ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Shot 1 + Shot 2
Fiction : Hot Doctor, Mean Patient #1
Pairing : KibumXDonghae
Author: Deumbeui
Author’s note: ฟิกคิเฮเรื่องแรก ยังไงก็ฝากไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ ^ ^
"ไม่มีทาง"
"ลูกต้องไป"
"แม่ฮะ นี่มันจะปาเข้าไป 2010 แล้วนะ เลิกใช้วิธีสมัยยุคไดโนเสาร์สักที"
"ที่แม่ทำแค่นี้ก็ถือว่าไว้หน้าแกแล้วนะ ไม่ใช้วิธีตีหัวลากเข้าถ้ำก็บุญแค่ไหนแล้ว!? "
"แม่! "
ลูกชายคนเล็กของบ้านส่งเสียงดังโวยวายลั่นบ้านสติแตกเมื่อรู้ว่าจะต้องถูกส่งไปดูตัวจับคู่แต่งงาน คิ้วเรียวขมวดเป็นโบว์ทันที ตาโตส่งค้อนวงใหญ่ให้กับผู้เป็นแม่อย่างไม่เกรงกลัว ปากแดงถูกเม้มเป็นเส้นตรงอย่างไม่พอใจ
"ผมเป็นผู้ชายนะ จะให้ไปดูตัวกับผู้ชายได้ไง!? "
"ก็เพราะแกเป็นผู้ชาย กว่าฉันจะหาคนที่เหมาะและยอมรับได้ เส้นเลือดในสมองฉันแทบแตก ดังนั้นแกต้องไปดูตัว อี ทงเฮ! "
ปัง!!!!!!
หญิงสูงอายุทิ้งประโยคไว้แค่นั้นก่อนจะตัดบทสนทนาโดยการปิดประตูใส่หน้าปล่อยให้ลูกชายของตนยืนอ้าปากค้างอยู่ที่เดิมอย่างหัวเสีย
"จ้างให้ก็ไม่มีทาง!! "
วันรุ่งขึ้น
"ทงเฮจะไปไหน? "
"หนีออกจากบ้าน"
เด็กหนุ่มที่เพิ่งก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายลงมาถึงชั้นล่างตอบเสียงฉะฉานด้วยสีหน้าไร้อารมณ์กับพี่ชายหน้าหวานของตนที่นั่งอยู่ที่โซฟาหรูกลางห้องรับแขก…
อีกคนเมื่อได้ยินคำตอบสุดน่ารักจากน้องชายตัวแสบก็ส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะพาตัวเองที่อยู่ในชุดสูทสีขาวสง่างามลุกขึ้นสาวเท้ามายืนตรงหน้า
"รถรออยู่ที่หน้าบ้าน รีบไปกันเถอะ"
"ไปไหน? "
"เร็วๆเข้าเถอะน่ะ จะสิบเอ็ดโมงแล้ว ให้ทางนานรอนานมันจะไม่ดี"
"พี่ซองมิน! "
"ทงเฮก็รู้จักแม่ดีนะ อย่าทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่เลยน่ะ"
"ผมไม่ไป! พี่อยากแต่งนัก ก็ไปเองสิ! "
"ทงเฮ..อย่าดื้อ"เสียงหวานใสในตอนแรกถูกปรับเปลี่ยนเป็นจริงจังเอาการเอางานซึ่งเป็นสัญญาณเตือนคนฟังได้เป็นอย่างดี..ว่าตอนนี้พี่ชายน่ารักหน้าหวานคนนี้น่ะ เอาจริง!
"ชิ! "
เด็กหนุ่มกระแทกกระทั้นฝีเท้าปึงปังอย่างหงุดหงิดออกจากบ้านก่อนจะก้าวขึ้นรถลีมูซีนสามตอนพร้อมปิดประตูเสียงดังชนิดสะเทือนไปสามซอย..ตาสวยสะบัดมองไปอีกทางเมื่อผู้เป็นพี่ก้าวเท้าขึ้นรถ ปากขมุบขมิบกร่นด่าในใจ
"ออกรถเลยครับ"
.
.
.
"นั่งตรงนี้ พี่จะเข้าไปก่อน อย่าคิดจะหนีล่ะ"
ทงเฮกระแทกตัวลงกับโซฟานุ่มภายในร้านอาหารอิตาลีชื่อดังในโรงแรมหรูใจกลางกรุงโซลก่อนที่จะตวัดตามองพี่ชายของตัวเองที่หายเข้าไปในห้องรับรองพิเศษอย่างโมโหร้าย
ร่างเล็กได้แต่นั่งกอดอกไขว่ห้างกระฟัดกระเฟียดเอากับบอดี้การ์ดที่แทบขนมาทั้งบ้านเพื่อมาเฝ้าเขาการณ์นี้โดยเฉพาะ...
ถึงไม่มาตามเฝ้า คนตัวเล็กก็ไม่ได้คิดจะหนีแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าดื้อกับแม่แต่ละครั้ง ผลที่ตามมามันไม่คุ้มทั้งนั้น
เล่นกับแม่ไม่ได้ก็ต้องเล่นกับไอ้คนที่อยู่ในห้องนี้เท่านั้นล่ะ..
ลองเจอฤทธิ์ อี ทงเฮ สักตั้ง
รับรองหงอจนไม่กล้ามาเจอหน้าอีกแน่!
"ทงเฮ"ผ่านไปไม่ถึงห้านาที ซองมินก็โผล่หน้าออกมาจากห้องรับรองนั่นพลางกวักมือเป็นสัญญาณให้ทงเฮเข้าไป..
เด็กหนุ่มสีหน้าบอกบุญไม่รับลุกขึ้นก่อนจะสาวเท้าไปยังประตูห้องรับรองนั่นแต่ยังไม่ทันจะถึงประตูดี ก็ถูกพี่ชายดึงแขนไว้ก่อน
"อย่าคิดจะทำอะไรล่ะ พี่ขอเตือน"
กระซิบบอกแค่นั้นก่อนจะยิ้มหวานส่งน้องชายปิดท้ายและปิดประตูออกไป
เหอะ!
คอยดู
แม่จะอาละวาดให้ร้านพังไปเลย!
ร่างเล็กได้แต่ค้อนให้กับประตูแทนคนที่เพิ่งเดินออกไปก่อนจะหันมาสบตาคมของชายหนุ่มหล่อร้ายกาจตรงหน้า..
ใช่ ทงเฮยอมรับเลยว่าไอ้ผู้ชายที่นั่งหน้านิ่งในชุดสูทสีดำมันขลับตรงหน้าเขานั้นหล่อร้ายแรงอย่างไม่น่าให้อภัย ตาคมดำสนิทที่มองมาทำเอาแก้มร้อนผ่าวแทบระบิด..จมูกโด่งแทงคนตายนั่นรับกับริมฝีปากหยักได้รูปอย่างลงตัว...
ทำไมมันถึงได้ดูดีได้ขนาดนี้นะ!?
ทงเฮเคลื่อนตัวไปด้านหน้าก่อนจะหย่อนกายลงบนเก้าอี้นุ่ม มือเล็กยกขึ้นกอดอก เท้าไขว่ห้าง ต่างคนต่างประชันสายตาต่อกันอย่างไม่ลดละ..
ร่างสูงนั่งนิ่งในท่าสบายๆ หลังกว้างพิงเก้าอี้ใหญ่มือสองข้างวางประสานกันอยู่บนโต๊ะ..นัยน์ตาสีเข้มเอาแต่จดจ้องใบหน้าขาวใสจนเจ้าตัวรู้สึกอัดอัดจนทนไม่ไหวเป็นคนเริ่มเอ่ยปากก่อน
"เป็นหมอสินะ? "ร่างเล็กเปิดประโยคตามที่ได้ฟังจากพี่ชายตัวเองคร่าวๆในรถ
คนตรงข้ามยักคิ้วขึ้นเพียงเล็กน้อย
"ถ้างั้นนายก็น่าจะเข้าใจอะไรได้ดีกับสิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้..."
