ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tensei shitara slime datta ken × Nobita : อุตส่าห์ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่โดยไม่เสียใจภายหลังแล้วแท้ๆดันเกิดใหม่เป็นมังกรต้นกำเนิดเฉยเลย

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่7 ได้โอเกอร์มาเป็นพวกเหรอ?

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 64


    หลังจากที่ริมุรุคุงได้ร่างมนุษย์เรียบร้อยแล้วก็ต้องไปอธิบายกับคนอื่นๆอีกซึ่งตอนแรกทุกคนก็ตกใจกันอยู่หรอก แต่พออธิบายไปแล้วก็เข้าใจกันได้ทันที เข้าใจจริงรึเปล่าหว่าแต่ชั่งเถอะ หลังจากนั้นการพัฒนาหมู่บ้านก็เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งตัวผมทำงานอะไรงั้นเหรอ คำตอบก็คือนักวิจัยไง เห็นอย่างนี้แต่ผมก็เคยเป็นนักวิทยาศาสตร์นะก็เลยเอาเป็นงานนี้ดีกว่า ไอ้พวกงานราชการอะไรพวกเนี่ยไม่ไหวหรอก แต่เอาตรงๆตอนนี้ยังไม่หัวข้อวิจัยเลย ก็เลยทดลองอะไรหลายๆอย่างไปเรื่อยๆก่อนละนะ ซึ่งตอนนี้ผมก็กำลังจะไปสถานที่ทำงานของผมซึ่งก็คือถ้ำที่เคยผนึกเจ้าเวลโดร่าไว้ไงละ

    (ไรท์บรรยาย)

    โซลล่ากำลังเดินออกจากหมู่บ้านเพื่อไปที่ถ้ำ แต่ก็ต้องหยุดเดินก่อนเพราะเห็นริมิรุกำลังคุยกับพวกริกุรุอยู่

    โซลล่า:“โอ๊ะ? นั้นพวกริมุรุคุงนี่”

    แล้วโซลล่าก็กำลังจะเดินไปพวกริมุรุแต่

    ริมุรุ:“ฮ้า!!”

    ปัก!

    ก็อปตะ:“อ้ากกก!!!”

    ตุบ!!

    โซลล่าก็ต้องหยุดเดินก่อนเพราะเห็นจู่ๆริมุรุก็กระโดดเตะใส่ก็อปตะจนกระเด็นกลิ้งไปกับพื้น

    โซลล่า:“ทำอะไรของเจ้าพวกนั้นละเนี่ย ยังไงก็ยังไม่ไปทักตอนนี้ดีกว่า”

    แล้วโซลล่าก็เปลี่ยนทิศทางแล้วมุ่งหน้าไปที่ถ้ำทันที

    .

    .

    .

    เวลาต่อมาโซลล่าก็มาถึงห้องวิจัยแล้ว

    โซลล่า:“เอาละเริ่มงานดีกว่า…”

    หลังจากเปลี่ยนไปใส่เสื้อกาวแล้วก็เริ่มงานทันที

    .

    .

    .

    เวลาต่อมา ณ หน้าถ้ำ

    เวลาผ่านมาได้ซักพักโซลล่าก็ได้ทำงานของตัวเองจนเสร็จแล้วออกมาข้างนอก ซึ่งตอนนี้ก็กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่

    โซลล่า:“อ่า~ไม่ได้เมื่อยเพราะทำงานนานๆแบบนี้มานานแล้วนะเนี่ย ซักหมื่นปีได้แล้วมั้ง…หือ?”

    โซลล่าได้หันไปเห็นเปลวเพลิงสีดำขนาดใหญ่ที่กำลังลอยอยู่เหนือป่าไกลๆ ซึ่งมันก็คือ เอ็กซ์ตร้าสกิล เพลิงทมิฬ ของริมุรุนั้นเอง

    โซลล่า:“เพลิงทมิฬเหรอ? หือ!!!”

    เปรี้ยง!!!

    จู่ๆก็มีสายฟ้าสีดำผ่าลงมาตรงจุดนั้นซ้ำอีก ซึ่งมันก็คือ เอ็กซ์ตร้าสกิล สายฟ้าทมิฬ ของริมุรุอีกนั้นเอง

    โซลล่า:“อะไรกันละเนี่ยหมอนั่นทำอะไรของมันละเนี่ย…หือ!”

