ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ FIC]....Hot Doctor, Mean Patient ....[KiHae][KyuMin]

    ลำดับตอนที่ #1 : Shot 1 + Shot 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.67K
      2
      27 ก.ค. 54

    Fiction : Hot Doctor, Mean Patient #1
    Pairing : KibumXDonghae
    Author: Deumbeui
    Author’s note: ฟิกคิเฮเรื่องแรก ยังไงก็ฝากไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ ^ ^


    "ไม่มีทาง"

    "ลูกต้องไป"

    "แม่ฮะ นี่มันจะปาเข้าไป 2010 แล้วนะ เลิกใช้วิธีสมัยยุคไดโนเสาร์สักที"

    "ที่แม่ทำแค่นี้ก็ถือว่าไว้หน้าแกแล้วนะ ไม่ใช้วิธีตีหัวลากเข้าถ้ำก็บุญแค่ไหนแล้ว!? "

    "แม่! "

    ลูกชายคนเล็กของบ้านส่งเสียงดังโวยวายลั่นบ้านสติแตกเมื่อรู้ว่าจะต้องถูกส่งไปดูตัวจับคู่แต่งงาน คิ้วเรียวขมวดเป็นโบว์ทันที ตาโตส่งค้อนวงใหญ่ให้กับผู้เป็นแม่อย่างไม่เกรงกลัว ปากแดงถูกเม้มเป็นเส้นตรงอย่างไม่พอใจ

    "ผมเป็นผู้ชายนะ จะให้ไปดูตัวกับผู้ชายได้ไง!? "

    "ก็เพราะแกเป็นผู้ชาย กว่าฉันจะหาคนที่เหมาะและยอมรับได้ เส้นเลือดในสมองฉันแทบแตก ดังนั้นแกต้องไปดูตัว อี ทงเฮ! "


    ปัง!!!!!!


    หญิงสูงอายุทิ้งประโยคไว้แค่นั้นก่อนจะตัดบทสนทนาโดยการปิดประตูใส่หน้าปล่อยให้ลูกชายของตนยืนอ้าปากค้างอยู่ที่เดิมอย่างหัวเสีย

    "จ้างให้ก็ไม่มีทาง!! "



    วันรุ่งขึ้น


    "ทงเฮจะไปไหน? "

    "หนีออกจากบ้าน"

    เด็กหนุ่มที่เพิ่งก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายลงมาถึงชั้นล่างตอบเสียงฉะฉานด้วยสีหน้าไร้อารมณ์กับพี่ชายหน้าหวานของตนที่นั่งอยู่ที่โซฟาหรูกลางห้องรับแขก…

    อีกคนเมื่อได้ยินคำตอบสุดน่ารักจากน้องชายตัวแสบก็ส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะพาตัวเองที่อยู่ในชุดสูทสีขาวสง่างามลุกขึ้นสาวเท้ามายืนตรงหน้า

    "รถรออยู่ที่หน้าบ้าน รีบไปกันเถอะ"

    "ไปไหน? "

    "เร็วๆเข้าเถอะน่ะ จะสิบเอ็ดโมงแล้ว ให้ทางนานรอนานมันจะไม่ดี"

    "พี่ซองมิน! "

    "ทงเฮก็รู้จักแม่ดีนะ อย่าทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่เลยน่ะ"

    "ผมไม่ไป! พี่อยากแต่งนัก ก็ไปเองสิ! "

    "ทงเฮ..อย่าดื้อ"เสียงหวานใสในตอนแรกถูกปรับเปลี่ยนเป็นจริงจังเอาการเอางานซึ่งเป็นสัญญาณเตือนคนฟังได้เป็นอย่างดี..ว่าตอนนี้พี่ชายน่ารักหน้าหวานคนนี้น่ะ เอาจริง!

