ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Heart Racing ท้าหัวใจนายตัวดี

    ลำดับตอนที่ #2 : HEART RACING ll CHAPTER 1 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 60




    Winalai Highschool 
              (  ...) (...  ) 
              ฉันกับยัยเยลลี่จ้องหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตายในห้องเรียน เหตุผลที่ยัยนั้นตามมาดักด่าฉันนะหรอก็เพราะว่ายัยนี้ชอบพี่วายยังไงละคนในห้องก็รู้กันหมด อะไรก็ไม่รู้  รุ่นพี่ไอยูที่เป็นดาวโรงเรียนสวยกว่าตั้งเยอะแถมยังมีแฟนหล่อพ่อรวยอีกต่างหาก ฉันว่าถ้าพี่ไอยูไม่มีแฟน นักเรียนโรงเรียนนี้ก็คงจับคู่จิ้นวาย-ไอยูแน่ๆ ฝ่ายชายก็หล่อแถมเป็นนักกีฬา ส่วนฝ่ายหญิงก็เป็นไอดอลคนดัง 
              คิดแล้วก็อิจฉาคนอะไรดูดีไปหมดทั้งฐานะหน้าตาแถมเดี๋ยวนี้เรียนเก่งขึ้นเป็นกองอีก รวมๆแล้วก็เพอร์เฟค 
              "จะจ้องอีกนานมั้ย?" ฉันถามยัยเยลลี่อย่างเบื่อหน่าย 
              "งั้นแกก็เลิกมองก่อนสิ!" 
              "อืม" ฉันพูดปลงๆสั้นๆพร้อมกับหันหน้าหนีไปทางอื่น ฉันเกลียดความวุ่นวาย เกลียดทุกอย่างที่ทำให้ฉันต้องยุ่งยากและต้องใช้สมอง เพราะมันเหนื่อยแถมสูญเสียพลังงานในร่างกายเยอะด้วย 
              วันนี้เป็นวันที่น่าเบื่อไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมใจมันคิดแต่หมอนั้น...ศึกรบคนแรกที่ขโมยจูบของฉันไป! อย่าได้เจอกันอีกเลย ขอร้องเถอะ คนอะไรน้ำใจไม่มีแถมยังชอบฉวยโอกาสกับผู้หญิง

              "พลอยพิ้งค์!" เสียงคนเรียกจากทางประตูเรียนดังขึ้น ฉันที่กำลังนั่งเหม่ออยู่รีบหันไปดูทันทีมาใครมา 
              "พี่วาย..." เสียงฉันขาดห้วงไปทันทีเมื่อเห็นว่าใครมา พี่วาย...คนที่ทำให้ฉันเจ็บปวดมากที่สุด 
              "พี่..." 
              "พี่วายค๊าาาาาา ~" ยัยเยลลี่ลุกขึ้นจากเก้าอี้และวิ่งเข้าไปเกาะแขนพี่วายอย่างหน้าไม่อาย แต่ยังไงฉันก็ไม่มีสิทธ์ทำอะไรได้อยู่แล้วเพราะฉันไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขานี้ 
              "เอ่อ...น้องครับปล่อยพี่เถอะ" พี่วายทำท่ากระอักกระอวนและพยายามแกะมือปลาหมึกของยัยเยลลี่ออกแบบสุภาพและทุลักทุเลสุดๆ 
              "พี่วายค้าาา ~" 
              "พี่มีอะไรรึเปล่าค่ะ?" ฉันแทรกถามยัยเยลลี่ขึ้นมาอย่างรำคาญ 
              "พี่อยากจะปรับความเข้าใจกับพิ้งค์น่ะ" 
              "ไม่จำเป็นหรอกค่ะ" 
              "พี่ทำอะไรผิดเหรอพิ้งค์บอกพี่มาสิพี่จะได้รู้ว่าควรทำยังไง?" พี่วายถามขึ้นอย่างมีความหวังแววตาตัดพ้อเหมือนต้องการร้องขอฉัน ยัยเยลลี่เห็นท่าทีพี่วายแบบนั้นจึงปล่อยมือและยืนดูนิ่งๆ 
              "เพราะพี่เป็นแบบนี้ไงค่ะ ใจดีกับทุกคนจนพิ้งค์สับสนว่าพี่ทำดีกับพิ้งค์คนเดียวหรือทำแบบนี้...กับทุกคน?" 
              "คือพี่..." 
