ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 12
Fiction : Born to Be# 12
Pairing : YunhoXJaejoong, YuchunXJunsoo, KibumXDonghae
Author : Deumbeui
Author’s note : "พวกมึงสองคน...ไปชอบผู้ชายด้วยกันตั้งแต่เมื่อไร?"
Warning : ตอนนี้บรรจุความหยาบคายมากกว่า 98% (เป็นปกติของเรื่องนี้ไปแล้วสินะ =_=)
อย่าตกใจไปที่เรื่องนี้ไม่ได้ดองอีกปีแล้วมาต่อ ๕๕๕๕ ก็บอกแล้วว่าจะไม่ดองก็ไม่ดองสิเนาะ ๕๕๕๕ เอาเป็นว่าไปอ่านกันเล้ย!!~
ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นหันสลับไปมาระหว่างหนุ่มหน้าหวานสองคนกับชายหนุ่ม สามคนที่ทำท่าจะกระโจนหนีไปทางพุ่มไม้ด้านหลังให้ได้หลังจากที่ตะโกนแหกปาก ชี้นิ้วสั่นระริกมายังผู้มาใหม่ทั้งสอง...
"นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?!! "ชินดงเอ่ยปากเป็นคนแรกท่ามกลางสถานการณ์อันงงงวย...มืออูมตบหน้าผากดังฉาด ไปหนึ่งทีก่อนจะถอนหายใจเสียงดัง...
โอ้ย!!! กูล่ะเครียดโว้ย!!!
"เอ่อ...คือ...ผมได้ยินเสียงดังตอนกำลังเดินผ่านล๊อบบี้โรงแรมน่ะฮะ... "แจจุงเอ่ย(แสร้ง)ตอบเสียงงุนงงไม่แพ้กัน
"พอดีพวกผมไปหายุนโฮกับยูชอนที่ห้องแล้วไม่อยู่..ก็เลยเดินลงมาหาน่ะฮะ "เซีย(แถ)ต่ออย่างไร้ที่ติ...
"มะ..ไม่จริง!!!! "คนที่ก่อนหน้าล่อนจ้อนตะโกนออกมาจากในพุ่มไม้...ก่อนจะค่อยๆโผล่หน้าขึ้นมา เอ่ยเสียงอู้อี้และสั่นเครือ.... "หน้าแบบคนขาวๆนี่แล่ะครับ!! ใช่เลย!! จู่ๆก็โผล่ขึ้นมาจากไหนไม่รู้ตรงบ่อน้ำพุร้อน!!!"
"จริงครับ!! "อีกสองตัวที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ตะโกนลอดช่องว่างของพุ่มไม้ออกมาบ้าง...
ยุนโฮกับมิกกี้ที่ตอนนี้ก๊งเป็นไก่และหมีตาแตกหันหน้ากลับมาทางแจจุงและเซียอีกครั้ง...
สองสาวตัวเกงรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในเรื่องริเริ่มการสร้างดีเอนเอตอแหลใน คนในอนาคตตีหน้าเหรอหรามองหน้ากันอย่างงุนงงก่อนจะหันกลับไปมองคนอื่นๆที่ ยืนรอคำตอบอีกครั้ง..
"พวกผมอยู่บนห้องตลอดนะฮะ... "
"ใช่ฮะ...ก็ที่ผมบอกยูชอนไง..ว่ารู้สึกไม่ค่อยดีก็เลยขอขึ้นห้องไปพัก... "เซียทอดเสียงไปทางมิกกี้เหมือนพยายามจะให้หนุ่มหล่อระลึกความจำของตน...
มิกกี้สบตากับยุนโฮก่อนจะหันไปมองชายสามคนที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้โผล่เพียง หน้าผากกับตาขึ้นมาและเบือนหน้าไปทางชินดงและผู้คนอื่นๆ..."ก็จริงนะ...สอง คนนี้บอกว่าขอขึ้นไปพักบนห้อง.. "
"แต่ผมเห็นจริงๆนะ!!! เต็มหกตาของพวกผมเลย!!! "ชายคนล่อนจ้อนยังยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นต่อไปทั้งๆที่ตัวเองยังสั่นระริก อยู่ในพุ่มไม้ก็ตาม...
"ข้างในนั้นมันมืดขนาดนั้น...พวกนายอาจจะมองผิดไปก็ได้.. "ชินดงที่ปวดเศียรเวียนเกล้ากับพวกเด็กในชมรมเอ่ยขึ้น มือหนึ่งนวดขมับอีกมือหนึ่งยกมือขึ้นปรามไม่ให้อีกสามคนในพุ่มไม้ได้พูด ต่อ...และไม่วายหันไปพูดจาแงะแดกดันสมาชิกในชมรมด้วยรู้ในนิสัยและสันดาน ดี... " และนี่...ถามหน่อยเหอะ ถึงจะอ้างว่าได้ยินเสียงประหลาดแล้วอยากรู้ว่ามันคืออะไร..ใจลึกๆพวกนายก็ อยากเห็นสาวๆที่ไปแช่น้ำพุร้อนกันใช่ไหมล่ะ?? "
สามคนนั้นไม่พูดอะไร...ได้แต่มองหน้ากันตัวสั่นงกๆแต่ไม่วายหนึ่งในนั้นก็ยังพยายามส่งเสียงเล็ดลอดออกมา...
"แต่ว่าผมมั่นใจจริงๆนะครับ... "
"เอาล่ะๆๆ ช่างมันเถอะนะ...จะไปเค้นความจริงให้มันได้อะไรขึ้นมากันล่ะ ถ้านายคิดว่านายเห็นแจจุงที่นั่นจริง แล้วยังไง? จะบอกว่าแจจุงเป็นผีอย่างนั้นหรอ? "ยุนโฮที่เหนื่อยล้าที่ซ้อมมาทั้งวันแถมมีปัญหาคาใจแก้ไม่ตกแล้วยังมาต้อง เคลียร์ปัญหาไร้สาระนี้อีกเอ่ยขึ้นบ้าง...
"ถ้าคุณไม่เชื่อว่าผมเป็นคน...ผมให้จับตัวก็ได้นะ... "
"ไม่ได้!!!! "
เสียงยุนโฮดังก้องสะท้านไปครึ่งรีสอร์ททำเอาสามตัวในพุ่มไม้หยุดสั่นไปชั่ว ขณะ...มิกกี้ที่ยืนอยู่ข้างๆสะดุ้งจนหงอนไก่แทบหลุด...เจ้าตัวที่ทำคนเขาแตก ตื่นละใบหน้าขาวสวยจากแจจุงที่กำลังจะเดินยื่นมือยื่นไม้ไปให้อีสามคนนั้น จับมองคนอื่นๆก่อนจะเดินเข้าไปคว้ามือนิ่มของแจจุงยกขึ้นสูง...
"นี่ไง! พอใจยัง... "ว่าพลางวางมือลงและคว้าเอวบางเข้าหาตัวเองพลางยักคิ้วถามย้ำอีกสักรอบใส่ ชายหนุ่มสามคนในพุ่มไม้ที่สลับมองหน้ากันอย่างเลิกลั่ก...
"แต่...แต่...แต่ผีบางประเภทก็โดนตัวได้นะครับ! รุ่นพี่ไม่เคยดูหนังเรื่องแม่นาคหรอ??? ที่เป็นผีอยู่กินกับสามีตั้งหลายเดือนนะครับ!! "จู่ๆหนึ่งในพุ่มไม้ก็โพล่งขึ้นมา...
"แหมๆๆ...อยู่ด้วยกันมาก็ตั้งนานเพิ่งจะมาสงสัยว่าคนในชมรมกันเองเป็นผี เนี่ยนะ? "ทั้งหมดหันไปหาผู้มาใหม่ผู้เป็นเจ้าของประโยคยียวนกวนบาทานั่น...
ไม่นานความสงสัยของทุกคนก็ได้ถูกคลี่คลายเมื่อคิบอมเดินเอามือไพล่หลังพลาง ยิ้มหล่อออกมาจากต้นไม้ต้นหนึ่ง..."ถ้าเป็นอย่างที่พวกนายว่า...ตอนที่ฉัน ตรวจร่างกายสองคนนั่น...เสียงหัวใจที่ฉันได้ยินจะเป็นเสียงอะไรดีล่ะ? นาฬิกาปลุกงั้นเหรอ? แม่นาคน่ะไม่มีใครตรวจวัดชีพจรกับอัตราการเต้นของหัวใจแบบที่ฉันทำกับสองคน นี้หรอกนะ"
สามคนนั้นผลัดมองหน้ากันเองโดยไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา...สีหน้าแต่ละคน ต่างแตกตื่นอย่างปิดไม่มิดยามคิดจะหาเหตุผลอะไรมาต่อกรกับหมอหนุ่มคนนี้ ดี...
"ฉันว่าพวกนายสามคนได้เจอของดีกันแล้วจริงๆนั่นแล่ะ... "
"ของดี??...อะไรวะ??? "ยูชอนโพล่งถามขึ้นมาบ้าง...
คิบอมหันหน้าไปทางผู้ที่ทั้งเป็นรุ่นน้องและเพื่อนสนิทที่คลานตามกันมาถึงจะ ไม่ค่อยติดๆก็ตามก่อนจะเอ่ยเรื่องเล่า... "มันเป็นเรื่องเล่าตั้งนานแล้ว...ว่ามีหญิงสาวคอหักตายในบ่อน้ำพุร้อน ตั้งแต่โรงแรมนี้ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ...ได้ยินมาว่า...เคยมีคนเห็นอะไรคล้ายๆ อย่างที่พวกนายสามคนว่ามาแล้วเหมือนกันน่ะ"
"ห๊ะ??!! "ชินดงเบิ่งตาขมวดคิ้ว จมูก ฉีกปากอย่างฉงน... "พวกเรามาเข้าค่ายที่นี่ก็หลายปีแล้วนะ แต่ไม่เห็นจะเคยได้ยินเรื่องอะไรพวกนี้เลย... "
"มาหลายปีไม่ได้แปลว่าต้องมีคนเจอทุกปีนี่น่า...รุ่นน้องพวกนายปีนี้อาจจะ ดวงซวยก็ได้...ของแบบนี้ไม่ได้ว่าจะออกมาเพ่นพ่านให้ใครเขาเห็นง่ายๆหรอก นะ...นอกจาก...เออ...จะโคตรซวยจริงๆล่ะมั้ง "คิบอมตอบกลับเสียงเรื่อยๆพลางหันหน้าไปทางสามคนที่ตัวสั่นงกเงิ่นกว่าเดิม เมื่อฟังประโยคสุดท้ายของหมอหนุ่มเสร็จ...คนหนึ่งทำท่าจะกัดลิ้นตายให้ได้.. คนกลางอ้าปากหายใจหอบจนเกรงว่าจะกินใบไม้ใบหญ้าและแมลงเข้าไปหลายอยู่...คน สุดท้าย...เอ่อ...ล้มลงไปแล้ว...
"แล้วนายไปรู้เรื่องนี้มาจากไหนล่ะ? "ยุนโฮเอ่ยแทรกถามพลางไม่ใส่ใจอากับอาการของสามคนนั่น...
