ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    《FANFIC》undertale all au : Let's take it (Reader)

    ลำดับตอนที่ #1 : Introduction

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 371
      38
      18 เม.ย. 63

     

    ☆×-------×☆

     

    Jeanne_Patricia

     

    "The Only Disability in Life is Bad attitude. "

     

     

     

    ☆×-------×☆

     

     

    "คุณหมายความว่าไงที่จะให้ลูกเราเข้าโรงเรียนเซย์รีนฟลอตเตน่านะ"

     

    บิดากล่าวถามมารดาของตนอย่างขุ่นเคืองและไม่ยอมรับกับสิ่งที่มารดาตัดสินใจเลือก มารดาที่ได้ยินก็คิ้วขมวดเข้าหากันทำให้รู้สึกว่ากำลังเครียดและสับสนอยู่

     

    "ผมตัดสินใจไม่ได้ ถ้าให้ลูกเราอยู่แต่ในบ้านก็มีแต่เสียประโยชน์สะป่าวๆ จะให้ผมอดทนให้ลูกเราอยู่อย่างงั้นเหรอคุณน่ะ?"

     

    ผู้เป็นมารดาที่นั่งเครียดเต็มทนพร้อมกับเสียงทุ้มมีเสน่ห์ที่เอ่ยถามบิดาที่ยืนอยู่ข้างกายที่ตอนนี้พลางเอามือขาวนวลมาบีบกามเนื้อเพื่อให้ผ่อนคลาย

     

    "แต่ว่า-"

     

    "ผมคิดว่าคุณควรไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง"

     

    มารดาเอ่ยขัดขึ้นมาให้ขณะที่บิดากำลังกล่าวขัดค้าน แต่เขาก็ได้ขัดไว้ทำให้บิดาเงียบนิ่งและหยุดการกระทำของเธอทันที เมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่ปนโกรธออกมาเล็กๆน้อยๆ ทำให้เธอไม่กล้าที่จะเถียงต่อและเดินถอยหลังออกไป

     

    "ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณ"

     

    ก่อนที่บิดานามว่า เฟียร์โซน่า จะเดินเข้าห้องนอนของตนเองไปและหลับพักผ่อนอย่างสบายใจในใจของเธอนั้นกลับกำลังยิ้มแสยะรอดูผลงานสามีของเธอ

     

    'จะทำให้เธอประทับใจขนาดไหนกันเชียวน่ะ'

     

    ทางด้านมารดาหลังจากที่เห็นว่าภรรยาของตนกลับเข้าไปที่ห้องนอนแล้วก็ถอนหายใจออกมาพักใหญ่ ก่อนที่ประตูบานใหญ่จะถูกเปิดเบาๆทำให้เขาได้หันไปมองคนมาใหม่ซึ่งคนนั้นคือ (ชื่อคุณ) ซึ่งทำให้เขาลุกขึ้นไปหยิบเข็มขัดของตนและเชือกไว้ ก่อนที่จะเดินไปหาคุณและกระชากแรงลากตัวของคุณอย่างไม่สนใจใยแคร์เลยว่าคุณเจ็บแค่ไหน

     

    "ค คุณพ่อ หนูเจ็บน่ะ-โอ๊ย!"

     

    ร่างของคุณก็โดนเควี้ยงใส่เตียงอย่างแรง ก่อนที่มารดานามว่า โซคริสตาน่า จะได้ใข้เชือกมัดแขนทั้งสองและขาทั้งสองข้างของคุณไว้อย่างแน่น คุณที่พยายามดิ้นให้เชือกหลุดแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะออกง่ายๆเลย

     

    "เอาล่ะ ฉันกำลังอารมณ์เสียเพราะเรื่องของแกอยู่พอดี วันนี้ฉันขอระบายอารมณ์กับแกหน่อยก็แล้วกัน!"

     

    ก่อนที่เขาจะสะบัดเข็มกลัดมาโดนตัวของคุณอย่างแรง

     

    อ๊าก!

     

    "จ เจ็บ. ฮึกๆ เจ็บ โอ๊ย!"

     

    "ดีนี้! ร้องออกไปให้ดังกว่านี้สิ! ร้องไปเท่าไหร่ก็ไม่มีคนมาช่วยหรอก! ย๊าก!"

