คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [Shortfic AF8] :: Present Perfect Continuous Tense :: [TaoKacha] NC-15
Fiction : Present Perfect Continuous Tense
Pairing : TaoKacha
Genre : Drama Romantic
Author : Corn on the Cob (ข้าวโพดปาดเนย)
Author’s note : ฝืดๆเคืองๆไปบ้างอย่าว่ากัน ตีสองแล้ว แต่อยากลงมาก
Warning : NC-15
“เตรียมตัวนะครับน้องคชา เดี๋ยวอีกสิบนาทีงานจะเริ่ม แสตนบายด้านหลังเวทีได้แล้วนะครับ”
“ฮะ”
เด็กหนุ่มตัวเล็กจัดแต่งทรงผมและตรวจดูความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้ายตรงหน้ากระจกก่อนจะเดินไปเข้าประจำที่หลังเวที รอคิวของตัวเอง...
วันนี้เป็นวันที่เขามาเดินแบบแฟชั่นโชว์ให้กับเสื้อผ้ายี่ห้อดังแถวย่านช้อปปิ้งชื่อดังใจกลางเมือง...นี่ก็ผ่านมาจะสองปีแล้วสำหรับเขาและเพื่อนๆเอเอฟแปด ต่างคนต่างก็เริ่มแยกย้ายกันไปตามทางที่ตัวเองถนัด ทำเอาช่วงนี้เขาได้เจอเพื่อนๆกันไม่ค่อยบ่อยเอาซะเลย...ไม่อยากจะคิดเท่าไรเลยว่าอนาคตพอยิ่งแยกกันไปนานๆแล้วคงยากที่จะกลับมาร่วมงานด้วยกันอีกครั้ง
โดยเฉพาะกับคนๆนั้น...
แต่ก็ดีแล้วนินะ...
รวมๆตอนนี้ก็สองเดือนแล้ว...
ที่เลิกกัน
ถามว่ารู้สึกอะไรไหม...ให้บอกว่าไม่รู้สึกเลยก็คงเป็นไปไม่ได้...แต่ท่าทีของเขาด้วยความที่เป็นหน้าเดียวแบบนี้อยู่แล้ว คนภายนอกเลยดูกันไม่ออก...ลับหลังแล้วก็มีตัวเองที่รู้ดีที่สุด...ว่าแม้แต่จะเงียบๆเป็นปกติ แต่ลึกๆข้างในแล้วไม่เคยเป็นปกติเลยต่างหาก...
“น้องคชาครับ คิวต่อไปแล้วนะครับ”
สติสตางค์ของคนตัวเล็กถูกดึงให้กลับมาอยู่ในปัจจุบันกับงานตรงหน้า...คชารอสัญญาณของสต๊าฟที่บอกให้เขาขึ้นเวทีได้...พอถึงคิว ตัวเล็กก็เดินขึ้นเวที..
ด้วยสไตล์เสื้อผ้าเป็นแนวสบายๆ ชิลล์ๆ เจ้าตัวเลยเดินได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ต้องเกร็งหรือเก๊กอะไรมาก...ตาเรียวกวาดไปทั่วงานขณะเดิน...และมาหยุดลงตรงปลายเวทีเพื่อโพสท่าถ่ายรูปและก็หมุนตัวกลับ...
ทว่าจังหวะหันหลังกลับนั้น ตาเรียวสวยก็สบเข้ากับใบหน้าคนๆหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตาดี...
ก็คิดถึงแทบทุกลมหายใจ ทำไมจะจำไม่ได้แม้จะใส่แว่นดำในห้างแบบนี้ก็เถอะ...
แม้จะเดินเข้าไปจนจะสุดเวทีแล้ว แต่คชาก็สัมผัสได้ว่าดวงตาคู่คมภายใต้กรอบแว่นดำนั้นยังจ้องมองเขาอยู่...คชาเดินมาจนสุดเวทีหันกลับมาโพสให้ผู้คนอีกรอบ สายตาเหลือบมามอง และก็เป็นอย่างที่เขาคาดไว้...คนๆนั้นยังคงจ้องมาที่เขาไม่วางตา...
คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาเปลี่ยนเสื้อเดินออกไปอีกสองสามรอบ และทุกครั้งก็จะมีสายตาของอีกคนจ้องมาไม่วางตาทุกครั้งไป...
“วันนี้ขอบคุณมากนะครับ”
หลังจากเสร็จงาน คชากล่าวขอบคุณพี่ๆสต๊าฟและปลีกตัวออกมาไปยังลานจอดรถที่คับคังหนาแน่นไปด้วยแฟนคลับที่มายืนรอส่งเขาเป็นประจำ...
คชารับของฝาก ถ่ายรูปกับแฟนๆพอประมาณก่อนจะขึ้นรถกลับบ้านไป...
ในระหว่างทางบนรถ...คชาเหลือบมองกระจกหลังบ่อยกว่าปกติมาร่วมชั่วโมงแล้ว...รถคันหลังทะเบียนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีขับตามเขามาได้สักพักแล้วตั้งแต่ออกมาจากงาน
ในที่สุดกลายเป็นคชาเองที่เริ่มทนไม่ไหว หักรถเปลี่ยนเส้นทางไปในทางตรงกันข้ามบ้านเขาอย่างสิ้นเชิง...รถคันหลังยังคงไล่หลังมา จนสุดท้ายมาจอดลงที่สถานที่ๆหนึ่งเคยคุ้นเคยและมาอยู่บ่อยๆอยู่ช่วงหนึ่ง...
คชาจอดรถในลานจอดรถเสร็จก็ออกมายืนพิงประตูรถตัวเอง...รอคนในรถอีกคันกำลังจอดรถอยู่ไม่ไกลออกไป...
“ไม่กลัวโดนแฟนคลับตามได้รึไง?”เสียงหวานห้วนเอ่ยขึ้นสั้นๆเมื่อร่างของอีกคนเดินใกล้เข้ามาทางเขาหลังจากจอดรถเสร็จแล้ว...
คนมาใหม่ยิ้มมุมปากเบาๆพลางถอดแว่นดำออก.. “เป็นห่วงหรอ?”
“เปล่า ขี้เกียจแก้ข่าวทีหลัง”
“ถ้าเป็นงั้นจริง ชาคงไม่ขับมาถึงคอนโดเต๋าที่นี่หรอกมั้ง”
ตัวเล็กถอนหายใจเร็วๆพลางเอ่ยเสียงแข็ง “มีอะไรก็ว่ามา จะได้รีบกลับบ้าน ง่วงจะแย่แล้วเนี่ย”
คนตัวโตกว่าทอดสายตามองคนตรงหน้าที่ตาปรือ คงจะเหนื่อยไม่น้อยสินะ ได้ข่าวว่าช่วงนี้คนตัว
เล็กตรงหน้าเขาโหมทำงานไม่ค่อยได้พักผ่อนซะด้วย..
แต่ก็ยังน่ารัก..
เหมือนเดิม...
ไม่เปลี่ยนเลยสักนิด...
“ถ้างั้นขึ้นไปคุยบนห้องไหม?”
คชาหันมามองหน้าอีกคน...คิ้วขมวดอย่างสงสัย
“ก็..ยืนตรงนี้ถ้ามีคนมาเจอ จะแย่เอานะ”
ตัวเล็กก้มหน้าลงก่อนจะค่อยๆเป็นฝ่ายเดินนำออกไปก่อนโดยไม่พูดไม่จา...
.
.
.
มีเหตุผลมากมายเหลือเกิน ที่บอกให้ฉันหยุดความรักนี้
มีเหตุผลมากมายนับร้อยพัน ที่บอกว่าไม่มีวันที่จะเป็นจริง
“จะกินน้ำอะไรหน่อยไหม?”
คนตัวเล็กส่ายหัว “ขอเข้าห้องน้ำหน่อยละกัน”
ถึงอีกคนจะปฏิเสธ แต่เต๋าก็หยิบน้ำออกมารินใส่แก้วก่อนจะเดินเอามาวางไว้ที่โต๊ะรับแขกให้อีกคนอยู่ดี คนตัวโตทิ้งตัวลงพลางทอดสายตามองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่...ขณะที่กำลังพยายามรวบรวมสติและความคิดอยู่นั้น...เสียงเตือนโนทิฟิเคชั่นของไอโฟนบนโต๊ะก็ดังขึ้นขัดจังหวะ...
