คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Fiction Attack on Titan [LevixAlen]2 สัตว์ประหลาด
LevixElen2 “สัตว์ประหลาด”
ปล. ต่อจากเรื่องที่แล้ว แต่เนื้อหาไม่ได้ต่อกัน(เอ๊ะ? ยังไง?)
ปล.2 เนื่องจากเรื่องที่แล้วรีไวไม่โหดเลย เรื่องนี้เลยจะเพิ่มดีกรีให้อีกนิด=w=”
ปล.3 อ่านแล้วเม้นท์บ้างนะ (เค้าขอร้องT^T)
โครม!
เสียงตะโกนโหวกเหวกเรียกให้ดวงตาสีเขียวของเด็กหนุ่มที่ยังสะลึมสะลืออยู่เบิกกว้าง เมื่อภาพตรงหน้าที่เขาเห็นอยู่นั้นคือ...
มิคาสะ แอกเกอร์แมนเพื่อนสมัยเด็กและคนในครอบครัวของเขากับลังต่อสู้ ไม่สิ! กำลังฟัดอยู่กับหัวหน้าทหารรีไว หัวหน้าหน่วยของเขาเอง และเด็กหนุ่มอีกคนที่กำลังเขย่าร่างของเขาอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นี่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน อาร์มิน อัลเลโต้เพื่อนสมัยเด็กอีกคน
“เกิดอะไรขึ้น? อาร์มินทำไมหัวหน้ากับมิคาสะ?...”
“เห็นว่าซ้อมมือกันน่ะ แต่ฉันว่ามันชักเลยเถิดแล้ว นายไปห้ามทีสิเอเลน” เด็กหนุ่มผมทองขอร้องด้วยใบหน้ากึ่งร้องไห้ คงเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว
“เฮ้! มิคาสะ!” เอเลนร้องเรียกเด็กสาวก่อนเป็นอันดับแรก ดวงตาเรียวแบบเม็ดอัลมอนต์ตวัดมองเขาทันที แต่ก่อนจะมีรังสีอำมหิตพุ่งตามมาด้วยมันก็เปลี่ยนไปเสียก่อน
“เอเลน...ตื่นแล้วหรอ?” เด็กสาวปราดเข้ามาหาบุคคลที่เธอรักทันที ทิ้งคู่ต่อสู้ให้อยู่ในอารมณ์ค้างคาสุดๆ
“ทำไมอยู่ๆเธอถึงมาซ้อมมือกับหัวหน้าได้ล่ะ?” เมื่อฝ่ายหนึ่งหยุดมีหรืออีกฝ่ายจะไม่หยุดตาม รีไวหยุดขาที่เตรียมยกขึ้นเตะแล้ววางมันลงบนพื้นดังเดิม ดวงตาคมปราดมองเด็กหนุ่มผู้เข้ามาห้ามทัพ...
เอเลน เยเกอร์...เจ้าตัวปัญหาของกองทัพที่อยู่ในความดูแลของเขา มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรกับการดูแลกับอีแค่เด็กคนหนึ่งแต่กับเจ้านี่มันต่างออกไป
โคตรเจ้าปัญหา! นั่นคือนิยามที่รีไวมีให้กับเด็กหนุ่ม
แต่บางครั้ง ความเจ้าปัญหาของหมอนั่นก็ทำให้เขาได้รับรู้ว่าเจ้าตัวต้องต่อสู้กับอะไรมามากมายเพียงใด ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนักหนาสาหัสสำหรับเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าๆ
“เอ่อ...หัวหน้าครับ ผมขอโทษแทนมิคาสะด้วยนะครับ” เขาหลุดจากภวังค์ที่กำลังนึกอะไรเพลินๆเพราะเสียงของเจ้าตัวเอง ขาเรียวจึงตวัดไปด้วยความจงใจปนหมั่นไส้
ผัวะ!
เสยเข้าที่ปลายคางของเอเลนที่กำลังก้มหัวอย่างเหมาะเจาะพอดี จนเด็กหนุ่มทรุดลงไปนั่งน้ำตาเล็ดอยู่กับพื้น
“โอย...”
