4
คดีเปลเด็กและบทสรุป
( ใครที่ยังไม่ได้อ่านสองตอนที่แล้วอย่าลืมกลับไปอ่านด้วยนะคะ เด็กดีมันไม่แจ้งเตือน ;______; )
ข่าวที่เพิ่งได้รับทำให้เซลีนตกใจเป็นอย่างมาก ร่างน้อยเร่งฝีเท้าทะยานออกจากองค์กรเชลเบคโลในทันทีโดยมีร่างสูงของเชส นัทเซลตามมาไม่ห่าง
นับเป็นโชคดีที่เชสมีสติพอที่จะไปเอารถมาก่อนที่คุณหนูของตนจะยั้งอารมณ์ไม่อยู่งัดสกิลฟรี รันนิ่งที่เคยฝึกกับเบลเฟกอลเมื่อสมัยเข้าวาเรียใหม่ๆ ขึ้นมาใช้แล้วออกวิ่งไปยังศูนย์บัญชาการกลางของวองโกเล่
ดวงใจวาเรียตัวน้อยมีท่าทางร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด ร่างเล็กแทบจะนั่งไม่ติดเบาะเลยเสียด้วยซ้ำ นัยน์ตากลมแฝงแววร้อนใจปนหัวเสีย จีบปากเล็กขยับพูดไม่หยุดตั้งแต่ก้าวเท้าขึ้นรถมา
"กะแล้วเชียวว่ามันแปลก ร้อยวันพันปีไม่เคยอยากให้ออกนอกพื้นที่ ปกติแค่เท้าล้ำเขตแดนไปนิดเดียวก็โดนเฉ่งจะตายห่- ตุ๋นฉันซะเปื่อยเลยนะ ไอ้พวกเวร"
แน่นอนว่าทุกคำที่เล็ดลอดออกมานับจากนี้ล้วนเป็นคำด่าทั้งสิ้น ทั้งยังด่ารวมไปถึงผู้เป็นพี่ชายที่เธอไม่เคยกล้าพูดถึงในทางเสียหายมาตลอด สักพักก็ตวัดสายตาไปทางมือขวาหนุ่มอย่างจับผิด
"นายคงไม่ได้ร่วมมือกับพวกนั้นหรอกใช่ไหม"
"ใครจะไปกล้าล่ะครับ"
แม้ในเวลาแบบนี้ร่างสูงก็ยังคงมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ถึงจะเป็นรอยยิ้มเจื่อนๆ อย่างคนทำตัวไม่ถูกก็ตาม ไม่นานรถสปอร์ตคันหรูก็จอดเทียบหน้าคฤหาสน์ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการกลางของวองโกเล่ ทันทีที่ก้าวขาลงจากรถ สีหน้าของทั้งคู่ก็เปลี่ยนเป็นจริงจังโดยอัตโนมัติ
กลิ่นดินปืนและเลือดฉุนๆ คละคลุ้งไปทั่วอาณาบริเวณ เสียงปืน ดาบ รวมไปถึงสารพัดอาวุธดังอื้อ มองปราดเดียวก็พอจะทราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป หน่วยวาเรียภายใต้การนำของซันซัสผู้เป็นพี่ชายเข้ายึดครองพื้นที่ทั้งหมดแล้ว
"ฉันจะไปตามหาท่านพี่แล้วหยุดเขา ส่วนนายตามฉันมา"
สิ้นคำสั่ง เด็กสาวเริ่มออกตัวอีกครั้งบุกเข้าไปทางศูนย์บัญชาการกลางอย่างไม่เกรงกลัว ระหว่างทางมีศพของชายฉกรรจ์มากมายกองเกลื่อนบนพื้นพรมชุ่มเลือด นัยน์ตากลมกวาดสายตามองหาพี่ชายของตัวเอง
ขณะวิ่งในสมองก็ทบทวนว่าห้องทำงานของผู้เป็นพ่ออยู่ส่วนใดของคฤหาสน์ พอนึกออกก็ตรงไปที่ห้องเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
