ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เชลยรักเจ้าสาวทะเลทราย วางแผงแล้ว สนพ ธราธร

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2...100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.38K
      9
      17 ธ.ค. 54

    ตอนที่ 2

     

                 อรอุมาใช้แผนเข้าประชิดตัวตามที่ทิพยาแนะนำ หลังจากเมื่อคืนก่อนได้ค้นหาข้อมูลของรังสิมันต์จนแทบจะปรุในโลกอินเตอร์เนต แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรมาก เรื่องส่วนใหญ่ที่ทำให้บรรดาสาวๆ คลั่งไคล้เขาน่าจะเป็นเพราะหน้าที่การงานที่โก้หรู รวยและหล่อ อ้อ ดูลึกลับเข้าถึงยาก แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจจริงๆ ว่าด้วยคุณสมบัติเท่านั้น ทำไมเขาถึงมานั่งอยู่ในใจของสาวๆ ได้ หรือว่าเพียงคุณสมบัติเท่านั้นก็พอแล้วสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ แล้วความจริงใจ ความมั่นคงทางจิตใจ รวมถึงความเป็นผู้นำล่ะ ไม่สำคัญหรอกหรือ

                 หญิงสาวส่ายหน้าให้ตัวเอง สงสัยเธอจะเป็นผู้หญิงส่วนน้อยที่คิดถึงเรื่องของจิตใจมากกว่าฐานะ โอเค คงไม่ต้องถึงกับดีแต่จน แค่ทำอาชีพสุจริตมีเงินเก็บพอประมาณไม่เดือดร้อนอะไร แต่มีหัวใจที่มั่นคงไม่หลงระเริงไปตามกิเลศตัณหาก็พอแล้ว ผู้ชายแบบนี้ต่างหากที่น่าคลั่งไคล้ เฮ้อ ช่างมันเถอะ ในเมื่อเธอคงไม่พบคนแบบนั้นตามรถเมล์ หรือในรถแท็กซี่กระมัง

                 ข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่างของรังสิมันต์ก็คือ เขามีบ้านพักอยู่ถัดจากบ้านของเธอไปแค่ซอยเดียว พอได้ข้อมูลดังนั้นนักข่าวหัวเห็ดก็ออกปฏิบัติการไปดูลาดเลาที่บ้านสลับกับที่ทำงานเป็นเวลาหนึ่งวันเต็มๆ แต่ว่าก็เหลวเป๋ว ไม่มีคนหน้าเหมือนรังสิมันต์ให้เธอตามสักคน

                 สงสัย 3 วันที่ภาษิตตั้งความหวังไว้คงจะชวดแน่ๆ แถมตาลุงที่ดูหน้าตาใจดี ซึ่งหญิงสาวคุยไปคุยมาถึงได้รู้ว่าเขาเป็นคนสวนในบ้านของรังสิมันต์ก็บอกเธอคล้ายเตือนว่าเจ้านายของเขาไม่ใช่คนใจเย็น ถ้ามารบกวนความเป็นส่วนตัวอาจถูกโยนออกจากบ้านได้ ฮึๆ ผู้ชายเถื่อนๆ ชอบใช้กำลังทำไมถึงกลายเป็นขวัญใจของสาวๆ ได้ (วะ) ไม่เข้าใจจริงๆ

                 อรอุมาแบกหน้าโทรมๆ ของตัวเองมาที่หน้าบ้านของรังสิมันต์อีกครั้ง หญิงสาวคิดไว้แล้วว่าถ้าวันนี้ยังไม่พบตัวแหล่งข่าว เธอก็จะไปบอกภาษิตว่าให้ไปหาคนอื่นเถอะ 3 วันสำหรับความล้มเหลวก็คงพอได้คำตอบแล้วว่าผู้ชายคนนั้นคงไม่อยากเผยตัวตนอยากอยู่ในถ้ำเป็นคนลึกลับต่อไป

                 ทว่าหลังจากเดินเตร็ดเตร่ข้ามซอยมาที่บ้านของผู้ชายคนนั้นจู่ๆ คนหน้าเหมือนในรูปก็จอดรถพลางก้าวออกมาทั้งที่หน้ารถจ่ออยู่ที่ประตู อรอุมาวิ่งแทบบินมาหาเขาเพราะนี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่เธอจะได้ทำความรู้จักกับรังสิมันต์อย่างเป็นทางการเสียที

                 คุณใช่คุณรังสิมันต์หรือเปล่าคะ?” อรอุมาก็แค่ถามให้แน่ใจ บ่อยไปที่คุยอยู่ตั้งนาน แต่ดันเป็นคนหน้าคล้ายกัน

                 นักข่าวสาวมองรังสิมันต์สลับกับรูปในมือ เธอรู้อีกอย่างแล้วล่ะว่าผู้ชายคนนี้มีใบหน้าเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งจริงๆ ก็ใครจะไปนึกเล่าว่ารูปในกระดาษกับตัวจริงจะต่างกันลิบลับ ดวงตาสีฟ้าของเขาทำให้เธอมองอย่างตะลึงเพราะมันช่างเหมาะเจาะกับริมฝีปากที่หนานิดๆ แต่เรียบปิดแน่นหนา คาดว่าเขาคงยิ้มไม่ค่อยง่ายเท่าไหร่ คิ้วที่หนาและขนตาที่งอนสวยจนผู้หญิงคงพากันอิจฉา แล้วยังผิวที่ไม่ขาวซีด แต่ก็ไม่คล้ำนั่นอีก ว่าแต่เธอจะพร่ำพรรณารูปโฉมของเขาทำไมกันเนี่ย

