ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4
Fiction : Born to Be# 4
Pairing : YunhoXJaejoong, YuchunXJunsoo, KibumXDonghae
Author: Deumbeui
Author’s note: ถ้าเกิดยูชอนไม่เข้ามาขัดจังหวะซะก่อน ฉันคงได้จูบแรกแล้วแน่ๆล่ะ
Born to Be# 4
ร่างสูงค่อยๆประคับประคองเด็กหนุ่มน่ารักซึ่งก็ค่อนข้างเต็มใจและปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่อยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งที่เฝ้าฝันมานาน สังเกตได้จากมือที่คล้องคอชายหนุ่มแน่นไม่ยอมปล่อย อีกทิ้งใบหน้าหวานก็วางเกยไหล่ของอีกคนและหายใจรดใบหน้าหล่อคมนั่นอย่างจงใจ
ยุนโฮอุ้มแจจุงไว้ในอ้อมแขนอย่างแนบแน่นจนกระทั่งมาถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไร้ผู้คนก็วางร่างนุ่มนิ่มหอมหวานลงบนเก้าอี้อย่างเบามือ...
"ขอผมดูหน่อยนะครับ"
ชายหนุ่มคุกเข่าลงตรงหน้า มือใหญ่ค่อยๆยกข้อเท้าเล็ก(ที่ดูไม่ได้เป็นอะไรเลย)ขึ้นพินิจพิจารณา
"บวมๆแดงๆนิดหน่อย ไปห้องพยาบาลมั้ยครับ? "
แดงตรงไหน?
บวมตรงไหน?
เมื่อกี๊แหลเจ็บนะจะบอกให้
หรือยุนโฮตาบอดสีไปแล้ว!!!?
"ไม่เอาอะฮะ ไม่อยากรบกวนยุนโฮ"
อ๋อ นี่คือถ้าไปจะให้ กะจะให้ยุนโฮอุ้มไปส่งด้วยงั้นสินะ!??
"แล้วไม่เป็นอะไรแน่นะครับ? "ถามพลางค่อยๆวางข้อเท้าขาวนั่นลงก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นมานั่งเก้าอี้เดียวกัน..มือเรียวค่อยๆวาดไปบนหน้าผากที่เล็กชื้นเหงื่อเล็กน้อย ปัดผมสีทองอ่อนๆที่ปรกใบหน้าขึ้นเพื่อจะได้เห็นดวงหน้าใสได้ชัดเจน..
อ่าวเห้ย!
มันเจ็บข้อเท้าไม่ใช่เรอะ?!
ลามไปถึงหน้าผากตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย!!?
"ผมเวียนหัวนิดหน่อยน่ะฮะ"
น่าน!!!!!!!!!
เจ็บเท้าแต่เวียนหัวครับแม่เจ้าโว้ย!!!!
"ถ้าซ้อมไม่ไหวพักก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวผมบอกชินดงให้"
"แล้วยุนโฮจะทำยังไงล่ะฮะ? ใครจะเป็นคู่ซ้อมให้ล่ะ? "
"นั่นสิเนอะ..."ร่างสูงว่าพลางทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยและเนียนเขยิบเข้าใกล้ร่างขาวผ่องตรงหน้ามากขึ้นโดยที่อีกคนก็เต็มอกเต็มใจที่จะอยู่ในอ้อมแขนแกร่งนั่นโดยไม่ลังเล...
"แล้วผมจะซ้อมกับใครดีล่ะถ้างั้น? "
โอ๊ย คนแต่งขอหมั่นไส้หน่อยได้ไหม?
แล้วไอ้พวกตัวถึกๆทั้งหลายที่ฟัดกับกระสอบทรายข้างนอกอยู่น่ะ
ไม่ได้อยู่ในชมรมแกรึไง ไอ้หมี!!!
"ตอนนี้ผมก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว เราไปซ้อมกันต่อก็ได้นะฮะ"แจจุงว่าพลางช้อนตาขึ้น มือเล็กจัดคอเสื้อของร่างสูงให้โดยไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ตาโตหรี่ลงเล็กน้อยทอดสายตาลงจับอยู่ที่คางได้รูปของอีกคน..มือแกร่งคว้าหมับเข้าที่มือซุกซนนั่น ใบหน้าคมก้มลงต่ำ จมูกได้รูปปัดเฉียดผิวแก้มชื้นเหงื่อของร่างบางไปเพียงเล็กน้อย ลมหายใจของทั้งคู่อยู่ในระดับเดียวกัน ริมฝีปากของทั้งสองห่างกันอีกเพียงเสี้ยวเซ็น..และ..
ปัง!!
"ไอ้ยุน อยู่รึเปล่า!? "
ยุนโฮหลุดสบถคำหยาบทันที
"อ้าว..อยู่นี่เอง"ผู้มาใหม่หยุดลงห่างออกไปไม่ไกลนัก ทอดสายตามองไปที่ทั้งคู่ก็พอรู้ว่าตัวเองมาผิดจังหวะอย่างจัง
มิกกี้ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อ
"กูขอโทษ แต่ชินดงเรียกว่ะ"
"เออ"ยุนโฮทำหน้าพร้อมกระโดดกัดคอมิกกี้อย่างไม่ปิดบังก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและไม่ลืมหันมาหยอดเสียงหวาน
"แจจุงอยู่นี่ไปก่อนนะครับ เดี๋ยวผมมา"
"ไม่เป็นไรฮะ ผมรู้สึกดีขึ้นแล้ว เราไปด้วยกันเลยก็ได้ฮะ"ร่างบางว่าพลางค่อยๆลุกขึ้นยืนแสดงบทบาทเยี่ยงคนเพิ่งหายป่วยได้สมจริงขนาดดาราฮอลิวู้ดยังต้องถวายโล่
ยุนโฮก้าวกลับมายืนข้างๆแจจุงก่อนจะเอื้อมมือโอบเอวให้ร่างเล็กแนบชิดกับตัวเองอย่างเกินความจำเป็นก่อนจะค่อยๆประคองออกเดินไปด้วยกัน
มิกกี้เห็นภาพตรงหน้าก็ยกมือกลั้นยิ้มหันหน้าไปอีกทาง
ทำอย่างกับเมียจะคลอดลูก ไอ้ห่ายุนเอ้ย!!!
.
.
.
"เป็นไง? หายเข้าไปซะตั้งนานนะ"เซียทักขึ้นเมื่อมีโอกาสอยู่ด้วยกันสองคนกับแจจุงในมุมหนึ่งของห้องซ้อม ตอนนี้ยุนโฮกับมิกกี้เข้าไปสมทบกับชินดงและอีกหลายๆคนซึ่งถ้าให้เดาก็คงไม่พ้นเรื่องแข่งขันที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้อย่างแน่นอน..
