ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 14 :: THE END ::
Fiction : Born to Be# 14, THE END
Pairing : YunhoXJaejoong, YuchunXJunsoo, KibumXDonghae
Genre : Romantic Comedy ตลกโปกฮา ไม่ขำ ให้ถีบเลยเอ้า ๕๕ (ตอนสุดท้ายแล้วน้า)
Author : Deumbeui
Author’s note : "เป็นแฟนกับผมนะครับ"
Warning : PG-15
ประตูห้องพยาบาลถูกเปิดผลัวะเต็มแรง...เซียที่วิ่งหน้าตั้งสี่คูณร้อยเมตรมาหัวกระเซอะกระเซิงโดยมีมิกกี้ตามมาติดๆ...ตาเรียวเบิกกว้้างมองคนที่นอนสลบไสลบนเตียงก่อนจะหันไปสบตากับผู้คนที่อยู่ในห้องพยาบาล...
คิบอม???!!! คิบอมมาตั้งแต่เมื่อไร???
"เกิดอะไรขึ้น?? แจจุงเป็นอะไรไปฮะ? "หลังจากที่งุนงงกับการปรากฏตัวอย่างไม่คาดคิดของคิบอมที่ยืนอยู่ข้างเตียงคนป่วย..เซียก็ดึงสติตัวเองกลับมาถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นพลางไล่สายตามองบุคคลที่เหลือในห้องซึ่งก็มีเพียงชินดงกับยุนโฮเท่านั้น....ทั้งคู่เหมือนหลุดกาแลคซี่ทางช้างเผือกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คิบอมถอนหายใจแรงๆหนึ่งที....
"เพื่อนเธอ...เมนส์มา "
!!!
"ตายห่า! มิน่าล่ะ!! "พอได้ยินแค่นั้นแล่ะ..เซียก็รีบรุดวิ่งไปที่ข้างเตียงทันที...ใบหน้าขาวซีดของเพื่อนรักนอนซมไม่ขยับ...เซียส่ายหัวพลางถอนหายใจ...
"นี่มันอะไรกันแน่??... "ชินดงที่เพิ่งลากสติสัมปชัญญะกลับมายังโลกแล้วเอ่ยถามขึ้น...เซียเงยหน้าสบตาประธานชมรมอย่างลำบากใจ...เขาละสายตาไปทางมิกกี้ที่งงหนักหลุดกรอบจักรวาลไปไกลแล้วก็กลืนน้ำลายลงลำคออันแห้งผากของเขาอย่างเสียไม่ได้....
ถึงเวลาแล้วสินะ...
"ให้แจจุงฟื้นแล้วเราสองคนค่อยเล่าความจริงให้ฟัง...ได้ไหม..เอ่อ...คะ? "หางเสียงที่เปลี่ยนไปบ่งบอกถึงเพศที่แท้จริงของเซียอีกคนทำเอาชินดงกับยุนโฮยิ่งอาการหนักขึ้นไปอีก...มิกกี้ที่วันนี้ได้ยินเรื่องนี้ซ้ำเป็นรอบที่สามทำหน้าเหมือนถูกถอนหงอนไก่แล้วในครั้งนี้...
"ไร้ประโยชน์ เพื่อนนายจู่ๆก็สลบคาเวทีมวยแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นอีกเลย...ลงแบบนี้แล้วฉันคิดว่าอีกนานกว่าเพื่อนเธอจะฟื้นนะ...รีบๆเล่าความจริงให้พวกมันฟังดีกว่าเหอะ..โชคดีแค่ไหนแล้วที่ฉันมาทันเวลาก่อนที่ทั้งค่ายมวยและกรรมการจะรู้ความจริง รู้ไหมว่าชมรมโรงเรียนจะต้องโดนอะไรถ้าเกิดความลับรั่วไหลขึ้นมา??? "คิบอมที่ปลีกตัวมาดูการแข่งขันของสองสาวรีบเสนอตัวที่จะจัดการดูแลแจจุงทันทีที่เกิดเรื่องก่อนจะกันไม่ให้คนนอกหรือใครคนอื่นเข้ามาในห้องพยาบาลเป็นเด็ดขาด...ส่วนยุนโฮกับชินดงเขารู้ดีว่าเรื่องมันมาไกลเกินกว่าจะปิดสองคนนี้ได้อีกต่อไป...เขาไม่เหลือข้ออ้างใดๆที่จะโกหกเรื่องครั้งนี้อย่างสมเหตุสมผลได้เลย...ตั้งแต่เรื่องออกใบรับรองแพทย์และเหตุการณ์ที่บ่อน้ำพุร้อน...ทั้งสองคนก็สงสัยเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว...
"มันมีวิธี...แจจุงเป็นคนกลัวเลือดขั้นแอดซ์วานซ์น่ะ..ก็เลยช๊อคจนเป็นลม...แต่ก่อนที่เคยซ้อมชกมวยด้วยกันตอนเด็กๆก็เคยเป็นแบบนี้มาแล้วครั้งนึง "
"วิธี?? วิธีอะไร? "
เซียมองหน้าคิบอมที่ส่งสายตาเป็นคำถามเล็กน้อยก่อนเหลือบไปมองสายตาอีกสามคู่ที่เหลือที่ยังจดจ้องและรอคอยให้เขาเคลียร์ปัญหาต่างๆ...ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้งก่อนจะออกเสียงนับเลขไม่ต่างอะไรกับเด็กอนุบาลท่องเอ บี ซี...
"1......2.......3..........."
บุคคลทั้งสี่ในห้องงงจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่สลับมองหน้ากันไปมา...โดยเฉพาะกับคิบอมที่รู้เรื่องทุกอย่างดีตั้งแต่แรกยังต้องก๊งแตก...
นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี่ย!!?? วิธีนับเลขธรรมดาเนี่ยนะช่วยคนฟื้นได้????!!! สถาบันหมอไหนสอนแม่งวะ???!!
คนตัวเล็กยังคงนับต่อไปเรื่อยๆอย่างมีจังหวะ เมื่อจำนวนเลขมากขึ้น เสียงเล็กก็จะเน้นหนักขึ้นตามอารมณ์อย่างมีลีลา...
นี่อย่าบอกนะว่า...
"6..................7........... "
"8!!! "
พอถึงเลขนี้เซียตะโกนเสียงดังพลางตบเตียงดังปังจนทั้งห้องสะดุ้งตกใจ....และแล้วร่างที่นอนแอ้งแม้งไร้วิญญาณก็กระเด้งขึ้นทันที....แจจุงลุกขึ้นยืนบนเตียงพลางยกกำปั้นตั้งการ์ดในท่าเตรียมชกทั้งๆที่ตายังลืมไม่เต็มดวงดีด้วยซ้ำ...
เซียสะกิดดึงขากางเกงอีกคน... "นั่งลงได้แล้ว มึงแค่เป็นลมไป... "
หญิงสาวที่ตอนนี้เหมือนสติสตังกลับมาแล้วค่อยๆมองไปรอบๆห้อง...ชินดงที่อ้าปากค้าง...ยุนโฮที่นิ้วมือเกือบจิ้มเข้าลูกตา...มิกกี้ที่แทบจะอมกำปั้นตัวเองเข้าปาก...สุดท้าย คิบอมที่สะดุ้งตอนเซียตบเตียงเสียงดังจนหงายหลังไปนั่งจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น...แจจุงค่อยๆหย่อนตัวเองนั่งลงกับเตียงพลางเหลือบตาไปยังเพื่อนรักข้างกาย...
ตอนนี้ทั้งห้องยังตกอยู่ในความเงียบงัน...ไม่มีใครเอ่ยอะไรเพราะอึ้งเกินกว่าจะกลั่นกรองออกมาเป็นคำถามได้..หญิงสาวสองคนสลับกันจ้องตาอยู่สักพักก่อนเป็นเซียเองที่เริ่มเกริ่นนำ...
"คือ...ร่างกายของแจจุงจะมีปฏิกิริยาต่อการนับถึงแปดน่ะ...ตอนเด็กๆพ่อของแจจุงซ้อมมวยให้เองกับมือ ทุกครั้งที่จะน๊อกเอ๊าก็จะใช้วิธีนี้...ร่างกายก็เลยโต้ตอบอัตโนมัติอย่างที่เห็นนั่นแล่ะ...ค่ะ... "ไม่วายไม่ลืมใส่หางเสียงเข้าไปด้วย..แจจุงหันหน้ามองควับ...ตาเรียวที่มองตอบกลับมาเป็นคำตอบทุกอย่างได้ดี...
ความลับแตกแล้วสินะ...
แจจุงกวาดตามองไปรอบๆห้องอย่างตื่นๆ...ทุกสายตาจับจ้องมายังเขากับเซียด้วยหวังจะได้ยินคำอธิบายใดๆเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี่...เขาเหลือบมองยุนโฮที่ตอนนี้ยืนนิ่งจ้องเขาไม่ต่างอะไรกับชินดงและมิกกี้....หญิงสาวหันหน้าไปมองคิบอมที่จ้องตอบด้วยสายตาที่ว่า...ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเล่าความจริงสักที...
คนในห้องกลั้นหายใจพลางเฝ้ารอคำตอบจากปากแดงเล็กอย่างลุ้นระทึก... แจจุงก้มหน้าลงหลับตาผ่อนลมหายใจออกแรงๆ...
"ก่อนอื่น....ขอฉันใส่ผ้าอนามัยก่อนได้ไหม? "
.
.
"เราสองคน..... " แจจุงสูดหายใจเข้าหนึ่งที "เป็นผู้หญิงค่ะ....เป็นนักเรียนมัธยมปลายปีสองโรงเรียนเดียวกันกับพวกรุ่นพี่ทั้งหมดนี่แล่ะค่ะ" แจจุงเอ่ยขึ้นในที่สุดหลังจากหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย...หญิงสาวที่ตอนนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นในชุดเสื้อกล้ามธรรมดาโดยไม่มีผ้าพันตรงหน้าอก มันจึงไม่ได้ดูรัดแน่นจนตรึงแบนเรียบอีกต่อไป...
ก็บอกละไง เขาไม่ได้แบนทุเรศอย่างที่ไอ้ปากหมาชางมินด่าขนาดนั้นสักหน่อย...
คนตัวบางนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพลางชำเลืองมองเพื่อนรักข้างตัวนิดนึงและหันไปมองปฏิกิริยาของยุนโฮที่ยืนกอดอกจ้องมองเขาไม่กระพริบอย่างชั่งใจแล้วพูดต่อ..."เราสองคนแอบปลื้มพี่ยุนโฮกับพี่ยูชอนนานมากแล้ว...พอรู้เรื่องมาว่าพี่สองคน...เอ่อ...ชอบผู้ชาย...พวกเรา...พวกเรา.... "
"พวกเราก็เลยปลอมตัวเข้ามาเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับทั้งสองคนยังไงล่ะคะ "เป็นเซียที่รับหน้าที่พูดต่อ...เขาอยากจะเคลียร์เรื่องนี้ให้จบไปเร็วๆเพราะเขามีเรื่องคาใจที่อยากรู้ใจแทบขาด....เรื่องที่เขากับมิกกี้พูดค้างกันเอาไว้ก่อนที่เข้ามาที่นี่...
"จำสองคนที่ฉันว่ามาหาฉันเพื่อแปลงเพศได้ไหม?.... "คิบอมหันถามสองหนุ่มที่ตอนนี้กำลังตะลึงสุดขีด...ก่อนจะพยักเพยิดไปทางแจจุงกับเซีย "สองสาวนี่แล่ะ..."
"พวกเราขอโทษนะคะ...ขอโทษจริงๆ.. รู้ความจริงแบบนี้แล้วถ้ารุ่นพี่ยุนโฮกับยูชอนจะรังเกียจเราสองคน...พวกเราก็คงทำอะไรไม่ได้....ฉัน.... "ยังไม่ทันจบประโยคเสียงหวานที่เริ่มสั่นเครือก็ถูกดูดหายไปในอ้อมอกของคนตรงหน้า...ร่างเล็กถูกดึงเข้าไปกอดแน่น..ตาโตของแจจุงเบิกกว้าง...
o.O
นี่มันอะไรกัน?!!!
"ยูชอนมึงได้ยินใช่ไหม??? "เสียงทุ้มเข้มเจือความยินดีปรีดาเป็นล้นพ้นอยู่เต็มเปี่ยมของยุนโฮทำเอาแจจุงทำอะไรไม่ถูก..ร่างกายแข็งทื่อเหมือนถูกสต๊าฟเอาไว้...ชายหนุ่มกระชับอ้อมกอดให้แนบแน่นยิ่งขึ้นพลางยิ้มกว้าง...แจจุงที่ตอนนี้ขยับส่วนใดของร่างกายไม่ได้เลยพยายามเบือนหน้าไปทางเซียที่ยืนอยู่ข้างๆเขา..แต่กลายเป็นว่าพื้นที่ตรงนั้นว่างเปล่า...เพื่อนรักเขาไปยืนอยู่ตรงหน้ายูชอนตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย!!??
มิกกี้จ้องเซียที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างพูดอะไรไม่ออก...เขาจ้องมองร่างบางตรงหน้าราวกับเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก...เซียยิ้มให้เขาเต็มแก้ม "แบบนี้ก็ชอบจุนซูได้แล้วใช่ไหมคะ? "
อะไรนะ??? จุนซูมันพูดอะไรของมันเนี่ย???
แจจุงอ้าปากเหวอ...เป็นครั้งแรกที่เขายกมือขึ้นดันอ้อมกอดที่ใฝ่ฝันหามาตลอดออก...คือไม่ได้ละไง...ณ จุดนี้ขอเคลียร์ด่วน!!!
