ตอนที่ 14 : 3
บทที่ 3
พอรู้สึกถึงแรงดูดดึงแรงๆ อีกครั้งจากที่ดิ้นรนๆ คนใต้ร่างก็เริ่มระทวย สุดท้ายร่างสวยสมส่วนก็..แอ่น บิดตัวอย่างสุดที่จะกั้นอารมณ์ตนเอาไว้ได้ไหว จากนั้นเสียงหวานก็ระรัวคราง .. ราวกับวิญญาณกำลังจะหลุดออกจากร่างซะให้ได้
[อุ๊ย!! NC เข้มข้นค่ะ ❌ ขอข้าม..ติดตามไปโหลดอ่านได้ที่เล่มเต็มนร้า~~]
"ว่าไง? ไอ้เสือ … ทำไมพักนี้ท่าทางนายดูแย่จังเลยว่ะ .. ไฟ"
ศิลา ถอดสูทตัวนอกพาดลงบนเก้าอี้ก่อนจะเดินตรงไปยังมินิบาร์ที่มีไว้ภายในห้องทำงาน เปิดขวดวิสกี้ รินนำสีอำพันเหลืองทองนั่นแล้วยื่นแก้วส่งให้เพื่อนก่อนหันไปรินอีกแก้วให้แก่ตนเอง
"แวะมาบอกนายว่าฉันจะลาพักร้อน"
"พักร้อนได้ไงวะ นี่มันจะฤดูหนาวแล้ว"
เจ้าของห้องแกล้งทำมึน
"มันหนาวซะที่ไหนล่ะ ร้อนจนตับจะแลบแล้วนี่"
คนอยากจะพักหงุดหงิด
"จะไปพักกับสาวสวยคนไหน?"
เพื่อนสนิทยังคงตีมึนไม่รู้ไม่ชี้ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ แต่ยักคิ้วแกล้งกวนคนที่นั่งหน้าเครียดผมเผ้ายุ่งหนวดเคราเขียวครึ้มราวคนที่ลืมโกน
"ไม่ต้องห่วงไปหรอกน่ะ ฉันคงไม่คิดจะเหมาเอาไปหมดทั้งคลับนั่นหรอก เดี๋ยวจะเหลือยุวเรศกับพิจิกาไว้ให้นายกับนายดินด้วยก็แล้วกัน"
"ปากหมาล่ะนาย อย่ามาพูดอย่างนี้ให้ยัยมันแกวของฉันได้ยินเชียวนะ" ศิลาขยับตัวรีบหันไปมองประตูอย่างหวาดระแวงว่าหญิงเจ้าของชื่อที่เขาเอ่ย จะโผล่หน้าเข้ามาได้ในนาทีใดนาทีหนึ่ง
"คนมีเมียแล้วต้องเป็นแบบนี้กันทุกคนเลยหรือ?"
อัคนีทำเสียงเยาะ
"หรือว่านายไม่เป็น?" ศิลาย้อนกลับเอาบ้าง
"ฉันไม่ได้มีเมีย!!"