              "อย่าพยายามเลยค่ะ พิ้งค์ให้โอกาสพี่วายมามากพอแล้ว และพิ้งค์ก็เหนื่อยกับเรื่องนี้มากแล้วด้วย เราจบกันแค่นี้เถอะนะคะ" ฉันตัดบทอย่างเด็ดขาดและเตรียมตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้แต่ก็ถูกพี่วายมาขวางไว้ซ่ะก่อน 
              "พี่ขอโทษ..." 
              "พี่ขอโทษมากี่ครั้งแล้วค่ะ? ลองไปนับมาพี่จะได้เข้าใจสักที" ฉันพูดพร้อมกับเดินเลี่ยงพี่วายแล้วออกไปจากห้องเรียนทันที 
    ตึกๆ~ 
              เสียงเท้าของฉันเดินย่ำสม่ำเสมอและไม่รู้จุดหมายปลายทางว่าควรจะไปไหนดี วันนี้ขอเป็นเด็กเกเรโดดเรียนสักวันเถอะเหนื่อยมามากพอแล้วจริงๆ 
              ฉันเดินไปเรื่อยเปื่อยและมาหยุดพักอยู่ตรงหลังตึกเรียนอาคารเก่า ที่นี่เป็นตึกร้างไม่มีนักเรียนหรือครูอยู่ เหมาะแก่การนั่งพักสงบใจ ฉันเดินไปทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหญ้าใต้ต้นไม้ก่อนจะเอนตัวลงและหยิบไอพอดขึ้นมาเสียบหูฟังเพลงแล้วหลับตาลง 
              "ฟูววววว ~" 
              "แค่กๆๆ!! แค่กๆ!" กลิ่นควันบุหรี่ลอยคลุ้งเต็มหน้าฉันถึงจะไม่ได้ลืมตาแต่ก็สัมผัสได้ ฉันรีบลืมตาแล้วเอามือมาปิดปากตัวเองแล้วไอแค่กๆทันที ไม่มีใครสอนหรอว่าให้หัดมีมารยาทบ้างน่ะ! แบบนี้มันจงใจจะแกล้งชัดๆ! ฉันรีบเงยหน้าไปดูผู้มาใหม่ทันที อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครมันกล้ามาผ่นบุหรี่ใส่หน้าฉัน! ถ้าสิวขึ้นน่ะจะตามไปฆ่าล้างโคตรแน่! 
              "ใคร...นาย!" เบ้าตาฉันแถบจะถลนออกมาข้างนอกให้รู้แล้วรู้รอด คนที่มาใหม่ไม่ใช่ใครแต่เป็นศึกรบ! แถมยังใส่เสื้อช็อปของมหาลัยเวอร์เซ็นด้วย! 
              "เรารู้จักกันเหรอ?"
              โอ้โห...ถามมาแบบนี้ฉันก็ตอบไปไม่เป็นสิ จะให้บอกว่าอะไรล่ะ รู้จักกันเพราะฉันหน้าด้านไปขอให้เขามาแกล้งเป็นแฟนงั้นเหรอ? ฝันไปสิ 
              "เออเปล่า ขอตัว" ความตั้งใจที่จะด่าละลายหายเป็นศูนย์ทันทีหลังจากที่เห็นหน้าขรึมๆของศึกรบแล้ว น่ากลัวยิ่งกว่าหนังผีฮอลลีวูดซ่ะอีก 
              "เดี๋ยว..." ในขณะที่ฉันกำลังจะลุกขึ้นเพื่อไปที่อื่น ศึกรบก็เอามือมาขว้าพร้อมกับจ้องหน้าฉันนิ่งเหมือนคิดอะไรสักอย่าง 
              "ว่า" 
              "เธอ...พลอยชมพู?" 
              "..." 
              โอ้ยยยยย! เรียกชื่อก็ผิดเสียหน้ามาก! ต่างกับฉันที่จำขึ้นใจ เพราะในหัวตอนนี้มันมีแต่คำว่า ศึกรบ ศึกรบๆเต็มหัวไปหมด 
              "พลอยพิ้งค์ย่ะ" ฉันพูดแล้วมองหน้าศึกรบแบบไม่พอใจสุดๆ
              "อืม ฉันจำเธอได้ล่ะ" 
              ฉันควรจะดีใจมั้ย? แต่ได้คิดอยู่ในใจไม่กล้าพูด 
              "งั้น...ฉันไปแล้วนะ" ฉันพูดแล้วลุกขึ้นปัดกระโปรงลวกๆเพราะมันเปื้อนเศษหญ้าตอนที่ฉันนอนลงเมื่อกี้ 
              "เดี๋ยวดิ" 
              "มีไร" ฉันถามอย่างสงสัย 
              "อยู่เป็นเพื่อนหน่อย...