     

    ก่อนที่เขาจะเหวี้ยงใส่แรงๆจนเกิดรอยแดงบนหลังอันขาวนวลของเด็กวัย 7 ขวบอย่างเด่นชัด

     

    "ช ช่วยด้วย! อ๊าก! ค ใครก็ได้! ฮือ!! โอ๊ย!"

     

    โซคริสตาน่าก็เหวี้ยงเข็มขัดไปมาใส่ตัวคุณไปเรื่อยๆจนนับครั้งไม่ถ้วน ในตอนนั้นเองคุณทำได้แค่ร้องไห้และร้องขอความช่วยเหลือ ทางด้านโซคริสตาน่าเองก็เหวี้ยงเข็มขัดนั้นอย่างสะใจ และยิ้มกว้างออกมาอย่างสนุก

     

    ใครก็ได้! ช่วยที!

     

    จนเวลาค่ำคืนนั้นจะผ่านไป เช้าวันต่อมาสภาพของคุณก็ไม่ต่างจากเด็กที่หมดสภาพที่โดนไฟช็อตมา แต่คุณไม่ใช่คุณโดนฟาดเข็มขัดใส่หลายนับครั้งไม่ถ้วน แต่คุณก็พอจะชินความรู้สึกเจ็บมาแล้ว เพราะยังไงครั้งนี้ก็ไม่ครั้งแรกของคุณ เพราะว่าคุณเคยโดนแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ

     

    วันนี้คุณต้องไปโรงเรียนที่พ่อของคุณได้สมัครเข้าไว้ โดยที่แผลที่โดนมาจากพ่อของคุณ คุณได้ทำการใช้ผ้าพันแผลมาพันรอบตัวๆที่มันเป็นจุดจำเป็นและค่อยใส่ชุดสวมเข้าไปทับอีก ก่อนที่คุณจะสะพายกระเป๋าและเดินไปที่โรงเรียนเนื่องจากว่าบ้านของคุณไม่ไกลจากตัวโรงเรียนมาสักเท่าไหร่ จึงสามารถเดินไปเองได้

     

    แต่ถึงจะโรงเรียนใกล้หรือไกลยังไงคุณก็ต้องเดินเองไปอยู่ดีเนื่องจากพ่อกับแม่ของคุณบอกว่า'(ชื่อคุณ)โตเป็นวัยรุ่นแล้ว เดินเองได้ไปไหนได้ไม่ต้องพึ่งผู้ปกครอง' ซึ่งนั้นทำให้คุนเดินตลอดโดยไมต้องพึ่งประสงค์กับผู้ปกครองเลยแม้แต่น้อย ส่วนเงินค้าขนมแม่ของคุณจะเป็นคนเอามาวางไว้ให้ที่บนตูเย็นทุกครั้ง ในแต่ละครั้งก็แล้วแต่อารมณ์ของเธอจะให้ บางวันให้ 200 เยน 150 เยน

     

    แต่ทุกครั้งที่คุณใช้ก็จะเหลือตลอดเนื่องจากคุณเป็นคนประหยัดเงินอยู่แล้ว สาเหตุที่เธอต้องย้ายจากโรงเรียนก็คงเพราะสาเหตุที่ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เนื่องจากเธอโดนไล่ออกข้อหาไปแกล้งคนนู้นคนนี้ แต่แท้จริงแล้วคุณโดนใส่ร้ายต่างหากล่ะ ที่โดนใส่ร้ายก็เพราะคุณเป็นคนที่ขยันทำงานและฉลาด ทำให้เป็นเป้าหมายการอิจฉาเป็นอับดับต้นๆเลยทีเดียว เนื่องจากบุคลิกภายนอกจะนิ่งเงียบ และดูหยิ่ง แต่แท้จริงแล้วคุณไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย

     

    แต่มันก็จริงที่คุณชอบทำหน้านิ่งอยู่อย่างงั้นคนที่เข้ามาสนิทด้วยก็ไม่กล้าเข้าแม้แต่น้อย แถมไก้รับฉายาว่าเป็นปีศาจโดยไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่น้อย

     

    ในขณะที่คุณกำลังคิดเรื่อยเปื่อยเวลาเดินทางไปโรงเรียนคุณก็หยุดลงเมื่อเดินชนใครสักคนที่ตัวใหญ่กว่าคุณและสูงกว่าคุณทำให้คุณนั้นได้ล้มลง

     

    พลั่ก!

     

    "อ๊ะ!?"

     

    "เนี้ยะ!"