                 แล้วคุณคิดว่าผมเป็นใครล่ะ แต่ที่แน่ๆ ผมไม่รู้จักคุณรังสิมันต์ตอบเสียงเข้มต่ำพลางหันมามองผู้หญิงที่ทำให้ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความคุ้นตาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ทว่าพอเห็นกล้องที่ห้อยคอเขาก็ไม่อยากเสวนาขึ้นมาทันที

                 โอ้ ขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้อรอุมาคนนี้รู้ว่าความหล่อกับความสุภาพบางทีก็สวนทางกัน

                 ฉัน...อรอุมาจากหนังสือ People ค่ะ ทางหนังสือของเราต้องการสัมภาษณ์คุณค่ะหญิงสาวแนะนำตัวอย่างสุภาพ ดูสิว่าถ้ามาดีๆ แบบนี้เธอจะถูกโยนอย่างที่หลายเสียงเคยบอกไว้หรือเปล่า

                 ครับ แล้วยังไงหรือครับ เดี๋ยวนะ...” รังสิมันต์คิดว่าไม่น่าจำพลาด ดวงตาของเขาปิดลงพยายามนึกว่าเคยได้ยินเสียงและท่าทางชวนให้โมโหอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

                 ใช่แล้ว!

                 ผู้หญิงคนนี้...ยัยกระป๋องน้ำอัดลม พอกันทีสำหรับการเสียเวลาให้นักข่าวที่ทำให้หน้าผากของเขายังเป็นจ้ำเขียวจางๆ มาจนถึงวันนี้ ถึงเธอจะจำเขาไม่ได้ แต่เขาจำได้แม่น

                 ลืมมันไปเสียเถอะว่าคุณมาที่นี่เพราะอะไรเขาบอกพลางเดินกลับไปที่รถ

                 อรอุมาเดินตามเพิ่งเห็นว่าเขาเพิ่งเก็บดอกหญ้ามาสองดอก ผู้ชายที่ดูกระด้างจะมาสนใจอะไรกับดอกหญ้า น่าแปลกใจจริง แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าโอกาสของเธอกำลังหลุดลอยไปแล้วพร้อมๆ กับที่เขาปิดประตูลง หญิงสาวเคาะกระจก ถ้าเขาหันมามองเสียก็ดี

                 อ้าวคุณ...โธ่ ทำไมไม่คุยกันดีๆ ก่อน

                 นอกจากไม่หันมามองแล้ว รังสิมันต์ยังเร่งรถให้เคลื่อนเข้าบ้านไปพร้อมๆ กับประตูรั้วค่อยๆ เลื่อนปิดลงทีละนิด แต่อรอุมาไม่สามารถก้าวข้ามรั้วไปได้เดี๋ยวจะโดนข้าหาบุกรุกน่ะสิ

                 กลับไปเถอะหนู คุณรังสิมันต์ไม่เคยยอมให้นักข่าวสัมภาษณ์ แล้วก็ไม่เคยยอมให้เข้าบ้านด้วยลุงคนสวนคนเดิมอุตส่าห์เดินมาตอกย้ำ

                 แปลกเหลือเกินที่คำพูดไม่เชื่อมั่นว่าจะทำได้กลับสร้างแรงฮึดให้อรอุมาอยากจะเอาชนะพร้อมกับที่เธอตะโกนให้เสียงเข้าไปในบ้านแทนตัวว่า

                 หนูจะเป็นคนแรกให้ได้ค่ะลุง

                 อรอุมาไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสมองส่วนไหนทำให้เธอมั่นใจได้ถึงขนาดนั้น แต่งานนี้เธอคงต้องขอเวลาเพิ่มอีกหน่อย 3 วันมันคงน้อยไป หวังว่าภาษิตคงยังอยากได้บทสัมภาษณ์ของผู้ชายที่หล่อ รวย ลึกลับ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เราจะรักใครสักคนได้ไม่ใช่หรือ

     

                 ภาษิตดีใจแทบแย่พออรอุมาบอกว่าอยากขอเวลาเพิ่มสำหรับงานชิ้นนี้ที่ใช้นักข่าวเปลืองและวืดมากที่สุด เขาเสนอว่าหากไม่ทันในสัปดาห์นี้ก็อาจจะเป็นสัปดาห์หน้าหรือไม่ก็ทำข่าวอื่นไปด้วย ได้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ถ้าเร็วก็ดี ให้มันได้อย่างนี้สิรุ่นพี่ของเธอ

                 อรอุมาก็เลยจัดเวลาเสียใหม่คือเยี่ยมหน้าไปที่บ้านของรังสิมันต์โดยไม่ทำให้เจ้าของบ้านรำคาญใจ เพื่อเก็บข้อมูลว่าเขามีกิจกรรมในแต่ละวันอย่างไร  มาทำข่าวธุรกิจในเวลางานและเยี่ยมหน้าไปที่บ้านของรังสิมันต์อีกครั้ง หลังจากทำแบบนี้อยู่เกือบสัปดาห์หญิงสาวก็พบว่าผู้ชายคนนี้มีวินัยในการใช้ชีวิตพอสมควร เขาออกจากบ้านในเวลาเดิมทุกเช้า และกลับมาที่บ้านในเวลาเย็นในเวลาใกล้เคียงกัน