    "ชิ! "


    เด็กหนุ่มกระแทกกระทั้นฝีเท้าปึงปังอย่างหงุดหงิดออกจากบ้านก่อนจะก้าวขึ้นรถลีมูซีนสามตอนพร้อมปิดประตูเสียงดังชนิดสะเทือนไปสามซอย..ตาสวยสะบัดมองไปอีกทางเมื่อผู้เป็นพี่ก้าวเท้าขึ้นรถ ปากขมุบขมิบกร่นด่าในใจ

    "ออกรถเลยครับ"

    .
    .
    .

    "นั่งตรงนี้ พี่จะเข้าไปก่อน อย่าคิดจะหนีล่ะ"

    ทงเฮกระแทกตัวลงกับโซฟานุ่มภายในร้านอาหารอิตาลีชื่อดังในโรงแรมหรูใจกลางกรุงโซลก่อนที่จะตวัดตามองพี่ชายของตัวเองที่หายเข้าไปในห้องรับรองพิเศษอย่างโมโหร้าย

    ร่างเล็กได้แต่นั่งกอดอกไขว่ห้างกระฟัดกระเฟียดเอากับบอดี้การ์ดที่แทบขนมาทั้งบ้านเพื่อมาเฝ้าเขาการณ์นี้โดยเฉพาะ...

    ถึงไม่มาตามเฝ้า คนตัวเล็กก็ไม่ได้คิดจะหนีแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าดื้อกับแม่แต่ละครั้ง ผลที่ตามมามันไม่คุ้มทั้งนั้น


    เล่นกับแม่ไม่ได้ก็ต้องเล่นกับไอ้คนที่อยู่ในห้องนี้เท่านั้นล่ะ..

    ลองเจอฤทธิ์ อี ทงเฮ สักตั้ง

    รับรองหงอจนไม่กล้ามาเจอหน้าอีกแน่!


    "ทงเฮ"ผ่านไปไม่ถึงห้านาที ซองมินก็โผล่หน้าออกมาจากห้องรับรองนั่นพลางกวักมือเป็นสัญญาณให้ทงเฮเข้าไป..

    เด็กหนุ่มสีหน้าบอกบุญไม่รับลุกขึ้นก่อนจะสาวเท้าไปยังประตูห้องรับรองนั่นแต่ยังไม่ทันจะถึงประตูดี ก็ถูกพี่ชายดึงแขนไว้ก่อน

    "อย่าคิดจะทำอะไรล่ะ พี่ขอเตือน"

    กระซิบบอกแค่นั้นก่อนจะยิ้มหวานส่งน้องชายปิดท้ายและปิดประตูออกไป


    เหอะ!

    คอยดู

    แม่จะอาละวาดให้ร้านพังไปเลย!


    ร่างเล็กได้แต่ค้อนให้กับประตูแทนคนที่เพิ่งเดินออกไปก่อนจะหันมาสบตาคมของชายหนุ่มหล่อร้ายกาจตรงหน้า..

    ใช่ ทงเฮยอมรับเลยว่าไอ้ผู้ชายที่นั่งหน้านิ่งในชุดสูทสีดำมันขลับตรงหน้าเขานั้นหล่อร้ายแรงอย่างไม่น่าให้อภัย ตาคมดำสนิทที่มองมาทำเอาแก้มร้อนผ่าวแทบระบิด..จมูกโด่งแทงคนตายนั่นรับกับริมฝีปากหยักได้รูปอย่างลงตัว...

    ทำไมมันถึงได้ดูดีได้ขนาดนี้นะ!?


    ทงเฮเคลื่อนตัวไปด้านหน้าก่อนจะหย่อนกายลงบนเก้าอี้นุ่ม มือเล็กยกขึ้นกอดอก เท้าไขว่ห้าง ต่างคนต่างประชันสายตาต่อกันอย่างไม่ลดละ..

    ร่างสูงนั่งนิ่งในท่าสบายๆ หลังกว้างพิงเก้าอี้ใหญ่มือสองข้างวางประสานกันอยู่บนโต๊ะ..นัยน์ตาสีเข้มเอาแต่จดจ้องใบหน้าขาวใสจนเจ้าตัวรู้สึกอัดอัดจนทนไม่ไหวเป็นคนเริ่มเอ่ยปากก่อน


    "เป็นหมอสินะ? "ร่างเล็กเปิดประโยคตามที่ได้ฟังจากพี่ชายตัวเองคร่าวๆในรถ

    คนตรงข้ามยักคิ้วขึ้นเพียงเล็กน้อย


    "ถ้างั้นนายก็น่าจะเข้าใจอะไรได้ดีกับสิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้..."

