ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ FIC]....Hot Doctor, Mean Patient ....[KiHae][KyuMin]

    ลำดับตอนที่ #4 : [NEW UPDATE!!] Shot 7 + Shot 8

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 54


    
Fiction : Hot Doctor, Mean Patient #7
    Pairing : KiHae, KyuMin
    Rate : Kindergarden
    Author: Deumbeui

     
     
    "ยุนอา!? "




    หญิงสาวหน้าตาสวยใสเหมือนเพิ่งเข้าสู่ช่วงเด็กวัยรุ่นหันหน้าไปทางคนที่เอ่ยชื่อของตนด้วยน้ำเสียงประหลาดใจอย่างปิดไม่มิด พลางโปรยยิ้มให้

    

"ขอบคุณที่ยังจำกันได้นะคะ คยูฮยอน"เสียงเล็กถูกส่งออกไปก่อนจะเบือนหน้ามายังอีกคนที่หญิงสาวพยายามเรียกร้องความสนใจตั้งแต่ต้น แต่เจ้าตัวกลับทำเพียงหันหน้ามายิ้มให้บางๆแค่นั้น



    "อะไรกัน? ไม่เจอกันแค่เท่าไร จำยุนอาไม่ได้แล้วหรอเนี่ย? "



    "จำได้สิครับ"คิบอมตอบสั้นๆพลางยิ้มสบายๆให้ก่อนจะถามต่ออย่างมีมารยาท



    "ยุนอากลับมาตั้งแต่เมื่อไรล่ะครับ? "

    

"กลับมาได้สักพักแล้วล่ะค่ะ พอดีคุณลุงอยากลองให้มาฝึกทำงานในบริษัทด้วย คิดว่ากลับมาครั้งนี้ก็คงอยู่ยาว"

    

"คุณลุงของยุนอาที่ว่านี่ เจ้าของงานวันนี้สินะครับ"



    "ค่ะ"หญิงสาวละหันมาตอบคยูฮยอนเพียงนิดก่อนจะหันกลับไปให้ความสนใจกับคิบอมที่ตอนนี้หันไปคุยกับร่างเล็กข้างตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว




    "ทงเฮ อิ่มแล้วหรอ? "



    "ยัง แต่เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำ"



    "ให้ไปด้วยไหม? "



    "ฉันไม่ได้ขาด้วนนะ นายอยู่นี่แล่ะ อ๊ะ ตักเค้กมอคค่าก้อนนั้นให้หน่อย เดี๋ยวฉันมา"ร่างเล็กว่าเพียงแค่นั้นก่อนจะยื่นจานให้ร่างสูงและผละตัวออก จากวงสนทนา


    



"แฟนคิบอมหรอคะ? "

ยุนอาที่มองตามจนทงเฮลับหายไปในฝูงชนหันมาเอ่ยถามร่างสูงที่กำลังจะเดินไปตักเค้กอย่างที่ร่างเล็กบอกไว้



    คิบอมชะงักกับคำถามเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าอมยิ้มเพียงนิด และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นอีกสองคนด้านหลังที่ยืนลุ้นตัวโก่งว่าเจ้าตัวจะตอบว่าอะไร โดยเฉพาะซองมินที่ออกหน้าออกตาถึงขนาดว่าถ้าตอบไม่ถูกใจแล้วล่ะก็ งานนี้คงมีปาร์ตี้เขวี้ยงเค้กเป็นแน่



    "ไม่ใช่หรอกครับ..."

    

"อย่ามาโกหกหน่อยเลย ยุนอาไม่เคยเห็นคิบอมควงคนไหนออกงานเลยนะคะ"

    

"ผมไม่ได้โกหกหรอก..พอดีผมยังไม่ได้ลองขอเขาดูเลยน่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะตกลงเป็นแฟนผมไหม"ตอบพร้อมทิ้งท้ายไว้ด้วยรอยยิ้มแค่นั้นก่อนผละจากไป ทำเอาซองมินที่ได้ฟังตอบแทบจะประเคนรองเท้าเสริมส้นสองนิ้วที่ใส่อยู่เข้าให้



    โอ้ย ไม่หรอก ทงเฮคงไม่ตกลงหรอกมั้ง แทบจะทอดสะพานถึงปลายเตียงกันอยู่แล้วนั่น ถ่างตาตื่นแต่เช้าออกจากบ้านมันทุกวันเพื่อเปลี่ยนที่อยู่ไปอยู่โรงพยาบาลมันเช้าจรดค่ำนั่นน่ะ น้องกูคงไม่ตอบตกลงกับมึงมั้งไอ้คิบอม!!!

    



    "คิบอม..เขา..ดูเปลี่ยนไปนะคะ"ยุนอาเอ่ยขึ้นกับคยูฮยอนเมื่อคิบอมเดินห่างออกไปพ้นจากรัศมีที่ได้ยินแล้ว



    "คิบอมมันไม่ได้เปลี่ยนหรอกครับ.. "

"แค่ยุนอาไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้ต่างหาก

    "คยูฮยอนตอบรับพลางยิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนจะผละไปดูงานส่วนอื่นๆพร้อมๆกับซองมิน


    ...



........
...
    ...................



