คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่5 ริมุรุ เทมเพสต์ และ ชิซูเอะ อิซาวะ
หลังจากที่โซลล่าออกมาจากลูเบเรียสแล้วเริ่มออกเดินทางต่อ เวลาก็ได้ผ่านไป300ปีแล้ว
300ปีต่อมา
โซลล่าได้กลับมาถึงทวีปนี้อีกครั้งซึ่งตอนนี้โซลล่ากำลังเดินไปเรื่อยเปื่อยในมหาพงไพรจูร่า
โซลล่า:"ไม่ได้กลับมาตั้ง300ปีแล้วสินะคิดถึงจังเลยน่า จะมีคนไปปล่อยเจ้าเด็กมีปัญหานั้นรึยังน่าชั่งเถอะถ้าเป็นตามที่คุโรโนบอกเราก็ไม่ควรไปปล่อยเองล่ะนะ ว่าแต่จะไปไหนดีละเนี่ย…."
โซลล่าก็คิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็ได้คำตอบ
โซลล่า:"เอาละ ลองไปหาคนเออไม่สิต้องสไลม์รึเปล่าหว่า จะยังก็ชั่งไปหาริมุรุ เทมเพสต์ที่คุโรโนเล่าให้ฟังดีกว่า…ถ้าจากที่เล่ามาก็ต้องทางนี้สินะ"
หลังจากที่ดีทิศทางเรียบร้อยแล้วโซลล่าก็เริ่มเดินต่อ จากนั้นสักพักหนึ่ง
โซลล่า:"น่าจะใกล้ถึงแล้ว…!!!"
ในระหว่างที่โซลล่ากำลังพูดจู่ๆก็ได้มีเสาไฟพุ่งขึ้นมาตรงทิศทางที่เขากำลังไปพอดี
โซลล่า:"นั้นมัน!!!…"
แล้วโซลล่าก็ใช้ญาณเวทย์ตรวจดู
โซลล่า:"สัมผัสแบบนี้ภูตไฟระดับสูงอิกฟริทงั้นเหรอ แถมดูถ้าจะเป็นพวกไม่เป็นมิตรสินะเนี่ย แถมยังยึดร่างสถิตไว้อีกดูท่าจะเกิดเรื่องแฮะรีบไปดีกว่า"
พูดจบโซลล่าก็รีบพุ่งไปทิศทางของเสาไฟทันที
ตัดไปที่จุดเกิดเหตุ
ร่างที่มีผิวสีแทนที่มีผมเป็นไฟ หรือภูตไฟระดับสูง“อิกฟรีท”
ซึ่งเพิ่งจะยึดร่างของร่างสถิตอย่าง“ชิซุ”หรือชื่อจริง“อิซาวะ ชิซุเอะ”ไปกำลังอาละวาดอยู่โดยมีมนุษย์(?)3คน หมาป่า1ตัวและสไลม์ที่อยู่บนหลังของมันอีก1กำลังสู้อยู่
ซึ่งก็คือ มนุษย์(?)
“คาวาล”
“เอเรน”
“กิโด้”
หมาป่าเผ่าพันธ์เทมเพตส์วูฟ
“รันก้า”
และสไลม์ที่ซึ่งเป้าหมายการมาของโซลล่าผู้กลับชาติมาเกิด“มิคามิ ซาโตรุ”หรือชื่อใหม่ในโลกนี้“ริมุรุ เทมเพสต์”นั้นเอง
อิกฟรีดได้เรียกซาลาแมนเดอร์ออกมา3ตัวแล้วพวกมันก็ได้พุ่งเข้ามาโจมตีทั้ง5 ทั้ง5ก็เตรียมพร้อมปะทะแต่
“เวทมนต์ดัดแปลง: Ice Rain!!!”
จึกๆๆๆๆ!!!!!!
ซาลาแมนเดอร์x3:“อ้ากกกกก!!!!!”
ตูม!ตูม!ตูม!
อิกฟรีท:“!?”
ทั้ง3คน:“เอ๋!?”
ริมุรุ:“เมื่อกี้นี้…”
ก่อนที่ทั้ง5จะเข้าปะทะกับซาลาแมนเดอร์ก็ได้มีเสียงร่ายเวทย์ดังกล่าวดังขึ้น จากนั้นก็มีห่าฝนเข็มน้ำแข็งมหาศาลก็ตกลงมาและแทงใส่ซาลาแมนเดอร์ทั้งหมดจนพวกมันระเบิดเป็นไอน้ำไป ทุกคนที่อยู่ที่นั้นก็งงกันไปหมดแล้วหันไปหาตามเสียงร่ายเมื่อกี้ก็พบกับชายผมขาวตาสีฟ้าซึ่งก็คือโซลล่านั้นเอง ซึ่งพอริมุรุเห็นหน้าชายคนนั้นเวลโดร่าที่อยู่ในกระเพาะของริมุรุก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาทันทีจนริมุรุรู้สึกได้
ริมุรุ:‘! เมื่อกี้นี้มัน เวลโดร่าเหรอ?’
