ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All day with #YUGMARK

    ลำดับตอนที่ #33 : No title [Yugmark]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 731
      7
      26 มิ.ย. 58








    No title

    Couple: Yugyeom x Mark     

    Type: Romantic

    Song: เรื่องจริง 

     

     

     

     

     

     

     

    มึง คนนั้นเขามองมึงอีกแล้วว่ะ

     

     

     

     

     

     

    เพื่อนสนิทพูดแล้วสะกิดให้เขาหันไปมอง และมันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เขาหันไปสบตาด้วย ผู้ชายคนนั้นก็จะหลบสายตาไปอย่างรวดเร็ว ในครั้งแรกๆแอบคิดว่าเขาอาจจะไม่พอใจอะไรหรือเปล่า แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ เพราะสายตาที่เขามองไม่มีวี่แววของความไม่พอใจเลยซักนิด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    มึงลองเข้าไปถามมั้ยว่าเขามองมึงทำไม

     

     

     

    แน่นอนว่าคำตอบของเขาคือการปฏิเสธที่จะเข้าไปถาม ในเมื่ออีกฝ่ายไม่มีเหตุผลข้องใจอะไรกับเขาแล้วทำไมต้องเข้าไปถาม อาจเป็นเพราะอีกฝ่ายเพียงแค่มองมาแล้วบังเอิญว่าเป็นเขาที่อยู่ในระยะสายตาของอีกฝ่ายพอดิบพอดี

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ขอบคุณนะ

     

     

    ประโยคแรกที่เอ่ยกับอีกฝ่ายเมื่อยามที่จักรยานของเขาโซ่หลุดระหว่างทางกลับหอ อีกฝ่ายที่พึ่งเลิกเรียนจากตึกเรียนได้ตรงเข้ามาช่วยเขาที่ทำท่าเก้ๆกังๆอยู่กับจักรยานโดยที่ไม่สนใจว่าชุดนักศึกษาสีขาวของตนเองจะเปื้อนเลยแม้แต่น้อย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ

     

     

    เขาอาสาจะนำเสื้อนักศึกษาของอีกฝ่ายไปซักคราบรอยดำจากจักรยานให้เป็นการตอบแทน แต่อีกฝ่ายปฏิเสธกลับมาด้วยรอยยิ้ม แสงอาทิตย์สีส้มยามเย็นที่ทอดมายิ่งทำให้รอยยิ้มของอีกฝ่ายดูอบอุ่น และทำให้เขานำรอยยิ้มของอีกคนมาติดใจ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หวัดดี

     

     

     

    คำทักทายครั้งแรกหลังจากที่เราเจอกันที่ร้านสะดวกซื้อแถวหอ ท่าทางอีกฝ่ายดูตกใจไม่น้อยที่เขาเข้ามาทัก แต่เพียงไม่นานอีกฝ่ายก็ยิ้มให้เขาพร้อมกับโค้งน้อยๆ รอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นทำให้เขายกมือขึ้นเกาศีรษะแก้เก้อ เขาค่อนข้างมั่นใจทีเดียวว่าใบหน้าของเขาคงขึ้นสีแน่ๆ เขายิ้มให้อีกฝ่ายแล้วเดินหลบออกจากร้านสะดวกซื้อ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กลับบ้านแล้วหรอครับ

     

     

     

    คำถามจากอีกฝ่ายเมื่อเราพบกันที่หน้ามหาวิทยาลัย เขาถือกระเป๋าหลายใบเพราะต้องการเอาเสื้อผ้ากลับไปซักที่บ้านและนำกลับมาที่หอพักในเช้าวันจันทร์ ในขณะที่อีกฝ่ายมีเพียงเป้สะพายหลังใบเดียว เขาพยักหน้าตอบรับก่อนที่อีกฝ่ายจะช่วยเขาถือกระเป๋าแล้วพาไปขึ้นรถกลับบ้าน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เดี๋ยวผมไปส่ง ผมเอารถมา

     

     

     