"เกือบไปละ ถ้าเกิดยูชอนไม่เข้ามาขัดจังหวะซะก่อน ฉันคงได้จูบแรกแล้วแน่ๆล่ะ"
เอ่อ...
ใช้คำอะไรผิดไปรึเปล่าแจจุง..
สำหรับผู้หญิงมันเรียกว่า ‘เสีย’ จูบแรกนะไม่ใช่ ‘ได้’
"อะไรกัน!? คืบหน้าเร็วไปแล้วนะเว้ย"
"เออดิ เสียดายมากเลยเหอะ ถ้าเพียงแต่ผู้ชายเธอไม่ทำเสียงเรื่องแล้วล่ะก็ ป่านนี้ฉันคงได้มีจูบแรกแสนวิเศษมิมีวันรู้ลืมไปแล้วแน่ๆ"
"โอ้ย อย่างกับฉันไม่เสียดายงั้นแล่ะ กำลังสบตากันแล้วเชียว เสียงชินดงเรียกยูชอนซะลั่นเลย"
"แล้วจะทำไงต่อไปล่ะ? "
"จะทำบ้าอะไรได้อีก ขืนรุกมากกว่านี้ไก่ตื่นกันพอดี ฉันว่าพอหอมปากหอมคอก็พอวันนี้น่ะ"
"ก็จริง ฉันว่าเราซ้อมกันเล่นๆเหอะ น่าเบื่อจะแย่ ซ้อมกับยุนโฮนะ ฉันต้องแกล้งเป็นไอ้โง่ตลอดเวลา โคดจะเหนื่อย"
"เหมือนกัน เราไปซ้อมกันเองตรงนั้นดีกว่า คนอื่นนี่ไม่ไหวเลย ฉันสะบัดครีบนิดเดียวก็กระเด็นไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มกันได้แล้วล่ะ"
ว่าแล้วทั้งสองก็ออกเดินไปยังมุมหนึ่งที่ปลอดผู้คนเพื่อซ้อมส่วนตัวทันที
.
.
"ตอนนี้เราต้องหาคนมาแทนคยูให้เร็วที่สุดนะ ปีนี้ชมรมเราเป็นตัวเก็งของที่หนึ่งในการแข่งขันทุกรุ่น ดังนั้นอาจารย์เลยอยากให้ลงให้ครบไม่มีคนขาดเลยน่ะ"
"แต่ถึงหาคนแทนได้ ก็ไม่เก่งเท่าไอ้คยูอยู่ดีไม่ใช่หรอ? "มิกกี้ออกความเห็น
"ฉันเข้าใจ แต่ปีนี้เรามีโอกาสชนะมากกว่าครึ่งเลยนะ ถ้าเราหาคนที่พอใช้ได้ ไม่จำเป็นต้องเท่าคยูมันก็มีโอกาสชนะได้ไงล่ะ"
"แล้วเราจะหาใครล่ะ ส่วนใหญ่พวกน้องๆก็ยังไม่ค่อยปึกเท่าไรเลย"ยุนโฮว่าบ้างพลางหันมองไปรอบๆ
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวรอเรียกประชุมอีกทีพรุ่งนี้ละกัน ตอนนี้พวกนายแยกย้ายกันไปซ้อมก่อน เดี๋ยวพาลตกรอบหมดทั้งทีมกันพอดี"ชินดงว่าอย่างหมดหนทางพลางส่ายหัวไปมาก่อนจะผละเดินออกไป..
"ถ้าให้พูดกันตามความจริงแล้ว คนอื่นๆที่เหลือฝีมือไม่ถึงขี้เล็บไอ้คยูเลยสักตัวเลยน่ะสิ"มิกกี้ว่าพลางหันไปทางยุนโฮเพื่อขอความเห็นหลังจากชินดงเดินห่างออกจากรัศมีที่จะได้ยินแล้ว
"ฉันก็ว่างั้น ก็ลองดูพรุ่งนี้ก็แล้วกัน เผื่อจะมีใครพอไปได้ เห้อ ตอนนี้ไปหาแจจุงดีกว่า!~~ "
"ฉันว่าช้าไปละ น่ะ สองคนนั้นเดินไปเปลี่ยนเสื้อแล้วล่ะ"มิกกี้ว่าพลางชี้ไปที่สองหนุ่ม(เทียม)น้อยน่ารักกำลังเดินเข้าไปที่ห้องล๊อกเกอร์
"เพราะนายคนเดียวแท้ๆ ตอนนั้นฉันกำลังจะได้...แล้วเชียวเหอะ ไอ้ไก่! "
"มึงไม่ต้องมาโทษกู กูก็โดนไม่แพ้มึง ชินดงแม่งเรียกทีจุนซูกูสะดุ้งครีบแทบทิ่มหน้ากู"
"เอาเหอะ ชวดมันกันหมด ตอนนี้ไปซ้อมต่อดีกว่า เดี๋ยวโดนชินดงมันบ่นอีก"
.
.
.
"วันนี้ซ้อมหนักหรอ? "ชางมินหนุ่มหล่อเพื่อนรักที่วันนี้ค้างบ้านแจจุงอีกวันเพื่อทำงานกลุ่มให้เสร็จเอ่ยถามขึ้นเมื่อเพื่อนสาวของเขาทั้งสองกลับเข้าบ้านมาก็นอนแผ่โซฟากันทันที
"วันนี้เขามีเรียกประชุมอะไรกันน่ะ ฉันก็เลยว่างๆไปซ้อมกันเองเอา คนอื่นๆในชมรมฝีมือขี้มากเหอะ"เซียว่าพลางลืมตาดูเพื่อนนิดนึงก่อนลงไปสลบเหมือดฟุบต่อ
"โคดจะเหนื่อย แถมวันนี้เจอครีบโลมาซัดเข้าที่อกอีก ถ้าพรุ่งนี้อกฉันระบมพันผ้าไม่ได้ ฉันเอาแกตายแน่ไอ้จุนซู"แจจุงบ่นขึ้นมาบ้างพลางหันไปส่งค้อนให้กับเพื่อนที่นอนแผ่ตีครีบอยู่ข้างๆ
"ระวังนะ เดี๋ยวมะเร็งเต้านมจะถามหา"
"ห๊ะ!? "สองสาวกระเด้งขึ้นจากโซฟานุ่มทันที
"นายว่าอะไรนะ เป็ด? "แจจุงถามเสียงสูง ตาโตเบิกกว้าง
"อ่าว นี่ไม่รู้หรอ? หน้าอกผู้หญิงถูกกระทบกระเทือนมากๆน่ะเป็นมะเร็งได้นะ"ชางมินกล่าวอย่างเป็นเรื่องธรรมดามือยังคงเคาะแป้นพิมพ์ไปเรื่อย
"รู้บ้าอะไรล่ะ ถ้าฉันรู้มาก่อนคงไม่เข้าชมรมนี้แต่เด็กหรอก เชี่ยแล้ว แล้วแบบนี้ฉันจะเป็นมั้ยอะ"หญิงสาวตาโตเริ่มกลัดกลุ้ม มือลูบคลำไปที่หน้าอกตัวเอง
ไม่นะ หน้าอกอันสวยงามของฉัน!!
