ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Battle Wings

    ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบทแห่งสงคราม

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.พ. 50



         ความมืดมิดยามราตรีฉายชัดบนท้องฟ้า แสงดาวส่องประกายราวกับอัญมณีที่ส่องสว่าง ปราสาทขนาดใหญ่ตั้งเด่นอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด ร่างสูงโปร่งของหญิงสาวก้าวเดินออกมาจากประตูบนยอดหอคอยพลางก้มลงมองภาพเบื้องล่าง นัยน์ตาฉายแววเศร้าสร้อยอย่างน่าประหลาด
         ชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์สะบัดไปตามแรงลมที่พัดมา ดวงหน้างดงามของเธอเงยขึ้นมองดวงดาวบนท้องฟ้า ผมสีเงินยาวสลวยราวกับเส้นไหม ดวงตาสีเงินเช่นเดียวกับเส้นผมทอประกายอ่อนโยนหากแต่ฉายความเข้มแข็งไว้ด้วย เธอมัวแต่ตกอยู่ในภวังค์จนไม่รู้เลยว่าทุกๆอากัปกิริยาของเธอนั้นตกอยู่ในสายตาของชายหนุ่มตลอดเวลา
         "คิดอะไรอยู่...."
         เสียงทุ้มนุ่มนวลดังขึ้นข้างๆหูของหญิงสาว ลมหายใจอุ่นๆที่รู้สึกทำให้หญิงสาวรู้ว่าชายหนุ่มอยู่ชิดตัวของเธอเพียงใด ใบหน้านวลแดงก่ำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ หญิงสาวหันหน้ามามองชายหนุ่มเจ้าของเสียงช้าๆ ดวงตาสีเงินสบกับดวงตาสีฟ้าที่อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะผันหน้ากลับไปโดยไม่ได้กล่าวอะไร
         "กังวลหรือ...."
         ชายหนุ่มเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวถอนหายใจออกมา ไม่ว่าอะไรก็ไม่อาจปิดบังเขาได้เลยสินะ
         ชายหนุ่มมองร่างโปร่งของหญิงสาวจากทางด้านหลัง ดวงตาสีฟ้าฉายแววเป็นห่วงไว้อย่างชัดเจน มือของเขาโอบเอวเธอช้าๆอย่างต้องการจะปลอบโยน ความเงียบดำเนินไปซักพักก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยขึ้นมาว่า
         "ข้า....ควรจะทำยังไง" เสียงที่เอ่ยเต็มไปด้วยความสับสน ลังเล ร่างบางสั่นน้อยๆอย่างต้องการจะอดกลั้นต่อความอ่อนแอของตัวเอง ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา "ปีศาจปรากฏตัวขึ้นทุกที่ ผู้คนถูกสังหารมากมาย พวกเขาต้องมาตาย...." เธอหยุดไปนิดหนึ่งก่อนที่จะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจปกปิดความเศร้าไว้ได้อีกแล้ว "....เพราะข้า" คำสุดท้ายนั้นแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ
         "พวกเขาเต็มใจ ฟิโอน่า พวกเขาเต็มใจที่จะตายเพื่อปกป้องเจ้า สตรีผู้ที่ได้รับเลือกตามคำทำนาย" ชายหนุ่มเอ่ยอย่างต้องการจะปลอบโยน
         คำทำนาย....
         ใช่....เป็นเพราะคำทำนายบ้าๆนั่น
         เป็นระยะเวลาอันยาวนานที่เธอต้องมองดูคนอื่นๆมากมายต้องมาตายเพื่อปกป้องเธอ คนแล้วคนเล่าโดยที่เธอไม่สามารถจะช่วยเหลือได้ ช่างน่าสมเพชนัก เธอตำหนิตัวเอง ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีพลัง เธอมี....เธอมีมากกว่าใครเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะคำทำนายนั่นกล่าวไว้ว่าเธอเป็นเพียงคนเดียวที่จะนำความปราชัยมาสู่เหล่าปีศาจ เธอจึงกลายเป็นคนสำคัญ ถูกปกป้อง ทั้งๆที่เธอคิดว่าคนที่ต้องตายไปต่างหากคือผู้ที่สมควรจะได้รับการปกป้อง เพียงเพราะปีกสีขาวบริสุทธิ์ที่กลางหลังทีถือกำเนิดมาพร้อมเธอ คนอื่นๆอาจมองว่ามันเป็นพรจากสวรรค์ แต่สำหรับเธอมันเป็นเหมือนกับสิ่งต้องสาปที่ทำให้เธอต้องมาอยู่ในสถานะเช่นนี้ สถานะที่ต้องยืนอยู่บนร่างและวิญญาณของคนมากมายที่เข้ามาปกป้องและตายเพราะเธอ
         "อย่ากังวลไปเลย ฟิโอน่า พวกเขาเต็มใจที่ได้ปกป้องและตายเพื่อเจ้า เพราะสำหรับพวกเขาแล้วการปกป้องเจ้าคือการปกป้องความหวัง และสำหรับข้าการปกป้องเจ้าคือการปกป้อง....ความรัก"
         "คนทุกคนล้วนแล้วแต่มีหน้าที่ และการปกป้องเจ้าคือหน้าที่ที่พวกเขาเต็มใจจะทำ"
         หน้าที่....งั้นหรือ
         ข้าเองก็มีหน้าที่ต้องทำ....ใช่ไหม
         หญิงสาวคิดในขณะที่ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอมีหน้าที่อะไร มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องทำหน้าที่ของเธอบ้าง หน้าที่ที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่ทำได้
         จากที่เคยเป็นผู้ถูกปกป้อง....บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เธอจะเป็นผู้ปกป้องคนอื่นบ้าง!