              หาาาาา? หูฉันฟังไม่ผิดใช่มั้ย ศึกรบขอให้ฉันอยู่เป็นเพื่อน
              "จะให้จ้างก็ได้นะ J" ศึกรบพูดแล้วยิ้มมุมปาก กรี๊ดดดด! เอาเรื่องน่าอายแบบนั้นมาพูดได้ยังไงมันเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของฉันเลยนะ! 
              "ไม่ต้องจ้างหรอก! ฉันกำลังเซ็งอยู่พอดีจะอยู่เป็นเพื่อนก็ได้" ฉันพูดแล้วเบ้ปากอย่างหมั่นไส้พร้อมกับนั่งลงข้างๆหมอนั้น



    Special : ศึกรบ 

              "หึ..." ผมหัวเราะในลำคอเบาๆเพื่อไม่ให้คนข้างๆได้ยิน วันนี้เป็นอีกวันที่อากาศแจ่มใสและน่านอนพักผ่อนมาก แต่ติดตรงที่อารมณ์ผมเนี่ยแหละ หงุดหงิดชิบหายไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่พอได้เจอหน้ายัยเด็กใจกล้านั้นก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเฉยๆ...ก็นะ J 
              "ครอกกก ~" เสียงหายใจของพลอยพิ้งค์ดังขึ้นอยู่ข้างๆผม ทันทีที่หันไปผมก็แทบจะกลั้นขำทันที 
              "ยัยบ้าเอ๊ย..." ผมพูดกับเธอเบาๆ พร้อมกับจับหัวเธอให้ลงมานอนในตักของผม ถ้าขื้นนอนท่าตะแคงลมแบบนั้นต่อไปรับรองว่าตื่นมาตะคริวถามหาแน่  
              ผมนั่งมองยัยเด็กนี่ไปเรื่อยๆ มารู้ตัวอีกทีหน้าผมกับเธอก็ห่างกันแค่ปลายจมูกจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกันแล้ว
              "เวร..." ผมสถบกับตัวเองเบาๆพร้อมกับเอาหน้าหล่อๆของตัวเองออกจากหน้าของพลอยพิ้งค์เด็กบ้าคนนั้น หน้าตาก็ธรรมดาส่วนสูงก็เตี้ยม่อต้อถึงจะไม่ได้สวยเซ็กซี่น่าขยี้แต่ยัยเด็กนี้ออกแนวใสๆแบ๊วๆอ่อนต่อโลกมั้ง ดวงตากลมโตแข็งกร้าวนั้นกับริมฝีปากเรียวรูปกลีบกุหลาบมันทำให้ผม...
              อยากจะจับเธอเข้ามาจูบ ยิ่งเธอทำหน้าตกใจและเผยอปากบางๆนั้นออกมา มันยิ่งเซ็กซี่เข้าไปใหญ่ และที่สำคัญเธอหน้าตาคล้ายกับรักแรกของผมมาก...
              Rrrrrrr  
              เสียงริงโทนโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อยและรีบหยิบมาดูว่าใครโทรมามันที 

    :+: Luktarn :+: 

              "ว่าไง" ผมกรอกเสียงไปปกติ และปลายสายไปใช่ใครแต่เป็นลูกตาล เธอคือผู้หญิงคนล่าลุดที่ผมควงนะ นิสัยก็คล้ายๆกับยัยพลอยพิ้งค์เนี่ยแหละ 
              "ศึกรบอยู่ไหนเหรอค่ะ?"
              "นั่งเล่นอยู่ มีอะไร?"
              "ลูกตาลว่าจะชวนไปกินข้าวด้วยกันน่ะ" 
              "อืม...รออยู่ที่มหาลัยนั้นแหละเดี๋ยวไปรับ" 
              "โอเคค่ะ! เจอกันนะคะ" ปลายสายตอบกลับอย่างดีใจแบบไม่ปกปิดความรู้สึก แค่ฟังน้ำเสียงเธอก็รู้แล้ว ก็ดีเหมือนกันผมกำลังหิวข้าวอยู่พอดี 
              "นี่..." ผมหันไปเขย่าแขนพลอยพิ้งค์
              "..." 