"ฉันมีโรคประจำตัวแต่เด็ก จะเรียกว่าโรงพยาบาลเป็นบ้านฉันก็ว่าได้ พวกเขาบอกฉันว่าฉันอยู่อาจจะอยู่ได้ไม่เกิน 15 ปี แต่ฉันก็ด้านทนมาจน 20 ปีละ..."
ร่างเล็กเว้นระยะช่วงหนึ่งก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้และส่งยิ้มหวานให้ในประโยคถัดมา
"ฉันน่ะมันพวกตายยาก... "
ร่างสูงตรงหน้า เหลือบหันใบหน้าไปด้านข้างพลางอมยิ้ม...ทำเอาอีกคนขมวดคิ้วฉับ
"ถึงแบบนั้นก็เถอะ..ที่ฉันอยู่ทุกวันนี้ใช่จะทำให้คนอื่นไม่เดือดร้อน..ฉันแพ้อากาศง่าย กินอาหารเผ็ดไม่ได้ น้ำตาลห้ามใส่เกินสามช้อน น้ำปลาห้ามเกินครึ่งช้อน กินได้แต่น้ำอุ่น และที่สำคัญมือฉันชาง่าย จับอะไร ทนอะไรได้ไม่ค่อยนาน ถ้านายอยากจะแต่งกับฉันก็คงต้องอดทนหน่อยนะ"
ร่างบางร่ายยาวจนจบ แต่อีกคนก็ไม่มีท่าทีแสดงตอบโต้ใดๆ ทำเพียงแค่เปลี่ยนอิริยาบถจากที่นั่งพิงเก้าอี้มานั่งตัวตรง ริมฝีปากเจ้าตัวพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ยิ้มมันออกมา..
ทงเฮที่เห็นคนตรงหน้าไม่พูดอะไรสักที จึงเริ่มเป็นฝ่ายหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังพยายามระงับอารมณ์ก่อนที่ริมฝีปากสีสดจะเอ่ยต่ออย่างตรงไปตรงมาตามแบบฉบับของ อี ทงเฮ อีกครั้ง
"ดูท่านายก็ไม่ได้จน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะมาเกาะบ้านฉันกิน..และนายก็ไม่ได้ดูโง่ ดังนั้นฉันหวังว่านายคงเข้าใจที่ฉันพูดดี หมดธุระแล้วฉันไปล่ะ"
เสียงประตูถูกเปิดออกทำเอาซองมินที่เพิ่งออกมาได้ไม่ถึงสิบนาทีหันขวับไปมองน้องชายที่เดินมือล้วงกระเป๋ากางเกงในท่าสบายๆอย่างแปลกใจ
แค่ห้องไม่ถล่มก็ว่าแปลกแล้ว
นี่ออกมาดูยิ้มร่าเริงอีก
หรือทงเฮมันติดใจคิบอมจริงๆ?!!
"จะไปไหนทงเฮ? "
"ก็เสร็จแล้วนิ ผมไปล่ะ"เด็กหนุ่มตัวแสบไม่รอช้าให้พี่ชายได้ซักไซร้ไตร่ถามอะไรทั้งสิ้น ขาเพรียวพาร่างของตนเดินตัวปลิวออกไปจากโรงแรมหรูอย่างรวดเร็ว
ซองมินที่ดูแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น้อย รีบเดินเข้าไปยังห้องรับรองนั่นอย่างไม่รอช้า
"เกิดอะไรขึ้นคิบอม? "
ชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้ากำลังพยายามกลั้นหัวเราะสุดความสามารถ ก่อนจะเงยหน้าสบตาหวานที่กำลังจ้องมาอย่างสงสัยใคร่รู้และเอ่ยตอบเสียงนุ่ม
"น่ารักดีนะ"
.
.
.
Fiction : Hot Doctor, Mean Patient #2
Pairing : KibumXDonghae, KyuhyunXSungmin
Rate : ประถม 4
Author: Deumbeui
Author’s note: ทงเฮจะแสบได้แค่ไหนกันในตอนนี้? แถมมีคู่เพิ่มอีก เฮิกๆ ไปอ่านกันเลยดีกว่า(ยีฮ่า)
"คิดอะไรอยู่ครับ? "
เสียง ทุ่มนุ้มลึกดังขึ้นข้างใบหู..มือใหญ่ซุกซนวาดไปรอบเอวบางพร้อมๆกับที่หลัง เล็กถูกดึงเข้าไปแนบชิดกับอกกว้างของร่างสูงที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง..
"เรื่อง ทงเฮน่ะสิ"คนที่ถูกรั้งเข้าสู่อ้อมกอดตอบพลางคนกาแฟในมือไปเรื่อย..ใบหน้า เอียงเล็กน้อยให้คนที่อยู่ด้านหลังฝังจมูกลงกับซอกคอหอมได้อย่างถนัดถนี่
"หือ? ทงเฮ? ทำไมไอ้คิบอมมันทำอะไรทงเฮหรอ? "ถามพลางหมุนร่างเล็กให้หันมาเผชิญหน้า มือใหญ่ที่โอบล้อมเอวบางไว้ตอนแรกเปลี่ยนไปท้าววางบนกำแพงคร่อมร่างบางให้ อยู่ในอ้อมแขน..มือที่วางอีกข้างล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงสีดำสนิท..ใบหน้า หล่อเหลายื่นเข้าใกล้คนตรงหน้าอย่างไม่เกรงใจ..
"ทงเฮน่ะสิทำอะไรคิ บอมมากกว่า"อีกคนยังคงหัวหมุนคิดหนัก มือยังคงคนกาแฟต่อไปอย่างเหม่อลอยไม่ได้ใส่ใจคนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าที่เลื่อน ตัวเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ..
"ทงเฮนี่นะ จะทำอะไรคิบอม? "มือใหญ่ถือวิสาสะยึดเอาแก้วกาแฟในมือเล็กวางลงบนโต๊ะข้างตัว...ซองมิน ได้สติเงยหน้ามองตาคมอย่างจนปัญญากับเรื่องน้องชายของตน มือเรียวเล็กพาดขึ้นคล้องคอคนรักอย่างออดอ้อน
"ก็นั่นสิ ฉันถึงคิดไม่ตกอยู่นี่ไง คยูถามคิบอมทีสิ วันนั้นฉันถามเท่าไรก็ไม่พูดอะไร นอกจากยิ้มตาหยีหัวเราะอยู่นั่นแล่ะ"
"แล้วทงเฮว่าไงล่ะ? "ถามพลางเอาจมูกโด่งฝังลงกับแก้มขาวนิ่มของอีกคน..ร่างเล็กตรงหน้ารั้งคอหนาใกล้เข้าตัวมากขึ้นก่อนเอ่ยตอบเสียงใส
"ก็ไม่เห็นว่าอะไรน่ะสิ แถมยิ้มร่าเริงกว่าเดิมอีก แม่อารมณ์เดือดจะแย่แล้วยิ่งคิบอมหายหัวไปเลยด้วยแบบนี้น่ะ... "
"งั้น..เอาเป็นว่า..ไว้ผมถามให้นะครับ"
ร่าง เล็กยิ้มสวยก่อนจะให้รางวัลกับคำตอบที่น่าพอใจด้วยจูบหวานๆซึ่งคนตรงหน้าก็ ยินดีรับมันเป็นอย่างยิ่ง..ริมฝีปากใหญ่ประกบปากแดงอิ่มอย่างไม่รีรอ...ขโมย ความหอมหวานที่ไม่มีวันสิ้นสุด ชายหนุ่มเอากำไรกับริมฝีปากแดงนั่นจนแทบลืมเวลา จนเมื่อถูกประท้วงด้วยเสียงหอบหายใจของคนรักนั่นแล่ะ คยูฮยอนจึงยอมถอนริมฝีปากออก..แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเฝ้าคลอเคลียแทะเล็ม หาความหวานจากริมฝีปากอิ่มนั่นไม่ห่าง..