คิบอมยักไหล่... "พอดีเดินคุยกับป้าคนทำความสะอาดในโรงแรมแล้วเขาเล่าให้ฟังน่ะ เขาเตือนมาว่าทางที่ดีอย่าออกไปเดินแถวๆนั้นตอนดึกๆ"
ทั้งกลุ่มเงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาไปชั่วอึดใจ...ชินดงที่สังเกตเห็นอาการรุ่นน้องในชมรม ที่ใกล้จะชักตายคาพุ่มไม้เข้าไปทุกทีเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น... "เอาล่ะนะ...นี่มันก็ดึกมากแล้ว..ถกกันยันเช้าฉันว่าก็ยังไม่มีทางได้ข้อ สรุปอะไรแน่ๆ...แยกย้ายกันไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นมาซ้อมกันแต่เช้า..จะยังไงก็ค่อยว่ากันแล้วกัน....แล้ว นั่น...แต่งตัวให้เรียบร้อยและลากเพื่อนพวกนายเข้าโรงแรมด้วยนะ!! "
ประสาทจะกินจริงๆ...
นี่เขาคิดไปเองหรืออะไรกันแน่ที่ทำให้รู้สึกว่าการเก็บตัวฝึกซ้อมปีนี้แม่งโคตรจะวุ่นวายเนี่ย!!~
กลุ่มคนที่ยืนจับกลุ่มกันอยู่เมื่อครู่เริ่มทยอยกันเข้าโรงแรมไปแล้วโดยมี ชินดงเดินนำตั้งแต่สั่งเสียเสร็จ สองหนุ่มในพุ่มไม้ค่อยๆกระแซะแงะตัวเองออกจากพุ่มไม้พลางหิ้วปีกเพื่อนอีกคน ที่สลบคาที่ไปเรียบร้อย...ทั้งสองไม่วายแอบเหลือบมองแจจุงด้วยสีหน้า ซีดเซียวไร้สีเลือดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรีบจ้ำอ้าวเข้าโรงแรมไปทั้งๆที่ เนื้อตัวมีกิ่งไม้ ใบไม้ติดตัวเต็มไปหมด...เซียแอบเห็นด้วยว่าคนหนึ่งมีตุ๊กแกตัวเบอเร่อเกาะ อยู่ที่หลัง...แต่ก็นะ...ในตอนนี้คงไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่า "ผี" ที่ทั้งสาม(เข้าใจผิดไปแล้วว่า)เจออีกแล้วล่ะมั้ง...
นี่คงเป็นบุญเก่าที่เขาสองคนได้ไปทำบุญสิบวัดกันมาตอนเด็กๆอย่างแน่นอน คิบอมถึงได้โผล่ออกมาช่วยอย่างเฉียดฉิวแบบนี้...สงสัยต้องชักชวนให้คิบอม เข้าร่วมขบวนการเต็มตัวซะหน่อยละ! แหลเก่งโดยไม่ต้องพึ่งพาการเข้าคอร์สชมรมการแสดงแบบนี้...คิมแจคิมเซียชอบ นักล่ะ!!
ตอนนี้ก็เหลือกันอยู่แค่ห้าคน...สองหนุ่มยุนโฮกับมิกกี้เงียบผิดปกติจนแจจุ งกับเซียชักใจคอไม่ดี...สองหนุ่มหล่อเอาแต่จ้องหน้ากันอย่างเงียบๆทำเอาสอง สาวไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอะไรยังไงส่งสายตาไปทางคิบอมอย่างขอความช่วยเหลือ...
คิบอมกรอกตาขึ้นมองท้องฟ้าพลางถอนหายใจเบาๆ...เหมือนจะสื่อง่ายๆให้ทั้งสอง สาวเข้าใจว่า "กูอีกแล้วสินะ" หลังจากกุเรื่องผีบ้าๆขึ้นมาในนาทีสุดท้าย นี่เขายังต้องมาเป็นตัวช่วยสานต่อให้แม่สองสาวนี่อีก~!
หมอหนุ่มเหลือบมองชายหนุ่มสองคนที่ยังยืนเงียบจ้องหน้ากันอยู่และหันไปมอง สองสาวอีกรอบก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปแทรกระหว่างกลางมิกกี้กับยุนโฮ...
เอาวะ ค่อยคิดต้นคิดดอกเรื่องทงเฮทีเดียวละกัน!~
"นี่คุณมึงทั้งสอง...จะจ้องกันอีกนานไหมครับ? "
ยุนโฮทำเพียงปรายตาหันมามองผู้ที่เป็นรุ่นพี่และเพื่อนสนิทเพียงแว๊บเดียว ก่อนจะหันกลับไปมองมิกกี้อีกรอบ..ชายหนุ่มหลุบตาลงหายใจเข้าครั้งนึง..หันไป ทางสองสาวและพูดออกมาเสียงเนือยๆ... "เดี๋ยวพวกผมจะขึ้นห้องแล้ว...แจจุงกับจุนซูจะไปด้วยกันไหมครับ? "
"เอ่อ...ก็ได้ฮะ...มันก็ดึกมากแล้วด้วย...ไว้พรุ่งนี้เรามาเดินเล่นในสวนกัน นะฮะ "สองสาวลอบสบตากันเพียงนิดก่อนที่ปากแดงจะเอ่ยตอบพลางวาดร้อยยิ้มหวาน...แจ จุงขยับตัวเข้าหาชายหนุ่มและออกเดินไปด้วยกัน...
เซียเดินตามหลังแจจุงไปติดๆไปทางมิกกี้ก่อนจะหันไปทางคิบอมขมุบขมิบปาก ขอบคุณอย่างลับๆ...หญิงสาวแสร้งทำเป็นเอ่ยลาเสียงใสต่อจากนั้นเพื่อความ เนียน... "ราตรีสวัสดิ๊นะฮะ คุณหมอ.. "
"เจอกันพรุ่งนี้ "ตาคมของมิกกี้ลอบมองคิบอมเพียงแว๊บหนึ่งก่อนจะเอ่ยลาบ้างและออกเดินเข้าโรงแรมไป....
คิบอมจ้องมองแผ่นหลังของทั้งสี่ที่กำลังเดินจากไปก่อนจะเตะๆเขี่ยๆดินแถวๆนั้น...
"คิดว่าสงสัยกันเป็นคนเดียวหรือไง...พวกนายก็มีอะไรปกปิดฉันเหมือนกันนั่นแล่ะ ยุนโฮ ยูชอน"
เช้าวันต่อมาเรื่องผีก็แพร่งพรายกันไปในวงกว้าง...แต่ก็ไม่มีใครได้มีเวลาถก เถียงอะไรมากนักเพราะต้องซ้อมหนักกันทั้งวัน...แจจุงกับเซียแอบเห็นว่าสาม หนุ่มผู้โชคร้ายหน้าตาอิดโรยไม่น้อย..คงเพราะอดหลับอดนอนอย่างแน่นอน...ใช่ ว่าเขาสองคนจะไม่รู้สึกผิด...ทั้งสองจึงตัดสินใจว่าไม่มีทางที่จะไปแช่น้ำพุ ร้อนอีกเด็ดขาดไม่ว่าจะอยากมากแค่ไหนก็ตาม...เพราะขืนเสี่ยงเกิดเรื่องอีก รอบ...เรื่องคงไม่จบลงง่ายๆแน่...
ช่วงสายของวันมีรุ่นพี่ที่จบไปแล้วและได้มีโอกาสเข้าแข่งขันถึงรอบลึกๆมา เอ่ยเล่าประสบการณ์และแนะนำเทคนิคต่างๆที่สามารถใช้ได้ในการแข่งขัน แน่นอน...งานนี้ฮันกยองผู้ชนะระดับเขตมาแล้วก็มาด้วยทั้งๆที่ตัวยังเคล็ดไม่ หายดี...อีกทั้งยังมาแสดงความยินดีพลางชมเปราะกับแจจุงถึงระดับความสามารถ ที่ชกเขาซะหมอบเสียได้...คยูฮยอนที่ยังใส่เฝือกที่แขนก็มาแสดงความยินดีกับ แจจุงพร้อมทั้งให้กำลังใจด้วยเช่นกัน...
ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรติดขัด...จะมีก็เพียงแต่...สองหนุ่มทำตัวห่างเหินกับแจจุงและเซียอ ย่างผิดปกติ...ถึงจะยังมีคุย ถึงเนื้อถึงตัวกันบ้างเหมือนเดิม...แต่สองสาวก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรที่แปลก ไป...อีกทั้งจู่ๆสองหนุ่มก็ชอบหายกันไปไหนไม่รู้ในระหว่างที่ซ้อมบ้าง เวลาอาหารบ้าง...มีครั้งนึงที่แจจุงเดินตามหายุนโฮแล้วไปเจอตอนที่ยุนโฮกับ มิกกี้หลบคุยอะไรกันสักอย่างด้วยสีหน้าเคร่งเครียด...
"หรือว่าพวกเขาจะรู้ความจริงแล้ววะ? "
"เห้ย! บ้าน่ะ! จะรู้ได้ไง!? ก็คิบอมก็ออกโรงช่วยปกปิดความลับซะขนาดนี้แล้วน่ะ "แจจุงเอ่ยตอบเซียหลังจากที่เล่าเรื่องที่เขาได้ไปเจอมาขณะกำลังเก็บ เสื้อผ้าลงกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวกลับโซลในเช้าวันรุ่งขึ้น..
เซียขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางยักไหล่มนขณะพอกหน้ากระดิกตีนดูเพื่อนจัดของลง กระเป๋า.. "ก็อาจจะยังไม่รู้...แต่ฉันว่าเขาอาจจะแอบสงสัยติดใจอะไรรึเปล่า?... "
แจจุงหยุดจัดกระเป๋าพลางหันหน้าไปมองเพื่อนที่เอาครีบโปะครีมลงบนใบหน้ากลมซาลาเปาที่ถูกคาดเอาผมขึ้นจนหมด...
Perfect Circle จริงๆ...
เห้ยไม่ใช่ละ...จะมานอกเรื่องอะไรตอนนี้ละวะ แจจุง = =”
"แล้วจะทำยังไงกันดีล่ะ? "
เซียหยุดโบกครีมบนใบหน้าพลางหันมาสบตากลมโตของเพื่อนรัก... "ดูต่อไปก่อนก็แล้วกัน...กลับไปโซลแล้วค่อยคิด"
เหอๆ ๆ ๆ
มึงดูเครียดมากเลยนะ คิม จุนซู =_=
งานนี้ดูท่าไม่เดือดร้อน คิม คิบอม ก็ ชิม ชางมิน อีหรอบเดิมแน่นอน... = ="
.
.
.
ชายหนุ่มเลื่อนแผ่นเอ็กซเรย์ลงกับโต๊ะ ตาเรียวคมเหลือบมองสองสาวอย่างอดทนอดกลั้น...ไม่ต่างกับเด็กหนุ่มร่างสูง โย่งเด่นเป็นสง่ายืนถอนหายใจหล่ออยู่ข้างหลังเพื่อนสาวอย่างเซ็งไม่แพ้ กัน...
กลับมาโซลไม่ทันไรก็ลากเขาออกมาลำบาก...