จากนั้นริมุรุก็หันไปหาโซลล่าอีกครั้งแล้วถาม
ริมุรุ:“คุณ…เป็นใครน่ะ?”
โซลล่า:“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน…ก่อนอื่นต้องทำอะไรซักอย่างกับหมอนั้นก่อน”
โซลล่าได้พูดพร้อมชี้ไปทางอิกฟรีท คนอื่นก็หันไปมองตามพร้อมกับพยักหน้า ทางอิกฟรีทที่เห็นตัวการที่จัดการลูกน้องของตนก็โกรธอย่างมากพร้อมกับยิงลูกไฟขนาดใหญ่ใส่โซลล่าทันที
โซลล่า:“อ่อนหัด เวทมนต์ดัดแปลง:Ice Guard ”
สิ้นเสียงของโซลล่าก็ได้เกิดวงเวทย์สีฟ้าขนาดใหญ่ที่พื้นด้านหน้าจากนั้นก็มีกำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่โผล่ออกมาป้องกันลูกไฟนั้น ทุกคนที่เห็นก็อึ่งกันมากไม่เว้นแม้แต่เจ้าตัวอิกฟรีทเอง
ทั้ง3คน:“เวทมนต์อะไรกันเนี่ย!!!!”
ริมุรุ:“สุดยอดเลยแฮะ ‘นี่มหาปราชญ์เวทมนต์นั้นมันอะไรเหรอ?’ ”
มหาปราชญ์:«คำตอบ:ไม่สามารถวิเคราะห์ได้คาดว่าเป็นเวทมนต์ที่สร้างขึ้นมามาเองค่ะ»
ริมุรุ:‘เอ๋!!! ของทำเองเลยเหรอ’
ใช้แล้วเวทมนต์ที่โซลล่าใช้นั้นล้วนแต่เป็นเวทมนต์ที่สร้างขึ้นมาเองจากอัลติเมทสกิล เดย์ดาลัส(เทพแห่งการประดิษฐ์)นั้นเอง
แปะ!
จากนั้นโซลล่าจะดีดนิ้วพร้อมกับที่กำแพงน้ำแข็งได้หายไปเหลือแค่ละอองน้ำแข็ง
โซลล่า:“แกน่ะอยู่นิ่งๆไปซักพักเถอะ เวทมนต์ดัดแปลง:Ice Chain!!!”
สิ้นเสียงของโซลล่าก็ได้เกิดวงเวทย์สีฟ้าขนาดเล็กที่พื้นด้านล้างของอิกฟรีทจำนวน5วง จากนั้นก็มีโซ่ที่ทำจากน้ำแข็งออกมาจากวงเวทย์พร้อมกับไปพันร่างของอิกฟรีทเอาไว้จนขยับไม่ได้ อิกฟรีทพยายามปล่อยไฟออกมาเพื่อละลายโซ่น้ำแข็งนั้นแต่
โซลล่า:“เปล่าประโยชน์น่าไฟแค่นั้นละลายน้ำแข็งนั้นไม่ได้หรอกนะ…”
พูดจบโซลล่าก็ได้หันไปริมุรุแล้วพูดต่อว่า
โซลล่า:“ถึงตานายแล้ว”
ริมุรุ:“เอ๊ะ!?”
โซลล่า:“นายอยากจะช่วยคนที่โดนเจ้านั้นยึดร่างไปใช่ไหมละ แถมดูเหมือนจะมีวิธีด้วยงั้นที่เหลือนายก็จัดการเองเลยแล้วกัน”
ริมุรุ:“ครับ!”
พอขานรับเสร็จริมุรุก็เด้งไปหาอิกฟรีททันที แต่พอริมุรุเข้าไปใกล้อิกฟรีทก็มีวงเวทย์สีแดงขึ้นมาที่พื้นใต้ริมุรุจากนั้นก็มีเสาไฟขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมาทันที ซึ่งแน่นอนว่าเป็นฝีมือของอิกฟรีทเวทย์มนต์:Flare Circle นั้นเอง
โซลล่า:“โดนมัดอยู่แบบนั้นยังจะใช้ของแบบนั้นได้อีกนะ”
ทั้ง3คน:“คุณริมุรุ!!!”