              "..." 
              "เอ๊ะ! นาย..." พลอยพิ้งค์ลุกขึ้นพรึ่บพร้อมกับจ้องมาทางผมอย่างงงๆ 
              "หิวข้าวมั้ย?" 
              "ก็หิวอยู่ ถามทำไมจะชวนไปกินข้าวเหรอ" 
              "เปล่าชวนแค่ไม่มีเพื่อนไปกินข้าวเฉยๆ" 
              "จริงเหรอ" เธอถวนคำพร้อมกับมองหน้าผมอย่างจับผิด 
              "เออ!" ผมพูดแค่นั้นแล้วเดินลิ่วไปที่รถสุดที่รักของผมทันทีโดยมียัยเด็กพิ้งค์ติดสอยตามห้อยมาด้วย ความจริงผมแค่ไม่อยากไปกับลูกตาลสองคนนะ อย่าคิดเกินเลยเชียว 



    Wersent University
              ผมจอดรถสีแดงเพลิงสะดุดตาลงบนฟุตบาทของมหาลัยเวอร์เซ็นใต้ตึกคณะนิเทศ เพราะลูกตาลเรียนอยู่คณะนี้แถมยังเป็นดาวคณะอีกด้วย ส่วนเดือนคณะคงไม่ต้องบอกว่าใครหรอกนะ...ก็ไอหน้าหล่อพ่อรวยที่มีแฟนสวยๆน่าฟัดๆ(รัก)ไงเหมือนจะชื่อซัมๆซั่มๆอะไรสักอย่าง 
              "นี้ๆพามาทำไมอ่ะ" พลอยพิ้งค์หันมาสะกิดผมยิกๆแล้วทำหน้างงๆ 
              "มารับเพื่อนไปกินด้วย" ผมตอบออกไปอย่างเบื่อหน่าย 
              "อืม" พิ้งค์พยักหน้าอย่างเข้าใจพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหยิกๆ อ้อ! ลืมบอกไปวันนี้ผมเอารถยนต์มาแทนมอเตอร์ไซค์นะเพราะอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศบ้างไรบ้าง และอีกเหตุผลคือมอเตอร์ไซค์ผมมันเห็นแก่ตัวซ้อนสามคนไม่ได้ 
              "ศึกรบค่ะ!" ลูกตาลตะโกนเสียงดังสีหน้าแสดงความดีใจและรีบเดินมายังรถของผม 
              "ขึ้นมาสิ..." ทันทีที่ผมเลื่อนกระจกลงเท่านั้นแหละ สีหน้าเธอก็เจื่อนลงได้ชัดเลยคงจะเป็นเพราะพิ้งค์ที่นั่งเบาะข้างหน้าข้างๆผมล่ะมั้ง 
              "เอ่อ...เดี๋ยวไปนั่งข้างหลังดีกว่า" พิ้งค์พูดพร้อมกับเปิดประตูออกไปแล้วมานั่งข้างหลังแทน 
              "ขึ้นมาสิ" ผมกวักมือเรียกลูกตาล 
              "อะ...อือ^^" ลูกตาลตอบเบาๆพร้อมกับเปิดประตูและมานั่งเบาะข้างๆผม  



    Special : ลูกตาล 
              "อะ...อือ^^" ฉันตอบศึกรบพร้อมกับฝืนยิ้มเจื่อนๆ ไม่รู้สิฉันไม่เข้าใจเลย... 
              ตั้งแต่วันนั้นศึกรบก็ค่อยๆเปลี่ยนไปและตีตัวออกห่างฉันขึ้นเรื่อยๆ พอมาวันนี้ฉันดีใจมากที่ศึกรบยอมไปกินข้าวด้วยแต่เขาไม่ได้มาคนเดียวนี้สิ... 
              พาใครมากันน่ะ? 