"หวานเกรงใจคนอื่นบ้างก็ได้นะ"
ค ยูฮยอนและซองมินมองหาต้นเสียงที่ขัดจังหวะขึ้นก็พบกับหนุ่มหล่อที่ยื่นเอา มือล้วงกระเป๋ากางเกงยิ้มตาหยีเป็นแบบฉบับอยู่ที่ประตูห่างออกไปไม่ไกลจาก พวกเขาเท่าใดนัก
"ทำไม? อิจฉางั้นสิ? "
คิบอมส่ายหัวให้กับท่าทียียวนกวนส้น*นของเพื่อนรัก...
"คิ บอม..ตกลงจะเอายังไง?..แม่ฉันจะจิกทึ้งหัวตัวเองตายแล้วนะ"ซองมินที่เฝ้า คิดถึงเรื่องนี้จนแก้มจะระเบิดผละออกจากคนรักเล็กน้อยคนจะถามด้วยน้ำเสียง จริงจัง..
"พรุ่งนี้คุณน้าอยู่บ้านรึเปล่า? "ชายหนุ่มไม่ตอบแต่กลับป้อนคำถามใส่คนตัวเล็กกลับ ทำเอาอีกคนขมวดคิ้วงุนงงยิ่งเข้าไปอีก..
"อยู่...ทำไมหรอ? "
คิ บอมไม่ตอบอะไร นอกเสียจากยิ้มหล่อแบบเคยก่อนจะหมุนตัวหันหลังเดินจากไป..ทิ้งให้ซองมินถาม คำถามเอากับคนรักที่ก็ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี..
"คยู...เพื่อนนายนี่สติดีรึเปล่าเนี่ย? "
.
.
.
เช้า วันสุดสัปดาห์ที่ใครบางคนรอคอยในที่สุดก็มาถึง ลูกชายคนเล็กของบ้านตระกูลอีเตรียมพร้อมเต็มที่ที่จะนอนเหยียดกายอยู่บ้าน อย่างเกียจคร้านและเล่นเกมส์ให้สมใจอยากทั้งวัน..
ทงเฮอยู่ในสภาพ เสื้อยืดสีขาวยับยู่ยี่กับกางเกงขาสั้นที่ไม่ได้เปลี่ยนเลยตั้งแต่เย็นวาน โดยใส่นอนทั้งแบบนั้นเพราะหลับคาเกมส์เพลย์เมื่อคืน..เด็กหนุ่มกำลังเดินลง บันไดเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องครัวหาอะไรตกถึงท้องก่อนที่จะกลับไปรบกับเกมส์ บนห้องตัวเองต่อ...
แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องพังลงเมื่อเสียงประกาศิตของผู้เป็นเจ้าของบ้านดังขึ้น..
"ทงเฮ..มานี่ซิลูก"
เด็กหนุ่มหมุนตัวกลับก่อนจะจำใจเดินไปอีกทางหนึ่งตามเสียงของผู้เป็นแม่มุ่งหน้าไปยังห้องรับแขก
"อะไรแม่...ผม.. "
ตึง!
"อ้าว ยืนนิ่งทำไมล่ะ?..แล้วนั่นอะไร เพิ่งตื่นใช่มั้ยเนี่ย? รีบๆไปอาบน้ำแต่งตัวเลยนะ คิบอมมารอนานมากแล้ว...นัดกันและทำไมปล่อยให้คิบอมรอแบบนี้ล่ะ มันไม่ดีนะทงเฮ.."
"นะ..นัด?.. "
"ก็ใช่น่ะสิ จะไปตรวจสุขภาพกันไม่ใช่หรอ? แม่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าลูกป่วยเป็นโรคทำนองเทือกนี้ด้วย...ไอ้มือชาง่าย เนี่ย..ยังไงก็รีบๆไปตรวจเถอะ...คิบอมแม่ฝากทงเฮด้วยนะจ๊ะ"
..........
...................
"ฉันจะออกไปกับนายถึงแค่หน้าปากซอยเท่านั้น และนายก็ปล่อยฉันลงซะ เข้าใจมั้ย?! "
ไร้ซึ่งคำตอบ...
ชายหนุ่มข้างตัวทงเฮสตาร์ทรถอย่างสบายอารมณ์..มือใหญ่เลื่อนเกียร์คล่องแคล่วอย่างชำนาญ..ก่อนเหยียบคันเร่งเคลื่อนตัวรถออกจากบ้านไป..
"นี่ นาย! หูตึงปากเป็นใบ้รึไง?! "
"…….."
"ฮึ้ย!..ไอ้คิม คิบอมตาตี่แก้มแตก!!! ฉันถามว่าได้ยินมั้ย!!!!????? "
"ได้ยินครับ"
ชายหนุ่มหันหน้ามาสบตา...ยิ้มหล่อตอบคำถามเสียงนุ่มนวลก่อนจะหันกลับไปสนใจทางข้างหน้าต่อ..
"ไม่รอโลกระเบิดแล้วค่อยตอบล่ะห๊ะ?! เป็นบ้ารึไง?! "
"เปล่า ก็ผมจะไปรู้ได้ไงว่าทงเฮคุยกับใคร..ไม่ได้เรียกชื่อผมนิครับ"
บ๊ะ!
ไอ้นี่วอนตีนซะแล้ว
อยู่กันสองคน
จะให้ฉันคุยกับเบาะรถนายรึไงเล่า!!??
"ถึง แล้ว..จอดรถ!"เด็กหนุ่มกระแทกเสียงออกคำสั่งไม่พอใจเมื่อถึงบริเวณหน้าปาก ซอยทางเข้าบ้าน...แต่แทนที่ตัวรถจะชะลอช้าลงและหยุดกลับถูกเร่งเครื่องให้ ออกตัวเร็วขึ้นและเลี้ยวเข้าสู่ถนนใหญ่ทันที...
"นายเป็นบ้าไปแล้วรึไง!!!??...ฉันบอกให้จอดรถไงเล่า! "
"เท่าที่จำได้ ผมไม่ได้ตอบตกลงนะครับ"ชายหนุ่มหันมายิ้มร้ายให้กับคนที่ตอนนี้สีหน้าแทบปาดคอคนได้เลยทีเดียว...
"ฉันไม่ไปโรงพยาบาล..ฉันเอียน เบื่อ ไม่ชอบ"
"งั้นเดี๋ยวเราไปหาอะไรทานด้วยกันก่อนแล้วค่อยแวะเข้าโรงพยาบาลละกันนะครับ.. "
"ฉันบอกว่าฉันไม่ไปไง!? "
"เกรง ว่าจะไม่ได้..ผมต้องไปทำเอกสารการตรวจให้ทงเฮใหม่ พอดีว่าสงสัยประวัติของทงเฮคงหายไปจากโรงพยาบาลเพราะผมติดต่อไปทุกที่แล้ว ไม่มีน่ะครับ.. "
ไอ้นี่..
รู้ทันแล้วยังแกล้งโง่..
มันจะมีได้ยังไง..
ฉันไม่ได้ป่วยเป็นโรคประจำตัวปัญญาอ่อนแบบนั้นสักหน่อย!
"และท่าทางคุณแม่ของทงเฮคงจะไม่อยากพูดถึงเรื่องการป่วยของทงเฮ เพราะผมถามเท่าไร ท่านก็ทำเป็นนึกไม่ออกสักที.. "
เด็กหนุ่มหันควับค้อนตาขวาง
เล่นถึงแม่กันเลยรึไง!!?