                 ส่วนที่เขาจะควงใครทำอะไรนั้น เธอไม่สนใจเท่ากิจกรรมที่เขามักทำเสมอนั่นคือการไปออกกำลังกายอย่างเช่น วิ่ง หรือไม่ก็ปั่นจักรยานที่สวนสาธารณะใกล้บ้านซึ่งเธอไปออกกำลังกายอยู่เหมือนกัน ถ้าวันไหนว่าง ดูๆ แล้วรังสิมันต์ก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้ดูลึกลับหรือหรูเวอร์อะไร แต่ทำไมใครต่อใครถึงสนใจชีวิตส่วนตัวของเขานักก็ไม่รู้

                 คุณมาทำอะไรที่นี่?”

                 รังสิมันต์ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่านักข่าวคนนี้จะตื๊อยิ่งกว่านักข่าวคนก่อนๆ เกือบสองสัปดาห์แล้วที่ยัยกระป๋องน้ำอัดลมมาเยี่ยมหน้าแถวๆ บ้านของเขา เช้าบ้าง เย็นบ้าง แต่ก็ไม่ได้ก่อกวนให้รำคาญใจอะไร มาแปลกกว่าคนอื่น เหมือนดูอยู่ห่าง แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่ชอบใจ

                 ฉันก็มาออกกำลังกายน่ะสิคะ ตามคุณมาหลายวันแล้วก็เบื่อบ้างอะไรบ้าง เชิญคุณตามสบายเถอะ วันนี้ฉันจะรีแล็กซ์สักวัน

                 อรอุมาผูกเชือกรองเท้าเสร็จพอดีแล้วออกวิ่งไป วันนี้ก็ปล่อยให้เขาระแวงไปก่อนแล้วกัน เธออยากพักบ้างอะไรบ้าง เรื่องอะไรจะหาความเครียดใส่หัว

                 แล้วทำไมคุณถึงต้องมาออกกำลังกายที่นี่ด้วยรังสิมันต์ยังไม่เคลียร์วิ่งตามมาถาม

                 เออเนอะ กรุงเทพฯ ไม่ใช่เมืองเล็กๆ ก็จริง แต่มันจะมีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นได้บ้างไม่ได้หรือไง ร่างเพรียวหยุดวิ่งเท้าเอวมองแหล่งข่าว

                 ก็บ้านฉันอยู่ใกล้ๆ กับคุณน่ะสิ ไม่อย่างนั้นจะไปดักพบคุณได้ทุกเช้า ทุกเย็นหรือไง

                 ถ้าคิดว่าจะเห็นหน้าเหวอๆ ของรังสิมันต์คงอด นอกจากใบหน้าเคร่งขรึมยังยิ้มไม่ค่อยเป็นแล้ว เขายังไม่รู้สึกที่มากล่าวหาเธออีกแน่ะ แถมยังวิ่งแซงไปต่อหน้าต่อตา เชื่อเขาเลย อรอุมาคิดว่ายิ่งเธอติดตามผู้ชายคนนี้มากเท่าไหร่ เสน่ห์อันล้นเหลือของเขายิ่งลดลง นึกไม่ออกจริงๆ ว่าหญิงสาวส่วนใหญ่ไปชอบอะไรในตัวรังสิมันต์ ช่วยมาบอกผู้หญิงส่วนน้อยหน่อยก็ดี

     

                 รังสิมันต์เพิ่งวิ่งเสร็จพอดีจึงเดินกลับมาที่โต๊ะตัวเล็กซึ่งมีขวดน้ำและผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่เขาวางไว้เอง ร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินอ่อนพลางมองไปทั่วบริเวณนั้นเผื่อว่าจะมีนักข่าวจอมตื๊อมารอซุ่มอยู่แถวๆ นี้ให้เขาหมดอารมณ์ ทว่ากลับไม่มีใครที่คล้ายยัยกระป๋องน้ำอัดลมสักคน เรียวปากหนากดยิ้มพอใจเมื่อคิดว่าอรอุมาคงกลับไปแล้ว ไอ้ที่บอกว่ามาออกกำลังกายคงเป็นข้ออ้างกระมัง

                 เขาไม่ได้เกลียดนักข่าว แค่ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องเปิดเผยตัวตนให้กลายเป็นเรื่องสาธารณะ ในเมื่ออาชีพของเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสื่อเท่าไหร่นัก ใบหน้าเคร่งขรึมส่ายนิดๆ พลางยกน้ำจากขวดขึ้นดื่ม ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดหน้าเช็ดคอที่ชุ่มเหงื่อ คิดว่าจะนั่งเพลินๆ สักพักแล้วค่อยเดินกลับบ้าน แต่แล้วผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งยืนข้างสระน้ำกลางสวนสาธารณะก็ร้องตะโกนลั่นหลังจากที่มีใครคนหนึ่งกระโดดลงน้ำ

                 ช่วยด้วยค่ะ! เด็กตกน้ำ!”

