ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One more time

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 แก้คำผิดค่าขอบคุณ คุณ Little ค่ะ

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 58


     

    บทที่ 3

     

     

     

     

     

    แต่ดูเหมือนว่าฟ้าจะไม่เข้าข้างเธอมากนัก เช้าวันต่อมาเธอพบว่า ปู่ของเธอให้เขามาเป็นบอดี้การ์ดของเธอ

    “คุณปู่นี่มันอะไรกันคะ”

    ดวงตาใต้เรือนคิ้วสีเทาของผู้สูงวัยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มองหลานสาวที่พรวดพราดเข้ามาในห้องของเขาอย่างไม่ประหลาดใจนัก อีกอย่างเขาก็รออีกฝ่ายอยู่ มือทั้งสองที่วางอยู่บนที่ท้าวแขนเปลี่ยนมาประสานกันบนโต๊ะ “นั่นสินะ แต่ก่อนที่ปู่จะอธิบาย เรามีอะไรจะพูดกับปู่ก่อนไหมลิณา”

    ลิณารู้ดีว่าตัวเธอเองก็มีความผิดติดตัวแต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่จะจบเรื่องนี้ได้เร็วที่สุดนอกจากวิธีนี้

    “หนูจะอธิบายเรื่องนั้นทีหลังค่ะ ก่อนหน้านั้นกรุณาถอดเขาออกจากการเป็นบอดี้การ์ดของหนูด้วยค่ะคุณปู่”

    “ปู่ว่าเราบอกเหตุผลที่ต้องการจะถอดเรย์ออกมาก่อนดีกว่านะ”เอียนวางคางบนหลังมือข้างหนึ่ง คิ้วสำน้ำตาลแซมเทายกหางขึ้นน้อยๆ “ถ้าหลานมีเหตุผลที่ดีกว่าสำหรับความปลอดภัยของหลานเอง ปู่ก็ยินดีทำตามคำขอ”

    แน่นอนว่าหลังจากนั้นเธอไม่สามารถหาเหตุผลที่ดีพอได้ ในเมื่อเขาเป็นผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นมือหนึ่งของ CIN มีเขาคนเดียวเท่ากับมีผู้เชี่ยวชาญการรบทุกด้านอยู่พร้อมๆกัน แล้วไหนจะอิทธิพลกับกำลังเงินของเขาในฐานประธานบริษัท McKanich อีก นอกจากทำไม่ได้เธอยังต้องเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างหมดเปลือกแน่นอนว่าคนที่เธอไม่ได้เชิญยืนฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

    เธอเดินออกจากอาคาร CIN ด้วยความเร็วเท่าที่ขาของเธอจะอำนวย แต่ก็น่าเจ็บใจที่ระยะทางที่เธอเดินเท่ากับการก้าวเพียงไม่กี่ก้าวของคนขายาว เธอหยุดเดินหันหลังกลับไปจิ้มนิ้วกับอกของเขา

    “คุณเลิกตามฉันมาซักที”

    “ผมเป็นบอดี้การ์ดของคุณ”เขาบอกเหมือนการเป็นบอดี้การ์ดของเธอทำให้เขาสามารถตามเธอได้ทุกย่างก้าว

    “ฉันไม่ได้ให้คุณมาเป็นบอดี้การ์ดของฉัน เพราะงั้นคุณไม่มีสิทธิมาเดินตามฉันแบบนี้”เธอเลิกจิ้มนิ้วที่หน้าอกเขาเปลี่ยนมาท้าวเอวยืนประจันหน้ากับเขา แผ่นอกเขาแข็งจนทำให้นิ้วเธอเจ็บซ้ำยังไม่ทำให้เขาขยับ

    “ผมไม่สน”

    ใช่สิ เขาเคยสนใจอะไรเลยนอกจากตัวเอง “แต่ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ ถ้าคุณยังตามฉันมาอีก ฉันจะหายไปจากชีวิตคุณ ฉันเคยทำได้มาครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อไปฉันก็ทำได้”

    คำพูดของเธอดูจะได้ผล เขามีปฏิกิริยา

    “คุณกำลังขู่ผม”

    เธอแค่นยิ้ม “คนอย่างฉันไม่เคยขู่ใคร”ใช่เธอไม่เคยโกหก ไม่เหมือนใครบางคน “ฉันเกลียดการโกหกที่สุด เรื่องนี้คุณก็น่าจะรู้ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ”

     

    เธอคิดถึงข้อความข่มขู่ทั้งหมดที่ได้รับมาทั้งหมด ถึงเธอจะบอกว่าเธอจัดการเรื่องพวกนี้เองได้แต่ลึกๆแล้วเธอรู้ว่างานนี้มันไม่ง่ายเลย แม้การคุกคามด้วยการส่งข้อความมาดูจะไม่รุนแรงแต่การที่อีกฝ่ายไม่หลงเหลือหลักฐานให้เธอตามได้เลยซักนิดบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดาเลย

    อันดับแรกเธอคงต้องหาที่จะใช้ในการสืบหาอีกฝ่ายก่อน เธอเก็บข้างชองและของใช้ที่จำเป็นโยนใส่กระเป๋า เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ที่คอนโดนี่อีกแล้ว เพราะเขารู้ตัวจริงของเธอแล้ว บ้านที่แมรี่แลนด์คงใช้ไม่ได้แล้วเหมือนกัน การหาที่อยู่ใหม่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ เธอมีที่เล็งไว้สองสามที แต่ปัญหามันอยู่ที่