เสียเวลาอ่านนิตยสารเลขรายสัปดาห์จริงว้อย!!~~
"หมอ ช่วยทีเถอะนะ...พักหลังมานี่ยุนโฮกับยูชอนแปลกไปจริงๆนะ... "แจจุงยังคงอ้อนว้อนคิบอมที่นั่งทำงานเคร่งเครียดกับแผ่นเอกซ์เรย์ทั้งหลาย เป็นรอบที่สี่สิบล้านเศษแล้วก็ว่าได้... "ฉันว่าพวกเขาต้องสงสัยเรื่องของเรากับหมอแน่ๆ...หมอช่วยไปเคลียร์หน่อยสิ ..โกหกอะไรก็ได้อะ ให้ยุนโฮกับยูชอนเชื่อที... "
ตั้งแต่กลับโซลมาไม่นาน...แจจุงกับเซียก็ว่าจะดูสถานการณ์กันไปก่อน...แต่ นี่ไม่ไหวล่ะสองสามวันที่ผ่านมานี้ มันชักจะหนักข้อกว่าตอนที่อยู่ค่ายฝึกตัวเสียอีก...
หลบหน้าพวกเขาไม่พอ เวลาคุยกันยังหลีกเลี่ยงการสบตาตรงๆอย่างเห็นได้ชัด...แบบนี้เขาสองคนชักทน ไม่ไหวแล้ว....อะไรๆที่เคยได้แบบแต่ก่อน...ตอนนี้พลันแทบจะเหลือแค่ทักทาย จับนิดจับหน่อยตอนเจอหน้ากันในชมรม หลังจากนั้นก็หายหน้าหายตาไปซ้อมกันเองเฉ้ย...พอถามหาก็เอาแต่อ้างว่าใกล้ แข่งแล้วเลยต้องซ้อมหนักกว่าปกติ...
พิรุธ พิรุธเห็นๆ!!!
"นี่..ฉันเพิ่งจะเอาความเป็นเพื่อนของฉันกับพวกมันเข้าแลกตอนเข้าช่วยพวกเธอ ไปครั้งที่แล้ว...นี่ยังไม่ทันไรจะให้ฉันไปทำอะไรอีกล่ะห๊ะ!~ ไม่คิดว่าพวกมันจะสงสัยบ้างรึไง??! "คิบอมถอนหายใจเป็นรอบที่ล้าน...หลังจากพยายามปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ สองสาวหน้าใสที่ทำท่าทำทางเป็นลูกแมวอ้อนเจ้าของก็ไม่ปานเป็นร้อยๆ ครั้ง...มือหนาคว่ำกองแผ่นเอ็กซเรย์ลงกับโต๊ะก่อนจะหมุนเก้าอี้หนีไปอีก ด้าน..
"ก็เพราะว่าตอนนี้พวกเขาสงสัยเรื่องระหว่างเรากับหมอยังไงล่ะ...ถ้าปล่อยไว้ แบบนี้ต้องยิ่งแย่แน่ๆ... "เสียงแหลมสูงของเซียอธิบายแทรกขึ้นบ้าง...
"นี่ฉันกลับได้ยัง? "
"ไม่ได้!!! "สองสาวพร้อมใจกันหันไปตวาดใส่ชางมินที่ยืนทำหน้าเมื่อยมาร่วมครึ่งชั่วโมงในขณะที่พยายามขอความช่วยเหลือจากคิบอม...
"ฉันไม่เข้าใจว่าพวกเธอจะลากฉันมาด้วยทำไมเลยจริงๆนะ..."เสียงหล่อเอ่ยอย่างหงุดหงิดพลางเสยผมที่เข้าทรงอยู่แล้วอย่างเป็นธรรมชาติ...
คือกูไม่เกี่ยวไง ได้ข่าวววววว!!!
"ก็เผื่อคิดอะไรออกจะได้ช่วยๆกันทีเดียวไปเลยไง...นายก็เลิกถอนหายใจ ทำหน้าเหมือนเป็ดปากหักแบบนั้นสักที...แล้วก็ช่วยพวกฉันคิดได้แล้ว!! "โลมาน้อยแว๊ดต่ออย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหันไปสมทบออดอ้อนคิบอมร่วมกับแจจุงอีก ครั้ง
ชางมินอ้าปากพลางส่งเสียงห๊ะในลำคอ...นี่แม่งจะขอความช่วยเหลือคนหรือบังคับขู่เข็นกันแน่วะ??!!
คืองงไง...งงอะ เข้าใจไหม? จะมาขอความช่วยเหลือหมอคิบอมอะไรนี่แล้วมันเกี่ยวอะไรที่เขาต้องสละเวลาของ การเอนจอยอ่านนิตยสารเลข ตีโจทย์ฟิสิกส์ และอ่านตารางธาตุเคมีของเขาด้วยล่ะ!!!??
คนอ่านเข้าใจคนหล่อเซ็งไหมอะ เหนื่อยเหลือเกินกับการต้องมาเป็นเพื่อนสนิทนางเอกของเรื่องเนี่ย!!
ไม่ทราบว่าลากกูมายืนเสียเวลาหล่อตรงนี้ทำซากปรักหักพังอะไร!!?
"นะ หมอช่วยหน่อยเหอะ...ช่วยพวกเราอีกสักครั้งเถอะ...นะๆๆ ขอร้องล่ะ "แจจุงยกมือขึ้นประกบกันอย่างอ้อนวอน...ไม่ต่างกับเซียที่พยายามนวดแข้งนวด ขาเอาใจคุณหมอสุดหล่อด้วยเช่นกัน....
คิบอมมองหน้าแจจุงกับเซียที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ้อนจนแทบจะไปตระกองกอดกับ ขาเขาได้อยู่แล้วนั่น...คิ้วเรียวขมวดอย่างรำคาญใจ...แต่แล้วจู่ๆความคิดบาง อย่างก็บรรเจิดในสมองอันชาญฉลาด...เรียวปากยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์...
"ก็ได้...เดี๋ยวฉันจัดการให้ "
.
.
ใกล้ถึงเวลาแข่งเข้าไปทุกที...เหลืออีกเพียงแค่สองวันก็จะถึงวันแข่งวันแรก แล้ว...ตารางเวลาและสถานที่แข่งขันถูกปักลงกับบอร์ดประชาสัมพันธ์ของชมรม... ชินดงประธานชมรมร่างใหญ่ที่ทั้งเขี้ยวเข็ญและให้กำลังใจสมาชิกในชมรมคอยเดิน ดูและตรวจตราแนะนำเทคนิคต่างๆให้กับสมาชิกในชมรมอย่างไม่ได้หยุดไม่ได้ หย่อน...ตอนนี้เขากำลังเอ่ยนัดแนะเรื่องการแข่งที่กำลังจะมาถึงกับทุกคนใน ชมรม...
"เอาล่ะ...ก็เอาเป็นว่าเราจะออกเดินทางกันประมาณเจ็ดโมงจากโรงเรียนนะ...ไป ถึงที่แข่งจะได้พอมีเวลาวอร์มอัพร่างกายสำหรับคนที่มีแข่งช่วงเช้า...ใครที่ มีแข่งตอนบ่ายจะไปสนามแข่งกับรถของโรงเรียนแต่เช้าหรือจะไปด้วยตัวเอง ก็ได้..แต่ขอให้อย่าสายนะ ไปถึงก่อนเวลาแข่งสักหนึ่งชั่วโมง เข้าใจทั่วกันนะ? "เสียงทุ้มของเจ้าตัวเอ่ยย้ำกับสมาชิกชมรมเป็นการตบท้ายในที่ประชุม...เมื่อ เห็นว่าทุกคนรับรู้เข้าใจเรื่องการแข่งกันถ้วนหน้าแล้วก็เอ่ยอวยพรย้ำอีกสัก รอบ... "พรุ่งนี้จะวันซ้อมวันสุดท้าย...ฉันขอให้ทุกคนเต็มที่นะ...และใครที่มีไม่ ได้มาในวันนี้ก็ฝากบอกต่อรายละเอียดเรื่องวันแข่งด้วยละกัน...ใบประกาศจะถูก ติดอยู่ทีน่ี่นะ..ใครมีคำถามอะไรก็ถามได้ทุกเมื่อ...ขอให้ทุกคนโชคดี แยกย้ายกันได้... "
หลังจากที่ชินดงประกาศบอกให้แยกย้ายตัว...แจจุงกับเซียก็สอดสายตามองหาชาย หนุ่มรูปงามทั้งสองทันที...อย่างน้อยถึงจะหลบหน้ากันในช่วงเวลาซ้อมไป บ้าง...แต่ทุกครั้งก่อนจะกลับบ้านสองหนุ่มหล่อจะเข้ามาบอกลาเขาสองคน...
แต่ในวันนี้...กลับไม่เห็นแม้แต่เงา...
จะว่าไปก็ไม่เห็นตั้งแต่ที่ชินดงประกาศเมื้อกี๊แล้วสินะ....
ไม่สิ...วันนี้ยังไม่เห็นเลยต่างหาก!!!
เห้อ!!~~~ นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!!!!!!!!~~~~~
คิมแจคิมเซียอยากจิบร้า!!~~
.
.
"พวกเธอ....โอเคนะ? "
ชางมินที่เพิ่งเหยียบเท้าเข้าบ้านแจจุงถามขึ้นด้วยความห่วงใยสวัสดิภาพทั้ง สองหลังจากเห็นสภาพศพเกลื่อนกลาดแอ้งแม้งบนพื้นห้องรับแขก...
คนปะวะเนี่ย??
พวกนี้นี่...ทำยังกะผู้ชายเป็นอากาศ เป็นน้ำที่ขาดแล้วแม่งจะตายห่าเอา... = =”
คือถ้าแม่งช่วยเครียดกับรายงานที่วันนี้ต้องทำบ้าง กูจะไม่ว่าเลยเห๊อะะะะะ!!
"เห้!!... "ชางมินตะโกนอีกรอบ...แต่ไร้ซึ่งสัญญาณซากซพซอมบี้ที่ขยับตัว...หนุ่มหล่อ ชักจะทนไม่ไหวตะหงิดๆ...นิ้วตีนจึงถูกยื่นไปสะกิดหนึ่งในเพื่อนรักที่นอนตาย อนาถ...
"เห้ย!!!!!!! นั่นมันนมกู!!!!! "แจจุงโวยเสียงดังลั่น..
"อ้าวหรอ?...โทษทีแยกไม่ออกน่ะว่าไหนหน้าไหนหลัง...เล่นแบนเป็นกระดานเซิร์ฟบอร์ดแบบนั้นนี่นะ.. "
"มันจะมากไปแล้วนะ ไอ้เป็ดดำ!!! นี่มันเพราะฉันพันผ้าหรอก!! "
ชางมินยักไหล่อย่างไม่หยี่หระพลางทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น...วางกระเป๋าและ เอกสารที่จะเอามาทำรายงานบนโต๊ะตัวเตี้ยกลางห้องรับแขก...หน้าคมหล่อเหลาดุจ เทพบุตรอวตารลงมาเกิดผินหันไปมองซากพยูนเอ้ยโลมาเกยตื้นที่ยังคงไม่ยอม ขยับ...มือเรียวสีน้ำผี้งสวยยื่นไปจับตรงส่วนที่คิดว่าเป็นแก้มก่อนยืดเต็ม แรง...
"ไอ้เหี้ยจมูกกู!!!! "เสียงแหลมสูงกรีดร้องดังลั่นพลางหวังจะโบกครีบลงที่มือของอีกคนเต็มแรงแต่อีกคนดันไวหลบได้เสียก่อน...
"อ๊ะ หรอ...โทษที นึกว่าแก้ม...ก็บวมเหมือนกันทั้งหน้าแบบนั้น ใครจะไปรู้ล่ะ... "
"ไอ้เหี้ย ถ้าไม่คิดว่าจะช่วยกันอะนะ ก็เลิกปากหมาแบบนี้ได้ละ ชั่วเอ้ย! "เซียโวยพลางตะปบครีบลงบนจมูกที่ถูกบิดเต็มแรงก่อนลุกขึ้นนั่งแช่งด่าเพื่อน ชายที่ทำท่าไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยสักนิด...