    "ฉันมีโรคประจำตัวแต่เด็ก จะเรียกว่าโรงพยาบาลเป็นบ้านฉันก็ว่าได้ พวกเขาบอกฉันว่าฉันอยู่อาจจะอยู่ได้ไม่เกิน 15 ปี แต่ฉันก็ด้านทนมาจน 20 ปีละ..."

    ร่างเล็กเว้นระยะช่วงหนึ่งก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้และส่งยิ้มหวานให้ในประโยคถัดมา

    "ฉันน่ะมันพวกตายยาก... "

    ร่างสูงตรงหน้า เหลือบหันใบหน้าไปด้านข้างพลางอมยิ้ม...ทำเอาอีกคนขมวดคิ้วฉับ


    "ถึงแบบนั้นก็เถอะ..ที่ฉันอยู่ทุกวันนี้ใช่จะทำให้คนอื่นไม่เดือดร้อน..ฉันแพ้อากาศง่าย กินอาหารเผ็ดไม่ได้ น้ำตาลห้ามใส่เกินสามช้อน น้ำปลาห้ามเกินครึ่งช้อน กินได้แต่น้ำอุ่น และที่สำคัญมือฉันชาง่าย จับอะไร ทนอะไรได้ไม่ค่อยนาน ถ้านายอยากจะแต่งกับฉันก็คงต้องอดทนหน่อยนะ"

    ร่างบางร่ายยาวจนจบ แต่อีกคนก็ไม่มีท่าทีแสดงตอบโต้ใดๆ ทำเพียงแค่เปลี่ยนอิริยาบถจากที่นั่งพิงเก้าอี้มานั่งตัวตรง ริมฝีปากเจ้าตัวพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ยิ้มมันออกมา..

    ทงเฮที่เห็นคนตรงหน้าไม่พูดอะไรสักที จึงเริ่มเป็นฝ่ายหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังพยายามระงับอารมณ์ก่อนที่ริมฝีปากสีสดจะเอ่ยต่ออย่างตรงไปตรงมาตามแบบฉบับของ อี ทงเฮ อีกครั้ง

    "ดูท่านายก็ไม่ได้จน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะมาเกาะบ้านฉันกิน..และนายก็ไม่ได้ดูโง่ ดังนั้นฉันหวังว่านายคงเข้าใจที่ฉันพูดดี หมดธุระแล้วฉันไปล่ะ"

    เสียงประตูถูกเปิดออกทำเอาซองมินที่เพิ่งออกมาได้ไม่ถึงสิบนาทีหันขวับไปมองน้องชายที่เดินมือล้วงกระเป๋ากางเกงในท่าสบายๆอย่างแปลกใจ


    แค่ห้องไม่ถล่มก็ว่าแปลกแล้ว

    นี่ออกมาดูยิ้มร่าเริงอีก

    หรือทงเฮมันติดใจคิบอมจริงๆ?!!


    "จะไปไหนทงเฮ? "

    "ก็เสร็จแล้วนิ ผมไปล่ะ"เด็กหนุ่มตัวแสบไม่รอช้าให้พี่ชายได้ซักไซร้ไตร่ถามอะไรทั้งสิ้น ขาเพรียวพาร่างของตนเดินตัวปลิวออกไปจากโรงแรมหรูอย่างรวดเร็ว

    ซองมินที่ดูแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น้อย รีบเดินเข้าไปยังห้องรับรองนั่นอย่างไม่รอช้า


    "เกิดอะไรขึ้นคิบอม? "

    ชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้ากำลังพยายามกลั้นหัวเราะสุดความสามารถ ก่อนจะเงยหน้าสบตาหวานที่กำลังจ้องมาอย่างสงสัยใคร่รู้และเอ่ยตอบเสียงนุ่ม



    "น่ารักดีนะ"



    .
    .
    .