    เธอเลี้ยวรถเข้าไปในปั๊มเพื่อเติมน้ำมันบวกกับหาของกินไปทานระหว่างที่ขับรถ เธอได้พายสับปะรดแห้ง ไส้กรอกรมควันกับน้ำ ทำเป็นไม่สนใจรถเชพวี่สีดำที่จอดอยู่ข้างหน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันและเจ้าของมันที่อยู่ข้างหลังเธอ เขาเดินตามเธอออกมา

    พอที “คุณคิดจะตามฉันไปถึงเมื่อไหร่”เธอคิดว่าเขาจะยอมแพ้หลังจากที่เธอพูดกับเขาไปแบบนั้นแต่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ผลเลย

    “คุณไม่ยอมบอกผมนี่ว่าจะย้ายไปไหน”เขาบอกพร้อมกระดกกระป๋องเรดบูลที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อร้านเดียวกับเธอ

    เขาคิดว่าที่เธอพูดเป็นเรื่องโกหก “ฉันเตือนคุณแล้วใช่ไหมว่าถ้าคุณทำอย่างนี้ต่อไปฉันจะทำยังไง”

    สายตาของเขาพลันเย็นเยียบ “คุณคิดจะทำอะไร”

    ขาเรียวยาวของหญิงสาวก้าวขึ้นไปบนรถ สตาร์ทเครื่องเธอมองเขาด้วยหางตา “ฉันจำได้ว่าบอกคุณไปแล้ว”เหยียบคันเร่งให้รถปอร์เช่พุ่งออกไป

     

    ลิณามองรถเชฟวี่สีดำที่จับผ่านเธอไป เขาตื้อกว่าที่เธอคิด เธอใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะสลัดเขาหลุด การหนีเขาเปลืองกำลังสมองและกำลังกายของเธอหลายเท่า พอแน่ใจว่าเขาจะไม่มีทางเห็นเธอจึงขับรถต่อซักพัก จากนั้นจึงตัดสินใจพักที่โมเต็ลข้างทางเมื่อเห็นว่าใกล้เที่ยงคืน

    เธอจอดรถรุ่นเก่าที่เธอแลกกับรถปอร์เช่ของเธอกับคุณยายคนหนึ่ง ป่านนี้เรย์คงรู้ตัวแล้วว่าคนที่กำลังขับรถบนถนนไม่ใช่เธอ

    เธอหวังว่าครั้งนี้เขาคงจะเลิกล้มความคิดที่จะปกป้องเธอ เพราะถ้ามีครั้งต่อไปเธอไม่แน่ใจว่าจะรับมือเขาได้อีกรึเปล่า เขาเป็นจุดอ่อนเดียวของเธอ เขาคงไม่รู้ว่าเขาเป็นคนเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวและอ่อนแอ เขาสร้างจุดอ่อนให้กับเธอและเป็นจุดอ่อนที่เธอยอมที่จะให้มันเกิดขึ้น เพราะงั้นเธอถึงหลีกเลี่ยงเขา หนีจากเขาแบบนี้ เธอไม่ยอมให้เขารับรู้ เพราะเธอรู้ถ้าหากเขารู้ เธอคงไม่อาจรับมือเขาได้อีก

    ทำไมนะ ทำไมเขาต้องรู้ตัวจริงของเธอด้วย ทั้งที่เธอก็พอใจแล้วกับชีวิตผ่านมา ที่ทำได้เพียงแค่มองเขาคอยดูแลเขาอยู่ห่างๆ น้ำตาที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้จากเขาค่อยๆปริ่มขึ้นมาที่ขอบตา เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องซ่อนมันอีก เธอนั่งลงกับเตียง บีบขาที่ปวดเพราะขับรถมาทั้งวัน

    เธอไม่ยอมหรอก ถ้าชีวิตของเธอต้องหลับไปเป็นเหมือนเมื่อสองปีก่อน ไม่มีทาง

    เธอตื่นขึ้นกลางดึกเพราะเสียงที่ได้ยินจากประตู เสียงเหมือนคนกำลังพยายามไขประตูเข้ามา

    เธอลุกขึ้นจากเตียงเดินไปส่องที่ตาแมว ผู้ชายร่างสูงผมสีเข้มของเขาทำให้ตอนแรกที่เห็นเธอคิดว่าเขาเป็นเรย์แต่พอมองอีกทีเธอกลับรู้สึกว่าไม่ใช่ เขาไม่ใช่เรย์

    “อืม คราวนี้ส่งคนปลอมตัวเป็นผมงั้นเหรอ”เสียงทุ้มคุ้นเคยที่ดังมาจากด้านหลังช่วยยืนยันพร้อมทำให้เธอสะดุ้ง

    เสียงร้องของเธอถูกมือหนาปิดเอาไว้อย่างคาดไว้อยู่แล้ว “อย่าร้องสิ”

    เรย์! เขาเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่

    เขาเหลือบตามองเธอดูจะเข้าใจคำถามในสายตาของเธอ “ผมพึ่งมาถึง”เขาเข้าใจคำถามที่สองและสามของเธอได้ “ผมปีนขึ้นมา ลูกกรงห้องนี้มันเก่า”

    โอเค เธอเข้าใจแล้ว เขาเข้าใจคำถามของเธอโดยที่เธอไม่ต่องพูด ยกเว้นคำถามหนึ่งที่เขาไม่ตอบและดูเหมือนจะเป็นการแกล้งไม่เข้าใจเสียมากกว่านั่นคือ คำถามที่ว่า ทำไมเขาต้องกอดเธอ? เธอแทงศอกใส่เขา เหยียบเท้าเขา เอาหัวโขกกับปลายคางแต่เขาก็หลบมันได้ทั้งหมด

