เดลิเมล - พบสรรพคุณใหม่ของน้ำมันปลา ช่วยดัดนิสัยวัยรุ่นขี้วีนให้เย็นลง และมีสมาธิจดจ่อมากขึ้น หากกินต่อเนื่องทุกวันนานสามเดือน ถือเป็นการตอกย้ำทฤษฎีที่ว่า การปรับปรุงด้านโภชนาการ จะช่วยกล่อมเกลาพฤติกรรมและเพิ่มพูนพลังสมองของเด็ก
การศึกษานี้เกี่ยวข้องกับนักเรียนอายุ 12-15 ปี จำนวน 20 คนที่มีพฤติกรรมเกเรเรื้อรังและเสี่ยงที่จะถูกไล่ออกจากโรงเรียนกรีนฟิลด์ คอมมิวนิตี้ อาร์ตส์ คอลเลจ ในเดอร์แฮม เคาน์ตี้ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ
ในจำนวนนี้ 19 คนถูกประเมินว่าเป็นโรคสมาธิสั้นระดับปานกลางหรือรุนแรง เท่ากับจำนวนที่ถูกระบุว่ามีอาการเหม่อลอยรุนแรง และ 18 คนมีอารมณ์หุนหันพลันแล่นขั้นรุนแรง
เมื่อสิ้นสุดการศึกษาระยะเวลา 12 สัปดาห์ นักเรียนที่มีอาการสมาธิสั้นระดับปานกลางหรือรุนแรงลดลงเหลือเพียง 6 คน, นักเรียนที่เหม่อลอยรุนแรงเหลือแค่ 3 คน ส่วนที่หุนหันพลันแล่นรุนแรง 6 คน
สารอาหารที่ใช้ในการศึกษานี้คือ ‘eye q smooth’ หรือโอเมกา-3 บวกกับโอเมกา-6 ซึ่งผลิตโดยอิควอเซน รวมถึงผลิตภัณฑ์จากอิฟาเล็กซ์
ดร. มาเดลีน พอร์ตวูด นักจิตวิทยาการศึกษาอาวุโสของสภาเดอร์แฮม เคาน์ตี้ และนักวิจัยที่เป็นแกนนำการศึกษานี้ กล่าวว่าผลที่ออกมาน่าทึ่งอย่างยิ่ง
“การกินน้ำมันปลา ทำให้พฤติกรรมที่ทำให้เด็กเหล่านี้เสี่ยงต่อการถูกไล่ออก เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น”
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ดร. พอร์ตวูดเคยทำการศึกษาเด็กอายุ 18-30 เดือน จำนวน 65 คน ที่ได้รับเลือกจากศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ชัวร์ สตาร์ท และถูกระบุว่ามี ‘พฤติกรรมท้าทาย’ และมีปัญหาด้านความสนใจและสมาธิ
เมื่อเริ่มต้นการวิจัย เด็กเกือบครึ่งถูกจัดว่าเป็นเด็กที่มีพฤติกรรม ‘แย่’ หรือ ‘แย่มาก’แต่หลังจากให้กินน้ำมันปลาเป็นประจำ เด็ก 9 ใน 10 มีพฤติกรรมปานกลางหรือดี
ขณะเดียวกัน เมื่อเริ่มแรก เด็ก 66% มีระดับสมาธิ ‘แย่’ หรือ ‘แย่มาก’ แต่อาการดังกล่าวพัฒนาเป็นปานกลางหรือดีภายใน 5 เดือน
สำหรับผลการศึกษาล่าสุดนั้นมีขึ้นท่ามกลางการถกเถียงทางวิทยาศาสตร์ถึงคุณประโยชน์ของน้ำมันปลา
ก่อนหน้านี้เชื่อกันว่า ปลาแมกเคอเรล ทูนา และเฮอร์ริง รวมถึงปลาอื่นๆ ที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมกา-3 ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และมะเร็งบางประเภท
ทว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิจัยของมหาวิทยาลัยอีสต์ แองเกลียได้ทำการวิเคราะห์ผลการศึกษา 89 ชิ้น และระบุว่า พบหลักฐานเพียงน้อยนิดที่สนับสนุนความเชื่อดังกล่าว
ดร. พอร์ตวูดกล่าวถึงผลการศึกษาของทีมนักวิจัยของตนว่า มุ่งที่การศึกษากระบวนการทำงานของสมอง ขณะที่การศึกษาที่มหาวิทยาลัยอีสต์ แองเกลียนำไปวิเคราะห์ เน้นที่ปฏิกิริยาต่อเลือด
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น