ไอโฟนของเขายังอยู่ในกระเป๋า ดังนั้นที่อยู่บนโต๊ะเป็นของอีกคนแน่นอน...
มือขาวเอื้อมไปหยิบพลางสไลด์เปิดอ่านอย่างถือวิสาสะ...
มีรหัสล๊อก...เต๋าเสี่ยงกดรหัสที่เขาทั้งสองคนรู้...
และก็เป็นไปอย่างที่คาดไว้...
คชายังใช้รหัสเดิม..
รหัสที่เหมือนกับเครื่องของเขา...
เสียงที่ได้ยินเป็นโนทิฟิเคชั่นของไลน์...เต๋าไล่อ่านข้อความที่มีคนส่งมา...
อ้อ... นางแบบที่เดินแบบด้วยกันวันนี้...จะว่าไปเขาก็คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่...รู้สึกคนที่อยู่ในไลน์เนี่ยจะเคยเจอกับคชาในงานอื่นมาก่อนหน้าแล้วด้วย...ดูท่าคุยกันมาสักพักแล้วสินะ...
เต๋าไล่ดูไม่เยอะก่อนจะกดปิดล๊อกไปวางบนโต๊ะที่เดิมทันก่อนที่อีกคนเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำพอดี...
คชาเดินมาพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพลางหยิบมือถือขึ้นมาดู...
“แอบดูมือถือคนอื่น นิสัยไม่ดีเลยนะ”
“ก็ทีหลังหัดตั้งรหัสอื่นที่คนอื่นไม่รู้สิ”
“ไม่เห็นจะเกี่ยว รู้หรือไม่รู้ ก็ไม่ควรแอบดูของคนอื่น”
เต๋าส่งเสียงหึออกมาเบาๆจากลำคอ
“คนอื่นหรอ...”เต๋าว่าพลางหันหน้ามาทางอีกคน “ชาไม่เคยเป็นคนอื่นสักหน่อย”
นิ้วที่กำลังจะพิมพ์ตอบกลับข้อความในไลน์ชะงักเล็กน้อย..เรียวปากบางแอบเม้มเข้าหากันนิดนึงก่อนจะรีบคลาย และเรียวนิ้วก็เริ่มพิมพ์ต่อ..
ต้องการอะไรหรือ?
ที่พูดแบบนี้ อยากจะพูดอะไรกันแน่?
“คุยกันนานรึยัง?”
คชาไม่ตอบเพียงแต่หันหน้ามามอง
เต๋าก็นิ่งกลับ แต่สายตาที่สื่อออกไปนั้นบอกทุกอย่างชัดเจน..
คนตัวเล็กถอนหายใจนิดนึงก่อนหันไปพิมพ์ต่อกับหน้าจอมือถือ...
“สักพัก”
“แค่คุย....”
“......”
“....แต่ยังไม่ได้รักใครใช่ไหม”
แต่ในทุกครั้ง ที่ฉันเดินออกมาจากเธอ
เหมือนว่าใจจะขาด เหมือนอะไรมันขาดหายไป
และสุดท้ายคือฉันเอง ที่เดินกลับมาตรงนี้
คชาเงยหน้าจากโทรศัพท์...สายตาจ้องนิ่งไปข้างหน้า...
“ถามทำไม..”
“ถามเพราะอยากรู้”
จะอยากรู้ไปทำไม?
คนที่บอกเลิกคือนายเองไม่ใช่รึไง?..
“ชายังรักเต๋าอยู่ไหม?”
ฉันแค่อยากรู้ ทุกสิ่งที่ฉันรู้สึก
ฉันคิดไปเองข้างเดียว รู้สึกไปเองข้างเดียวหรือเปล่า
แค่เพียงเธอพูดมาคำเดียว ว่าเธอก็รู้สึกเหมือนกัน
“เรายังรักกันอยู่เหมือนเดิม...ใช่ไหม?”