รันก้า:“นายแห่งข้า!!!”
โซลล่า:“ไม่ต้องห่วงหรอกไฟทำอะไรหมอนั่นไม่ได้หรอกนะ”
ทุกคน:“เอ๊ะ!?”
ทางริมุรุ
ริมุรุ:“อ๊ากกก ยังมีเรื่องที่อยู่อีกตั้งเยอะแท้ๆ เข้ามาติดกับดักตามที่ศัตรูวางไว้แบบนี้เลวร้ายที่สุดเลย! รู้งี้เลิกเพ้อจุผนึกแล้วยัดสายฟ้าสีดำเข้าไปดีกว่า! อุตส่าห์กลับมาเกิดใหม่เป็นสไลม์แล้วแท้ๆ! ต้องมาจบลงแค่นี้แล้วเหรอ?! เป็นชีวิตที่สั้นจริงๆ…ไม่สิ ชีวิตสไลม์นี่หว่า จะว่าไปแล้ว ดาเมจมันไม่ยักจะมาสักทีนะ ว่าแต่มันช้าไปหน่อยไหม?”
มหาปราชญ์:«คำตอบ:…»
มหาปราชญ์กำลังจะตอบคำถามของริมุรุแต่ในตอนนั้นก็มีคนแทรกแซงทางความคิดเข้ามา
โซลล่า:<“มัวสั่งเสียก่อนตายบ้าอะไรอยู่ห่ะเจ้าบ้า!!! แกมีต้านทานไฟอยู่ไม่ใช่รึไง!!!”>
ริมุรุ:“อะจริงด้วยแฮะๆแต่เดี๋ยวนะ!!คุณรู้เรื่องนั้นได้ไงน่ะ!!แถมเมื่อกี้…”
มหาปราชญ์:«คำตอบ:การแทรกแซงทางความคิดค่ะ และเรื่องที่ปัจเจกบุคคลปริศนารู้เรื่องสกิลอาจเป็นเพราะมีสกิลที่ที่ดูสกิลที่อีกฝ่ายมีได้ก็ได้ค่ะ»
ริมุรุ:‘เอ๋!!!มีแบบนี้ด้วยเหรอขี้โกงอะ’
โซลล่า:<“เรื่องพันนั้นจะยังไงก็ชั่ง!!ไปจัดการเจ้านั้นได้แล้ว!!!”>
ริมุรุ:“ครับ”
จากนั้นไฟก็มอดดับลงปรากฎให้เห็นถึงริมุรุที่ไม่เป็นอะไรเลยซักนิด อิกฟรีทที่เห็นก็ตกใจทางพวกเอเรนกับรันก้าที่เห็นแบบนั้นก็ดีใจ
ริมุรุ:“นายน่ะดูถูกชั้นไปหน่อยนะ”
อิกฟรีทได้พ้นไฟใส่ริมุรุอีกรอบแต่แน่นอนว่าไม่เป็นอะไรเลย
ริมุรุ:“ถึงตาของชั้นแล้ว”
มหาปราชญ์:«เปิดใช้งานยูนิคสกิล นักล่าไหมค่ะ?»
ริมุรุ:‘Yes!’
จากนั้นตัวริมุรุก็แตกออกแล้วกลืนกินร่างของอิกฟรีทเข้าไปพร้อมกับแยกตัวชิซุออกมาได้สำเร็จ
ท้องฟ้าที่มืดครึ้มก็กลับไปเป็นปกติ
ริมุรุ/พวกเอเรน:“คุณชิซุ!!!”