    เขาตกใจเล็กน้อยเมื่อเดินถือกระเป๋าออกจากหอในวันศุกร์เย็น อีกฝ่ายเหมือนมายืนรอเขานานแล้วเพราะเมื่อเขาเดินลงมา อีกฝ่ายก็ตรงเข้ามาหาพร้อมกับพูดเร็วๆ เมื่อเห็นท่าทีที่นิ่งไปของเขา อีกฝ่ายก็ยิ้มเจือนๆมาให้ทำให้เขาอดหัวเราะเบาๆไม่ได้ ภาพของลูกหมาที่หูลู่หางตกลอยมาซ้อนทับอย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อเขาตอบตกลง อีกฝ่ายก็ยิ้มกว้างออกมาเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    รถผมเก่าหน่อยนะ

     

     

     

    รถยนต์ญี่ปุ่นยี่ห้อดังสีขาวสภาพกลางเก่ากลางใหม่ที่จอดอยู่ตรงหน้ากลายเป็นรถคันที่พาเขาไปส่งที่บ้านทุกอาทิตย์ และเป็นรถที่มารับเขากลับหอในเช้าวันจันทร์ และในบางครั้งที่กลับบ้าน คุณแม่ของเขาก็ชวนอีกฝ่ายให้ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนอีกฝ่ายจะตรงกลับบ้านของตน ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญที่บ้านของอีกฝ่ายอยู่ถัดไปอีกสองซอย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายคืออะไร

     

     

     

    คำถามที่ถูกเพื่อนสนิทเอ่ยถามในคาบเรียน และมันเป็นคำถามที่เขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่าความสัมพันธ์ของเขากับอีกฝ่ายเป็นยังไง จะว่าเพื่อนก็ไม่เชิงเพื่อน เพราะทุกครั้งที่เจอกันเราเพียงแค่ยิ้มให้กันเท่านั้น ยกเว้นแต่เวลากลับบ้านที่เราจะได้คุยกันมากขึ้น ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์แบบนี้จะเรียกว่าอะไรดี เพื่อนก็ไม่เชิง คนรู้จักกันก็ดูห่างเหินไป ถ้าแบบนั้นขอติดไว้ก่อนแล้วกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมมีเพลงให้ฟังล่ะ

     

     

     

    อีกฝ่ายพูดแล้วยื่นหูฟังมาให้เขาอีกด้านนึง เขาหันไปมองอย่างแปลกใจว่าทำไมอีกฝ่ายไม่เลือกเปิดเพลงจากเครื่องเสียงในรถแต่กลับใช้หูฟังและไอพอตเครื่องเล็กแทน เขาหยิบหูฟังขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่านจะกดเพื่อให้เพลงเล่น เสียงท้วงทำนองเพลงเก่าที่คุ้นหูจะแตกต่างก็เพียงแค่เสียงของคนร้องเท่านั้นที่มันบังเอิญคล้ายกับเสียงของอีกฝ่าย เขาหันไปมองคนด้านข้างที่สายตาจับจ้องอยู่กับท้องถนนและเมื่อถึงท่อนหลักของเพลง อีกฝ่ายก็ร้องตามออกมา

     

     

     

     

     

     

    ฉันรักเธอโดยที่ไม่รู้จัก

    และฉันรักเธอตั้งแต่แรกพบหน้า

    มากมายจนข้างในต้องระบายออกมาให้เธอได้ยิน

    และสำหรับฉันเธอคือทุกๆสิ่ง

    เป็นแรงบันดาลใจเป็นทุกๆอย่าง

    เธอเชื่อมให้ฉันเห็นภาพที่สวยงามของชีวิต

    ทั้งที่เรายังไม่ทันได้รู้จักกันเลย

     

     

     

     

    "มาร์ค ... ผมชอบคุณ"

     

     

     

     

    END



    #tkymfic


    ชอบแต่งแบบนี้จางงงง ติชมได้นะคะ :)

                                                                Micelle Jean        
        
        
         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×