         กำแพงหินสีหม่นๆดูแข็งแรงล้อมรอบปราสาทเอาไว้ จากปราสาทที่เคยเป็นสีขาวนวลบัดนี้ถูกกลืนกินด้วยความมืดมิดยามค่ำคืน ท้องฟ้ามืดมิดไร้ซึ่งดวงดาว ขอบฟ้าเป็นสีแดงดั่งเลือดราวกับจะบอกความนัยบางอย่างซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีนัก
         เสียงเอะอะ เสียงฝีเท้าจำนวนมากล่องลอยมาตามสายลม หญิงสาวลุกเดินออกมาตรงระเบียงด้านหน้าของยอดหอคอย นัยน์ตาสีเงินของเธอจับจ้องไปยังพื้นเบื้องล่าง แล้วก็พบกับเงาดำจำนวนมากกำลังใกล้เข้ามา ความเย็นยะเยือกพัดมาพร้อมกับกลิ่นที่น่าคลื่นเหียน เงาดำเหล่านั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆนัยน์ตาสีแดงก่ำของมันจับจ้องเข้ามาที่ในปราสาท
         สภาพภายหลังกำแพงเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความวุ่นวาย เสียงดังเอะอะจนจับสำเนียงไม่ได้ว่าพูดอะไรกัน ความสิ้นหวังแผ่กระจายไปทั่วก่อนที่ชายหนุ่มคนหนึ่งจะก้าวออกมา
         เส้นผมสีน้ำตาลยาวถูกมัดไว้อย่างลวกๆ ชายหนุ่มก้าวเดินออกมาอย่างสง่างาม เสื้อคลุมสีขาวของเขาโบกสะบัด ใบหน้าหล่อเหลาคมคายไม่ได้ฉายความหวาดกลัวออกมาแต่อย่างใด นัยน์ตาสีฟ้าแลดูเข้มแข็ง พลางเอ่ย
         "ศัตรูของเราอยู่ด้านนอกกำแพงนี้แล้ว ศัตรูที่จะมาพรากความหวังเดียวของพวกเราไป...." ชายหนุ่มเอ่ยพลางมองขึ้นไปบนยอดหอคอย นัยน์ตาสีฟ้ายิ้มน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของเธอผู้เป็นที่รัก "พวกเจ้าคงรู้ดีว่ากำลังของเรากับมันนั้นแตกต่างกันเพียงใด เราอาจจะพ่ายแพ้ ดังนั้นข้าจึงอยากรู้ว่าพวกเจ้ายังต้องการที่จะต่อสู้เคียงข้างข้าอีกหรือไม่" ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติ แต่น้ำเสียงของเขากลับดังกังวานได้อย่างทรงอำนาจ
         "แม้ว่าข้าจะไม่ได้เก่งกาจดังเช่นท่าน....ท่านเครฟ  และแม้ว่าข้าไม่ได้มีพลังมากดังเช่นท่าน แต่ข้าจะไม่ยอมให้ปีศาจตนใดได้แตะต้องนาง ไม่ยอมให้อำนาจมืดแม้เพียงนิดได้เข้ามาเฉียดใกล้ความหวังของเรา สงครามครั้งนี้ข้ายอมพลีชีพ เพื่อความหวังของพวกเรา!"
         เสียงเฮลั่นดังกระหึ่มรับกับคำพูดนั้น เหล่าทหารจำนวนมากรวมถึงชาวบ้านบางคนที่อาศัยหลบสงครามมาอยู่ที่นี่พากันคว้าดาบ อาวุธ หรือของที่พอจะใช้ในการสู้รบได้ขึ้นมาและพากันเดินมารวมกลุ่มที่ลานหน้าประตูใหญ่ เตรียมพร้อมต่อสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
        