                 ร่างสูงรีบวิ่งไปยังเจ้าของเสียงตะโกนลั่นคิดเพียงว่าอาจจะช่วยอะไรได้บ้างทันที

                 เกิดขึ้นอะไรขึ้นหรือครับ?”

                 หญิงสาววัยกลางคนชี้ไปยังสระน้ำที่เมื่อครู่มีใครอีกคนเพิ่งกระโดดตามลงไป ในขณะที่เด็กชายใบหน้าตื่นตระหนกกำลังตีน้ำอย่างกลัวตาย แต่ก็จมลงไปก่อนจะโผขึ้นมาใบหน้าผวากลัว

                 ลูกชายฉันตกน้ำค่ะ

                 รังสิมันต์มองตามก็เห็นยัยกระป๋องน้ำอัดลมเพิ่งกระโดดลงไปและคว้าร่างที่มือขากำลังตะเกียกตะกายใบหน้าตื่นกลัวไว้ในวงแขน ใบหน้ายียวนกวนโมโหยามนี้กลับมุ่งมั่นเหนื่อยล้าเมื่อต้องพยุงร่างตัวเองและร่างของเด็กชายอวบอ้วนไว้ยามจ้วงแขนเข้าหาฝั่ง

                 ชายหนุ่มกระโจนลงไปช่วยเพราะถ้าปล่อยไปอย่างนั้นยัยกระป๋องน้ำอัดลมได้จมไปอีกคนแน่ๆ อรอุมาผ่อนแขนส่งร่างของเด็กชายให้รังสิมันต์ ยามนี้เขาไม่ใช่แหล่งข่าว แต่เป็นผู้ช่วยชีวิต เด็กชายถูกดันขึ้นไปบนฝั่งพร้อมๆ กับร่างสูง ทว่าคนที่ไม่อยากเสวนาด้วยกลับยื่นมือมาดึงร่างของผู้หญิงที่เขาเพิ่งเห็นข้อดีขึ้นไปบนฝั่งนั่งหอบแฮกอยู่ข้างๆ ในขณะที่แม่ของเด็กมาขอบอกขอบใจสองหนุ่มสาวยกใหญ่ ก่อนจะรีบพาลูกชายกลับไปที่รถ

                 เป็นยังไงบ้าง ถ้ารู้ว่าไม่ไหวทำไมไม่รอให้คนอื่นลงไปช่วยรังสิมันต์หันมามองอรอุมาที่ทำท่าเหมือนจะนอนลงอย่างหมดแรงแล้วก็อดไม่ได้

                 อรอุมาอยากได้ยาดมสักหลอดจริงๆ ให้ตาย ไม่สนใจเสียงนกเสียงกา ยามนี้มีปัญญาแค่ค้อนใส่เขาได้อย่างเดียว ใบหน้าของหญิงสาวนิ่วขมวดยามยกขาขึ้นมารู้สึกเกร็งที่น่องจนต้องเหยียดขาออกไปตามเดิม

                 จะทำอะไร?”

                 จะไม่ให้อรอุมาถามเสียงหลงได้ยังเมื่อจู่ๆ รังสิมันต์ก็มานั่งยองๆ ตรงหน้าแล้วจับขาเธอไว้ พลางบีบนวดให้เหมือนเราสนิทกันอย่างนั้นแหละ

                 เวลาเป็นตะคริวต้องนวดให้กล้ามเนื้อคลาย ไม่อย่างนั้นจะเจ็บไปหลายวัน คุณนี่ชอบโวยวายก่อนเสมอหรือไงนะ แทนที่จะฟังให้จบก่อนรังสิมันต์บอกเสียงเข้มๆ ไม่ได้ดุอะไรเพื่อตอบแทนน้ำใจที่หญิงสาวอุตส่าห์ช่วยคนอื่น จะยอมทำดีด้วยสักครั้ง

                    อรอุมามองรังสิมันต์เหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน เอ ฝันร้ายหรือว่าฝันดีก็ไม่รู้หละ ว่าแต่เขามาทำดีกับเธอทำไมกัน ไหนว่าเกลียดนักข่าวไง ช่างเถอะ มันคงดีกว่าเขาจับเธอโยนไปไกลๆ ตัวนั่นล่ะ

                 ฮัดชิ้ว

                 ดวงตาสีฟ้าตวัดมอง คิ้วขมวดมุ่น กรรม เธอทำผิดอะไรก็แค่จาม แม้ว่าเสมหะที่กระเด็นออกจากจมูกคงกระเด็นไปโดนผมดกงามของเขาบ้าง แต่พอกลับบ้านเขาจะไม่อาบน้ำสระผมก่อนนอนหรือไงเล่า

                 คุณรีบกลับไปบ้านเถอะ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเขาเตือนด้วยน้ำเสียงแข็งๆ นั่นแหละ

                 หญิงสาวพยักหน้าเห็นด้วยชักหนาวๆ แฮะ ก็ใครใช้ให้เด็กคนนั้นตกลงไปเล่า อารามรีบร้อนก็เลยไม่ทันคิดว่าน้ำจะเย็น แต่ถึงจะเป็นหวัดเพราะเรื่องนี้ก็คุ้มล่ะ แต่ทำไมมันแสบที่ฝ่าเท้าหว่า พอดึงขากลับมาดูก็อยากจะทึ้งหัวตัวเองเพราะตอนที่กระโดดลงมาในสระเธอดันลืมใส่รองเท้า เนื่องจากกำลังนั่งพักพอได้ยินเสียงร้องให้ช่วยก็วิ่งมาเลย เยี่ยมจริงๆ

                 อ้าว นั่นเป็นอะไร?”