    


"ไม่น่าเชื่อนะว่าคนอย่างคิบอมจะมาคบกับคนอย่างนาย"

ยังไม่ทันก้าวขาออกจากห้องน้ำชายได้ก้าวหนึ่งดี เสียงเล็กของหญิงสาวคุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านข้างดึงความสนใจของทงเฮไปได้เพียงนิดก่อนที่ร่างเล็กจะเบือนหน้าหนีไปทางเดิม ไม่พูดอะไร..

    

"ไม่ได้เจอกันนาน ไม่เปลี่ยนเลยนะ... "หญิงสาวว่าพลางเดินมาหยุดตรงหน้ากระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากและพูดต่อ




    "เตี้ยยังไงก็ยังเตี้ยแบบนั้น"

    


"แต่เธอเปลี่ยนไปมากเลยนะ จำแทบไม่ได้เลยว่าจะเป็นคนเดียวกันกับยุนอาที่เป็นเพื่อนฉันสมัยตอนม.ต้น เด็กผิวดำอย่างกับเด็กชายแดนคนนั้นหายไปไม่เหลือเค้าเดิมเลยจริงๆ หมดเงินไปเท่าไรล่ะ? แต่ฉันว่ามันก็คงไม่แพงอะไรหรอกจริงไหม? ก็แค่ก้อนพลาสติกยืนหยุ่นได้ยัดอยู่ตามจมูกและหน้าเธอเท่านั้นนินะ อ้อแล้วที่ผิวขาวขึ้นขนาดนี้ ฉันว่าหมอคงให้เธอกินสารซีเอฟซีเป็นอาหารด้วยล่ะสิ ตัวถึงจะเรืองแสงได้ขนาดนี้น่ะ"



    ยุนอาได้ยินถึงกับปรี๊ดจนตาโตๆที่ไป กรีดมาแทบทะลักหลุดจากเบ้า จำนวนเงินมิใช่น้อยหมดไปกับก้อนสิลิโคนที่ถูกนำมาตัดแต่งอยู่ไปทั่วใบหน้า สามารถดึงดูดผู้ชายมากหน้าหลายตามาตลอดกลับถูกนำไปพูดดูถูกเหยียดหยามมันน่าโมโหใช่น้อยเสียเมื่อไร จมูกฉันทำอย่างดีนะจะบอกให้ ตบแล้วไม่เคลื่อนนะเหอะ!



    "อย่าคิดว่าจะเอาชนะฉันได้นะ!"



    "ฉันอยากเอาชนะเธอตอนไหนไม่ทราบ? ทะเลาะกับผู้ชายเพื่ื่อแย่งผู้ชายเนี่ย ไม่รู้สึกน่าละอายบ้างรึไง? "

    

"ก็ลองดูก็แล้วกันว่าผู้ชายอย่างนายจะจับเขาได้นานแค่ไหน"



    "อย่างน้อยก็นานกว่าผู้หญิงหน้าปลอมพลาสติกอย่างเธอแน่ๆล่ะ"ทงเฮว่าแค่นั้นก่อนตัดบทเดินหนีออกจากตรงนั้นทันทีอย่างไม่หยี่หระสนใจใดๆ


ขาเรียวเล็กเดินฝ่าฝูงคนมากมายในงานมาหยุดลงที่โต๊ะยาวที่มีร่างสูงยืนเด่นเป็นสง่ากำลังง่วนเลือกเค้กอยู่อย่างไม่ใส่ใจคนรอบข้างจนเมื่อรู้สึกถึงการมาถึงของอีกคนจึงเอ่ยถามทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาจากเค้กตรงหน้าเลยสักนิด 



    "จะเอาอะไรอีกรึเปล่าครับ? "




    "เป็นอะไรกัน? "




    คิบอมเงยหน้าพลางสบตาเรียวของร่างเล็กเหมือนครุ่นคิดว่าทงเฮตั้งใจจะสื่อถึงเรื่องอะไรก่อนจะละสายตาไปมองที่เค้กตามเดิมและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ สบายๆ




    "กิ๊กเก่าครับ"

    


"นานแค่ไหน"

    

"ผมไม่ได้นับ"

    

" งั้นก็คงกิ๊กกันนานน่าดูเลยนะ ถึงขั้นนับไม่ได้เนี่ย"ทงเฮพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย มือบางคว้าเอาจานที่ร้างสูงกำลังตักเค้กใส่อยู่มาและเริ่มลงมือตัดกิน..



    "ไม่ได้นับกับนับไม่ได้ ความหมายต่างกันนะครับ"

    

"งั้นก็นับมาซะสิ"

    

ยังไม่ทันที่หนุ่มรูปงามอย่างคิม คิบอมจะได้เอ่ยปากตอบอะไรออกมา เสียงเพื่อนรักก็แทรกแหวกอากาศขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน



    "เจอกันสามสี่ครั้งตามงานเลี้ยงแถมปฏิเสธไม่ให้เบอร์ติดต่อ ไม่เมลล์ ไม่โทร แบบนี้ไม่เรียกกิ๊กหรอกนะ ไอ้คิบอม!!"

คยูฮยอนเดินผ่ากลางฝูงชนเข้ามาตามมาด้วยซองมินที่อยู่ด้านหลัง ชายหนุ่มหยุดลงข้างๆคิบอมพลางวางมือลงบนไหล่และยักคิ้วส่งยิ้มให้...