"งั้นตกลง..เราไปหาอะไรกินก่อนและค่อยไปตรวจร่างกายกันนะครับ"
^ ^
.
.
.
"รับอะไรดีคะ? "
"ข้าวผัดปูปลาร้าใส่ยอดผักตบชวาโรยกระเทียมกับหัวหอมเยอะๆครับ"
ชาย หนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามเมื่อได้ฟังก็กลั้นหัวเราะสุดฤทธิ์..ปากหนาถูกเม้ม เป็นเส้นตรงกลั้นเสียงอย่างสุดความสามารถ...มือใหญ่ลดเมนูลงและสั่งอาหาร เมนูปกติชนกับพนักงานสาวที่ตอนนี้อึ้งกิมกี่กับออร์เดอร์ของคนตัวเล็กชนิด กู่ไม่กลับไปแล้ว...
"ขอเป็นชุดแรกสองที่ และก็น้ำเปล่านะครับ"คิบอมสั่งอาหารคล่องแคล่วพลางส่งคืนเมนูให้กับพนักงาน สาวก่อนหันออกทางนอกหน้าต่างอมยิ้มอีกครั้ง
ไม่มีใครพูดอะไร ระหว่างรออาหาร ทงเฮนั่งไขว่ห้างทำหน้าบูดบอกบุญไม่รับ...ทุกๆอย่างในตอนนี้มันดูหน้า หงุดหงิดสำหรับทงเฮไปซะหมด โดยเฉพาะไอ้รอยยิ้มหล่อเหลาของคนตรงหน้านี่..
โคดจะน่าหงุดหงิดเลยให้ตายเหอะ!
ทำไมมันน่ามองงี้(วะ)
เมื่ออาหารเสิร์ฟถึงโต๊ะ...ทงเฮถือช้อนส้อมพร้อมสวาปามเต็มที่...
อยากพามากินนัก..
ก็จะกินให้มับราบเรียบหมดตัวไปเลย!
มือเล็กกำลังจะลงมือตักคำแรกเข้าปาก แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร..ก็โดนขัดขึ้นเสียก่อน
"เอ่อ..เดี๋ยว ขอโทษนะครับ อาหารจานนี้เนี่ยไม่ทราบว่าใส่น้ำตาลและน้ำปลากี่ช้อนครับ? "คิบอมเอ่ยถามกับพนักงานเสิร์ฟ
"เอ่อ... "
"พอดี ผมลืมบอกไป แฟนผมเขาค่อนข้างเป็นคนกินยากน่ะครับ ยังไงช่วยทำให้อีกจาน น้ำตาลห้ามเกินสามช้อน น้ำปลาห้ามเกินครึ่งช้อน และน้ำนี่ช่วยเปลี่ยนเป็นน้ำธรรมดาไม่ใส่น้ำแข็งด้วยนะครับ"
!!!!!!
ไอ้หมอนี่จำได้หมดเลยงั้นเรอะ!
ทั้งๆที่ฉันเป็นคนพูดมัน…
แต่จำได้ไม่ถึงแปดพยางค์ด้วยซ้ำ..
และเมื่อกี๊อะไร?
ใครเป็นแฟนใคร??..
ชักจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว!!!
และทำไมฉันถึงด่ามันไม่ออกละวะเนี่ย?!!!
.
.
หลัง จากอิ่มหนำสำราญกับมื้ออาหารแสนอร่อยที่เล่นเอาแทบจะเหมาจานหมดร้านเพราะคน ตัวเล็กที่กินเยี่ยงปอบเข้าสิง..คิบอมก็พาทงเฮไปยังโรงพยาบาลที่ตัวเอง ฝึกงานอยู่เพื่อตรวจร่างกาย..
"ฉันต้องตรวจกี่อย่าง? "เด็กหนุ่มที่อยู่ในชุดคลุมเตรียมตรวจร่างกายกระแทกลงกับเก้าอี้หน้าโต๊ะทำ งานของคิบอม กอดอกถามร่างสูงที่ตอนนี้อยู่ในชุดกาวน์สีขาวน่าหลงใหลอย่างเอาเรื่อง...
"ก็เท่าที่ฟังอาการมาแล้ว..ก็คงต้องตรวจระบบย่อยอาหารภายในและก็กล้ามเนื้อมือ แค่นั้นแล่ะครับ"
แค่นั้นพ่อสิ!
ตั้งแต่ฉันเกิดมาไม่เคยเข้าโรงพยาบาลตรวจห่าบ้าบออะไรแบบนี้เลยสักครั้ง!
ฉันกำลังทำบ้าอะไรวะเนี่ย?!
ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
อี ทงเฮ เอ้ย!?
.
.
.
"ยืนตรงๆสิครับ"
"จะให้ตรงแค่ไหนกัน?! "
อิ่มจนท้องจะระเบิดขนาดนี้...
แค่ยืนได้ไม่ลงไปกองตรงพื้นได้นี่ก็ถือว่าเก่งแค่ไหนแล้ว!?
ร่างสูงส่ายหัวให้กับคนตัวเล็กก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินมาปรับท่าทางให้กับทงเฮ..
"ยืนตัวงอแบบนี้จะเอ๊กซเรย์ได้ยังไงล่ะครับ? "
"ก็ ไม่ต้องทำมันสิ! "ทงเฮตวัดเสียงตอบอย่างไม่ต้องคิด พลางเบี่ยงตัวออกจากวงแขนที่พยายามจะจัดท่าทางเขาให้ยืนตรงตำแหน่งตามที่ ร่างสูงต้องการ
"นิ่งๆสิครับ"
คิบอมจับแข็นเล็กแนบลำตัว ทั้งสองข้างพร้อมกันก่อนจะใช้ความได้เปรียบด้านสรีระร่างกายดันให้คนตัวเล็ก ติดกับผนังด้านหลัง...ใบหน้าทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบ..ต่างคนต่างจ้องตากัน อย่างไม่ลดละ
"ตกลงจะเอ๊กซเรย์ท้องหรือตากันแน่? "
ชายหนุ่มส่งเสียงหึเบาๆ ก่อนจะพูดแผ่วเบาปัดเฉียดริมฝีปากแดงเล็ก
"ตอนนี้ชักอยากเอ๊กซเรย์ปากก่อนซะแล้วสิ..ทงเฮเคยทำมาก่อนรึเปล่าล่ะครับ? "
ยิ้มร้ายถูกจุดขึ้นที่มุมปากเล็ก..ก่อนที่ร่างบางจะเขย่งตัวขึ้นยกมือขึ้นคล้องคอคนตรงหน้า..และเกินกว่าที่คิบอมจะคาดเดา
ริมฝีปากแดงอิ่มก็แนบกับริมฝีปากล่างของตัวเองไปเรียบร้อย!
"ถ้า นายหมายถึงแบบนี้แล้วล่ะก็..ฉันทำจนเบื่อแล้วล่ะ"ปากเล็กผละออกเพียงนิดก่อน จะกระซิบแนบชิดกับริมฝีปากหนาของอีกคน ดวงตาโตที่ถูกหรี่ลงเล็กน้อยจ้องตาสีดำสนิทคนตรงหน้า..
"เฮ้อ..ฉันไม่มีอารมณ์ตรวจแล้วล่ะ..ขอบใจที่เลี้ยงข้าววันนี้ ฉันไปล่ะ"
ว่าแล้วร่างเล็กก็ยิ้มสวยให้ มือที่คล้องคออยู่ละออกจากไหล่กว้าง เบี่ยงตัวออกจากวงแขนก่อนจะเดินหายลับออกจากห้องไป..
สิ้นเสียงปิดประตูแต่ร่างสูงยังคงยืนยิ้มให้กับตัวเองที่เดิม..
มือใหญ่ลูบริมฝีปากอย่างเพลินมือ...
"โกหกไม่แนบเนียนเลยนะ..อี ทงเฮ"
.