มิกกี้ที่ยังคงมึนตึบตับเหมือนถูกใครสักคนเขวี้ยงอะไรสักอย่างหนักๆใส่หน้าอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่พูดออกมา...เซียเหลืออดที่จะทน...นี่คือกูต้องเลือดไหลต่อหน้าต่อตาแบบไอ้แจจุงใช่ไหม คนตรงหน้าถึงจะเชื่อว่าเขาเนี่ยเป็นผู้หญิงจริงๆ!!
"ถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวถอดให้ดูก็ได้! "
มิกกี้รีบกระชากมือเล็กที่กำลังจะถอดเสื้อออกในทันที... "เห้ย!!! มะ..ไม่ต้องแล้ว!! คนอื่นก็อยู่ในห้องนะ! "
"แล้วต้องทำยังไงให้พี่ยูชอนเชื่อล่ะคะ???... "
"ไม่ต้อง...ไม่ต้องทำอะไรแล้ว....ผมไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อสักหน่อย....แค่...ยังรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่ออยู่ดีเท่านั้นเอง... "มิกกี้เกาท้ายทอยแก้เก้อ...
"นี่มันอะไรกันแน่??? จุนซู??? ตกลงพี่สองคนไม่ได้ชอบผู้ชายหรอ??? "แจจุงที่อดทนรออีคู่ตรงหน้าจบบทสนทานมานานถามเสียงดังพลางสลับมองหน้าทุกคน..
แต่เห็นทีคนที่จะแย่ที่สุดไม่ใช่เขาในที่นี่นะ...
ชินดงยังโอเคไหมนั่น??? ปากอ้าจนน้ำลายย้อยแล้วน่ะ.. = =”
"เราสองคน...ไม่ได้เป็นเกย์หรอก... "
แจจุงหันหน้ากลับมายังคนตรงหน้า..ยุนโฮยิ้มหวานให้ซึ่งทำเอาแจจุงเกือบจะหมดลมหายใจ...ร่างสูงเหลือบมองคิบอมที่ยืนพิงกับขอบเตียง มุมปากถูกยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อรู้ว่ายุนโฮกำลังจะพูดอะไรต่อ...ตาคมของยุนโฮจ้องตอบคิบอมก่อนจะหันกลับมาที่แจจุงอีกครั้ง...
รอกูเคลียร์เรื่องกูก่อนเหอะ... เดี๋ยวมึงจะโดนดี ไอ้หมอเฮงกะบ๊วยจอมเจ้าเล่ห์!!!
"เราสองคนทำไปเพื่อหลอกแม่เท่านั้นเอง... "
"หลอกแม่??? "เป็นเซียที่แทรกถามเสียงสูงพลางหันหน้าเป็นเชิงถามไปทางมิกกี้...
"แม่เราสองคนน่ะ ชอบทำตามใจตัวเอง พวกเราก็ยอมมาตลอด จะมีก็ครั้งนี้แล่ะ เขาสองคนพยายามจะให้เราดูตัวให้ได้ เรื่องนี้ผมไม่มีทางยอมแน่ๆอยู่แล้ว คิดดู ผมยังไม่จบมอปลายเลยนะ ยังอยากใช้ชีวิตอีกตั้งมากมาย พยายามอธิบายเท่าไร...แต่เขาสองคนก็ยังไม่เลิกสักที"
"ใช่แล้วล่ะ... "ยุนโฮเอ่ยเสริมต่อจากมิกกี้... "ถึงแม้จะบอกว่า...เป็นลูกของเพื่อน คุณสมบัติเพอร์เฟคมาก..อย่างน้อยให้เห็นหน้าก่อนก็ยังดีแล้วค่อยๆดูกันไปก่อนก็ได้..แต่พวกเราเหลือทนกับความเผด็จการแล้ว เราสองคนรู้ดีขืนตอบตกลงไปล่ะก็...สุดท้ายก็ต้องตกเป็นเครื่องมือเล่นตามเกมส์แม่อย่างแน่นอน... "
"พวกมันก็เลยโกหกว่าเป็นเกย์มั่วกับคนอื่นไปทั่วนี่ไง เพราะเห็นว่าเป็นวิธีที่เนียนที่สุดแล้ว.."
"หุบปากหมาๆของมึงไปเลยนะคิบอม กูยังไม่ได้เคลียร์กับมึงเลยนะ ตอนพวกกูเล่าให้ฟังทุกอย่างแล้วทำไมมึงไม่บอกว่าแจจุงกับจุนซูเป็นผู้หญิง?!! หา??!!! แถมมายุยงส่งเสริมให้พวกกูลองกับผู้ชายอีก!!"ยุนโฮทำหันขวับทำตาขวางขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ..
คนถูกแช่งด่าทำทียักไหล่อย่างไม่ยี่หระ.. "ก็กะว่าจะบอกอยู่หรอกนะ...แต่กูหมั่นไส้ที่พวกมึงบอกว่าได้ไอเดียนี้มาจากกู...กูก็เลยไม่อยากบอก ปล่อยให้รู้กันเองแบบนี้สนุกกว่าเยอะ "
"ไอ้คิบอม!! พวกกูก็แค่พูดความจริงนี่!! เพราะแม่กูสองคนยอมรับที่มึงเป็นแบบนี้ได้ กูก็เลยคิดว่าถ้าอ้างแบบนี้แม่จะได้เลิกยุ่งกับพวกเราสักที นี่มึงเห็นเรื่องเครียดโลกแตกของพวกกูเป็นเรื่องสนุกไปได้ไง หาาา!!!?? "เป็นมิกกี้ที่อาละวาดบ้าง...เจ้าตัวอยากจะเข้าไปขย้ำคอให้แม่งรู้แล้วรู้รอดแต่ติดที่เซียรั้งเขาไว้...
"อย่ามาทำดราม่า ไอ้ยูชอน...พวกมึงโกหกกูว่าเบื่อผู้หญิง มึงคิดว่าคนที่ Born to Be อย่างกูจะไม่สงสัยรึยังไง? อยากปกปิดแม้กระทั่งกับกูที่คลานต้อยๆมาด้วยกัน ณ จุดหนึ่งกูก็ต้องมีแอบหมั่นไส้เป็นเรื่องปกติบ้างสิวะ"
"ก็บอกแล้วไง เรื่องนี้ไม่มีใครรู้!! พวกกูกลัวความลับแตก มึงก็รู้ดีว่าแม่พวกกูสองคนเป็นยังไง!! รู้ไหมว่าพวกกูต้องเล่นละครตบตามากมายแค่ไหน?? กว่าจะทำให้เขาสองคนเชื่อหมดใจและเลิกรากับพวกกูเสียทีน่ะ!!"เพราะรู้ว่าถ้าไม่ทำเป็นชิ้นเป็นอันให้ดูมีหลักฐาน แม่เขาทั้งสองไม่มีทางเลิกยุ่งกับพวกเขาแน่...จึงจำเป็นต้องสร้างข่าว ทำตัวตีเนียนในทุกสถานการณ์ ขนาดไปคลับกับคิบอมครั้งก่อนก็รู้ว่ามีคนติดตามทำข่าวเขา..เขาก็ต้องทำเนียนมั่วกับผู้ชายแม่งในคลับ ทั้งๆที่แทบจะสำรอกที่ต้องแตะตัวพวกนั้น...จะมีก็แต่กับสองคนนี้...ที่ทุกอย่างทำไปเป็นตามสัญชาติญาณ..ทั้งๆที่ตอนแรกก็แค่เนียนตามแผน แต่กลับเป็นพวกเขาเองที่ไม่เคยที่จะหักห้ามตัวเองไว้ได้ทัน...
ถ้าถามว่าถูกใจไหม..
ยุนโฮกับมิกกี้ตอบได้เลยทันทีว่า พวกเขาต้องตาสองสาวตั้งแต่แรกเห็น...ไม่รู้ว่าจะด้วยอะไร...แต่เพียงแค่สบตาก็ทำเอาหัวใจแทบจะหยุดเต้น..และยิ่งทั้งคู่พยายาม...เอ่อ..ยั่วกันทุกครั้งที่เจอหน้าแบบนี้ เขาสองคนจะไม่หวั่นไหวได้ยังไง...
และนี่แล่ะที่ทำให้เขาสองคนคิดไม่ตกมานานมาก...การหวั่นไหวกับผู้ชายด้วยกันครั้งแรกไม่ใช่เรื่องเล่นๆ...ต่างคนต่างอ้างว่าหลายๆอย่างที่ทำไปก็แค่ละครตบตา แต่ใครจะรู้ดีเท่าใจตัวเองว่า จริงๆแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลย...เขาทั้งคู่ไม่ได้มีความจำเป็นเลยที่จะต้องตัวติดกับแจจุงกับเซียตลอดเวลาถึงขนาดนี้...แต่พวกเขาก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้มาตลอด...ปฏิเสธกับตัวเองทุกครั้งเท่าที่ทำได้...ว่าไม่ได้คิดอะไร..ก็แค่ถูกใจไปงั้น... จะไปชอบ รักจริงๆได้ยังไง ในเมื่อเขาสองคนคิดภาพไม่ออกเลย...ไม่ออกจริงๆนะ...กับผู้ชายเนี่ย... ทุกครั้งที่ถูกสัมผัส ต้องตัวกัน...มันยังไม่เท่าไร...แต่พอเริ่มขั้นลึกๆเข้า..ภาพที่ผุดขึ้นในสมองมันทำเอาร่างกายหยุดชะงักไปเอง...
คือทำต่อไม่ได้...ไม่ได้จริงๆ = =”
แต่ในตอนนี้ความจริงที่ปรากฏขึ้นทำเอาพวกเขาสบายใจขึ้นมาก...เหตุผลทุกอย่างกระจ่างและได้รับการแก้ไข... ที่เขาทั้งสองคนถูกใจแจจุงกับจุนซูนั้น ก็เพราะว่าสองคนนี้เป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย!!!
แจจุงกัดปากพลางหลุบตาอย่างใช้ความคิด เขายังคงพยายามเรียบเรียงเรื่องในหัวทั้งหมด..
คือตกลงแล้ว..ยุนโฮ ยูชอนไม่ได้เป็นเกย์....
ไม่ได้เป็นเกย์จริงๆ...ใช่ป่ะ???
ยุนโฮที่อาศัยจังหวะนี้เคลื่อนตัวเข้าหา...มือใหญ่คว้าเอามือขาวของอีกคนขึ้นมากอบกุม..."ไหนๆทุกอย่างก็กระจ่างแจ้งแล้ว...ผมไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป... "
แจจุงเงยหน้าสบแววตาคู่ที่ทำให้ตัวเองหวั่นไหวมาตลอด...เขาจำได้ว่าเพียงแค่แรกเห็นในนิตยสารประจำสัปดาห์ของโรงเรียน...เขาก็แทบจะล้มพับต่อหน้าแผงหนังสือเสียให้ได้...แม้จะเคยปลื้ม หรือชอบผู้ชายหน้าตาดีเยอะแยะมามากมาย...แต่กับยุนโฮ เขาบอกได้ว่ามันไม่เหมือนกัน...และไม่ว่าจะเป็นโชคชะตาหรืออะไรก็ตามแต่ที่ดลใจให้เขาและจุนซูทำเรื่องบ้าๆนี่เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับสองหนุ่มมาตลอดจนถึงตอนนี้...ยิ่งรวมกับประโยคตรงหน้านี้แล้วล่ะก็...ใครจะหาว่าเขาบ้าก็ช่าง...แต่เขามั่นใจแล้วว่า ผู้ชายคนนี้แล่ะ... ต้องคนนี้ คนนี้เท่านั้นจริงๆ...
"เป็นแฟนกับผมนะครับ "
.
.
.
"ขอโทษนะคะ... "
เสียงหวานของใครคนหนึ่งดังขึ้นที่ประตูห้องซ้อมของชมรมชกมวย...ชายกล้ามหนาที่กำลังชกกระสอบทรายอย่างเอาเป็นเอาตายหันหน้ามาดูผู้มาใหม่ก่อนที่ใบหน้าจะระบายยิ้มน้อยๆโดยลืมไปว่ากระสอบทรายที่ชกครั้งสุดท้ายไปกำลังกระเด้งกลับมาหาตัว...
หญิงสาวยิ้มแหยๆให้หนึ่งทีเมื่อชายผู้โชคร้ายโดนกระสอบทรายฟาดหัวจนหน้าทิ่ม...แต่ไม่วายเจ้าตัวยังลุกขึ้นยืนพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี.... "มาหายุนโฮหรอครับ แจจุง? "
คิม แจจุงที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มมัธยมปลายนักเรียนหญิงของโรงเรียนพยักหน้าให้พลางอมยิ้มสวย...ใบหน้าขาวใสรับกับชุดกะลาสีมีโบเข้ารูปกับกระโปรงจีบสีน้ำเงินเข้มสั้นเลยเข่านิดหน่อยได้เป็นอย่างดี..ถึงแม้ผมจะยังสั้นเกินหญิงอยู่มากแถมดูออกแนวห้าวๆนิดๆก็เถอะ แต่ชุดนักเรียนที่ใส่ก็ดึงความโมเอะออกมาได้มากโขอยู่..ทำเอาคนในละแวกนั้นพลางยิ้มเก้อไปด้วย...
"รุ่นพี่ยุนโฮกับยูชอนอยู่ในห้องล๊อกเกอร์ กำลังเปลี่ยนเสื้ออยู่แล่ะมั้งครับ... "
"ขอบคุณนะคะ "เป็นเซียที่โผล่มาทางข้างหลังแจจุงอีกทีที่เอ่ยขอบคุณพลางยิ้มตาปิด...