     

    คุณและเขาก็ได้ล้มลงพร้อมกัน ก่อนที่ขึ้นจะลืมตาขึ้นพลางรู้สึกความเจ็บทั่วร่างกายที่แล่นขึ้นสูง เนื่องจากมันซ้ำกันรอยแผลที่คุณปิดไปไม่นาน คุณก็น้ำตาไหลออกเล็กน้อยเมื่อลืมตาขึ้นก็ตกใจเพราะคนที่คุณชนอยู่กำลังครอมคุณอยู่ทำให้คุณอึ้งอยู่สักพักก่อนที่คนตรงหน้าคุณเข้าจะได้สติ

     

    "อ่า......"

     

    คุณมั่วแต่อำอึ้งและนิ่งค้างเนื่องจากไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับคุณมาก่อนทำให้คุณไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ก่อนที่คนตรงหน้าจะรีบลุกขึ้นและช่วยคุณโดยมีคำขอโทษไปด้วย ทำให้คุณยิ่งทำตัวไม่ถูกเข้าใหญ่

     

    "ข ขอโทษทีนะเจ้ามนุษย์ พอดีฉันลืมดูทางน่ะ"

     

    คุณที่ยืนขึ้นมาและรวบรวมสติได้แล้วก็หันไปมองคนตรงหน้าว่าจะเอ่ยขอบคุณไป แต่ก็ดันอึ้งเข้าไปสะก่อนเนื่องจากคนตรงหน้าเป็นโครงกระดูกที่พูดได้ ใบหน้าของคุณอึ้งและตกใจเป็นอย่างมาก

     

    "เอ่อ...เป็นอะไรไหมเจ้ามนุษย์???"

     

    "ข ขอบคุณนะคะ และก็ ขอโทษด้วยค่ะ!"

     

    ก่อนที่คุณจะรีบติดเกียร์หมาไปทันที เพื่อไม่ให้คนตรงหน้ามาหลอกหลอนคุณไปมากกว่านี้ ผีตอนเช้าเหรอเนี้ย!?

     

    "น นี่พี่ชาย ฉันทำอะไรให้เธอวิ่งหนีนะ เนี้ยะ..."

     

    พาไพรัส ถามคนข้างๆที่ยืนอยู่ข้างเขาพลางมองแผ่นหลังเล็กๆที่เริ่มจางหางไป ใบหน้าของเขาเศร้าและซึมลงเล็กน้อย เพราะเขายังไม่ได้รู้จักมนุษย์ผู้หญิงนั้นเลยแม้แต่น้อย และแถมเขาก็ยังต้องการเพื่อนที่เป็นมนุษย์สะด้วยเนื่องจากสถานที่ที่เขาอยู่มีแต่มอนสเตอร์กับไอ้พี่ชายจอมกระดูกขี้เกียจ ทำให้เขาไม่เคยได้มีเพื่อนเป็นมนุษย์เลยสักครัง คราวหน้าของต้องจับมัดเธอมาแล้วล่ะ

     

    แซนส์ ที่ยืนอยู่ข้างๆพาไพรัสก็ทำได้แค่มองแผ่นหลังนั้น พลางยืนปลอบน้องชายของเขาเล็กน้อย เขาก็รู็ว่าน้องชายเขาอยากมีเพื่อนเป็นมนุษย์น่ะ แต่ช่วยไม่ได้ที่มนุษย์ผู้หญิงคนนั้นวิ่งหนีไปก่อนสะแล้ว

     

    "เอาน่าน้องชาย...เดี๋ยวก็มีเองนะ"

     

    แซนส์พูดเพื่อปลอบน้องชายของเขาเล็กน้อย พาไพรัสก็พยักหน้าเบาๆก่อนที่จะหันมาเดินต่อ แซนส์ที่เห็นว่าพาไพรัสยังไม่เลิกหน้าซึมอยู่ก็คิดว่าจะหามุขมาเล่นให้หายซึมสะก่อน

     

    "เฮ้ พาไพรัสนั้นมนุษย์น่ะ!"

     

    "ไหน!?"

     

    "Boo"

     

    "อ๊าก! แซนส์นายทำแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วนะ!"