มือใหญ่เข้ากอบกุมมือเล็กที่เจ้าของแน่นิ่งไม่ขยับ...ใบหน้าหวานค่อยๆหันมาสบตา...ตาเรียวที่รื้นน้ำตาเล็กๆทำเอาอีกคนรู้สึกผิดจนจุกอก
“แล้วเต๋าคิดว่าไงล่ะ?”
“........”
ความอดทนของเต๋าขาดผึ่งเมื่อน้ำตาเม็ดโตค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาที่เขาหลงใหลเสมอ...มือใหญ่ประคองใบหน้าเล็กพลางปาดมันออกไป...ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มซ้อนทับกับใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตา...
ด้วยฝีมือเขาเอง...
เต๋ารวบอีกคนเข้ามากอดแน่นจนแทบไม่เหลือช่องว่างใดๆ...
“ขอโทษ...เต๋าขอโทษนะ”
ขอโทษที่คิดอะไรตื้นๆ โง่ๆ....
ที่คิดว่า ถ้ากลับไปเป็นแค่เพื่อน อาจจะดีกว่าต่อสถานะที่เขาทั้งคู่เป็นอยู่...
ก็แค่ไม่อยากให้ตัวเล็กของเขาต้องกดดัน...
ทั้งเรื่องข่าวของเขาเองกับผู้หญิงที่ยังเคลียร์กันไม่เรียบร้อยสักที...
และไหนจะกระแสสังคมอีก...
ทั้งๆที่คนตรงหน้าไว้ใจ และเชื่อใจเขากว่าใคร
แต่เขาก็ยังตัดสินใจทำแบบนั้น...
และสุดท้ายกลายเป็นเขาเอง...
ที่อยู่ไม่ได้...
ถ้าใช้เหตุผล เขาสองคนอาจจะรักกันไม่ได้...
แต่ถ้าใช้ความรู้สึก...เขารู้ซึ้งแล้วว่า เขาอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคชา..ไม่มีคนตัวเล็กตรงหน้านี้...
สองเดือน แค่สองเดือนก็เกินพอแล้ว...จริงๆ...
ตัวโตผละอ้อมกอดออกมา...มือขาวไล้ไปทั่วบริเวณใบหน้าน่ารักที่เปรอะน้ำตาไปทั่ว...เต๋ายืดตัวจูบหน้าผากเล็กแรงๆก่อนจะไล้มาที่หางตา...จูบซ้ำน้ำตาทั้งหมด...และเลื่อนให้หน้าผากตัวเองชนกับของอีกคน...
ตาเรียวใสของตัวเล็กช้อนมองจนเส้นฟางสุดท้ายของเต๋าก็ขาดสะบั้นลง...ปากหยักประทับจูบบางเบาในตอนเริ่มก่อนจะค่อยๆเพิ่มความร้อนแรงตามอารมณ์ที่ถูกพัดโหม...เอวบางถูกช้อนยกมานั่งบนตักทั้งๆที่เรียวปากยังไม่ห่างกัน...
ประตูห้องนอนถูกเปิดออกอย่างแรง ตัวโตอุ้มประคองตัวเล็กไม่ห่าง...
“อื้อ!”
เสียงหวานร้องประท้วงเล็กน้อยเมื่อหลังของตัวเองกระแทกเข้ากับบานประตู แต่เต๋าก็ยังไม่สนใจที่จะเสียเวลาละริมฝีปากออกแม้แต่นิดเดียว...
ผืนเตียงกว้างยุบลงเมื่อสองร่างหล่นลงมาพร้อมกัน...มือขาวทำหน้าที่ของมันได้ดีไม่ต่างกับปากที่ยังคงป้อนจูบนัวเนียให้กับตัวเล็กบนเตียงอย่างต่อเนื่อง...
เสื้อผ้าถูกเขวี้ยงลงข้างเตียงอย่างไม่ใยดี...เรือนร่างบางที่เขาโหยหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันตอนนี้ก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว....