                 ไม่รู้อะไรมาบาดฝ่าเท้าฉันน่ะสิหญิงสาวตอบพลางมองหารองเท้าตัวเอง นั่งไงมันนอนรอเธออยู่อีกฝั่งของถนนเล็กๆ

                 รังสิมันต์มองตาม แล้วก็ทำในเรื่องที่อรอุมาไม่อยากเชื่อเมื่อเขาเดินไปหยิบรองเท้ามาให้ใส่ หญิงสาวอุบอิบบอกขอบคุณเขาไปพลางใส่รองเท้า แต่ก็เหล่มองคนมีน้ำใจอย่างไม่น่าเชื่อ

                 คุณมาที่นี่ยังไง?”

                 เดินมาสิคุณก็บ้านของเธอห่างจากสวนสาธารณะแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้นเองนี่นา แต่สงสัยวันนี้ต้องกะเผลกกลับบ้าน เฮอะๆ กรรมคงตามสนองเธอที่มาก่อความรำคาญให้เขากระมัง เฮ้อ

                 ถ้างั้นผมไปส่ง นั่งรออยู่ตรงนี้ก็แล้วกันเขาบอกพลางพาดเสื้อวอมที่ใส่มาตอนแรกให้ร่างสั่นเทา

                 อรอุมามองรังสิมันต์ซ้ำ นี่คือผู้ชายที่เพื่อนๆ นักข่าวเคยบอกว่าโหดถึงขนาดสั่งโยนนักข่าวออกมาจากบ้านจริงๆ ใช่ไหม หรือว่าเขาจะเป็นฝาแฝดของนายรังสิมันต์

                 แล้วรถคุณล่ะคะ?” อรอุมาพาซื่อถามไป

                 ดวงตาคมแฉลบมองคนถามคล้ายหมั่นไส้นิดๆ

                 คุณตามผมมาตั้งหลายวัน ไม่รู้หรือว่ารถของผมอยู่ที่ไหนเขาย้อนเข้าให้พลางเดินแกมวิ่งไปยังบ้านที่ห่างออกไปซึ่งเห็นลิบๆ

                 อรอุมาแทบจุกที่โดนย้อน ตอนนี้เธอคงไม่ต้องกังขาแล้วล่ะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นรังสิมันต์ตัวจริง บางทีคนที่ดูร้ายๆ โหดๆ ก็มีมุมใจดีเหมือนกันแฮะ แต่เขาอาจจะอยากโยนเธอลงจากรถก็ได้ถ้ารู้ว่าถึงอย่างไรเธอก็ต้องสัมภาษณ์เขาให้ได้

                 หลังจากนั้นรังสิมันต์ก็พาหน้าคว่ำเป็นตวักตักน้ำมาส่งอรอุมาถึงบ้าน หญิงสาวอยากจะซึ้งใจให้ตราตรึงไปหลายวันอยู่หรอก ถ้าเขาจะรับคำขอบคุณของเธอสักนิด แต่ก็ช่างเถอะ คนไม่ได้สนิทกันมาทำให้กันขนาดนี้นับว่าดีแล้ว ทั้งที่เธอคงเหมือนแมลงสาบที่เขาอยากใช้ไม้ฟาดให้สลบ แต่ทำไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น เรายังต้องพบกันอีกสักพักนั่นล่ะ

     

                 รังสิมันต์ขับรถออกจากบ้านแล้วก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังถนนฝั่งตรงข้ามเหมือนกับหลายวันที่ผ่านมา เรียวปากหนาคลี่ยิ้มพอใจที่ไม่เห็นยัยกระป๋องน้ำอัดลมมาเพ่นพ่านอยู่ใกล้ๆ เขาอีก ชายหนุ่มไม่เข้าใจจริงๆ ว่านักข่าวพวกนั้นต้องการอะไรในเมื่อเขาไม่ใช่คนบันเทิง ไม่ใช่ดาราที่ใครต่อใครจับตามอง ไม่รู้ว่านักข่าวเข้ามาวุ่นวายชีวิตของเขาทำไมกัน

                 รถสปอร์ตแล่นผ่านหน้าบ้านของอรอุมาไปแล้วถ้าคนขับจะมองกระจกข้างคงเห็นว่าประตูรั้วบ้านหลังนั้นกำลังเปิดออกพร้อมๆ กับร่างเพรียวรีบร้อนวิ่งออกมาพลางยกนาฬิกาขึ้นดูซ้ำ แย่แล้ว แย่แน่ๆ วันนี้ภาษิตนัดประชุมนักข่าวสายธุรกิจและบันเทิงตอน 8 โมงครึ่ง อีกไม่ถึงชั่วโมง เธอจะทันไหมนี่