              ตลอดเวลาที่นั่งรถมากับศึกรบฉันก็นั่งเงียบตลอดและเหล่ตามองผู้หญิงคนนั้นเป็นพักๆเธอไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งเล่นโทรศัพท์ ส่วนศึกรบก็ขับรถไปตามปกติ ฉันนั่งเกร็งมาตลอดทางเลยรู้มั้ย ก็เล่นเงียบเอาซ่ะได้ยินเสียงแอร์ชัดขนาดนี้
              เห้อออออออออ
              "ฟังเพลงมั้ย?" ศึกรบหันมาถามฉันในขณะที่กำลังขับรถ สงสัยเขาคงจะสังเกตท่าทางอึดอัดของฉันล่ะมั้ง 
              "อือ ก็ดี" ฉันยิ้มแล้วตอบออกไป 
              "จะไปกินร้านไหนดีล่ะ"  
              "แล้วแต่ศึกรบเลยค่ะ^^"
              "อืม" 
              จบบทสนทนา... 
              มันมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งศึกรบจะตอบรับและพูดคำว่า'อืม'หรือไม่ก็'อือ'แล้วก็เงียบไม่พูดเสวนาอีกเลย มันทำให้ฉันอึดอัดนิดๆ แต่ก็เริ่มค่อยๆชินเเล้วหล่ะ ความจริงความสัมพันธ์ของฉันกับศึกรบก็ไม่รู้ว่าอยู่ในสถานะแบบไหนเหมือนกันสำหรับฉัน ฉันคิดว่าศึกรบเป็นแฟนมาโดยตลอดแต่ไม่รู้ว่าศึกรบจะแบบเดียวกันแบบฉันรึเปล่า เพราะเขาไม่เคยบอกรักฉันสักครั้งเลย... มีแต่ฉันคนเดียว 
              รถของศึกรบจอดลงอยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่ก่อนเขาเคยพาฉันมาที่นี้ประจำแต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้มาแล้วแหละ คงจะเป็นเพราะฉันกับศึกรบต่างคนก็ต่างยุ่งล่ะมั้ง
              "ลงสิ" ศึกรบหันไปพูดกับผู้หญิงคนนั้น เธอเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์แล้วพยักหน้าน้อยๆ 
              "แล้วเธอไม่ลงเหรอ?" ศึกรบหันมาถามฉัน
              "ลงสิ" ฉันตอบเสียงเบาแล้วเปิดประตูลงไปทันที 
              "ทานอะไรดีล่ะ" ศึกรบหันมาถามฉันกับผู้หญิงคนนั้นในขณะที่เราเข้ามาในร้านกันแล้ว ฉันนั่งเก้าอี้ข้างๆศึกรบส่วนผู้หญิงคนนั้นนั่งตรงข้าม 
              "ลูกตาลเอาคาโบนาร่าที่หนึ่งค่ะ" ฉันยิ้มแล้วบอกสาวเสิร์ฟไป 
              "เอาข้าวผัดกุ้งค่ะ" ผู้หญิงคนนั้นหันไปบอกสาวเสิร์ฟเช่นกันแล้วหันมายิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร? 
              "ผมเอาข้าวผัดกุ้ง..." ฉันหันหน้าไปทางศึกรบทันทีที่เขาพูดจบ ศึกรบชอบกินกุ้ง...ส่วนเธอคนนั้นก็ชอบกินกุ้ง...งั้นเหรอ? แล้วฉันล่ะ 
              "ขอตัวไปเข้าห้องน้ำน่ะ" ผู้หญิงคนนั้นพูดแล้วเดินเลี่ยงไปทางห้องน้ำทันที เอาล่ะ! ได้โอกาสสักที ไปถามให้หายสงสัยเลยดีกว่า! 
              "ลูกตาลไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ฉันหันไปบอกศึกรบที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ 
              "อืม" 
              ฉันค่อยๆเดินเข้าไปในห้องน้ำ ก็เห็นผู้หญิงคนนั้นกำลังล้างมืออยู่ ฉันเลยถือโอกาสเดินเข้าไปอย่างเนียนๆ แล้วก็ทำเป็นล้างมืออ่างข้างๆ 
              "มีอะไรอยากจะพูดหรือเปล่า?" ผู้หญิงคนนั้นหันมาพูดกับฉันด้วยสีหน้าเป็นมิตร "ฉันเป็นรุ่นน้องของพี่ศึกรบนะไม่มีอะไรมากกว่านั้น"
              "อ่อ..." ฉันพยักหน้าอือๆออๆแบบเข้าใจ ดูเหมือนว่าเธอจะมิตรไม่ใช่ศัตรูนะ ค่อยยังชั่ว "เธออยู่โรงเรียนวินาลัยเหรอ?" 