    ความพยายามที่ไม่เป็นผลของเธอเรียกเสียงหัวเราะทุ้มนุ่มจากเขา “ไม่เอาน่าอยู่นิ่งๆนะครับ เอาไว้หลังจากนี้ผมจะยอมให้คุณทำร้ายร่างกายผม ตอนนี้อยู่นิ่งๆก่อนนะ ลิณา”

     

    เธอสบถด่าตัวเองในใจที่แค่ได้ยินเสียงเขาเรียกชื่อเธอ ใจเธอก็อ่อนลงอย่างง่ายดาย นอกจากนี้เรือนร่างแกร่งที่อยู่ซ้อนอยู่ด้านหลังยังส่งผลกระทบกับเธออย่างร้ายแรง แม้เขาจะยังสวมเสื้อผ้าอยู่ครบชุดแต่สัมผัสที่แนบชิดทำให้เธอรับรู้ได้ ทุกมัดกล้ามเนื้อแข็งแรงที่เรียงตัวเป็นระเบียบบนแผงอกของเขา ความร้อนจากร่างกายของเขา เสียงทุ้มที่มาพร้อมลมหายใจของเขาเวลาที่เขาพูด เขายังใช้น้ำหอมกลิ่นเดิมแต่มันดูจะหอมขึ้นอย่างน่าประหลาดเมื่ออยู่บนตัวเขา รวมถึงรู้สึกถึงส่วนที่เธอไม่เคยเห็น.. มันแนบอยู่ตรงด้านหลังช่วงเอวของเธอ โอ้ ขอให้มันอย่าเป็นสิ่งที่เธอคิด...

    “อืม..ท่าทางผมจะไม่ได้กอดคุณมานานเกินไป”เขายอมรับมันอย่างหน้าไม่อาย และเขายังโทษว่ามันเป็นเพราะเธอด้วย หญิงสาวสะดุ้งเมื่อเขากดจมูกลงที่บ่าของเธอทำให้เธอสะดุ้งขณะที่เธอพยายามดิ้นรนให้หลุดจากเขา “ทางที่ดีคุณอย่าดิ้นดีกว่า ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองจะทนได้แค่ไหน”

    คำพูดเขาสต๊าฟร่างของเธอให้แข็งเหมือนหินทันที

    เธอทนอยู่นิ่งในอ้อมกอดของเขาจนผู้ชายที่ปลอมตัวเป็นเขาถอยออกไป เขาไม่ได้บุกเข้ามาอย่างที่คิด เรย์คลายร่างที่เกร็งจากการเตรียมพร้อม ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะพร้อมต่อสู้ทั้งๆที่... ช่างเถอะ เธอไม่อยากคิดถึงมัน เธอพยายามสะบัดความคิดนั้นออกไปแม้จะไม่ได้ผลนักเมื่อเธอยังสัมผัสมันได้ แนบอยู่ที่เอวของเธอ

    “คุณปล่อยฉันได้แล้ว”

    “คุณพูดว่าอะไรนะ ผมไม่ค่อยได้ยินเลย”

    ใกล้ขนาดนี้เขายังบอกว่าไม่ได้ยินที่เธอพูดงั้นเหรอ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรมากเธอก็รู้ว่าเขาโกหก

    “ถ้าฉันบอกว่าฉันรังเกียจคุณล่ะ คุณจะปล่อยฉันได้หรือยัง”

    เขาเงียบไปทันทีที่เธอพูดแบบนั้นจากนั้นเขาก็ปล่อยตัวเธอ เธอถอยห่างจากเขาพร้อมกัดฟันข่มความรู้สึกว่างเปล่าเมื่อไม่มีอ้อมกอดของเขา

    “ทำไมคุณถึงทำแบบนี้”เขาถอนหายใจ “คุณไม่พอใจอะไรผม คุณควรบอกผมสิ”

    นั่นสินะ ถ้าเธอไม่บอกเขาจะรู้ได้ยังไง นอกจากนี้ในเมื่อเขาไม่เคยคิดว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด

    “น่าเสียดายนะ ที่ฉันพอใจกับความสัมพันธ์นี้ของเรา”

    เสียงระเบิดดังกึกก้องหยุดการสนทนาของเขาและเธอ เธอมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง เสียงมาจากหน้าโรงแรมที่เธอจอดรถเอาไว้ บริเวณที่เธอจอดรถไว้มีกองเพลิงกำลังลุกโชนอยู่กองหนึ่ง

    “ดูเหมือนว่าคุณต้องอยู่กับคนที่คุณรังเกียจซักพักนะ”

    ลิณาหันกลับมามองเขาที่ยืนกอดอกมองเปลวไฟกองนั้น “ฉันไม่ได้หมดหนทางขนาดนั้น” เธอหยิบกระเป๋าออกมาจากใต้เตียง

    “คุณคิดจะไปไหน”

    เธอเก็บข้าวของที่มีเพียงน้อยนิดใส่กระเป๋า คว้าแจ๊กเก็ตที่แขวนเอาไว้ออกมาใส่พลางตอบคำถาม “ในเมื่อคุณไม่ยอมไป ฉันก็ต้องเป็นฝ่ายไปเองน่ะสิ..ปล่อย”พูดกับฝ่ามือขอเขาที่กุมรอบข้อมือ

    “ถ้านั่นหมายถึงความปลอดภัยของคุณล่ะก็ ไม่มีทาง”ดวงตาสีเหล็กเข้มจนเกือบเป็นสีดำบ่งบอกชัดเขนว่า รอให้นรกถล่มเขาถึงจะยอมทำตามที่เธอบอก