คนทั้งชมรมมองตามสองสาวที่พากันเดินผ่านข้ามห้องซ้อมไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างตาหยาดเยิ้มปากละห้อย...
ตั้งแต่ความจริงเปิดเผย...พวกชายแท้และเสือไบทั้งหลายในชมรม หรือแม้กระทั่งพวกที่ชอบผู้ชายด้วยกันเองก็เหอะ ก็ยังต้องเหลียวหลัง...แหมก็นะ..เข้าใจมาตลอดว่าเป็นผู้ชาย ถึงตอนนี้จะเป็นผู้หญิงแล้วแต่สำหรับพวกเกย์ด้วยกันเองก็ยังจะคิดว่าแจจุงกับเซียก็เหมือนผู้ชายที่แต่งหญิงอยู่ดีนั่นแล่ะ....
ตอนนี้แจจุงกับเซียไม่ต้องมาเข้าชมรมแล้ว...มวยเมยอะไรนั่นยุนโฮกับยูชอนสั่งเลิกไปเรียบร้อย...เรื่องอะไรจะให้สองสาวของเขามาโชว์แข้งโชว์ขาอวดผิวสวยให้เป็นอาหารตากันล่ะ!
"เฮ้ย! ยุนโฮ...แจจุงมาหา!! "เสียงดังข้ามห้องกระทบแก้วหูเจ้าของชื่อที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังซ้อมเสร็จ...ใบหน้าคมชื้นเหงื่อนิดๆหันมองบุคคลที่รอตรงหน้าประตูก่อนจะจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจ
ก็บอกแล้วว่าถ้าไม่จำเป็นมากนักไม่ต้องมาหาที่นี่อีก! แน่ะ และไอ้คนเรียกชื่อกูแม่งยังไม่เลิกมองแฟนชาวบ้านเขาอีกน่ะ!
ยุนโฮกับมิกกี้สาวเท้ารัวเร็วไปที่ประตู...ระหว่างทางเดินมิกกี้ก็ไม่วายพ่นด่าพวกสมาชิกในชมรม.. "พวกมึงเลิกจ้องกันเลยนะ!! มีอะไรก็ไปทำไป!!~ "
คือปกติก็มีผู้หญิงเข้ามาเยี่ยมเยียนชมรมอยู่บ้างหรอก แต่แจจุงกับเซียเหมือนกับคนอื่นที่ไหนกัน!! เล่นล่อเป็นเป้าหมายทั้งหนุ่มแท้ หนุ่มเทียม คือเหนื่อยที่จะหึงน่ะ เข้าใจไหม?เห้อ ~
เมื่อถึงเป้าหมาย...ทั้งสองหนุ่มไม่รอให้สองสาวได้เอ่ยทักทายตัวเองหรือแม้กระทั่งเอ่ยลาใครในชมรม...สองแขนแกร่งลากหญิงสาวออกจากชมรมด้วยความเร็วขีปนาวุธทำเอาคนที่เหลืออดเสียดายไม่ได้...
.
.
"ผมไม่ชอบเลยนะ..."จู่ๆยุนโฮก็เอ่ยขึ้นขณะกำลังเดินผ่านระเบียงทางเดินไปที่ทางออกของโรงเรียน...
แจจุงเอียงคอเล็กน้อย...สองมือที่กอบกุมกันไว้แกว่งไปตามจังหวะก้าวเดิน... "ไม่ชอบ..ไม่ชอบอะไรหรอ? "
ยุนโฮเหลือบมองมิกกี้ที่ต่างก็มองมาด้วยสายตาที่รู้กันก่อนจะเอ่ยเสียงหงุดหงิด.."วันหลังถ้าจะไปชมรม ใส่ชุดวอร์มเหมือนเดิมยังจะดีซะกว่า...ไม่ต้องใส่มันแล้วไอ้ชุดนักเรียนหญิงเนี่ย..!!"
"ใช่ โดยเฉพาะจุนซู ถึงจะใส่ชุดวอร์มแต่ก็ห้ามใส่กางเกงขาสั้นเด็ดขาด..เสื้อก็ต้องมีแขนและไม่เว้าจน.....เห้!!.....หยุดขำเลยนะ!!! "
สองสาวที่อดขำไม่ได้กับความขี้หวงของแฟนหนุ่มหัวเราะเสียงใสคิกคักก่อนยิ้มเอาใจเมื่อทั้งคู่เริ่มหน้าบูดบึ้ง...เซียเอียงคอซบไหล่มิกกี้อย่างเอาใจไม่ต่างกับแจจุงที่กระชับมือใหญ่ที่กอบกุมมือของตัวเองก่อนกระโดดหอมแก้มสากหนึ่งที..
แชะ!~
.
.
.
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...
หน้าปกนิตยสารประจำสัปดาห์ของโรงเรียนฉบับใหม่ถูกวางลงกับโต๊ะ...ชายหนุ่มรูปงามภายใต้กรอบแว่นสี่เหลียมสีดำแสนธรรมทว่าทรงเสน่ห์เพราะคนใส่ยกมุมปากยิ้มพลางส่ายหัวก่อนจะหันไปใส่ใจกับรายงานกลุ่มที่เพื่อนสาวสองคนทิ้งให้ตัวเองทำอย่างเคยและบอกว่าจะรีบกลับมาช่วยหลังจากเดทกับแฟนหนุ่มเสร็จ...
"หาเรื่องจริงๆเลยนะ พวกเธอสองคน "
ภาพถ่ายของสองหนุ่มหล่อขวัญใจของโรงเรียนควงหญิงสาวสองคน คู่หนึ่งกำลังหอมแก้มกันไม่อายเทวดาฟ้าดิน อีกคู่ก็ซบไหล่ประหนึ่งทั้งโลกมีกันอยู่สองคนถูกนำขึ้นเป็นหน้าปก...บนหัวนิตยสารพาดหัวข่าวตัวโตว่า...
"เด็กหนุ่มหน้าหวานที่สองหนุ่มฮ๊อตควง แท้จริงแล้วไม่ใช่ผู้ชายแต่เป็นทอม???!!!"
คาดว่าหลังจากนี้ไป ข่าวนี้คงเป็น Talk of the Town ไปอีกนานละนะ~ ^^
THE END
Epilogue~
เสียงกริ่งเลิกเรียนดังเป็นสัญญาณว่าคาบสุดท้ายของการเรียนได้หมดลง...สองสาวที่ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งแทบทุกฉบับของนิตยสารประจำสัปดาห์ของโรงเรียนกำลังนั่งแกว่งเท้ารอแฟนหนุ่มที่เป็นต้นเหตุของความดังเกินเหตุในเวลาอันสั้นที่หน้าห้องเรียนชั้นปีสองของตัวเองอย่างที่เคยรับปากเอาไว้ว่า ถ้าไม่จำเป็นอะไร จะไม่ไปที่ห้องชมรมด้วยชุดนักเรียนหญิงอีก..
แจจุงกับเซียคุยกันท่ามกลางสายตาผู้คนในละแวกนั้นที่มากกว่าปกติเป็นประจำไปแล้วในช่วงเวลานี้... ไม่ใช่เพราะเพิ่งเลิกเรียนอะไรหรอกนะ...ทุกคนก็แค่มายืนรอดูอาหารตากันทั้งนั้นแล่ะ...
และในไม่ช้าสองหนุ่มหล่อก็แหวกว่ายผ่านฝูงผู้คนที่ยืนอออยู่แถวนั้นอย่างไร้ความจำเป็นเข้ามาหาคนทั้งคู่ที่กำลังรอพวกเขาอยู่...
หลังเลิกเรียนวันนี้ยุนโฮกับมิกกี้จะพาแจจุงกับเซียไปเดทกันที่บ้านของยุนโฮ พวกเขาไม่สนหรอกว่าจะเจอแม่หรือเปล่า ก็ในเมื่อไม่มีอะไรให้ปกปิดอีกต่อไป...จะไปกลัวอะไรล่ะ...จะได้แนะนำให้รู้จักไปด้วยเลยว่าสองคนนี้เท่านั้นที่เขาจริงจังอยู่ด้วย!! อีกอย่างเขาค่อนข้างมั่นใจว่าแจจุงกับเซียจะช่วยโน้มน้าวแม่ของพวกเขาได้..ก็ทั้งหน้าตา ฐานะ สองคนนี้ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใครเลยสักนิด...และถ้ายังไม่เลิกรังควานล่ะก็...
เอาไว้ค่อยคิดก็แล้วกัน! = =”
ใช้เวลาไม่นาน รถยุโรปคันหรูสองคนก็จอดเทียบที่ลานหน้าบ้านคฤหาสน์หลังหนึ่ง...นี่เป็นครั้งแรกที่แจจุงกับเซียมาที่นี่ ทั้งคู่จึงตื่นเต้นเล็กน้อย...ทั้งสองคนกำลังจะก้าวเท้าเข้าบ้านอยู่แล้วแต่ก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงของใครสักคนที่คุ้นเคยภายในตัวบ้านถึงแม้จะไม่ได้ยินมานานมากแล้วก็ตาม...
เป็นแจจุงก่อนที่หันตามเสียงที่ว่านั้นทันที..ตามด้วยเซียที่ฉงนและหันตามด้วย...
"มีอะไรรึเปล่าครับ? "ยุนโฮที่เพิ่งปิดประตูรถเสร็จถามแฟนสาวที่กำลังจ้องผ่านตัวบ้านเข้าไปในห้องนั่งเล่นข้างในที่มี...เออะ..พามาบ้านวันแรกก็แจ๊กพอตแตกเลยแฮะ...
นั่นแม่เขากับแม่ไอ้ยูชอน....แล้ว...นั่นใครอีกสองคนวะ??
แจจุงกับเซียไม่ตอบอะไร ทั้งสองก้าวเท้าฉับไวขึ้นบันไดหน้าบ้านผ่านลานกว้างโอโถ่งที่มีแจกันวางอยู่ตรงกลางของตัวบ้าน เดินทะลุเข้าไปด้านในห้องนั่งเล่นที่มีผู้อาวุโสสี่คนนั่งอยู่โดยที่หนึ่งในนั้นไม่ได้เจอหน้าค่าตากันมาแทบจะสองสามเดือนแล้ว...
"แม่!!!??? "
"อ้าว แจจุง!!! "คุณนายคิมที่กำลังเพลิดเพลินกับบทสนทนาวางถ้วยน้ำชาในมือลงเมื่อเห็นลูกสาวที่ไม่เจอกันมานานเนื่องจากต้องไปดูงานกับคุณนายคิมอีกบ้านที่เมืองนอก...
"จุนซู???!! นี่...เรามาทำอะไรกันที่นี่น่ะ? "เป็นคุณนายคิมฝั่งทางเซียเอ่ยถามขึ้นบ้างเมื่อเห็นลูกสาวตัวเองที่เดินตามแจจุงมาติดๆด้วยสีหน้าแปลกใจสุดขีด...
ผู้อาวุโสอีกสองคนที่ยุนโฮกับมิกกี้รู้จักเป็นอย่างดีถึงแม้ช่วงนี้จะไม่ค่อยได้เจอหน้าก็ตามเพราะตัวเองหลบหนีไปอยู่คอนโดซะส่วนใหญ่ก็หันหลังมามองด้วยความสงสัยด้วยเช่นกัน...
"นี่น่ะหรอ ลูกของพวกเธอ?? "คุณนายชองหมุนคอกลับไปถามคุณนายคิมทั้งสองซึ่งได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าหงึกหงิกของคุณนายทูคิมก่อนจะหันกลับมาจ้องแจจุงกับเซียอีกรอบอย่างไม่เชื่อสายตา...
"น่ารักจิ้มลิ้มกว่าในรูปเยอะเลยนะ...ผมสั้นก็ดูเปรี้ยวไปอีกแบบ.. "คุณนายปาร์คเอ่ยชมพลางมองไปที่เซียที่ทำหน้าเหวอ...
"นั่นสิ แจจุงดูสูงกว่าในรูปเยอะอยู่นะ"คุณนายชองคอมเม้นบ้างพลางมองไปที่แจจุงที่ตอนนี้งงหัวหมุนกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างปิดไม่มิด..
"ก็ฉันบอกแล้วว่าสองคนนี้ ถึงจะหน้าตาน่ารัก แต่มันดูยังไง้ยังไงก็เหมือนเด็กผู้ชายกะโปโลซะมากกว่า ถึงได้ตกใจไม่หยอกนะ ที่พวกเธอสองคนสนใจในตัวลูกสาวของพวกฉันสองคนน่ะ "คุณนายคิมผู้เป็นแม่แจจุงยิ้มหัวเราะเล็กน้อยขนาดเอ่ยแซวลูกสาวตัวเอง
"ไม่หรอก ตาฉันมองใครไม่เคยผิด..เชื่อสิ เห็นแบบนี้นะ แต่งหน้า แต่งตัวออกมาต้องสวยแน่ๆ คนนึงก็หุ่นนางแบบ อีกคนก็หุ่นเซ็กซี่เล็กๆเนี่ย "คุณนายชองเอ่ยพลางหัวเราะคิกคัก
"เอ่อ...อะแฮ่มๆ.... " ร่างบางส่งเสียงกระแอมแทรกกลางบทสนทนาของกลุ่มผู้อวุโสตรงหน้าที่ดูท่าจะไม่ใส่ใจความมีตัวตนของเขาสักเท่าไรไม่เบานักแต่ก็ดึงความสนใจกลับมาได้..ก่อนจะหันไปทางคุณแม่ยังสาวพลางย้ำถามอีกรอบ..."แม่...ตกลงนี่แม่มาอยู่นี่ได้ไง??? "
"แม่เพิ่งกลับมาเอง...พอดีแวะเข้าบ้านแล้วไม่เจอเรา เจอแต่ชางมิน เห็นเขาบอกว่าลูกจะกลับค่ำๆ นี่แม่มาเยี่ยมเพื่อนสมัยมัธยมต้นน่ะจ้ะ...และนี่เป็นไงมาไงล่ะเนี่ย?? แล้วนั่น...ทำไมตัดผมซะสั้นอย่างนั้นละลูก? "
"คือ...เอ่อ.... "แจจุงอึกอักเล็กน้อย ไม่รู้จะเริ่มต้นตอบคำถามมากมายเหล่านั้นยังไง...มือไม้ก็พลางชี้ไปที่บุคคลข้างหลังที่เดินตามเข้ามาและยืนงงเต้กไม่แพ้กัน...เซียที่โดนสายตาของผู้เป็นแม่ส่งมาเป็นคำถามก็พลันทำอะไรไม่ถูกนอกจากยังคงยืนอ้าปากหวอต่อไป...