     

    "555+"

     

    แซนส์ที่ทำให้น้องชายโกรธก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ แต่ภายในใจก็รู้สึกเลิกอึดอัดแล้วล่ะและรู้สึกดีแล้วด้วยเพราะน้องชายของเขาเลิกหายซึมไปแล้ว ก่อนที่ทั้งสองจะเดินกลับบ้านอย่างสนุกสนานพลางะหว่างทางก็มีวิ่งไล่กันบ้างน่ะ

     

    ทางด้านคุณที่วิ่งติดเกียร์หมามาถึงโรงเรียนที่คุณจะต้องไปพอดี คุณถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหอบเพราะคุณวิ่งเอาไม่หยุดอย่างนี้นะสิ คุณก็พักหอบสักพักก่อนที่คุณจะเดินเข้าไปที่โรงเรียนนนั้นทันที ผู้คนก็มากมายจนคุณเองก็อยากวิ่งเข้าห้องเรียนให้รู้แล้วรู้รอดเลยล่ะ

     

    ให้ตายสิแออัดชะมัด...

     

    คุณบ่นในใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พลางเดินหลบคนนู้นคนนี้ไม่ให้โดนตัวเธอก่อนที่เธจะเดินถึงตัวตึกของอาคารเรียนสักที คุณพักหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่คุณจะเดินไปเปลี่ยนรองเท้าที่ตู้ล็อคเกอร์ว่าง คุณเปลี่ยนรองเท้าเสร็จก็เดินขึ้นไปที่ห้องเรียนทันทีโดยไม่รอใครทั้งนั้น พลางมองรอบๆโรงเรียนเล็กน้อย

     

    อย่างน้อยก็ขอมองโรงเรียนนี้ก่อนล่ะกัน...

     

    ในขณะที่คุณมองโรงเรียนอยู่ก็มีเสียงออดขึ้นเป็นสัญญาณออดที่ให้นักเรียนทุกคนขึ้นห้องเรียนได้ คุณจึงรีบเดินเข้าห้องเรียนของคุณไปทันที เมื่อคุณเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับผู้คนมากมาย จะไม่แปลกเท่าไหร่เพราะทุกคนเขาก็มาอยู่ที่ห้องกันตั้งนานแล้ว ทุกสายตาก็จับจ้องมองมาที่คุณจุดเดียวเมื่อเห็นว่าเป็นคนที่พวกเขาไม่รู้จัก

     

    ก่อนที่อาจารย์ของห้องนี้จะเดินเข้ามาและเมื่อเห็นคุณก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเพราะอาจารย์พึ่งไปตามหาคุณเพราะนึกว่าคุณขาดเรียนสะอีก แต่ที่แท้ก็เดินมาถึงที่ห้องเรียนก่อน อาจารย์ที่เห็นดั่งนั้นก็เดินไปที่โต๊ะครูก่อนที่หัวหน้าห้องจะบอกทำความเคารพทุกคนก็พูดพร้อมกันอย่างเพียบพร้อมก่อนที่จะพากันนั่งลงที่เก้าอี้

     

    "เอาล่ะ นักเรียนคงรู้แล้วใช่ไหมคะ? ว่าวันนี้มีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาในเทอม 2 ดังนั้นอย่าแกล้งเธอและควรให้คำแนะนำนะจ๊ะ เอาล่ะชื่ออะไรจ๊ะ?"

     

    อาจารย์สาวพูดพร้อมยิ้มหันมามองคุณด้วยแววตาที่อ่อนโยน คุณที่เห็นดังนั้นก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเนื่องจากคุณนั้นมีความเกรงตัวและรู้สึกเขินอายตัวเองอย่างมาก

     

    "(ชื่อคุณ)ค่ะ"

     

    "เอ๋ชื่อเหมือนคนฝรั่งเศลเลยนะจ๊ะ ไม่อยากรู้นะเนี้ยว่าคนฝรั่งเศลจะย้ายมาเรียนที่ญี่ปุ่นด้วย"

     

    อาจารย์พูดพร้อมยิ้มอ่อน ก่อนที่นักเรียนบางคนจะร้องโหออกมาด้วยความคิดของพวกเขาว่าผู้หญิงคนนี้เป็นลูกคุณหนูหรืออะไรต่างๆนาๆแน่ๆ ในความคิดของใครบางคน ทำให้คุณที่ยืนอยู่หน้าชั้นก็รู้สึกเขินอายในแบบที่ไม่เคยมาก่อนเพราะโรงเรียนนี้ก็ยังดีกว่าโรงเรียนอื่นที่เคยเรียนมาล่ะกัน ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณคงจะต้องได้เรียนที่โรงเรียนนี้จนจบแน่

     

    เป็นโรงเรียนเอกชนที่ดีจัง...