                 และแล้วอรอุมาก็มาทันเวลา รอดไปอย่างฉิวเฉียด ต้องโทษตัวเองในความฉลาดน้อยนี่แหละทำให้ต้องอยู่บ้านสองวันเต็มๆ เพราะแผลที่เท้าดันอักเสบ โชคดีที่ข่าวสำคัญๆ เธอได้ทำข้อมูลและทำสัมภาษณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ไอ้ที่หยุดไปก็เหมือนทำงานอยู่บ้านนั่นล่ะ แต่แล้วภาษิตก็ไม่วายย้ำเรื่องสัมภาษณ์รังสิมันต์กับเธออีกครั้ง หญิงสาวเลยต้องออกตระเวนตามพ่อหนุ่มเสน่ห์แรง นับว่ามีโชคอยู่บ้างพออรอุมาไปถึงตึกอะโรมาติก แหล่งข่าวของเธอกำลังขับรถพาตุ๊กตาหน้าสวยไปทานข้าวพอดี

                 เยี่ยม! เธอใกล้เป็นนักข่าวปาปารัซซี่เข้าไปทุกทีแล้ว               

                 โอ้โห กลางวันคน บ่ายอีกคน นายจะเสน่ห์แรงไปไหนเนี่ยอรอุมาบ่นพึมเมื่อตามรังสิมันต์มาถึงภัตตาคารหรูกลางเมือง โดยที่นางแบบสุดสวยนั่งรอยิ้มร่าอ้าแขนรับเขาอยู่ที่โต๊ะ

                 นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่(วะ)เนี่ย

                 รับอะไรดีครับ?”

                 มีอะไรที่ไม่ใช่กาแฟกับน้ำเปล่าไหมน้องหญิงสาวบอกพนักงานที่คงงงอยู่เหมือนกัน ช่วยไม่ได้จริงๆ เมื่อเช้าก็เพิ่งซดกาแฟไปสองแก้ว กินน้ำเปล่าระหว่างตามแหล่งข่าวมาค่อนวัน ขออะไรอย่างอื่นบ้างเหอะ

                 ถ้างั้นเดี๋ยวผมดูแลให้ครับ

                 อรอุมาฆ่าเวลารอเครื่องดื่มด้วยการหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านพลางมองไปยังสาวสวยที่หัวเราะร่วนเป็นระยะ เหมือนผู้ชายคนนั้นพูดเรื่องตลกให้ฟังก็ไม่ปาน คนหน้าโหดๆ แบบนั้นน่ะนะพูดให้คนอื่นลื่นหูเป็น

                 คุณผู้ชายโต๊ะนั้นสั่งมาให้คุณครับ แล้วฝากโน้ตมาให้คุณด้วย

                 นักข่าวสาวเงยหน้าขึ้นมองพนักงานเสิร์ฟพลางยิ้มให้ อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองยัง คุณผู้ชายโต๊ะนั้นแล้วก็อยากจะบ้าตาย นี่เขารู้ตัวตลอดเลยใช่ไหมว่าถูกตาม

                 ขอบใจนะน้อง

                 แผ่นโน้ตใบเล็กถูกคลี่ออก เห็นหรอกว่าเรียวปากหนากำลังกดยิ้มพอใจ อ้อ เธอเพิ่งเห็นว่ารังสิมันต์ไม่ได้มาคนเดียว เอ  ผู้ชายที่เพิ่งมานั่นเป็นใครหว่า ช่างเถอะ ตอนนี้เธออยากรู้มากกว่าว่าเขาเขียนอะไรมา

                 ช่วยเอาหน้าของคุณไปไกลๆ จากผมด้วย

                 อรอุมาแยกเขี้ยวใส่แผ่นโน้ต แลเลยไปยังเจ้าของที่มองมาพอดี คิดหรือว่าแค่นี้จะหยุดไม่ให้เธอตามเขาได้ ยิ่งเขายากที่จะสัมภาษณ์ เธอยิ่งอยากเอาชนะ หญิงสาวเขียนข้อความใส่สมุดฉีกแล้วส่งให้พนักงานกลับไปบ้าง ถ้ายอมง่ายๆ ก็ไม่ใช่อรอุมาสู้ว้อยน่ะสิ

     

                 รังสิมันต์ถอนใจเซ็งๆ ไม่นึกว่าชีวิตแสนสงบสุขของเขาจะถูกรังควานเพราะยัยกระป๋องน้ำอัดลมอีกแล้ว สงสัยวันนี้คงต้องปรึกษาฝ่ายกฏหมายหากชีวิตของเขาต้องถูกสอดแนมอย่างนี้ต่อไปคงทนไม่ได้แน่ๆ แล้วนั่นผู้หญิงคนนั้นจะทำอะไรถึงได้ส่งบางอย่างให้พนักงานที่กำลังเดินมาที่เขา