"ถ้าฉันต้องผ่าออกนี่ไม่ดีแน่ ของฉันยิ่งไม่ค่อยจะมีนะ ให้ตาย ทำไมเพิ่งมาบอกวะ ไม่มาบอกตอนที่ฉันต้องเฉือนทิ้งไปข้างนึงก่อนล่ะ ไอ้ห่าชางมิน!! "เสียงโลมาแว๊ดกระแทกแก้วหูของชางมินจนอีกคนต้องละสายตามาพูดด้วยความเบื่อหน่ายใจ
"ฉันพูดไปตอนนั้นพวกเธอคงฟังฉันหรอก พนันได้เลยว่าคงจะได้ยินประโยคที่ว่า ‘ยอมเป็นมะเร็งตายเพื่อตามหารักแท้’ แน่ๆล่ะ"
"แล้วจะทำไงล่ะ? ถอนตัวตอนนี้ไม่ได้นะ แผนการณ์กำลังไปได้ดีแบบนี้น่ะ"
"ก็แค่ระวังไม่ให้โดนกระทบกระเทือนให้มันมากมายสิ ไม่ต้องขนาดถอนตัวหรอก ถึงพวกเธอจะมาถอยกันตอนนี้ ฉันก็ไม่ยอมแน่ล่ะ รู้มั้ยว่ากว่าจะฝากพวกเธอเข้าชมรมไปได้ ฉันลำบากยากเย็นแค่ไหนกัน!? "
สองสาวสบตากันครู่หนึ่งพลางคิดในใจเหมือนกันอย่างไร้สาเหตุ
ไอ้ห่านี่
ตกลงสนับสนุนให้เพื่อนเป็นเกย์แล้วใช่ไหมเนี่ย?!
"แล้วพวกเราต้องทำอะไรบ้างล่ะ? ต้องไปเช็คมะเร็งก่อนมั้ย? "แจจุงตัดสินใจถามขึ้น
ชางมินทำหน้าอยากเอาปากเป็ดเสน่ห์ของตนทิ่มตาโตๆนั่นให้รู้แล้วรู้รอด
"ฟังนะ การจะเป็นมะเร็งมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ต้องโดนชกแบบนั้นติดต่อกันเป็นล้านๆครั้งได้มั้งถึงจะมีโอกาสเป็นน่ะ ฉันแค่พูดให้พวกเธอระวังเอาไว้ เพราะไม่ว่าพวกเธอเก่งยังไง แรงของผู้ชายมันก็เหนือกว่าเสมอ ถ้าถูกขึ้นมาจังๆล่ะก็ทำเอาจุกได้เหมือนกันนะ"
"แน่ใจนะ"เป็นเซียบ้างที่ถามย้ำความแน่ใจ
"จะให้อธิบายโครงสร้างกระดูกและการเรียงตัวของดีเอ็นเอไหม ถึงจะพอใจห๊ะ ไอ้เตี้ยโลมา!? "เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาส่ายหัวไปมา ไม่น่าพูดออกไปเลย แค่จะขู่ขำๆเท่านั้นแล่ะ โอกาสจะเป็นมะเร็งเนี่ยมีไม่ถึ่งเสี้ยวเปอร์เซ็นด้วยซ้ำ ใครจะนึกว่าเพื่อนเขาสองคนมันไก่ตื่นง่ายแบบนี้
เซียที่โดนด่าสะบัดตามองอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินคำสบประมาทที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับตัวเอง
ไม่สูงเป็นเปรตอย่างมึงบ้างก็แล้วไป
ไอ้เป็ดดำเอ้ย!?
...........
.........................
ในเย็นวันต่อมาทั้งสองสาวมาอยู่ในห้องซ้อมเร็วกว่าปกติ เพราะทั้งคู่ต่างก็พันผ้ามาแล้วจากบ้านจึงใช้เวลาไม่มากในการเปลี่ยนเสื้อผ้า..วันนี้ไม่มีการซ้อมอย่างทุกครั้งเพราะประธานชมรมเรียกประชุมเรื่องหาคนไปแข่งแทนด่วน คนส่วนใหญ่ตอนนี้จึงออกันอยู่กลางห้องซ้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..
"ทุกคนคงรู้แล้วว่าตอนนี้พวกเราต้องหาคนมาแทนคยูมัน คนที่จะมาเป็นคู่ทดสอบให้คือรุ่นพี่ปีที่แล้ว"ชินดงว่าพลางผายมือไปทางชายหนุ่มรูปร่างสูงหุ่นดีด้านหลัง
"สวัสดี ฮันกยอง ยินดีที่ได้รู้จักน้องๆทุกคนนะ"
"เพื่อเป็นการยุติธรรมที่สุด พี่จะเรียกทดสอบทุกคนไปเลยก็แล้วกัน จะได้ตัดปัญหา เริ่มที่คนแรกเลยนะ..."
"เอ่อ..นี่อย่าบอกว่าพวกเราก็ต้องทดสอบด้วยน่ะแจจุง"เซียกระซิบขึ้นหลังจากมองคนแรกที่ถูกเรียกเดินผ่านหน้าตนเองไปขึ้นเวทีมวย
"ฉันก็ไม่รู้อะ นี่ยุนโฮกับยูชอนยังไม่มาเลย คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง สองคนนั้นไม่อยู่ฉันรู้สึกไม่ค่อยกดดันเท่าไร"
"ใช่ แต่ฉันก็ยังกลัวความลับแตกอยู่ดี ทำไงดีแจจุง? "
"ก็แกล้งโง่อย่างที่เคยแกล้งก็แล้วกัน ทำให้เนียนๆ ถ้าขืนเราตอบโต้มากไปมันจะเป็นที่สงสัยแน่ๆ"
"เออ พี่คนนี้ดูท่าทางเก่งไม่ใช่น้อย หวังว่าคงจะไม่เป็นอะไรนะ"
ขณะที่สองสาวกำลังเครียดหัวแทบระเบิดอยู่นั้น เสียงเรียกชื่อของชินดงทำเอาแจจุงใจหล่นวูบ
"คิม แจจุง"
หญิงสาวค่อยๆเดินผ่านผู้คนมุ่งไปยังหน้าสุดที่ติดกับเวทีมวย สีหน้าตื่นเต้นระคนกังวลใจทำเอาทุกคนคิดว่าเกิดจากความประหม่า แต่แท้จริงแล้ว ไอ้เรื่องชนะหรือแพ้ไม่ได้อยู่ในหัวของแจจุงเลยแม้แต่น้อย
ไอ้ที่ทำหน้าตาตื่นเต้นน่ะ
เพราะกลัวหลุดอะไรเกินจริงขึ้นมาน่ะสิ!