“หนอย! เจ้าผู้ชายตัวกระเปี๊ยก!” มิคาสะคว้ามีดไม้ที่ใช้สำหรับฝึกแล้วเดินดุ่มเข้ามาทันทีหมายจะต่ออีกยก แต่อาร์มินรีบคว้าแขนเอาไว้ซะก่อนเพราะกลัวเรื่องมันจะวุ่นวายไปมากกว่านี้
“พอเถอะมิคาสะ!”
“ปล่อยฉันนะ! อาร์มิน! ฉัน-จะ-ซัด-มัน” เธอเน้นช้าๆชัดๆทีละคำจนคนรอบข้างรู้สึกหนาววูบขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
“เอเลน เยเกอร์!”
“ครับ!” แม้จะยังเจ็บจนแทบจะลุกไม่ขึ้นก็ตาม แต่เด็กหนุ่มก็ยังตะเกียกตะกายลุกขึ้นมายืนตรงในท่าทำความเคารพของทหาร มือขวาไพล่หลังมือซ้ายกำหมัดอยู่บริเวณอก
“เขียนรายงานเรื่องยาของฮันซี่มาส่งฉันด้วย” เขาเพิ่งโดนทดลองยากระตุ้นความกระหายของคุณฮันซี่ไปเมื่อสามวันก่อน แต่หลังจากนั้นก็นอนซมเพราะพิษไข้และเพิ่งลุกได้เมื่อวานนี้ จึงยังไม่มีรายงานใดๆส่งถึงมือหัวหน้ารีไว
“ครับ!”
ปึ่ด!
เหมือนได้ยินเสียงอะไรซักอย่างขาดในหัวของใครบางคนแต่ รีไวก็เลือกที่จะเมินเสียงนั้น ในเมื่อเธอใช้อภิสิทธิ์ของความเป็นเพื่อนสนิท เขาก็จะใช้บ้าง...
ในฐานะของ หัวหน้า
ดวงตาเรียวเล็กตวัดมองหน้าเด็กสาวก่อนที่ริมฝีปากบางจะยกขึ้นน้อย แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่อีกฝ่ายจะไฟลุกพรึ่บ!
จะประกาศสงครามกับฉันงั้นเรอะ?
แล้วจะได้เห็นดีกัน! (คิดกันไปเองแท้ๆ= =” :อาร์มิน)
เกือบสี่ทุ่มแล้ว ทว่าเอเลนกลับยังคงนั่งอยู่ที่โรงอาหารไม่ยอมไปเข้านอนตามเวลา ส่วนสาเหตุน่ะหรอ?
ก็นั่งแก้รายงานอยู่นี่ไง!
เขานั่งแก้มันมาตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วหลังจากเอาไปส่งให้หัวหน้ารีไวมาสามรอบ ตอนนี้หน้าของเด็กหนุ่มมีรอยบวมช้ำบนแก้มและต้นคอที่เกิดจากการฟาดอย่าง ‘เบาะๆ’ ของท่านหัวหน้า
ผัวะ!
‘ใช้ไม่ได้! ไปแก้มาใหม่’
‘เอ่อ...’
‘ไป-แก้-มา-ใหม่!’
‘ครับ’
พอนึกย้อนกลับไปแล้วใบหน้าของเด็กหนุ่มก็เริ่มซีดลงเหมือนคนแก้ปัญหาไม่ตก หัวหน้าย้ำว่าให้เขาส่งรายงานภายใน ‘วันนี้’ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า...
ถ้ายังแก้ไม่เสร็จ...ตายหยังเขียด!!
“โว้ย! ทำไมมันเขียนยากหยั่งงี้วะ!” เขาเริ่มหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับอาการปวดแปล๊บที่ข้างแก้มและต้นคอทำให้รวบรวมสมาธิไม่ได้ดีเท่าที่ควร ดีแล้วที่ไล่มิคาสะกลับไปก่อนเพราะยิ่งยัยนั่นอยู่เขายิ่งทำงานได้ยากกว่าเดิม แต่กับอาร์มินนี่สิ
ไม่น่าไล่คนหัวดีอย่างหมอนั่นกลับไปเลย...