กระแทกเสียงเข้มราวกับเรื่องนี้ดูจะเป็นหัวข้อที่ทำให้น่าโมโห
"เออ! รู้แล้ว!! .. ไอ้คนกำพร้าเมีย ดุอย่างกะหมาอย่างนี้ จะมีผู้หญิงดีๆ ที่ไหนเขาจะอยากยอมรับเอามาเป็นผัวเขาล่ะ"
จิบเหล้ายักคิ้วล้อเพื่อนให้เห็นๆ กันอีกหน
อัคนีวางแก้วที่เพิ่งสาดเข้าคอซวบ .. หมดแก้วภายในรวดเดียวแล้วยืดร่างยืนขึ้น เจ้าของห้องจึงชิงทักขึ้นอีก
"มิสเตอร์อลันมาเมื่อคราวก่อนเขาถามหานาย"
"ตาเฒ่านั่นโทรมาตามให้ฉันไปหา ฉันถึงได้อุตส่าห์ลดเกียริตตัวเองมาบอกว่าจะลางานกะนายนี่ไง"
"อ้าว .. ง้าน..หรอกหรอ?" น้ำเสียงเป็นคำถามทำไม่รู้ไม่ชี้อีกคราวแต่แววตาคน 'อ้าว..หรอ' เปล่งประกายดูขำขัน
"เอางั้นก็ได้! งั้นก็ขอให้เที่ยวกันอย่างสนุกๆ สุขสมหวังก็แล้วกัน"
ยังจะทำเสียงกำกวมได้อีก … คนฟังซักเริ่มขมวดคิ้ว
"นายกับตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นั่นมีแผนพิเรนทร์ๆ อะไรจะเล่นงานฉันกันอยู่หรือเปล่า?" เขม่นตาถาม
"เปล๊า!! ... ไม่มี๊" เสียงสูง
อัคนีหรี่ตา ยืดตัวเต็มความสูงอีกครั้งและทำหน้าเหมือนจะไม่ยอมเชื่อเพื่อนอยู่แล้ว แต่เขาขี้เกียจไล่ซักเอาความ
ช่วงนี้เขายิ่งเบื่อๆ เซ็งๆ
หันเดินออกจากห้อง แต่พอจะคว้าลูกบิดประตู มันก็ดันถูกผลักผลั๊วะ! เข้ามา … เพราะเกวลินนั้นนึกว่าเจ้าของห้องจะอยู่คนเดียวน่ะสิ
“อ้าว? เอ๊ะ!! อาไฟ! ขอโทษค่ะ มันแกวไม่..ทะ .. อ๊ะ!!”
ไม่ยักจะทันให้พูดจบ มาเฟียหน้าดุร่างเข้ม ตัวสูงเบ้อเร้อก็ตวัดหางตาไปยังคนที่ก้มหน้าเดินตามเพื่อนสนิทเข้ามาที่หลัง ก่อนจะเดินสวนพรวดร่างขาวบางระหงเจ้าของใบหน้าหวานสงบนั่นออกไปแบบแทบจะชน จนคนร่างเล็กนิสัยเรียบร้อบแทบจะกระโดดหลบหนีได้ไม่ทัน
-----
เกือบๆ 20 ชั่วโมงกว่าๆ แห่งการเดินทาง
หากแต่พออัคนีที่อุตส่าห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลแล้ว ยังต้องนั่งเรือข้ามเกาะเพื่อไปยังคฤหาสน์บนเกาะส่วนตัวของอลัน .. พ่อเลี้ยงของเขาที่จำต้องมาหัวเสียอีกครั้งที่พบว่าตาเฒ่าเจ้าเล่ห์เพทุบายนั่นดันบอกให้เขาขึ้นไปหาที่กระท่อมล่าสัตว์บนภูเขาอีกที โชคดีที่เขาชอบที่นั่น มันสงบแล้วก็เป็นส่วนตัวดีในแบบที่เขาชอบ หากแต่ในฤดูหนาวหิมะหนาเตอะตะขนาดนั้น .. ตาเฒ่าเจ้าเลห์นั่นจะชวนเขาไปล่าตัวอะไรกันฟร่ะ?
พอรู้สึกถึงแรงดูดดึงแรงๆ อีกครั้งจากที่ดิ้นรนๆ คนใต้ร่างก็เริ่มระทวย สุดท้ายร่างสวยสมส่วนก็..แอ่น บิดตัวอย่างสุดที่จะกั้นอารมณ์ตนเอาไว้ได้ไหว จากนั้นเสียงหวานก็ระรัวคราง .. ราวกับวิญญาณกำลังจะหลุดออกจากร่างซะให้ได้
[อุ๊ย!! NC เข้มข้นค่ะ ❌ ขอข้าม..ติดตามไปโหลดอ่านได้ที่เล่มเต็มนร้า~~]
"ว่าไง? ไอ้เสือ … ทำไมพักนี้ท่าทางนายดูแย่จังเลยว่ะ .. ไฟ"
ศิลา ถอดสูทตัวนอกพาดลงบนเก้าอี้ก่อนจะเดินตรงไปยังมินิบาร์ที่มีไว้ภายในห้องทำงาน เปิดขวดวิสกี้ รินนำสีอำพันเหลืองทองนั่นแล้วยื่นแก้วส่งให้เพื่อนก่อนหันไปรินอีกแก้วให้แก่ตนเอง
"แวะมาบอกนายว่าฉันจะลาพักร้อน"
"พักร้อนได้ไงวะ นี่มันจะฤดูหนาวแล้ว"
เจ้าของห้องแกล้งทำมึน
"มันหนาวซะที่ไหนล่ะ ร้อนจนตับจะแลบแล้วนี่"
คนอยากจะพักหงุดหงิด
"จะไปพักกับสาวสวยคนไหน?"