    เธอมองตอบเขาด้วยสายตาแบบเดียวกัน ความปลอดภัยของเธอ นั่นสินะใช่ เขามีเหตุผลและนั่นคือความปลอดภัยของเธอ และมันก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่ทำให้เธอเสียใจมาตลอด เธอพยายามสะบัดมืออกจากอุ้งมือที่แข็งเหมือนเหล็ก

    “ปล่อยฉัน..”เธอตั้งใจจะเหยียบเท้าเขา เขาคงจะปล่อยเธอหากเธอทำสำเร็จและหากเขาไม่ก้มลงมาจูบเธอ

    ริมฝีปากของเขาทำให้สมองของเธอขาวโพลน รับรู้เพียงการขยับของริมฝีปากที่แนบอยู่กับปากเธอและการรุกล้ำของลิ้นเขาที่ไม่ยอมให้ลิ้นของเธอถอยหนี กลิ่นอายที่เต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์บุรุษเพศของเขาที่เอพยายามปิดกั้นไม่รับรู้ทะลักเข้ามาทางจมูกและปาก เข่าของเธออ่อนเพราะการจู่โจมที่มากเกินรับไหวแต่ถึงอย่างนั้นริมฝีปากของเขาก็ยังคงตามลงมาครอบครอง ร่างแข็งแกร่งเพราะกล้ามเนื้อของเขาบดเบียดกับเรือนร่างของเธอจนแทบไม่มีชองว่าง เขาใช้ร่างทั้งร่างของเขากักขังเธอไว้ระหว่างเรือนกายร้อนผ่าวของเขากับพื้นปูนที่เย็นเยียบ เธอรู้สึกถึงการตื่นตัวของเขาอย่างชัดเจนเมื่ออยู่ในท่วงท่านี้ เขาเองก็ไม่คิดจะปิดบัง เขาเสียดสีร่างของตัวเองกับเธอ ทำให้ไฟแผดเผาทั้งตัวเธอและตัวเขาเอง

    เธอได้ยินเสียงเขาสูดลมหายใจลึกก่อนที่เขาจะซุกหน้าลงมาที่บ่าของเธอ หญิงสาวสะดุ้งเฮือก ตื่นตระหนก อาการอ่อนปวกเปียกของร่างกายตัวเองทำให้เธอไม่สามารถผลักร่างใหญ่ออกไปได้ มือของเธอทำได้เหมือนแค่วางอยู่บนอกเขา

    แต่ชายหนุ่มกลับไม่ทำอะไรนอกจากกอดเธอไว้ เธอยังรู้สึกได้ถึงตัวตนของเขา เธอได้ยินเขาสบถคำหยาบออกมาเบาๆหลายคำ ก่อนที่เขาจะพูดว่า “รู้ไหมผมอยากจูบคุณแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ที่ผมรู้ว่าคุณคือลิณา ให้ตายสิคุณปิดบังผมมาตั้งสองปี”อาการติดขัดของการหายใจของเขาอยู่ข้างหูของเธอ น้ำเสียงของเขาโกรธขึ้ง “ผมอยากจะกระชากตัวคุณ อยากโมโห อยากอาละวาด บ้าเอ๊ย ผมอยากกอดคุณจะตายอยู่แล้ว ผมไม่มีทางปล่อยคุณไปหาอันตรายข้างนอกโดยไม่มีผมไปด้วย”แขนของเขารัดร่างเธอแน่นขึ้นอีก จนเธอเห็นภาพตัวเองที่สะท้อนอยู่ในดวงตาเข้มลึกล้ำของเขา “ถ้าคุณจะไปโดยไม่มีผมคุณคงต้องฆ่าผมแล้วล่ะ ลิณา”

     

    “คุณหิวหรือยัง ยังไม่ได้กินอะไรเลยใช่ไหม”

    “คุณยังชอบมีทเบอร์เกอร์อยู่ไหม ผมซื้อมาฝาก”เขาส่งแฮมเบอร์เกอร์ในถุงกระดาษที่พึ่งเดินลงไปซื้อมา

    เขาเป็นผู้ชายที่พูดคนเดียวเก่งกว่าที่เธอคิด ทั้งๆที่เธอไม่พูดตอบเขาซักคำ เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพูดเลย เพราะไม่รู้จะทำยังไงเธอเลยแกล้งทำเป็นหลับ เขาเห็นแบบนั้นก็เลิกพูดกับเธอเปลี่ยนเป็นมองเธอแทน มองจนเธอเป็นฝ่ายทนไม่ไหวกับสายตาของเขา

    “คุณคิดจะมองฉันไปถึงเมื่อไหร่”

    เขากลับตอบมาหน้าตาเฉยอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ก็ผมไม่ได้มองคุณนานแล้ว ที่ผ่านมาได้แต่มองตอนที่คุณไม่รู้ตัว”

    อะไรนะ “นี่คุณ แอบเข้ามาในห้องของฉันงั้นเหรอ”

    เขาไหวไหล่ “ไม่อย่างนั้นผมจะมองคุณได้เหรอ”น่าทึ่งที่เขาสามารถยอมรับเรื่องน่าอายด้วยท่าทางเหมือนปกติราวกับสิ่งที่เขาทำมันเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว

    “คนโรคจิต!”แสดงว่าที่ตอนนั้นเขามาโผล่ที่หน้าบ้านอีกหลังหนึ่งของเธอตนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเขาคงรู้เรื่องที่มีคนข่มขู่เธอตอนนั้น

    คิ้วเรียวเลิกขึ้นน้อยๆ “เทียบกับคุณแล้วผมว่าไม่ขนาดนั้นหรอก”

    ผิวแก้มขาวแดงเรื่อ “ฉันไม่เคยแอบดูคุณซักหน่อย”