"ไปโกหกทงเฮให้คิดมากทำไมกัน"



    "ใครบอกฉันคิดมาก?"เจ้าของเสียงใสสวนขึ้นทันควันก่อนจะพูดรัวเร็วและก้มหน้าทำทีเป็นสนใจเค้กตรงหน้าเสียเต็มประดา...

"..แค่ถามเท่านั้นแล่ะ!"



    " ไอ้หมอนี่น่ะ มาก็แค่ดูงาน บ่นจะกลับท่าเดียวตั้งแต่งานเพิ่งเริ่มแทบทุกครั้งด้วยซ้ำ...จะมีก็ครั้งนี้ แล่ะที่เห็นว่าอยู่ถึงกลางงานเป็นครั้งแรก...ทงเฮไม่ต้องคิดมากเรื่องยุนอาหรอก"

    

"ฉันไม่ได้คิดมากสักหน่อย! "

    

"คิบอม วันหลังไม่ได้เป็นอะไรกันก็บอกๆไปเหอะ น้องฉันจะได้ไม่ต้องมาโวยวายทีหลัง"

    

"พี่ซองมิน ผมไม่ได้โวยวายนะ!! "

ใช่ อี ทงเฮไม่ได้คิดมากนะ..แต่แก้มใสที่แดงระเรื่อเนี่ย มันก็แค่เพราะเค้กตรงหน้ามันน่ากินมากต่างหากล่ะ(เกี่ยวไหมเนี่ย?)...



    ทงเฮที่หันไปเห็นว่าร่างสูงแอบอมยิ้มหัวเราะให้กับท่าทางของเขาก็ปรี๊ดจนแทบปรอทแตก..วางจานกระแทกโต๊ะและเอ่ยบอกกับซองมินทันที



    "ผมจะกลับล่ะ"



    " พี่จะบอกพอดีเลยว่า กลับกับคิบอมนะ เพราะว่าคืนนี้พี่จะไปค้างบ้านคยูฮยอน...แล้วก็ที่บ้านตอนนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่นะ มีประชุมด่วนที่อเมริกา เพิ่งบินไปเมื่อตอนเย็นนี้เอง"

    

ทงเฮแทบอยากกระโดดกัดคอซองมินให้มันรู้แล้วรู้รอดนัก...ที่บ้านไม่มีใครอยู่แต่ยังมีน่ายิ้มระรื่นพูดมาได้เต็มปากเต็มคำว่าจะทิ้งน้องชายคนเล็กให้อยู่คนเดียว แล้วตัวเองจะไปอี๋อ๋อนอนบ้านแฟน…

    

มีพี่ชายแบบนี้ขายทิ้งซะดีกว่า!!!





    "ทงเฮจะกลับตอนนี้เลยรึเปล่าครับ? "

    

"งั้นผมกลับเองก็ได้ ไปล่ะ"ร่างเล็กทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินเสียงของอีกคนพลางหันหลังกลับแหวกฝูงชนเดินไปประตูทางออกอย่างรวดเร็ว…





    ทงเฮก้มหน้าก้มตาเดินลงบันไดมาออกมาถึงหน้าโรงแรมกำลังจะบอกกับพนักงานที่ยืนอยู่ด้านหน้าว่าให้เรียกแทกซี่ให้ แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากอะไรก็มีมือใหญ่ของอีกคนจากทางด้านหลังคว้าข้อมือเล็กของเขาไว้เสียก่อน ก่อนจะพาเดินไปยังลานจอดรถด้านหน้าโรงแรมโดยมีเสียงโหวกเหวกโวยตลอดทาง



    "นี่ปล่อย!! ปล่อยดิวะ!!!! "

    

"คิม คิบอม!! บอกให้ปล่อยไงโว้ย!!! "




    ร่างสูงทำทีไม่สนใจเสียงดังโวยวายนั่น ขายาวก้าวเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดเมื่อมาถึงตัวรถก่อนจะปล่อยมือจากร่างบางผละไปเปิดประตูด้านข้างคนขับให้..

ทงเฮไม่แม้จะขยับเขยื้อนแต่อย่างใด ทำเพียงแต่เบี่ยงหน้าไปทางอื่นที่ไม่ใช่ประตูรถและหน้าของคิบอม..


    
"ขึ้นรถสิครับ"

    

"ไม่ล่ะ ฉันจะกลับเอง"

    

"แต่ซองมินบอกให้ผมไปส่ง"

    

"แต่ฉันบอกว่าฉันจะกลับบ้านเองไงล่ะ! "

    

"....."

    

"อมยิ้มบ้าอะไรของนาย!!!... "




    ร่างสูงที่ยืนเงียบอมยิ้มไม่ตอบอะไรมันช่างขัดหูขัดตาทงเฮเสียจริง..

    ดูสิ! เอาเข้าไป!..ขนาดถามแล้วยังจะยืนยิ้มอยู่อีก...



    ไอ้หมอบ้า!!!!!!!!!!!!

ไปตายซะเหอะ!!!





    "ทงเฮ โกรธหรอ? "



    "เปล่า!.. "



    "โอเค ผมขอโทษก็ได้...แต่ผมไม่รู้จะปฏิเสธทงเฮยังไงนี่"

    

"หมายความว่าไง? "

    

" ก็ผมกลัวว่าถ้าพูดว่าไม่ได้เป็นอะไรกันมันจะเหมือน..ข้อแก้ตัวเท่านั้นเอง ... "ถึงตรงนี้หมอหนุ่มถึงขนาดยกมือเกาปลายจมูกหันหน้าหนีแก้เขินกันเลยทีเดียว..