"ขอโทษนะครับ..คือ...นี่มันอะไรกันแน่ ผมงงไปหมดแล้ว "ยุนโฮที่ยืนอยู่ด้านหลังหันมองสลับซ้าย ขวา หน้า หลังแทรกขึ้นมาบ้าง....
คือมีใครเห็นหัวเขากับยูชอนบ้างไหมเนี่ย!!???
"ฉันน่าจะเป็นคนถามพวกนายมากกว่านะ!... " คุณนายชองที่เพิ่งเห็นการมีตัวตนของลูกชายตัวเองเอ่ยประชดประชัน... "เราสองคนกลับบ้านได้แล้วรึไง?! ไม่ไปนอนกกผู้ชายที่ไหนแล้วเรอะ??!! "
"แม่!!! "
"ก็มันจริงนิ!!! แกสองคนกลับมาวันนี้ก็ดีเลย!! ไหนๆก็ไหนๆละ เรื่องที่ฉันเรียกพวกเธอมาเพื่อที่จะบอกก็เรื่องนี้ยังไงล่ะ!!.. "คุณนายชองหันไปทางคุณนายทูคิมก่อนจะตวัดตาอย่างฉุนเฉียวกลับมาที่ลูกชาย... "มันสองคนน่ะนะ ทำเอาใจของพวกฉันแทบแตกสลาย...ริอาจเป็นเกย์ตอนไหนฉันก็ไม่รู้ มิน่าถึงไม่เคยตกลงปลงใจกับผู้หญิงคนไหนเป็นชิ้นเป็นอัน...เดินไปไหนก็มีแต่ข่าวของมันลงแทบทุกนิตยสารวัยรุ่นแทบทุกแผง...หน้าฉันเนี่ยนะอายจนไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน...ฉันก็เลยว่าจะบอกยกเลิกทางเธอเรื่องดูตัวซะ... "
"เดี๋ยวนะครับ!! "มิกกี้แทรกเสียงดังขัดคุณนายชองก่อนจะหันหน้าตื่นๆไปทางแม่ของตัวเอง... "นี่แม่อย่าบอกนะว่า... "
"ก็ใช่น่ะสิ!! คู่ดูตัวของพวกเธอน่ะ ก็สองสาวที่ยืนอยู่นี่ไง!!! แม่น่ะรึอุตส่าห์หาสาวสวยๆดีๆให้ไม่ชอบ รู้ไหมว่าแม่ลำบากแค่ไหน กะว่าพอเพื่อนแม่สองคนนี้กลับมาจะได้ให้เจอกัน...แต่กลายเป็นว่าที่แท้ก็รู้จักกันอยู่แล้วอีกต่างหาก... " คุณนายปาร์คสวนกลับอย่างรู้ทันว่าลูกชายของตัวเองจะถามว่าอะไรทั้งที่ยังพูดไม่จบพลางส่ายหัวถอนหายใจ... "ว่าแต่...นี่หนูสองคนเป็นไงมาไง ไปรู้จักมักจี่ลูกเกย์ของน้าตั้งแต่เมื่อไรกัน?? "
สองสาวยื่นนิ่งกันสักพักสบตากันและกันก่อนจะระเบิดหัวเราะลั่นบ้าน...ต่างจากสองหนุ่มที่ยืนมื่อทื่อเป็นรูปปั้นหินอนุเสาวรีย์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...แจจุงปาดน้ำตาที่ไหลออกจากทางปลายตาก่อนจะพยายามรวบรวมสติตอบคำถามออกไปแทนสองหนุ่ม...
"พวกเราไม่ได้เป็นเพื่อนหรอกค่ะ... "
เซียที่ยืนหัวเราะเอิ๊กอ๊ากโยกหน้าโยกหลังตอบขึ้นบ้าง... "พวกเราเป็นแฟนของลูกชายคุณน้าทั้งสองต่างหากค่ะ! "
"หา!!~!! "
คุณนายชองกับคุณนายปาร์คหันขวับพร้อมกันไปทางลูกชายทั้งสองพลางเอ่ยเสียงเย็นเยียบที่แฝงไปด้วยความกราดเกรี้ยวเล็กๆ... "นี่มันอะไรกัน ชอง ยุนโฮ/ปาร์ค ยูชอน??!!! "
ชายหนุ่มเจ้าของชื่อที่เพิ่งได้สติกลับมาต่างก็ก้มหน้ากุมขมับที่เต้นตุบๆ...
"แม่ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้นนั่นแล่ะครับ "ยุนโฮเอ่ยตอบเสียงเครียด..
"ไอ้นี่!!!! จะไม่ให้ถามได้ยังไง??? บอกมานะ!!! นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!!??.... "
สองหนุ่มหันหน้าสบตากันอย่างรู้กันก่อนที่ทั้งยุนโฮและมิกกี้จะคว้ามือแจจุงกับเซียดึงเข้าหาตัวเต็มแรงและจับจูงออกจากบ้านในทันใด...
"นี่!!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!! ไอ้ลูกบ้า...แกจะพาแจจุงกับจุนซูไปไหนน่ะ!!!???? "
"ไปแต่งงาน!!! แต่งมันวันนี้ เดี๋ยวนี้เลย!!! "
Fin~
Special อีกนิด ~
"ไม่รู้ว่าป่านนี้ทั้งแจจุงกับจุนซูจะเป็นยังไงบ้างนะ... "
"จะเป็นไงได้ล่ะ...เล่นหายหัวไม่มากวนใจเลยแบบนี้น่ะ...ทงเฮก็น่าจะรู้ดีนะ... "คิบอมที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานเมื่อครู่พับเก็บมันลงกับโต๊ะก่อนจะดึงตัวคนน่ารักมานั่งตัก...
"แหม..ก็อยากรู้ความคืบหน้าบ้างนี่น่า.... "
"ไม่เห็นจะต้องไปอยากรู้เรื่องของคนอื่นเลยนี่...เคลียร์เรื่องของเราดีกว่านะ "
ทงเฮเอียงคอทำหน้างงใส่คนที่เพิ่งได้ตำแหน่งคนรักไปหมาดๆไม่นานมานี้... "เรื่องอะไรหรอ? "
"ผมอยากถามมาตั้งนานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ผมไม่อยากก้าวก่ายเรื่องของทงเฮ... "แต่ตอนนี้ไม่ก้าวก่ายไม่ได้แล้วสินะ ก็ไม่ได้เป็นแค่คนอื่นแล้วนี่..."ไอ้ เชว ซีวอนเนี่ย ทงเฮสนิทกับมันมากนักหรอ... เห็นโทรหากัน ส่งข้อความกันบ่อยเหลือเกิน..." คิบอมถามพลางเอาคางเกยบนไหล่มน...
คือคาใจมานานแล้วไง...ก็กะว่าจะไม่ถามหลังจากที่ทงเฮตกลงเป็นแฟนกับเขา เพราะคิดว่าถ้าพอไอ้ ฉ่อย เชว ซีวอนอะไรนั่นรู้ว่าทงเฮมีแฟน ถ้ามันมีสำนึกพอ...เดี๋ยวก็คงเลิกราไปเอง แต่ขนาดตกลงเป็นแฟนกันแล้วก็เหอะ ก็ยังเห็นสองคนนี้ติดต่อกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ...
คนตัวเล็กขำพรืด...ส่งเสียงหัวเราะคิกคักจนคิบอมยิ่งหงุดหงิดหนักกว่าเดิม...
"อะไรกัน...นี่ฉันยังไม่เคยบอกคิบอมอีกหรอ?? "
"ถ้าจะบอกว่ามันเป็นใคร ผมไม่ได้โง่นะ เห็นเป็นหมอแบบนี้ ก็ดูทีวีบ้างเถอะ...ถึงได้รู้ว่ามันเป็นดาราหน้าดังคับจอทีวี...ที่คอยตามจีบส่งเมสเสจ โทรหาแฟนผมแทบทุกสามเวลา "
"นี่ก็เวอร์ไป!! "ร่างบางว่าตีเพี๊ยะเข้าที่แขน...
"อะไรล่ะ!!?? ก็ทงเฮเป็นแฟนผมแล้วนี่น่า...ถึงมันจะหล่อและดังแค่ไหนก็เหอะ...แบบนี้เข้าข่ายนอกใจชัดๆ "
"จะบ้าหรอ??!! ตั้งแต่เรื่องจงจีบแล้วนะ ไปเอามาจากไหนเนี่ย???!! ฉันจะไปคบกับลูกชายของป้าแท้ๆฉันได้ยังไงกันเล่า!!?? "
!!!!
เออะ! อะไรนะ??
นี่แปลว่าเขาถูกหลอกหรือนี่!!!!??????
ไอ้สองสาวตัวแสบ!! คราวหน้าเจอจะแก้แค้นให้เข็ดเลยคอยดู!!!!!!!!!!!!
Real Fin~~
Talk
จบแล้ว!!!!!!!!!!!!!! กรี๊ดเถอะ สี่ปีที่เขียนเรื่องนี้!! (คือจริงๆมันไม่ได้ยาวอะไรเลย ตัวเองดองตอนละปีเองต่างหาก เฮิก) คือตอนสุดท้ายเขียนนานมาก ลบๆเข้าๆออก มันเขียนแล้วก็ไม่ได้ดั่งใจ กลัวออกมาไม่เคลียร์อย่างที่ตัวเองอยากจะสื่อ เขียนเกือบวัน นั่งๆนอนๆเกลือกกลิ้งปั่นมันจนเสร็จ ว่าจะลงให้ตั้งแต่เมื่อคืนดันง่วงจนทนไม่ไหว เหอๆๆ ไม่อยากลงทั้งๆที่ไม่ได้เขียนทวนเลยด้วย เพราะมันเป็นตอนสุดท้ายแล้วน่ะค่ะ
ฟิคเรื่องนี้ไร้แก่นสารโคตรเลยเตอะ...แต่สนุกมากกับการเขียน ฮิ้ววว!!~ เพราะตัวนางเอกต่างก็ แรงส์อ้ะ! *เลียนแบบเสียงมาดามมด* กันสุดๆ
หวังว่าทุกคนจะสนุกกับฟิคเรื่องนี้นะคะ เรื่องยาวต่อไปคงเป็นตอนต่อจาก Shotacon หลังจากที่ยุนโฮโตแล้ว คือคิดไว้ว่าจะแต่ง แต่ยังไม่มีพล๊อตเลยนิ = =”
ไว้ไปเวิ่นในเรื่องโน้นเอา ส่วนเรื่องนี้...นั่นแล่ะเหมือนจะดีใจที่เขียนจบเพราะดองมานานมาก แต่ก็คงคิดถึงที่จะไม่ได้เขียนอะไรทำนองนี้อีกแล้ว แจจุงกับเซียเวอร์ชั่นผู้หญิง คงมีอันๆริอาจเขียนคนเดียวแหงม ก๊ากกก
เรื่องรวมเล่มคงต้องพับเก็บไว้ก่อน เหลืออีกปีที่ต้องเรียนให้จบ แล้วค่อยว่ากันเนอะ... ไว้จะมาส่งเสียงถามเรื่องนี้กันอีกที...ใครที่มีความเห็นในเรื่องนี้ จะสกรีมหน่อยก็ได้นะคะ คนแต่งจะได้รู้ว่ายังอยากที่จะมีคนเอาบ้าง ๕๕๕๕ ให้โอกาสเก็บตังค์เป็นปีเลยนะเออ...จะพยายามเขียนสเปเชี่ยลให้หนาเท่าตัวเรื่องเลยนะคะ ฮา
ขอบคุณทุกคนมากๆนะคะ ขอบคุณจริงๆที่ยังติดตามกันมาตลอด โดยเฉพาะคนที่ยังคอยคอมเม้นและให้กำลังใจ อยากบอกว่าอ่านย้อนทุกคอมเม้นนะคะ ใครที่เพิ่งเม้นทีหลังอย่าคิดว่าคนแต่งจะไม่ได้อ่าน คอยรีเฟรชแล้วอ่านตลอดค่ะ คอมเม้นเป็นส่วนสำคัญที่เป็นแรงบันดาลใจและผลักดันให้นักเขียนต่างก็ฮึดมาลงตอนต่อ เพราะอย่างน้อยก็คิดว่ายังมีคนรอติดตามอยู่เสมอ...ดังนั้นอยากให้รู้ไว้เสมอว่าอันๆซาบซึ้งกับทุกคอมเม้นจริงๆนะเออ *ปาดน้ำตาปรอยๆ*
เจอกันใหม่ในเรื่องหน้านะคะ ^^
ปล. ใครไม่รู้ว่ามาดามมดคือใคร ลองไปเซิร์จหาในยูทูปดูนะ พิมพ์คำว่า ภาษา Plaza น่ะค่ะ เอามาแบ่งปันเสียงหัวเราะ คือมันฮามากจริงๆนะ ฮ่าๆๆๆ
Pairing : YunhoXJaejoong, YuchunXJunsoo, KibumXDonghae
Genre : Romantic Comedy ตลกโปกฮา ไม่ขำ ให้ถีบเลยเอ้า ๕๕ (ตอนสุดท้ายแล้วน้า)
Author : Deumbeui
Author’s note : "เป็นแฟนกับผมนะครับ"
Warning : PG-15
ประตูห้องพยาบาลถูกเปิดผลัวะเต็มแรง...เซียที่วิ่งหน้าตั้งสี่คูณร้อยเมตรมาหัวกระเซอะกระเซิงโดยมีมิกกี้ตามมาติดๆ...ตาเรียวเบิกกว้้างมองคนที่นอนสลบไสลบนเตียงก่อนจะหันไปสบตากับผู้คนที่อยู่ในห้องพยาบาล...