"ไม่ต้องกลัวนะ ขึ้นไปทำเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน พี่จำเป็นต้องเรียกทุกคนน่ะ ยกเว้นใครไม่ได้"ชินดงกระซิบกระซาบก่อนจะผลักให้แจจุงเดินขึ้นเวทีไป
หญิงสาวส่งสายตาเป็นกังวลให้เพื่อนรักที่ยืนอยู่ข้างล่างที่ทำท่าสูดลมหายใจลึกๆเป็นกำลังใจให้ก่อนจะหันกลับไปเผชิญคนตรงหน้าที่ส่งยิ้มหล่อมาให้
"เริ่มเลยนะ"
สิ้นเสียงชินดง ฮันกยองโค้งตัวให้อีกฝ่ายและตั้งการ์ดเตรียมต่อสู้ทันที แจจุงโค้งตัวด้วยท่าทางเงอะงะและตั้งการ์ดรับบ้าง ทั้งสองจ้องตากัน ฮันกยองเป็นฝ่ายรุกก่อนและแจจุงก็หลบตัวไหวได้ทันท่วงที ทั้งคู่ไล่ต้อนกันไปเรื่อย และเมื่อเวลาผ่านไม่ถึงนาทีแจจุงก็สามารถมองการเคลื่อนที่ของอีกฝ่ายได้ทั้งหมด แต่ก็จำเป็นที่จะต้องทำเป็นเสียทีให้อีกคนอย่างเสียไม่ได้ ทั้งๆที่จริงๆแล้วแจจุงออกจะมั่นใจไม่น้อยว่า ถ้าให้ชกกันจริงๆ รุ่นพี่ฮันกยองอะไรนี่หมอบคาเท้าเขาไปนานแล้วแน่ๆ
เซียที่คอยมองอยู่ด้านล่างก็รู้สึกวางใจไปได้เปราะหนึ่ง ถึงแม้ฮันกยองจะไม่ได้เจ๋งจริงอย่างที่เขาคิดไว้ แต่เพื่อนรักของเขาก็สามารถเนียนทำโง่ได้เกือบตลอดเกมส์
อีกเพียงไม่ถึงครึ่งนาทีก็จะหมดเวลา และแจจุงก็จะประสบความสำเร็จกับการตีบทคนโง่จำเป็นได้แตกกระจุย แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อฮันกยองกะจบเกมส์ด้วยหมัดฮุกสุดท้าย โดยที่เจ้าตัวเงื้อมฝ่ามือเต็มเหนี่ยวพร้อมชกไปด้านหน้าสุดแรง ทั้งๆที่ถ้าเพียงแจจุงยอมยืนนิ่งเป็นเป้าให้ในครั้งนี้แล้วล่ะก็ หนึ่งยกที่พยายามโง่มาทั้งหมดก็จะจบลงด้วยดี แต่ทว่าด้วยความตกใจและประโยคของเพื่อนรักที่พูดเรื่องมะเร็งเต้านมก็พลันแว๊บเข้ามาในหัว ทำเอาแจจุงสติหลุดยกมือขึ้นกันหน้าอกตามสัญชาติญาณ แถมด้วยท่าไม้ตายเหวี่ยงสะบัดตัวหันศอกเข้าอกแกร่งและต่อด้วยกระโดดสูงลงเข่าที่ไหล่อีกที....
ทุกอย่างสงบนิ่ง
ฮันกยองล้มลงและนิ่งสนิทอย่างไม่เป็นท่า
ทุกสายตาของคนทั้งห้องจับจ้องไปที่ร่างบางที่เพิ่งล้มแชมป์สามปีซ้อนระดับเขตลงได้อย่างราบคาบ..
ชินดงอ้าปากค้างตาลอย
แจจุงที่เพิ่งได้สติหอบหายใจรัวเร็ว ตาโตกวาดมองไปทั่วเพื่อขอความช่วยเหลืออย่างไร้หนทาง
และ...
นั่น!!!
ไม่จริงใช่มั้ย?!
ยุนโฮมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?!
บอกทีว่ายุนโฮไม่ได้เห็นภาพเมื่อกี๊!!!!?
ไม่เห็นใช่มั้ย ใครก็ได้บอกที T^T
"ฉันว่าฉันได้คนไปแข่งแทนแล้วล่ะ"จู่ๆชินดงก็โพล่งขึ้นหลังจากที่ความเงียบปกคลุมห้องไปพักใหญ่ๆ
ร่างบางหันควับไปมองประธานชมรมที่ตอนแรกทำหน้าเหมือนโลกหยุดหมุนแต่ตอนนี้สีหน้ายิ้มระรื่นเหมือนชนะแข่งได้เหรียญทองแล้วก็ไม่ปานทันที
"พวกนายคงไม่มีใครคัดค้านนะ"
ทุกคนในที่นั่นพยักหน้าหงึกหงักอย่างเอาเป็นเอาตาย
ก็เล่นซัดซะรุ่นพี่หมอบพื้นขนาดนั้น
สิบคยูฮยอนยังสู้ไม่ได้เลยเหอะ
แจจุงรู้สึกเหมือนมีคนเอาไม้หน้าสามฟาดตรงหน้า ทุกอย่างมันเร็วเกินกว่าที่สมองจะรับรู้อะไรได้ ปากพะงาบขึ้นลงแต่ไร้ซึ่งเสียงออกมา
นอกจากยุนโฮอาจจะสงสัยตะขิดตะขวงใจแล้ว
เขายังต้องโดนส่งไปแข่งกับพวกผู้ชายตัวยักษ์อีกใช่มั้ยเนี่ย!!!
ไม่ได้นะ ถ้าขืนไปแข่งแล้วล่ะก็ เขาไม่สามารถแกล้งโง่ได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว
เพราะไม่งั้นเขาได้เป็นมะเร็งเต้านมสมใจอยากแน่..
ถ้าถึงเวลานั้นอะไรจะเกิดขึ้นล่ะ?
ความจะแตกมั้ยนะ?
แล้วนี่ทำไมยุนโฮต้องทำหน้าเหมือนเห็นเขาใส่ชุดบิกินี่แบบนั้นด้วย!!
เลิกจ้องสักทีเซ่!!
ไอ้เพื่อนบ้าก็ทำหน้าเหมือนครีบโลมาหักซะอย่างนั้น
จะช่วยปฏิเสธหน่อยไม่มีอะ
ไม่นะ
ทำไงดี โฮ T^T
ใครก็ได้ช่วยคิม แจจุง ผู้แสนน่ารักคนนี้ที ฮือ~!
หนูไม่อยากเป็นมะเร็งตายนะ โฮ T____T
.