ให้ตายเหอะ คิม คิบอมเขินต่อหน้าคนเป็นครั้งแรกนะจะบอกให้!

    

" ไม่ได้เป็นก็ไม่ได้เป็นสิ ทำไมฉันจะต้องหาว่านายแก้ตัวด้วยล่ะ.. "ทงเฮเอ่ยพลางเบี่ยงหน้าหนีไปอีกทางเช่นกันเมื่อเห็นปฏิกิริยาของร่างสูงในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน



    ให้ตายเหอะ!!

    


เวลาแบบนี้น่ะ….

    

นายไม่จำเป็นต้องทำหน้าเขินได้หล่อขนาดนั้นได้ไหมเล่า!!!!



    ใจมันสั่นน่ะ เข้าใจไหม???






    "ขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง มันดึกแล้ว"

คราวนี้ทงเฮเลิกเล่นตัวและเลิกส่งเสียงโวยวายใดๆแถมยอมขึ้นรถแต่โดยดีจนอีกฝ่ายก็แอบประหลาดใจอยู่ไม่น้อย...คิบอมเดินข้ามมาเปิดประตูฝั่งคนขับก่อนจะสตาร์ทรถเตรียมตัวออกจากลานจอดรถนั่น...แต่เสียงหวานกลับขัดขึ้นเสียก่อน..

    

"ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน"



    "แต่มันดึกแล้วนะครับ"


    

"จะดึกหรือไม่ดึก ฉันก็ยังไม่อยากกลับนิ!"



    เอ้า! ถึงทีที่หมอหล่อไล่ไม่ทันอี ทงเฮบ้างแล้ว ถ้าไม่ใช่บ้านแล้วคนตัวเล็กอยากจะไปไหนอีกได้ล่ะ? สมองอันชาญฉลาดตอนนี้ก็เริ่มชักจะไปไม่เป็นแล้วสิ เจอทงเฮว่าง่ายไปดอกหนึ่ง สวิ๊ตในหัวก็แปรปรวนไปแล้วหนึ่งนั่นล่ะ




    "ฉันอยากไปกินข้าวต้มรอบดึกแถวๆบ้านนาย เห็นบอกว่าอร่อยไม่ใช่หรอ? "

    


บอกไปตอนไหนวะ? นั่นคือสิ่งที่คิบอมอยากจะถามออกไปมากที่สุด แต่ใช่ว่าเขาจะรับมุขไม่ทันว่าร่างเล็กต้องการจะสื่อถึงอะไร แล้วเรื่องอะไรที่เขาจะต้องย้อนถามให้เสียเวลา เพราะถ้าเกิดอีกฝ่ายเปลี่ยนใจขึ้นมา ไม่ใช่เขาหรอกหรือ? ที่จะเสียดายโอกาสนี้ไป



    

"ถ้าเป็นแบบนั้น ไปกินที่บ้านผมอร่อยกว่านะครับ"






    อี ทงเฮ

    

อยากได้ยาก่อนนอนก็บอกเขาไปตรงๆเลยดีกว่านะ




    อย่าอ้างข้าวต้มเลย

    

มันฟังไม่ขึ้น ^ ^

     
     


    Fiction : Hot Doctor, Mean Patient #8
    Pairing : KiHae, KyuMin
    Rate : Pre-NC
    Author: Deumbeui

     
    "ปล่อยสองคนนั้นกลับไปด้วยกันแบบนั้น คิดอะไรอยู่กันแน่ครับ? "เสียงนุ่มลื่นหูเอ่ยถามคนที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จหมาดๆและยืนส่งกลิ่น สบู่หอมอบอวลไปทั่วห้องตรงหน้าก่อนจะรั้งเอวบางเข้ามากอด..แนบอกกว้างของตัวเองกับหลังเล็กขาวแถมท้ายด้วยการฝังปากอุ่นๆลงกับซอกคอหอมอย่างหมั่นเขี้ยว..

    "ก็อยากจะรู้นักว่าถ้าผ่านคืนนี้ไปแล้วมันจะยังเป็นตื๊ดกัน ได้อีกนานแค่ไหน.. "ซองมินหันหลังพลางหยิบผ้าที่พาดอยู่ตรงคอของคยูฮยอนขึ้นเช็ดผมให้พลางพูดถึงอีกสองคนด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้เต็มทน...

    ถ้าพ้นคืนนี้ไปแล้วความสัมพันธ์ยังไม่คืบหน้า...

    คิม คิบอม แกไปบวชซะเหอะ!!


    "งั้นผมคงต้องบอกว่า ซองมินอาจจะต้องผิดหวังนะครับ"

    "อะไรกัน เพื่อนของคยูไม่ใช่พระสักหน่อย ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นล่ะก็ คงต้องเปลี่ยนไปให้น้องฉันรุกแทนแล้วล่ะมั้งน่ะ! "

    คยูฮยอนขำในลำคอก่อนจะยื่นหน้าจูบปากแดงเร็วๆทีนึง..