    Fiction : Hot Doctor, Mean Patient #2
    Pairing : KibumXDonghae, KyuhyunXSungmin
    Rate : ประถม 4
    Author: Deumbeui
    Author’s note: ทงเฮจะแสบได้แค่ไหนกันในตอนนี้? แถมมีคู่เพิ่มอีก เฮิกๆ ไปอ่านกันเลยดีกว่า(ยีฮ่า)


    "คิดอะไรอยู่ครับ? "

    เสียง ทุ่มนุ้มลึกดังขึ้นข้างใบหู..มือใหญ่ซุกซนวาดไปรอบเอวบางพร้อมๆกับที่หลัง เล็กถูกดึงเข้าไปแนบชิดกับอกกว้างของร่างสูงที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง..

    "เรื่อง ทงเฮน่ะสิ"คนที่ถูกรั้งเข้าสู่อ้อมกอดตอบพลางคนกาแฟในมือไปเรื่อย..ใบหน้า เอียงเล็กน้อยให้คนที่อยู่ด้านหลังฝังจมูกลงกับซอกคอหอมได้อย่างถนัดถนี่

    "หือ? ทงเฮ? ทำไมไอ้คิบอมมันทำอะไรทงเฮหรอ? "ถามพลางหมุนร่างเล็กให้หันมาเผชิญหน้า มือใหญ่ที่โอบล้อมเอวบางไว้ตอนแรกเปลี่ยนไปท้าววางบนกำแพงคร่อมร่างบางให้ อยู่ในอ้อมแขน..มือที่วางอีกข้างล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงสีดำสนิท..ใบหน้า หล่อเหลายื่นเข้าใกล้คนตรงหน้าอย่างไม่เกรงใจ..

    "ทงเฮน่ะสิทำอะไรคิ บอมมากกว่า"อีกคนยังคงหัวหมุนคิดหนัก มือยังคงคนกาแฟต่อไปอย่างเหม่อลอยไม่ได้ใส่ใจคนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าที่เลื่อน ตัวเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ..

    "ทงเฮนี่นะ จะทำอะไรคิบอม? "มือใหญ่ถือวิสาสะยึดเอาแก้วกาแฟในมือเล็กวางลงบนโต๊ะข้างตัว...ซองมิน ได้สติเงยหน้ามองตาคมอย่างจนปัญญากับเรื่องน้องชายของตน มือเรียวเล็กพาดขึ้นคล้องคอคนรักอย่างออดอ้อน

    "ก็นั่นสิ ฉันถึงคิดไม่ตกอยู่นี่ไง คยูถามคิบอมทีสิ วันนั้นฉันถามเท่าไรก็ไม่พูดอะไร นอกจากยิ้มตาหยีหัวเราะอยู่นั่นแล่ะ"

    "แล้วทงเฮว่าไงล่ะ? "ถามพลางเอาจมูกโด่งฝังลงกับแก้มขาวนิ่มของอีกคน..ร่างเล็กตรงหน้ารั้งคอหนาใกล้เข้าตัวมากขึ้นก่อนเอ่ยตอบเสียงใส

    "ก็ไม่เห็นว่าอะไรน่ะสิ แถมยิ้มร่าเริงกว่าเดิมอีก แม่อารมณ์เดือดจะแย่แล้วยิ่งคิบอมหายหัวไปเลยด้วยแบบนี้น่ะ... "

    "งั้น..เอาเป็นว่า..ไว้ผมถามให้นะครับ"

    ร่าง เล็กยิ้มสวยก่อนจะให้รางวัลกับคำตอบที่น่าพอใจด้วยจูบหวานๆซึ่งคนตรงหน้าก็ ยินดีรับมันเป็นอย่างยิ่ง..ริมฝีปากใหญ่ประกบปากแดงอิ่มอย่างไม่รีรอ...ขโมย ความหอมหวานที่ไม่มีวันสิ้นสุด ชายหนุ่มเอากำไรกับริมฝีปากแดงนั่นจนแทบลืมเวลา จนเมื่อถูกประท้วงด้วยเสียงหอบหายใจของคนรักนั่นแล่ะ คยูฮยอนจึงยอมถอนริมฝีปากออก..แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเฝ้าคลอเคลียแทะเล็ม หาความหวานจากริมฝีปากอิ่มนั่นไม่ห่าง..