"แล้วนี่กูมานั่งทำรายงานให้พวกมึงทั้งๆที่เป็นงานกลุ่มนี่แม่งยังช่วยไม่พอใช่มะ? "
"อย่าพูดเหมือนนั่นเป็นเรื่องแปลกใหม่หน่อยเลยน่า... "แจจุงพูดอย่างไม่อายปากทำเอาชางมินได้ส่ายหัวไปมาอย่างเอือมๆ...
คืออย่าหวังความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจากผู้หญิงสองคนนี้เลยจะดีกว่าจริงๆ..
"ไม่ต้องมองอย่างว่าพวกฉันไร้สามัญสำนึกเลยนะ...ทุกครั้งที่พวกฉันช่วยทีไร นายก็ไล่ออกมาทุกที..."เสียงใสว่าต่อเมื่อเห็นสีหน้าระอาของชางมิน
ไม่ใช่ความผิดคนอื่นสักหน่อย...อยากเกิดมาอัจฉริยะกว่าชาวบ้านเขาทำไมกันล่ะ!~
"พวกเธอจะคิดมากไปให้มันได้อะไรกันล่ะ..เสียเวลาเปล่าๆ..."แว่นสี่เหลี่ยม ผืนผ้ากรอบสีดำด้านถูกสวมเข้ากับใบหน้าหล่อเหลา...ตาคมไล่มองอ่านเอกสาร เพื่อจะทำรายงาน... "แล้วเรื่องแข่งมะรืนนี้ว่าไง "
"กูจะแพ้มันตั้งแต่ยกแรกนี่แล่ะ! เรื่องอะไรจะเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมกัน...!!~"
ชางมินละสายตาเหล่มองเพื่อนสาวอย่างหมั่นไส้... "มีนมให้เป็นมะเร็งก่อนค่อยกังวลดีกว่าไหม? "
หญิงสาวกระโจนตัวเข้าล๊อกคอเพื่อนชายก่อนจะรัดเต็มเหนี่ยว... เหลือจะทนแล้วกับคำสบประมาทเรื่องนมๆเนี่ย!!!
"ตายซะเหอะ!!!! ย๊ากกกกกก!!!!!!"
"เห้อ~~~ หวังว่าคิบอมจะช่วยให้ได้เรื่องอะไรขึ้นมาบ้างนะ~~"เซียที่นอนคว่ำเท้าคาง เอามืออูมเด็ดดมใบไม้ในแจกันเล่นโดยมีถ่ายทอดสดมวยปล้ำระหว่างแจจุงกับชา งมินเป็นฉากหลัง...
.
.
"เอาล่ะ...กูขอถามมึงตรงๆเลยนะ ไอ้ยุน "มิกกี้วางแก้วน้ำสีอำพันลงกับโต๊ะกระจกตัวเล็กในห้องรับแขกของคอนโดหรูขนาด เท่าแปดสนามฟุตบอลพลางทิ้งตัวลงกับโซฟาและถอนหายใจเฮือกใหญ่...สิ่งที่เขาจะ ถามออกไปนั้นจะเป็นอะไรไปได้นอกจากปัญหาที่ทำเอาเขาสองคนคิดไม่ตกมาหลายวัน นั่นแล่ะ...ถ้าไม่เคลียร์ๆให้จบๆไป มีหวังได้เครียดตายกันไปข้างแน่ๆ...ตาเรียวคมเหลือบมองเพื่อนตัวสูงที่ถือ แก้วสีน้ำอำพันจากขวดเดียวกันยืนอยู่ตรงกระจกบานใหญ่พลางเอ่ยถาม... "ขั้นไหนแล้ว?"
"ก็...วนอยู่ A กับ B เกือบจะเลยไป C หลายรอบแล้วเหมือนกัน แต่ถูกขัดจังหวะก่อนตลอด...และก็..มีครั้งนึงที่กูห้ามตัวเองไว้ทัน.."ชาย หนุ่มดื่มเข้าไปอึกหนึ่งก่อนจะหันมามองเพื่อนรักบ้าง "แล้วมึงอ่ะ... "
มิกกี้หลุบตาคอตกก่อนจะถอนหายใจอีกสักรอบ... "พอกัน...นี่เอาจริงนะ...สารภาพตรงๆเลย ถ้าพวกเราเลยไปถึงขั้นนั้นกันขึ้นมาจริงๆ....มันคง.... "
"เห้อ! นั่นสิ...กูว่าพวกเรามากันไกลไปแล้วป่ะวะ? แม้แต่กับผู้หญิง...กูไม่เคยคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้มาก่อนเลยเหอะ "ร่างสูงเดินละจากกระจกมานั่งลงข้างเพื่อนรักบ้าง...มือใหญ่วางแก้วลงกับ โต๊ะก่อนประสานกันวางไว้อยู่บนตัก... "อีกอย่าง...เรื่องของสองคนนั้น...ก็มีอะไรที่กูไม่เข้าใจเต็มไปหมด...โดยเฉ พาะกับคิบอมนั่น..."
"พูดถึงคิบอม...จะว่าไปแล้ว....มึงคิดว่า.... "เสียงทุ้มเปียโนของมิกกี้ก้องกังวาลเว้นจังหวะนิดนึงก่อนเอ่ยต่อ... "คิบอมรู้ความจริงเรื่องของเราสองคนรึยังวะ? "
เงียบกันไปหนึ่งอึดใจ...ยุนโฮสบตากับมิกกี้ก่อนจะเอ่ยตอบแบบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก... "ไม่หรอกมั้ง...มันจะไปรู้ได้ไง...ก็ในเมื่อ.... "
ติ๊งหน่อง~~
ทั้งสองมองหน้ากันอย่างแปลกใจ...
"แม่มึงหรือแม่กูละวะคราวนี้? "
"กูว่าทั้งคู่แหงม...มาอะไรกันตอนนี้เนี่ย... "มิกกี้ส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายใจ...จะว่าไปนี่เขาทั้งคู่ก็เรียกได้ว่า ทะเลาะกับแม่นานที่สุดแล้วก็ว่าได้...ร่างสูงเจ้าของห้องคอนโดหรูหราอัญเชิญ ตัวเองออกจากโซฟาไปยังประตูอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิด...
"มีอะไรดึกดื่นกับพวกผมหรอครับ คุณมะ...อ้าวเห้ย!!! คิบอม!!! "เสียงเอื่อยเอ่ยต้อนรับทั้งที่ยังเปิดประตูไปกว้างดีก่อนจะได้รู้ว่าทักผิด คนเสียแล้ว....
"เออ กูเอง...ไม่ใช่แม่พวกมึง "
"มาทำไม? "
"ให้กูเข้าห้องก่อนจะตายไหม คุณปาร์ค "ร่างสูงด้านนอกประตูอัญเชิญตัวเองผ่านเข้าประตูห้องโดยไม่รอคำตอบรับใดๆจาก เจ้าของ...ขายาวเดินนำไปยังโซฟาขนาดควายสามตัวนั่งกระดิกขาได้อย่างสบายก่อน จะนั่งลงแบบไม่เกรงอกเกรงใจ...
"มีอะไรถึงถ่อมาถึงนี่ได้?? "ยุนโฮว่าพลางมองรุ่นพี่และเพื่อนสนิทที่นั่งไขว่ห้างพลางคว้าแก้วเหล้าเขาไปดื่มหน้าตาเฉย...
"มีคำถาม... "
"เหอะ...เป็นพวกกูมากกว่ามั้งที่จะมีคำถามกับมึงน่ะ พ่อหมอเสน่ห์แรง "มือยาวของหมีขาวคว้าแก้วเหล้าออกจากปากคิบอมก่อนจะกรอกเข้าปากตัวเองที เดียวหมดรวด...
คิบอมส่งเสียง หึ ในลำคอ...เรียวปากยกยิ้่มอย่างมีเลศนัย... "นี่พวกนายหึงผู้ชายด้วยกันจริงๆหรอวะ?"
มิกกี้ที่เดินกลับมาสมทบแอบลอบมองกับยุนโฮเพียงแว๊บหนึ่งก่อนเอ่ยถาม.. "หมายความว่าไง? "
คิบอมมองหน้าสองคนอย่างครุ่นคิดนิดนึง...คว้าแก้วเปล่าของยุนโฮมาและเทเหล้า รินเหล้าใส่ไปประมานครึ่งหนึ่งก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาอย่างสบายใจ...เสียง ทุ้มต่ำเอ่ยถามทำเอาทั้งมิกกี้และยุนโฮแทบจะสะดุดลมธาตุอากาศ...
"ก็หมายความว่า กูอยากรู้...ว่าพวกมึงสองคน...ไปชอบผู้ชายด้วยกันตั้งแต่เมื่อไร? "
2BC
Talk
โอ้ว ใกล้แล้ว...ฟิกเรื่องนี้ใกล้อวสานแล้วไม่ตอนหน้าก็อีกสองตอนอะค่ะ (หลังจากยืดเยื้อมากว่าสี่ปี เหอๆๆ) แต่งไปแต่งมา มาดูพล๊อตที่วางไว้คร่าวๆ เอ้า เห้ย จะจบแล้วนี่หว่า =3=
แบบว่าเป็นประเภทชอบวางพล๊อตแค่ตอนต้นเรื่อง..ตอนที่เริ่มแต่งคิดว่าคงแต่งไม่เยอะมาก กลายเป็นว่ามันส์ในอารมณ์มากซะจนมีสิบกว่าตอนไปแล้ว ๕๕๕๕๕ และพอแต่งไปกลางๆเรื่องจะค่อยวางพล๊อตตอนจบ ทำเอากว่าจะเดินเรื่องให้จบเนี่ยแล่ะ ที่ลำบากมากเลยเหอะ *ทึ้งหัว*
แต่ก็เอาน่ะ อ่านกันเอาขำๆ ๕๕๕ กะว่าถ้าได้รวมเล่มจะขัดเกลา รีไรท์ให้ทั้งเรื่องมัน smooth มากกว่านี้น่ะคะ... อ้อ แต่กว่าจะรวมคงอีกนานนะคะ คงได้คลอดฟิกมาอีกสักเรื่อง *หัวเราะ* รออันๆเรียนจบกลับไทยก่อนเน้~ ใกล้ละ เหลืออีกปีเดียว จะได้จบๆและกลับไทยสักที >< (ประเด็นคือใครอยากให้รวมหรอ? ก๊ากกก ไม่มีหรอก อยากทำเก็บไว้เอง อยากแต่งสเปด้วย เฮิกก)
คนอยากให้รวมเล่ม ยกมือส่งเสียงหน่อยก็ดีนะคะ แถมสเปให้จุใจแน่นอน...เฮิกก
เอาล่ะ จะไปปั่นตอนหน้ามาให้เร็วที่สุดละกันเน้อ~
หวังว่าทุกคนจะเอนจอยอ่านตอนนี้กันนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ :D
Ps. นักอ่านเงาคนไหนยังไม่เคยเม้นเรื่องนี้ให้เลย เม้นหน่อยก่อนเรื่องนี้จบสักนิดเถอะนะคะ ถือเป็นยาบำรุงกำลังให้คนแต่งฟิตเน้อ ><
Pairing : YunhoXJaejoong, YuchunXJunsoo, KibumXDonghae
Author : Deumbeui
Author’s note : "พวกมึงสองคน...ไปชอบผู้ชายด้วยกันตั้งแต่เมื่อไร?"