    คำพูดของเธอก่อให้เกิดเสียงหัวเราะนุ่มในลำคอของเขา เสียงหัวเราะของเขามีจังหวะสูงต่ำน่าฟังเหมือนจังหวะดนตรี “ผมรู้ คุณทำเพราะเป็นห่วงผมใช่ไหมล่ะ เมื่อไหร่คุณจะบอกผมซักทีว่าทำไมคุณถึงไม่บอกผมว่าคุณเป็นใคร ทำไมคุณต้องปกปิดผมด้วย”

    “..ฉันจะนอนแล้ว”เธอพลิกกายหันหลังให้กับบทสนทนา จบบทสนทนาแค่นั้น เธอรู้ถึงแม้จะหันหลังว่าสายตาของเขายังมองมาที่เธออยู่ในความเงียบระหว่างเขาและเธอ

    “คุณจะไม่บอกผมก็ตามใจแต่ผมจะต้องรู้ให้ได้ว่าทำไม”เขาสตาร์ทเครื่องยนต์ขับออกจากปั๊ม

    นั่นไม่ใช่คำบอกเปล่าแต่เป็นคำประกาศที่หมายความว่าเขาจะทำอย่างที่พูด

    การอยู่เคียงข้างเขามานานทำให้เธอรู้ยิ่งกว่ารู้ ผู้ชายคนนี้มีสัญชาตญาณนักล่าอยู่เต็มเปี่ยมสิ่งที่เขาหมายตาไว้ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยไปเขาจะไล่ล่ามันจนกว่าจะได้มา สิ่งนี้ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นมือหนึ่งของ CIN และสิ่งที่เขาหมายตาไว้คราวนี้คือเธอ

     

    เขาพาเธอกลับมาที่คอนโดแต่ไม่ยอมให้เธอกลับไปพักที่ห้องของตัวเอง เขายืนยันที่จะให้เธอนอนที่ห้องสูทของเขา

    “ผมจะให้คุณนอนที่ห้องนอนอีกห้องถึงแม้ว่าผมจะอยากนอนห้องเดียวกับคุณมากกว่าก็เถอะ”

    เธอรีบสูดลมหายใจลึกเพื่อทดแทนอากาศที่หายไปช่วงหนึ่ง “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของคุณเพราะฉะนั้นเลิกหว่านเสน่ห์ใส่ฉันซะที”เธอเตือนสติตัวเองและเขาไปพร้อมกันและมาคิดได้ว่าตัวเองใช้คำพูดผิดเมื่อสายไปแล้ว เธอเห็นฟันขาวสวยที่เรียงตัวเป็นระเบียบของเขา

    “ถ้าคุณคิดว่าเป็นเสน่ห์แสดงว่ามันได้ผลกับคุณน่ะสิ”

    มันจะไม่ได้ผมกับเธอได้ยังไง แค่เขายืนอยู่เฉยๆเธอก็สามารถรับรู้ได้ถึงเสน่ห์บุรุษเพศที่แผ่ออกจากเรือนร่างของเขา ที่ผ่านมาใช้ว่าเธอไม่รับรู้แต่เพราะเขาคิดว่าเธอเป็นผู้ชาย เสน่ห์ที่เจ้าตัวปล่อยออกมาโดยไม่รู้ตัวย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างเมื่อเจ้าตัวจงใจปล่อยออกมา แต่เธอจะไม่ให้เขารู้

    “คุณหลงตัวเองเกินไปแล้ว”เธอหยิบกระเป๋าตัวเองเดินไปที่ประตู “ฉันจะกลับไปที่ห้องของฉันกรุณาหลีกทางด้วย”พูดกับร่างสูงที่มายืนขวางหน้าประตู ร่างสูงใหญ่ของเขาบังประตูจนมิด

    เรย์กอดอก คิ้วหนาของเขาข้างหนึ่งเลิกขึ้นอย่างรู้ดีว่าถ้าเขาไม่ขยับจากหน้าประตูเธอก็ไม่มีทางทำอะไรได้ “ผมถอยให้คุณได้แค่นี้ ทีนี้หันก้นสวยๆของคุณเข้าห้องไปได้แล้ว”

    เธออยากจะร้องออกมาใสหน้าเขา “อะไรทำให้คุณคิดว่าฉันจะทำตามที่คุณบอก”

    “ผมจะไม่เถียงเรื่องนี้กับคุณอีก ผมขับรถข้ามรัฐสองรอบเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ถ้าคุณไม่ไปนอนในห้อง ผมจะให้คุณนอนกับผม”เขาถอนหายใจทำสิ่งที่ยิ่งกว่าการทำให้เธอลืมหายใจ

    “คุณจะทำอะไรน่ะ”

    เขาเลิกคิ้วมองเธอเหมือนไม่เข้าใจคำถามของเธอในทีแรกก่อนก้มลงมองตามสายตาของเธอ เขากำลังถอดเสื้อยืดออกจากตัว จากนั้นเขาก็เริ่มฉีกยิ้ม รอยเคราที่ไม่ได้โกนมาอย่างน้อยสองวันกับรอยยิ้มที่เห็นเขี้ยวข้างเดียวทำให้เขาดูหล่อเหลาและดิบเถื่อนยิ่งตอนนี้ที่เขาถอดเสื้อยืดออกจากตัว “ผมก็จะอาบน้ำน่ะสิ มัวแต่ขับรถตามคุณผมเลยยังไม่ได้อาบน้ำ เหนียวตัวไปหมดดูสิ”เขาเดินเข้ามาใกล้ ชี้ให้เธอดูเงามันที่เคลือบบนผิวเปลี่ยนผิวสีนมช็อกโกแลตของเขาให้เป็นสีทอง เหงื่อทำให้กลิ่นกายของเขาเข้มแรงขึ้น