    "อย่างคิบอมน่ะ กับคนที่ไม่ได้ชอบจะไม่มีวันยุ่งด้วย และต่อให้กับคนที่ชอบ..ผมก็เชื่อว่ามันก็คงยังไม่ทำอะไร"

    "มันก็แค่ความคิดของคยูเท่านั้นล่ะน่ะ เพราะคยูเองก็ยังไม่เคยเห็นคิบอมชอบใครจริงๆจังๆเหมือนกันนิ"

    "พนันกันไหมล่ะครับ? "ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์พลางยื่นหน้าเข้าไปฝังจมูกกับแก้มนิ่มทีนึง

    "ได้เลย ยังไงซะ น้องชายฉันก็ไม่ได้ไร้เสน่ห์ขนาดนั้นหรอกนะ"ร่างบางว่าอย่างมั่นใจพลางเช็ดหัวให้คนรักต่อ

    "งั้นถ้าซองมินแพ้ต้อง….."

    " พอเลย..ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฉันจะโดนอะไร...เอาเป็นว่าชนะพนันให้ได้ก่อนก็ แล้วกัน....อ๊ะ!"เมื่อซองมินพูดจบ..เจ้าตัวก็ถูกยกตัวลอยเหนือพื้นทันทีก่อนที่คนอุ้มจะพาไปวางลงตรงขอบเตียง..

    "งั้นคืนนี้ผมขอมัดจำไว้ก่อนเลยก็แล้วกันนะ! ^ ^"


    ซองมินกลอกตาขึ้นเพดานอย่างรู้ชะตากรรม..มือเรียวโอบคอของอีกคนขณะที่โดนผลักลงบนเตียงนุ่ม..

    ให้ตายเถอะ คืนนี้จะโดนมัดจำเอาไว้กี่รอบกันนะ?!

    นี่ฉันต้องเป็นฝ่ายแพ้ทั้งๆที่ยังไม่รู้ผลพนันเลยใช่ไหมเนี่ย? - -*




    ...............
    ...............................


    ใช้เวลาเพียงไม่ถึงยีสิบนาที…รถสไตล์ยุโรปคันหรูก็จอดลงที่หน้าบ้านหลังโอ่อ่าหลังหนึ่งที่มีเพียงเสาไฟสองดวงที่เป็นเพียงแสงสว่างตรงบริเวณนั้น..

    เมื่อดับเครื่องยนต์..ปลดล๊อกเข็มขัดนิรภัยแล้วร่างสูงก็เอ่ยกับคนตัวเล็กข้างตัวที่ดูจะสนอกสนใจตัวบ้านเขาเหลือเกิน

    "ถึงแล้วครับ"

    "ไม่มีใครอยู่หรอ? "ร่างเล็กที่สังเกตเห็นได้ว่าภายในตัวบ้านมืดสนิทถามขึ้นอย่างเด็กขี้สงสัย..

    "พ่อแม่ผมอยู่ต่างประเทศน่ะครับ ส่วนแม่บ้านกับคนอื่นๆคงเข้านอนกันหมดแล้ว"ว่าพลางปลดล๊อกประตูรถ

    "แบบนี้... "

    แบบนี้...

    มันก็ไม่เหมือนอย่างที่คิดไว้น่ะสิ...*^*


    "แบบนี้ทำไมครับ? "เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่มีทีท่าว่าจะลงไปจากรถเสียที ก็เลยเลยตามเลย นั่งคุยมันในรถต่อนี่ล่ะ!

    "ปะ..เปล่า..ไม่มีอะไร"

    "ก็เมื่อกี๊ทงเฮพูดว่า แบบนี้... "

    " ก็บอกว่าไม่มีอะไรไงล่ะ! "ไม่เข้าใจ..จะยื่นหน้ามาทำไมวะ!..คนยิ่งใจไม่ดีอยู่นะ ให้ตายเหอะ!...มือเล็กรีบผลักประตูเปิดออกไปก่อนจะยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก รอให้อีกคนที่เดินอ้อมด้านหน้ารถมาเป็นคนพาเดินเข้าไปในบ้าน...


    "ขึ้นไปรอบนห้องผมก่อนละกัน เดี๋ยวผมไปให้แม่บ้านทำข้าวต้มให้"

    "ไม่ต้อง! ดึกขนาดนี้แล้วนายจะไปปลุกเขาขึ้นมาทำไม..อีกอย่างถ้าฉันจะกิน ทำไมต้องขึ้นไปกินที่ห้องนายด้วยล่ะ?! "


    " อ้าว..ไม่ใช่ว่าทงเฮอยากได้ยาก่อนนอนหรอกหรอ? ถึงจะหาอะไรกินรองท้องน่ะ...อีกอย่างถ้าจะกินยาก่อนนอนน่ะ..ผมก็ต้องให้ที่ห้องผมสิ จริงไหม? "


    "....."

    "…^ ^..."คิบอมยิ้มรับให้กับท่าทางของทงเฮที่ตอนนี้ก้มหน้าลง กัดปากอย่างครุ่นคิด...


    "งั้นพาฉันไปห้องนายสิ"


    คิดว่าฉันจะยอมแพ้นายเรอะ คิม คิบอม!

    คิดเร็วไปร้อยช่าติล่ะ!!!


    .
    .
    .