Warning : ตอนนี้บรรจุความหยาบคายมากกว่า 98% (เป็นปกติของเรื่องนี้ไปแล้วสินะ =_=)
อย่าตกใจไปที่เรื่องนี้ไม่ได้ดองอีกปีแล้วมาต่อ ๕๕๕๕ ก็บอกแล้วว่าจะไม่ดองก็ไม่ดองสิเนาะ ๕๕๕๕ เอาเป็นว่าไปอ่านกันเล้ย!!~
ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นหันสลับไปมาระหว่างหนุ่มหน้าหวานสองคนกับชายหนุ่ม สามคนที่ทำท่าจะกระโจนหนีไปทางพุ่มไม้ด้านหลังให้ได้หลังจากที่ตะโกนแหกปาก ชี้นิ้วสั่นระริกมายังผู้มาใหม่ทั้งสอง...
"นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?!! "ชินดงเอ่ยปากเป็นคนแรกท่ามกลางสถานการณ์อันงงงวย...มืออูมตบหน้าผากดังฉาด ไปหนึ่งทีก่อนจะถอนหายใจเสียงดัง...
โอ้ย!!! กูล่ะเครียดโว้ย!!!
"เอ่อ...คือ...ผมได้ยินเสียงดังตอนกำลังเดินผ่านล๊อบบี้โรงแรมน่ะฮะ... "แจจุงเอ่ย(แสร้ง)ตอบเสียงงุนงงไม่แพ้กัน
"พอดีพวกผมไปหายุนโฮกับยูชอนที่ห้องแล้วไม่อยู่..ก็เลยเดินลงมาหาน่ะฮะ "เซีย(แถ)ต่ออย่างไร้ที่ติ...
"มะ..ไม่จริง!!!! "คนที่ก่อนหน้าล่อนจ้อนตะโกนออกมาจากในพุ่มไม้...ก่อนจะค่อยๆโผล่หน้าขึ้นมา เอ่ยเสียงอู้อี้และสั่นเครือ.... "หน้าแบบคนขาวๆนี่แล่ะครับ!! ใช่เลย!! จู่ๆก็โผล่ขึ้นมาจากไหนไม่รู้ตรงบ่อน้ำพุร้อน!!!"
"จริงครับ!! "อีกสองตัวที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ตะโกนลอดช่องว่างของพุ่มไม้ออกมาบ้าง...
ยุนโฮกับมิกกี้ที่ตอนนี้ก๊งเป็นไก่และหมีตาแตกหันหน้ากลับมาทางแจจุงและเซียอีกครั้ง...
สองสาวตัวเกงรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในเรื่องริเริ่มการสร้างดีเอนเอตอแหลใน คนในอนาคตตีหน้าเหรอหรามองหน้ากันอย่างงุนงงก่อนจะหันกลับไปมองคนอื่นๆที่ ยืนรอคำตอบอีกครั้ง..
"พวกผมอยู่บนห้องตลอดนะฮะ... "
"ใช่ฮะ...ก็ที่ผมบอกยูชอนไง..ว่ารู้สึกไม่ค่อยดีก็เลยขอขึ้นห้องไปพัก... "เซียทอดเสียงไปทางมิกกี้เหมือนพยายามจะให้หนุ่มหล่อระลึกความจำของตน...
มิกกี้สบตากับยุนโฮก่อนจะหันไปมองชายสามคนที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้โผล่เพียง หน้าผากกับตาขึ้นมาและเบือนหน้าไปทางชินดงและผู้คนอื่นๆ..."ก็จริงนะ...สอง คนนี้บอกว่าขอขึ้นไปพักบนห้อง.. "
"แต่ผมเห็นจริงๆนะ!!! เต็มหกตาของพวกผมเลย!!! "ชายคนล่อนจ้อนยังยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นต่อไปทั้งๆที่ตัวเองยังสั่นระริก อยู่ในพุ่มไม้ก็ตาม...
"ข้างในนั้นมันมืดขนาดนั้น...พวกนายอาจจะมองผิดไปก็ได้.. "ชินดงที่ปวดเศียรเวียนเกล้ากับพวกเด็กในชมรมเอ่ยขึ้น มือหนึ่งนวดขมับอีกมือหนึ่งยกมือขึ้นปรามไม่ให้อีกสามคนในพุ่มไม้ได้พูด ต่อ...และไม่วายหันไปพูดจาแงะแดกดันสมาชิกในชมรมด้วยรู้ในนิสัยและสันดาน ดี... " และนี่...ถามหน่อยเหอะ ถึงจะอ้างว่าได้ยินเสียงประหลาดแล้วอยากรู้ว่ามันคืออะไร..ใจลึกๆพวกนายก็ อยากเห็นสาวๆที่ไปแช่น้ำพุร้อนกันใช่ไหมล่ะ?? "
สามคนนั้นไม่พูดอะไร...ได้แต่มองหน้ากันตัวสั่นงกๆแต่ไม่วายหนึ่งในนั้นก็ยังพยายามส่งเสียงเล็ดลอดออกมา...
"แต่ว่าผมมั่นใจจริงๆนะครับ... "
"เอาล่ะๆๆ ช่างมันเถอะนะ...จะไปเค้นความจริงให้มันได้อะไรขึ้นมากันล่ะ ถ้านายคิดว่านายเห็นแจจุงที่นั่นจริง แล้วยังไง? จะบอกว่าแจจุงเป็นผีอย่างนั้นหรอ? "ยุนโฮที่เหนื่อยล้าที่ซ้อมมาทั้งวันแถมมีปัญหาคาใจแก้ไม่ตกแล้วยังมาต้อง เคลียร์ปัญหาไร้สาระนี้อีกเอ่ยขึ้นบ้าง...
"ถ้าคุณไม่เชื่อว่าผมเป็นคน...ผมให้จับตัวก็ได้นะ... "
"ไม่ได้!!!! "
เสียงยุนโฮดังก้องสะท้านไปครึ่งรีสอร์ททำเอาสามตัวในพุ่มไม้หยุดสั่นไปชั่ว ขณะ...มิกกี้ที่ยืนอยู่ข้างๆสะดุ้งจนหงอนไก่แทบหลุด...เจ้าตัวที่ทำคนเขาแตก ตื่นละใบหน้าขาวสวยจากแจจุงที่กำลังจะเดินยื่นมือยื่นไม้ไปให้อีสามคนนั้น จับมองคนอื่นๆก่อนจะเดินเข้าไปคว้ามือนิ่มของแจจุงยกขึ้นสูง...
"นี่ไง! พอใจยัง... "ว่าพลางวางมือลงและคว้าเอวบางเข้าหาตัวเองพลางยักคิ้วถามย้ำอีกสักรอบใส่ ชายหนุ่มสามคนในพุ่มไม้ที่สลับมองหน้ากันอย่างเลิกลั่ก...
"แต่...แต่...แต่ผีบางประเภทก็โดนตัวได้นะครับ! รุ่นพี่ไม่เคยดูหนังเรื่องแม่นาคหรอ??? ที่เป็นผีอยู่กินกับสามีตั้งหลายเดือนนะครับ!! "จู่ๆหนึ่งในพุ่มไม้ก็โพล่งขึ้นมา...
"แหมๆๆ...อยู่ด้วยกันมาก็ตั้งนานเพิ่งจะมาสงสัยว่าคนในชมรมกันเองเป็นผี เนี่ยนะ? "ทั้งหมดหันไปหาผู้มาใหม่ผู้เป็นเจ้าของประโยคยียวนกวนบาทานั่น...
ไม่นานความสงสัยของทุกคนก็ได้ถูกคลี่คลายเมื่อคิบอมเดินเอามือไพล่หลังพลาง ยิ้มหล่อออกมาจากต้นไม้ต้นหนึ่ง..."ถ้าเป็นอย่างที่พวกนายว่า...ตอนที่ฉัน ตรวจร่างกายสองคนนั่น...เสียงหัวใจที่ฉันได้ยินจะเป็นเสียงอะไรดีล่ะ? นาฬิกาปลุกงั้นเหรอ? แม่นาคน่ะไม่มีใครตรวจวัดชีพจรกับอัตราการเต้นของหัวใจแบบที่ฉันทำกับสองคน นี้หรอกนะ"
สามคนนั้นผลัดมองหน้ากันเองโดยไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา...สีหน้าแต่ละคน ต่างแตกตื่นอย่างปิดไม่มิดยามคิดจะหาเหตุผลอะไรมาต่อกรกับหมอหนุ่มคนนี้ ดี...
"ฉันว่าพวกนายสามคนได้เจอของดีกันแล้วจริงๆนั่นแล่ะ... "
"ของดี??...อะไรวะ??? "ยูชอนโพล่งถามขึ้นมาบ้าง...
คิบอมหันหน้าไปทางผู้ที่ทั้งเป็นรุ่นน้องและเพื่อนสนิทที่คลานตามกันมาถึงจะ ไม่ค่อยติดๆก็ตามก่อนจะเอ่ยเรื่องเล่า... "มันเป็นเรื่องเล่าตั้งนานแล้ว...ว่ามีหญิงสาวคอหักตายในบ่อน้ำพุร้อน ตั้งแต่โรงแรมนี้ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ...ได้ยินมาว่า...เคยมีคนเห็นอะไรคล้ายๆ อย่างที่พวกนายสามคนว่ามาแล้วเหมือนกันน่ะ"
"ห๊ะ??!! "ชินดงเบิ่งตาขมวดคิ้ว จมูก ฉีกปากอย่างฉงน... "พวกเรามาเข้าค่ายที่นี่ก็หลายปีแล้วนะ แต่ไม่เห็นจะเคยได้ยินเรื่องอะไรพวกนี้เลย... "
"มาหลายปีไม่ได้แปลว่าต้องมีคนเจอทุกปีนี่น่า...รุ่นน้องพวกนายปีนี้อาจจะ ดวงซวยก็ได้...ของแบบนี้ไม่ได้ว่าจะออกมาเพ่นพ่านให้ใครเขาเห็นง่ายๆหรอก นะ...นอกจาก...เออ...จะโคตรซวยจริงๆล่ะมั้ง "คิบอมตอบกลับเสียงเรื่อยๆพลางหันหน้าไปทางสามคนที่ตัวสั่นงกเงิ่นกว่าเดิม เมื่อฟังประโยคสุดท้ายของหมอหนุ่มเสร็จ...คนหนึ่งทำท่าจะกัดลิ้นตายให้ได้.. คนกลางอ้าปากหายใจหอบจนเกรงว่าจะกินใบไม้ใบหญ้าและแมลงเข้าไปหลายอยู่...คน สุดท้าย...เอ่อ...ล้มลงไปแล้ว...
"แล้วนายไปรู้เรื่องนี้มาจากไหนล่ะ? "ยุนโฮเอ่ยแทรกถามพลางไม่ใส่ใจอากับอาการของสามคนนั่น...