    แล้วไม่นานเพลิงทมิฬก็หายไป

    โซลล่า:“ตรงลงทำอะไรของหมอนั่นเนี่ย ทดลองสกิลเหรอ? ไม่สิหมอนั่นไม่ใช่คนชอบทำทำตัวเด่นแบบนั้นนิ…ชั่งเถอะ ไว้ค่อยไปถามเอาทีหลังตอนกลับไปถึงหมู่บ้านแล้วก็แล้วกัน”

    พูดจบโซลล่าก็เดินต่อเพื่อกลับหมู่บ้าน

    .

    .

    .

    พอเดินมาได้ซักพักโซลล่าก็บังเอิญเจอกับคนที่ตัวเองอยากคุยด้วยพอดี

    โซลล่า:“ไง ริมุรุคุง…หือ?”

    โซลล่าได้เห็นกลุ่มโอเกอร์6คนตามริมุรุมาด้วยจึงรู้สึกสงสัย ทางริมุรุพอได้ยินเสียงก็หันมาโซลล่าพร้อมกับคนอื่นๆ

    ริมุรุ:“หือ?…อ่าว คุณโซลล่าเองเหรอ”

    โซลล่า:“อ่า กะว่าพอไปถึงหมู่บ้านแล้วจะไปถามนายเรื่องที่ปล่อยสกิลออกมาเมื่อกี้พอดีเลย…แต่จะว่าไปแล้ว พวกโอเกอร์พวกนี้เป็นใครเหรอ?”

    โซลล่าพูดพร้อมหันไปมองพวกโอเวอร์ซึ่งประกอบไปด้วย โอเกอร์ชายผมแดง2เขาซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า โอเวอร์ชายผมน้ำเงินเขาเดียว โอเกอร์ชายผมดำ2เขา โอเกอร์ชายชรา2เขา โอเกอร์หญิงผมม่วงอกโตเขาเดียว และโอเกอร์หญิงผมชมพู2เขา

    ริมุรุ:“อ่อ พอดีเมื่อกี้มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยนะครับ เลยจะไปคุยกันที่หมู่บ้านน่ะ”

    โซลล่า:“อย่างนี้นี่เอง”

    โอเกอร์แดง:“เอ่อ คือว่าท่านนี้คือ?…”

    ริมุรุ:“อ่อ เขาชื่อโซลล่าน่ะ จะว่ายังไงดี เอาเป็นว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณของชั้นน่ะนะ”

    โซลล่า:“ถ้าเรื่องคุณชิซุละก็ชั้นทำตามใจชอบเองต่างหาก แต่ชั่งเถอะวันนี้มีงานฉลองด้วยนิรีบกลับกันเถอะ”

    แล้วทุกคนก็เดินกลับไปที่หมู่บ้าน

    ตัดไปตอนช่วงค่ำ

    งานเลี้ยงที่มีชื่อว่า“งานเฉลิมฉลองที่ท่านริมุรุรับประทานอาหาร”

    โซลล่า:“ชื่อแบบนี้เจ้าตัวคงอายสุดๆแหงๆ”

    ทางด้านริมุรุ พวกก็อบลินจ้องริมุรุแบบตาไม่กระพริบเพื่อดูว่านายเหนหัวของพวกตนจะพึงพอใจกับอาหารรึเปล่า ริมุรุได้หยิบเนื้อเสียบไม้ที่“ก็อบอิจิ”ก็อบลินพ่อครัวทำมาให้ขึ้นมาแล้วริมุรุก็กัดเข้าไปหนึ่งคำ จากนั้นก็มีท่าทางตัวสั่นแปลกๆ

    ริกูด:“ทะ…ท่านริมุรุ”

    ริกุรุ:“ไม่ถูกปากเหรอครับ?”

    พวกริกูดพูดด้วยอาการเหงื่อตกแต่

    โซลล่า:‘ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ’

    ริมุรุ:“อร่อย~~~~~~”

    ริมุรุได้ร้องเสียงหลงพร้อมกับใบหน้าที่ชื่นบานแสดงถึงความสุขซึ่งมันเป็นหลักฐานชัดเจนว่าอาหารอร่อยมาก

    โซลล่า:‘นั้นไงว่าแล้ว’

    ทุกคน:“โอ้ววว!!!”