                 คุณครับ คุณผู้หญิงท่านนั้นส่งโน้ตมาให้

                 ซีอีโอหนุ่มคลี่กระดาษออกอ่านลายมือที่หวัดจนแทบอ่านไม่ออก

                 ฉันไม่ใช่คนขวัญอ่อน ขอบคุณสำหรับเครื่องดื่ม ชื่นใจจริงๆ

                 พอเงยหน้าขึ้นไปเจ้าของโน้ตก็กำลังดูดน้ำแตงโมปั่นหน้าตาชื่นใจ รังสิมันต์หมดอารมณ์จะคุยกับคู่ควงรายล่าสุดทันที ชายหนุ่มหยิบเงินวางแล้วเดินออกไปจากร้านอาหารสุดหรูพร้อมนางแบบที่หน้าตาเหลอหรา แต่ก็รีบตามชายหนุ่มไปทันที ในขณะที่อรอุมายังไม่รีบตามไป ก็ตอนนี้เธอมีข้อมูลของแหล่งข่าวเพียบ วันนี้วันพุธ รังสิมันต์คงไปคลับกลางใจเมืองเหมือนเคยนั่นล่ะ

                

                 อรอุมาเห็นแล้วว่าร่างสูงกำลังเดินเข้ามาในคลับ หญิงสาวแนบตัวลงไปกับเก้าอี้ เธอเพียงแค่ตามเขา แต่ไม่ถึงกับก้าวก่าย ชายหนุ่มจะมาหาใคร ทำอะไรหรือไปต่อที่ไหนเธอไม่ขอรับรู้ แค่เห็นพฤติกรรมก็พอแล้ว หญิงสาวสั่งเครื่องดื่มเบาๆ คิดว่าจะอยู่ที่นี่อีกสักครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยกลับไหนๆ ก็มาแล้ว ถือว่าพักสมองไป

                 รังสิมันต์ออกจะแปลกใจนิดๆ ที่ไม่เห็นยัยกระป๋องน้ำอัดลมตามมาที่นี่ ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาเหมือนเป็นโรคจิตอ่อนๆ เข้าแล้วกระมัง เวลาไปไหนมาไหนต้องมองหาอรอุมาก่อนเป็นอย่างแรก พอไม่เห็นว่าตามมาก็โล่งใจ แต่ก็เริ่มคิดว่าทำไมวันนี้ผู้หญิงน่ารำคาญคนนั้นถึงไม่มา

                 ร่างสูงเดินไปนั่งที่ชุดโซฟาด้านในซึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งมาก่อนเวลานัดกำลังชะเง้อมองหา แล้วพอเห็นว่าเขามาแล้วเธอผู้นั้นก็ลุกขึ้นเดินเข้ามากอด ก่อนจะจูงมือกันเข้าไปนั่งด้านใน แล้วในทันทีที่เครื่องเดิมนำมาเสิร์ฟเรียบร้อย นัดดา รุจิภาคก็เอ่ยเข้าเรื่องทันที

                 ดาอยากหย่า รังสิช่วยดาหน่อยได้ไหม

                 รังสิมันต์พอจะเดาได้แล้วตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์จากนัดดา เขาอาจไม่รู้จักปราการมากนัก แต่ข่าวคาวของผู้ชายคนนั้นต่างหากที่เป็นเรื่องสนใจของใครต่อใคร แม้ว่าเมื่อ 4 ปีก่อน ปราการเป็นคู่แข่งหัวใจ แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็คือสามีของอดีตผู้หญิงที่ทิ้งเขาและเป็นพ่อของลูกๆ อีก 2 คน

                 แน่ใจแล้วหรือดา ลูกของดาอีกสองคนรักพ่อมากไม่ใช่หรือ แล้วดาก็รักปราการมากนี่นา อยู่ๆ ทำไมถึงอยากจะเลิกกับเขาล่ะ

                 ดาจับได้ว่าเขามีคนอื่น ดาทนไม่ได้นัดดาบอก แม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอจับได้ แต่คราวนี้เขาถึงกับคว้าเลขามากกกอดที่คอนโดซึ่งเธอกับเขาตกลงกันแล้วว่าอย่าได้พาผู้หญิงคนไหนมาคอนโดหรือว่าที่บ้าน รวมถึงที่ทำงาน แต่สำหรับผู้หญิงคนล่าสุด ปราการหลงมากและระเมิดข้อตกลงทุกอย่าง

                 รังสิมันต์รู้นิสัยของนัดดาดี ใจร้อน แต่ไม่เอาแต่ใจ เด็ดขาด ไม่อ่อนแอ ข้อเสียเดียวของหญิงสาวคือทุ่มเทในความรักมากเกินไปทำให้คาดหวังสูง แต่เขากลับปล่อยเธอออกไปจากชีวิตไม่ได้ ถึงไม่ได้เป็นคนรักกันแล้ว เป็นเพื่อนกันก็ได้ไม่ใช่หรือ ในเมื่อเขาไม่ได้เคยโกรธนัดดาเลยที่เลือกปราการ

                 ถ้าดาแน่ใจ ผมก็จะให้ฝ่ายกฏหมายของผมมาคุยกับดา จะฟ้องหย่า หรือหย่าเฉยๆ ต้องการคนคุ้มกันก็บอกได้เลย

                 มือบางจับมือหนาไว้ ดวงตาคู่นั้นบ่งบอกความเสียใจและ...เสียดาย

                 ขอบใจมากนะ ดานึกแล้วว่ารังสิน่าจะช่วยดาได้

                 ถึงยังไงก็เราเป็นเพื่อนกัน ผมไม่ปล่อยให้เพื่อนอย่างดาเผชิญปัญหาอยู่คนเดียวหรอกรังสิมันต์กระชับมือบางก่อนจะเป็นฝ่ายดึงมือออกมา เขาไม่อยากให้ปัญหาครอบครัวจบลงด้วยการที่เขาเป็นมือที่สาม