เพื่อนสนิทยังคงตีมึนไม่รู้ไม่ชี้ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ แต่ยักคิ้วแกล้งกวนคนที่นั่งหน้าเครียดผมเผ้ายุ่งหนวดเคราเขียวครึ้มราวคนที่ลืมโกน
"ไม่ต้องห่วงไปหรอกน่ะ ฉันคงไม่คิดจะเหมาเอาไปหมดทั้งคลับนั่นหรอก เดี๋ยวจะเหลือยุวเรศกับพิจิกาไว้ให้นายกับนายดินด้วยก็แล้วกัน"
"ปากหมาล่ะนาย อย่ามาพูดอย่างนี้ให้ยัยมันแกวของฉันได้ยินเชียวนะ" ศิลาขยับตัวรีบหันไปมองประตูอย่างหวาดระแวงว่าหญิงเจ้าของชื่อที่เขาเอ่ย จะโผล่หน้าเข้ามาได้ในนาทีใดนาทีหนึ่ง
"คนมีเมียแล้วต้องเป็นแบบนี้กันทุกคนเลยหรือ?"
อัคนีทำเสียงเยาะ
"หรือว่านายไม่เป็น?" ศิลาย้อนกลับเอาบ้าง
"ฉันไม่ได้มีเมีย!!"
กระแทกเสียงเข้มราวกับเรื่องนี้ดูจะเป็นหัวข้อที่ทำให้น่าโมโห
"เออ! รู้แล้ว!! .. ไอ้คนกำพร้าเมีย ดุอย่างกะหมาอย่างนี้ จะมีผู้หญิงดีๆ ที่ไหนเขาจะอยากยอมรับเอามาเป็นผัวเขาล่ะ"
จิบเหล้ายักคิ้วล้อเพื่อนให้เห็นๆ กันอีกหน
อัคนีวางแก้วที่เพิ่งสาดเข้าคอซวบ .. หมดแก้วภายในรวดเดียวแล้วยืดร่างยืนขึ้น เจ้าของห้องจึงชิงทักขึ้นอีก
"มิสเตอร์อลันมาเมื่อคราวก่อนเขาถามหานาย"
"ตาเฒ่านั่นโทรมาตามให้ฉันไปหา ฉันถึงได้อุตส่าห์ลดเกียริตตัวเองมาบอกว่าจะลางานกะนายนี่ไง"
"อ้าว .. ง้าน..หรอกหรอ?" น้ำเสียงเป็นคำถามทำไม่รู้ไม่ชี้อีกคราวแต่แววตาคน 'อ้าว..หรอ' เปล่งประกายดูขำขัน
"เอางั้นก็ได้! งั้นก็ขอให้เที่ยวกันอย่างสนุกๆ สุขสมหวังก็แล้วกัน"
ยังจะทำเสียงกำกวมได้อีก … คนฟังซักเริ่มขมวดคิ้ว
"นายกับตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นั่นมีแผนพิเรนทร์ๆ อะไรจะเล่นงานฉันกันอยู่หรือเปล่า?" เขม่นตาถาม
"เปล๊า!! ... ไม่มี๊" เสียงสูง
อัคนีหรี่ตา ยืดตัวเต็มความสูงอีกครั้งและทำหน้าเหมือนจะไม่ยอมเชื่อเพื่อนอยู่แล้ว แต่เขาขี้เกียจไล่ซักเอาความ
ช่วงนี้เขายิ่งเบื่อๆ เซ็งๆ
หันเดินออกจากห้อง แต่พอจะคว้าลูกบิดประตู มันก็ดันถูกผลักผลั๊วะ! เข้ามา … เพราะเกวลินนั้นนึกว่าเจ้าของห้องจะอยู่คนเดียวน่ะสิ
“อ้าว? เอ๊ะ!! อาไฟ! ขอโทษค่ะ มันแกวไม่..ทะ .. อ๊ะ!!”