    "เดี๋ยวผมไปอาบน้ำอีกห้องนึง ทงเฮอาบห้องนี้ไปละกันนะครับ เสื้อผ้ารื้อเอาได้ตามสบายในตู้นะ"ชายหนุ่มร่างสูงว่าพลางขณะค้นหยิบเสื้อนอนของตัวเองออกจากตู้ มือยาวคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมาพาดที่ไหล่ก่อนเดินออกจากห้องไปทิ้งให้คนตัวเล็กยืนหัวหมุนอยู่ในห้องขนาดใหญ่เพียงลำพัง..

    เด็กหนุ่มเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าที่เมื่อกี๊คิบอมเพิ่งเลือกเสื้อเพื่อเลือกชุดนอนตัวเองบ้าง...ทงเฮฉวยเอาเสื้อนอนตัวใหญ่สีฟ้าลายทางกับกางเกงที่คิดว่าน่าจะเป็นขาสั้นเข้าชุดกันออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนหนึ่งและเดินหายลับเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง...

    กว่าทงเฮจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็กินเวลานานพอสมควร พอออกมาก็พบว่าคิบอมนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานใกล้ๆเตียงกำลังขะมักเขม้นกับกอง เอกสารจำนวนหนึ่งและแลปทอปตรงหน้า..ร่างเล็กลากตัวเองในชุดเสื้อตัวนอนใหญ่กับกางเกงที่ตอนนี้กลายเป็นขาสามส่วนไปแล้วมาที่ปลายเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนกับกองผ้าห่ม..

    คิบอมที่ได้ยินเสียงจากทางด้านหลังจึงละหน้าจากงานตรงหน้ามาที่คนตัวเล็กที่แทบจะยัดตัวเองขดไปในผ้าห่มเกือบทั้งตัว..

    "ข้าวต้มอยู่โต๊ะข้างๆหัวเตียงนะครับ"

    " นายไปปลุกแม่บ้านขึ้นมาทำให้จริงๆเรอะ!? "ทงเฮว่าพลางผงกหัวตัวเองมองไปยังหัวเตียงทันที..ข้าวต้มหอมฉุยส่งควันร้อน ลอยขึ้นมาเหนือชาม...

    "ผมทำเองน่ะ เห็นว่าทงเฮอยากกินนี่"ทำมาเป็นอ้อมค้อม..รู้อยู่แล้วว่าเราคิดอะไร...ยังจะทำข้าวต้มให้มันวุ่นวายเพื่อ!!!?? เฮอะ!

    แต่เอาน่ะ..มันก็ทำมาแล้วนิ..กินสักหน่อยจะเป็นไรไป..

    ว่าแล้วคนตัวเล็กก็ค่อยๆกระดึ๊บตัวเองไปยังหัวเตียง...จับช้อนในชามตักข้ามต้มขึ้นมาพอดีคำก่อนจะค่อยๆเป่าและงับเข้าปาก...

    ทงเฮเอร็ดอร่อยกับข้าวต้มตรงหน้าจนไม่ได้ใส่ใจอะไร...แม้คิบอมจะมายืนอยู่ข้างๆแล้วก็ตาม


    " ทำไมไม่เช็ดผมให้แห้งก่อนล่ะครับ?.. "เสียงนุ่มเอ่ยเหมือนจะตำหนิ แต่ก็แค่นั้น..มือใหญ่หยิบเอาผ้าขนหนูที่ถูกทิ้งอยู่บนเตียงขึ้นมาแล้วเช็ดเบาๆลงบนกลุ่มผมสีอ่อน..

    "อ๊ะ!... "จู่ๆทงเฮก็สะดุ้งลุกขึ้นนั่งขณะที่ช้อนข้าวต้มยังคาอยู่ในปาก...ตาเรียว ก้มลงมองไปที่ชามข้าวต้มที่พร่องไปกว่าครึ่งแล้วก่อนจะครางในใจ

    เชี่ย..

    ลืมได้ไงวะ!!?


    คิบอมที่เช็ดผมให้ร่างเล็กเสร็จได้สักพักแล้วทิ้งตัวลงมองคนด้านข้างจ้วงข้าวต้มฝีมือของเขาอย่างน่าเอร็ดอร่อยพลางอดขำไม่ได้ที่จู่ๆทงเฮก็เด้งตัวเองขึ้นมาก่อนมองหน้าเขาและก้มลงไปมองชามข้าวต้มตาละห้อย...

    ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าทงเฮคิดถึงอะไรอยู่...

    ไม่ต้องอ้อนเอา ยังไงเขาก็เต็มใจให้อยู่แล้วล่ะนะ...


    "ว้า ลืมยาก่อนอาหารแบบนี้...สงสัยต้องเบิ้ลยาก่อนนอนซะแล้วล่ะมั้ง"


    "ขี้โม้ ข้าวต้มยังไม่หมดสักหน่อย"

    "แต่ทงเฮก็กินมันเข้าไปก่อนกินยาแล้วนี่น่า"

    "ไม่รู้ล่ะ! "

    ก็คนมันอยากได้ยาก่อนอาหารด้วยนี่!..ไม่สนหรอกนะว่าจะให้ยาก่อนนอนกี่ชุด

    ตอนนี้อี ทงเฮ อยากได้ยาก่อนอาหาร!!!


    หมอหนุ่มก้มหน้าอมยิ้มก่อนจะค่อยๆดึงคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ๆ..กระซิบลงที่ใบหูเบาๆและป้อนยาอย่างที่ทงเฮต้องการ...