เด็กหนุ่มชักรู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาจริงๆก็คราวนี้นี่เอง ใครๆก็รู้กันอยู่หัวหน้ารีไวน่ะ ‘เด็ดขาด’ และ ‘เข้มงวด’ ยิ่งกว่าใครๆในกองทหารสำรวจ เพราะงั้นเรื่องดีกรีความโหดยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขาได้ประสบมาด้วยร่างกายตัวเองทีหนึ่งแล้วตอนขึ้นศาล
“ทำไมการเขียนรายงานมันยากขนาดนี้นะ” เขาพยายามเขียนโดยเลียนแบบจากรายงานของอาร์มิน หมอนั่นเขียนและเรียบเรียงได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ สมแล้วที่เป็นท็อปด้านการเรียน
สุดท้ายกว่าเขาจะเขียนรายงานที่ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน
หัวหน้าจะด่าไหมหว่า?
แม้จะคิดอย่างหวาดๆแต่ขาของเด็กหนุ่มก็ยังเดินตรงไปที่ห้องทำงานของผู้บังคับบัญชาการของตนอยู่ดี
ก๊อกๆ
“ขออนุญาตครับ หัวหน้า”
“เสร็จแล้วหรอ?” กลับกลายเป็นอีกฝ่ายที่พอได้ยินเสียงเขาก็เปิดประตูออกมาทันที เด็กหนุ่มสะดุ้งก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ ทว่าแขนแกร่งกลับรั้งเขาเอาไว้เสียก่อน
“เอาไปวางแล้วไปนอนได้แล้ว”
“ครับ?...ไม่ตรวจก่อนหรอครับ?” เอเลนทำหน้าเอ๋อเมื่อได้ยินประโยคไม่คาดคิด แต่รีไวก็ยังคนยืนยันด้วยน้ำเสียงราบเรียบดังเดิม
“เอาไปวางบนโต๊ะ แล้วไปนอนได้แล้ว”
“...ครับ” เพราะเป็นคำสั่งเด็ดขาดของท่านหัวหน้า เด็กหนุ่มจึงไม่เถียงแล้วทำตามอย่างว่าง่าย หลังจากวางรายงานที่(พยายาม)เขียนเรียบร้อยแล้วบนโต๊ะ เขาก็เดินลงไปยังห้องใต้ดินที่เป็นที่นอนของตน
ดวงตาสีเขียวปรือลงเล็กน้อยด้วยความง่วงงุน แต่ถึงกระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังไม่ลืมที่จะใส่กุญแจมือที่ข้อมือทั้งสองข้าง เขาไม่ไว้ใจตัวเองในเวลานี้ ต่อให้อยู่ในสภาพอ่อนล้าเต็มทีก็ตาม
แกร๊ก...
เมื่อเห็นพันธนาการบนท่อนแขนของตนเอง เอเลนจึงค่อยสบายใจขึ้นมาบ้าง ร่างผอมบางล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความผ่อนคลายเต็มที่
ร่างเล็กที่สูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตรนั่งมองรายงานของลูกน้องใต้บังคับบัญชาที่เพิ่งเอามาส่งแล้วขมวดคิ้วน้อยๆด้วยความข้องใจ
เขียนดีกว่าตอนแรกเยอะ...หรือว่ามีคนสอน?
แต่ดูจากสภาพแล้ว คิดว่าคงนั่งเขียนเองมากกว่า ไม่งั้นคงไม่เสร็จเอาป่านนี้แล้วยังหน้าตาอ่อนระโหยโรยแรงนั่นอีก
หลับไปรึยังนะ?
ก่อนจะทันได้รู้สึกตัว ขาของเขาก็ก้าวยาวๆลงไปยังห้องใต้ดินซึ่งเป็นที่ซุกหัวนอนของเด็กนั่นแล้ว ใบหน้าของเอเลนยังคงมีรอยบวมช้ำจากการลงมือไปเต็มแรงของเขาเมื่อกลางวันและตอนหัวค่ำ ดูจากสภาพแล้วเด็กหนุ่มคงเข้านอนทั้งๆที่ไม่ได้ทายา เสียงครางปวดแผลจึงดังออกมาเป็นระยะๆ
“โอย...เจ็บนะครับหัวหน้า...” ไม่รู้หรอกว่ากำลังฝันอะไร แต่ที่แน่ๆในฝันนั่นมีเขาแทนที่จะเป็นยัยเพื่อนสมัยเด็กเจ้าของรังสีอำมหิตแบบฆ่าคนตายได้ทันทีที่มองแบบยัยนั่น ยัยมิคาสะ แอกเกอร์แมน
ชายหนุ่มเดินช้าๆไปยืนข้างเตียงของคนเจ็บที่ยังร้องครางเป็นระยะๆไม่หยุด ใบหน้าขาวซีดเผือดและมีเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้า สงสัยจะเจ็บแผลจริงๆล่ะมั้งเนี่ย
“เอเลน” เสียงเข้มเรียกหนักๆหนึ่งครั้ง แต่ร่างผอมบางที่สูงกว่าเขาถึงสอบเซนติเมตรบนเตียงก็ยังคงไม่รู้สึกตัว
“เอเลน...” คราวนี้รีไวดึงผ้าห่มออกด้วย แล้วเขาก็ได้เห็น...