.
.
2BC
Pairing : YunhoXJaejoong, YuchunXJunsoo, KibumXDonghae
Author: Deumbeui
Author’s note: ถ้าเกิดยูชอนไม่เข้ามาขัดจังหวะซะก่อน ฉันคงได้จูบแรกแล้วแน่ๆล่ะ
Born to Be# 4
ร่างสูงค่อยๆประคับประคองเด็กหนุ่มน่ารักซึ่งก็ค่อนข้างเต็มใจและปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่อยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งที่เฝ้าฝันมานาน สังเกตได้จากมือที่คล้องคอชายหนุ่มแน่นไม่ยอมปล่อย อีกทิ้งใบหน้าหวานก็วางเกยไหล่ของอีกคนและหายใจรดใบหน้าหล่อคมนั่นอย่างจงใจ
ยุนโฮอุ้มแจจุงไว้ในอ้อมแขนอย่างแนบแน่นจนกระทั่งมาถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไร้ผู้คนก็วางร่างนุ่มนิ่มหอมหวานลงบนเก้าอี้อย่างเบามือ...
"ขอผมดูหน่อยนะครับ"
ชายหนุ่มคุกเข่าลงตรงหน้า มือใหญ่ค่อยๆยกข้อเท้าเล็ก(ที่ดูไม่ได้เป็นอะไรเลย)ขึ้นพินิจพิจารณา
"บวมๆแดงๆนิดหน่อย ไปห้องพยาบาลมั้ยครับ? "
แดงตรงไหน?
บวมตรงไหน?
เมื่อกี๊แหลเจ็บนะจะบอกให้
หรือยุนโฮตาบอดสีไปแล้ว!!!?
"ไม่เอาอะฮะ ไม่อยากรบกวนยุนโฮ"
อ๋อ นี่คือถ้าไปจะให้ กะจะให้ยุนโฮอุ้มไปส่งด้วยงั้นสินะ!??
"แล้วไม่เป็นอะไรแน่นะครับ? "ถามพลางค่อยๆวางข้อเท้าขาวนั่นลงก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นมานั่งเก้าอี้เดียวกัน..มือเรียวค่อยๆวาดไปบนหน้าผากที่เล็กชื้นเหงื่อเล็กน้อย ปัดผมสีทองอ่อนๆที่ปรกใบหน้าขึ้นเพื่อจะได้เห็นดวงหน้าใสได้ชัดเจน..
อ่าวเห้ย!
มันเจ็บข้อเท้าไม่ใช่เรอะ?!
ลามไปถึงหน้าผากตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย!!?
"ผมเวียนหัวนิดหน่อยน่ะฮะ"
น่าน!!!!!!!!!
เจ็บเท้าแต่เวียนหัวครับแม่เจ้าโว้ย!!!!
"ถ้าซ้อมไม่ไหวพักก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวผมบอกชินดงให้"
"แล้วยุนโฮจะทำยังไงล่ะฮะ? ใครจะเป็นคู่ซ้อมให้ล่ะ? "
"นั่นสิเนอะ..."ร่างสูงว่าพลางทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยและเนียนเขยิบเข้าใกล้ร่างขาวผ่องตรงหน้ามากขึ้นโดยที่อีกคนก็เต็มอกเต็มใจที่จะอยู่ในอ้อมแขนแกร่งนั่นโดยไม่ลังเล...
"แล้วผมจะซ้อมกับใครดีล่ะถ้างั้น? "
โอ๊ย คนแต่งขอหมั่นไส้หน่อยได้ไหม?
แล้วไอ้พวกตัวถึกๆทั้งหลายที่ฟัดกับกระสอบทรายข้างนอกอยู่น่ะ
ไม่ได้อยู่ในชมรมแกรึไง ไอ้หมี!!!
"ตอนนี้ผมก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว เราไปซ้อมกันต่อก็ได้นะฮะ"แจจุงว่าพลางช้อนตาขึ้น มือเล็กจัดคอเสื้อของร่างสูงให้โดยไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ตาโตหรี่ลงเล็กน้อยทอดสายตาลงจับอยู่ที่คางได้รูปของอีกคน..มือแกร่งคว้าหมับเข้าที่มือซุกซนนั่น ใบหน้าคมก้มลงต่ำ จมูกได้รูปปัดเฉียดผิวแก้มชื้นเหงื่อของร่างบางไปเพียงเล็กน้อย ลมหายใจของทั้งคู่อยู่ในระดับเดียวกัน ริมฝีปากของทั้งสองห่างกันอีกเพียงเสี้ยวเซ็น..และ..
ปัง!!
"ไอ้ยุน อยู่รึเปล่า!? "
ยุนโฮหลุดสบถคำหยาบทันที
"อ้าว..อยู่นี่เอง"ผู้มาใหม่หยุดลงห่างออกไปไม่ไกลนัก ทอดสายตามองไปที่ทั้งคู่ก็พอรู้ว่าตัวเองมาผิดจังหวะอย่างจัง
มิกกี้ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อ
"กูขอโทษ แต่ชินดงเรียกว่ะ"
"เออ"ยุนโฮทำหน้าพร้อมกระโดดกัดคอมิกกี้อย่างไม่ปิดบังก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและไม่ลืมหันมาหยอดเสียงหวาน
"แจจุงอยู่นี่ไปก่อนนะครับ เดี๋ยวผมมา"
"ไม่เป็นไรฮะ ผมรู้สึกดีขึ้นแล้ว เราไปด้วยกันเลยก็ได้ฮะ"ร่างบางว่าพลางค่อยๆลุกขึ้นยืนแสดงบทบาทเยี่ยงคนเพิ่งหายป่วยได้สมจริงขนาดดาราฮอลิวู้ดยังต้องถวายโล่
ยุนโฮก้าวกลับมายืนข้างๆแจจุงก่อนจะเอื้อมมือโอบเอวให้ร่างเล็กแนบชิดกับตัวเองอย่างเกินความจำเป็นก่อนจะค่อยๆประคองออกเดินไปด้วยกัน
มิกกี้เห็นภาพตรงหน้าก็ยกมือกลั้นยิ้มหันหน้าไปอีกทาง
ทำอย่างกับเมียจะคลอดลูก ไอ้ห่ายุนเอ้ย!!!
.
.
.
"เป็นไง? หายเข้าไปซะตั้งนานนะ"เซียทักขึ้นเมื่อมีโอกาสอยู่ด้วยกันสองคนกับแจจุงในมุมหนึ่งของห้องซ้อม ตอนนี้ยุนโฮกับมิกกี้เข้าไปสมทบกับชินดงและอีกหลายๆคนซึ่งถ้าให้เดาก็คงไม่พ้นเรื่องแข่งขันที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้อย่างแน่นอน..