ไม่ยักจะทันให้พูดจบ มาเฟียหน้าดุร่างเข้ม ตัวสูงเบ้อเร้อก็ตวัดหางตาไปยังคนที่ก้มหน้าเดินตามเพื่อนสนิทเข้ามาที่หลัง ก่อนจะเดินสวนพรวดร่างขาวบางระหงเจ้าของใบหน้าหวานสงบนั่นออกไปแบบแทบจะชน จนคนร่างเล็กนิสัยเรียบร้อบแทบจะกระโดดหลบหนีได้ไม่ทัน
-----
เกือบๆ 20 ชั่วโมงกว่าๆ แห่งการเดินทาง
หากแต่พออัคนีที่อุตส่าห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลแล้ว ยังต้องนั่งเรือข้ามเกาะเพื่อไปยังคฤหาสน์บนเกาะส่วนตัวของอลัน .. พ่อเลี้ยงของเขาที่จำต้องมาหัวเสียอีกครั้งที่พบว่าตาเฒ่าเจ้าเล่ห์เพทุบายนั่นดันบอกให้เขาขึ้นไปหาที่กระท่อมล่าสัตว์บนภูเขาอีกที โชคดีที่เขาชอบที่นั่น มันสงบแล้วก็เป็นส่วนตัวดีในแบบที่เขาชอบ หากแต่ในฤดูหนาวหิมะหนาเตอะตะขนาดนั้น .. ตาเฒ่าเจ้าเลห์นั่นจะชวนเขาไปล่าตัวอะไรกันฟร่ะ?
บทที่ 4
ไหนใครบอกตาเฒ่านี่ไม่ค่อยจะว่างไง ทำไมจึงมีเวลามาหาเรื่องแกล้งลูกเลี้ยงที่น่ารักอย่างเขาได้?
กระท่อมนี้แต่เดิม มันเป็นที่สำหรับใช้ล่าสัตว์ของต้นตระกูลของอลัน อีกทั้งด้วยนิสัยเจ้าสำอางของเจ้าของมันจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่พร้อพรั่ง
เดินเอากระเป๋าเป้เดินทางเข้าไปเก็บในห้องนอน
พอเปิดเข้าไปภายในก็พบว่ามีเครื่องทำความอุ่นถูกเปิดทิ้งเอาไว้ เขาไม่ทันสนใจเพราะกระท่อมนี้อลันก็คงสั่งให้คนมาเปิดไว้เพื่อเตรียมต้อนรับแขกหรือใครเหมือนเช่นทุกคราวนั่นแหละ
แต่คราวนี้มันดันแปลกๆ ที่มีบางอย่างมานอนดิ้นดุ๊กดิ๊กๆ อยู่บนเตียงของเขา
พอเดินเข้ามาดูใกล้ๆ ก็เหลือกตาระอาใจ
ตาเฒ่านี้มันอะไรกับเขานักนะนี่!!
คราวนี้ถึงกับคิดจะส่งคุกส่งตารางมาให้เขาเข้าไปนอนเล่นกันเลยหรือไง?
มีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งถูกล่ามข้อมือไว้ที่หัวเตียงนี้
แม่สาวคนนี้โดนสวมหน้ากากปิดตา ปากก็ถูกมัด คงกันการส่งเสียงกรีดร้องก่นด่าเอาไว้อย่างแน่นหนา
มีความโมโหฉุนเฉียวในแววตาคมกล้า .. คราวนี้ดูท่าทางว่าพ่อเลี้ยงของเขาจะเล่นแรงเกินไปหรือเปล่า?
นี่เล่นไปบังคับจับตัวลูกสาวใครเขามากันหว่า?
มันไม่น่าจะใช่นิสัยของอลัน .. ที่จะทำอะไรบ้าบอคอระฆังข้างฝาอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนี่นา?
แล้วก็ตาเฒ่านั่นจะบ้าละหรือ? นี่มันเรื่องเสี่ยงคุกเฉียดตารางกับทำลายชื่อเสียงของเขาและตาเฒ่านั่นกันเลยชัดๆ นะนี่!!
แต่? ทำไมรูปร่างทรวงทรงบวกช่วงขาเรียวยาวถึงได้ดูคุ้นตาเขาจังนะ?
หัวใจกระตุกวาบ!!
พระช่วย! อย่าบอกนะว่า!!
ตวัดหน้ากากผ้าไหมนั่นออกอย่างร้อนใจแล้วก็ ...