กุญแจมือที่เด็กหนุ่มใส่ไว้เพื่อกักขังตนเอง
“เอเลน...ตื่น!” คราวนี้มาเสียดังจนเกือบจะเป็นเสียงตวาด ทว่าห้องใต้ดินนี้อยู่ไกลจากห้องพักของคนในหน่วยคนอื่นๆมากโขอยู่ ดังนั้นเลยไม่ต้องกลัวเสียงรบกวน
“ค..ครับ!” ร่างของเด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง! เขาลุกขึ้นนั่งอย่างเรียบร้อยทันทีด้วยความตกใจเมื่อเบิกตาขึ้นมาแล้วพบว่าคนที่อยู่เบื้องหน้าคือผู้บังคับบัญชาของตน
“ทำไมไม่ทายา” ชายหนุ่มจับคางของเขาบิดซ้ายทีขวาที ก่อนจะล้วงตลับยาทาแผลออกมาจากกระเป๋ากางเกงนอน แล้วบรรจงทาให้อย่างแผ่วเบา
“เจ็บมั้ย?” คำถามเรียบๆแต่กลับแฝงไปด้วยความห่วงใยชัดเจน คนฟังยิ้มแหยแล้วพยักหน้าให้เบาๆ
“เจ็บครับ...ถ้าหัวหน้าจะมาทายาให้ผมก็อย่าซัดตั้งแต่ทีแรกสิครับ” อดแซวกลับไม่ได้ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ควร รีไวชะงักมือไปเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับเสียงงึมงำแบบที่ไม่ค่อยทำเท่าไรนัก
“ช่วยไม่ได้...ก็นายดันทำฉันของขึ้นเอง”
“รายงานผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอครับ?” อีกฝ่ายดันเข้าใจไปเรื่องอื่นซะงั้น
“ช่างเถอะ...แล้วนี่ทำไมต้องใส่กุญแจมือนอนด้วย” คราวนี้กลายเป็นเอเลนเสียเองที่สะดุ้งกับคำถาม ใครจะกล้าบอกกันล่ะว่าเขากลัวตัวเองจะกลายร่างเป็นไททัน ถึงร่างกายจะไม่บาดเจ็บถึงขั้นเลือดตกยางออกก็เถอะ แต่ในบางเวลาที่มันต้องการจะฟื้นสภาพมันก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน
“ผม...”
“กลัวหรอ?”
“นิดหน่อยครับ...ผมไม่มั่นใจว่าจะคุมตัวเองอยู่” เด็กหนุ่มยกมือขึ้นเกาท้ายทอยเพื่อแก้ความประหม่า คนตัวเล็กกว่าจึงยื่นมือไปคว้าลูกกุญแจมาไขกุญแจมือของเขาออก
แกร๊ก~
“ห...หัวหน้า!”
“วันนี้ฉันจะนอนกับนายที่นี่เอง แบบนี้คงไม่กลัวแล้วใช่มั้ย?”
“แล้วห้องหัวหน้าล่ะครับ?”
“วันนี้ยัยฮันซี่ยกพรรคพวกมาขุดหนังสืออ่าน คงนอนแอ้งแม้งค้างอยู่ในนั้นนั่นแหละ” เหตุผลที่น่าเชื่อถือหลุดออกมาจากปากคนเป็นหัวหน้า ในที่สุดเด็กหนุ่มก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธไม่ให้อีกฝ่ายค้างที่นี่
“ถ้าไม่รังเกียจก็เชิญครับ” คนเป็นลูกน้องคว้าผ้าห่มแล้วล้มตัวลงนอนก่อน โดยหันหน้าเข้าหากำแพง รีไวกระตุกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเพียงเสี้ยววินาทีแล้วล้มตัวลงนอนตาม
ในท่าที่กอดเอเลนจากด้านหลัง!