     

    แต่คุณก็ยังไม่ละความประมาทไว้เมื่อรู้สึกถึงสายตาอิจฉาได้จากกลุ่มผู้หญิงกลุ่มนึง ทำให้คุณรู้สึกหมดความเขินอายและเงียบนิ่งแทน ก่อนที่อาจารย์จะให้คุณนั่งอยู่หลังห้องติดกับหน้าต่างพอดี คุณก็เดินไปนั่งอย่างไม่คิอะไรแต่ก็เกิดเหตุการ์ขึ้นโดยที่คุณก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้น

     

    ในขณะที่คุณกำลังเดินไปที่โต๊ะของตัวเองก็มีขาของใครบางขวางทางเดินของคุณไว้ทำให้คุณสะดุดหน้าล้มใส่พื้นทันที ของที่อยู่ในกระเป๋าไม่ตกหล่นออกไปแค่กระเป๋าปลิ้วไปไกล ก่อนที่จะมีเสียงหัวเราะเยาะอย่างสนุกของผู้หญิงกลุ่มนึง ทำให้คุณหันไปมอง ก็รู้ว่ากลุ่มไหนทันที

     

    เป็นกลุ่มพวกคุณหนูอีกแล้วเหรอ..

     

    ก่อนที่อาจารย์จะรีบเดินมาดูคุณทันที อาจารย์มีใบหน้าโกรธเล็กน้อยและไม่พอใจกับเด็กนักเรียนที่ทำอย่างนี้กับเด็กใหม่ ก่อนที่อาจารย์จะหันไปดุคนกลุ่มนั้น

     

    "พวกเธอ! อย่าให้อาจารย์ได้เห็นเป็นครั้งที่ 2 นะ! ว่าเเธอแกล้งเด็กใหม่อีก ถ้าพวกเธอยังแกล้งเด็กใหม่อีกอาจารย์จะติดร.ทุกวิชา!"

     

    ''แล้วไงคะ? ก็แค่ติดร.มันจะไปยากอะไรกันคะ? อีกอย่างพ่อหนูเป็นถึงประธานาธิปดีของประเทศแคนนาดาอีกด้วยนะคะ อาจารย์คิดดีแล้วเหรอคะว่าจะทำให้หนูติดร."

     

    หญิงสาวผมบลอนด์สีเหลืองทองกล่าวออกมาอย่างไม่กลัวครูบาอาจารย์เลยแม้แต่น้อยพร้อมยิ้มแสยะออกมาอย่างเย้ยยัน ทำให้อาจารย์ที่ได้ยินก็เม้มปากตัวเองแน่น ภายในใจเธอก็เจ็บใจไม่ใช่น้อย เพราะเธอเป็นคนที่เกลียดคนที่ทำแบบนี้และแถมยังเป็นเด็กอีก

     

    คุณที่ยืนก้มหน้าอยู่ก็เอ่ยขึ้นอย่างเรียบนิ่ง จนทำให้คนทั้งห้องเงียบลงอย่างกระทันหัน

     

    "อาจารย์ค่ะ อย่าใส่ใจหนูเลยค่ะ"

     

    ก่อนที่คุณจะเดินไปนั่งโต๊ะ อาจารย์ที่เห้ฯอย่างนั้นก็รู้สึกสงสารคุณไม่น้อย ส่วนเด็กสาวผมบลอนด์ก็รู้สึกยิ้มแสยะและพึ่งพอใจอย่างมาก ก่อนที่อาจารย์จะตัดสินใจอธิบายเกี่ยวกับเทอม 2 และทำการสอนตามคาบต่างๆ คุณที่นั่งเรียนอยู่คูรก็ตั้งใจฟังอย่างมากและจดสิ่งที่สำคัญลงไปบนสมุดไดอารี่ที่คุณเขียนมาได้ 5 เดือนกว่าแล้ว

     

    ก่อนที่จะรู้สึกว่ามีคนสะกิดอยู่ข้างๆทำให้คุณหันไปมองทันที ก็เห็นเด็กผู้ชายที่เหมมือนจะพยายามเรียกคุณอยู่ทำให้คุณสงสัยทันที

     

    "นี่(ชื่อคุณ)"

     

    "มีอะไร?"