    ตูม!!
         ประตูไม้ขนาดใหญ่พังลง ปรากฏร่างของปีศาจจำนวนมากมาย ร่างของพวกมันดูแล้วช่างน่าขยะแขยง มีรูปร่างบ้างเป็นสัตว์บ้างก็ครึ่งคนครึ่งสัตว์ นัยน์ตาปูดโปนสีแดงก่ำดุจดั่งเลือด ผิวหนังซีดราวซากศพ หากแต่สิ่งที่พวกมันมัคล้ายกันคือกรงเล็บอันใหญ่ที่มองแล้วสามารถฉีกกระชากเนื้อหนังให้ขาดออกจากกันได้อย่างง่ายดาย และคมเขี้ยวอันแหลมคมที่สามารถกัดกระดูกให้หักได้หากต้องการ
         บรรดาปีศาจพากันเข้ามาภายในกำแพง บางตัวปีนป่ายอยู่เหนือกำแพง เผยให้เห็นจำนวนของพวกมันที่มีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
         ชายหนุ่มกระชับดาบในมือแน่น นัยน์ตาสีฟ้าวาวโรจน์ก่อนที่จะตะโกนก้อง!
        
    "แด่ชัยชนะ! แด่ความหวังของพวกเรา!"

         
         เวลาผ่านไป ลมหนาวพัดพามามากขึ้นเรื่อยๆ เหล่าปีศาจที่บุกโจมตีนั้นดูจำนวนไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด พวกมันโจมตีอย่างไม่ให้ฝ่ายมนุษย์ได้มีโอกาศพักหายใจ ชายหนุ่มกวาดนัยน์ตาสีฟ้ามองไปยังเหล่าพวกพ้องที่เหลืออยู่ สภาพของแต่ละคนนั้นมีแต่บาดแผลและเลือดไหลโทรมกาย เพียงแค่เวลาไม่นานเหล่าป๊ศาจก็ดูเหมือนจะได้เป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้เสียแล้ว
         กรงเล็บตะปปลงมาทันที! ชายหนุ่มยกดาบรับได้ทันท่วงทีแต่แรงที่กดลงมานั้นทำให้เขาเสียหลักล้มลง ดาบกระเด็นหลุดออกจากมือ นัยน์ตาสีฟ้าเบิกกว้างเมื่อเห็นกรงเล็บอันแหลมคมพุ่งเข้าหาตนอย่างรวดเร็ว
        
    เคร้ง!
         