    "หวานเกรงใจคนอื่นบ้างก็ได้นะ"



    ค ยูฮยอนและซองมินมองหาต้นเสียงที่ขัดจังหวะขึ้นก็พบกับหนุ่มหล่อที่ยื่นเอา มือล้วงกระเป๋ากางเกงยิ้มตาหยีเป็นแบบฉบับอยู่ที่ประตูห่างออกไปไม่ไกลจาก พวกเขาเท่าใดนัก

    "ทำไม? อิจฉางั้นสิ? "


    คิบอมส่ายหัวให้กับท่าทียียวนกวนส้น*นของเพื่อนรัก...


    "คิ บอม..ตกลงจะเอายังไง?..แม่ฉันจะจิกทึ้งหัวตัวเองตายแล้วนะ"ซองมินที่เฝ้า คิดถึงเรื่องนี้จนแก้มจะระเบิดผละออกจากคนรักเล็กน้อยคนจะถามด้วยน้ำเสียง จริงจัง..

    "พรุ่งนี้คุณน้าอยู่บ้านรึเปล่า? "ชายหนุ่มไม่ตอบแต่กลับป้อนคำถามใส่คนตัวเล็กกลับ ทำเอาอีกคนขมวดคิ้วงุนงงยิ่งเข้าไปอีก..

    "อยู่...ทำไมหรอ? "


    คิ บอมไม่ตอบอะไร นอกเสียจากยิ้มหล่อแบบเคยก่อนจะหมุนตัวหันหลังเดินจากไป..ทิ้งให้ซองมินถาม คำถามเอากับคนรักที่ก็ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี..


    "คยู...เพื่อนนายนี่สติดีรึเปล่าเนี่ย? "


    .
    .
    .



    เช้า วันสุดสัปดาห์ที่ใครบางคนรอคอยในที่สุดก็มาถึง ลูกชายคนเล็กของบ้านตระกูลอีเตรียมพร้อมเต็มที่ที่จะนอนเหยียดกายอยู่บ้าน อย่างเกียจคร้านและเล่นเกมส์ให้สมใจอยากทั้งวัน..

    ทงเฮอยู่ในสภาพ เสื้อยืดสีขาวยับยู่ยี่กับกางเกงขาสั้นที่ไม่ได้เปลี่ยนเลยตั้งแต่เย็นวาน โดยใส่นอนทั้งแบบนั้นเพราะหลับคาเกมส์เพลย์เมื่อคืน..เด็กหนุ่มกำลังเดินลง บันไดเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องครัวหาอะไรตกถึงท้องก่อนที่จะกลับไปรบกับเกมส์ บนห้องตัวเองต่อ...

    แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องพังลงเมื่อเสียงประกาศิตของผู้เป็นเจ้าของบ้านดังขึ้น..


    "ทงเฮ..มานี่ซิลูก"

    เด็กหนุ่มหมุนตัวกลับก่อนจะจำใจเดินไปอีกทางหนึ่งตามเสียงของผู้เป็นแม่มุ่งหน้าไปยังห้องรับแขก


    "อะไรแม่...ผม.. "




    ตึง!




    "อ้าว ยืนนิ่งทำไมล่ะ?..แล้วนั่นอะไร เพิ่งตื่นใช่มั้ยเนี่ย? รีบๆไปอาบน้ำแต่งตัวเลยนะ คิบอมมารอนานมากแล้ว...นัดกันและทำไมปล่อยให้คิบอมรอแบบนี้ล่ะ มันไม่ดีนะทงเฮ.."