    ทุกคนโห่ร้องด้วยความดีใจ ก็อบอิจิได้ถอนหายใจโล่งอกริกูดที่เห็นแบบนั้นก็ไปตบไหล่ก็อบอิจิ

    ริมุรุ:‘อ๊า~มีความสุขจังเลย~~เพราะร่างสไลม์มันรับรสไม่ได้นี่น่า รสชาติของอาหารที่ลิ้มรสเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาโลกนี้ อ๊า~การมีชีวิตอยู่นี่มันช่างวิเศษจริงๆ’

    งานฉลองได้ดำเนินไปอย่างคลึกคลื้น ตัดมาทางด้านกลุ่มคุยในร่มเงาซึ่งประกอบด้วย โอเกอร์แดง โอเกอร์น้ำเงิน โอเกอร์ชรา ไคจิน ริกูด ริกุรุ และโซลล่า

    ไคจิน:“พรวด!!”

    ไคจินได้สำลักน้ำออกมาเพราะตกใจกับเรื่องที่โอเกอร์แดงเล่า

    ไคจิน:“ออร์คเข้าจู่โจมโอเกอร์งั้นเหรอ? เรื่องบ้าบอแบบนั้นมัน”

    โอเกอร์:“มันคือความจริง”

    ไคจิได้ไปหาพวกริกูด

    ไคจิน:“เรื่องแบบนั้นมันเป็นไปได้ด้วยงั้นเหรอ?”

    ริกุรุ:“………”

    ริกูด:“ไม่ทราบเหมือนกันครับ”

    โซลล่า:‘ถ้าเจ้านั้นโผล่มามันก็เป็นไปได้อยู่หรอกนะ แต่ถ้ามีออร์คที่ไปถึงขั้นนั้นแล้วมันน่าจะสูญเสียสติสัมปชัญญะไปเกือบหมดแล้วแปลว่ามีคนชักใยอยู่สินะ’

    ในตอนนั้นเองก็อปตะก็เดินผ่านมาพอดี

    ก็อบตะ:“มันเป็นเรื่องแปลกขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”

    ริกุรุ:“ก็อบตะ”

    แล้วคิสึโอะก็เดินมาพอดี

    คิสึโอะ:“มันก็แน่อยู่แล้วสิ แค่ความแข็งแกร่งทางเผ่าพันธ์ระหว่างออร์คกับโอเกอร์มันต่างชั้นกันมากเลยนะ”

    ไคจิน:“ใช่แล้วการที่เผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอกว่าอย่างออร์คไปจู่โจมก่อนมันเป็นไปไม่ได้”

    โอเกอร์แดง:“แต่ว่า พวกมันก็มา…”

    แล้วโอเกอร์แดงก็ว่าพวกออร์คติดอาวุธและชุดเกราะบุกจู่โจมหมู่บ้านของพวกตน ด้วยกองกำลังที่ท้วมทันราวกับลบล้างได้ทั้งป่า ซึ่งในกองทัพนั้นมีมารสวมหน้ากากซึ่งน่าจะเป็นคนค่อยสั่งการอยู่ด้วย ซึ่งโอเกอร์แดงก็ยืนยันว่าเป็นมารชั้นสูงไม่ผิดแน่

    โซลล่า:“อย่างนี้นี่เอง หมายความว่าพวกนายเผลอจำผิดว่าเจ้านั้นเป็นริมุรุคุงเลยมาท้าสู้สินะ”

    โอเกอร์:“ครับ”

    โซลล่า:‘ไอเจ้าพวกนี้โชคดีแล้วนะที่อีกฝ่ายเป็นริมุรุคุงไม่งั้นป่านนี้ได้กลับไปเกิดใหม่แน่(ว่าไปนั่น) แต่แบบก็ชัดแล้วสินะแปลว่าตัวหน้ารำคาญเกิดมาแล้วสิเนี่ย’

    ก็อบตะ:“แล้วมันหมายความว่ายังไงเหรอครับ?”

    ริกุรุ:“หมายความว่าพวกออร์คเป็นกองกำลังให้กับจอมมารคนไหนซักคน แบบนั้นไม่ใช่เหรอ?”

    ก็อบตะ:“อย่างงั้นเหรอครับ?”

