ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Prophet ยัยบ๊องอยากเป็นศาสดา(ปิดรับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #4 : ประวัติกาลแห่งอาร์ค

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 63


    เอาล่ะทุกคนวันนี้เราจะมาสอนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้กัน


    อินเกนทิง

    ยุคแรกกำเนิดของจักรวาลในภาษาหนึ่งมันมีความหมายว่า ความไม่มีอะไร หรือก็คือความว่างเปล่าที่ไร้ซึ่งขอบเขต ไร้ซึ่งจุดบรรจบ ไม่มีเวลา ความมืด หรือกระทั่งวัฏสงสาร เพราะที่แห่งนี้ไร้ซึ่งชีวิตและความตาย จึงไม่เหลืออะไรเลยความว่างเปล่าจึงเป็นพระเจ้าผู้อยู่เหนือทุกสิ่งเพราะไม่มีอะไรให้เหนือกว่าหรืออะไรให้ตํ่ากว่า


    คาออส

    ยุคที่สองของจักรวาลยุคที่พระเจ้าคนแรกถือกำเนิดขึ้นไม่สามารถบอกได้ว่าเวลาของยุคนี้ดำเนินยังไง เพราะมันไม่คงที่ ไม่มีจุดสมดุล มีเพียงความวุ่นวาย พระเจ้าองค์แรกของจักรวาลได้สร้างเวลา ขึ้นมาก่อนที่จะสร้างความมืดและแสงสว่าง ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดนักแต่ก็พอระบุได้เนื่องจากเวลาได้เกิดขึ้นมาแล้ว ด้สยเหตุบางอย่าง พระเจ้าองค์แรกได้ให้กำเนิดจักรวาล กายของพระองค์กลับคืนสู่ความว่างเปล่า แก่นแห่งพระองค์กลายเป็นศูนย์กลาง จิตวิญญาณของพระองค์กลายเป็นพระเจ้าจำนวนมาก และดวงตาของพระองค์กลายเป็นหลุมที่กระชากมิติความเป็นจริง  และสุดท้ายหัวใจของพระองค์ให้กำเนิดมังกรเทพขึ้นมาพร้อมๆกับมังกรมาร ทั้งสองได้ให้กำเนิดซึ่งยุคถัดไป


    อิคิลิบี

    ยุคที่มังกรเทพคือพระเจ้าเหนือพระเจ้า ส่วนมังกรมารคืออสูรเหนืออสูร มังกรเทพได้สร้างซึ่งชีวิตขึ้นมาในคราแรกทุกชีวิตในจักรวาลมีชีวิตเป็นอมตะนิรันดร์มังกรเทพถูกสรรเสริญ เยินยอจากทุกเผ่าพันธุ์ มังกรมารที่อิจฉาริษยาในตัวของมังกรเทพ ได้ให้กำเนิดสามตัวตนที่ไม่ได้ถือกำเนิดจากดารสร้างของผู้ใดนั้นคือสามกิเลสใหญ่ โลภะอสูร โมหะอสูร และโทสะอสูร มังกรมารได้ให้กำเนิดซึ่งความตายในจักรวาลจึงให้กำเนิดแก่วัฏจักรด้วย มังกรมารถูกปลุกปั่นโดยสามพญามาร กรีด ลัสด์ และวาสล์ มังกรมารที่แต่เดิมก็เคยอิจฉาพี่น้องคนนี้อยุ่แล้วเมื่อโดนปลุกปั่นจึงกำเนิดยุคที่สี่ขึ้น