     

    ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเขียนอะไรบางอย่างบนสมุดนั้นก่อนจะเอาให้คุณดู ทำให้คุณหันไปดูอีกครั้ง

     

    ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?...

     

    "อืม.."

     

    คุณเพียงแค่ร้องในลำคอและหันไปสนใจตรงหน้าห้องเรียนต่อ โดยที่ผู้ชายคนนั้นก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย อย่างหน่ายใจนี้อุสาต์เขาตั้งใจจะเข้าไปสนิทกับเธอด้วยนะเนี้ย สงสัยตอนเที่ยงต้องชวนไปกินข้าวด้วยดีกว่า หวังว่าไอ้หน้าม่อนั้นจะไม่มาม่อเธอจนเธอกลัวนะ ก่อนที่เขาสีหน้าหน่ายใจเเละหันมามองหน้ากระดานอย่างหน้าเบื่อ

     

    ถึงแม้เขาจะตั้งใจเรียนก็ได้เกรด 2.00 อยู่ดี...

     

    ก่อนที่เขาจะฟุ่บหลับลงไปอย่างหน้าเบื่อ ทำให้ไม่รู้ว่าอาจารย์สอนอะไรไปบ้าง แต่ยังไงเขาก็เพื่อนหน้าม่อค่อยมาบอกให้อยู่ดีนั้นแหละ ยังไงเขาก็ไม่สนอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงฟุบหลับไปอย่างปริยาย

     

    ตอนเที่ยง 11:30 น.

     

    ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นอย่างเหนื่อยล้าเมื่อนั่งเรียนตั้งนานบางคนก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจกันบ้าง ก่อนที่นักเรียนบางคนจะเดินออกไปเพื่อไปนัดจุดรวมกินข้าวกัน บางคนก็กินอยู่บนห้อง บางคนก็เดินมาคุยกับเพื่อน อย่างคุณที่โดนผู้คนเดินเข้ามาอย่างกับว่าพวกเขาไม่เกรงกลัวเธอแม้แต่น้อย

     

    "นี่ๆ เธอเป็นคนฝรั่งเศลเหรอ? ทำไหมถึงพูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่องจังเลยอ่ะ"

     

    ก่อนที่เด็กผู้หญิงถักเปียสองข้างจะเอ่ยถามคุณ ในขณะที่คุณเองกำลังเก็บสมุดหนังสือลงใต้โต๊ะ แล้วหันมามองเด็กผู้หญิงแทน

     

    "นั้นสิๆ แถมดูเหมือนไม่ใช่คนฝรั่งเศลด้วยเพราะผมสีน้ำตาลแบบนี้น่ะ ผมสวยมากเลยล่ะ"

     

    ก่อนจะเริ่มกุถามขึ้นมาเรื่อยๆ จนคุณไม่สามารถจะฟังคำถามได้หมด คุณจึงเลิกลั่กเป็นอย่างมากทำให้คนที่ถามก็ถามอย่างไม่ยั้งหน้า ก่อนจะมีคนดึงข้อมือของคุณออกจากกลุ่มนั้นไป เป็นมือที่คุณคุ้นดีไม่ใช่ที่ไหนก็คนนั่งข้างเธอนี่เองล่ะ

     

    "นาย?"

     

    "ไอ้เจ้ายัตสึโกะ! จะเอาเด็กใหม่ไปไหนนะ!?"

     

    "เดี๋ยวสิ! เธอยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะ!"

     

    "เงียบ!"

     

    มามาโอะ ยัตสึโกะ ที่เป็นคลากคุณมาก็ทนไม่ไหวตะโกนดังลั่นห้องทำให้ทุกคนเงียบลงอย่างตกใจ แต่เพื่อนของยัตสึโกะนั้นเพียงแค่เดินมาข้างๆยัตสึโกะเท่านั้น ก่อนที่ยัตสึโกะจะพูดออกมาอย่างหมดความอดทนและทุกคนเองก็พึ่งจะเคยเห็นยัตสึโกะโกรธเป็นครั้งแรกก็ต่างตกใจและกลัวเช่นกัน

     

    "เงียบได้แล้ว! พวกเธอไม่รู้เหรอไงว่าพวกเธอกำลังทำให้เด็กใหม่กลัวน่ะ! เอาแต่ถามนู้นถามนี่อยู่ได้คนเขาก็อยากจะผ่อนคลายบางนะเว้ย! เพื่อนผู้หญิงด้วยกันแท้ๆแต่กลับถามแบบไม่ให้เธอตั้งตัวมันน่าเป็นเพื่อนที่ดีไหม!?"