    "นะ..นัด?.. "

    "ก็ใช่น่ะสิ จะไปตรวจสุขภาพกันไม่ใช่หรอ? แม่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าลูกป่วยเป็นโรคทำนองเทือกนี้ด้วย...ไอ้มือชาง่าย เนี่ย..ยังไงก็รีบๆไปตรวจเถอะ...คิบอมแม่ฝากทงเฮด้วยนะจ๊ะ"


    ..........
    ...................



    "ฉันจะออกไปกับนายถึงแค่หน้าปากซอยเท่านั้น และนายก็ปล่อยฉันลงซะ เข้าใจมั้ย?! "


    ไร้ซึ่งคำตอบ...

    ชายหนุ่มข้างตัวทงเฮสตาร์ทรถอย่างสบายอารมณ์..มือใหญ่เลื่อนเกียร์คล่องแคล่วอย่างชำนาญ..ก่อนเหยียบคันเร่งเคลื่อนตัวรถออกจากบ้านไป..


    "นี่ นาย! หูตึงปากเป็นใบ้รึไง?! "

    "…….."


    "ฮึ้ย!..ไอ้คิม คิบอมตาตี่แก้มแตก!!! ฉันถามว่าได้ยินมั้ย!!!!????? "

    "ได้ยินครับ"

    ชายหนุ่มหันหน้ามาสบตา...ยิ้มหล่อตอบคำถามเสียงนุ่มนวลก่อนจะหันกลับไปสนใจทางข้างหน้าต่อ..


    "ไม่รอโลกระเบิดแล้วค่อยตอบล่ะห๊ะ?! เป็นบ้ารึไง?! "

    "เปล่า ก็ผมจะไปรู้ได้ไงว่าทงเฮคุยกับใคร..ไม่ได้เรียกชื่อผมนิครับ"


    บ๊ะ!

    ไอ้นี่วอนตีนซะแล้ว

    อยู่กันสองคน

    จะให้ฉันคุยกับเบาะรถนายรึไงเล่า!!??


    "ถึง แล้ว..จอดรถ!"เด็กหนุ่มกระแทกเสียงออกคำสั่งไม่พอใจเมื่อถึงบริเวณหน้าปาก ซอยทางเข้าบ้าน...แต่แทนที่ตัวรถจะชะลอช้าลงและหยุดกลับถูกเร่งเครื่องให้ ออกตัวเร็วขึ้นและเลี้ยวเข้าสู่ถนนใหญ่ทันที...


    "นายเป็นบ้าไปแล้วรึไง!!!??...ฉันบอกให้จอดรถไงเล่า! "

    "เท่าที่จำได้ ผมไม่ได้ตอบตกลงนะครับ"ชายหนุ่มหันมายิ้มร้ายให้กับคนที่ตอนนี้สีหน้าแทบปาดคอคนได้เลยทีเดียว...

    "ฉันไม่ไปโรงพยาบาล..ฉันเอียน เบื่อ ไม่ชอบ"

    "งั้นเดี๋ยวเราไปหาอะไรทานด้วยกันก่อนแล้วค่อยแวะเข้าโรงพยาบาลละกันนะครับ.. "

    "ฉันบอกว่าฉันไม่ไปไง!? "

    "เกรง ว่าจะไม่ได้..ผมต้องไปทำเอกสารการตรวจให้ทงเฮใหม่ พอดีว่าสงสัยประวัติของทงเฮคงหายไปจากโรงพยาบาลเพราะผมติดต่อไปทุกที่แล้ว ไม่มีน่ะครับ.. "


    ไอ้นี่..

    รู้ทันแล้วยังแกล้งโง่..


    มันจะมีได้ยังไง..

    ฉันไม่ได้ป่วยเป็นโรคประจำตัวปัญญาอ่อนแบบนั้นสักหน่อย!


    "และท่าทางคุณแม่ของทงเฮคงจะไม่อยากพูดถึงเรื่องการป่วยของทงเฮ เพราะผมถามเท่าไร ท่านก็ทำเป็นนึกไม่ออกสักที.. "


    เด็กหนุ่มหันควับค้อนตาขวาง

    เล่นถึงแม่กันเลยรึไง!!?