    เกรเร้ ดี อริจิ่น

    ยุคแห่งความวินาศของจักรวาลอย่างแท้จริงเมื่อสองตัวตนที่มีพลังของพระเจ้าองค์แรกมากที่สุดเข้าหํ้าหั่นกันเองจนเกิดผลไปทั่วจากการตายของพระเจ้าหลายๆองค์ทำให้จักรวาลเกิดความวิบัติวัฏจักรจึงแยกตนเองออกเป็นสองส่วนคือชีวิตและความตายและสร้างสมดุลซึ่งจักรวาล ในขณะการต่อสู้ของสองมังกรแห่งจักรวาลนั้นกว่าที่มังกรมารจะรู้ว่าตนเองถูกหลอกใช้โดยสามพญามารพวกเขาทั้งสองก็สูญเสียพลังไปมากสามพญามารหมายจะปิดฉากทั้งสองที่อยู่ในสภาพอ่อนแอ่ แต่มังกรก็ยังคงมีคมเขี้ยวทั้งสองฝ่ายหํ้าหั่นกันนานเท่าไหร่มิทราบแต่ผลจากการต่อสู้ทำให้พญามารทั้งสองถูกแยกออกเป็น6จอมมารแบ่งเป็นทราคะ ตะกละ โลภ เกียจคร้าน ริษยา และหยิ่งยโส มังกรเทพถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือพระเจ้าองค์ใหม่ที่จะเป็นผู้ปกครองจักรวาล อีกคนคือซาตาน คนที่จะปกครองเหล่าทั้งหลายมาร ส่วนมังกรมารนั้นถูกแบ่งเป็นเทพเคออส


    นี่คือเรื่องราวอันใหญ่โตของจักรวาลแล้วมามองดูดาวยักษ์ดวงหนึ่งอันเป็นเหมือนสถานที่ๆรองรับตำหนักพระเจ้า ดาวกุนพอลัส ดาวนี่เป้นที่รองรับซึ่งสรวงสวรรค์ทั้งเจ็ดชั้นมันจึงเป็นที่หมายตาของโจรสลัดอวกาศแต่ด้วยทีมันอยู่ในการปกครองของพระเจ้าจึงไม่สามารถเข้าไปได้

    งั้นมาฟังเรื่องราวการกำเนิดของดาวดวงนี้กัน


    โพล็อก

    ยุคสมัยแห่งต้นกำเนิดดาวดวงนี้ในคราที่กำเนิดขึ้นมาไม่มีอะไรเลยมีเพียงมังกรทั้ง5ประจำทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก และตรงกลางเท่านั้น มันถูกฉโลมด้วยสีเทาเป็นเหมือนแทนสิ่งที่เรียกว่าความว่างเปล่า ไร้ซึ่งแสง ความมืด ความตาย และชีวิต มังกรเหล่านี้ล้วนมีความเป็นอมตะแม้จะดูเหมือนมีชีวิตก็ตามที(ประวัตินี่คุ้นๆเนอะ) ก่อนจะกำเนิดซึ่งโซลทั้งสี่ในคราที่เปลวเพลิงปรากฏขึ้นบนโลก เดธโซล ไลฟ์โซล ไลท์โซล์ และดาร์กโซล(ตูนี่ไม่ได้ก็อปใครมาจริงๆนะ หุๆ) ตัวแทนแห่งโซลทั้งสี่ได้ปรากฏขึ้นมันได้ถามไถ่เกี่ยวกับเหตุไฉนมังกรจึงมีความเป็นอมตะ แต่มันก็ไม่ได้รับคำตอบมันจึงเข้าต่อสู้กับมังกร สงครามแห่งยุคแรกนี่ถูกเรียกในภายหลังว่า สงครามแห่งยุคมังกรและโซล