คิบอมยักไหล่... "พอดีเดินคุยกับป้าคนทำความสะอาดในโรงแรมแล้วเขาเล่าให้ฟังน่ะ เขาเตือนมาว่าทางที่ดีอย่าออกไปเดินแถวๆนั้นตอนดึกๆ"
ทั้งกลุ่มเงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาไปชั่วอึดใจ...ชินดงที่สังเกตเห็นอาการรุ่นน้องในชมรม ที่ใกล้จะชักตายคาพุ่มไม้เข้าไปทุกทีเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น... "เอาล่ะนะ...นี่มันก็ดึกมากแล้ว..ถกกันยันเช้าฉันว่าก็ยังไม่มีทางได้ข้อ สรุปอะไรแน่ๆ...แยกย้ายกันไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นมาซ้อมกันแต่เช้า..จะยังไงก็ค่อยว่ากันแล้วกัน....แล้ว นั่น...แต่งตัวให้เรียบร้อยและลากเพื่อนพวกนายเข้าโรงแรมด้วยนะ!! "
ประสาทจะกินจริงๆ...
นี่เขาคิดไปเองหรืออะไรกันแน่ที่ทำให้รู้สึกว่าการเก็บตัวฝึกซ้อมปีนี้แม่งโคตรจะวุ่นวายเนี่ย!!~
กลุ่มคนที่ยืนจับกลุ่มกันอยู่เมื่อครู่เริ่มทยอยกันเข้าโรงแรมไปแล้วโดยมี ชินดงเดินนำตั้งแต่สั่งเสียเสร็จ สองหนุ่มในพุ่มไม้ค่อยๆกระแซะแงะตัวเองออกจากพุ่มไม้พลางหิ้วปีกเพื่อนอีกคน ที่สลบคาที่ไปเรียบร้อย...ทั้งสองไม่วายแอบเหลือบมองแจจุงด้วยสีหน้า ซีดเซียวไร้สีเลือดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรีบจ้ำอ้าวเข้าโรงแรมไปทั้งๆที่ เนื้อตัวมีกิ่งไม้ ใบไม้ติดตัวเต็มไปหมด...เซียแอบเห็นด้วยว่าคนหนึ่งมีตุ๊กแกตัวเบอเร่อเกาะ อยู่ที่หลัง...แต่ก็นะ...ในตอนนี้คงไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่า "ผี" ที่ทั้งสาม(เข้าใจผิดไปแล้วว่า)เจออีกแล้วล่ะมั้ง...
นี่คงเป็นบุญเก่าที่เขาสองคนได้ไปทำบุญสิบวัดกันมาตอนเด็กๆอย่างแน่นอน คิบอมถึงได้โผล่ออกมาช่วยอย่างเฉียดฉิวแบบนี้...สงสัยต้องชักชวนให้คิบอม เข้าร่วมขบวนการเต็มตัวซะหน่อยละ! แหลเก่งโดยไม่ต้องพึ่งพาการเข้าคอร์สชมรมการแสดงแบบนี้...คิมแจคิมเซียชอบ นักล่ะ!!
ตอนนี้ก็เหลือกันอยู่แค่ห้าคน...สองหนุ่มยุนโฮกับมิกกี้เงียบผิดปกติจนแจจุ งกับเซียชักใจคอไม่ดี...สองหนุ่มหล่อเอาแต่จ้องหน้ากันอย่างเงียบๆทำเอาสอง สาวไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอะไรยังไงส่งสายตาไปทางคิบอมอย่างขอความช่วยเหลือ...
คิบอมกรอกตาขึ้นมองท้องฟ้าพลางถอนหายใจเบาๆ...เหมือนจะสื่อง่ายๆให้ทั้งสอง สาวเข้าใจว่า "กูอีกแล้วสินะ" หลังจากกุเรื่องผีบ้าๆขึ้นมาในนาทีสุดท้าย นี่เขายังต้องมาเป็นตัวช่วยสานต่อให้แม่สองสาวนี่อีก~!
หมอหนุ่มเหลือบมองชายหนุ่มสองคนที่ยังยืนเงียบจ้องหน้ากันอยู่และหันไปมอง สองสาวอีกรอบก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปแทรกระหว่างกลางมิกกี้กับยุนโฮ...
เอาวะ ค่อยคิดต้นคิดดอกเรื่องทงเฮทีเดียวละกัน!~
"นี่คุณมึงทั้งสอง...จะจ้องกันอีกนานไหมครับ? "
ยุนโฮทำเพียงปรายตาหันมามองผู้ที่เป็นรุ่นพี่และเพื่อนสนิทเพียงแว๊บเดียว ก่อนจะหันกลับไปมองมิกกี้อีกรอบ..ชายหนุ่มหลุบตาลงหายใจเข้าครั้งนึง..หันไป ทางสองสาวและพูดออกมาเสียงเนือยๆ... "เดี๋ยวพวกผมจะขึ้นห้องแล้ว...แจจุงกับจุนซูจะไปด้วยกันไหมครับ? "
"เอ่อ...ก็ได้ฮะ...มันก็ดึกมากแล้วด้วย...ไว้พรุ่งนี้เรามาเดินเล่นในสวนกัน นะฮะ "สองสาวลอบสบตากันเพียงนิดก่อนที่ปากแดงจะเอ่ยตอบพลางวาดร้อยยิ้มหวาน...แจ จุงขยับตัวเข้าหาชายหนุ่มและออกเดินไปด้วยกัน...
เซียเดินตามหลังแจจุงไปติดๆไปทางมิกกี้ก่อนจะหันไปทางคิบอมขมุบขมิบปาก ขอบคุณอย่างลับๆ...หญิงสาวแสร้งทำเป็นเอ่ยลาเสียงใสต่อจากนั้นเพื่อความ เนียน... "ราตรีสวัสดิ๊นะฮะ คุณหมอ.. "
"เจอกันพรุ่งนี้ "ตาคมของมิกกี้ลอบมองคิบอมเพียงแว๊บหนึ่งก่อนจะเอ่ยลาบ้างและออกเดินเข้าโรงแรมไป....
คิบอมจ้องมองแผ่นหลังของทั้งสี่ที่กำลังเดินจากไปก่อนจะเตะๆเขี่ยๆดินแถวๆนั้น...
"คิดว่าสงสัยกันเป็นคนเดียวหรือไง...พวกนายก็มีอะไรปกปิดฉันเหมือนกันนั่นแล่ะ ยุนโฮ ยูชอน"
เช้าวันต่อมาเรื่องผีก็แพร่งพรายกันไปในวงกว้าง...แต่ก็ไม่มีใครได้มีเวลาถก เถียงอะไรมากนักเพราะต้องซ้อมหนักกันทั้งวัน...แจจุงกับเซียแอบเห็นว่าสาม หนุ่มผู้โชคร้ายหน้าตาอิดโรยไม่น้อย..คงเพราะอดหลับอดนอนอย่างแน่นอน...ใช่ ว่าเขาสองคนจะไม่รู้สึกผิด...ทั้งสองจึงตัดสินใจว่าไม่มีทางที่จะไปแช่น้ำพุ ร้อนอีกเด็ดขาดไม่ว่าจะอยากมากแค่ไหนก็ตาม...เพราะขืนเสี่ยงเกิดเรื่องอีก รอบ...เรื่องคงไม่จบลงง่ายๆแน่...
ช่วงสายของวันมีรุ่นพี่ที่จบไปแล้วและได้มีโอกาสเข้าแข่งขันถึงรอบลึกๆมา เอ่ยเล่าประสบการณ์และแนะนำเทคนิคต่างๆที่สามารถใช้ได้ในการแข่งขัน แน่นอน...งานนี้ฮันกยองผู้ชนะระดับเขตมาแล้วก็มาด้วยทั้งๆที่ตัวยังเคล็ดไม่ หายดี...อีกทั้งยังมาแสดงความยินดีพลางชมเปราะกับแจจุงถึงระดับความสามารถ ที่ชกเขาซะหมอบเสียได้...คยูฮยอนที่ยังใส่เฝือกที่แขนก็มาแสดงความยินดีกับ แจจุงพร้อมทั้งให้กำลังใจด้วยเช่นกัน...
ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรติดขัด...จะมีก็เพียงแต่...สองหนุ่มทำตัวห่างเหินกับแจจุงและเซียอ ย่างผิดปกติ...ถึงจะยังมีคุย ถึงเนื้อถึงตัวกันบ้างเหมือนเดิม...แต่สองสาวก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรที่แปลก ไป...อีกทั้งจู่ๆสองหนุ่มก็ชอบหายกันไปไหนไม่รู้ในระหว่างที่ซ้อมบ้าง เวลาอาหารบ้าง...มีครั้งนึงที่แจจุงเดินตามหายุนโฮแล้วไปเจอตอนที่ยุนโฮกับ มิกกี้หลบคุยอะไรกันสักอย่างด้วยสีหน้าเคร่งเครียด...
"หรือว่าพวกเขาจะรู้ความจริงแล้ววะ? "
"เห้ย! บ้าน่ะ! จะรู้ได้ไง!? ก็คิบอมก็ออกโรงช่วยปกปิดความลับซะขนาดนี้แล้วน่ะ "แจจุงเอ่ยตอบเซียหลังจากที่เล่าเรื่องที่เขาได้ไปเจอมาขณะกำลังเก็บ เสื้อผ้าลงกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวกลับโซลในเช้าวันรุ่งขึ้น..
เซียขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางยักไหล่มนขณะพอกหน้ากระดิกตีนดูเพื่อนจัดของลง กระเป๋า.. "ก็อาจจะยังไม่รู้...แต่ฉันว่าเขาอาจจะแอบสงสัยติดใจอะไรรึเปล่า?... "
แจจุงหยุดจัดกระเป๋าพลางหันหน้าไปมองเพื่อนที่เอาครีบโปะครีมลงบนใบหน้ากลมซาลาเปาที่ถูกคาดเอาผมขึ้นจนหมด...
Perfect Circle จริงๆ...
เห้ยไม่ใช่ละ...จะมานอกเรื่องอะไรตอนนี้ละวะ แจจุง = =”
"แล้วจะทำยังไงกันดีล่ะ? "
เซียหยุดโบกครีมบนใบหน้าพลางหันมาสบตากลมโตของเพื่อนรัก... "ดูต่อไปก่อนก็แล้วกัน...กลับไปโซลแล้วค่อยคิด"
เหอๆ ๆ ๆ
มึงดูเครียดมากเลยนะ คิม จุนซู =_=
งานนี้ดูท่าไม่เดือดร้อน คิม คิบอม ก็ ชิม ชางมิน อีหรอบเดิมแน่นอน... = ="
.
.
.
ชายหนุ่มเลื่อนแผ่นเอ็กซเรย์ลงกับโต๊ะ ตาเรียวคมเหลือบมองสองสาวอย่างอดทนอดกลั้น...ไม่ต่างกับเด็กหนุ่มร่างสูง โย่งเด่นเป็นสง่ายืนถอนหายใจหล่ออยู่ข้างหลังเพื่อนสาวอย่างเซ็งไม่แพ้ กัน...
กลับมาโซลไม่ทันไรก็ลากเขาออกมาลำบาก...