.
.
2BC
Pairing : KibumXDonghae
Author: Deumbeui
Author’s note: ฟิกคิเฮเรื่องแรก ยังไงก็ฝากไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ ^ ^
"ไม่มีทาง"
"ลูกต้องไป"
"แม่ฮะ นี่มันจะปาเข้าไป 2010 แล้วนะ เลิกใช้วิธีสมัยยุคไดโนเสาร์สักที"
"ที่แม่ทำแค่นี้ก็ถือว่าไว้หน้าแกแล้วนะ ไม่ใช้วิธีตีหัวลากเข้าถ้ำก็บุญแค่ไหนแล้ว!? "
"แม่! "
ลูกชายคนเล็กของบ้านส่งเสียงดังโวยวายลั่นบ้านสติแตกเมื่อรู้ว่าจะต้องถูกส่งไปดูตัวจับคู่แต่งงาน คิ้วเรียวขมวดเป็นโบว์ทันที ตาโตส่งค้อนวงใหญ่ให้กับผู้เป็นแม่อย่างไม่เกรงกลัว ปากแดงถูกเม้มเป็นเส้นตรงอย่างไม่พอใจ
"ผมเป็นผู้ชายนะ จะให้ไปดูตัวกับผู้ชายได้ไง!? "
"ก็เพราะแกเป็นผู้ชาย กว่าฉันจะหาคนที่เหมาะและยอมรับได้ เส้นเลือดในสมองฉันแทบแตก ดังนั้นแกต้องไปดูตัว อี ทงเฮ! "
ปัง!!!!!!
หญิงสูงอายุทิ้งประโยคไว้แค่นั้นก่อนจะตัดบทสนทนาโดยการปิดประตูใส่หน้าปล่อยให้ลูกชายของตนยืนอ้าปากค้างอยู่ที่เดิมอย่างหัวเสีย
"จ้างให้ก็ไม่มีทาง!! "
วันรุ่งขึ้น
"ทงเฮจะไปไหน? "
"หนีออกจากบ้าน"
เด็กหนุ่มที่เพิ่งก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายลงมาถึงชั้นล่างตอบเสียงฉะฉานด้วยสีหน้าไร้อารมณ์กับพี่ชายหน้าหวานของตนที่นั่งอยู่ที่โซฟาหรูกลางห้องรับแขก…
อีกคนเมื่อได้ยินคำตอบสุดน่ารักจากน้องชายตัวแสบก็ส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะพาตัวเองที่อยู่ในชุดสูทสีขาวสง่างามลุกขึ้นสาวเท้ามายืนตรงหน้า
"รถรออยู่ที่หน้าบ้าน รีบไปกันเถอะ"
"ไปไหน? "
"เร็วๆเข้าเถอะน่ะ จะสิบเอ็ดโมงแล้ว ให้ทางนานรอนานมันจะไม่ดี"
"พี่ซองมิน! "
"ทงเฮก็รู้จักแม่ดีนะ อย่าทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่เลยน่ะ"
"ผมไม่ไป! พี่อยากแต่งนัก ก็ไปเองสิ! "
"ทงเฮ..อย่าดื้อ"เสียงหวานใสในตอนแรกถูกปรับเปลี่ยนเป็นจริงจังเอาการเอางานซึ่งเป็นสัญญาณเตือนคนฟังได้เป็นอย่างดี..ว่าตอนนี้พี่ชายน่ารักหน้าหวานคนนี้น่ะ เอาจริง!
"ชิ! "
เด็กหนุ่มกระแทกกระทั้นฝีเท้าปึงปังอย่างหงุดหงิดออกจากบ้านก่อนจะก้าวขึ้นรถลีมูซีนสามตอนพร้อมปิดประตูเสียงดังชนิดสะเทือนไปสามซอย..ตาสวยสะบัดมองไปอีกทางเมื่อผู้เป็นพี่ก้าวเท้าขึ้นรถ ปากขมุบขมิบกร่นด่าในใจ
"ออกรถเลยครับ"
.
.
.
"นั่งตรงนี้ พี่จะเข้าไปก่อน อย่าคิดจะหนีล่ะ"
ทงเฮกระแทกตัวลงกับโซฟานุ่มภายในร้านอาหารอิตาลีชื่อดังในโรงแรมหรูใจกลางกรุงโซลก่อนที่จะตวัดตามองพี่ชายของตัวเองที่หายเข้าไปในห้องรับรองพิเศษอย่างโมโหร้าย
ร่างเล็กได้แต่นั่งกอดอกไขว่ห้างกระฟัดกระเฟียดเอากับบอดี้การ์ดที่แทบขนมาทั้งบ้านเพื่อมาเฝ้าเขาการณ์นี้โดยเฉพาะ...
ถึงไม่มาตามเฝ้า คนตัวเล็กก็ไม่ได้คิดจะหนีแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าดื้อกับแม่แต่ละครั้ง ผลที่ตามมามันไม่คุ้มทั้งนั้น
เล่นกับแม่ไม่ได้ก็ต้องเล่นกับไอ้คนที่อยู่ในห้องนี้เท่านั้นล่ะ..
ลองเจอฤทธิ์ อี ทงเฮ สักตั้ง
รับรองหงอจนไม่กล้ามาเจอหน้าอีกแน่!
"ทงเฮ"ผ่านไปไม่ถึงห้านาที ซองมินก็โผล่หน้าออกมาจากห้องรับรองนั่นพลางกวักมือเป็นสัญญาณให้ทงเฮเข้าไป..
เด็กหนุ่มสีหน้าบอกบุญไม่รับลุกขึ้นก่อนจะสาวเท้าไปยังประตูห้องรับรองนั่นแต่ยังไม่ทันจะถึงประตูดี ก็ถูกพี่ชายดึงแขนไว้ก่อน
"อย่าคิดจะทำอะไรล่ะ พี่ขอเตือน"
กระซิบบอกแค่นั้นก่อนจะยิ้มหวานส่งน้องชายปิดท้ายและปิดประตูออกไป
เหอะ!
คอยดู
แม่จะอาละวาดให้ร้านพังไปเลย!
ร่างเล็กได้แต่ค้อนให้กับประตูแทนคนที่เพิ่งเดินออกไปก่อนจะหันมาสบตาคมของชายหนุ่มหล่อร้ายกาจตรงหน้า..
ใช่ ทงเฮยอมรับเลยว่าไอ้ผู้ชายที่นั่งหน้านิ่งในชุดสูทสีดำมันขลับตรงหน้าเขานั้นหล่อร้ายแรงอย่างไม่น่าให้อภัย ตาคมดำสนิทที่มองมาทำเอาแก้มร้อนผ่าวแทบระบิด..จมูกโด่งแทงคนตายนั่นรับกับริมฝีปากหยักได้รูปอย่างลงตัว...
ทำไมมันถึงได้ดูดีได้ขนาดนี้นะ!?
ทงเฮเคลื่อนตัวไปด้านหน้าก่อนจะหย่อนกายลงบนเก้าอี้นุ่ม มือเล็กยกขึ้นกอดอก เท้าไขว่ห้าง ต่างคนต่างประชันสายตาต่อกันอย่างไม่ลดละ..
ร่างสูงนั่งนิ่งในท่าสบายๆ หลังกว้างพิงเก้าอี้ใหญ่มือสองข้างวางประสานกันอยู่บนโต๊ะ..นัยน์ตาสีเข้มเอาแต่จดจ้องใบหน้าขาวใสจนเจ้าตัวรู้สึกอัดอัดจนทนไม่ไหวเป็นคนเริ่มเอ่ยปากก่อน
"เป็นหมอสินะ? "ร่างเล็กเปิดประโยคตามที่ได้ฟังจากพี่ชายตัวเองคร่าวๆในรถ
คนตรงข้ามยักคิ้วขึ้นเพียงเล็กน้อย
"ถ้างั้นนายก็น่าจะเข้าใจอะไรได้ดีกับสิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้..."