ริมุรุและพวกเอเรนก็ได้รีบไปหาชิซุที่สลบอยู่ที่พื้นทันทีโดยที่โซลล่าก็ตามไปดูด้วย
ในกระเพาะของริมุรุ
อิกฟริทได้ถูกจับส่งมาในนี้ก็กวาดสายตามองรอบ ที่มีแต่พื้นที่มืดสนิทอันไม่มีที่สิ้นสุด
:“ยอมแพ้ซะเถอะ อิกฟรีท”
อิกฟรีทก็หันไปตามเสียงก็พบกับมังกรที่มีร่างกายสีน้ำเงินเข้มขนาดใหญ่และน่าเกรงขาม(แค่ภายนอก) ตัวตนสูงสุดของโลกที่เรียกว่ามังกร ซึ่งก็คือเวลโดร่านั้นเอง
เวลโดร่า:“เจ้าไม่มีทางทำลายมิติแห่งนี้ลงได้ เจ้านั้นไม่ใช่ศัตรูที่เจ้าจะชนะได้ ริมุรุเป็นเพื่อนร่วมสาบานของข้า! และท่านผู้นั้นผู้เป็นพี่ชายอีกคนของเหล่ามังกรที่แท้จริง! ข้าคือมังกรวายุคลั่ง เวลโดร่า เทมเพสต์ จะเป็นคู่ต่อสู้ให้เจ้าจนสาแก่ใจเอง หึๆฮ่าๆๆๆๆๆ”
ตัดกลับมาข้างนอก
ทุกคนได้มาดูอาการของชิซุที่สลบอยู่
ริมุรุ:“คุณชิซุ”
โซลล่า:“ขอชั้นดูหน่อย”
ทุกคนได้หลบทางให้โซลล่าเข้าไปดูอาการของชิซุซึ่งผลก็คือ
โซลล่า:“ร่างกายอ่อนแอลงมากเลยคงจะมีชีวิตได้อีกไม่นานแล้วละ”
เอเรน:“ไม่จริงน่า…”
คาวาล/กิโด้:“…………”
ริมุรุ:‘มหาปราชญ์ทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ’
มหาปราชญ์:«คำตอบ:ต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ค่ะ»
ริมุรุ:‘แบบนั้นก็ไม่ทันน่ะสิ’
ในตอนที่ทุกคนสิ้นหวังกันอยู่นั้นเอง
โซลล่า:“ไม่ต้องห่วง ชั้นไม่ยอมให้ใครตายทั้งนั้นแหละ”
ทุกคน:“!!!”
ทุกคนได้หันไปหาโซลล่า ส่วนโซลล่าก็ได้หยิบผลึกคริสตัลสีแดงเพลิงออกมาแล้วนำไปวางบนหน้าอกของชิซุ
โซลล่า:“เอาละนะ…”
โซลล่าได้แบบมือและส่งพลังงานลงไปในผลึกเพื่อกระตุ้นให้ทำงาน จากนั้นผลึกก็ส่องแสงแล้วมันก็ค่อยๆเข้าไปในอกของชิซุ แล้วก็เข้าไปในร่างของชิซุเรียบร้อย พอเสร็จงานแล้วโซลล่าก็นอนแผ่ไปด้านหลังพร้อมถอนหายใจออกมา
โซลล่า:“เฮ้อ ไม่เป็นไรแล้วละตอนนี้เธอคนนี้ปลอดภัยแล้ว”
ทุกคนที่ได้ยินดังนั้นก็ดีใจมาก
ริมุรุ:“ขอบคุณมากนะครับ เออคุณคือ…?”
โซลล่า:“โซลล่า โซลล่า โนว่า นั้นคือชื่อของชั้น”
เอเรนที่ได้ยินชื่อก็ตกใจมาก
เอเรน:“ชะชื่อนั้นมัน หระหรือท่านคือ ท่านวีรบุรุษแห่งแสง!!!”
คาวาล/กิโด้:“เอ๋!!!นั้นคือท่านวีรบุรุษในตำนานงั้นเหรอ!!!”
ริมุรุ:‘วีรบุรุษแห่งแสงเหรอ? อะไรล่ะนั้น?’