    เขาให้เธอดูอะไร!? แต่สายตาของเธอมันเร็วกว่าที่สมองของเธอจะทันได้ห้ามถึงเธอจะรีบถอนสายตากลับมาแต่ก็ไม่อาจซ่อนความพึงพอใจในสายตาของตัวเองจากเขา เขาเห็นมันสายตาของเขาที่เข้มขึ้นบอกกับเธอ

    “ตกลงคุณจะนอนกับผมที่นี่สินะ”เขาถามพลางก้มหน้าปลดเข็มขัดไปด้วย เขาไม่มีปัญหาอยู่แล้วกับดารเปลือยกายต่อหน้าเธอ

    เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหอบกระเป๋าเข้าไปในห้องนอนอีกห้อง “พรุ่งนี้ฉันจะไปจากที่นี่”

    คราวนี้เขาไม่ยักเถียงเธอกลับมา นอกจากยืนมองเธอนิ่ง “คุณเปลี่ยนไปนะ”

    ประโยคของเขาสื่อความหมายมากกว่านั้น เธอรู้ “คุณควรจะรู้ได้แล้วเรย์ที่นี่ไม่มีณลิณาที่คุณรู้จักอีกต่อไปแล้ว”

    “ผมไม่คิดอย่างนั้นหรอก”เขาเอื้อมมือมาจับขอบประตูที่เธอกำลังจะปิดไว้ “คุณยังเป็นคนเดิมเป็นลิณาที่ผมรู้จัก”โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวมือของเขาแตะที่คางของเธอ เขาใช้หัวแม่มือไล้ปลายคางเล็กนุ่มนวลเบาๆแต่กลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าสถิตแล่นจากปลายนิ้วของเขา

    มือข้างซ้ายของเขาอยู่ที่คางเธอ มือข้างซ้ายที่..

    ร่างกายของเธอสะบัดมือของเขาออก เขามองเธออย่างประหลาดใจก่อนที่น้ำเสียงของเขาจะแสดงความเข้าใจ “เพราะอย่างนี้สินะ ที่คุณไม่ยอมให้ผมอยู่ใกล้ เพราะมือข้างนี้ของผมใช่ไหม”

    เธอเชิดหน้าขึ้น เลิกคิ้วก่อนเหยียดยิ้มให้เขา “ไม่ใช่แค่นั้นหรอกก มันเป็นเพราะผมสีดำของคุณตาของคุณ จมูกของคุณแล้วก็ตัวของคุณต่างหาก”เธอปิดประตูปิดกั้นทั้งตัวเขาและตัวเองออกจากกันแม้จะรู้ว่ามันไม่ได้ผลอะไรนักเมื่อภาพเงาของเขาประทับในใจของเธอ อย่างที่เธอรู้ว่าไม่มีวันลบมันออกไปได้ตลอดกาล

     

    เขาและเธอเจอกันครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน เธอรู้จักเขาในฐานะหลานบุญธรรมของคุณปู่ รู้สึกพ่อกับแม่ของเขาจะเป็นคนที่คุณปู่รู้จัก เขาหล่อเหลาแต่สิ่งที่ดึงดูดเธอไม่ใช่ความหล่อเหลาบนใบหน้านั้น แต่เป็นดวงตาสีเข้มจนเกือบดำที่ปกปิดอะไรบางอย่างเอาไว้เหมือนสีของมัน สัญชาตญาณความอยากรู้ในตัวเธอทำงานก่อนที่เธอจะทันรู้ตัวเสียอีก มันนำเธอไปวนเวียนอยู่รอบตัวเขาก่อนที่เธอจะรู้ตัวว่าตัวเองสนใจเขาเสียอีก

    ถึงเธอจะพูดแบบนั้นแต่สิ่งที่เธอทำก็แค่การเดินวนเวียนอยู่ห่างๆในระยะที่เขามองไม่เห็น แต่เธอก็มารู้ทีหลังว่ามันแค่ในความคิดของเธอเท่านั้น

    วันหนึ่งที่เขามาหาปู่ของเธอที่บ้าน เธอมาแอบดูเขาเหมือนทุกที แต่วันนั้นต่างออกไปเพราะจู่ๆเขาก็หันมามองทางเธอที่แอบอยู่หลังตู้ที่ประจำของเธอราวกับรู้อยู่แล้วว่าเธออยู่ตรงนั้น ในขณะที่เธอกำลังตกใจสมองคิดว่าจะทำอย่างไร เขาก็ยิ้มออกมา ทำให้เธอเหมือนเครื่องยนต์ที่ถูกกดปุ่ม off จึงหยุดการทำงานทุกอย่าง เธอยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นแม้จะเป็นตอนที่เขาเดินมาย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้าข้างหน้าเธอ เสียงทุ้มที่มักได้ยินจากที่ไกลๆเสมอพูดกับเธอ

    “ไง ลิณา”ทั้งที่สองคำนั้นไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ต่างจากคำพูดปกติทั่วไปเป็นคำที่เธอได้ยินอยู่ทุกวันเสียด้วยซ้ำแต่เธอกลับจำคำสองคำนี้ได้ขึ้นใจทั้งจังหวะและน้ำเสียงที่เขาใช้ จนกระทั่งรายละเอียดอื่นๆของเหตุการณ์ตอนนั้น สีเสื้อเชิ๊ตของเขา กางเกงยีนส์สีเข้ม และแสงตะวันที่ส่องกระทบบนร่างกายของเขา