"ฉันมีโรคประจำตัวแต่เด็ก จะเรียกว่าโรงพยาบาลเป็นบ้านฉันก็ว่าได้ พวกเขาบอกฉันว่าฉันอยู่อาจจะอยู่ได้ไม่เกิน 15 ปี แต่ฉันก็ด้านทนมาจน 20 ปีละ..."
ร่างเล็กเว้นระยะช่วงหนึ่งก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้และส่งยิ้มหวานให้ในประโยคถัดมา
"ฉันน่ะมันพวกตายยาก... "
ร่างสูงตรงหน้า เหลือบหันใบหน้าไปด้านข้างพลางอมยิ้ม...ทำเอาอีกคนขมวดคิ้วฉับ
"ถึงแบบนั้นก็เถอะ..ที่ฉันอยู่ทุกวันนี้ใช่จะทำให้คนอื่นไม่เดือดร้อน..ฉันแพ้อากาศง่าย กินอาหารเผ็ดไม่ได้ น้ำตาลห้ามใส่เกินสามช้อน น้ำปลาห้ามเกินครึ่งช้อน กินได้แต่น้ำอุ่น และที่สำคัญมือฉันชาง่าย จับอะไร ทนอะไรได้ไม่ค่อยนาน ถ้านายอยากจะแต่งกับฉันก็คงต้องอดทนหน่อยนะ"
ร่างบางร่ายยาวจนจบ แต่อีกคนก็ไม่มีท่าทีแสดงตอบโต้ใดๆ ทำเพียงแค่เปลี่ยนอิริยาบถจากที่นั่งพิงเก้าอี้มานั่งตัวตรง ริมฝีปากเจ้าตัวพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ยิ้มมันออกมา..
ทงเฮที่เห็นคนตรงหน้าไม่พูดอะไรสักที จึงเริ่มเป็นฝ่ายหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังพยายามระงับอารมณ์ก่อนที่ริมฝีปากสีสดจะเอ่ยต่ออย่างตรงไปตรงมาตามแบบฉบับของ อี ทงเฮ อีกครั้ง
"ดูท่านายก็ไม่ได้จน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะมาเกาะบ้านฉันกิน..และนายก็ไม่ได้ดูโง่ ดังนั้นฉันหวังว่านายคงเข้าใจที่ฉันพูดดี หมดธุระแล้วฉันไปล่ะ"
เสียงประตูถูกเปิดออกทำเอาซองมินที่เพิ่งออกมาได้ไม่ถึงสิบนาทีหันขวับไปมองน้องชายที่เดินมือล้วงกระเป๋ากางเกงในท่าสบายๆอย่างแปลกใจ
แค่ห้องไม่ถล่มก็ว่าแปลกแล้ว
นี่ออกมาดูยิ้มร่าเริงอีก
หรือทงเฮมันติดใจคิบอมจริงๆ?!!
"จะไปไหนทงเฮ? "
"ก็เสร็จแล้วนิ ผมไปล่ะ"เด็กหนุ่มตัวแสบไม่รอช้าให้พี่ชายได้ซักไซร้ไตร่ถามอะไรทั้งสิ้น ขาเพรียวพาร่างของตนเดินตัวปลิวออกไปจากโรงแรมหรูอย่างรวดเร็ว
ซองมินที่ดูแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น้อย รีบเดินเข้าไปยังห้องรับรองนั่นอย่างไม่รอช้า
"เกิดอะไรขึ้นคิบอม? "
ชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้ากำลังพยายามกลั้นหัวเราะสุดความสามารถ ก่อนจะเงยหน้าสบตาหวานที่กำลังจ้องมาอย่างสงสัยใคร่รู้และเอ่ยตอบเสียงนุ่ม
"น่ารักดีนะ"
.
.
.
Fiction : Hot Doctor, Mean Patient #2
Pairing : KibumXDonghae, KyuhyunXSungmin
Rate : ประถม 4
Author: Deumbeui
Author’s note: ทงเฮจะแสบได้แค่ไหนกันในตอนนี้? แถมมีคู่เพิ่มอีก เฮิกๆ ไปอ่านกันเลยดีกว่า(ยีฮ่า)
"คิดอะไรอยู่ครับ? "
เสียง ทุ่มนุ้มลึกดังขึ้นข้างใบหู..มือใหญ่ซุกซนวาดไปรอบเอวบางพร้อมๆกับที่หลัง เล็กถูกดึงเข้าไปแนบชิดกับอกกว้างของร่างสูงที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง..
"เรื่อง ทงเฮน่ะสิ"คนที่ถูกรั้งเข้าสู่อ้อมกอดตอบพลางคนกาแฟในมือไปเรื่อย..ใบหน้า เอียงเล็กน้อยให้คนที่อยู่ด้านหลังฝังจมูกลงกับซอกคอหอมได้อย่างถนัดถนี่
"หือ? ทงเฮ? ทำไมไอ้คิบอมมันทำอะไรทงเฮหรอ? "ถามพลางหมุนร่างเล็กให้หันมาเผชิญหน้า มือใหญ่ที่โอบล้อมเอวบางไว้ตอนแรกเปลี่ยนไปท้าววางบนกำแพงคร่อมร่างบางให้ อยู่ในอ้อมแขน..มือที่วางอีกข้างล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงสีดำสนิท..ใบหน้า หล่อเหลายื่นเข้าใกล้คนตรงหน้าอย่างไม่เกรงใจ..
"ทงเฮน่ะสิทำอะไรคิ บอมมากกว่า"อีกคนยังคงหัวหมุนคิดหนัก มือยังคงคนกาแฟต่อไปอย่างเหม่อลอยไม่ได้ใส่ใจคนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าที่เลื่อน ตัวเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ..
"ทงเฮนี่นะ จะทำอะไรคิบอม? "มือใหญ่ถือวิสาสะยึดเอาแก้วกาแฟในมือเล็กวางลงบนโต๊ะข้างตัว...ซองมิน ได้สติเงยหน้ามองตาคมอย่างจนปัญญากับเรื่องน้องชายของตน มือเรียวเล็กพาดขึ้นคล้องคอคนรักอย่างออดอ้อน
"ก็นั่นสิ ฉันถึงคิดไม่ตกอยู่นี่ไง คยูถามคิบอมทีสิ วันนั้นฉันถามเท่าไรก็ไม่พูดอะไร นอกจากยิ้มตาหยีหัวเราะอยู่นั่นแล่ะ"
"แล้วทงเฮว่าไงล่ะ? "ถามพลางเอาจมูกโด่งฝังลงกับแก้มขาวนิ่มของอีกคน..ร่างเล็กตรงหน้ารั้งคอหนาใกล้เข้าตัวมากขึ้นก่อนเอ่ยตอบเสียงใส
"ก็ไม่เห็นว่าอะไรน่ะสิ แถมยิ้มร่าเริงกว่าเดิมอีก แม่อารมณ์เดือดจะแย่แล้วยิ่งคิบอมหายหัวไปเลยด้วยแบบนี้น่ะ... "
"งั้น..เอาเป็นว่า..ไว้ผมถามให้นะครับ"
ร่าง เล็กยิ้มสวยก่อนจะให้รางวัลกับคำตอบที่น่าพอใจด้วยจูบหวานๆซึ่งคนตรงหน้าก็ ยินดีรับมันเป็นอย่างยิ่ง..ริมฝีปากใหญ่ประกบปากแดงอิ่มอย่างไม่รีรอ...ขโมย ความหอมหวานที่ไม่มีวันสิ้นสุด ชายหนุ่มเอากำไรกับริมฝีปากแดงนั่นจนแทบลืมเวลา จนเมื่อถูกประท้วงด้วยเสียงหอบหายใจของคนรักนั่นแล่ะ คยูฮยอนจึงยอมถอนริมฝีปากออก..แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเฝ้าคลอเคลียแทะเล็ม หาความหวานจากริมฝีปากอิ่มนั่นไม่ห่าง..
