ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความทรงจำในวัยเยาว์
3000 ปีต่อมา
"พวกมันอยู่นั่น! ตามไปเร็ว อย่าให้ใครรอดไปได้!"
เสียงคำสั่งดังขึ้นอย่างเฉียบขาด คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าชี้มือไปที่สองร่างที่กำลังวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปตามแนวป่า
ร่างของเด็กหญิงหายใจหอบหนัก ขาเล็กๆทั้งสองเริ่มหมดแรงก่อนที่จะล้มลงกับพื้น หญิงสาวที่วิ่งอยู่ข้างๆเหลียวกลับมามองพลางพยายามดึงให้เด็กหญิงลุกขึ้น
"ลุกขึ้น! เรเวน เร็วเข้า!" เธอสั่ง
เด็กหญิงตะเกียกตะกายยืนขึ้นอย่างยากลำบากก่อนที่จะล้มลงไปอีกครั้ง เด็กน้อยส่ายหน้าอย่างหมดหวัง นัยน์ตาสีนิลมีน้ำตาคลอ
"วิ่งไม่ไหวแล้ว แม่หนีไปเถอะ หนูจะ...."
"เงียบนะเรเวน!" หญิงสาวตะโกนขัดก่อนที่เด็กหญิงจะเอ่ยจบพลางเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน "อย่ายอมแพ้ลูกรัก เราจะต้องรอด ลุกขึ้นไปกับแม่ เร็วเข้า" เธอเอ่ยพลางเอามือปาดน้ำตาให้ลูกสาวตัวน้อยของเธอเบาๆ
เด็กหญิงพยักหน้าน้อยๆก่อนที่จะพยายามยันตัวลุกขึ้นอีกครั้งด้วยความทุลักทุเล แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้ออกวิ่งนั้นเอง....
ฉึก!!!!
เสียงหวีดหวิวของวัตถุที่พุ่งแหวกอากาศดังขึ้นอย่างน่ากลัวก่อนที่จะไปปักเข้ากับเป้าหมายอย่างแม่นยำ เลือดสีแดงสดไหลออกมาตามบาดแผล เจ้าของร่างที่ถูกธนูปักก้มลงมองร่างของตน ก่อนที่จะล้มลงช้าๆ
"แม่!!!!"
เด็กหญิงร้องลั่นพลางทรุดตัวลงนั่งข้างๆ หยาดน้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย เด็กน้อยเอื้อมมือเล็กไปกุมบาดแผลของแม่ไว้ก่อนที่จะเอ่ยเสียงเบา "หนูจะ....ร..รักษาให้นะ....แม่" เสียงสะอื้นของเธอปนเปไปกับคำพูดจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง "ฮ...ฮีล!"
แสงสีขาวพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเธอ เด็กน้อยพยายามบังคับพลังของตนให้ไปรักษาบาดแผล ทว่ามันไม่ได้ผล
"หายสิ....หาย" เธอร้องเมื่อเห็นว่าพลังของเธอไม่ได้ช่วยอะไรเลย แม่ของเด็กหญิงบีบมือเธอเบาๆก่อนที่จะเอ่ยเสียงแหบพร่า
"พอ...เรเวน ป..ไปซะ....หนี...ไป"
หญิงสาวกัดฟันพูด ความเจ็บปวดจากบาดแผลทำให้เธอสายตาพร่ามัว ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
เด็กหญิงส่ายหน้าไปมาพลางเอ่ยปนสะอื้น "ไม่! ถ้าจะไปแม่ต้องไปด้วย!" เด็กน้อยเอ่ยอย่างหนักแน่นทั้งๆที่ยังร้องไห้ไม่หยุด
เสียงฝีเท้าดังแว่วมาไม่ไกล เสียงนั้นตรงเข้ามาเรื่อยๆทำให้หญิงสาวรีบเอ่ย "ไปซะ....เรเวน หนีไป...ให้ไกล....ลูกเป็น...คนสุดท้าย..แล้ว...ลูก....ต้องมีชีวิตรอด"
"ไปซะ เรเวน" เด็กน้อยยังคงส่ายหน้า.... "ไป!"
เด็กหญิงจ้องมองแม่ของตนก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นและออกวิ่ง วิ่งไปโดยไม่หันกลับมามองข้างหลังอีกด้วยน้ำตาที่นองหน้า
"กรี๊ด!!!!!!!"
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังก้องไปทั่วป่าเป็นเหตุให้เด็กน้อยชะงักฝีเท้าก่อนที่จะหันกลับไปมองทางที่วิ่งมาอีกครั้ง เธอใช้มือเล็กปาดน้ำตาออกจากหน้า เผยให้เห็นแววตาอันเยียบเย็นและเย็นชาที่เข้ามาแทนที่แววตาที่ไร้เดียงสาและแสนจะเศร้าโศกของเธอ เด็กหญิงก้าวเดินอีกครั้งพร้อมปฏิญาณกับตัวเอง
"หนูจะเอาหัวคนที่ฆ่าแม่มาให้ได้...."