แต่เซลีนก็ต้องชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นประตูบานหนึ่งถูกแง้มเอาไว้ มือเล็กยื่นไปหาเชส นัทเซลที่เพิ่งวิ่งตามมาถึงแล้วฉวยเอาปืนพกข้างลำตัวของเขามาไว้ในมือ
ด้วยความที่ยังเด็กเธอเลยไม่ได้รับอนุญาตให้พกอาวุธติดตัว เวลาออกไปทำภารกิจก็อาศัยสู้ด้วยมือเปล่า จำได้ว่าซันซัสเคยบอกว่าจะอนุญาตให้เธอพกอาวุธตอนอายุครบสิบปี
หวังว่าเขาจะจำได้และไม่จากเธอไปไหนเสียก่อน
ระหว่างนั้นร่างสูงก็เปิดประตูบานนั้นให้กว้างขึ้น บันไดทอดยาวลงไปยังชั้นใต้ดินของคฤหาสน์ ไม่เสียเวลาหยุดคิดหนึ่งพิรุณและหนึ่งเมฆาเร่งฝีเท้าลงไปชั้นล่าง พวกเขาพบประตูอีกบานที่เปิดค้างไว้เช่นกัน สองร่างแทรกผ่านช่องว่างระหว่างประตูเข้าไปยังชั้นใต้ดินที่มีร่องรอยจากการต่อสู้เต็มไปหมด
ยังไม่ทันที่ดวงใจวาเรียตัวน้อยจะทำความเข้าใจเหตุการณ์ก็บังเกิดแสงสีขาวสว่างจ้าปกคลุมทั่วทั้งชั้นใต้ดิน เมื่อแสงนั้นหายไป ภาพตรงหน้าถึงกับทำให้เด็กสาวทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาราวกับโลกทั้งใบได้แหลกสลายลงตรงหน้า
ร่างสูงศักดิ์ของผู้เป็นพี่ชายอยู่ภายใต้น้ำแข็งกองมหึมาที่จะไม่มีวันละลาย
รองหัวหน้าหน่วยพิรุณดึงร่างน้อยเข้ามากอดแนบอก เซลีนไม่เหลือคราบคุณหนูผู้อวดดีอีกต่อไปแล้ว เธอสะอื้นจนตัวโยนดูน่าสงสารจับใจ
บอสวองโกเล่รุ่นที่เก้าที่ตั้งใจจะเดินออกไปสังเกตเห็นลูกสาวสุดที่รักโดยบังเอิญ ดวงตาอบอุ่นใจดีคู่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและขอโทษ ชายชรายังไม่พร้อมจะคุยกับเธอ เด็กสาวเองก็คงไม่ต่างจากเขาเท่าไร ก่อนจะเบนสายตาไปหาพิรุณหนุ่ม
"ฝากดูแลเธอด้วยนะ"
หลังจากนั้น หน่วยวาเรียทุกคนก็ถูกกองกำลังเสริมจากวองโกเล่เข้าจับกุมและมอบบทลงโทษไปตามระเบียบ พวกเขาล้วนเสียใจที่บอสพ่ายแพ้ให้กับวองโกเล่รุ่นที่เก้า ไม่พอยังใจสลายเมื่อเห็นน้ำตาที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนักจากคุณน้องสาวบอส
เหล่าติ่งเดนตายทุกคนต้องร่ำไห้ แทบจะคลานเข่าเข้าไปขอขมาเธออยู่แล้วแต่ติดที่รองหัวหน้าหน่วยพิรุณที่ไม่ได้เห็นหน้ามานานเฝ้าอยู่หน้าห้องรับรองไม่ยอมให้พวกเขาเข้าไปแม้แต่คนเดียว
ทุกคนออกจากห้องรับรองไปแล้วแต่ดวงใจวาเรียตัวน้อยยังคงร้องไห้ไม่หยุด ทั้งเธอและมือขวาธาตุพิรุณถูกสอบสวนเสียจนพรุน สุดท้ายก็ลงเอยที่พ้นความผิดอย่างฉิวเฉียด เด็กสาวและเชส นัทเซลถูกพามายังห้องรับรองที่วองโกเล่จัดไว้ให้ด้วยความสุภาพเต็มพิธีการ