คิบอม???!!! คิบอมมาตั้งแต่เมื่อไร???
"เกิดอะไรขึ้น?? แจจุงเป็นอะไรไปฮะ? "หลังจากที่งุนงงกับการปรากฏตัวอย่างไม่คาดคิดของคิบอมที่ยืนอยู่ข้างเตียงคนป่วย..เซียก็ดึงสติตัวเองกลับมาถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นพลางไล่สายตามองบุคคลที่เหลือในห้องซึ่งก็มีเพียงชินดงกับยุนโฮเท่านั้น....ทั้งคู่เหมือนหลุดกาแลคซี่ทางช้างเผือกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คิบอมถอนหายใจแรงๆหนึ่งที....
"เพื่อนเธอ...เมนส์มา "
!!!
"ตายห่า! มิน่าล่ะ!! "พอได้ยินแค่นั้นแล่ะ..เซียก็รีบรุดวิ่งไปที่ข้างเตียงทันที...ใบหน้าขาวซีดของเพื่อนรักนอนซมไม่ขยับ...เซียส่ายหัวพลางถอนหายใจ...
"นี่มันอะไรกันแน่??... "ชินดงที่เพิ่งลากสติสัมปชัญญะกลับมายังโลกแล้วเอ่ยถามขึ้น...เซียเงยหน้าสบตาประธานชมรมอย่างลำบากใจ...เขาละสายตาไปทางมิกกี้ที่งงหนักหลุดกรอบจักรวาลไปไกลแล้วก็กลืนน้ำลายลงลำคออันแห้งผากของเขาอย่างเสียไม่ได้....
ถึงเวลาแล้วสินะ...
"ให้แจจุงฟื้นแล้วเราสองคนค่อยเล่าความจริงให้ฟัง...ได้ไหม..เอ่อ...คะ? "หางเสียงที่เปลี่ยนไปบ่งบอกถึงเพศที่แท้จริงของเซียอีกคนทำเอาชินดงกับยุนโฮยิ่งอาการหนักขึ้นไปอีก...มิกกี้ที่วันนี้ได้ยินเรื่องนี้ซ้ำเป็นรอบที่สามทำหน้าเหมือนถูกถอนหงอนไก่แล้วในครั้งนี้...
"ไร้ประโยชน์ เพื่อนนายจู่ๆก็สลบคาเวทีมวยแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นอีกเลย...ลงแบบนี้แล้วฉันคิดว่าอีกนานกว่าเพื่อนเธอจะฟื้นนะ...รีบๆเล่าความจริงให้พวกมันฟังดีกว่าเหอะ..โชคดีแค่ไหนแล้วที่ฉันมาทันเวลาก่อนที่ทั้งค่ายมวยและกรรมการจะรู้ความจริง รู้ไหมว่าชมรมโรงเรียนจะต้องโดนอะไรถ้าเกิดความลับรั่วไหลขึ้นมา??? "คิบอมที่ปลีกตัวมาดูการแข่งขันของสองสาวรีบเสนอตัวที่จะจัดการดูแลแจจุงทันทีที่เกิดเรื่องก่อนจะกันไม่ให้คนนอกหรือใครคนอื่นเข้ามาในห้องพยาบาลเป็นเด็ดขาด...ส่วนยุนโฮกับชินดงเขารู้ดีว่าเรื่องมันมาไกลเกินกว่าจะปิดสองคนนี้ได้อีกต่อไป...เขาไม่เหลือข้ออ้างใดๆที่จะโกหกเรื่องครั้งนี้อย่างสมเหตุสมผลได้เลย...ตั้งแต่เรื่องออกใบรับรองแพทย์และเหตุการณ์ที่บ่อน้ำพุร้อน...ทั้งสองคนก็สงสัยเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว...
"มันมีวิธี...แจจุงเป็นคนกลัวเลือดขั้นแอดซ์วานซ์น่ะ..ก็เลยช๊อคจนเป็นลม...แต่ก่อนที่เคยซ้อมชกมวยด้วยกันตอนเด็กๆก็เคยเป็นแบบนี้มาแล้วครั้งนึง "
"วิธี?? วิธีอะไร? "
เซียมองหน้าคิบอมที่ส่งสายตาเป็นคำถามเล็กน้อยก่อนเหลือบไปมองสายตาอีกสามคู่ที่เหลือที่ยังจดจ้องและรอคอยให้เขาเคลียร์ปัญหาต่างๆ...ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้งก่อนจะออกเสียงนับเลขไม่ต่างอะไรกับเด็กอนุบาลท่องเอ บี ซี...
"1......2.......3..........."
บุคคลทั้งสี่ในห้องงงจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่สลับมองหน้ากันไปมา...โดยเฉพาะกับคิบอมที่รู้เรื่องทุกอย่างดีตั้งแต่แรกยังต้องก๊งแตก...
นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี่ย!!?? วิธีนับเลขธรรมดาเนี่ยนะช่วยคนฟื้นได้????!!! สถาบันหมอไหนสอนแม่งวะ???!!
คนตัวเล็กยังคงนับต่อไปเรื่อยๆอย่างมีจังหวะ เมื่อจำนวนเลขมากขึ้น เสียงเล็กก็จะเน้นหนักขึ้นตามอารมณ์อย่างมีลีลา...
นี่อย่าบอกนะว่า...
"6..................7........... "
"8!!! "
พอถึงเลขนี้เซียตะโกนเสียงดังพลางตบเตียงดังปังจนทั้งห้องสะดุ้งตกใจ....และแล้วร่างที่นอนแอ้งแม้งไร้วิญญาณก็กระเด้งขึ้นทันที....แจจุงลุกขึ้นยืนบนเตียงพลางยกกำปั้นตั้งการ์ดในท่าเตรียมชกทั้งๆที่ตายังลืมไม่เต็มดวงดีด้วยซ้ำ...
เซียสะกิดดึงขากางเกงอีกคน... "นั่งลงได้แล้ว มึงแค่เป็นลมไป... "
หญิงสาวที่ตอนนี้เหมือนสติสตังกลับมาแล้วค่อยๆมองไปรอบๆห้อง...ชินดงที่อ้าปากค้าง...ยุนโฮที่นิ้วมือเกือบจิ้มเข้าลูกตา...มิกกี้ที่แทบจะอมกำปั้นตัวเองเข้าปาก...สุดท้าย คิบอมที่สะดุ้งตอนเซียตบเตียงเสียงดังจนหงายหลังไปนั่งจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น...แจจุงค่อยๆหย่อนตัวเองนั่งลงกับเตียงพลางเหลือบตาไปยังเพื่อนรักข้างกาย...
ตอนนี้ทั้งห้องยังตกอยู่ในความเงียบงัน...ไม่มีใครเอ่ยอะไรเพราะอึ้งเกินกว่าจะกลั่นกรองออกมาเป็นคำถามได้..หญิงสาวสองคนสลับกันจ้องตาอยู่สักพักก่อนเป็นเซียเองที่เริ่มเกริ่นนำ...
"คือ...ร่างกายของแจจุงจะมีปฏิกิริยาต่อการนับถึงแปดน่ะ...ตอนเด็กๆพ่อของแจจุงซ้อมมวยให้เองกับมือ ทุกครั้งที่จะน๊อกเอ๊าก็จะใช้วิธีนี้...ร่างกายก็เลยโต้ตอบอัตโนมัติอย่างที่เห็นนั่นแล่ะ...ค่ะ... "ไม่วายไม่ลืมใส่หางเสียงเข้าไปด้วย..แจจุงหันหน้ามองควับ...ตาเรียวที่มองตอบกลับมาเป็นคำตอบทุกอย่างได้ดี...
ความลับแตกแล้วสินะ...
แจจุงกวาดตามองไปรอบๆห้องอย่างตื่นๆ...ทุกสายตาจับจ้องมายังเขากับเซียด้วยหวังจะได้ยินคำอธิบายใดๆเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี่...เขาเหลือบมองยุนโฮที่ตอนนี้ยืนนิ่งจ้องเขาไม่ต่างอะไรกับชินดงและมิกกี้....หญิงสาวหันหน้าไปมองคิบอมที่จ้องตอบด้วยสายตาที่ว่า...ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเล่าความจริงสักที...
คนในห้องกลั้นหายใจพลางเฝ้ารอคำตอบจากปากแดงเล็กอย่างลุ้นระทึก... แจจุงก้มหน้าลงหลับตาผ่อนลมหายใจออกแรงๆ...
"ก่อนอื่น....ขอฉันใส่ผ้าอนามัยก่อนได้ไหม? "
.
.
"เราสองคน..... " แจจุงสูดหายใจเข้าหนึ่งที "เป็นผู้หญิงค่ะ....เป็นนักเรียนมัธยมปลายปีสองโรงเรียนเดียวกันกับพวกรุ่นพี่ทั้งหมดนี่แล่ะค่ะ" แจจุงเอ่ยขึ้นในที่สุดหลังจากหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย...หญิงสาวที่ตอนนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นในชุดเสื้อกล้ามธรรมดาโดยไม่มีผ้าพันตรงหน้าอก มันจึงไม่ได้ดูรัดแน่นจนตรึงแบนเรียบอีกต่อไป...
ก็บอกละไง เขาไม่ได้แบนทุเรศอย่างที่ไอ้ปากหมาชางมินด่าขนาดนั้นสักหน่อย...
คนตัวบางนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพลางชำเลืองมองเพื่อนรักข้างตัวนิดนึงและหันไปมองปฏิกิริยาของยุนโฮที่ยืนกอดอกจ้องมองเขาไม่กระพริบอย่างชั่งใจแล้วพูดต่อ..."เราสองคนแอบปลื้มพี่ยุนโฮกับพี่ยูชอนนานมากแล้ว...พอรู้เรื่องมาว่าพี่สองคน...เอ่อ...ชอบผู้ชาย...พวกเรา...พวกเรา.... "
"พวกเราก็เลยปลอมตัวเข้ามาเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับทั้งสองคนยังไงล่ะคะ "เป็นเซียที่รับหน้าที่พูดต่อ...เขาอยากจะเคลียร์เรื่องนี้ให้จบไปเร็วๆเพราะเขามีเรื่องคาใจที่อยากรู้ใจแทบขาด....เรื่องที่เขากับมิกกี้พูดค้างกันเอาไว้ก่อนที่เข้ามาที่นี่...
"จำสองคนที่ฉันว่ามาหาฉันเพื่อแปลงเพศได้ไหม?.... "คิบอมหันถามสองหนุ่มที่ตอนนี้กำลังตะลึงสุดขีด...ก่อนจะพยักเพยิดไปทางแจจุงกับเซีย "สองสาวนี่แล่ะ..."
"พวกเราขอโทษนะคะ...ขอโทษจริงๆ.. รู้ความจริงแบบนี้แล้วถ้ารุ่นพี่ยุนโฮกับยูชอนจะรังเกียจเราสองคน...พวกเราก็คงทำอะไรไม่ได้....ฉัน.... "ยังไม่ทันจบประโยคเสียงหวานที่เริ่มสั่นเครือก็ถูกดูดหายไปในอ้อมอกของคนตรงหน้า...ร่างเล็กถูกดึงเข้าไปกอดแน่น..ตาโตของแจจุงเบิกกว้าง...
o.O
นี่มันอะไรกัน?!!!
"ยูชอนมึงได้ยินใช่ไหม??? "เสียงทุ้มเข้มเจือความยินดีปรีดาเป็นล้นพ้นอยู่เต็มเปี่ยมของยุนโฮทำเอาแจจุงทำอะไรไม่ถูก..ร่างกายแข็งทื่อเหมือนถูกสต๊าฟเอาไว้...ชายหนุ่มกระชับอ้อมกอดให้แนบแน่นยิ่งขึ้นพลางยิ้มกว้าง...แจจุงที่ตอนนี้ขยับส่วนใดของร่างกายไม่ได้เลยพยายามเบือนหน้าไปทางเซียที่ยืนอยู่ข้างๆเขา..แต่กลายเป็นว่าพื้นที่ตรงนั้นว่างเปล่า...เพื่อนรักเขาไปยืนอยู่ตรงหน้ายูชอนตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย!!??
มิกกี้จ้องเซียที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างพูดอะไรไม่ออก...เขาจ้องมองร่างบางตรงหน้าราวกับเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก...เซียยิ้มให้เขาเต็มแก้ม "แบบนี้ก็ชอบจุนซูได้แล้วใช่ไหมคะ? "
อะไรนะ??? จุนซูมันพูดอะไรของมันเนี่ย???
แจจุงอ้าปากเหวอ...เป็นครั้งแรกที่เขายกมือขึ้นดันอ้อมกอดที่ใฝ่ฝันหามาตลอดออก...คือไม่ได้ละไง...ณ จุดนี้ขอเคลียร์ด่วน!!!