“เอ่อ...หัวหน้าครับ?”
“มีอะไร?” ยังจะมีหน้ามาถามอีก!
“แบบนี้มันอึดอัดไม่ใช่หรอครับ? ถ้ามันแคบยังไงเดี๋ยวผมลงไปนอนพื้นให้ก็ได้นะครับ” เพราะเป็นลูกน้องการเสียสละพื้นที่ส่วนที่สะดวกสบายกว่าให้หัวหน้านั้นเป็นหน้าที่อยู่แล้ว แม้ว่าเตียงนั้นแต่เดิมทีมันจะเป็นของเขาก็ตาม
“ไม่จำเป็น”
“เอ๋!?”
“เอเลน...อ้าปากซิ” คำสั่งแรกมาพร้อมกับแรงดึงที่หัวไหล่ เด็กหนุ่มจำต้องหันหน้าไปหาผู้บังคับบัญชาการของตนอย่างเสียไม่ได้
“อะไรหรอครั...อื้อ!” ดวงตาสีเขียวเบิกกว้าง เมื่อริฝีปากของอีกฝ่ายประกบลงมาด้วยองศาที่พอดีราวกับเล็งไว้ก่อนแล้ว แถมมือทั้งสองข้างของหัวหน้ายังกระชับหัวเขาไว้ไม่ให้หนีอีกแน่ะ!
“อืม...” รีไวสอดลิ้นเข้าไปดุนเล่นในโพรงปากที่ร้อนจนแทบจะหลอมละลายได้ของเอเลนนานกว่าสามนาทีถึงได้ถอนการรุกรานนั้นออกไป
“ฮึ่ก...แฮ่ก...แฮก...ห...หัวหน้าทำอะไรน่ะครับ!?” เอเลนสติแตกขึ้นมาทันควัน เมื่อพฤติกรรมที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนของหัวหน้าบังเกิดขึ้นกับตัวเขาในเวลานี้ ใบหน้าขาวขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ารัก เรียกให้คนมองอมยิ้มน้อยๆ
หึๆ
“ตรวจฟันไง เมื่อกลางวันฉันทำนายฟันหลุดไปสองซี่นี่ ดูเหมือนจะงอกขึ้นมาครบแล้วนะ” คนสูงวัยกว่าใช้สีข้างเข้าแถได้อย่างหน้าตาเฉย เล่นเอาเด็กหนุ่มปรี๊ดแตกขึ้นมาทันที
“ของแบบนั้นใช้ตาดูเอาก็พอมั้งครับ!” ท่าทีกระฟัดกระเฟียดนั้นสร้างความเอ็นดูไม่น้อยเลยให้รีไว เขายักไหล่แล้วส่งเสียงหัวเราะหึๆแบบที่เวลาปกติไม่มีทางทำเด็ดขาดเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้องนายทหารนับร้อยทั้งกอง
“แค่ดูอย่างเดียวก็เสียดายของแย่สิ”
“ห...หัวหน้า!” คนอ่อนวัยกว่าเกือบหลุดกรี๊ด(ดีนะเก็บอาการทัน) เมื่อใบหน้าหล่อเหลาของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้บังคับบัญชาการโน้มลงมาอีกครั้ง เมื่อมองหาหนทางรอดไม่เจอเอเลนจึงได้แต่ส่งเสียงเบาๆ
“แง...”