ร่างน้อยเลือกที่จะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับพี่ชายทั้งนั้น. พิรุณหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็ปิดปากเงียบ รวมถึงฉลามคลั่งที่พวกเขาเพิ่งจะรู้ว่าเขาอยู่ในเหตุการณ์เองก็ไม่ได้พูดอะไร ทำให้เรื่องทุกอย่างกลายเป็นปริศนาโดยสมบูรณ์
ในตอนแรกเธอตั้งใจจะขังตัวเองไว้ในห้อง แต่เสียงโวยวายจากด้านนอกกลับดังรบกวนไม่หยุด
มือน้อยปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มหลังจากนั่งร้องไห้อยู่ในห้องรับรองมาได้สักพักใหญ่ เธอลุกขึ้น สองขาพาร่างเล็กไปยังหน้าประตูไม้เนื้อดีแล้วเปิดออก แต่พอเห็นกลุ่มคนที่ยืนอออยู่หน้าประตูก็พาลอยากปิดประตูอัดใส่หน้าพวกเขาสักรอบสองรอบ
"มีธุระอะไรไอ้พวกงั่ง"
ทุกคนดูเกี่ยงกันว่าใครจะพูด แต่พอโดนจ้องเขม็งจากคุณน้องสาวบอสและมือขวาคนใหม่ของเธอมากๆ เข้าก็พร้อมใจกันถีบเบลเฟกอลออกมาเป็นหน่วยกล้าตายแบบไม่เต็มใจ
"อย่าโหดนักสิ เจ้าชายก็กลัวเป็นนะ... แค่จะมาพากลับปราสาทเฉยๆ เอง"
เสียงยังไม่แตกหนุ่มของเจ้าชายอ่อนลงในตอนท้าย แม้จะมีรอยยิ้มแต่ไม่มีเสียงหัวเราะกวนประสาทเหมือนทุกครั้ง วาเรียควอลิตี้ทุกคนหน้าเจื่อนลงไปถนัดตา เซลีนหัวเราะเสียงกระด้าง เชสเห็นอย่างนั้นจากที่ตอนแรกตั้งท่าเป็นลูกหมาขู่ก็สไลด์ตัวมายืนเคียงข้างผู้เป็นนายอย่างรวดเร็วเพื่อรอรับคำสั่ง
"ถ้าอยากให้กลับไปนักก็ทำให้ฉันพอใจสิ"
ทำเสียงแข็งใส่ เก๊กหน้าให้ขรึมที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปรายตามองกลุ่มวาเรียควอลิตี้ด้วยสายตาขุ่นเคือง ก่อนจะแอบหลุดยิ้มเล็กน้อยเมื่อเจ้าพวกคนอ๊องขยับกันยืนเรียงแถว ยกกำปั้นขวาขึ้นแล้ววางทาบที่อกด้านซ้าย
"ถ้าน้องหญิงกลับมาพี่เจ้าชายจะยอมทุกอย่างเลยค่ะ อุชิชิชิชิ" ( เบลเฟกอล )
"จะให้บีบแก้มแบบไม่คิดเงินก็ได้" ( มาม่อน )
"เจ๊จะทำขนมอร่อยๆ ให้เซนจังกินทุกวันเลยนะจ๊ะ ถ้าอยู่ที่นี่ก็จะอดทานขนมอร่อยๆ ของเจ๊นะฮ้า" ( ลุซซูเรีย )
"ผมจะภักดีและทำตามคำสั่งคุณหนูทุกอย่างครับ" ( เลวี่ )
สิ้นเสียงเลวี่ไม่ได้มีคนมาต่อในทันทีทำเอาทุกคนหันมามองสควอโล่เป็นตาเดียว ความกดดันอ่อนๆ ที่ถูกส่งมาทำให้ฉลามคลั่งอ้ำอึ้ง ใบหน้าหล่อคมขึ้นสีเรื่อโดยไม่รู้ตัว