                 เพื่อนก็คือเพื่อน อดีตก็คืออดีต ไม่มีสิ่งที่เป็นอดีตย้อนกลับไปเหมือนเดิมได้อีกแล้ว

                 ถ้าตอนนั้นดารู้อนาคตคงเลือกรังสิ แทนที่จะเลือกปราการ ดาคงไม่ต้องมาเสียใจแบบนี้นัดดาพูดขึ้นมาอย่างขมขื่น เธอพลาดเองที่ไม่รู้ว่าใครรักจริงหรือว่ารักแค่ฉาบฉวย

                 รังสิมันต์คิดว่าการไม่พูดแล้วให้คนรอคำตอบจากคำถามนั้นไปคิดต่อเองคงดีกว่า คืนนี้เขาจะคิดเสียว่ามาช่วยเพื่อนอีกคน ไม่ใช่อดีตคนรัก ถามว่ายังรักนัดดาอยู่อีกไหม คำตอบก็คงไม่รักแล้ว แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะรักใครได้อีกแล้วเหมือนกัน

                 อรอุมาคิดว่าคืนนี้คงพอแค่นี้ก่อน ก่อนจะเดินออกไปจากคลับพร้อมกับรูปที่ถ่ายติดกล้องไป โดยไม่รู้ว่าคนของรังสิมันต์มองเธอไปจนลับตา

     

                 รังสิมันต์เดินทางกลับที่พักตอนเกือบ 4 ทุ่ม หลังจากนัดดากลับไปได้สักพัก แล้วในทันทีที่เขาเข้ามานั่งในรถ คนขับรถที่พ่วงตำแหน่งบอดี้การ์ดไปในตัวก็มองนายหนุ่มจากกระจกมองหลัง ทำหน้าไม่สบายอึกอักคล้ายมีอะไรบางอย่าง จนคนไม่สนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อดรนทนไม่ได้จึงเอ่ยปากถาม            

                 มีอะไรหรือเจต?”
                 ผู้หญิงคนนั้นที่เป็นนักข่าว ถ่ายรูปตอนที่คุณคุยกับคุณนัดดาไปครับ ผมตามไปก็คลาดกันเจตบอกตามตรง ไม่ได้จะปิดบังอะไร

                 เรียวปากหนาเม้มปิดราบเรียบพลางถอนใจเหมือนอยากลงโทษใครสักคน แล้วคนๆ นั้นก็ไม่ได้รู้ตัวเสียด้วยว่าก่อเหตุให้เขาอยากจัดการให้สิ้นเรื่องเสียที

                 งั้นรึ ถ้างั้นผมคงมีเรื่องขอให้คุณช่วยทำแล้วเจต

                 เจตพยักหน้ารับคำสั่ง จากการที่เขาทำงานกับรังสิมันต์มาเกือบ 3 ปี จึงพอรู้ได้ว่าถึงเจ้านายทำหน้าตาเหมือนไม่มีความรู้สึกอะไร แต่จริงๆ แล้วกำลังโกรธมากอยู่เหมือนกัน สงสัยอย่างเดียวเท่านั้นว่านักข่าวคนนั้นจะถูกจับโยนออกไปนอกบ้านหรือว่าจะเจออย่างอื่น

                

                    คนที่ไม่รู้ตัวว่าได้ก่อเรื่องหรือที่ในหมู่นักข่าวเรียกว่า งานงอกกำลังนั่งดูรูปที่ถ่ายมาวันนี้ทั้งหมด เพื่อที่จะได้ถ่ายข้อมูลลงแล็ปท็อปไว้ แมมโมรี่การ์ดจะได้ว่างๆ ไว้ ทว่าพอมองผู้หญิงที่มาพบกับรังสิมันต์ในคลับหรู หญิงสาวก็เริ่มนึกออก ว่าผู้หญิงคนนั้นคือ คุณนัดดา ภรรยาคนสวยของคุณปราการไฮโซสุดหล่อขวัญใจสาวๆ แม้ว่าจะแต่งงานแล้ว แถมยังขึ้นชื่อลือชาในความเจ้าชู้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือรังสิมันต์นัดพบกับภรรยาของคนอื่นต่างหาก

                 ไม่นึกเลยว่านายจะก้าวหน้าถึงขนาดตีท้ายครัวชาวบ้าน หน้าตาก็ไม่ใช่ว่าขี้เหร่อะไร ผู้หญิงที่นายควงแต่ละคนก็น้องๆ นางงามทั้งนั้น แล้วจะมาสนใจคนมีครอบครัวทำไมเนี่ย

                 อรอุมาส่ายหน้ารีบๆ ถ่ายโอนข้อมูลจะได้ปิดแล็ปทอ็ปแล้วนอน พรุ่งนี้มีนัดสัมภาษณ์นักธุรกิจเจ้าของโรงงานผลิตฮาร์ดดิสเสียด้วย แต่ต้องถ่อไปถึงอยุธยาโน่น ออกจากออฟฟิศตอน 11 โมงเช้าก็น่าจะทัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×