    ดาบใหญ่สีขาวขึ้นไปกันไว้ได้ทัน ชายหนุ่มมองดาบที่อยู่ตรงหน้าแล้วมองไล่ไปตามแขน ขึ้นไปที่ใบหน้าหวานอันแสนคุ้นเคย
         "ฟิ....โอน่า"
         หญิงสาวแย้มรอยยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะวาดดาบอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน ตัดร่างของปีศาจออกเป็นสองส่วนทันที
         "เจ้า....จะทำอะไร" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงสั่น ลางสังหรณ์บางอย่างร้องเตือนว่าเธอคนนี้กำลังคิดที่จะทำอะไรบางอย่าง
         หญิงสาวกระชับดาบแน่นพลางก้าวเดินออกไปตรงกลางลาน ปักดาบใหญ่ลงกับพื้น ก่อนที่จะเอ่ยว่า
         "ก็จะทำหน้าที่ของข้าไงล่ะ....เครฟ"
         กล่าวจบเธอก็ร่ายคาถาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ถ้อยคำพรั่งพรูออกจากปากเรียวงาม ถ้อยคำที่ทำให้คนฟังถึงกับเบิกตากว้าง หัวใจหล่นวูบ!
         คำร่าย....แบบนี้
         เวทย์ผนึกมาร!!!
         "ฟิโอน่า! หรือว่าเจ้าจะ...."ชายหนุ่มพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบ มันเจ็บ....เจ็บจนไม่อาจทนไหว
         บังเกิดหลุมดำขนาดใหญ่ ณ พื้นกลางลาน เสียงหวีดหวิวของลมที่แรงมีต้นกำเนิดมาจากภายในหลุมนั้น บรรดาปีศาจพากันถูกดูดลงหลุม บางตัวก็ยื้อยุดสุดกำลัง ทั้งเกาะทั้งขืนตัวไม่ให้ลงหลุม 
         "หยุด! ฟิโอน่า! หยุดเถอะ!" ชายหนุ่มร้องห้ามท่ามกลางความสงสัยของคนอื่นๆว่า
    ห้ามทำไม?
         
    การใช้เวทย์บทนี้สามารถจัดการผนึกปีศาจได้จริงอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้กันได้ง่ายๆ มันมีสิ่งที่ต้องนำไปเป็นข้อแลกเปลี่ยน
         เมื่อเปิดประตูแล้วก็ต้องปิด และสิ่งที่ใช้ปิดประตูนั้นก็คือ....
         ชีวิตของผู้ที่เปิดประตูขึ้นมา!!!
         "แกไม่มีวันผนึกพวกข้าไว้ได้ตลอดหรอก!! อีกไม่นาน....ไม่นานที่นายของพวกข้าจะถือกำเนิด ถึงตอนนั้นพวกข้าก็จะได้กลับมาบนโลกนี้อีกครั้ง!!!" เหล่าปีศาจพากันตะโกนอย่างโกรธแค้น เมื่อรู้ว่าจะต้องถูกกักขังอยู่ในความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด
         "ฟิโอน่า!! อย่า!!"
         ในตอนนั้นหญิงสาวได้หันไปมองชายหนุ่มช้าๆ ด้วยสีหน้าที่อับจน
         แล้วก็ยิ้ม....
         "ไม่!!!!! ฟิโอน่า!!!!!"
         ชายหนุ่มตะโกนอย่างสุดเสียง รวบรวมกำลังที่เหลือวิ่งเข้าไปหา สองมือไขว่คว้าหาร่างของหญิงสาวผู้เป็นที่รัก แต่ไม่ทันเสียแล้ว ร่างของหญิงสาวได้สลายไป เหลือไว้แต่ชุดสีขาวและดาบคู่กายของเธอเท่านั้น
        
    "ฟิโอน่า!!!!!!!"
         เสียงกรีดร้องโหยหวนของชายหนุ่มผู้สูญเสียหญิงสาวคนรักดังระงมไปทั่ว สองมือของชายหนุ่มกอดรัดชุดสีขาวของเธอไว้แน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม ในหัวมีเพียงคำพูดสุดท้ายที่เธอพูดกับเขา คำพูดที่ทำให้เธอต้องเป็นเช่นนั้น คำพูดที่มีสาเหตุมาจากตัวของเขาเอง

        
    เจ้า....จะทำอะไร
         ก็จะทำหน้าที่ของข้าไงล่ะ....เครฟ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×