โซลล่า:“แค่ฉายาที่คนตั้งให้เท่านั้นแหละ ชั้นก็แค่ทำตามใจเอง ‘ก็เห็นว่าแปลกดีที่เอลฟ์มาเป็นนักผจญภัยแบบนี้ที่แท้ก็เป็นคนรู้จักของยัยปากมากเอลเมเซียนี่เอง’ ”
โซลล่าบรรยาย
ถ้าถามว่าใครละก็เธอคือจักรพรรดินีแห่งราชวงศ์มนตรา ซาริออน เอลเมเซีย เดอ ซาริออนซึ่งเธอเป็นคนเอาแต่ใจสุดๆเลย ระหว่างที่เดินทางอยู่ผมก็บังเอิญเจอเธอที่กำลังหนีเที่ยวอยู่เข้าก็เลยได้เดินทางด้วยกันอยู่พักหนึ่ง แล้วแน่นอนว่าไม่นานก็ต้องมีคนตามมาพาตัวกลับซึ่งคนที่มาพาตัวยัยนั้นกลับทำเอาผมตกใจเลย ต่อจากอาเรียแล้วก็เป็นเจ้านั้นเนี่ยถ้าพวกที่เหลือมาด้วยก็ครบแก๊งเลยนะเนี่ย แต่อุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาว่าอย่าปากโป้งเรื่องของชั้นนักอุตส่าห์ฝากให้เจ้านั้นดูอยู่ด้วยแล้วแท้ เฮ้อ~ เอาเถอะก็ดูไม่ใช่คนไม่ดีคงไม่เป็นมั้ง
เวลาต่อมา
หลังจากที่พาคุณชิซุเอะไปพักเพื่อให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับผลึกวิญญาณอีกซัก2 3วันคงตื่น ถ้าถามว่าผลึกวิญญาณคืออะไรละก็มันคือผลึกที่ผมสร้างมาจากพลังเวทย์ธาตุภูต เพื่อใช้เป็นเหมือนพวกหัวใจเทียมที่ช่วยยื้อชีวิตนั้นแหละ สรุปก็คือเป็นของที่เอามาใช้แทนที่อิกฟรีตนั้นแหละ เอาละกลับเข้าเรื่องหลังจากที่พาคุณชิซุไปพักผมก็เรียกริมุรุคุงมาคุยด้วยหน่อย
(ไรท์บรรยาย)
ริมุรุ:“เออคือมีเรื่องอะไรจะคุยเหรอครับ”
โซลล่า:“งั้นขอเขาเรื่องเลยนะ เวลโดร่าเป็นไงบ้างเหรอ?”
ริมุรุ:“อ่อ~เรื่องเวลโดร่านี้เอง…เอ๊ะ!? เออออ๋!!!! นะนะนี่หรือว่าคุณ…”
โซลล่า:“ถ้าเรื่องที่หมอนั่นอยู่ในกระเพาะของนายละก็รู้แล้วละ ในฐานะพี่ชายแค่อยากถามดูเท่านั้นแหละว่าเป็นไงบ้างน่ะ ไม่ได้โกรธนายอะไรหรอกนะ”
ริมุรุ:“เอออออ๋!!!!พพพี่ของเวลโดร่างั้นเหรอ!!!!!”
โซลล่า:“ถ้าพูดให้ถูกเจ้านั้นเป็นน้องของเพื่อนชั้นน่ะนะ แต่ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้นะคุณผู้กลับชาติมาเกิด”
ริมุรุ:“เอ๊ะ!? ทำไมถึง…”
โซลล่า:“จะมีสไลม์ซักกี่ตัวที่พูดได้แบบนี้น่ะ อีกอย่างชั้นเองก็เป็นผู้กลับชาติมาเกิดเหมือนกันนะ”
โซลล่าได้พูดพร้อมชี้นิ้วโป้งมาที่ตัวเอง
โซลล่า:‘จริงๆรู้จากคุโรโนต่างหาก’
ริมุรุ:“เอออ๋!!! แต่เวลโดร่าเคยบอกว่าไม่เคยเจอผู้กลับชาติมาก่อนเลยนิน่า”
โซลล่า:“ก็มันไม่เคยถามชั้นก็เลยไม่ได้บอกไง”
ได้ยินดังนั้นริมุรุก็เงิบไปเลย เวลโดร่าที่แอบฟังอยู่ในกระเพาะของริมุรุก็เงิบไม่แพ้กัน จากนั้นริมุรุก็เล่าเรื่องเรื่องการเจอกันของตัวเองกับเวลโดร่า
โซลล่า:“งั้นเหรอ ขอบคุณนายมากนะที่ยอมเป็นเพื่อนให้เจ้านั้นนะ บอกตามตรงชั้นอยากให้เจ้านั้นมันหาเพื่อนดีๆซักคนได้ก็ยังดีแหละนะ”
ริมุรุ:“ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่คุณจะปล่อยเวลโดร่าเลยเหรอ?”
โซลล่า:“ไม่ล่ะ เจ้านั้นก่อเรื่องเอาไว้ซะเยอะให้อยู่ในกระเพาะของนายไปซักพักก่อนก็แล้วกันนะ”
ริมุรุ:“ ‘นี่ไปก่อเรื่องมาขนาดไหนละเนี่ย’ แล้วคุณจะเอาไงต่อเหรอครับ”
โซลล่า:“นั้นสินะ ยังไงชั้นก็ว่างอยู่แล้วด้วยงั้นชั้นขออยู่ช่วยสร้างเมืองกับพวกนายแล้วกันนะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า”
ริมุรุ:“ทางนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่จะดีเหรอ?”
โซลล่า:“ดีสิน่าสนุกดีออก งั้นก็ขอฝากตัวด้วยนะ”
ตอนต่อไป ปักหลัก
ความคิดเห็น