"หวานเกรงใจคนอื่นบ้างก็ได้นะ"
ค ยูฮยอนและซองมินมองหาต้นเสียงที่ขัดจังหวะขึ้นก็พบกับหนุ่มหล่อที่ยื่นเอา มือล้วงกระเป๋ากางเกงยิ้มตาหยีเป็นแบบฉบับอยู่ที่ประตูห่างออกไปไม่ไกลจาก พวกเขาเท่าใดนัก
"ทำไม? อิจฉางั้นสิ? "
คิบอมส่ายหัวให้กับท่าทียียวนกวนส้น*นของเพื่อนรัก...
"คิ บอม..ตกลงจะเอายังไง?..แม่ฉันจะจิกทึ้งหัวตัวเองตายแล้วนะ"ซองมินที่เฝ้า คิดถึงเรื่องนี้จนแก้มจะระเบิดผละออกจากคนรักเล็กน้อยคนจะถามด้วยน้ำเสียง จริงจัง..
"พรุ่งนี้คุณน้าอยู่บ้านรึเปล่า? "ชายหนุ่มไม่ตอบแต่กลับป้อนคำถามใส่คนตัวเล็กกลับ ทำเอาอีกคนขมวดคิ้วงุนงงยิ่งเข้าไปอีก..
"อยู่...ทำไมหรอ? "
คิ บอมไม่ตอบอะไร นอกเสียจากยิ้มหล่อแบบเคยก่อนจะหมุนตัวหันหลังเดินจากไป..ทิ้งให้ซองมินถาม คำถามเอากับคนรักที่ก็ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี..
"คยู...เพื่อนนายนี่สติดีรึเปล่าเนี่ย? "
.
.
.
เช้า วันสุดสัปดาห์ที่ใครบางคนรอคอยในที่สุดก็มาถึง ลูกชายคนเล็กของบ้านตระกูลอีเตรียมพร้อมเต็มที่ที่จะนอนเหยียดกายอยู่บ้าน อย่างเกียจคร้านและเล่นเกมส์ให้สมใจอยากทั้งวัน..
ทงเฮอยู่ในสภาพ เสื้อยืดสีขาวยับยู่ยี่กับกางเกงขาสั้นที่ไม่ได้เปลี่ยนเลยตั้งแต่เย็นวาน โดยใส่นอนทั้งแบบนั้นเพราะหลับคาเกมส์เพลย์เมื่อคืน..เด็กหนุ่มกำลังเดินลง บันไดเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องครัวหาอะไรตกถึงท้องก่อนที่จะกลับไปรบกับเกมส์ บนห้องตัวเองต่อ...
แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องพังลงเมื่อเสียงประกาศิตของผู้เป็นเจ้าของบ้านดังขึ้น..
"ทงเฮ..มานี่ซิลูก"
เด็กหนุ่มหมุนตัวกลับก่อนจะจำใจเดินไปอีกทางหนึ่งตามเสียงของผู้เป็นแม่มุ่งหน้าไปยังห้องรับแขก
"อะไรแม่...ผม.. "
ตึง!
"อ้าว ยืนนิ่งทำไมล่ะ?..แล้วนั่นอะไร เพิ่งตื่นใช่มั้ยเนี่ย? รีบๆไปอาบน้ำแต่งตัวเลยนะ คิบอมมารอนานมากแล้ว...นัดกันและทำไมปล่อยให้คิบอมรอแบบนี้ล่ะ มันไม่ดีนะทงเฮ.."
"นะ..นัด?.. "
"ก็ใช่น่ะสิ จะไปตรวจสุขภาพกันไม่ใช่หรอ? แม่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าลูกป่วยเป็นโรคทำนองเทือกนี้ด้วย...ไอ้มือชาง่าย เนี่ย..ยังไงก็รีบๆไปตรวจเถอะ...คิบอมแม่ฝากทงเฮด้วยนะจ๊ะ"
..........
...................
"ฉันจะออกไปกับนายถึงแค่หน้าปากซอยเท่านั้น และนายก็ปล่อยฉันลงซะ เข้าใจมั้ย?! "
ไร้ซึ่งคำตอบ...
ชายหนุ่มข้างตัวทงเฮสตาร์ทรถอย่างสบายอารมณ์..มือใหญ่เลื่อนเกียร์คล่องแคล่วอย่างชำนาญ..ก่อนเหยียบคันเร่งเคลื่อนตัวรถออกจากบ้านไป..
"นี่ นาย! หูตึงปากเป็นใบ้รึไง?! "
"…….."
"ฮึ้ย!..ไอ้คิม คิบอมตาตี่แก้มแตก!!! ฉันถามว่าได้ยินมั้ย!!!!????? "
"ได้ยินครับ"
ชายหนุ่มหันหน้ามาสบตา...ยิ้มหล่อตอบคำถามเสียงนุ่มนวลก่อนจะหันกลับไปสนใจทางข้างหน้าต่อ..
"ไม่รอโลกระเบิดแล้วค่อยตอบล่ะห๊ะ?! เป็นบ้ารึไง?! "
"เปล่า ก็ผมจะไปรู้ได้ไงว่าทงเฮคุยกับใคร..ไม่ได้เรียกชื่อผมนิครับ"
บ๊ะ!
ไอ้นี่วอนตีนซะแล้ว
อยู่กันสองคน
จะให้ฉันคุยกับเบาะรถนายรึไงเล่า!!??
"ถึง แล้ว..จอดรถ!"เด็กหนุ่มกระแทกเสียงออกคำสั่งไม่พอใจเมื่อถึงบริเวณหน้าปาก ซอยทางเข้าบ้าน...แต่แทนที่ตัวรถจะชะลอช้าลงและหยุดกลับถูกเร่งเครื่องให้ ออกตัวเร็วขึ้นและเลี้ยวเข้าสู่ถนนใหญ่ทันที...
"นายเป็นบ้าไปแล้วรึไง!!!??...ฉันบอกให้จอดรถไงเล่า! "
"เท่าที่จำได้ ผมไม่ได้ตอบตกลงนะครับ"ชายหนุ่มหันมายิ้มร้ายให้กับคนที่ตอนนี้สีหน้าแทบปาดคอคนได้เลยทีเดียว...
"ฉันไม่ไปโรงพยาบาล..ฉันเอียน เบื่อ ไม่ชอบ"
"งั้นเดี๋ยวเราไปหาอะไรทานด้วยกันก่อนแล้วค่อยแวะเข้าโรงพยาบาลละกันนะครับ.. "
"ฉันบอกว่าฉันไม่ไปไง!? "
"เกรง ว่าจะไม่ได้..ผมต้องไปทำเอกสารการตรวจให้ทงเฮใหม่ พอดีว่าสงสัยประวัติของทงเฮคงหายไปจากโรงพยาบาลเพราะผมติดต่อไปทุกที่แล้ว ไม่มีน่ะครับ.. "
ไอ้นี่..
รู้ทันแล้วยังแกล้งโง่..
มันจะมีได้ยังไง..
ฉันไม่ได้ป่วยเป็นโรคประจำตัวปัญญาอ่อนแบบนั้นสักหน่อย!
"และท่าทางคุณแม่ของทงเฮคงจะไม่อยากพูดถึงเรื่องการป่วยของทงเฮ เพราะผมถามเท่าไร ท่านก็ทำเป็นนึกไม่ออกสักที.. "
เด็กหนุ่มหันควับค้อนตาขวาง
เล่นถึงแม่กันเลยรึไง!!?
"งั้นตกลง..เราไปหาอะไรกินก่อนและค่อยไปตรวจร่างกายกันนะครับ"
^ ^
.