“อะไรกัน? แค่นี้ก็ร้องซะแล้ว” ชายหนุ่มยิ้มขำแล้วล้มตัวลงนอนกอดเด็กหนุ่มแทนหมอนข้างหลวมๆ ไม่มีท่าทีรุกรานดังเช่นเมื่อครู่
“เล่นแบบนี้ผมไม่ขำด้วยนะครับ” แม้จะยังหวาดเสียวกับอาการแปลกๆของหัวหน้าอยู่บ้าง แต่เอเลนก็พอใจในสภาพนี้ เจ้าตัวจึงค่อยๆปรือตาลงแล้วออกเดินทางล่องลอยไปในดินแดนแห่งความฝัน
“เฮอะ!...ฉันไม่ได้เล่นซักหน่อย” รีไวพึมพำเบาๆข้างหูของคนที่หลับไปแล้วเรียบร้อยด้วยความอ่อนเพลีย ใบหน้าที่ยังคงเค้าของความเยาว์วัยของเด็กหนุ่มมีรอยช้ำจากฝีมือของเขาหลงเหลืออยู่อย่างเด่นชัด มือกร้านจึงลูบผ่านมันไปอย่างแผ่วเบา
“ขอโทษนะ...” เป็นอีกครั้งที่คำพูดของเขาส่งไปไม่ถึงเด็กนั่น
แต่มันก็เป็นไปตามที่เขาต้องการ เพราะโซ่ที่ใช้ผูกมัดระหว่างเขากับเอเลนมีเพียงแค่คำว่า
‘เจ้านาย’ กับ ‘ลูกน้อง’ เพียงเท่านั้น...
เช้าวันถัดมา เอเลนตื่นเต็มตาอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมาเป็นอาทิตย์ เพราะช่วงนี้เขาเหนื่อยมากจนนอนไม่พอ แถมพอเข้านอนก็ยังหลับไม่สนิท ร่างกายเลยไม่ได้พักเต็มที่ แต่ว่าเมื่อคืนนี้...
หัวหน้ารีไวมานอนด้วย...
เขาหลับสนิทแถมยังไม่ฝันเลยอย่างไม่น่าเชื่อ ความอบอุ่นที่โอบกอดเขาทั้งคืนนั่นไม่ใช่ความฝัน
หัวหน้าช่วยเหลือเขาไว้มากจริงๆ...
“เอเลน! เตรียมตัวไปฝึกตอนเช้าซะ อย่าสายล่ะ!” นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของคนที่เมื่อคืนนี้ยึดเขาไปเป็นหมอนข้างอย่างไร้ความปราณีคนนั้น หัวหน้ารีไวเดินกลับห้องตัวเองไปก่อนฟ้าสางเพื่อเตรียมตัวในการฝึกภาคเช้า
และเขาเอง ก็ต้องไปเช่นกัน...
เป็นอีกวันที่ต้องเตรียมการรบให้เพียบพร้อมสำหรับประมือกับเหล่าไททัน
ศัตรูที่เขาสาบานเอาไว้ว่าจะกำจัดมันให้สิ้นซาก!
รีไวเดินเกาหัวขึ้นมาจากห้องใต้ดินก่อนฟ้าสาง ร่างเล็กที่สูงแค่เพียงหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตรถึงกับชะงักเมื่อเจอเข้ากับสายตาหลังกรอบแว่นของหัวหน้าหมู่สาว
“อะแฮ่ม...ลงไปทำอะไรที่ห้องเอเลนหรอจ๊ะ?”
“เอายาไปให้ เมื่อคืนมันโดนฉันอัดเรื่องรายงานไป”
“หรออออออ~” ลากเสียงยาวอย่างมีพิรุธที่สุด! พูดมาแบบนี้แสดงว่ารู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วสินะ
“อย่าถามมาก! ไปเตรียมตัวฝึกภาคเช้าได้แล้ว”
“จ้าๆ...อย่าให้รู้ถึงหูมิคาสะก็แล้วกันนะ” เฮอะ! แล้วเรื่องอะไรเขาจะต้องบอกยัยนั่น?
ฝันน่ะสิ!
บอกแล้วไง ถ้าเธอใช้อภิสิทธิ์ของคนในครอบครัวและเพื่อนสมัยเด็กได้...
ฉันก็ใช้สิทธิ์ของหัวหน้าได้เหมือนกัน!!
FIN
จบเถ้อ...= ="
เขียนไปเขียนมาลงอีหรอบเดิมอีกและ ตอนหน้าจะพยายามไม่ให้เป็นแบบนี้นะ 55+
ยังคงไร้NC เช่นเดิม... อย่า! อย่าเพิ่งใจร้อน แหม...ค่อยเป็นค่อยไปสิ=w="
ปอลอ. ทำไมรู้สึกว่าตอนนี้รีไวร้ายชอบกล= =" สงสารมิคาสะอ่ะ!
ความคิดเห็น