    "งั้นตกลง..เราไปหาอะไรกินก่อนและค่อยไปตรวจร่างกายกันนะครับ"



    ^ ^



    .
    .
    .



    "รับอะไรดีคะ? "

    "ข้าวผัดปูปลาร้าใส่ยอดผักตบชวาโรยกระเทียมกับหัวหอมเยอะๆครับ"


    ชาย หนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามเมื่อได้ฟังก็กลั้นหัวเราะสุดฤทธิ์..ปากหนาถูกเม้ม เป็นเส้นตรงกลั้นเสียงอย่างสุดความสามารถ...มือใหญ่ลดเมนูลงและสั่งอาหาร เมนูปกติชนกับพนักงานสาวที่ตอนนี้อึ้งกิมกี่กับออร์เดอร์ของคนตัวเล็กชนิด กู่ไม่กลับไปแล้ว...


    "ขอเป็นชุดแรกสองที่ และก็น้ำเปล่านะครับ"คิบอมสั่งอาหารคล่องแคล่วพลางส่งคืนเมนูให้กับพนักงาน สาวก่อนหันออกทางนอกหน้าต่างอมยิ้มอีกครั้ง


    ไม่มีใครพูดอะไร ระหว่างรออาหาร ทงเฮนั่งไขว่ห้างทำหน้าบูดบอกบุญไม่รับ...ทุกๆอย่างในตอนนี้มันดูหน้า หงุดหงิดสำหรับทงเฮไปซะหมด โดยเฉพาะไอ้รอยยิ้มหล่อเหลาของคนตรงหน้านี่..


    โคดจะน่าหงุดหงิดเลยให้ตายเหอะ!

    ทำไมมันน่ามองงี้(วะ)




    เมื่ออาหารเสิร์ฟถึงโต๊ะ...ทงเฮถือช้อนส้อมพร้อมสวาปามเต็มที่...


    อยากพามากินนัก..

    ก็จะกินให้มับราบเรียบหมดตัวไปเลย!



    มือเล็กกำลังจะลงมือตักคำแรกเข้าปาก แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร..ก็โดนขัดขึ้นเสียก่อน


    "เอ่อ..เดี๋ยว ขอโทษนะครับ อาหารจานนี้เนี่ยไม่ทราบว่าใส่น้ำตาลและน้ำปลากี่ช้อนครับ? "คิบอมเอ่ยถามกับพนักงานเสิร์ฟ

    "เอ่อ... "

    "พอดี ผมลืมบอกไป แฟนผมเขาค่อนข้างเป็นคนกินยากน่ะครับ ยังไงช่วยทำให้อีกจาน น้ำตาลห้ามเกินสามช้อน น้ำปลาห้ามเกินครึ่งช้อน และน้ำนี่ช่วยเปลี่ยนเป็นน้ำธรรมดาไม่ใส่น้ำแข็งด้วยนะครับ"


    !!!!!!



    ไอ้หมอนี่จำได้หมดเลยงั้นเรอะ!

    ทั้งๆที่ฉันเป็นคนพูดมัน…

    แต่จำได้ไม่ถึงแปดพยางค์ด้วยซ้ำ..



    และเมื่อกี๊อะไร?

    ใครเป็นแฟนใคร??..


    ชักจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว!!!



    และทำไมฉันถึงด่ามันไม่ออกละวะเนี่ย?!!!


    .
    .


    หลัง จากอิ่มหนำสำราญกับมื้ออาหารแสนอร่อยที่เล่นเอาแทบจะเหมาจานหมดร้านเพราะคน ตัวเล็กที่กินเยี่ยงปอบเข้าสิง..คิบอมก็พาทงเฮไปยังโรงพยาบาลที่ตัวเอง ฝึกงานอยู่เพื่อตรวจร่างกาย..


    "ฉันต้องตรวจกี่อย่าง? "เด็กหนุ่มที่อยู่ในชุดคลุมเตรียมตรวจร่างกายกระแทกลงกับเก้าอี้หน้าโต๊ะทำ งานของคิบอม กอดอกถามร่างสูงที่ตอนนี้อยู่ในชุดกาวน์สีขาวน่าหลงใหลอย่างเอาเรื่อง...