.
.
"รับอะไรดีคะ? "
"ข้าวผัดปูปลาร้าใส่ยอดผักตบชวาโรยกระเทียมกับหัวหอมเยอะๆครับ"
ชาย หนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามเมื่อได้ฟังก็กลั้นหัวเราะสุดฤทธิ์..ปากหนาถูกเม้ม เป็นเส้นตรงกลั้นเสียงอย่างสุดความสามารถ...มือใหญ่ลดเมนูลงและสั่งอาหาร เมนูปกติชนกับพนักงานสาวที่ตอนนี้อึ้งกิมกี่กับออร์เดอร์ของคนตัวเล็กชนิด กู่ไม่กลับไปแล้ว...
"ขอเป็นชุดแรกสองที่ และก็น้ำเปล่านะครับ"คิบอมสั่งอาหารคล่องแคล่วพลางส่งคืนเมนูให้กับพนักงาน สาวก่อนหันออกทางนอกหน้าต่างอมยิ้มอีกครั้ง
ไม่มีใครพูดอะไร ระหว่างรออาหาร ทงเฮนั่งไขว่ห้างทำหน้าบูดบอกบุญไม่รับ...ทุกๆอย่างในตอนนี้มันดูหน้า หงุดหงิดสำหรับทงเฮไปซะหมด โดยเฉพาะไอ้รอยยิ้มหล่อเหลาของคนตรงหน้านี่..
โคดจะน่าหงุดหงิดเลยให้ตายเหอะ!
ทำไมมันน่ามองงี้(วะ)
เมื่ออาหารเสิร์ฟถึงโต๊ะ...ทงเฮถือช้อนส้อมพร้อมสวาปามเต็มที่...
อยากพามากินนัก..
ก็จะกินให้มับราบเรียบหมดตัวไปเลย!
มือเล็กกำลังจะลงมือตักคำแรกเข้าปาก แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร..ก็โดนขัดขึ้นเสียก่อน
"เอ่อ..เดี๋ยว ขอโทษนะครับ อาหารจานนี้เนี่ยไม่ทราบว่าใส่น้ำตาลและน้ำปลากี่ช้อนครับ? "คิบอมเอ่ยถามกับพนักงานเสิร์ฟ
"เอ่อ... "
"พอดี ผมลืมบอกไป แฟนผมเขาค่อนข้างเป็นคนกินยากน่ะครับ ยังไงช่วยทำให้อีกจาน น้ำตาลห้ามเกินสามช้อน น้ำปลาห้ามเกินครึ่งช้อน และน้ำนี่ช่วยเปลี่ยนเป็นน้ำธรรมดาไม่ใส่น้ำแข็งด้วยนะครับ"
!!!!!!
ไอ้หมอนี่จำได้หมดเลยงั้นเรอะ!
ทั้งๆที่ฉันเป็นคนพูดมัน…
แต่จำได้ไม่ถึงแปดพยางค์ด้วยซ้ำ..
และเมื่อกี๊อะไร?
ใครเป็นแฟนใคร??..
ชักจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว!!!
และทำไมฉันถึงด่ามันไม่ออกละวะเนี่ย?!!!
.
.
หลัง จากอิ่มหนำสำราญกับมื้ออาหารแสนอร่อยที่เล่นเอาแทบจะเหมาจานหมดร้านเพราะคน ตัวเล็กที่กินเยี่ยงปอบเข้าสิง..คิบอมก็พาทงเฮไปยังโรงพยาบาลที่ตัวเอง ฝึกงานอยู่เพื่อตรวจร่างกาย..
"ฉันต้องตรวจกี่อย่าง? "เด็กหนุ่มที่อยู่ในชุดคลุมเตรียมตรวจร่างกายกระแทกลงกับเก้าอี้หน้าโต๊ะทำ งานของคิบอม กอดอกถามร่างสูงที่ตอนนี้อยู่ในชุดกาวน์สีขาวน่าหลงใหลอย่างเอาเรื่อง...
"ก็เท่าที่ฟังอาการมาแล้ว..ก็คงต้องตรวจระบบย่อยอาหารภายในและก็กล้ามเนื้อมือ แค่นั้นแล่ะครับ"
แค่นั้นพ่อสิ!
ตั้งแต่ฉันเกิดมาไม่เคยเข้าโรงพยาบาลตรวจห่าบ้าบออะไรแบบนี้เลยสักครั้ง!
ฉันกำลังทำบ้าอะไรวะเนี่ย?!
ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
อี ทงเฮ เอ้ย!?
.
.
.
"ยืนตรงๆสิครับ"
"จะให้ตรงแค่ไหนกัน?! "
อิ่มจนท้องจะระเบิดขนาดนี้...
แค่ยืนได้ไม่ลงไปกองตรงพื้นได้นี่ก็ถือว่าเก่งแค่ไหนแล้ว!?
ร่างสูงส่ายหัวให้กับคนตัวเล็กก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินมาปรับท่าทางให้กับทงเฮ..
"ยืนตัวงอแบบนี้จะเอ๊กซเรย์ได้ยังไงล่ะครับ? "
"ก็ ไม่ต้องทำมันสิ! "ทงเฮตวัดเสียงตอบอย่างไม่ต้องคิด พลางเบี่ยงตัวออกจากวงแขนที่พยายามจะจัดท่าทางเขาให้ยืนตรงตำแหน่งตามที่ ร่างสูงต้องการ
"นิ่งๆสิครับ"
คิบอมจับแข็นเล็กแนบลำตัว ทั้งสองข้างพร้อมกันก่อนจะใช้ความได้เปรียบด้านสรีระร่างกายดันให้คนตัวเล็ก ติดกับผนังด้านหลัง...ใบหน้าทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบ..ต่างคนต่างจ้องตากัน อย่างไม่ลดละ
"ตกลงจะเอ๊กซเรย์ท้องหรือตากันแน่? "
ชายหนุ่มส่งเสียงหึเบาๆ ก่อนจะพูดแผ่วเบาปัดเฉียดริมฝีปากแดงเล็ก
"ตอนนี้ชักอยากเอ๊กซเรย์ปากก่อนซะแล้วสิ..ทงเฮเคยทำมาก่อนรึเปล่าล่ะครับ? "
ยิ้มร้ายถูกจุดขึ้นที่มุมปากเล็ก..ก่อนที่ร่างบางจะเขย่งตัวขึ้นยกมือขึ้นคล้องคอคนตรงหน้า..และเกินกว่าที่คิบอมจะคาดเดา
ริมฝีปากแดงอิ่มก็แนบกับริมฝีปากล่างของตัวเองไปเรียบร้อย!
"ถ้า นายหมายถึงแบบนี้แล้วล่ะก็..ฉันทำจนเบื่อแล้วล่ะ"ปากเล็กผละออกเพียงนิดก่อน จะกระซิบแนบชิดกับริมฝีปากหนาของอีกคน ดวงตาโตที่ถูกหรี่ลงเล็กน้อยจ้องตาสีดำสนิทคนตรงหน้า..
"เฮ้อ..ฉันไม่มีอารมณ์ตรวจแล้วล่ะ..ขอบใจที่เลี้ยงข้าววันนี้ ฉันไปล่ะ"
ว่าแล้วร่างเล็กก็ยิ้มสวยให้ มือที่คล้องคออยู่ละออกจากไหล่กว้าง เบี่ยงตัวออกจากวงแขนก่อนจะเดินหายลับออกจากห้องไป..
สิ้นเสียงปิดประตูแต่ร่างสูงยังคงยืนยิ้มให้กับตัวเองที่เดิม..
มือใหญ่ลูบริมฝีปากอย่างเพลินมือ...
"โกหกไม่แนบเนียนเลยนะ..อี ทงเฮ"
.
.
.
2BC
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น