เต๋าไล้เรียวปากไปทุกตารางนิ้วที่พาดผ่าน....มือเล็กกำแน่นกับผ้าห่มพลางพยายามกลั้นเสียงทุกครั้งที่เต๋ากดเน้นย้ำไปบนร่างของตัวเอง...
เวลาผ่านไปจากนาที เป็นชั่วโมง จนล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่....แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่เสร็จสิ้น เสียงหอบยังมีให้ได้ยินเป็นระยะ...จนเมื่อฟ้าที่เคยมืดมิดค่อยๆมีแสงรำไรจากขอบฟ้านั่นแล่ะ...ที่ตัวเล็กได้ปิดเปลือกตาลง...พร้อมๆกับที่อีกคนสอดตัวเข้าใต้ผืนผ้าห่มเดียวกันดึงร่างของคนตัวเล็กมาซุกเข้ากับอกก่อนจะเข้าสู่นิทราไปด้วยกัน...
ไม่ว่าต่อจากนี้ จะเป็นเช่นไร ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ จะไกลขนาดไหน
ไม่ว่ารักเราจะเก่าสักเท่าไหร่ จะแก่แค่ไหน รู้ไว้จะมีฉันเคียงข้างกัน
รู้ไว้ว่าทุก ๆ วัน จะมีความหมาย ความหมายที่เป็นเธอ ตลอดเวลา
ทุกคำสำคัญที่พูดมา ดั่งคำสัญญา จากหัวใจ
แสงอาทิตย์ในยามรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่สาดส่องผ่านช่องว่างตามผ้าม่านเข้ามากระทบกับคนสองคนบนเตียงที่กอดกันแน่นภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน...
ตัวโตที่รู้สึกตัวก่อนหยีตาสู้แสงแดดที่ส่องเข้ามา...ขยับตัวเพียงเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองคนในอ้อมกอดที่ยึดเขาแน่นเป็นหมอนข้างซุกนอนสบายใจเฉิบ รอยยิ้มที่ไม่ได้มีมากว่าสองเดือนก็เผยให้เห็นอย่างง่ายดาย...
เต๋าเหลือบมองนาฬิกา....ห๊ะ! นี่มันจะเที่ยงแล้วหรอเนี่ย!?
ตัวเขาเองน่ะ ไม่มีคิวงานวันนี้ แต่คนตัวเล็กตรงหน้านี่สิ...
“ชา ตื่นเร็ว จะเที่ยงแล้วนะ”
“อื้อ...”
“ชาตื่นนน...วันนี้มีคิวงานกี่โมงครับ หืม?”ว่าพลางขยับตัวออกพร้อมๆกับเขย่าคนตัวเล็กที่สลึมสะลืองัวเงียไม่ห่าง...
“อื้อออ...ขออีกแป๊ปนะเต๋า...”
เสียงหวานออดอ้อนจนเต๋าแทบใจอ่อน...
แค่สองเดือนที่เขาไม่ได้มีสิ่งเหล่านี้ มันทำให้เขาคิดถึงมากมายได้ขนาดนี้เลยหรอนี่?
หัวกลมๆซุกเข้ากับหมอนอีกครั้งทำเอาเต๋าส่ายหัวกับความขี้เซาของตัวเล็กไม่ได้...มือขาวไล้ไปตามเรียวขาที่เผยให้เห็นเพราะแรงขยับตัวของตัวเล็กทำเอาผ้าห่มเลิกขึ้นมา...ผิวเนียนใสล้อกับแสงแดดยามเช้าทำเอาจากที่แค่จะแกล้งๆให้อีกคนตื่นนอนชักเตลิดไปไกล...
“อื้ออออ...! ชาจะนอน เต๋าาาา”
“ชายังไม่บอกเลยนะ วันนี้มีงานกี่โมงเดี๋ยวก็ไปไม่ทันหรอก”
“อื้ออ..มีตอนสามโมง”
“สามโมง? นี่จะเที่ยงแล้วนะครับ ไหนจะอาบน้ำกินข้าว ออกจากบ้านอีก...เวลานั้นรถในเมืองก็เริ่มติดแล้วด้วย...ชาตื่นได้แล้วนะ”
อีกคนยังคงนิ่ง...จนสุดท้ายตัวโตต้องใช้ไม้ที่สอง...