เสียเวลาอ่านนิตยสารเลขรายสัปดาห์จริงว้อย!!~~
"หมอ ช่วยทีเถอะนะ...พักหลังมานี่ยุนโฮกับยูชอนแปลกไปจริงๆนะ... "แจจุงยังคงอ้อนว้อนคิบอมที่นั่งทำงานเคร่งเครียดกับแผ่นเอกซ์เรย์ทั้งหลาย เป็นรอบที่สี่สิบล้านเศษแล้วก็ว่าได้... "ฉันว่าพวกเขาต้องสงสัยเรื่องของเรากับหมอแน่ๆ...หมอช่วยไปเคลียร์หน่อยสิ ..โกหกอะไรก็ได้อะ ให้ยุนโฮกับยูชอนเชื่อที... "
ตั้งแต่กลับโซลมาไม่นาน...แจจุงกับเซียก็ว่าจะดูสถานการณ์กันไปก่อน...แต่ นี่ไม่ไหวล่ะสองสามวันที่ผ่านมานี้ มันชักจะหนักข้อกว่าตอนที่อยู่ค่ายฝึกตัวเสียอีก...
หลบหน้าพวกเขาไม่พอ เวลาคุยกันยังหลีกเลี่ยงการสบตาตรงๆอย่างเห็นได้ชัด...แบบนี้เขาสองคนชักทน ไม่ไหวแล้ว....อะไรๆที่เคยได้แบบแต่ก่อน...ตอนนี้พลันแทบจะเหลือแค่ทักทาย จับนิดจับหน่อยตอนเจอหน้ากันในชมรม หลังจากนั้นก็หายหน้าหายตาไปซ้อมกันเองเฉ้ย...พอถามหาก็เอาแต่อ้างว่าใกล้ แข่งแล้วเลยต้องซ้อมหนักกว่าปกติ...
พิรุธ พิรุธเห็นๆ!!!
"นี่..ฉันเพิ่งจะเอาความเป็นเพื่อนของฉันกับพวกมันเข้าแลกตอนเข้าช่วยพวกเธอ ไปครั้งที่แล้ว...นี่ยังไม่ทันไรจะให้ฉันไปทำอะไรอีกล่ะห๊ะ!~ ไม่คิดว่าพวกมันจะสงสัยบ้างรึไง??! "คิบอมถอนหายใจเป็นรอบที่ล้าน...หลังจากพยายามปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ สองสาวหน้าใสที่ทำท่าทำทางเป็นลูกแมวอ้อนเจ้าของก็ไม่ปานเป็นร้อยๆ ครั้ง...มือหนาคว่ำกองแผ่นเอ็กซเรย์ลงกับโต๊ะก่อนจะหมุนเก้าอี้หนีไปอีก ด้าน..
"ก็เพราะว่าตอนนี้พวกเขาสงสัยเรื่องระหว่างเรากับหมอยังไงล่ะ...ถ้าปล่อยไว้ แบบนี้ต้องยิ่งแย่แน่ๆ... "เสียงแหลมสูงของเซียอธิบายแทรกขึ้นบ้าง...
"นี่ฉันกลับได้ยัง? "
"ไม่ได้!!! "สองสาวพร้อมใจกันหันไปตวาดใส่ชางมินที่ยืนทำหน้าเมื่อยมาร่วมครึ่งชั่วโมงในขณะที่พยายามขอความช่วยเหลือจากคิบอม...
"ฉันไม่เข้าใจว่าพวกเธอจะลากฉันมาด้วยทำไมเลยจริงๆนะ..."เสียงหล่อเอ่ยอย่างหงุดหงิดพลางเสยผมที่เข้าทรงอยู่แล้วอย่างเป็นธรรมชาติ...
คือกูไม่เกี่ยวไง ได้ข่าวววววว!!!
"ก็เผื่อคิดอะไรออกจะได้ช่วยๆกันทีเดียวไปเลยไง...นายก็เลิกถอนหายใจ ทำหน้าเหมือนเป็ดปากหักแบบนั้นสักที...แล้วก็ช่วยพวกฉันคิดได้แล้ว!! "โลมาน้อยแว๊ดต่ออย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหันไปสมทบออดอ้อนคิบอมร่วมกับแจจุงอีก ครั้ง
ชางมินอ้าปากพลางส่งเสียงห๊ะในลำคอ...นี่แม่งจะขอความช่วยเหลือคนหรือบังคับขู่เข็นกันแน่วะ??!!
คืองงไง...งงอะ เข้าใจไหม? จะมาขอความช่วยเหลือหมอคิบอมอะไรนี่แล้วมันเกี่ยวอะไรที่เขาต้องสละเวลาของ การเอนจอยอ่านนิตยสารเลข ตีโจทย์ฟิสิกส์ และอ่านตารางธาตุเคมีของเขาด้วยล่ะ!!!??
คนอ่านเข้าใจคนหล่อเซ็งไหมอะ เหนื่อยเหลือเกินกับการต้องมาเป็นเพื่อนสนิทนางเอกของเรื่องเนี่ย!!
ไม่ทราบว่าลากกูมายืนเสียเวลาหล่อตรงนี้ทำซากปรักหักพังอะไร!!?
"นะ หมอช่วยหน่อยเหอะ...ช่วยพวกเราอีกสักครั้งเถอะ...นะๆๆ ขอร้องล่ะ "แจจุงยกมือขึ้นประกบกันอย่างอ้อนวอน...ไม่ต่างกับเซียที่พยายามนวดแข้งนวด ขาเอาใจคุณหมอสุดหล่อด้วยเช่นกัน....
คิบอมมองหน้าแจจุงกับเซียที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ้อนจนแทบจะไปตระกองกอดกับ ขาเขาได้อยู่แล้วนั่น...คิ้วเรียวขมวดอย่างรำคาญใจ...แต่แล้วจู่ๆความคิดบาง อย่างก็บรรเจิดในสมองอันชาญฉลาด...เรียวปากยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์...
"ก็ได้...เดี๋ยวฉันจัดการให้ "
.
.
ใกล้ถึงเวลาแข่งเข้าไปทุกที...เหลืออีกเพียงแค่สองวันก็จะถึงวันแข่งวันแรก แล้ว...ตารางเวลาและสถานที่แข่งขันถูกปักลงกับบอร์ดประชาสัมพันธ์ของชมรม... ชินดงประธานชมรมร่างใหญ่ที่ทั้งเขี้ยวเข็ญและให้กำลังใจสมาชิกในชมรมคอยเดิน ดูและตรวจตราแนะนำเทคนิคต่างๆให้กับสมาชิกในชมรมอย่างไม่ได้หยุดไม่ได้ หย่อน...ตอนนี้เขากำลังเอ่ยนัดแนะเรื่องการแข่งที่กำลังจะมาถึงกับทุกคนใน ชมรม...
"เอาล่ะ...ก็เอาเป็นว่าเราจะออกเดินทางกันประมาณเจ็ดโมงจากโรงเรียนนะ...ไป ถึงที่แข่งจะได้พอมีเวลาวอร์มอัพร่างกายสำหรับคนที่มีแข่งช่วงเช้า...ใครที่ มีแข่งตอนบ่ายจะไปสนามแข่งกับรถของโรงเรียนแต่เช้าหรือจะไปด้วยตัวเอง ก็ได้..แต่ขอให้อย่าสายนะ ไปถึงก่อนเวลาแข่งสักหนึ่งชั่วโมง เข้าใจทั่วกันนะ? "เสียงทุ้มของเจ้าตัวเอ่ยย้ำกับสมาชิกชมรมเป็นการตบท้ายในที่ประชุม...เมื่อ เห็นว่าทุกคนรับรู้เข้าใจเรื่องการแข่งกันถ้วนหน้าแล้วก็เอ่ยอวยพรย้ำอีกสัก รอบ... "พรุ่งนี้จะวันซ้อมวันสุดท้าย...ฉันขอให้ทุกคนเต็มที่นะ...และใครที่มีไม่ ได้มาในวันนี้ก็ฝากบอกต่อรายละเอียดเรื่องวันแข่งด้วยละกัน...ใบประกาศจะถูก ติดอยู่ทีน่ี่นะ..ใครมีคำถามอะไรก็ถามได้ทุกเมื่อ...ขอให้ทุกคนโชคดี แยกย้ายกันได้... "
หลังจากที่ชินดงประกาศบอกให้แยกย้ายตัว...แจจุงกับเซียก็สอดสายตามองหาชาย หนุ่มรูปงามทั้งสองทันที...อย่างน้อยถึงจะหลบหน้ากันในช่วงเวลาซ้อมไป บ้าง...แต่ทุกครั้งก่อนจะกลับบ้านสองหนุ่มหล่อจะเข้ามาบอกลาเขาสองคน...
แต่ในวันนี้...กลับไม่เห็นแม้แต่เงา...
จะว่าไปก็ไม่เห็นตั้งแต่ที่ชินดงประกาศเมื้อกี๊แล้วสินะ....
ไม่สิ...วันนี้ยังไม่เห็นเลยต่างหาก!!!
เห้อ!!~~~ นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!!!!!!!!~~~~~
คิมแจคิมเซียอยากจิบร้า!!~~
.
.
"พวกเธอ....โอเคนะ? "
ชางมินที่เพิ่งเหยียบเท้าเข้าบ้านแจจุงถามขึ้นด้วยความห่วงใยสวัสดิภาพทั้ง สองหลังจากเห็นสภาพศพเกลื่อนกลาดแอ้งแม้งบนพื้นห้องรับแขก...
คนปะวะเนี่ย??
พวกนี้นี่...ทำยังกะผู้ชายเป็นอากาศ เป็นน้ำที่ขาดแล้วแม่งจะตายห่าเอา... = =”
คือถ้าแม่งช่วยเครียดกับรายงานที่วันนี้ต้องทำบ้าง กูจะไม่ว่าเลยเห๊อะะะะะ!!
"เห้!!... "ชางมินตะโกนอีกรอบ...แต่ไร้ซึ่งสัญญาณซากซพซอมบี้ที่ขยับตัว...หนุ่มหล่อ ชักจะทนไม่ไหวตะหงิดๆ...นิ้วตีนจึงถูกยื่นไปสะกิดหนึ่งในเพื่อนรักที่นอนตาย อนาถ...
"เห้ย!!!!!!! นั่นมันนมกู!!!!! "แจจุงโวยเสียงดังลั่น..
"อ้าวหรอ?...โทษทีแยกไม่ออกน่ะว่าไหนหน้าไหนหลัง...เล่นแบนเป็นกระดานเซิร์ฟบอร์ดแบบนั้นนี่นะ.. "
"มันจะมากไปแล้วนะ ไอ้เป็ดดำ!!! นี่มันเพราะฉันพันผ้าหรอก!! "
ชางมินยักไหล่อย่างไม่หยี่หระพลางทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น...วางกระเป๋าและ เอกสารที่จะเอามาทำรายงานบนโต๊ะตัวเตี้ยกลางห้องรับแขก...หน้าคมหล่อเหลาดุจ เทพบุตรอวตารลงมาเกิดผินหันไปมองซากพยูนเอ้ยโลมาเกยตื้นที่ยังคงไม่ยอม ขยับ...มือเรียวสีน้ำผี้งสวยยื่นไปจับตรงส่วนที่คิดว่าเป็นแก้มก่อนยืดเต็ม แรง...
"ไอ้เหี้ยจมูกกู!!!! "เสียงแหลมสูงกรีดร้องดังลั่นพลางหวังจะโบกครีบลงที่มือของอีกคนเต็มแรงแต่อีกคนดันไวหลบได้เสียก่อน...
"อ๊ะ หรอ...โทษที นึกว่าแก้ม...ก็บวมเหมือนกันทั้งหน้าแบบนั้น ใครจะไปรู้ล่ะ... "
"ไอ้เหี้ย ถ้าไม่คิดว่าจะช่วยกันอะนะ ก็เลิกปากหมาแบบนี้ได้ละ ชั่วเอ้ย! "เซียโวยพลางตะปบครีบลงบนจมูกที่ถูกบิดเต็มแรงก่อนลุกขึ้นนั่งแช่งด่าเพื่อน ชายที่ทำท่าไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยสักนิด...