    "เห็นว่าทงเฮอ้อนหรอกนะครับ"

    อ้อน? อ้อนตอนไหน? ทงเฮจำไม่ได้หรอกนะ แต่ตอนนี้ขอรับยาก่อนอาหารและปฏิบัติตามคำสั่งของหมอก่อนก็แล้วกัน ><


    " อื้อ~~คิ..ฮึก..คิบอม...อื้ม~!"เดี๋ยวสิ! จูบมันชักจะลึกไปแล้วนะ อื้อ!!..ข้าวต้มยังไม่หมดเลย!!...จะเอาให้ขาดใจก่อนกินยาหลังอาหารอีกใช่ไหม เนี่ย!!

    "ยังหิวอยู่อีกรึเปล่าครับ? "

    "......."ไม่ต้องแปลกใจ..ใครจะตอบได้ในทันทีเล่า!!..เล่นจูบจนหอบแบบนี้น่ะ!!!

    "อื้อ~~"นี่ก็ยังไม่ใช่คำตอบอีกนั่นแล่ะ...ก็เล่นเอาหน้ามาซุกคอแบบนี้ ไม่ให้อดใจครางยังไงไหว!!!

    "ว่าไงล่ะครับ? "

    "อิ่ม..อิ่มแล้ว"

    "งั้นผมให้ยาหลังอาหารกับยาก่อนนอนต่อเลยนะ ^ ^"

    "อ๊ะ!.. "


    เพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที...ทงเฮก็ถูกนอนทับซะแล้ว...ซอกคอขาวถูกคนด้านบนจับจองพลางฝากรอยรักไว้สองสามจุดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากลมโตที่จ้องมองกลับมา.. ร่างสูงก้มลงประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากเล็ก..เนิ่นนานก่อนจะค่อยๆไล้มาที่พวงแก้มนิ่มสองข้าง...ปลายคาง..วกขึ้นไปที่จมูกก่อนจะจบลงที่เรียวปากแดง... เรียวลิ้นของทั้งสองต่างไม่มีใครยอมใคร...คนไข้เรียนรู้และนำมาปฏิบัติได้อย่างดีจนคนให้ยาเองกลับเป็นฝ่ายโดนรุกและจำต้องล่าถอยออกไป...แต่คนด้านใต้ก็ไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น..ร่างเล็กยกตัวขึ้นนั่งประกบจูบไม่ห่าง..เรียวมือคล้องเข้าที่คอพลางกระชับอ้อมกอดแน่น...แต่สุดท้ายจนแล้วจนรอดก็เป็นตัวเองที่พ่ายแพ้..เพราะปอดใหญ่สู้อีกคนไม่ได้ จึงเป็นฝ่ายละออกมาหอบหายใจเสียก่อน...

    มือใหญ่ประคองเข้าที่หน้าเรียวเล็กพลางฝังจูบลงที่แก้มนิ่มแรงๆทีหนึ่งก่อนจะละเลียดลงมาที่ซอกคอหอม...ขบเม้นแรงๆพอให้เป็นรอยเรียกเสียงครางเล็กๆน่าฟังขึ้นทีหนึ่งและยืดตัวขึ้นประทับจูบบนหน้าผาก..


    "ฝันดีนะครับ"


    ร่างเล็กงงเป็นไก่ตาแตกกับประโยคนั่น...และเมื่อเห็นว่าร่างสูงกำลังจะผละออกไปจึงรีบคว้าแขนใหญ่เอาไว้ได้ทันท่วงที..

    "......."คว้าไว้ได้แต่ก็ได้แต่เงียบและอ้ำอึ้ง..ก็ถามออกไปดิวะ ลังเลอะไรเนี่ย!!??

    " ผมขอเคลียร์ประวัติคนไข้ต่ออีกหน่อย แล้วเดี๋ยวมานอนเป็นเพื่อนนะครับ"นั่นมันใช่ประเด็นซะที่ไหนเล่า!!! คิบอมไม่ได้โง่และก็รู้อยู่เต็มอกด้วยว่าทงเฮอยากถามว่าอะไร...ทำไมต้อง บ่ายเบี่ยงด้วยนะ!!

    "ให้ยาแค่นี้ เดี๋ยวฉันดื้อยาตอนนอนไม่รู้ด้วยนะ"

    "ไว้พรุ่งนี้ผมให้ยาก่อนอาหารเช้าสองชุดแก้ขัดให้ก็แล้วกันนะครับ"

    "คิบอม! "


    คิม คิบอมเพียงส่งยิ้มให้ร่างเล็กก่อนจะหอมเบาๆลงที่กลุ่มผมนิ่มหนึ่งทีและผละไปที่โต๊ะทำงาน..


    ภายในห้องเกิดความเงียบที่น่าอึดอัดขึ้นชั่วขณะ...คนไข้ยังไม่ได้เอนตัวลงไปนอนตามคำสั่งของคุณหมอแต่อย่างใด...หากแต่มองไปยังแผ่นหลังที่กำลังขะมักเขม้นทำงานโดยไม่สนใจใครสักนิด...

    อยากจะดิ้น จะชัก หรือจะทำยังไงก็ได้เพื่ออ้อนให้อีกคนหันมา...