"โว๊ะ เรื่องมากว่ะยัยหนู แต่ จะยอมสอนดาบที่เธออยากเรียนให้ก็ได้ กลับบ้านเถอะ"
แว่วเสียงหัวเราะเบาๆ จากร่างน้อย เซลีนโถมตัวเข้ากอดฉลามคลั่งเป็นการใหญ่เพียงไม่นานวาเรียควอลิตี้ทุกคนก็รุมเข้ากอดกันจนกลายเป็นลูกบอลลูกใหญ่ๆ บนโถงทางเดิน
"ไม่โกรธแล้วเหรอคะน้องหญิง ชิชิชิ"
"ฉันหายโกรธตั้งแต่เปิดประตูมาเห็นหน้าเอ๋อๆ ของพวกนายแล้ว"
ก็เป็นครอบครัวนี่นา
ถึงเจ้าพวกมนุษย์อ๊องจะสร้างเรื่องงามหน้าให้เซลีนแค่ไหนก็ทำใจโกรธได้ไม่นานหรอก
นัยน์ตากลมโตเหลือบไปเห็นรองหัวหน้าหน่วยพิรุณที่ยืนอ้ำอึ้งไม่กล้าเข้ามากอดกับพวกเธอ และมาม่อนที่ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูปพวกเธอเอาไว้แต่ไม่มีทีท่าจะเข้ามาหาแม้แต่น้อย
มือเล็กเอื้อมไปดึงเชสกับอัลโกบาเลโน่ตัวจิ๋วให้เข้ามาอยู่กลางวง ส่งสัญญาณผ่านสายตาแล้วร่างทั้งห้าก็รุมกอดทั้งสองคนพร้อมกัน
โถงทางเดินของคฤหาสน์วองโกเล่ถูกปกคลุมด้วยเสียงหัวเราะ เป็นภาพที่ชวนให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาอดยิ้มตามไม่ได้
อยากให้ท่านพี่อยู่ตรงนี้ด้วยจังค่ะ :-)
TALK.
เป็นการจบช่วงคดีเปลเด็กอย่างรวดเร็วภายในสี่ตอนค่ะ ฟฟฟฟฟฟฟ.
จริงๆ ยัดซีนนี้มาก็เหมือนแกล้งน้อง ร้องไห้ใหญ่เลย โอ๋เอ๋ขวัญเอ๊ยขวัญมา ;_______;
อีกไม่กี่ตอนยัยหนูก็จะกลายเป็นสาวแล้วนะ ! เรียกได้ว่า อายุสิบหกมาเป็นสาวรำว---- โอเค แป้กสุดใจ ไม่เล่นแล้ว นอกจากยัยหนูจะเป็นสาวแล้วพวกวองโกเล่ก็จะได้ออกแล้วด้วย ไหนมีใครรอท่านฮิบ้าง !
สัญญาตอนเซนเจอกับสึนะจะให้เปิดตัวอย่างเถื่อนให้สมกับที่รีดเดอร์ทุกคนรอ ! เชื่อเถอะ รีดเก่าส่วนใหญ่ไม่ค่อยชินที่เซนมาเป็นยัยน้องหนูใช่ไหมล่า เพราะไรท์เองก็ชินกับตอนเซนเถื่อนๆ เหมือนกัน---
ยังไงก็ฝากคอมเมนต์เพื่อให้น้องได้เอาไปปรับปรุงตอนต่อๆ ไปด้วยนะคะ ♡
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ไรท์มาอ้าป
เป็นตอนที่เศร้ามากเลยค่ะไรท์ แง๊ ฮืออยากเข้าไปกอดน้องแต่ท้ายตอนคือดีมากละมุนอ่านแล้วใจฟูสุดๆ แต่อยากให้ป๋ากลับมาไวๆค่ะไม่ไหว เห็นน้องเศร้าแล้วติ่งเดนตายจะร้องไห้ นี่คือสถาปนาตัวเองเป็นติ่งเดนตายเรียบร้อยแล้วค่ะ รอตอนต่อไปนะคะไรท์
ยามะจอมเนียนจะทำอะไรรเซลีนบ่? (ถามว่าเซลีนจะรอดจากท่านฮิดีกว่ามั้ย? : ไรท์ / เซลีนของเราแกร่งอยู่แล้ว ไม่โดนขย้ำหรอก -^- : เรา)
ปล.รู้สึกเชียร์เชส...นาง(?)น่าร้ากกกก ดูอ่อนแอ(?) น่าปกป้อง -..-