              "อ่า...ใช่" 
              "แล้วไม่มีเรียนเหรอ หรือว่าโรงเรียนมีหยุด" ฉันถามผู้หญิงคนนั้นไปด้วยความสงสัย ดูจากหน้าตาเธอก็ไม่น่าจะเป็นพวกเด็กชอบโดดเรียนได้นี้ 
              "พอดีเซ็งๆก็เลยโดดเรียนน่ะ" เธอพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมาสีหน้าแสดงความเศร้าเห็นได้ชัด 
              "อ่อ" 
              "งั้นฉันกลับไปนั่งโต๊ะก่อนน่ะ เธออย่าเพิ่งตามมาแล้วกัน เดี๋ยวพี่ศึกรบจะสงสัย"
              "อือๆ" 



    Special : พลอยพิงค์(พิ้งค์) 
              "งั้นฉันกลับไปนั่งโต๊ะก่อนน่ะ เธออย่าเพิ่งตามมาแล้วกัน เดี๋ยวพี่ศึกรบจะสงสัย" ฉันหันไปพูดกับเธอคนนั้น(คิดว่าน่าจะเป็นแฟนศึกรบ) แล้วเรียกศึกรบแทนว่าพี่ ก็เขาอายุมากกว่าหนิ แต่เวลาอยู่ต่อหน้ากันอย่าหวังว่าฉันจะเรียกเลย ให้ตายยังไงก็ไม่เรียกให้เสียฟอร์มหรอก
              "อือๆ" 
              ฉันเดินออกจากห้องน้ำและมุ่งตรงไปยังโต๊ะที่ศึกรบนั่งอยู่ แต่ยังไม่ทันที่ขาฉันจะไปถึงโต๊ะ ตาก็เหลือบไปเห็นยัยเยลลี่กำลังนั่งคุยกับศึกรบอยู่! 
              เห้ย! นี้ถึงขั้นโดดเรียนตามมาถึงนี้เลยเรอะ! นี่เธอเป็นสตอล์กเกอร์ใช่มั้ย! 
              ขาฉันสั่นพับๆ ถ้าสมมุติว่าศึกรบบอกออกไปว่าเราไม่ใช่แฟนกันล่ะ! ยัยเยลลี่ต้องสมน้ำหน้าแล้วมาล้อเลียนฉันแน่ๆ 
              โอ้ย! ปวดหัวๆ! ไหนจะเรื่องพี่วายแล้วยังต้องมากลุ้มเรื่องยัยเยลลี่อีกสมองจะระเบิดตู้มเป็นภูเขาไฟฟูจิแล้ว! 
              "ไม่เดินเข้าไปเหรอ?" 
              "เห้ย!" ฉันตกใจกระโดดถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันที ไอเราก็คิดว่ายัยเยลลี่ ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองจะเป็นบ้าจริงๆแล้ว จิตปั่นไปหมด
              "...?" เธอมองหน้าฉันแล้วทำหน้างงๆพร้อมกับหันไปมองตรงโต๊ะศึกรบ 
              "เอ่อ..." โอ้ยย! เอาไงดีว่ะ! ไม่อยากให้แฟนมาผิดใจกันเพราะฉันด้วย ถ้าศึกรบบอกยัยเยลลี่ไปว่าเราเป็นแฟนกันแล้วผู้หญิงคนนี้ได้ยิน มันต้องเป็นตราบาปติดตัวฉันไปตลอดแน่ๆ แต่ถ้าศึกรบหักหน้าฉันแล้วบอกยัยเยลลี่ว่า แฟนตัวจริงเขาอยู่นี่ ฉันก็ต้องหน้าแหกหมอไม่รับเย็บนะสิ! จะเลือกทางไหนก็ไม่ดี 
              โว้ะ! ฉันเกลียดเวลาที่ต้องเลือกทางใดสักทางแบบนี้จริงๆ!!! 
