุณหนูซูกัสของมะขิ่นยังไม่ลงมาอีกหรือ?"
"ลงมารอบนึ่งแล้วละค่ะ มาเตรียมอาหารเช้าให้พ่อเลี้ยงเสร็จแล้วก็เพิ่งจะขึ้นไปอาบน้ำครู่นี้" สาวใช้รายงานตอนนำกาแฟเครื่องดื่มสุดโปรดเจ้านายมาเสริฟ
"พ่อเลี้ยงจะรับมื้อเช้าเลยไหมคะ?"
"ไม่ล่ะ จะรอเขา มะขิ่นมีอะไรจะไปทำก็ไปเถอะ"
พูดจบก็ก้มหน้าก้มตาอ่านข่าวของเขาต่อ
"ทำงานยุ่งๆ มาเบื่อหรือเปล่า? เสร็จร่างจดหมายฉบับนี้ลุงก็ว่างแล้ว เดี๋ยวเราไปเดินเล่นที่ห้างในเมืองแก้เครียดกันดีไหม ได้ข่าวด้วยว่ามีโปรแกรมหนังมาใหม่ๆ หลายเรื่องด้วยสิ"
พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นมากลางโต๊ะอาหารมื้อกลางวัน ที่ต้องนำมากินในห้องทำงานวันนี้ กัษษากรเงยหน้ามายิ้มให้ดีใจราวเด็กหญิงตัวเล็กๆ ในอดีต
"เลี้ยงข้าวมื้อค่ำหรูๆ ซูกัสด้วยใช่ไหม?"
"ได้คืบจะเอาศอกตลอดเลยนะเรานี่"
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