มิกกี้ที่ยังคงมึนตึบตับเหมือนถูกใครสักคนเขวี้ยงอะไรสักอย่างหนักๆใส่หน้าอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่พูดออกมา...เซียเหลืออดที่จะทน...นี่คือกูต้องเลือดไหลต่อหน้าต่อตาแบบไอ้แจจุงใช่ไหม คนตรงหน้าถึงจะเชื่อว่าเขาเนี่ยเป็นผู้หญิงจริงๆ!!
"ถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวถอดให้ดูก็ได้! "
มิกกี้รีบกระชากมือเล็กที่กำลังจะถอดเสื้อออกในทันที... "เห้ย!!! มะ..ไม่ต้องแล้ว!! คนอื่นก็อยู่ในห้องนะ! "
"แล้วต้องทำยังไงให้พี่ยูชอนเชื่อล่ะคะ???... "
"ไม่ต้อง...ไม่ต้องทำอะไรแล้ว....ผมไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อสักหน่อย....แค่...ยังรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่ออยู่ดีเท่านั้นเอง... "มิกกี้เกาท้ายทอยแก้เก้อ...
"นี่มันอะไรกันแน่??? จุนซู??? ตกลงพี่สองคนไม่ได้ชอบผู้ชายหรอ??? "แจจุงที่อดทนรออีคู่ตรงหน้าจบบทสนทานมานานถามเสียงดังพลางสลับมองหน้าทุกคน..
แต่เห็นทีคนที่จะแย่ที่สุดไม่ใช่เขาในที่นี่นะ...
ชินดงยังโอเคไหมนั่น??? ปากอ้าจนน้ำลายย้อยแล้วน่ะ.. = =”
"เราสองคน...ไม่ได้เป็นเกย์หรอก... "
แจจุงหันหน้ากลับมายังคนตรงหน้า..ยุนโฮยิ้มหวานให้ซึ่งทำเอาแจจุงเกือบจะหมดลมหายใจ...ร่างสูงเหลือบมองคิบอมที่ยืนพิงกับขอบเตียง มุมปากถูกยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อรู้ว่ายุนโฮกำลังจะพูดอะไรต่อ...ตาคมของยุนโฮจ้องตอบคิบอมก่อนจะหันกลับมาที่แจจุงอีกครั้ง...
รอกูเคลียร์เรื่องกูก่อนเหอะ... เดี๋ยวมึงจะโดนดี ไอ้หมอเฮงกะบ๊วยจอมเจ้าเล่ห์!!!
"เราสองคนทำไปเพื่อหลอกแม่เท่านั้นเอง... "
"หลอกแม่??? "เป็นเซียที่แทรกถามเสียงสูงพลางหันหน้าเป็นเชิงถามไปทางมิกกี้...
"แม่เราสองคนน่ะ ชอบทำตามใจตัวเอง พวกเราก็ยอมมาตลอด จะมีก็ครั้งนี้แล่ะ เขาสองคนพยายามจะให้เราดูตัวให้ได้ เรื่องนี้ผมไม่มีทางยอมแน่ๆอยู่แล้ว คิดดู ผมยังไม่จบมอปลายเลยนะ ยังอยากใช้ชีวิตอีกตั้งมากมาย พยายามอธิบายเท่าไร...แต่เขาสองคนก็ยังไม่เลิกสักที"
"ใช่แล้วล่ะ... "ยุนโฮเอ่ยเสริมต่อจากมิกกี้... "ถึงแม้จะบอกว่า...เป็นลูกของเพื่อน คุณสมบัติเพอร์เฟคมาก..อย่างน้อยให้เห็นหน้าก่อนก็ยังดีแล้วค่อยๆดูกันไปก่อนก็ได้..แต่พวกเราเหลือทนกับความเผด็จการแล้ว เราสองคนรู้ดีขืนตอบตกลงไปล่ะก็...สุดท้ายก็ต้องตกเป็นเครื่องมือเล่นตามเกมส์แม่อย่างแน่นอน... "
"พวกมันก็เลยโกหกว่าเป็นเกย์มั่วกับคนอื่นไปทั่วนี่ไง เพราะเห็นว่าเป็นวิธีที่เนียนที่สุดแล้ว.."
"หุบปากหมาๆของมึงไปเลยนะคิบอม กูยังไม่ได้เคลียร์กับมึงเลยนะ ตอนพวกกูเล่าให้ฟังทุกอย่างแล้วทำไมมึงไม่บอกว่าแจจุงกับจุนซูเป็นผู้หญิง?!! หา??!!! แถมมายุยงส่งเสริมให้พวกกูลองกับผู้ชายอีก!!"ยุนโฮทำหันขวับทำตาขวางขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ..
คนถูกแช่งด่าทำทียักไหล่อย่างไม่ยี่หระ.. "ก็กะว่าจะบอกอยู่หรอกนะ...แต่กูหมั่นไส้ที่พวกมึงบอกว่าได้ไอเดียนี้มาจากกู...กูก็เลยไม่อยากบอก ปล่อยให้รู้กันเองแบบนี้สนุกกว่าเยอะ "
"ไอ้คิบอม!! พวกกูก็แค่พูดความจริงนี่!! เพราะแม่กูสองคนยอมรับที่มึงเป็นแบบนี้ได้ กูก็เลยคิดว่าถ้าอ้างแบบนี้แม่จะได้เลิกยุ่งกับพวกเราสักที นี่มึงเห็นเรื่องเครียดโลกแตกของพวกกูเป็นเรื่องสนุกไปได้ไง หาาา!!!?? "เป็นมิกกี้ที่อาละวาดบ้าง...เจ้าตัวอยากจะเข้าไปขย้ำคอให้แม่งรู้แล้วรู้รอดแต่ติดที่เซียรั้งเขาไว้...
"อย่ามาทำดราม่า ไอ้ยูชอน...พวกมึงโกหกกูว่าเบื่อผู้หญิง มึงคิดว่าคนที่ Born to Be อย่างกูจะไม่สงสัยรึยังไง? อยากปกปิดแม้กระทั่งกับกูที่คลานต้อยๆมาด้วยกัน ณ จุดหนึ่งกูก็ต้องมีแอบหมั่นไส้เป็นเรื่องปกติบ้างสิวะ"
"ก็บอกแล้วไง เรื่องนี้ไม่มีใครรู้!! พวกกูกลัวความลับแตก มึงก็รู้ดีว่าแม่พวกกูสองคนเป็นยังไง!! รู้ไหมว่าพวกกูต้องเล่นละครตบตามากมายแค่ไหน?? กว่าจะทำให้เขาสองคนเชื่อหมดใจและเลิกรากับพวกกูเสียทีน่ะ!!"เพราะรู้ว่าถ้าไม่ทำเป็นชิ้นเป็นอันให้ดูมีหลักฐาน แม่เขาทั้งสองไม่มีทางเลิกยุ่งกับพวกเขาแน่...จึงจำเป็นต้องสร้างข่าว ทำตัวตีเนียนในทุกสถานการณ์ ขนาดไปคลับกับคิบอมครั้งก่อนก็รู้ว่ามีคนติดตามทำข่าวเขา..เขาก็ต้องทำเนียนมั่วกับผู้ชายแม่งในคลับ ทั้งๆที่แทบจะสำรอกที่ต้องแตะตัวพวกนั้น...จะมีก็แต่กับสองคนนี้...ที่ทุกอย่างทำไปเป็นตามสัญชาติญาณ..ทั้งๆที่ตอนแรกก็แค่เนียนตามแผน แต่กลับเป็นพวกเขาเองที่ไม่เคยที่จะหักห้ามตัวเองไว้ได้ทัน...
ถ้าถามว่าถูกใจไหม..
ยุนโฮกับมิกกี้ตอบได้เลยทันทีว่า พวกเขาต้องตาสองสาวตั้งแต่แรกเห็น...ไม่รู้ว่าจะด้วยอะไร...แต่เพียงแค่สบตาก็ทำเอาหัวใจแทบจะหยุดเต้น..และยิ่งทั้งคู่พยายาม...เอ่อ..ยั่วกันทุกครั้งที่เจอหน้าแบบนี้ เขาสองคนจะไม่หวั่นไหวได้ยังไง...
และนี่แล่ะที่ทำให้เขาสองคนคิดไม่ตกมานานมาก...การหวั่นไหวกับผู้ชายด้วยกันครั้งแรกไม่ใช่เรื่องเล่นๆ...ต่างคนต่างอ้างว่าหลายๆอย่างที่ทำไปก็แค่ละครตบตา แต่ใครจะรู้ดีเท่าใจตัวเองว่า จริงๆแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลย...เขาทั้งคู่ไม่ได้มีความจำเป็นเลยที่จะต้องตัวติดกับแจจุงกับเซียตลอดเวลาถึงขนาดนี้...แต่พวกเขาก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้มาตลอด...ปฏิเสธกับตัวเองทุกครั้งเท่าที่ทำได้...ว่าไม่ได้คิดอะไร..ก็แค่ถูกใจไปงั้น... จะไปชอบ รักจริงๆได้ยังไง ในเมื่อเขาสองคนคิดภาพไม่ออกเลย...ไม่ออกจริงๆนะ...กับผู้ชายเนี่ย... ทุกครั้งที่ถูกสัมผัส ต้องตัวกัน...มันยังไม่เท่าไร...แต่พอเริ่มขั้นลึกๆเข้า..ภาพที่ผุดขึ้นในสมองมันทำเอาร่างกายหยุดชะงักไปเอง...
คือทำต่อไม่ได้...ไม่ได้จริงๆ = =”
แต่ในตอนนี้ความจริงที่ปรากฏขึ้นทำเอาพวกเขาสบายใจขึ้นมาก...เหตุผลทุกอย่างกระจ่างและได้รับการแก้ไข... ที่เขาทั้งสองคนถูกใจแจจุงกับจุนซูนั้น ก็เพราะว่าสองคนนี้เป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย!!!
แจจุงกัดปากพลางหลุบตาอย่างใช้ความคิด เขายังคงพยายามเรียบเรียงเรื่องในหัวทั้งหมด..
คือตกลงแล้ว..ยุนโฮ ยูชอนไม่ได้เป็นเกย์....
ไม่ได้เป็นเกย์จริงๆ...ใช่ป่ะ???
ยุนโฮที่อาศัยจังหวะนี้เคลื่อนตัวเข้าหา...มือใหญ่คว้าเอามือขาวของอีกคนขึ้นมากอบกุม..."ไหนๆทุกอย่างก็กระจ่างแจ้งแล้ว...ผมไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป... "
แจจุงเงยหน้าสบแววตาคู่ที่ทำให้ตัวเองหวั่นไหวมาตลอด...เขาจำได้ว่าเพียงแค่แรกเห็นในนิตยสารประจำสัปดาห์ของโรงเรียน...เขาก็แทบจะล้มพับต่อหน้าแผงหนังสือเสียให้ได้...แม้จะเคยปลื้ม หรือชอบผู้ชายหน้าตาดีเยอะแยะมามากมาย...แต่กับยุนโฮ เขาบอกได้ว่ามันไม่เหมือนกัน...และไม่ว่าจะเป็นโชคชะตาหรืออะไรก็ตามแต่ที่ดลใจให้เขาและจุนซูทำเรื่องบ้าๆนี่เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับสองหนุ่มมาตลอดจนถึงตอนนี้...ยิ่งรวมกับประโยคตรงหน้านี้แล้วล่ะก็...ใครจะหาว่าเขาบ้าก็ช่าง...แต่เขามั่นใจแล้วว่า ผู้ชายคนนี้แล่ะ... ต้องคนนี้ คนนี้เท่านั้นจริงๆ...
"เป็นแฟนกับผมนะครับ "
.
.
.
"ขอโทษนะคะ... "
เสียงหวานของใครคนหนึ่งดังขึ้นที่ประตูห้องซ้อมของชมรมชกมวย...ชายกล้ามหนาที่กำลังชกกระสอบทรายอย่างเอาเป็นเอาตายหันหน้ามาดูผู้มาใหม่ก่อนที่ใบหน้าจะระบายยิ้มน้อยๆโดยลืมไปว่ากระสอบทรายที่ชกครั้งสุดท้ายไปกำลังกระเด้งกลับมาหาตัว...
หญิงสาวยิ้มแหยๆให้หนึ่งทีเมื่อชายผู้โชคร้ายโดนกระสอบทรายฟาดหัวจนหน้าทิ่ม...แต่ไม่วายเจ้าตัวยังลุกขึ้นยืนพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี.... "มาหายุนโฮหรอครับ แจจุง? "
คิม แจจุงที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มมัธยมปลายนักเรียนหญิงของโรงเรียนพยักหน้าให้พลางอมยิ้มสวย...ใบหน้าขาวใสรับกับชุดกะลาสีมีโบเข้ารูปกับกระโปรงจีบสีน้ำเงินเข้มสั้นเลยเข่านิดหน่อยได้เป็นอย่างดี..ถึงแม้ผมจะยังสั้นเกินหญิงอยู่มากแถมดูออกแนวห้าวๆนิดๆก็เถอะ แต่ชุดนักเรียนที่ใส่ก็ดึงความโมเอะออกมาได้มากโขอยู่..ทำเอาคนในละแวกนั้นพลางยิ้มเก้อไปด้วย...
"รุ่นพี่ยุนโฮกับยูชอนอยู่ในห้องล๊อกเกอร์ กำลังเปลี่ยนเสื้ออยู่แล่ะมั้งครับ... "
"ขอบคุณนะคะ "เป็นเซียที่โผล่มาทางข้างหลังแจจุงอีกทีที่เอ่ยขอบคุณพลางยิ้มตาปิด...
คนทั้งชมรมมองตามสองสาวที่พากันเดินผ่านข้ามห้องซ้อมไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างตาหยาดเยิ้มปากละห้อย...