ระยำตำบอนจริงๆ .. ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์เอ้ย!!
สบสายตาสีน้ำตาลเข้มจัด .. ขุ่นวับ!!
หล่อนคงรู้ตัวแน่ๆ ละว่าโดนใครเขาจับตัวมา
อัคนีรีบปลดผ้าผูกปาก แล้วก็...
"คุณไฟ! คนบ้า ไอ้มาเฟียบ้า .. นี่คุณกล้ามาทำอย่างนี้กับฉันได้อย่างไร!!"
หญิงสาวซึ่งยามปกติค่อนข้างจะสงบเสงี่ยมนี่ .. พอยามหล่อนโกรธเกรี้ยวกราดขึ้นมาก็น่ากลัวพิลึกเลยสิ!!
"ผมเปล่า! ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นะ" ส่ายหน้าปฏิเสธควับๆ
"คนทุเรศ!!" คนไม่เชื่อแผดเสียงแว๊ด
"รีบปล่อยตัว..แล้วส่งฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
สั่งเสียงเฉียบ
"กลับได้ไงล่ะ .. ต้องรออลันส่งคนมารับโน้นสิ!!"
อีกคนนั่งลูบคาง .. ตาคมวาววับ
"งั้นคุณก็รีบๆ จัดการเรื่องนี้ซะสิ!"
"ก็ไม่รู้สินะ ที่นี่สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยจะดีเสียด้วย"
เขาเอ่ยกวนๆ จนคนนอนโมโหชักจะระแวงจนตาโตเมื่อเขาก้มหน้าเท้าแขนมาวางมือคร่อม ก่อนจะใช้หลังมือมาลูบไล้แก้มนวลผ่องที่แดงก่ำด้วยความโกรธจากการตกใจ ที่จู่ๆ ก็ถูกจับตัวข้ามน้ำข้ามทะเลมา พอเปิดหน้า .. กลับกลายมาเจอว่าเป็นเขานั่นเองที่ยืนบ้า หน้าตาดุ แถมยังจะมีท่าทีกวนประสาทผสมอยู่ตรงนี้
ทำไมหล่อนจะจำเสียงมิสเตอร์อลัน พ่อเลี้ยงของเขาไม่ได้ด้วยล่ะ ก็ใช่ว่าหล่อนจะไม่เคยพบกันกับชายผู้มีอิทธิพลคนนั้นซะเมื่อไร แล้วทำไมจะไม่รู้ว่าอลันก็ยังเป็นพ่อเลี้ยงของผู้ชายคนนี้ที่สนิทสนมกันดีกับศิลารวมถึงหัสดิน
ห้ามทำอะไรลูกสะใภ้ฉันให้เป็นรอยแม้แต่ขีดข่วน
เสียงบัญชาการของชายผู้นั้นที่มีต่อลูกหน้าโหดเป็นภาษาอังกฤษชัดเจนเชียวล่ะ .. และมิรินดาก็รู้ดีว่าอลันนั่นจงใจเรียกหล่อนว่า
ลูกสะใภ้ .. ให้หล่อนได้ยินเต็มที่ เต็มสองหูด้วย
นี่พวกเขาไปเอาความกล้ากันมาจากไหน? ถึงได้มาเรียกหล่อนแบบนี้กันน่ะ!!
จำได้นะว่าตนเองปฏิเสธออกไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าจะไม่ยอมแต่งงานกับเขา ถึงแม้ว่าจะมีข่าวหลุดออกไปจนทำชื่อเสียงของหล่อนเสียหายจนถึงขนาดที่คุณอาริญาผู้เป็นมารดาต้องบินมาติดตามข่าว และอยู่เกลี่ยกล่อมจัดการจะให้หล่อนแต่งงานกับเขาให้ได้
แล้วอะไรมันจะร้ายกาจจนน่าโมโหกว่า..ที่รู้ว่า ไอ้แผลเป็นบนหน้าผากที่หล่อนสงสัยแล้วถามเขา แต่เขากลับตอบกวนๆ มาว่าโดนผู้หญิงตีหัวมานั่นมันเป็นแผลที่เกิดเพราะช่วยหล่อนไว้เมื่อสมัยเป็นเด็กๆ พอมารดาเห็นเขาแล้วคลับคล้ายคลับคราว่าหน้าตาดูคุ้นตา พอรู้ว่าเป็นคนเดียวกันก็เลยยิ่งจะมาเกลี่ยกล่อมแกมบีบคั้นจะให้หล่อนแต่งกับเขาให้ได้เลย
แต่มิรินดาก็ยืนยันกระต่ายขาเดียวว่าไม่แต่ง!