    ไฟเออร์

    ยุคที่ได้กำเนิกซึ่งแสงแห่งไฟพร้อมการตายของโซลและมังกรทั้งหมด มังกรได้ให้กำเนิดซึ่งเผ่าพันธุ์ที่เรียกว่าปีศาจและยักษ์ และโซลได้ให้กำเนิดมนุษย์ เอลฟ์ คนแคระขึ้นมา เป็นตัวตนที่มีซึ่งองค์ความรู้ที่ดีไฟจากยุคโพล็อกได้ช่วยให้เหล่าสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่อย่างสงบสุขโดยที่ปีศาจและยักษ์ต่างอาศัยแบบหลบๆซ่อนๆ จนกระทั่งได้มีการค้นพบปีศาจ ซึ่งเป็นมนุษย์ในยุคที่3ซึ่งเบาปัญญายิ่งกว่ามนุษย์ในยุคที่สองหรือหนึ่งมากมาย เหล่าคนเขลาต่างต้องการกำจัดปีศาจเนื่องจากเกรงกลัวในอำนาจของปีศาจมนุษย์กลัวว่าจะมีการค้านอำนาจของพวกมันจึงถือกำเนิดศาสดาพยากรณ์ที่จอมปลอมขึ้นมา มันพูดให้มนุษย์ผู้โง่เขลาเชื่อว่าการกำจัดปีศาจคือประสงค์ของพระเป็นเจ้า


    ยุคที่4 ม.ช. 450 สงครามอันไร้สาระ

    ยุคที่เกิดการล่าปีศาจอย่างแท้จริง ปีศาจที่แต่เดิมเคยยอมอ่อนข้อลุกขึ้นโต้กลับเหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลาโดยมียักษ์เผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งรองจากมังกรเป็นคนช่วยไม่มีจุดพลิกผันใดๆทั้งสิ้น มนุษย์ต่างงมงายในพระศาสดาพยากรณ์ และพระเป็นเจ้าจนเชื่อว่าถ้าทำไปเรื่อยๆย่อมนำมาซึ่งชัยชนะเพราะมันคือประสงค์ของพระเจ้า


    ยุคที่5 ม.ช. 525 สิ้นสุดสงครามอันไร้สาระ

    ยุคนี้คือยุคที่มนุษย์รุ่นใหม่เลือกจะจบสงครามอันไร้สาระนี้ลงพร้อมนำเหล่าคนที่เคยเข่นฆ่าปีศาจและยักษ์อย่างโหดเหี้ยมมอบให้แก่ยักษ์และปีศาจ พร้อมเซ้นสัญญาที่จะเป็นพันธมิตรร่วมกันซึ่งคนแคระและเอลฟ์เองก็ยอมร่วมด้วยเพราะยักษ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังที่สุด


    ยุคที่10 การจุติของมหาบุรุษ

    ในยุคนี้เหล่ามนุษย์ยุคเก่าล้วนตายไปหมดสิ้นทุกอย่างล้วนสงบสุขจนกระทั่งได้เกิดการต่อสู้ของทุกเผ่าพันธุ์เนื่องจากมนุษย์ เอลฟ์ และคนแคระต่างแสวงหาในอำนาจ แม้กระทั่งปีศาจเองก็ด้วยในตอนนั้นสรวงสวรรค์ได้ประทานเด็กชายผู้ที่จะเป็นเจ้าแผ่นดิน หรือพระจักรพรรดิขึ้นมา ส่วนอีกคนเขากำเนิดมาพร้อมๆ พระจักรพรรดิแต่เขาไม่ใฝ่หาซึ่งสงครามแต่เป็นสันติและธรรม พระจักรรพรดินามว่าโซโลมอน และเด็กอีกคนมีนามว่าตถาคตซึ่งเป็นนามที่บุรุษผู้นี้เรียกขานนามของตนโซโลมอนสามารถกำราบทุกประเทศด้วยปัญญาอันลํ้าเลิศของพระองค์ และตถาคตก็ได้บรรลุในธรรมกลายเป็นศาสดาเอกในภายภาคหน้า ทั้งสองถูกขนานนามว่ามหาบุรุษผู้อยู่เหนือกว่าใครๆ


    ยุคที่15 ผู้เผยพระวจนะแห่งพระเจ้า

    ในคราที่บุตรแห่งพระเจ้าได้มาจุติในโลกแห่งมนุษย์ ท่านทรงนำพาเหล่ามนุษย์เพื่อทำความดีกลายเป็นมหาศาสดาคนที่สองของโลก


    ยุคที่20 ปัจจุบัน

    ใครกันจะเป็นผู้ขีดเขียนประวัติศาสตร์ในยุคแห่งนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×