"เกือบไปละ ถ้าเกิดยูชอนไม่เข้ามาขัดจังหวะซะก่อน ฉันคงได้จูบแรกแล้วแน่ๆล่ะ"
เอ่อ...
ใช้คำอะไรผิดไปรึเปล่าแจจุง..
สำหรับผู้หญิงมันเรียกว่า ‘เสีย’ จูบแรกนะไม่ใช่ ‘ได้’
"อะไรกัน!? คืบหน้าเร็วไปแล้วนะเว้ย"
"เออดิ เสียดายมากเลยเหอะ ถ้าเพียงแต่ผู้ชายเธอไม่ทำเสียงเรื่องแล้วล่ะก็ ป่านนี้ฉันคงได้มีจูบแรกแสนวิเศษมิมีวันรู้ลืมไปแล้วแน่ๆ"
"โอ้ย อย่างกับฉันไม่เสียดายงั้นแล่ะ กำลังสบตากันแล้วเชียว เสียงชินดงเรียกยูชอนซะลั่นเลย"
"แล้วจะทำไงต่อไปล่ะ? "
"จะทำบ้าอะไรได้อีก ขืนรุกมากกว่านี้ไก่ตื่นกันพอดี ฉันว่าพอหอมปากหอมคอก็พอวันนี้น่ะ"
"ก็จริง ฉันว่าเราซ้อมกันเล่นๆเหอะ น่าเบื่อจะแย่ ซ้อมกับยุนโฮนะ ฉันต้องแกล้งเป็นไอ้โง่ตลอดเวลา โคดจะเหนื่อย"
"เหมือนกัน เราไปซ้อมกันเองตรงนั้นดีกว่า คนอื่นนี่ไม่ไหวเลย ฉันสะบัดครีบนิดเดียวก็กระเด็นไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มกันได้แล้วล่ะ"
ว่าแล้วทั้งสองก็ออกเดินไปยังมุมหนึ่งที่ปลอดผู้คนเพื่อซ้อมส่วนตัวทันที
.
.
"ตอนนี้เราต้องหาคนมาแทนคยูให้เร็วที่สุดนะ ปีนี้ชมรมเราเป็นตัวเก็งของที่หนึ่งในการแข่งขันทุกรุ่น ดังนั้นอาจารย์เลยอยากให้ลงให้ครบไม่มีคนขาดเลยน่ะ"
"แต่ถึงหาคนแทนได้ ก็ไม่เก่งเท่าไอ้คยูอยู่ดีไม่ใช่หรอ? "มิกกี้ออกความเห็น
"ฉันเข้าใจ แต่ปีนี้เรามีโอกาสชนะมากกว่าครึ่งเลยนะ ถ้าเราหาคนที่พอใช้ได้ ไม่จำเป็นต้องเท่าคยูมันก็มีโอกาสชนะได้ไงล่ะ"
"แล้วเราจะหาใครล่ะ ส่วนใหญ่พวกน้องๆก็ยังไม่ค่อยปึกเท่าไรเลย"ยุนโฮว่าบ้างพลางหันมองไปรอบๆ
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวรอเรียกประชุมอีกทีพรุ่งนี้ละกัน ตอนนี้พวกนายแยกย้ายกันไปซ้อมก่อน เดี๋ยวพาลตกรอบหมดทั้งทีมกันพอดี"ชินดงว่าอย่างหมดหนทางพลางส่ายหัวไปมาก่อนจะผละเดินออกไป..
"ถ้าให้พูดกันตามความจริงแล้ว คนอื่นๆที่เหลือฝีมือไม่ถึงขี้เล็บไอ้คยูเลยสักตัวเลยน่ะสิ"มิกกี้ว่าพลางหันไปทางยุนโฮเพื่อขอความเห็นหลังจากชินดงเดินห่างออกจากรัศมีที่จะได้ยินแล้ว
"ฉันก็ว่างั้น ก็ลองดูพรุ่งนี้ก็แล้วกัน เผื่อจะมีใครพอไปได้ เห้อ ตอนนี้ไปหาแจจุงดีกว่า!~~ "
"ฉันว่าช้าไปละ น่ะ สองคนนั้นเดินไปเปลี่ยนเสื้อแล้วล่ะ"มิกกี้ว่าพลางชี้ไปที่สองหนุ่ม(เทียม)น้อยน่ารักกำลังเดินเข้าไปที่ห้องล๊อกเกอร์
"เพราะนายคนเดียวแท้ๆ ตอนนั้นฉันกำลังจะได้...แล้วเชียวเหอะ ไอ้ไก่! "
"มึงไม่ต้องมาโทษกู กูก็โดนไม่แพ้มึง ชินดงแม่งเรียกทีจุนซูกูสะดุ้งครีบแทบทิ่มหน้ากู"
"เอาเหอะ ชวดมันกันหมด ตอนนี้ไปซ้อมต่อดีกว่า เดี๋ยวโดนชินดงมันบ่นอีก"
.
.
.
"วันนี้ซ้อมหนักหรอ? "ชางมินหนุ่มหล่อเพื่อนรักที่วันนี้ค้างบ้านแจจุงอีกวันเพื่อทำงานกลุ่มให้เสร็จเอ่ยถามขึ้นเมื่อเพื่อนสาวของเขาทั้งสองกลับเข้าบ้านมาก็นอนแผ่โซฟากันทันที
"วันนี้เขามีเรียกประชุมอะไรกันน่ะ ฉันก็เลยว่างๆไปซ้อมกันเองเอา คนอื่นๆในชมรมฝีมือขี้มากเหอะ"เซียว่าพลางลืมตาดูเพื่อนนิดนึงก่อนลงไปสลบเหมือดฟุบต่อ
"โคดจะเหนื่อย แถมวันนี้เจอครีบโลมาซัดเข้าที่อกอีก ถ้าพรุ่งนี้อกฉันระบมพันผ้าไม่ได้ ฉันเอาแกตายแน่ไอ้จุนซู"แจจุงบ่นขึ้นมาบ้างพลางหันไปส่งค้อนให้กับเพื่อนที่นอนแผ่ตีครีบอยู่ข้างๆ
"ระวังนะ เดี๋ยวมะเร็งเต้านมจะถามหา"
"ห๊ะ!? "สองสาวกระเด้งขึ้นจากโซฟานุ่มทันที
"นายว่าอะไรนะ เป็ด? "แจจุงถามเสียงสูง ตาโตเบิกกว้าง
"อ่าว นี่ไม่รู้หรอ? หน้าอกผู้หญิงถูกกระทบกระเทือนมากๆน่ะเป็นมะเร็งได้นะ"ชางมินกล่าวอย่างเป็นเรื่องธรรมดามือยังคงเคาะแป้นพิมพ์ไปเรื่อย
"รู้บ้าอะไรล่ะ ถ้าฉันรู้มาก่อนคงไม่เข้าชมรมนี้แต่เด็กหรอก เชี่ยแล้ว แล้วแบบนี้ฉันจะเป็นมั้ยอะ"หญิงสาวตาโตเริ่มกลัดกลุ้ม มือลูบคลำไปที่หน้าอกตัวเอง
ไม่นะ หน้าอกอันสวยงามของฉัน!!