    ไคจิน:“จอมมารงั้นเหรอ”

    ริกูด:“แต่ว่าทำไมจอมมารถึงได้…”

    โซลล่า:‘ก็คงเป็นเหตุผลไร้สาระสุดๆจนอยากจะต่อยให้กระเด็นซักเปลี้ยงนั้นแหละนะ’

    โอเกอร์แดง:“ไม่รู้เหมือนกัน ที่เรารู้แน่ชัดคือพวกพ้องทั้ง300ตนของพวกเรา ตอนนี้เหลือกันแค่6ตนแล้ว”

    โอเกอร์แดงได้พูดขึ้นมาอย่างเจ็บแค้น ในตอนนั้นเองริมุรุก็เดินมาพอดี

    ริมุรุ:“แบบนี้นี่เองน่า ก็ถึงว่าทำไมถึงเจ็บใจกันขนาดนั้น”

    แล้วริมุรุก็ไปนั่งพิงต้นไม้ข้างๆ

    โอเกอร์แดง:“กินเนื้อพอแล้วเหรอท่านริมุรุ”

    ริมุรุ:“พักอาหารซักเดี๋ยวนึงน่ะ แต่น้องสาวของนายนี่สุดยอดเลยนะ”

    พอพูดแล้วก็หันไปหาโอเกอร์ชมพูที่กำลังคุยกับพวกก็อบลินอย่างสนิทสนม

    ริมุรุ:“รู้ละเอียดเกี่ยวกับสมุนไพรและการปรุงอาหารเลยสนิทกับพวกก็อบลินได้ในทันทีเลย”

    โอเกอร์แดง:“เพราะเธอเป็นเป็นเด็กติดบ้านล่ะนะ คงดีใจที่ได้ถูกพึ่งพานั่นล่ะ”

    ริมุรุ:“แล้วต่อจากนี้พวกนายจะทำยังไงต่อเหรอ?“

    โอเกอร์แดง:“ต่อที่ว่า?”

    ริมุรุ:“แนวทางหลังจากนี้ไง ไม่ว่าจะสร้างหมู่บ้านขึ้นมาใหม่หรือย้ายไปอยู่ที่อื่น ชะตากรรมของพวกพ้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายไม่ใช่เหรอ?”

    โอเกอร์แดง:“ของมันแน่นอนอยู่แล้ว เราจะรวบรวมกำลังแล้วเข้าสู้อีกครั้ง”

    ริมุรุ“มีแผนแล้วเหรอ?”

    โอเกอร์แดง:“………”

    โอเกอร์แดงยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม

    ริมุรุ:‘แบบนี้Noแผนสินะ’

    โซลล่า:‘ไม่ได้แช่งนะแต่แบบนี้อายุไม่ยืนแหงๆ’

    ริมุรุ:“ชั้นมีข้อเสนอให้นะ พวกนายทุกคนสนใจมาเป็นลูกน้องของชั้นมั้ย?”

    โอเกอร์:“ลูกน้อง?”

    ริมุรุ:“ก็นะ ที่ชั้นจะจ่ายให้พวกนายได้ก็มีแค่อาหาร ที่พัก และเสื้อผ้าเท่านั้นล่ะนะ มีฐานที่มั่นไว้มันดีกว่าไม่ใช่เหรอ?”

    โอเกอร์แดง:“แต่ว่า…ถ้าเป็นแบบนั้นเมืองนี้ก็จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการล้างแค้นของพวกเราด้วย”

    ริมุรุ:“ก็นะ มันก็ไม่ใช่แค่เพื่อพวกนายอย่างเดียวด้วย ออร์คนับหมื่นแถมติดอาวุธเข้ามาโจมตีใช่ไหมล่ะ อาจจะมีจอมมารชักใยอยู่ก็เป็นไปได้”

    ริกูด:“พวกออร์คมันอาจจะจ้องสิทธิ์ครอบครองป่าใหญ่จูร่าแห่งนี้อยู่ก็เป็นไปได้นะครับ”

    ริมุรุ:“อืม เมืองนี้เองจะพูดว่าปลอดภัยก็ไม่ได้ล่ะนะ เพราะแบบนั้น ยิ่งกำลังรบเยอะขึ้นมันก็ดีสำหรับทางนี้ด้วยเหมือนกัน กลับกันถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับพวกนายชั้นเองก็จะสู้ด้วย…ชั้นจะไม่ทิ้งพวกพ้อง”

    โซลล่า:“หึ”

    โซลล่าได้ยิ้มออกมาเล็กน้อยกับคำพูดนั้นของริมุรุ

    โอเกอร์:“…แบบนี้เอง…อยากขอเวลาคิดสักหน่อย”

    ริมุรุ:“โอ้ ไปคิดให้เต็มที่ได้เลย เอาละ งั้นชั้นขอไปกินเนื้ออีกหน่อยก็แล้วกัน”