              "..." ผู้หญิงคนนั้นยืนเงียบไม่เปิดปากพูดอะไร จนฉันที่ยืนอยู่ข้างๆรู้สึกขนลุก เหมือนจะมีรังศีอำมหิตแผ่มหาศาล เวลาผู้หญิงหึงเขาว่าน่ากลัวมาก มันเป็นแบบนี้เอง 
              ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปตรงโต๊ะอย่างกล้าหาญพร้อมกับตบโต๊ะดังตึง! แล้วหันไปค้อนใส่ยัยเยลลี่ทันที 
              "คุยอะไรกันงั้นเหรอ?" ฉันฉีกยิ้มอย่างร้ายกาจพร้อมกับดึงแขนยัยเยลลี่ให้ออกมานอกร้านทันที ปล่อยให้สองคนนั้นเขาปรับความเข้าใจกันก่อนดีกว่า 
              "มาที่นี่ทำไม!" หลังจากที่ลากยัยเยลลี่ออกมาจากในร้านเสร็จฉันก็ตะคอกอย่างเหลืออดใส่ยัยเยลลี่ทันที 
              "ก็มาตามแกนะสิ! แกรู้อะไรไหมพี่วายเขาจะตายอยู่แล้ว! เขาเพ้อถึงแต่แก! เขารักแก! กรี๊ดดดดดดด!!!!" ยัยเยลลี่พูดกับฉันพร้อมกับเอามือมาทุบๆตรงหน้าอกฉันพร้อมกับทรุดตัวลงไปนั่งบนพื้นช้าๆ 
              "..." ฉันไม่พูดอะไรเอาแต่ยืนนิ่ง แววตาเลื่อนลอย ความจริงฉันก็เคยรักพี่วายแต่ตอนนี้มันไม่แล้ว มันไม่ใช่...
              "เขาเอาแต่พร้ำว่ารักแกๆ แกรู้ไหม ฉันเจ็บเจียนตายเวลาเขาพูดถึงแก เขาไม่เคยปันใจไปให้ใครเลยนอกจากแก..." ยัยเยลลี่น้ำตาไหลพรากเป็นสายเลือด ฉันทรุดตัวลงไปนั่งข้างๆยัยนั้นช้าๆ 
              "ฉันไม่ได้รักพี่เขา...ฝากพี่วายด้วยน่ะดูท่าเธอจะรักเขามากจริงๆ" ฉันพูดไปน้ำตาก็ไหลไป ยัยเยลลี่เงยหน้ามามองฉันพร้อมกับปล่อยโฮออกมาอีก ฉันเอื่อมมือไปกอดยัยนั้นไว้พร้อมกับลูบหลังเธอเบาๆ 
              "ฮืออออออออ"
              "ถ้ารักเขามันเหนื่อยก็พักบ้าง..." 
              ฉันกับเยลลี่ร้องไห้กันอยู่นานสองนาน ก่อนหน้านี้ฉันเข้าไปบอกศึกรบแล้วว่าจะขอกลับก่อน เพราะตอนนี้ก็บ่ายสองแล้ว อีกแค่ครึ่งชั่วโมงโรงเรียนก็จะเลิก  ไหนๆก็โดดแล้วขอโดดให้สุดเลยแล้วกัน อีกอย่างไม่อยากเป็นกขค(ก้างขว้างคอ)ของสองคนนั้นด้วย
              "ไปเที่ยวกันมั้ย?" ฉันหันไปถามเยลลี่  
              "อือ คืนนี้ไปเที่ยวผับกันป่ะ! เอาให้หายเคลียดไปเลย"
              "เอาดิ! ดื่มให้ลืมไปเลยว่าเคยเศร้า"
              "ตามนี้นะ!"
              "อือ" 


     Uk Pub
              หลังจากที่ฉันกับเยลลี่เดินเล่นกันเสร็จต่างคนก็ต่างกลับบ้านและรอเวลาที่จะมาผับเรานัดกันประมาณห้าทุ่มครึ่ง แต่ฉันยังไม่เห็นเยลลี่เลย สงสัยฉันจะมาเร็วไปมั้ง
              วันนี้ฉันใส่ชุดเป็นเสื้อแขนกุดสีเลือดหมูและกางเกงขายาวสีดำ แล้วปล่อยผมออกมาเซอๆไม่ได้หนีบอะไรทั้งสิ้น ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าส้นสูงธรรมดาๆ  อ้อ! ลืมบอกไป ตอนนี้ฉันกับเยลลี่เราไม่ใช่ศัตรูกันแล้วนะแต่ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน อาจจะเร็วไปหน่อยแต่จะค่อยๆปรับตัว 
              "ฮึก...ฮืออออ" เสียงผู้หญิงร้องไห้ดังเข้ามาในหูฉัน ฉันหันไปทางเสียงก็พบกับผู้หญิงร่างบางกำลังนั่งอยู่ตรงลานจอดรถพร้อมกับก้มหน้าร้องไห้อยู่ 
              "เธอ...เป็นอะไรรึเปล่า?" ฉันเดินเข้าไปถามอย่างใจเย็น ความจริงก็ไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่ยัยนี้ร้องไห้หนักมากจนคนผ่านไปผ่านมาก็หันมามอง ฉันเลยลองเดินเข้าไปคุยเพื่อจะช่วยอะไรเธอคนนั้นได้
              "ฮึกๆ..." 