“อ๊ะ!”ตัวเล็กสะดุ้งตื่นทันทีพลางจับหมับเข้าที่มือขาวของอีกคนที่กำลังไล้จากต้นขาของตัวเองสูงขึ้นมาเรื่อยๆ...
“ก็บอกให้ตื่นได้แล้ว ไม่งั้นไม่รู้ด้วยนะ”
“อ๊ะ!! โอเคๆ ตื่นแล้วๆๆๆ!!!”ตัวเล็กรีบลุกขึ้นมานั่งก่อนจะเอาผ้าห่มคลุมทั้งตัว...ผมยุ่งๆกับใบหน้าน่ารักๆที่ตอนนี้บูดบึ้งนิดหน่อยจากการถูกปลุก...
ตื่นเต็มตาและเนี่ย...ก็เล่นเอามือล้วงเข้ามาซะ...คือในตัวเขาไม่มีอะไรสักชิ้นนอกจากผ้าห่มที่คลุมอยู่ไง มันถึงต้องสะดุ้งตื่นน่ะ ไม่งั้น...มือขาวๆนั่นคง....โอ้ย!! ไม่พูดแล้ว ไปอาบน้ำดีกว่า..
คชากอบโกยเอาผ้าห่มไว้กับตัวก่อนจะวิ่งดุ๊กๆเข้าห้องน้ำไป...โดยมีเต๋านั่งยิ้มพิงหัวเตียงอยู่ทางด้านหลัง...
หลังจากที่คชาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพก็มานั่งลงที่หน้ากระจก...ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าคชาไปหาชุดจากไหน....ก็เสื้อผ้าคชายังกองเต็มตู้ยังไงเมื่อสองเดือนก่อน ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นนั่นแล่ะ...
ในตอนนี้เหลือแค่เตรียมเซตผมเป็นขั้นตอนสุดท้าย...สายตาเรียวเหลือบมองเต๋าที่ในตอนนี้กำลังโกนหนวดอยู่อีกด้านของเตียง...แผ่นหลังเปลือยเปล่าขาวผ่องสู้กับผ้าขนหนูสีขาวที่พันอยู่รอบเอว...
ตั้งแต่ออกจากบ้านมา หุ่นเต๋านี่แบบบึก ปึก ขึ้นมากกกเหอะ!
ซิกพงซิกแพก กล้าม เกลิ้ม นี่เรียงสวยเชีย...และดูเขาดิ...
นับวันนับวันยิ่งไม่เหมือนผู้ชาย เข้าใกล้เพศที่เรียกว่าทอมมากเข้าไปทุกที...
มองตัวเองในกระจกและก็ต้องถอนหายใจแรงๆ...
เต๋าที่ได้ยินปิดเครื่องโกนพลางหันมาถาม...
“ถอนหายใจทำไมอ่ะชา?”
พอถูกถามหน้าน่ารักๆนั่นก็ยิ่งบู้บี้เข้าไปอีก...
“อยากเปลี่ยนทรงผมแล้วอะ...ตัดทรงนี้ยิ่งดูเหมือนทอมเข้าไปทุกที...”
ตัวโตได้ยินอย่างนั้นก็หลุดยิ้มออกมาไม่ได้ก่อนจะค่อยๆกระเถิบตัวเข้าไปหาและกอดซ้อนหลัง...
“นี่ยังมีความคิดอยากดูแมนอยู่อีกหรอ?”
คชาหันมาค้อนควับ
“เอ้าก็จริงนี่ จะทรงไหนคชาก็ไม่แมนไปกว่านี้หรอก”ว่าพลางเอาคางวางเกยไว้ที่ไหล่ยื่นปากไปจูบแก้มของอีกคนเร็วๆ...