    ร่างกายของเธอใช้เวลาซักพักกว่าจะรู้สึกตัว ตอนนั้นเธอยังเด็กไม่รู้จะรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร สิ่งที่เธอคือวิ่งหนีแต่เพราะใจนึกอยากที่จะมองเขาต่อแทนที่เธอจะวิ่งหนีไปที่ห้องตัวเองขาของเธอกลับหยุดที่หลังแจกันใบใหญ่ เธอปลอบตัวเองว่าเขาอาจจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานของคุณปู่แล้วพอเธอวิ่งหนีเขา คิดอย่างนั้นหัวเล็กๆของเธอจึงชะโงกออกจากหลังแจกันและพบกับดวงตาสีเข้ม

    เขายังอยู่ เรย์ยังอยู่ที่เดิมแต่คราวนี้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอาจเพราะแววตาที่ฉายความประหลาดใจนิดๆก่อนที่มันจะไหวระริกพลอยทำให้ริมฝีปากเรียวของเขาขยายกว้างเห็นฟันขาวสวยก่อนที่เขาจะเริ่มหัวเราะ

    เธอไม่เคยตายเพราะอย่างนั้นเลยไม่เคยเห็นเทวดามาก่อน แต่เธอก็กล้าพนันเลยว่าคงไม่ต่างจากเขาที่อยู่ตรงหน้าเธอนักเสียงหัวเราะชองเขาแหบห้าวกว่าเสียงเวลาพูดตามปกติเล็กน้อยแต่ก็ไพเราะไม่ต่างกัน ให้ความรู้สึกน้ำผึ้งอุ่นๆและคิดว่ามันคงเป็นเพราะอย่างนั้นขาของเธอถึงได้ติดอยู่กับพื้นขยับไม่ได้อย่างนี้ เสียงหัวเราะของเขาที่ดังขึ้นเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้เธอ

    “มาคุยกันหน่อยไหมลิณา”

    ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาจับมือเธอ ฝ่ามือของเขาแค่ข้างเดียวก็สามารถกุมมือของเธอได้มิด..

    ลิณาถอนหายใจ ท่าทางเธอจะเป็นเอาหนัก เรื่องที่ผ่านมานานขนาดนี้แต่เธอกลับจำลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทุกรายละเอียด มันบ่งบอกชัดเจนว่าเขามีอิทธิพลมากแค่ไหนกับตัวของเธอ ซึ่งกลับกันกับเขา การกระทำที่เธอถือว่าพิเศษใช่ว่าจะพิเศษด้วยสำหรับเขา

    เพราะอย่างนั้นคำเตือนของเธอถึงไม่มีความหมาย คำห่วงใยของเธอจึงมีค่าให้เขารับฟังเท่านั้น ความจริงข้อนี้เธอได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้ว

     

    เธอไม่แปลกใจที่ตื่นมาแล้วเจอเขายืนอยู่หน้าห้อง แต่ไม่รวมถึงการที่เขายืนสวมแค่กางเกงยีนส์และเส้นผมของเขาด้วย เส้นผมที่เป็นสีดำของเขาตอนนี้กลายเป็นสีทอง สิ่งที่ช่วยย้ำคือกลุ่มขนสีเข้มที่อยู่บนแผ่นอกของเขาไล่ลงไปตามกลางลำตัวจนหาเข้าไปในขอบกางเกงยีนส์ สีของเส้นผมกับสีของกลุ่มขนบนตัวเขาที่ขัดกันทำให้เขาดูเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก

    “อรุณสวัสดิ์”ดูเขาจะรู้สึกถึงความตะลึงจนพูดไม่ออกของเธอเลยเป็นฝ่ายเอ่ยปากทักเธอก่อน ไม่รู้ว่าเขาจงใจหรือเปล่ารอยยิ้มของเขาทำให้เธอเรียกสติให้ตัวเองได้ช้าเข้าไปอีก

    “คุณทำอะไรกับผมของคุณ”

    เรย์พาดผ้าขนหนูกับบ่ากว้าง เส้นผมที่พึ่งเช็ดยุ่งไม่เป็นทรง ดูเหมือนเขาพึ่งจะย้อมผม เธอเบนสายตาไปทางอื่นที่ไม่มีผิวเปียกชื้นของเขา เรย์เทกาแฟจากเหยือก เอนตัวพิงขอบโต๊ะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มด้วยท่าทางสบายๆเหมือนอยู่ที่บ้านของเขา..จริงสิ ที่นี่มันห้องของเขา

    เรย์จับปอยผมของตัวเอง “ตอนแรกผมจะย้อมสีน้ำตาลแต่จำได้ว่าคุณชอบสีทองมากกว่า”เขายมตอบให้ตรงคำถามหลังจากนั้น “คุณบอกว่าไม่อยากเห็นผมสีดำของผมไม่ใช่เหรอ น่าเสียดายที่ผมเปลี่ยนสีตาตัวเองไม่ได้ แบบนี้พอจะได้ไหม”

    “คุณรู้ว่าฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น”นี่เหรอเหตุผลที่เขาย้อมผม

    เขากะพริบตาทำท่าใสซื่อ “ผมไม่รู้”

    เธอไม่ควรเสียเวลากับเขา ลิณาบอกกับตัวเอง เธอต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อแล้วก็ไปทำงาน  เธอเดินเข้าห้องเปิดประตูห้องน้ำก่อนเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เดินถอยกลับมาเปิดตู้ในห้อง เสื้อผ้าผู้หญิงของใช้ทุกชิ้นของเธอปรากฏอยู่ในนั้น รวมถึงเซ็ตชุดชั้นในลูกไม้คอลเล็กชั่นที่เธอเก็บซ่อนไว้อย่างดีที่ตอนนี้มันถูกวางพับอย่างเรียบร้อยอยู่ในลิ้นชักล่างสุดของตู้ และเธอไม่สงสัยว่ามันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผู้ชายคนนั้นเธอก้มหน้าครางกับฝ่ามือด้วยความอับอาย