ตั้งแต่ความจริงเปิดเผย...พวกชายแท้และเสือไบทั้งหลายในชมรม หรือแม้กระทั่งพวกที่ชอบผู้ชายด้วยกันเองก็เหอะ ก็ยังต้องเหลียวหลัง...แหมก็นะ..เข้าใจมาตลอดว่าเป็นผู้ชาย ถึงตอนนี้จะเป็นผู้หญิงแล้วแต่สำหรับพวกเกย์ด้วยกันเองก็ยังจะคิดว่าแจจุงกับเซียก็เหมือนผู้ชายที่แต่งหญิงอยู่ดีนั่นแล่ะ....
ตอนนี้แจจุงกับเซียไม่ต้องมาเข้าชมรมแล้ว...มวยเมยอะไรนั่นยุนโฮกับยูชอนสั่งเลิกไปเรียบร้อย...เรื่องอะไรจะให้สองสาวของเขามาโชว์แข้งโชว์ขาอวดผิวสวยให้เป็นอาหารตากันล่ะ!
"เฮ้ย! ยุนโฮ...แจจุงมาหา!! "เสียงดังข้ามห้องกระทบแก้วหูเจ้าของชื่อที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังซ้อมเสร็จ...ใบหน้าคมชื้นเหงื่อนิดๆหันมองบุคคลที่รอตรงหน้าประตูก่อนจะจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจ
ก็บอกแล้วว่าถ้าไม่จำเป็นมากนักไม่ต้องมาหาที่นี่อีก! แน่ะ และไอ้คนเรียกชื่อกูแม่งยังไม่เลิกมองแฟนชาวบ้านเขาอีกน่ะ!
ยุนโฮกับมิกกี้สาวเท้ารัวเร็วไปที่ประตู...ระหว่างทางเดินมิกกี้ก็ไม่วายพ่นด่าพวกสมาชิกในชมรม.. "พวกมึงเลิกจ้องกันเลยนะ!! มีอะไรก็ไปทำไป!!~ "
คือปกติก็มีผู้หญิงเข้ามาเยี่ยมเยียนชมรมอยู่บ้างหรอก แต่แจจุงกับเซียเหมือนกับคนอื่นที่ไหนกัน!! เล่นล่อเป็นเป้าหมายทั้งหนุ่มแท้ หนุ่มเทียม คือเหนื่อยที่จะหึงน่ะ เข้าใจไหม?เห้อ ~
เมื่อถึงเป้าหมาย...ทั้งสองหนุ่มไม่รอให้สองสาวได้เอ่ยทักทายตัวเองหรือแม้กระทั่งเอ่ยลาใครในชมรม...สองแขนแกร่งลากหญิงสาวออกจากชมรมด้วยความเร็วขีปนาวุธทำเอาคนที่เหลืออดเสียดายไม่ได้...
.
.
"ผมไม่ชอบเลยนะ..."จู่ๆยุนโฮก็เอ่ยขึ้นขณะกำลังเดินผ่านระเบียงทางเดินไปที่ทางออกของโรงเรียน...
แจจุงเอียงคอเล็กน้อย...สองมือที่กอบกุมกันไว้แกว่งไปตามจังหวะก้าวเดิน... "ไม่ชอบ..ไม่ชอบอะไรหรอ? "
ยุนโฮเหลือบมองมิกกี้ที่ต่างก็มองมาด้วยสายตาที่รู้กันก่อนจะเอ่ยเสียงหงุดหงิด.."วันหลังถ้าจะไปชมรม ใส่ชุดวอร์มเหมือนเดิมยังจะดีซะกว่า...ไม่ต้องใส่มันแล้วไอ้ชุดนักเรียนหญิงเนี่ย..!!"
"ใช่ โดยเฉพาะจุนซู ถึงจะใส่ชุดวอร์มแต่ก็ห้ามใส่กางเกงขาสั้นเด็ดขาด..เสื้อก็ต้องมีแขนและไม่เว้าจน.....เห้!!.....หยุดขำเลยนะ!!! "
สองสาวที่อดขำไม่ได้กับความขี้หวงของแฟนหนุ่มหัวเราะเสียงใสคิกคักก่อนยิ้มเอาใจเมื่อทั้งคู่เริ่มหน้าบูดบึ้ง...เซียเอียงคอซบไหล่มิกกี้อย่างเอาใจไม่ต่างกับแจจุงที่กระชับมือใหญ่ที่กอบกุมมือของตัวเองก่อนกระโดดหอมแก้มสากหนึ่งที..
แชะ!~
.
.
.
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...
หน้าปกนิตยสารประจำสัปดาห์ของโรงเรียนฉบับใหม่ถูกวางลงกับโต๊ะ...ชายหนุ่มรูปงามภายใต้กรอบแว่นสี่เหลียมสีดำแสนธรรมทว่าทรงเสน่ห์เพราะคนใส่ยกมุมปากยิ้มพลางส่ายหัวก่อนจะหันไปใส่ใจกับรายงานกลุ่มที่เพื่อนสาวสองคนทิ้งให้ตัวเองทำอย่างเคยและบอกว่าจะรีบกลับมาช่วยหลังจากเดทกับแฟนหนุ่มเสร็จ...
"หาเรื่องจริงๆเลยนะ พวกเธอสองคน "
ภาพถ่ายของสองหนุ่มหล่อขวัญใจของโรงเรียนควงหญิงสาวสองคน คู่หนึ่งกำลังหอมแก้มกันไม่อายเทวดาฟ้าดิน อีกคู่ก็ซบไหล่ประหนึ่งทั้งโลกมีกันอยู่สองคนถูกนำขึ้นเป็นหน้าปก...บนหัวนิตยสารพาดหัวข่าวตัวโตว่า...
"เด็กหนุ่มหน้าหวานที่สองหนุ่มฮ๊อตควง แท้จริงแล้วไม่ใช่ผู้ชายแต่เป็นทอม???!!!"
คาดว่าหลังจากนี้ไป ข่าวนี้คงเป็น Talk of the Town ไปอีกนานละนะ~ ^^
THE END
Epilogue~
เสียงกริ่งเลิกเรียนดังเป็นสัญญาณว่าคาบสุดท้ายของการเรียนได้หมดลง...สองสาวที่ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งแทบทุกฉบับของนิตยสารประจำสัปดาห์ของโรงเรียนกำลังนั่งแกว่งเท้ารอแฟนหนุ่มที่เป็นต้นเหตุของความดังเกินเหตุในเวลาอันสั้นที่หน้าห้องเรียนชั้นปีสองของตัวเองอย่างที่เคยรับปากเอาไว้ว่า ถ้าไม่จำเป็นอะไร จะไม่ไปที่ห้องชมรมด้วยชุดนักเรียนหญิงอีก..
แจจุงกับเซียคุยกันท่ามกลางสายตาผู้คนในละแวกนั้นที่มากกว่าปกติเป็นประจำไปแล้วในช่วงเวลานี้... ไม่ใช่เพราะเพิ่งเลิกเรียนอะไรหรอกนะ...ทุกคนก็แค่มายืนรอดูอาหารตากันทั้งนั้นแล่ะ...
และในไม่ช้าสองหนุ่มหล่อก็แหวกว่ายผ่านฝูงผู้คนที่ยืนอออยู่แถวนั้นอย่างไร้ความจำเป็นเข้ามาหาคนทั้งคู่ที่กำลังรอพวกเขาอยู่...
หลังเลิกเรียนวันนี้ยุนโฮกับมิกกี้จะพาแจจุงกับเซียไปเดทกันที่บ้านของยุนโฮ พวกเขาไม่สนหรอกว่าจะเจอแม่หรือเปล่า ก็ในเมื่อไม่มีอะไรให้ปกปิดอีกต่อไป...จะไปกลัวอะไรล่ะ...จะได้แนะนำให้รู้จักไปด้วยเลยว่าสองคนนี้เท่านั้นที่เขาจริงจังอยู่ด้วย!! อีกอย่างเขาค่อนข้างมั่นใจว่าแจจุงกับเซียจะช่วยโน้มน้าวแม่ของพวกเขาได้..ก็ทั้งหน้าตา ฐานะ สองคนนี้ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใครเลยสักนิด...และถ้ายังไม่เลิกรังควานล่ะก็...
เอาไว้ค่อยคิดก็แล้วกัน! = =”
ใช้เวลาไม่นาน รถยุโรปคันหรูสองคนก็จอดเทียบที่ลานหน้าบ้านคฤหาสน์หลังหนึ่ง...นี่เป็นครั้งแรกที่แจจุงกับเซียมาที่นี่ ทั้งคู่จึงตื่นเต้นเล็กน้อย...ทั้งสองคนกำลังจะก้าวเท้าเข้าบ้านอยู่แล้วแต่ก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงของใครสักคนที่คุ้นเคยภายในตัวบ้านถึงแม้จะไม่ได้ยินมานานมากแล้วก็ตาม...
เป็นแจจุงก่อนที่หันตามเสียงที่ว่านั้นทันที..ตามด้วยเซียที่ฉงนและหันตามด้วย...
"มีอะไรรึเปล่าครับ? "ยุนโฮที่เพิ่งปิดประตูรถเสร็จถามแฟนสาวที่กำลังจ้องผ่านตัวบ้านเข้าไปในห้องนั่งเล่นข้างในที่มี...เออะ..พามาบ้านวันแรกก็แจ๊กพอตแตกเลยแฮะ...
นั่นแม่เขากับแม่ไอ้ยูชอน....แล้ว...นั่นใครอีกสองคนวะ??
แจจุงกับเซียไม่ตอบอะไร ทั้งสองก้าวเท้าฉับไวขึ้นบันไดหน้าบ้านผ่านลานกว้างโอโถ่งที่มีแจกันวางอยู่ตรงกลางของตัวบ้าน เดินทะลุเข้าไปด้านในห้องนั่งเล่นที่มีผู้อาวุโสสี่คนนั่งอยู่โดยที่หนึ่งในนั้นไม่ได้เจอหน้าค่าตากันมาแทบจะสองสามเดือนแล้ว...
"แม่!!!??? "
"อ้าว แจจุง!!! "คุณนายคิมที่กำลังเพลิดเพลินกับบทสนทนาวางถ้วยน้ำชาในมือลงเมื่อเห็นลูกสาวที่ไม่เจอกันมานานเนื่องจากต้องไปดูงานกับคุณนายคิมอีกบ้านที่เมืองนอก...
"จุนซู???!! นี่...เรามาทำอะไรกันที่นี่น่ะ? "เป็นคุณนายคิมฝั่งทางเซียเอ่ยถามขึ้นบ้างเมื่อเห็นลูกสาวตัวเองที่เดินตามแจจุงมาติดๆด้วยสีหน้าแปลกใจสุดขีด...
ผู้อาวุโสอีกสองคนที่ยุนโฮกับมิกกี้รู้จักเป็นอย่างดีถึงแม้ช่วงนี้จะไม่ค่อยได้เจอหน้าก็ตามเพราะตัวเองหลบหนีไปอยู่คอนโดซะส่วนใหญ่ก็หันหลังมามองด้วยความสงสัยด้วยเช่นกัน...
"นี่น่ะหรอ ลูกของพวกเธอ?? "คุณนายชองหมุนคอกลับไปถามคุณนายคิมทั้งสองซึ่งได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าหงึกหงิกของคุณนายทูคิมก่อนจะหันกลับมาจ้องแจจุงกับเซียอีกรอบอย่างไม่เชื่อสายตา...
"น่ารักจิ้มลิ้มกว่าในรูปเยอะเลยนะ...ผมสั้นก็ดูเปรี้ยวไปอีกแบบ.. "คุณนายปาร์คเอ่ยชมพลางมองไปที่เซียที่ทำหน้าเหวอ...
"นั่นสิ แจจุงดูสูงกว่าในรูปเยอะอยู่นะ"คุณนายชองคอมเม้นบ้างพลางมองไปที่แจจุงที่ตอนนี้งงหัวหมุนกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างปิดไม่มิด..
"ก็ฉันบอกแล้วว่าสองคนนี้ ถึงจะหน้าตาน่ารัก แต่มันดูยังไง้ยังไงก็เหมือนเด็กผู้ชายกะโปโลซะมากกว่า ถึงได้ตกใจไม่หยอกนะ ที่พวกเธอสองคนสนใจในตัวลูกสาวของพวกฉันสองคนน่ะ "คุณนายคิมผู้เป็นแม่แจจุงยิ้มหัวเราะเล็กน้อยขนาดเอ่ยแซวลูกสาวตัวเอง
"ไม่หรอก ตาฉันมองใครไม่เคยผิด..เชื่อสิ เห็นแบบนี้นะ แต่งหน้า แต่งตัวออกมาต้องสวยแน่ๆ คนนึงก็หุ่นนางแบบ อีกคนก็หุ่นเซ็กซี่เล็กๆเนี่ย "คุณนายชองเอ่ยพลางหัวเราะคิกคัก
"เอ่อ...อะแฮ่มๆ.... " ร่างบางส่งเสียงกระแอมแทรกกลางบทสนทนาของกลุ่มผู้อวุโสตรงหน้าที่ดูท่าจะไม่ใส่ใจความมีตัวตนของเขาสักเท่าไรไม่เบานักแต่ก็ดึงความสนใจกลับมาได้..ก่อนจะหันไปทางคุณแม่ยังสาวพลางย้ำถามอีกรอบ..."แม่...ตกลงนี่แม่มาอยู่นี่ได้ไง??? "
"แม่เพิ่งกลับมาเอง...พอดีแวะเข้าบ้านแล้วไม่เจอเรา เจอแต่ชางมิน เห็นเขาบอกว่าลูกจะกลับค่ำๆ นี่แม่มาเยี่ยมเพื่อนสมัยมัธยมต้นน่ะจ้ะ...และนี่เป็นไงมาไงล่ะเนี่ย?? แล้วนั่น...ทำไมตัดผมซะสั้นอย่างนั้นละลูก? "
"คือ...เอ่อ.... "แจจุงอึกอักเล็กน้อย ไม่รู้จะเริ่มต้นตอบคำถามมากมายเหล่านั้นยังไง...มือไม้ก็พลางชี้ไปที่บุคคลข้างหลังที่เดินตามเข้ามาและยืนงงเต้กไม่แพ้กัน...เซียที่โดนสายตาของผู้เป็นแม่ส่งมาเป็นคำถามก็พลันทำอะไรไม่ถูกนอกจากยังคงยืนอ้าปากหวอต่อไป...