"....หนูสัญญา!"
3 วันต่อมา
เกวียนขนาดกลางแล่นไปตามทางอย่างไม่รีบร้อนนัก ม้าสีน้ำตาลสองตัววิ่งเหยาะๆไปโดยการบังคับของชายผู้เป็นสารถี ร่างสองร่างในเกวียนกำลังพูดคุยกัน บรรยากาศความเครียดแผ่ออกมาจากในเกวียน
"แผนการสำเร็จไหมซิลเวลิน" ชายในชุดเสื้อคลุมสีเทาเอ่ยถาม นัยน์ตาสีทองภายใต้เสื้อคลุมเย็นเยียบ ทำเอาเจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งพลางเอ่ยตอบ
"อ..เออ คือ....เธอหนีไปได้ขอรับ" ชายหนุ่มนามซิลเวลินเอ่ยตอบเสียงเบา
"หนีไปได้! ข้าว่าข้าบอกเจ้าแล้วนะซิลเวลินว่างานนี้ห้ามผิดพลาด แต่เจ้ากลับปล่อยให้เธอหนีไปได้ ข้าว่านี่คงจะเตือนเจ้าได้กระมังว่าผู้ที่ทำงานพลาดจะต้องได้รับผลเช่นไร!"
"นายท่าน....โปรดเมตตาด้วย"
โครม!
เกวียนหยุดลงกระทันหันเป็นเหตุให้เกือบจะคว่ำลงไปกับพื้น ชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมสีเทามองไปทางประตูเกวียนอย่างไม่สบอารมณ์นัก ก่อนที่จะตะโกนถาม
"เกิดอะไรขึ้นราค"
"มีเด็กนอนสลบอยู่ข้างหน้าขอรับนายท่าน เลยต้องหยุดเกวียนกระทันหัน ขออภัยด้วย"
"เด็กงั้นหรือ....เด็กที่ไหนกันมาอยู่ในป่า?"
ชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมสีเทาก้าวลงจากเกวียน พลางสาวเท้าเข้าไปหาร่างของเด็กน้อยที่นอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ที่พื้น เขาคุกเข่าลงก่อนที่จะช้อนร่างนั้นเข้ามาไว้ในอ้อมแขนพลางสังเกต เสื้อผ้าของเธอขาดวิ่น ผมเผ้ายุ่งเหยิง เด็กหญิงปรือนัยน์ตาขึ้นเล็กน้อยจ้องมองบุคคลที่อยู่ตรงหน้า
"ไม่เป็นไรแล้ว พักผ่อนเถอะนะ" ชายคนนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางลูบหัวของเด็กน้อยไปมา เด็กหญิงโอนอ่อนตามอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
"นายท่านขอรับ....เด็กคนนั้น"
"เจ้าโชคดีซิลเวลิน ด้วยความบังเอิญข้อผิดพลาดของเจ้าทำให้ข้าพบเจอสิ่งที่ดียิ่งกว่า" ชายในชุดเสื้อคลุมสีเทาเอ่ยเบาๆพลางก้มลงมองเด็กหญิง "นึกไม่ถึงว่าจะได้ตัวเด็กคนนี้มาง่ายขนาดนี้"
"จะให้ข้าสังหารเด็กนั่นทิ้งเลยไหมขอรับ" ซิลเวลินถามพลางเอื้อมมือไปแตะด้ามมีดที่ติดเอวเขาอยู่ตลอดเวลา พร้อมที่จะชักมันออกมาได้ทุกเมื่อ
"สังหาร? เจ้ามองไม่เห็นหรือว่าจิตของเด็กน้อยคนนี้ได้เข้าสู่ด้านมืดแล้ว จิตใจของเธอเต็มไปด้วยความแค้นมากมายจนไม่อาจหยั่งถึงจิตใจของตนเองได้อีก"
"เด็กคนนี้ก็คงเป็นเหมือนผ้าขาวที่บัดนี้หมองลง ข้าจะไม่ฆ่าเด็กคนนี้แต่จะสอนให้เธอก้าวเข้าสู่ความมืดอย่างเต็มตัว ให้ปีกสีขาวของเธอไม่มีวันปรากฏขึ้นมาได้อีก หรือไม่เช่นนั้นปีกนั่นก็ต้องกลายเป็นปีกสีดำแห่งความมืดไปตลอดกาล"
ชายคนนั้นกล่าวจบก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะนั้นปนเปไปกับเสียงหวีดหวิวของสายลม ก่อนที่เกวียนจะเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ
ไปสู่รัตติกาลที่ไม่มีที่สิ้นสุด....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น