              "เธอ...!" เป็นผู้หญิงคนนั้น! แฟนศึกรบ! นี้อย่าบอกน่ะว่ายังไม่ปรับความเข้าใจกันนะ! เวร! เอาแล้วไง
              "เธอ..." 
              "มันไมใช่อย่างที่เธอคิดนะเยลลี่เป็นเพื่อนฉัน..." 
              เพี๊ยะ!!! 
              หน้าฉันหันไปตามแรงมือที่ผู้หญิงคนนั้นประทับลงมาบนใบหน้า ฉันเอามือมากุมหน้าตัวเองพร้อมกับมองไปทางผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่เข้าใจ 
              "เธอ!!! นางงูพิษ! ไหนบอกว่าเป็นรุ่นน้องไง! แล้วทำไมศึกรบถึงมาขอเลิกกับฉัน! เป็นเพราะเธอ!!!" 
              "..." ฉันไม่ตอบโต้อะไรแล้วยืนฟังอยู่นิ่งๆหน้าตาไม่แสดงความรู้สึกอะไรทั้งสิ้น เธอคนนี้ตบฉันเรื่องอะไรยังเบลอๆอยู่เลย
              "แกมัน!...ฮือออออ"
              "พิ้งค์!" เสียงเยลลี่ตะโกนมาจากทางข้างหลังฉันรีบเดินเข้าไปหาเยลลี่ทันที 
              "เข้าไปข้างในกัน" ฉันเอ่ยพูดแค่นั้นแล้วก็ลากยัยเยลลี่เข้าไปในผับทันทีเพราะไม่อยากให้เห็นลูกตาลเดี๋ยวเรื่องมันจะไปกันใหญ่ นี้โดนตบก็ยังงงๆอยู่เลยว่ากรูผิดอะไร? 
              "เฮ้! เฮ้!" ทันทีที่เข้าไปเท่านั้นแหละเสียงเพลงจังหวะบีทมันๆก็ดังเข้ามาในโสตประสาท ฉันพาเยลลี่มานั่งตรงโต๊ะหลบมุมใกล้ๆกับห้องน้ำ เพราะฟังเพลงพวกนั้นทีไรอดใจไม่ไหวอยากจะเต้นทุกท
              "เอาเหล้าอะไรมาก็ได้ขอแรงๆ" ฉันหันไปสั่งบาร์เทนเดอร์ 
              "เห้ย! เอาจริงว่ะ" ยัยเยลลี่แซว 
              ฉันเปิดเข้าไปในโปรแกรมเฟสบุ๊กแล้วกดไปตรงสถานะและพิมพ์ข้อความพร้อมกับเช็คอินแล้วแท็กยัยเยลลี่ 
    Ploypink Chanada ที่-Uk Pub กับ-Yelly picha 
              เพื่อนๆในห้องคงจะงงกันแน่เลยว่าทำไมคู่ปรับอย่างฉันกับเยลลี่ถึงมาเที่ยวด้วยกันได้นะ แต่ก็ช่างมันเพราะโลกนี้มักจะมีอะไรที่เราไม่เข้าใจเสมอ...
    [LOADING 100%]



    มะมาคุยกัน
    สงสารลูกตาลอ่าาTT 
    แต่งไปก็สงสารไปค่ะความรู้สึกแบบนั้นเป็นใครใครก็คงเสียใจแต่เป็นแค่ตัวสำรองไม่ใช่ตัวจริง โอ้ยยเจ็บบ เอาเป็นว่ารอดูตอนต่อไปดีกว่า แซ่บ! ฝากติดตามนิยายเรื่องอื่นๆด้วยน้าา
    1เม้น1กำลังใจค้าบ
    กดเฟบจิ้มรูปน้องตัลเบยย

    ***สตอล์กเกอร์ คือ บุคคลที่ชอบตามคนที่ตัวเองชื่นชอบหรือคลั่งไคล้ไปทุกที่ กลุ่มคนพวกนี้ บางคนก็เป็นพวกโรคจิตนิดๆ*** 
             
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×