จะไม่ยอมแต่งเด็ดขาด!!
แต่ที่หล่อนไม่ยอมบอกเหตุผลแก่ใครว่าเพราะยังติดใจที่เขาละเมอโหยหาผู้หญิงที่เรียกว่า...
'เมียจ๋า'.. ตลอดเวลาไม่ขาดปากเลยนั่นอยู่

ไหนใครบอกตาเฒ่านี่ไม่ค่อยจะว่างไง ทำไมจึงมีเวลามาหาเรื่องแกล้งลูกเลี้ยงที่น่ารักอย่างเขาได้?
กระท่อมนี้แต่เดิม มันเป็นที่สำหรับใช้ล่าสัตว์ของต้นตระกูลของอลัน อีกทั้งด้วยนิสัยเจ้าสำอางของเจ้าของมันจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่พร้อพรั่ง
เดินเอากระเป๋าเป้เดินทางเข้าไปเก็บในห้องนอน
พอเปิดเข้าไปภายในก็พบว่ามีเครื่องทำความอุ่นถูกเปิดทิ้งเอาไว้ เขาไม่ทันสนใจเพราะกระท่อมนี้อลันก็คงสั่งให้คนมาเปิดไว้เพื่อเตรียมต้อนรับแขกหรือใครเหมือนเช่นทุกคราวนั่นแหละ
แต่คราวนี้มันดันแปลกๆ ที่มีบางอย่างมานอนดิ้นดุ๊กดิ๊กๆ อยู่บนเตียงของเขา
พอเดินเข้ามาดูใกล้ๆ ก็เหลือกตาระอาใจ
ตาเฒ่านี้มันอะไรกับเขานักนะนี่!!
คราวนี้ถึงกับคิดจะส่งคุกส่งตารางมาให้เขาเข้าไปนอนเล่นกันเลยหรือไง?
มีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งถูกล่ามข้อมือไว้ที่หัวเตียงนี้
แม่สาวคนนี้โดนสวมหน้ากากปิดตา ปากก็ถูกมัด คงกันการส่งเสียงกรีดร้องก่นด่าเอาไว้อย่างแน่นหนา
มีความโมโหฉุนเฉียวในแววตาคมกล้า .. คราวนี้ดูท่าทางว่าพ่อเลี้ยงของเขาจะเล่นแรงเกินไปหรือเปล่า?
นี่เล่นไปบังคับจับตัวลูกสาวใครเขามากันหว่า?
มันไม่น่าจะใช่นิสัยของอลัน .. ที่จะทำอะไรบ้าบอคอระฆังข้างฝาอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนี่นา?
แล้วก็ตาเฒ่านั่นจะบ้าละหรือ? นี่มันเรื่องเสี่ยงคุกเฉียดตารางกับทำลายชื่อเสียงของเขาและตาเฒ่านั่นกันเลยชัดๆ นะนี่!!
แต่? ทำไมรูปร่างทรวงทรงบวกช่วงขาเรียวยาวถึงได้ดูคุ้นตาเขาจังนะ?
หัวใจกระตุกวาบ!!
พระช่วย! อย่าบอกนะว่า!!
ตวัดหน้ากากผ้าไหมนั่นออกอย่างร้อนใจแล้วก็ ...
ระยำตำบอนจริงๆ .. ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์เอ้ย!!
สบสายตาสีน้ำตาลเข้มจัด .. ขุ่นวับ!!
หล่อนคงรู้ตัวแน่ๆ ละว่าโดนใครเขาจับตัวมา
อัคนีรีบปลดผ้าผูกปาก แล้วก็...
"คุณไฟ! คนบ้า ไอ้มาเฟียบ้า .. นี่คุณกล้ามาทำอย่างนี้กับฉันได้อย่างไร!!"
หญิงสาวซึ่งยามปกติค่อนข้างจะสงบเสงี่ยมนี่ .. พอยามหล่อนโกรธเกรี้ยวกราดขึ้นมาก็น่ากลัวพิลึกเลยสิ!!