    แต่ตอนนี้ อี ทงเฮที่ปกติออกจะดื้อยาเอาบ่อยๆแบบนั้น....กลับไม่มีอารมณ์



    "ทำไมล่ะ? "จู่ๆเสียงเล็กก็ถามขึ้นไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย..ทำเอาคนที่นั่งเคาะคีย์บอร์ดส่งเสียงก๊อกแก๊กหันมามอง..

    "ทำไมทีกับผู้หญิงคนนั้น นายยังกล้าพูดได้ว่าเป็นกิ๊ก ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกันแท้ๆ... "

    "แต่ทำไมกับฉันที่เป็นแฟนจริงๆ นายก็กลับไม่ทำอะไรเลย... "

    "………"

    "หรือว่าฉันเข้าใจผิดไปเอง..จริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับกิ๊กของนายรึเปล่า? "

    "........"

    "หรือว่าเห็นฉันเป็นแค่คนไข้คนนึง..."

    "………"

    "หรือเราไม่ได้เป็นอะไรกันตั้งแต่แรก... "


    "ผมเป็นตื๊ดกับทงเฮไงครับ"


    " นั่นฉันก็แค่พูดๆไปเพราะบอกปัดพี่ซองมินหรอก! "ทงเฮตวัดเสียงเขียวใส่คนที่ยังนั่งหน้ายิ้มระรื่นได้ก่อนจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวกับรอยยิ้มอบอุ่นนั่น..สะบัดหน้าลงมองเข่าตัวเองแทน

    "ทงเฮ... "

    "ตื๊ดมันคือบ้าอะไร ฉันเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ"

    "ไม่เห็นจะยากเลย...มันก็คือทุกอย่างที่ทงเฮอยากให้เป็นยังไงล่ะครับ"

    "พูดง่ายนิ..เพราะมันก็แค่ฉันฝ่ายเดียวที่อยากให้เป็นอะไรต่อมิอะไร...พูดง่ายๆ เป็นอะไรที่ฉันเพ้อไปเองว่างั้นเหอะ! "

    "และทงเฮอยากให้มันเป็นอะไรล่ะครับ?"

    "เลิกถามซะทีเถอะ...ต่อให้ฉันอยากให้มันเป็นอะไร..มันก็แค่ความคิดฉันคนเดียว ไม่ใช่ของนายอยู่ดี "

    "ถ้าให้ผมพูดจริงๆแล้ว...มันคงหมายถึงความสุขของทงเฮล่ะมั้ง"

    ".........."

    " ไม่ว่าทงเฮอยากให้เราสองคนเป็นอะไรกัน แต่ถ้าทงเฮมีความสุข..สำหรับผมก็ยินดีทุกอย่าง...เพราะความสุขน่ะไม่ต้องกำหนดคำตายตัวนิน่า...อยากจะให้ตื๊ดนั่นแปลว่าอะไรก็เถอะ...แค่ทงเฮมีความ สุขผมก็พอใจ... "

    หรือจะให้พูดกันสั้นๆง่ายๆ…

    เป็นอะไรที่รู้กันในแบบของคิเฮไงครับ ^ ^


    ไม่จำเป็นต้องจำกัดคำว่าแฟน..หรืออะไร

    เพียงถ้าเป็นอี ทงเฮแล้วล่ะก็...


    คิม คิบอม คนนี้ก็ยอมให้ทุกอย่างอยู่แล้ว...



    "แล้วทำไม.... "

    ทำไมล่ะ? ทำไม? ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ...แต่กับเรื่องเมื่อกี๊นี้...มันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี!


    "ทงเฮแค่อยากจะพิสูจน์ผมเท่านั้นเองไม่ใช่หรอ?...สำหรับผมน่ะ ไม่ได้มีแค่วิธีนี้ไว้บอกรักทงเฮหรอกนะครับ"


    คิบอมรู้..รู้..รู้ทุกอย่าง...

    ที่เขารุกหนักขนาดนี้...เพราะอยากรู้ว่าคิบอมคิดยังไงกับเขากันแน่....


    ในเมื่อไม่ยุ่งกับคนที่ไม่ได้รัก...

    ดังนั้นกับคนที่รัก..ก็น่าจะทำอะไรบ้าง...


    แต่ความคิดนี้มันคงตื้นไปสินะ สำหรับคิม คิบอม

    หมอรูปหล่ออัจริยะคนนี้...



    เขาแพ้ราบคาบเลยจริงๆ...



    "ไม่คิดมากแล้วนะครับ.. "

    "อื้ม"

    คิบอมหันหลังปิดแลปท๊อปที่ยังคั่งค้างงานอยู่ลง..ก่อนที่จะพาตัวเองมาหย่อนตัว ลงข้างๆคนตัวเล็กบนเตียง...มือใหญ่เกลี่ยปอยผมนุ่มที่ตกลงมาระใบหน้าเรียวออก..

    "นอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปทำงานกับผมไม่ไหวนะ"

    "แล้วคิบอมล่ะ?"

    "ก็จะนอนด้วยไง... "

    "แล้วงาน... "

    "ผมทำต่อไม่ได้หรอก ทงเฮทำหน้าอยากให้ผมมานอนด้วยขนาดนี้น่ะ"

    "บ้า! "


    เห้อ...

    แพ้หมดรูปแล้วจริงๆ...



    รู้ทันไปหมดเสียทุกอย่างแบบนี้...

    จะไม่ให้ อี ทงเฮ หลงรักได้ยังไงล่ะ?! ><











    2BC
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×