มือเล็กของคชาตีเพียะเข้าที่แขนของอีกคน “ไปอาบน้ำเลยไป...ปลุกชาตื่นซะเร็ว ตัวเองมัวแต่อืดอาด”
ตาโตของเต๋าเหลือบมองไปที่นาฬิกาก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์...ตัวโตลุกขึ้นยืนข้างเตียงก่อนจะปลดผ้าออกต่อหน้าคชาและโน้มตัวลงกระซิบที่หูบางเบา...
“อาบให้เต๋าหน่อยสิ”
คชาที่หูเหอหน้าเน่อนี่แดงไปถึงอีกกาแลคซี่หนึ่งของจักรวาลไม่รู้จะทำเอาสายตาไปมองไว้ที่ไหนกันเลยทีเดียวเชียว...ตาเรียวเลิกลักมองซ้ายขวา แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่ามองขึ้นบนดูจะปลอดภัยสุด ไม่เห็นอะไรวับๆแวมๆ... แต่ตัวเล็กก็มาตระหนักได้ว่าคิดผิดมหันต์....
สายตาที่อีกคนมองมานี่สิ...ทำเอาทำอะไรไม่ถูกไปหมดเลยเหอะ!
ปากเล็กถูกกัดพลางช้อนตามองอีกคน...
“นี่ชาต้องเซทผมแต่งตัวใหม่อีกแล้วใช่ไหม”
“^__^”
ไม่ว่าสิ่งไหน จะมีวันเปลี่ยนแปลง อาจมีวันจางหายไป
แต่ในทุก ๆ ถ้อยคำที่ฉันเคยบอกไว้ จะเป็นคำอันเป็นนิรันดร์
กว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจทุกสิ่งอย่าง...ก็ปาไปจะบ่ายสอง...ความคิดที่ว่าจะหาอะไรกินในบ้านก่อนออกเป็นอันต้องพับเก็บไปตามปริยาย...เต๋าอาสาไปส่งครึ่งทางท่ามกลางเสียงคัดค้านของตัวเล็กของเขา...แต่ก็นะ โดนปิดปากไปอีกสองสามที สุดท้ายก็เลยต้องยอมให้...
“แปลกแฮะ...”
“อะไรหรอ?”สารถีจำเป็นเอ่ยถามขณะกำลังเลี้ยวรถออกจากคอนโดตัวเอง...
“แม่ไม่เห็นโทรตามคชาเลย”คิ้วเรียวขมวดมุ่นขณะมองหน้าจอไอโฟนที่คิดว่าน่าจะมีสายที่ไม่ได้รับของแม่ตัวเอง แต่กลับไม่มีสักกะสาย...
“อ๋อ...เต๋าบอกแม่คชาไปแล้วว่าจะค้างเมื่อคืน”
ตัวเล็กหันควับ “ตอนไหน”
“ตอนเอ่อ...ตอนที่คชาไปล้างตัวก่อนที่เราจะต่อรอบที่สามกันน่ะ เต๋าโทรหาแม่คชาให้แล้ว”
ตัวเล็กหน้าแดงอย่างห้ามไม่อยู่พลางหันหน้าหนีอย่างรวดเร็ว
คือถ้าจะพูดเรื่องแบบนั้นได้หน้าตาเฉยแบบนี้!!!!
ตกลงใครกันแน่ที่หน้าเดียวเนี่ย!?
เรื่องแบบนี้คชาหน้าเดียวไม่ออกหรอกนะ!!!
ความเงียบเข้าปกคลุมในรถเมื่อต่างคนต่างเหมือนกลับไปจมอยู่ในความคิดของตัวเอง...เพราะเนื่องจากเมื่อวานต่างก็ไม่ได้มีเวลาได้คิดไตร่ตรองอะไร...ทุกอย่างดำเนินไปตามอารมณ์ของทั้งสองคนล้วนๆ...พอได้มีเวลามาหยุดคิด...คนที่เงียบไปเลยคือคชาจนเต๋าเองสังเกตได้...
เมื่อใกล้ถึงจุดหมาย...เต๋าตัดสินใจหักรถเข้้าจอดข้างทางก่อน...มือขาวเอื้อมไปจับแน่นกับมือเล็กของอีกคน...
“คิดอะไรอยู่หรอ?”