"ถ้าฉันต้องผ่าออกนี่ไม่ดีแน่ ของฉันยิ่งไม่ค่อยจะมีนะ ให้ตาย ทำไมเพิ่งมาบอกวะ ไม่มาบอกตอนที่ฉันต้องเฉือนทิ้งไปข้างนึงก่อนล่ะ ไอ้ห่าชางมิน!! "เสียงโลมาแว๊ดกระแทกแก้วหูของชางมินจนอีกคนต้องละสายตามาพูดด้วยความเบื่อหน่ายใจ
"ฉันพูดไปตอนนั้นพวกเธอคงฟังฉันหรอก พนันได้เลยว่าคงจะได้ยินประโยคที่ว่า ‘ยอมเป็นมะเร็งตายเพื่อตามหารักแท้’ แน่ๆล่ะ"
"แล้วจะทำไงล่ะ? ถอนตัวตอนนี้ไม่ได้นะ แผนการณ์กำลังไปได้ดีแบบนี้น่ะ"
"ก็แค่ระวังไม่ให้โดนกระทบกระเทือนให้มันมากมายสิ ไม่ต้องขนาดถอนตัวหรอก ถึงพวกเธอจะมาถอยกันตอนนี้ ฉันก็ไม่ยอมแน่ล่ะ รู้มั้ยว่ากว่าจะฝากพวกเธอเข้าชมรมไปได้ ฉันลำบากยากเย็นแค่ไหนกัน!? "
สองสาวสบตากันครู่หนึ่งพลางคิดในใจเหมือนกันอย่างไร้สาเหตุ
ไอ้ห่านี่
ตกลงสนับสนุนให้เพื่อนเป็นเกย์แล้วใช่ไหมเนี่ย?!
"แล้วพวกเราต้องทำอะไรบ้างล่ะ? ต้องไปเช็คมะเร็งก่อนมั้ย? "แจจุงตัดสินใจถามขึ้น
ชางมินทำหน้าอยากเอาปากเป็ดเสน่ห์ของตนทิ่มตาโตๆนั่นให้รู้แล้วรู้รอด
"ฟังนะ การจะเป็นมะเร็งมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ต้องโดนชกแบบนั้นติดต่อกันเป็นล้านๆครั้งได้มั้งถึงจะมีโอกาสเป็นน่ะ ฉันแค่พูดให้พวกเธอระวังเอาไว้ เพราะไม่ว่าพวกเธอเก่งยังไง แรงของผู้ชายมันก็เหนือกว่าเสมอ ถ้าถูกขึ้นมาจังๆล่ะก็ทำเอาจุกได้เหมือนกันนะ"
"แน่ใจนะ"เป็นเซียบ้างที่ถามย้ำความแน่ใจ
"จะให้อธิบายโครงสร้างกระดูกและการเรียงตัวของดีเอ็นเอไหม ถึงจะพอใจห๊ะ ไอ้เตี้ยโลมา!? "เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาส่ายหัวไปมา ไม่น่าพูดออกไปเลย แค่จะขู่ขำๆเท่านั้นแล่ะ โอกาสจะเป็นมะเร็งเนี่ยมีไม่ถึ่งเสี้ยวเปอร์เซ็นด้วยซ้ำ ใครจะนึกว่าเพื่อนเขาสองคนมันไก่ตื่นง่ายแบบนี้
เซียที่โดนด่าสะบัดตามองอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินคำสบประมาทที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับตัวเอง
ไม่สูงเป็นเปรตอย่างมึงบ้างก็แล้วไป
ไอ้เป็ดดำเอ้ย!?
...........
.........................
ในเย็นวันต่อมาทั้งสองสาวมาอยู่ในห้องซ้อมเร็วกว่าปกติ เพราะทั้งคู่ต่างก็พันผ้ามาแล้วจากบ้านจึงใช้เวลาไม่มากในการเปลี่ยนเสื้อผ้า..วันนี้ไม่มีการซ้อมอย่างทุกครั้งเพราะประธานชมรมเรียกประชุมเรื่องหาคนไปแข่งแทนด่วน คนส่วนใหญ่ตอนนี้จึงออกันอยู่กลางห้องซ้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..
"ทุกคนคงรู้แล้วว่าตอนนี้พวกเราต้องหาคนมาแทนคยูมัน คนที่จะมาเป็นคู่ทดสอบให้คือรุ่นพี่ปีที่แล้ว"ชินดงว่าพลางผายมือไปทางชายหนุ่มรูปร่างสูงหุ่นดีด้านหลัง
"สวัสดี ฮันกยอง ยินดีที่ได้รู้จักน้องๆทุกคนนะ"
"เพื่อเป็นการยุติธรรมที่สุด พี่จะเรียกทดสอบทุกคนไปเลยก็แล้วกัน จะได้ตัดปัญหา เริ่มที่คนแรกเลยนะ..."
"เอ่อ..นี่อย่าบอกว่าพวกเราก็ต้องทดสอบด้วยน่ะแจจุง"เซียกระซิบขึ้นหลังจากมองคนแรกที่ถูกเรียกเดินผ่านหน้าตนเองไปขึ้นเวทีมวย
"ฉันก็ไม่รู้อะ นี่ยุนโฮกับยูชอนยังไม่มาเลย คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง สองคนนั้นไม่อยู่ฉันรู้สึกไม่ค่อยกดดันเท่าไร"
"ใช่ แต่ฉันก็ยังกลัวความลับแตกอยู่ดี ทำไงดีแจจุง? "
"ก็แกล้งโง่อย่างที่เคยแกล้งก็แล้วกัน ทำให้เนียนๆ ถ้าขืนเราตอบโต้มากไปมันจะเป็นที่สงสัยแน่ๆ"
"เออ พี่คนนี้ดูท่าทางเก่งไม่ใช่น้อย หวังว่าคงจะไม่เป็นอะไรนะ"
ขณะที่สองสาวกำลังเครียดหัวแทบระเบิดอยู่นั้น เสียงเรียกชื่อของชินดงทำเอาแจจุงใจหล่นวูบ
"คิม แจจุง"
หญิงสาวค่อยๆเดินผ่านผู้คนมุ่งไปยังหน้าสุดที่ติดกับเวทีมวย สีหน้าตื่นเต้นระคนกังวลใจทำเอาทุกคนคิดว่าเกิดจากความประหม่า แต่แท้จริงแล้ว ไอ้เรื่องชนะหรือแพ้ไม่ได้อยู่ในหัวของแจจุงเลยแม้แต่น้อย
ไอ้ที่ทำหน้าตาตื่นเต้นน่ะ
เพราะกลัวหลุดอะไรเกินจริงขึ้นมาน่ะสิ!