"ผมเปล่า! ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นะ" ส่ายหน้าปฏิเสธควับๆ
"คนทุเรศ!!" คนไม่เชื่อแผดเสียงแว๊ด
"รีบปล่อยตัว..แล้วส่งฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
สั่งเสียงเฉียบ
"กลับได้ไงล่ะ .. ต้องรออลันส่งคนมารับโน้นสิ!!"
อีกคนนั่งลูบคาง .. ตาคมวาววับ
"งั้นคุณก็รีบๆ จัดการเรื่องนี้ซะสิ!"
"ก็ไม่รู้สินะ ที่นี่สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยจะดีเสียด้วย"
เขาเอ่ยกวนๆ จนคนนอนโมโหชักจะระแวงจนตาโตเมื่อเขาก้มหน้าเท้าแขนมาวางมือคร่อม ก่อนจะใช้หลังมือมาลูบไล้แก้มนวลผ่องที่แดงก่ำด้วยความโกรธจากการตกใจ ที่จู่ๆ ก็ถูกจับตัวข้ามน้ำข้ามทะเลมา พอเปิดหน้า .. กลับกลายมาเจอว่าเป็นเขานั่นเองที่ยืนบ้า หน้าตาดุ แถมยังจะมีท่าทีกวนประสาทผสมอยู่ตรงนี้
ทำไมหล่อนจะจำเสียงมิสเตอร์อลัน พ่อเลี้ยงของเขาไม่ได้ด้วยล่ะ ก็ใช่ว่าหล่อนจะไม่เคยพบกันกับชายผู้มีอิทธิพลคนนั้นซะเมื่อไร แล้วทำไมจะไม่รู้ว่าอลันก็ยังเป็นพ่อเลี้ยงของผู้ชายคนนี้ที่สนิทสนมกันดีกับศิลารวมถึงหัสดิน
ห้ามทำอะไรลูกสะใภ้ฉันให้เป็นรอยแม้แต่ขีดข่วน
เสียงบัญชาการของชายผู้นั้นที่มีต่อลูกหน้าโหดเป็นภาษาอังกฤษชัดเจนเชียวล่ะ .. และมิรินดาก็รู้ดีว่าอลันนั่นจงใจเรียกหล่อนว่า
ลูกสะใภ้ .. ให้หล่อนได้ยินเต็มที่ เต็มสองหูด้วย
นี่พวกเขาไปเอาความกล้ากันมาจากไหน? ถึงได้มาเรียกหล่อนแบบนี้กันน่ะ!!
จำได้นะว่าตนเองปฏิเสธออกไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าจะไม่ยอมแต่งงานกับเขา ถึงแม้ว่าจะมีข่าวหลุดออกไปจนทำชื่อเสียงของหล่อนเสียหายจนถึงขนาดที่คุณอาริญาผู้เป็นมารดาต้องบินมาติดตามข่าว และอยู่เกลี่ยกล่อมจัดการจะให้หล่อนแต่งงานกับเขาให้ได้
แล้วอะไรมันจะร้ายกาจจนน่าโมโหกว่า..ที่รู้ว่า ไอ้แผลเป็นบนหน้าผากที่หล่อนสงสัยแล้วถามเขา แต่เขากลับตอบกวนๆ มาว่าโดนผู้หญิงตีหัวมานั่นมันเป็นแผลที่เกิดเพราะช่วยหล่อนไว้เมื่อสมัยเป็นเด็กๆ พอมารดาเห็นเขาแล้วคลับคล้ายคลับคราว่าหน้าตาดูคุ้นตา พอรู้ว่าเป็นคนเดียวกันก็เลยยิ่งจะมาเกลี่ยกล่อมแกมบีบคั้นจะให้หล่อนแต่งกับเขาให้ได้เลย
แต่มิรินดาก็ยืนยันกระต่ายขาเดียวว่าไม่แต่ง!
จะไม่ยอมแต่งเด็ดขาด!!
แต่ที่หล่อนไม่ยอมบอกเหตุผลแก่ใครว่าเพราะยังติดใจที่เขาละเมอโหยหาผู้หญิงที่เรียกว่า...
'เมียจ๋า'.. ตลอดเวลาไม่ขาดปากเลยนั่นอยู่
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