    พูดจบริมุรุก็ลุกแล้วเดินออกไป ส่วนโอเกอร์แดงที่คิดหนักก็เดินเข้าไปในป่าคนเดียว โซลล่าที่เห็นแบบนั้นก็คิดขึ้นมา

    โซลล่า:‘อาจเป็นทางเลือกที่ลำบากแต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็อย่าเสียใจทีซะละ’

    วันต่อมา

    (โซลล่าบรรยาย)

    ในวันนี้เจ้าโอเกอร์แดงก็มาให้คำตอบกับริมุรุคุงแล้ว เนื่องจากผมเป็นพวกสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านผมจึงมาแอบฟังนอกเต็นท์ ซึ่งดูเหมือนจะตอบตกลงเป็นสัญญาจนกว่าจะจบเรื่องของออร์คได้สินะ

    แล้วหลังจากนั้นริมุรุคุงก็ให้โอเกอร์แดงไปเรียกโอเกอร์ที่เหลือมา รอบนี้ผมเข้ามาในเต็นท์ด้วย ว่าแต่ที่เรียกพวกโอเกอร์มาหมดนี่อย่าบอกนะว่า

    ริมุรุ:“ชั้นจะมอบชื่อให้กับพวกนายเป็นหลักฐานการเข้ามาเป็นพรรคพวกของชั้น”

    นั้นไงละว่าแล้ว ทุกคนก็ดูตกใจกันหมดเลยก็ไม่แปลกหรอกนะ

    โอเกอร์แดง:“กับพวกเราทุกคนเลยเหรอ?”

    ริมุรุ:“ถ้าไม่มีชื่อมันไม่สะดวกจริไหมละ”

    โอเกอร์แดง:“แต่ว่า…”

    โอเกอร์ชมพู:“ระ รอก่อนค่ะ การตั้งชื่อเดิมทีเป็นสิ่งที่มีอันตรายตามมาด้วย แล้วยิ่งตั้งชื่อให้กับ…”

    ริมุรุ:“เอาน่าๆไม่เป็นไรหรอก”

    โอเกอร์ชมพู:“แต่ว่า…”

    ริมุรุ:‘อันตรายที่ว่าคือได้นั้นใช่ไหมละ ไอ้ที่ใช้แกนเวทย์มากเกินไปจนง่วงขึ้นมา คราวนี้แค่6คนเองไม่เป็นไรหรอกน่า’

    คงคิดแบบนั้นอยู่แหงๆคิดง่ายไปแล้วเฟ้ย เอาเถอะถ้ามีเวลโดร่าอยู่ในกระเพาะอยู่คงไม่ตายหรอกปล่อยให้เจอกับตัวเองเลยดีกว่า

    ริมุรุ:“หรือว่าไม่พอใจที่ถูกชั้นตั้งชื่อให้งั้นเหรอ?”

    โอเกอร์ชมพู:“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ…”

    โอเกอร์แดง:“ไม่คัดค้าน”

    โอเกอร์ชมพู:“ท่านพี่!”

    โอเกอร์แดง:“ขอรับไว้ด้วยความยินดี”

    โอเกอร์ชรา:“ถ้าหากนายน้อยพูดเช่นนั้นละก็”

    ริมุรุ:“อืม งั้นเริ่มละนะ…”

    แล้วริมุรุคุงก็เริ่มตั้งชื่อโดยเป็นดังนี้ แดง=เบนิมารุ น้ำเงิน=โซเอย์ ชมพู=ชูนะ ม่วง=ชิออน ชรา=ฮาคุโร่ ดำ=คุโรเบ้ แล้วแน่นอนว่าพอตั้งชื่อเสร็จเจ้าคนตั้งชื่อก็น็อคหลับไปเรียบร้อย ทางพวกโอเกอร์ก็วิวัฒนาการเป็นคิชินกันหมดแล้ว เบนิมารุกลายเป็นหนุ่มหล่อ โซเอย์เป็นหนุ่มหล่อเคร่งขรึม ชูนะเป็นสาวน้อยน่ารัก ชิออนเป็นสาวสาวอกโต ฮาคุโร่ดูหนุ่มขึ้น คุโรเบ้กลายเป็นคุณลุงธรรมดา

    ถึงจะดูเหมือนว่าร่างกายเล็กลงแต่แกนเวทย์สูงขึ้นมากซึ่งแน่นอนว่าแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน ยังไงก็เถอะหลังจากนี้คงมีอะไรเกิดขึ้นอีกเยอะแน่

    ตอนต่อไป กิ้งก่าผู้หลงระเริง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×