"ไม่ต้องกลัวนะ ขึ้นไปทำเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน พี่จำเป็นต้องเรียกทุกคนน่ะ ยกเว้นใครไม่ได้"ชินดงกระซิบกระซาบก่อนจะผลักให้แจจุงเดินขึ้นเวทีไป
หญิงสาวส่งสายตาเป็นกังวลให้เพื่อนรักที่ยืนอยู่ข้างล่างที่ทำท่าสูดลมหายใจลึกๆเป็นกำลังใจให้ก่อนจะหันกลับไปเผชิญคนตรงหน้าที่ส่งยิ้มหล่อมาให้
"เริ่มเลยนะ"
สิ้นเสียงชินดง ฮันกยองโค้งตัวให้อีกฝ่ายและตั้งการ์ดเตรียมต่อสู้ทันที แจจุงโค้งตัวด้วยท่าทางเงอะงะและตั้งการ์ดรับบ้าง ทั้งสองจ้องตากัน ฮันกยองเป็นฝ่ายรุกก่อนและแจจุงก็หลบตัวไหวได้ทันท่วงที ทั้งคู่ไล่ต้อนกันไปเรื่อย และเมื่อเวลาผ่านไม่ถึงนาทีแจจุงก็สามารถมองการเคลื่อนที่ของอีกฝ่ายได้ทั้งหมด แต่ก็จำเป็นที่จะต้องทำเป็นเสียทีให้อีกคนอย่างเสียไม่ได้ ทั้งๆที่จริงๆแล้วแจจุงออกจะมั่นใจไม่น้อยว่า ถ้าให้ชกกันจริงๆ รุ่นพี่ฮันกยองอะไรนี่หมอบคาเท้าเขาไปนานแล้วแน่ๆ
เซียที่คอยมองอยู่ด้านล่างก็รู้สึกวางใจไปได้เปราะหนึ่ง ถึงแม้ฮันกยองจะไม่ได้เจ๋งจริงอย่างที่เขาคิดไว้ แต่เพื่อนรักของเขาก็สามารถเนียนทำโง่ได้เกือบตลอดเกมส์
อีกเพียงไม่ถึงครึ่งนาทีก็จะหมดเวลา และแจจุงก็จะประสบความสำเร็จกับการตีบทคนโง่จำเป็นได้แตกกระจุย แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อฮันกยองกะจบเกมส์ด้วยหมัดฮุกสุดท้าย โดยที่เจ้าตัวเงื้อมฝ่ามือเต็มเหนี่ยวพร้อมชกไปด้านหน้าสุดแรง ทั้งๆที่ถ้าเพียงแจจุงยอมยืนนิ่งเป็นเป้าให้ในครั้งนี้แล้วล่ะก็ หนึ่งยกที่พยายามโง่มาทั้งหมดก็จะจบลงด้วยดี แต่ทว่าด้วยความตกใจและประโยคของเพื่อนรักที่พูดเรื่องมะเร็งเต้านมก็พลันแว๊บเข้ามาในหัว ทำเอาแจจุงสติหลุดยกมือขึ้นกันหน้าอกตามสัญชาติญาณ แถมด้วยท่าไม้ตายเหวี่ยงสะบัดตัวหันศอกเข้าอกแกร่งและต่อด้วยกระโดดสูงลงเข่าที่ไหล่อีกที....
ทุกอย่างสงบนิ่ง
ฮันกยองล้มลงและนิ่งสนิทอย่างไม่เป็นท่า
ทุกสายตาของคนทั้งห้องจับจ้องไปที่ร่างบางที่เพิ่งล้มแชมป์สามปีซ้อนระดับเขตลงได้อย่างราบคาบ..
ชินดงอ้าปากค้างตาลอย
แจจุงที่เพิ่งได้สติหอบหายใจรัวเร็ว ตาโตกวาดมองไปทั่วเพื่อขอความช่วยเหลืออย่างไร้หนทาง
และ...
นั่น!!!
ไม่จริงใช่มั้ย?!
ยุนโฮมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?!
บอกทีว่ายุนโฮไม่ได้เห็นภาพเมื่อกี๊!!!!?
ไม่เห็นใช่มั้ย ใครก็ได้บอกที T^T
"ฉันว่าฉันได้คนไปแข่งแทนแล้วล่ะ"จู่ๆชินดงก็โพล่งขึ้นหลังจากที่ความเงียบปกคลุมห้องไปพักใหญ่ๆ
ร่างบางหันควับไปมองประธานชมรมที่ตอนแรกทำหน้าเหมือนโลกหยุดหมุนแต่ตอนนี้สีหน้ายิ้มระรื่นเหมือนชนะแข่งได้เหรียญทองแล้วก็ไม่ปานทันที
"พวกนายคงไม่มีใครคัดค้านนะ"
ทุกคนในที่นั่นพยักหน้าหงึกหงักอย่างเอาเป็นเอาตาย
ก็เล่นซัดซะรุ่นพี่หมอบพื้นขนาดนั้น
สิบคยูฮยอนยังสู้ไม่ได้เลยเหอะ
แจจุงรู้สึกเหมือนมีคนเอาไม้หน้าสามฟาดตรงหน้า ทุกอย่างมันเร็วเกินกว่าที่สมองจะรับรู้อะไรได้ ปากพะงาบขึ้นลงแต่ไร้ซึ่งเสียงออกมา
นอกจากยุนโฮอาจจะสงสัยตะขิดตะขวงใจแล้ว
เขายังต้องโดนส่งไปแข่งกับพวกผู้ชายตัวยักษ์อีกใช่มั้ยเนี่ย!!!
ไม่ได้นะ ถ้าขืนไปแข่งแล้วล่ะก็ เขาไม่สามารถแกล้งโง่ได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว
เพราะไม่งั้นเขาได้เป็นมะเร็งเต้านมสมใจอยากแน่..
ถ้าถึงเวลานั้นอะไรจะเกิดขึ้นล่ะ?
ความจะแตกมั้ยนะ?
แล้วนี่ทำไมยุนโฮต้องทำหน้าเหมือนเห็นเขาใส่ชุดบิกินี่แบบนั้นด้วย!!
เลิกจ้องสักทีเซ่!!
ไอ้เพื่อนบ้าก็ทำหน้าเหมือนครีบโลมาหักซะอย่างนั้น
จะช่วยปฏิเสธหน่อยไม่มีอะ
ไม่นะ
ทำไงดี โฮ T^T
ใครก็ได้ช่วยคิม แจจุง ผู้แสนน่ารักคนนี้ที ฮือ~!
หนูไม่อยากเป็นมะเร็งตายนะ โฮ T____T
.
.
.
2BC
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น