ตัวเล็กที่เหมือนเพิ่งได้สติหันหน้ามาสบตาก่อนจะหลุบตาลงพลางส่ายหัว...
เต๋าเห็นดังนั้นก็ประคองมือทั้งสองข้างพลางเชยคางอีกคนขึ้น...
“เต๋าขอโทษนะ...”
“.....”
“เต๋าไม่รู้หรอกว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราสองคน...เต๋ารู้แค่ว่าสิ่งที่เต๋าคิดว่ามันดีที่สุดสำหรับชากับเต๋าเอง...มันไม่ใช่เลย...”
“.....”
“เต๋าไม่อยากคิดมากอีกแล้ว และก็ไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนสองเดือนที่ผ่านมาด้วย...ในตอนนี้เต๋ารู้แค่ว่า..อะไรที่คิดว่าจะทำให้เราสองคนมีความสุข เต๋าจะทำ...”
ปากหยักประทับจูบลงแนบแน่นที่หลังมือทั้งสองข้างของอีกคน..
“คชามีความสุขไหม?”
หัวกลมๆพยักหน้าขึ้นลงเบาๆ...เรียกอีกคนให้ใจชื้นได้มากทีเดียว...
“เต๋าจะไม่ทำให้ดีที่สุด...”
“.....”
“แต่เต๋าจะทำให้ชามากพอ...ให้เราสองคนมีความสุขนะครับ”
มือใหญ่ประคองใบหน้าเล็กให้เข้าใกล้...
“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ...นะครับชา”
ตัวเล็กยิ้มตาหยี...ก่อนจะถูกรวบเข้าไปกอดแน่น...
“อื้อ...”
คชาไม่รู้หรอกว่าที่เขายอมให้ง่ายๆแบบนี้มันจะดีรึเปล่า... แต่ก็อย่างที่เต๋าว่า..
เขาเองก็ไม่อยากกลับไปเป็นแบบสองเดือนที่ผ่านมาแล้วเหมือนกัน...
ถ้าต้องกลับไปทรมานตัวเองแบบนั้น...เขายอมมีคนๆนี้เคียงข้างพร้อมที่จะเดินไปด้วยกันยังจะดีซะกว่า..
อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด...
อย่างน้อยในตอนนี้ แค่ได้ทำอะไรแล้วมีความสุข...
ก็เพียงพอแล้วล่ะ...
ไม่ว่าต่อจากนี้ จะเป็นเช่นไร ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ จะไกลขนาดไหน
ไม่ว่ารักเราจะเก่าสักเท่าไหร่ จะแก่แค่ไหน รู้ไว้จะมีฉันเคียงข้างเธอ
รู้ไว้ว่าทุก ๆ วัน จะมีความหมาย ความหมายที่เป็นเธอ ตลอดเวลา
ทุกคำสำคัญที่พูดมา ดั่งคำสัญญา จากหัวใจ
FIN
Talk
เอาจริงแอบเขียนยากอะ
เป็นคนเขียนอะไรแบบนี้แล้วติดตอนจบบ่อยมากกกกก ๕๕๕๕
ถนัดแนวคอมมาดี้มากกว่าจริงๆแฮะ ๕๕๕๕๕
แบบดูเอมวีเพลงสัญญารักเสร็จ
ไปดูหนังต่ออีกวัน
กลับมา ไม่ได้ละ ฉันจะแต่งงงงงงง
คนที่ไปดูหนังมาแล้วก็น่าจะพอเดาได้ว่าฉากไหนอะไรยังไงในฟิคนี้ กร้ากกก
ก็หวังว่าจะชอบกันนะคะ
ตอนนี้อันๆมะไหวแล้ว
ขอตัวไปสลบก่อน
พรุ่งนี้ทำงานอีก ฮึกกก
นี่ครึ่งนึงแอบแต่งทีที่่ทำงานนะเนี่ย อีกครึ่งมาต่อที่บ้าน ๕๕๕๕
ไปแล้วค่ะ
รักคนอ่าน คนเม้นทุกคนนะคะ จ๊วบบบบ!
ความคิดเห็น