"แล้วนี่กูมานั่งทำรายงานให้พวกมึงทั้งๆที่เป็นงานกลุ่มนี่แม่งยังช่วยไม่พอใช่มะ? "
"อย่าพูดเหมือนนั่นเป็นเรื่องแปลกใหม่หน่อยเลยน่า... "แจจุงพูดอย่างไม่อายปากทำเอาชางมินได้ส่ายหัวไปมาอย่างเอือมๆ...
คืออย่าหวังความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจากผู้หญิงสองคนนี้เลยจะดีกว่าจริงๆ..
"ไม่ต้องมองอย่างว่าพวกฉันไร้สามัญสำนึกเลยนะ...ทุกครั้งที่พวกฉันช่วยทีไร นายก็ไล่ออกมาทุกที..."เสียงใสว่าต่อเมื่อเห็นสีหน้าระอาของชางมิน
ไม่ใช่ความผิดคนอื่นสักหน่อย...อยากเกิดมาอัจฉริยะกว่าชาวบ้านเขาทำไมกันล่ะ!~
"พวกเธอจะคิดมากไปให้มันได้อะไรกันล่ะ..เสียเวลาเปล่าๆ..."แว่นสี่เหลี่ยม ผืนผ้ากรอบสีดำด้านถูกสวมเข้ากับใบหน้าหล่อเหลา...ตาคมไล่มองอ่านเอกสาร เพื่อจะทำรายงาน... "แล้วเรื่องแข่งมะรืนนี้ว่าไง "
"กูจะแพ้มันตั้งแต่ยกแรกนี่แล่ะ! เรื่องอะไรจะเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมกัน...!!~"
ชางมินละสายตาเหล่มองเพื่อนสาวอย่างหมั่นไส้... "มีนมให้เป็นมะเร็งก่อนค่อยกังวลดีกว่าไหม? "
หญิงสาวกระโจนตัวเข้าล๊อกคอเพื่อนชายก่อนจะรัดเต็มเหนี่ยว... เหลือจะทนแล้วกับคำสบประมาทเรื่องนมๆเนี่ย!!!
"ตายซะเหอะ!!!! ย๊ากกกกกก!!!!!!"
"เห้อ~~~ หวังว่าคิบอมจะช่วยให้ได้เรื่องอะไรขึ้นมาบ้างนะ~~"เซียที่นอนคว่ำเท้าคาง เอามืออูมเด็ดดมใบไม้ในแจกันเล่นโดยมีถ่ายทอดสดมวยปล้ำระหว่างแจจุงกับชา งมินเป็นฉากหลัง...
.
.
"เอาล่ะ...กูขอถามมึงตรงๆเลยนะ ไอ้ยุน "มิกกี้วางแก้วน้ำสีอำพันลงกับโต๊ะกระจกตัวเล็กในห้องรับแขกของคอนโดหรูขนาด เท่าแปดสนามฟุตบอลพลางทิ้งตัวลงกับโซฟาและถอนหายใจเฮือกใหญ่...สิ่งที่เขาจะ ถามออกไปนั้นจะเป็นอะไรไปได้นอกจากปัญหาที่ทำเอาเขาสองคนคิดไม่ตกมาหลายวัน นั่นแล่ะ...ถ้าไม่เคลียร์ๆให้จบๆไป มีหวังได้เครียดตายกันไปข้างแน่ๆ...ตาเรียวคมเหลือบมองเพื่อนตัวสูงที่ถือ แก้วสีน้ำอำพันจากขวดเดียวกันยืนอยู่ตรงกระจกบานใหญ่พลางเอ่ยถาม... "ขั้นไหนแล้ว?"
"ก็...วนอยู่ A กับ B เกือบจะเลยไป C หลายรอบแล้วเหมือนกัน แต่ถูกขัดจังหวะก่อนตลอด...และก็..มีครั้งนึงที่กูห้ามตัวเองไว้ทัน.."ชาย หนุ่มดื่มเข้าไปอึกหนึ่งก่อนจะหันมามองเพื่อนรักบ้าง "แล้วมึงอ่ะ... "
มิกกี้หลุบตาคอตกก่อนจะถอนหายใจอีกสักรอบ... "พอกัน...นี่เอาจริงนะ...สารภาพตรงๆเลย ถ้าพวกเราเลยไปถึงขั้นนั้นกันขึ้นมาจริงๆ....มันคง.... "
"เห้อ! นั่นสิ...กูว่าพวกเรามากันไกลไปแล้วป่ะวะ? แม้แต่กับผู้หญิง...กูไม่เคยคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้มาก่อนเลยเหอะ "ร่างสูงเดินละจากกระจกมานั่งลงข้างเพื่อนรักบ้าง...มือใหญ่วางแก้วลงกับ โต๊ะก่อนประสานกันวางไว้อยู่บนตัก... "อีกอย่าง...เรื่องของสองคนนั้น...ก็มีอะไรที่กูไม่เข้าใจเต็มไปหมด...โดยเฉ พาะกับคิบอมนั่น..."
"พูดถึงคิบอม...จะว่าไปแล้ว....มึงคิดว่า.... "เสียงทุ้มเปียโนของมิกกี้ก้องกังวาลเว้นจังหวะนิดนึงก่อนเอ่ยต่อ... "คิบอมรู้ความจริงเรื่องของเราสองคนรึยังวะ? "
เงียบกันไปหนึ่งอึดใจ...ยุนโฮสบตากับมิกกี้ก่อนจะเอ่ยตอบแบบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก... "ไม่หรอกมั้ง...มันจะไปรู้ได้ไง...ก็ในเมื่อ.... "
ติ๊งหน่อง~~
ทั้งสองมองหน้ากันอย่างแปลกใจ...
"แม่มึงหรือแม่กูละวะคราวนี้? "
"กูว่าทั้งคู่แหงม...มาอะไรกันตอนนี้เนี่ย... "มิกกี้ส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายใจ...จะว่าไปนี่เขาทั้งคู่ก็เรียกได้ว่า ทะเลาะกับแม่นานที่สุดแล้วก็ว่าได้...ร่างสูงเจ้าของห้องคอนโดหรูหราอัญเชิญ ตัวเองออกจากโซฟาไปยังประตูอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิด...
"มีอะไรดึกดื่นกับพวกผมหรอครับ คุณมะ...อ้าวเห้ย!!! คิบอม!!! "เสียงเอื่อยเอ่ยต้อนรับทั้งที่ยังเปิดประตูไปกว้างดีก่อนจะได้รู้ว่าทักผิด คนเสียแล้ว....
"เออ กูเอง...ไม่ใช่แม่พวกมึง "
"มาทำไม? "
"ให้กูเข้าห้องก่อนจะตายไหม คุณปาร์ค "ร่างสูงด้านนอกประตูอัญเชิญตัวเองผ่านเข้าประตูห้องโดยไม่รอคำตอบรับใดๆจาก เจ้าของ...ขายาวเดินนำไปยังโซฟาขนาดควายสามตัวนั่งกระดิกขาได้อย่างสบายก่อน จะนั่งลงแบบไม่เกรงอกเกรงใจ...
"มีอะไรถึงถ่อมาถึงนี่ได้?? "ยุนโฮว่าพลางมองรุ่นพี่และเพื่อนสนิทที่นั่งไขว่ห้างพลางคว้าแก้วเหล้าเขาไปดื่มหน้าตาเฉย...
"มีคำถาม... "
"เหอะ...เป็นพวกกูมากกว่ามั้งที่จะมีคำถามกับมึงน่ะ พ่อหมอเสน่ห์แรง "มือยาวของหมีขาวคว้าแก้วเหล้าออกจากปากคิบอมก่อนจะกรอกเข้าปากตัวเองที เดียวหมดรวด...
คิบอมส่งเสียง หึ ในลำคอ...เรียวปากยกยิ้่มอย่างมีเลศนัย... "นี่พวกนายหึงผู้ชายด้วยกันจริงๆหรอวะ?"
มิกกี้ที่เดินกลับมาสมทบแอบลอบมองกับยุนโฮเพียงแว๊บหนึ่งก่อนเอ่ยถาม.. "หมายความว่าไง? "
คิบอมมองหน้าสองคนอย่างครุ่นคิดนิดนึง...คว้าแก้วเปล่าของยุนโฮมาและเทเหล้า รินเหล้าใส่ไปประมานครึ่งหนึ่งก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาอย่างสบายใจ...เสียง ทุ้มต่ำเอ่ยถามทำเอาทั้งมิกกี้และยุนโฮแทบจะสะดุดลมธาตุอากาศ...
"ก็หมายความว่า กูอยากรู้...ว่าพวกมึงสองคน...ไปชอบผู้ชายด้วยกันตั้งแต่เมื่อไร? "
2BC
Talk
โอ้ว ใกล้แล้ว...ฟิกเรื่องนี้ใกล้อวสานแล้วไม่ตอนหน้าก็อีกสองตอนอะค่ะ (หลังจากยืดเยื้อมากว่าสี่ปี เหอๆๆ) แต่งไปแต่งมา มาดูพล๊อตที่วางไว้คร่าวๆ เอ้า เห้ย จะจบแล้วนี่หว่า =3=
แบบว่าเป็นประเภทชอบวางพล๊อตแค่ตอนต้นเรื่อง..ตอนที่เริ่มแต่งคิดว่าคงแต่งไม่เยอะมาก กลายเป็นว่ามันส์ในอารมณ์มากซะจนมีสิบกว่าตอนไปแล้ว ๕๕๕๕๕ และพอแต่งไปกลางๆเรื่องจะค่อยวางพล๊อตตอนจบ ทำเอากว่าจะเดินเรื่องให้จบเนี่ยแล่ะ ที่ลำบากมากเลยเหอะ *ทึ้งหัว*
แต่ก็เอาน่ะ อ่านกันเอาขำๆ ๕๕๕ กะว่าถ้าได้รวมเล่มจะขัดเกลา รีไรท์ให้ทั้งเรื่องมัน smooth มากกว่านี้น่ะคะ... อ้อ แต่กว่าจะรวมคงอีกนานนะคะ คงได้คลอดฟิกมาอีกสักเรื่อง *หัวเราะ* รออันๆเรียนจบกลับไทยก่อนเน้~ ใกล้ละ เหลืออีกปีเดียว จะได้จบๆและกลับไทยสักที >< (ประเด็นคือใครอยากให้รวมหรอ? ก๊ากกก ไม่มีหรอก อยากทำเก็บไว้เอง อยากแต่งสเปด้วย เฮิกก)
คนอยากให้รวมเล่ม ยกมือส่งเสียงหน่อยก็ดีนะคะ แถมสเปให้จุใจแน่นอน...เฮิกก
เอาล่ะ จะไปปั่นตอนหน้ามาให้เร็วที่สุดละกันเน้อ~
หวังว่าทุกคนจะเอนจอยอ่านตอนนี้กันนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ :D
Ps. นักอ่านเงาคนไหนยังไม่เคยเม้นเรื่องนี้ให้เลย เม้นหน่อยก่อนเรื่องนี้จบสักนิดเถอะนะคะ ถือเป็นยาบำรุงกำลังให้คนแต่งฟิตเน้อ ><
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น