     

    ยัตสึโกะพูดอย่างดังฟังชัดแสดงได้ถึงความโกรธของยัตสึโกะ พวกผู้หญิงต่างก็เงียบและไม่เอ่ยเสียงขัดอะไรเพียงแค่ทำหน้าสำนึกผิด เพื่อนของยัตสึโกะก็เอะใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่พูดอะไรขัดเพราะเดี๋ยวก็โดยพลอยไปด้วย คุณตอนนี้ได้แต่วิตกกังวลอย่างมาก

     

    ทำไหมเขาต้องมาปกป้อง? มันยิ่งทำให้ทุกคนเกลียดเธอมากขขึ้นกว่าเดิมอีกนะ...

     

    ก่อนที่พวกของยัตสึโกะและคุณจะเดินออกมาจากห้องและเดินลงไปข้างล่างเพื่อไปที่โรงอาหาร คุณตอนนั้นใบหน้าของคุณก็มีแต่ความสับสสนและงุนงง แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมาอย่างนั้นใบหน้าของคุณมีแต่ความเรียบนิ่งอยู่

     

    "เป็นอะไรไหม?"

     

    ในขณะที่คุณกำลังทานข้าวอยู่ยัตสึโกะก็ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง คุณเองก็รู้สึกจะตอบไปแบบเดิมก่อนที่เพื่อนหน้าม่อของยัตสึโกะจะกระซิบกับยัตสึโกะ

     

    'แกทำแบบนั้นไปทำไหมวะไอ้ยัตสึโกะ?'

     

    "ก็ครูบอกนิ แล้วใครให้บอกว่าแกล้งเด็กใหม่ล่ะไอ้การาซึ"

     

    การาซึที่ได้ยินก็แอบยิ้มทะเล้นออกมา ทำให้ยัตสึโกะต้องรู้สึกขนลุกและเย็นหลังเล็กน้อย เพราะเมื่อรู้ว่าถ้าหมอนั้นยิ้มแบบนี้ แสดงว่ามันจะม่อสาวคนนั้นแน่ๆ

     

    'อย่านะเว้ย! เดี๋ยวเธอแม่งก็กลัวนายแน่!'

     

    'บ้าไม่มีใครเป็นแบบนั้นหรอก กุออกจะหล่อ'

     

    "จ่ะ เอาที่สบายใจมึง ถ้าเธอต่อยมึงกุไม่ช่วยนะ"

     

    ยัตสึโกะพูดอย่างงั้นก่อนจะตักข้าวกินโดยไม่สนการาซึที่กำลังไปนั่งใกล้ๆกับคุณ ที่ตอนนี้คุณก็กินข้าวอยู่

     

    "นี่เธอน่ะ"

     

    "หือ?"

     

    "คือว่าในเมื่อที่เธอยังไม่มีเพื่อน เป็นเพื่อนกับฉันม่า?"

     

    ก่อนที่การาซึจะส่งความวิ้งๆให้คุณไป คุณที่เห็นก็รู้สึกหยะแหยงและรู้สึกคลื่นไส้แปลกๆ ก่อนที่คุณจะหันหน้าหนีไม่สนใจการาซึอะไรทั้งสิ้น ก่อนที่การาซึจะตื้อต่อ

     

    "นี่ๆ สาวสวยสนใจหน่อยสิ?"

     

    ''อย่าเข้ามาใกล้"

     

    ก่อนที่คุณจะทำการต่อยเข้าไปที่หน้าของการาซึเต็มๆทำให้ทั้งโต๊ะที่เห็นก็ร้องขำก๊ากออกมาอย่างไม่ได้

     

    "ม มึงเห็นมะไอ้การาซึโดนสาวปฎิเสธ ก๊าก! ฮ่าๆๆ"

     

    "ก กุเห็นเพื่อนกุเห็น ฮ่าๆ แม่มอย่างชอบเธอเลยวะ ฮ่าๆ"

     

    การาซึที่เห็นเพื่อนๆหัวเราะกันก็รู้สึกคันไม้คันมืออย่างบอกไม่ถูก

     

    'อย่าให้กุเอานิวเคลียสไปบึ้มบ้านพวกมึงนะ'

     

     

     

    -----

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×