    "ก็เท่าที่ฟังอาการมาแล้ว..ก็คงต้องตรวจระบบย่อยอาหารภายในและก็กล้ามเนื้อมือ แค่นั้นแล่ะครับ"


    แค่นั้นพ่อสิ!

    ตั้งแต่ฉันเกิดมาไม่เคยเข้าโรงพยาบาลตรวจห่าบ้าบออะไรแบบนี้เลยสักครั้ง!


    ฉันกำลังทำบ้าอะไรวะเนี่ย?!


    ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

    อี ทงเฮ เอ้ย!?


    .
    .
    .


    "ยืนตรงๆสิครับ"

    "จะให้ตรงแค่ไหนกัน?! "


    อิ่มจนท้องจะระเบิดขนาดนี้...

    แค่ยืนได้ไม่ลงไปกองตรงพื้นได้นี่ก็ถือว่าเก่งแค่ไหนแล้ว!?


    ร่างสูงส่ายหัวให้กับคนตัวเล็กก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินมาปรับท่าทางให้กับทงเฮ..


    "ยืนตัวงอแบบนี้จะเอ๊กซเรย์ได้ยังไงล่ะครับ? "

    "ก็ ไม่ต้องทำมันสิ! "ทงเฮตวัดเสียงตอบอย่างไม่ต้องคิด พลางเบี่ยงตัวออกจากวงแขนที่พยายามจะจัดท่าทางเขาให้ยืนตรงตำแหน่งตามที่ ร่างสูงต้องการ


    "นิ่งๆสิครับ"

    คิบอมจับแข็นเล็กแนบลำตัว ทั้งสองข้างพร้อมกันก่อนจะใช้ความได้เปรียบด้านสรีระร่างกายดันให้คนตัวเล็ก ติดกับผนังด้านหลัง...ใบหน้าทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบ..ต่างคนต่างจ้องตากัน อย่างไม่ลดละ

    "ตกลงจะเอ๊กซเรย์ท้องหรือตากันแน่? "



    ชายหนุ่มส่งเสียงหึเบาๆ ก่อนจะพูดแผ่วเบาปัดเฉียดริมฝีปากแดงเล็ก

    "ตอนนี้ชักอยากเอ๊กซเรย์ปากก่อนซะแล้วสิ..ทงเฮเคยทำมาก่อนรึเปล่าล่ะครับ? "


    ยิ้มร้ายถูกจุดขึ้นที่มุมปากเล็ก..ก่อนที่ร่างบางจะเขย่งตัวขึ้นยกมือขึ้นคล้องคอคนตรงหน้า..และเกินกว่าที่คิบอมจะคาดเดา



    ริมฝีปากแดงอิ่มก็แนบกับริมฝีปากล่างของตัวเองไปเรียบร้อย!



    "ถ้า นายหมายถึงแบบนี้แล้วล่ะก็..ฉันทำจนเบื่อแล้วล่ะ"ปากเล็กผละออกเพียงนิดก่อน จะกระซิบแนบชิดกับริมฝีปากหนาของอีกคน ดวงตาโตที่ถูกหรี่ลงเล็กน้อยจ้องตาสีดำสนิทคนตรงหน้า..

    "เฮ้อ..ฉันไม่มีอารมณ์ตรวจแล้วล่ะ..ขอบใจที่เลี้ยงข้าววันนี้ ฉันไปล่ะ"


    ว่าแล้วร่างเล็กก็ยิ้มสวยให้ มือที่คล้องคออยู่ละออกจากไหล่กว้าง เบี่ยงตัวออกจากวงแขนก่อนจะเดินหายลับออกจากห้องไป..



    สิ้นเสียงปิดประตูแต่ร่างสูงยังคงยืนยิ้มให้กับตัวเองที่เดิม..

    มือใหญ่ลูบริมฝีปากอย่างเพลินมือ...







    "โกหกไม่แนบเนียนเลยนะ..อี ทงเฮ"





    .
    .
    .






    2BC

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×