"ขอโทษนะครับ..คือ...นี่มันอะไรกันแน่ ผมงงไปหมดแล้ว "ยุนโฮที่ยืนอยู่ด้านหลังหันมองสลับซ้าย ขวา หน้า หลังแทรกขึ้นมาบ้าง....
คือมีใครเห็นหัวเขากับยูชอนบ้างไหมเนี่ย!!???
"ฉันน่าจะเป็นคนถามพวกนายมากกว่านะ!... " คุณนายชองที่เพิ่งเห็นการมีตัวตนของลูกชายตัวเองเอ่ยประชดประชัน... "เราสองคนกลับบ้านได้แล้วรึไง?! ไม่ไปนอนกกผู้ชายที่ไหนแล้วเรอะ??!! "
"แม่!!! "
"ก็มันจริงนิ!!! แกสองคนกลับมาวันนี้ก็ดีเลย!! ไหนๆก็ไหนๆละ เรื่องที่ฉันเรียกพวกเธอมาเพื่อที่จะบอกก็เรื่องนี้ยังไงล่ะ!!.. "คุณนายชองหันไปทางคุณนายทูคิมก่อนจะตวัดตาอย่างฉุนเฉียวกลับมาที่ลูกชาย... "มันสองคนน่ะนะ ทำเอาใจของพวกฉันแทบแตกสลาย...ริอาจเป็นเกย์ตอนไหนฉันก็ไม่รู้ มิน่าถึงไม่เคยตกลงปลงใจกับผู้หญิงคนไหนเป็นชิ้นเป็นอัน...เดินไปไหนก็มีแต่ข่าวของมันลงแทบทุกนิตยสารวัยรุ่นแทบทุกแผง...หน้าฉันเนี่ยนะอายจนไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน...ฉันก็เลยว่าจะบอกยกเลิกทางเธอเรื่องดูตัวซะ... "
"เดี๋ยวนะครับ!! "มิกกี้แทรกเสียงดังขัดคุณนายชองก่อนจะหันหน้าตื่นๆไปทางแม่ของตัวเอง... "นี่แม่อย่าบอกนะว่า... "
"ก็ใช่น่ะสิ!! คู่ดูตัวของพวกเธอน่ะ ก็สองสาวที่ยืนอยู่นี่ไง!!! แม่น่ะรึอุตส่าห์หาสาวสวยๆดีๆให้ไม่ชอบ รู้ไหมว่าแม่ลำบากแค่ไหน กะว่าพอเพื่อนแม่สองคนนี้กลับมาจะได้ให้เจอกัน...แต่กลายเป็นว่าที่แท้ก็รู้จักกันอยู่แล้วอีกต่างหาก... " คุณนายปาร์คสวนกลับอย่างรู้ทันว่าลูกชายของตัวเองจะถามว่าอะไรทั้งที่ยังพูดไม่จบพลางส่ายหัวถอนหายใจ... "ว่าแต่...นี่หนูสองคนเป็นไงมาไง ไปรู้จักมักจี่ลูกเกย์ของน้าตั้งแต่เมื่อไรกัน?? "
สองสาวยื่นนิ่งกันสักพักสบตากันและกันก่อนจะระเบิดหัวเราะลั่นบ้าน...ต่างจากสองหนุ่มที่ยืนมื่อทื่อเป็นรูปปั้นหินอนุเสาวรีย์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...แจจุงปาดน้ำตาที่ไหลออกจากทางปลายตาก่อนจะพยายามรวบรวมสติตอบคำถามออกไปแทนสองหนุ่ม...
"พวกเราไม่ได้เป็นเพื่อนหรอกค่ะ... "
เซียที่ยืนหัวเราะเอิ๊กอ๊ากโยกหน้าโยกหลังตอบขึ้นบ้าง... "พวกเราเป็นแฟนของลูกชายคุณน้าทั้งสองต่างหากค่ะ! "
"หา!!~!! "
คุณนายชองกับคุณนายปาร์คหันขวับพร้อมกันไปทางลูกชายทั้งสองพลางเอ่ยเสียงเย็นเยียบที่แฝงไปด้วยความกราดเกรี้ยวเล็กๆ... "นี่มันอะไรกัน ชอง ยุนโฮ/ปาร์ค ยูชอน??!!! "
ชายหนุ่มเจ้าของชื่อที่เพิ่งได้สติกลับมาต่างก็ก้มหน้ากุมขมับที่เต้นตุบๆ...
"แม่ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้นนั่นแล่ะครับ "ยุนโฮเอ่ยตอบเสียงเครียด..
"ไอ้นี่!!!! จะไม่ให้ถามได้ยังไง??? บอกมานะ!!! นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!!??.... "
สองหนุ่มหันหน้าสบตากันอย่างรู้กันก่อนที่ทั้งยุนโฮและมิกกี้จะคว้ามือแจจุงกับเซียดึงเข้าหาตัวเต็มแรงและจับจูงออกจากบ้านในทันใด...
"นี่!!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!! ไอ้ลูกบ้า...แกจะพาแจจุงกับจุนซูไปไหนน่ะ!!!???? "
"ไปแต่งงาน!!! แต่งมันวันนี้ เดี๋ยวนี้เลย!!! "
Fin~
Special อีกนิด ~
"ไม่รู้ว่าป่านนี้ทั้งแจจุงกับจุนซูจะเป็นยังไงบ้างนะ... "
"จะเป็นไงได้ล่ะ...เล่นหายหัวไม่มากวนใจเลยแบบนี้น่ะ...ทงเฮก็น่าจะรู้ดีนะ... "คิบอมที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานเมื่อครู่พับเก็บมันลงกับโต๊ะก่อนจะดึงตัวคนน่ารักมานั่งตัก...
"แหม..ก็อยากรู้ความคืบหน้าบ้างนี่น่า.... "
"ไม่เห็นจะต้องไปอยากรู้เรื่องของคนอื่นเลยนี่...เคลียร์เรื่องของเราดีกว่านะ "
ทงเฮเอียงคอทำหน้างงใส่คนที่เพิ่งได้ตำแหน่งคนรักไปหมาดๆไม่นานมานี้... "เรื่องอะไรหรอ? "
"ผมอยากถามมาตั้งนานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ผมไม่อยากก้าวก่ายเรื่องของทงเฮ... "แต่ตอนนี้ไม่ก้าวก่ายไม่ได้แล้วสินะ ก็ไม่ได้เป็นแค่คนอื่นแล้วนี่..."ไอ้ เชว ซีวอนเนี่ย ทงเฮสนิทกับมันมากนักหรอ... เห็นโทรหากัน ส่งข้อความกันบ่อยเหลือเกิน..." คิบอมถามพลางเอาคางเกยบนไหล่มน...
คือคาใจมานานแล้วไง...ก็กะว่าจะไม่ถามหลังจากที่ทงเฮตกลงเป็นแฟนกับเขา เพราะคิดว่าถ้าพอไอ้ ฉ่อย เชว ซีวอนอะไรนั่นรู้ว่าทงเฮมีแฟน ถ้ามันมีสำนึกพอ...เดี๋ยวก็คงเลิกราไปเอง แต่ขนาดตกลงเป็นแฟนกันแล้วก็เหอะ ก็ยังเห็นสองคนนี้ติดต่อกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ...
คนตัวเล็กขำพรืด...ส่งเสียงหัวเราะคิกคักจนคิบอมยิ่งหงุดหงิดหนักกว่าเดิม...
"อะไรกัน...นี่ฉันยังไม่เคยบอกคิบอมอีกหรอ?? "
"ถ้าจะบอกว่ามันเป็นใคร ผมไม่ได้โง่นะ เห็นเป็นหมอแบบนี้ ก็ดูทีวีบ้างเถอะ...ถึงได้รู้ว่ามันเป็นดาราหน้าดังคับจอทีวี...ที่คอยตามจีบส่งเมสเสจ โทรหาแฟนผมแทบทุกสามเวลา "
"นี่ก็เวอร์ไป!! "ร่างบางว่าตีเพี๊ยะเข้าที่แขน...
"อะไรล่ะ!!?? ก็ทงเฮเป็นแฟนผมแล้วนี่น่า...ถึงมันจะหล่อและดังแค่ไหนก็เหอะ...แบบนี้เข้าข่ายนอกใจชัดๆ "
"จะบ้าหรอ??!! ตั้งแต่เรื่องจงจีบแล้วนะ ไปเอามาจากไหนเนี่ย???!! ฉันจะไปคบกับลูกชายของป้าแท้ๆฉันได้ยังไงกันเล่า!!?? "
!!!!
เออะ! อะไรนะ??
นี่แปลว่าเขาถูกหลอกหรือนี่!!!!??????
ไอ้สองสาวตัวแสบ!! คราวหน้าเจอจะแก้แค้นให้เข็ดเลยคอยดู!!!!!!!!!!!!
Real Fin~~
Talk
จบแล้ว!!!!!!!!!!!!!! กรี๊ดเถอะ สี่ปีที่เขียนเรื่องนี้!! (คือจริงๆมันไม่ได้ยาวอะไรเลย ตัวเองดองตอนละปีเองต่างหาก เฮิก) คือตอนสุดท้ายเขียนนานมาก ลบๆเข้าๆออก มันเขียนแล้วก็ไม่ได้ดั่งใจ กลัวออกมาไม่เคลียร์อย่างที่ตัวเองอยากจะสื่อ เขียนเกือบวัน นั่งๆนอนๆเกลือกกลิ้งปั่นมันจนเสร็จ ว่าจะลงให้ตั้งแต่เมื่อคืนดันง่วงจนทนไม่ไหว เหอๆๆ ไม่อยากลงทั้งๆที่ไม่ได้เขียนทวนเลยด้วย เพราะมันเป็นตอนสุดท้ายแล้วน่ะค่ะ
ฟิคเรื่องนี้ไร้แก่นสารโคตรเลยเตอะ...แต่สนุกมากกับการเขียน ฮิ้ววว!!~ เพราะตัวนางเอกต่างก็ แรงส์อ้ะ! *เลียนแบบเสียงมาดามมด* กันสุดๆ
หวังว่าทุกคนจะสนุกกับฟิคเรื่องนี้นะคะ เรื่องยาวต่อไปคงเป็นตอนต่อจาก Shotacon หลังจากที่ยุนโฮโตแล้ว คือคิดไว้ว่าจะแต่ง แต่ยังไม่มีพล๊อตเลยนิ = =”
ไว้ไปเวิ่นในเรื่องโน้นเอา ส่วนเรื่องนี้...นั่นแล่ะเหมือนจะดีใจที่เขียนจบเพราะดองมานานมาก แต่ก็คงคิดถึงที่จะไม่ได้เขียนอะไรทำนองนี้อีกแล้ว แจจุงกับเซียเวอร์ชั่นผู้หญิง คงมีอันๆริอาจเขียนคนเดียวแหงม ก๊ากกก
เรื่องรวมเล่มคงต้องพับเก็บไว้ก่อน เหลืออีกปีที่ต้องเรียนให้จบ แล้วค่อยว่ากันเนอะ... ไว้จะมาส่งเสียงถามเรื่องนี้กันอีกที...ใครที่มีความเห็นในเรื่องนี้ จะสกรีมหน่อยก็ได้นะคะ คนแต่งจะได้รู้ว่ายังอยากที่จะมีคนเอาบ้าง ๕๕๕๕ ให้โอกาสเก็บตังค์เป็นปีเลยนะเออ...จะพยายามเขียนสเปเชี่ยลให้หนาเท่าตัวเรื่องเลยนะคะ ฮา
ขอบคุณทุกคนมากๆนะคะ ขอบคุณจริงๆที่ยังติดตามกันมาตลอด โดยเฉพาะคนที่ยังคอยคอมเม้นและให้กำลังใจ อยากบอกว่าอ่านย้อนทุกคอมเม้นนะคะ ใครที่เพิ่งเม้นทีหลังอย่าคิดว่าคนแต่งจะไม่ได้อ่าน คอยรีเฟรชแล้วอ่านตลอดค่ะ คอมเม้นเป็นส่วนสำคัญที่เป็นแรงบันดาลใจและผลักดันให้นักเขียนต่างก็ฮึดมาลงตอนต่อ เพราะอย่างน้อยก็คิดว่ายังมีคนรอติดตามอยู่เสมอ...ดังนั้นอยากให้รู้ไว้เสมอว่าอันๆซาบซึ้งกับทุกคอมเม้นจริงๆนะเออ *ปาดน้ำตาปรอยๆ*
เจอกันใหม่ในเรื่องหน้านะคะ ^^
ปล. ใครไม่รู้ว่ามาดามมดคือใคร ลองไปเซิร์จหาในยูทูปดูนะ พิมพ์คำว่า ภาษา Plaza น่ะค่ะ เอามาแบ่งปันเสียงหัวเราะ คือมันฮามากจริงๆนะ ฮ่าๆๆๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น