    เธอใช้เวลาในห้องน้ำจนสามารถข่มความอับอายได้แต่งตัวและเปิดประตูออกมา เธอก็พบว่าเขาในสภาพเรียบร้อยนั่งดูโทรทัศน์อยู่ พร้อมแซนวิชสองคู่ เขาหันมาทางเธอ “เสร็จแล้วเหรอ”เขาทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาที่ต้องคอยเธอ

    จานแซนวิชที่อยู่บนโต๊ะถูกยกส่งให้เธอ “คุณยังไม่ได้ทานข้าวเช้าใช่ไหม”เนื้อปลาแซลมอนที่อยู่ระหว่างขนมปังแผ่นทำให้เธอชะงัก

    “คุณเป็นคนทำเหรอ”

    “ใช่ ไม่ต้องห่วงหรอกกินได้แน่ คุณก็รู้ว่านี่เป็นอาหารจานแรกที่ผมหัดทำ คุณยังชอบแซนวิชปลาแซลมอนอยู่ใช่ไหม”

    เธอหยิบมันขึ้นมากัดเพราะรู้ดีว่าเขาคงตื้อจนกว่าเธอจะยอมกินมัน และเพื่อให้เขาหยุดพูด พอเธอกินชิ้นที่หนึ่งหมดเขาก็ยื่นแซนวิชชิ้นที่สองมาให้เธอ

    เธอเลิกคิ้ว ไม่เอื้อมมือหยิบ “คุณคิดว่าฉันเป็นเด็กหรือไง”

    ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากใช้สายตามอง แต่ผลของมันกลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีเปลวไฟลามเลียไปตามจุดที่สายตาของเขาพาดผ่าน ซึ่งถ้าไม่นับด้านหลังก็ไม่มีส่วนไหนบนร่างของเธอที่เขาไม่ได้มอง

    เรย์ตอบเมื่อสายตาของเขากลับมาที่ใบหน้าของเธอแล้วหลังจากที่จ้องนิ้วเท้าเล็กของเธอ “ไม่ ผมไม่คิดว่าคุณเป็นเด็ก”น้ำเสียงหนักแน่นของเขาเหมือนจะบอกบางสิ่งที่มากกว่าคำตอบของคำถามแต่ไม่หรอกนั่นคงเป็นแค่การคิดไปเองของสมองเธอมากกว่า

    เธอหยิบแซนวิชชิ้นที่สองขึ้นมากัดคราวนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนกระดาษ เธอกระชับกระเป๋าที่ถือเดินออกจากห้อง

     

     

    [Talk]

    เรื่องใจแข็งนี้ลิณาไม่น้อยหน้าใคร

    ลุ้นต่อไปว่าป๋าเรย์จะทำให้หนูลิณาใจอ่อนได้เมื่อไหร่

    เริ่มแย้มอดีตมาทีละนิดๆ

    หลังนี้อาจมาอัพได้ช้าหน่อยนะคะ

    ช่วงนี้อัลต้องอ่านหนังสือ

    แต่ถ้ามีคนคอยเยอะจะพยายามกระดึ๊บมาอัพนะคะTT

    FROM  Aunqio

     

    [Talk]

    เลทไปประมาณครึ่งชั่วโมง

    แต่ก็มาแล้วนะคะ อย่าโกรธน๊า

    หนูลิณายังทำสงครามเย็นต่อไป

    ใครสงสารป๋าเรย์เหมือนอัลบ้าง

    เม้นๆโหวตๆกันด้วยนะจุ๊บๆ >3<

    FROM  Aunqio

     

    [Talk]13/12/2557

    ตอนนี้ป๋าเรย์เอาใจหนูไปเลย กรี๊ดดด >///<

    หลงรักผู้ชายหัวดื้อแบบเรย์

    ป๋าคนนี้เค้าน่ารักเนอะว่าไหมคะ dookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารัก emoticon

    ตอนนี้มาแบบเรทน้อยๆแต่บ่อยๆ แอบหวั่นระบบเด็กดีจะโดนแบนไหม ฮ่า

    อ่านแล้วอย่าลืมเม้นให้กับความน่ารักของป๋าเค้านะ

    ไม่งั้นเค้าน้อยใจ dookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารัก

    FROM  Aunqio

    แวะอ่านซักนิดเรื่องสำคัญนะคะ

    ตอนนี้อัลอยากได้เม้น

    แต่ก็ไม่อยากทำโควต้าอัพนิยาย

    เพราะงั้น..รีดเดอร์ทั้งหลายเม้นนนนนนนนนนนนกันหน่อยนะคะแงๆ

    อัลอยากได้เม้นมากๆเลย

    อัพเรื่องไหนก็มีเม้นแค่สองสามเม้นแต่แฟนคลับก็มีเยอะกว่ามันเศร้าจิงๆ (yωy*)

    เม้นกันคนละนิดนะคะหลังอ่าน เป็นกำลังใจให้นัก(อยาก)เขียนคนนี้หน่อยนะคะ (>д<)

    เม้นเป็นแรงใจที่สำคัญมากกกกกกกกจริงๆๆๆนะคะสำหรับอัล

    เพราะฉะนั้นเม้นกันนะคะ (0^^0)/
    ปล.ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปจะกำหนดโควต้าอัพละนะคะ

    <<เพจของอัลเองค่ะ เข้าไปกด Like ติดตามข่าวสารการอัพเดตนิยายกันนะ
     

    FROM  Aunqio

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×